Accueil / วาย / สัมปทานอาญาเถื่อน / บทที่ ๒ พลีกายชดใช้

Share

บทที่ ๒ พลีกายชดใช้

last update Dernière mise à jour: 2025-06-23 13:29:17

ขลุ่ยเดินทางมาด้วยเรือเพื่อข้ามฟากมายังอีกฝั่งของเกาะ ซึ่งอยู่ในจังหวัดทางภาคใต้แห่งเดียวกัน เพียงแต่ที่ตรงนี้จะถูกตัดขาดการจากโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง เพราะค่อนข้างอยู่ห่างไกลจากแหล่งชุมชนพอสมควร

นั่นก็เท่ากับว่าโทรศัพท์ก็แทบจะไร้ประโยชน์ ก่อนออกมาขลุ่ยก็ไม่ลืมเอาเงินที่ตนเองมีอยู่ทั้งหมดยกให้กับพ่อ และไม่ลืมฝากฝังป้าข้างบ้านในชุมชนเดียวกันช่วยดูแลอีกทาง

“เอ๊ย! ถึงแล้ว ส่วนนี่สัญญามึง เซ็นซะ!” ขลุ่ยมองแผ่นกระดาษสีขาวที่มีตัวหนังสือเป็นข้อ ๆ ระบุอยู่ พลางกวาดตาดูรายละเอียดอย่างถี่ถ้วน ก่อนจรดปลายปากกาเซ็นลงไป

ใบหน้าเรียวยาวได้รูปมองเรือที่จอดเทียบท่า พร้อมคนงานหน้าตาโหด ๆ ยืนอยู่เรียงราย ความรู้สึกตอนนี้แทบอยากจะกลับบ้านให้รู้แล้วรู้รอด แต่ติดที่ไม่มีทางเลือกมากนัก

ระหว่างคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ทันใดนั้นก็มีผู้ชายคนหนึ่งมายืนอยู่ตรงหน้าพอดี หลาย ๆ คนต่างให้ความเคารพ และคาดว่าอาจเป็นนายของที่นี่

“กูชื่อเสือ เป็นลูกน้องของนายหัว เดี๋ยวกูจะพามึงไปหานาย ทำตัวให้ดี ๆ ล่ะ”

“ครับ” 

“ส่วนพวกมึงก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเองซะ! งานไม่เสร็จไม่ต้องแดกข้าว!” เสือพูดพลางกวาดตามองดูคนงานและลูกน้องบางส่วนด้วยสายตาแข็งกร้าว

“ครับ…ลูกพี่!”

“ส่วนมึงตามกูมา!” ร่างผอมบางสะดุ้งเล็กน้อย เมื่อได้ยินเสียงตะคอกตามหลัง ขลุ่ยเดินลัดเลาะมาตามเส้นทางของคนนำทาง เพียงไม่นานก็พบกับบ้านไม้หรูหรากลางหุบเขาที่ซุกซ่อนอยู่ลึกจากริมชายหาดมานิดหน่อย

“ถึงแล้ว จำเอาไว้ว่าต้องทำตัวดี ๆ นายสั่งอะไรก็ต้องทำตาม หากมึงไม่อยากเจ็บตัว” เสือเอ่ยเตือนคนตรงหน้า เพราะทรงนี้ดูยังไงก็สะบักสะบอมแน่นอน

“คะ…ครับ”

ก๊อก ๆ ๆ

“ไอ้ทัพ!! กูพาเด็กใหม่มาแล้ว”

“พามันเข้ามา!”

เสือเปิดประตู พร้อมกับส่งสัญญาณให้ขลุ่ยเข้าไปข้างใน ส่วนตัวเองยืนอารักขาอยู่ตรงหน้าประตู บรรยากาศภายในค่อนข้างสว่าง และตกแต่งอย่างเรียบง่าย ระหว่างทางเดินสำรวจนั่นนี่ขลุ่ยก็ต้องตกใจ เมื่อเจอกับชายปริศนาอีกคนที่กำลังยืนเฝ้าห้องดังกล่าว

“มึงเป็นเด็กที่มาใหม่ใช่มั้ย”

“...ครับ คุณคือนายหัวหรือเปล่า”

“กูชื่อทัพเป็นมือขวาของนายหัว” ทัพส่ายหน้าพร้อมแนะนำตัวเองเสร็จสรรพ ก่อนจะเปิดประตูห้องตรงหน้า เพื่อให้ขลุ่ยเข้าไปทันที

เสียงหัวใจแทบจะหลุดออกมาเต้นอยู่ข้างนอก เพราะจากลางสังหรณ์บ่งบอกว่าคนต่อไปที่จะได้พบคือนายหัวตัวจริงแน่นอน

ตุ๊บ!

จู่ ๆ ร่างเปลือยเปล่าของชายปริศนาก็กลิ้งหลุน ๆ มาหยุดอยู่ตรงปลายเท้าของขลุ่ย ในสภาพเปลือยล่อนจ้อน

“ไปซะ!” แค่เสียงไล่ก็ทำให้ขลุ่ยหน้าซีดแล้ว แถมการเจอกันครั้งแรกยังน่ากลัวขนาดนี้ หนำซ้ำตามตัวของชายปริศนากลับมีรอยเหวอะหวะเหมือนถูกเฆี่ยนตีด้วยอะไรบางอย่างมาหนักหน่วง

ใบหน้าเต็มไปด้วยหยาดน้ำตาชะงักเมื่อเจอเข้ากับขลุ่ย ไม่พูดไม่จา รีบเก็บข้าวของและเสื้อผ้าที่ตกกระจัดกระจายอยู่บนพื้นขึ้นมาสวมใส่อย่างรวดเร็ว

“ทำไมมึงยังไม่ไปอีก ห้ะ! อยากโดนเฆี่ยนอีกหรือไง!” ทันใดนั้นร่างสูงใหญ่กำยำของของอิฐ หรืออิทธิกร วรวัฒน์ภักดี นายหัวเกาะสัมปทานรังสิมันต์รังนกที่ร่ำรวยที่สุดของจังหวัดภาคใต้ ใบหน้าคมเข้มมีหนวดเครารับกับสันกรามโดดเด่นเดินเข้ามา พร้อมหยุดมองชายหนุ่มที่เพิ่งเข้ามาใหม่ 

“หึ มาได้เวลาจริง ๆ” เสียงแม้จะเบา แต่ขลุ่ยกลับได้ยินชัดเจน

“...” ขลุ่ยเดินตามแผ่นหลังกว้างอย่างคนเจียมเนื้อเจียมตัว มือบางเย็นเฉียบพลางจับกระเป๋าข้างตัวเอาไว้แน่น

“ปิดประตู แล้ววางกระเป๋าไว้ เสร็จแล้วมานั่งข้างกู…ตรงนี้”

“...ครับ” ขลุ่ยทำตามอย่างว่านอนสอนง่าย และไม่คิดมีปากเสียงใด ๆ

“ชื่ออะไร” มือหยาบที่เพิ่งวางแส้ลงเชยใบหน้าเรียวยาวได้รูปขึ้นมา พร้อมถามเสียงเรียบ

“ผะ…ผมชื่อขลุ่ยครับ” อิฐเลิกปลายคิ้ว เมื่อฟังจากน้ำเสียงคาดว่าคงจะกลัวเขาอยู่ไม่น้อยทีเดียว

“ถอดเสื้อผ้าออก แล้วมาทำหน้าที่ของมึงซะ!” ขลุ่ยตกใจ ดวงตาเบิกกว้าง แม้จะเตรียมตัวมาแล้วว่าต้องเจอกับอะไรบ้าง แต่ก็ไม่คิดว่าจะรวดเร็วถึงปานนี้

“...” ร่างผอมบางยังคงยืนนิ่งเป็นหุ่น จนคนที่ยืนรออยู่เริ่มหัวเสีย

“จะยืนบื้ออีกนานมั้ย มาทำหน้าที่ของมึงสิ ไอ้เด็กเหลือขอ!” คำพูดลดทอนศักดิ์ศรีทำให้ขลุ่ยน้ำตาหลั่งรินลงมา ก่อนค่อย ๆ หลับตาลงแกะกระดุมเสื้อผ้าของตัวเองออกทีละเม็ด

“...ฮึก…ฮือ”

ฟึ่บ!

“เอ๊ย! ร้องทำเหี้ยอะไร หนวกหูชะมัด” อิฐหยิบแส้ข้างกายฟาดลงบนโต๊ะ เพื่อบอกให้เด็กใหม่ตรงหน้าเงียบลง

ก่อนเสื้อผ้าบนตัวของขลุ่ยจะค่อย ๆ กองอยู่บนพื้น จนกระทั่งเปลือยเปล่า ดวงตาคมเข้มที่กำลังไล่มองอย่างพิจารณา เนื่องจากเด็กคนนี้ค่อนข้างตรงสเปคเขามาก แม้จะผอมบางไปสักหน่อย แต่ก็นับว่าถูกใจมากเลยทีเดียว ไม่คิดว่าแค่ลูกหนี้จน ๆ คนหนึ่งจะมีหน้าตาสวยปานน้ำผึ้งขนาดนี้

“นั่งลง แล้วปรนเปรอให้กู” ร่างเปลือยเปล่าค่อย ๆ นั่งลงอีกครั้งตามคำสั่ง 

“ตะ…ต้องทำยังไง ผะ…ผมทำไม่เป็น” อิฐนิ่วหน้าราวกับนึกรำคาญ ก่อนดึงปลายซิปรูดลง พร้อมแท่งแกนกายขนาดใหญ่จ่ออยู่ตรงหน้า

“ขนาดนี้แล้ว คงไม่ต้องให้กูสอนอีกหรอกนะว่าต้องทำไง” ขลุ่ยค่อย ๆ ยืนฝ่ามือเข้าไปจับ พลางรวบจนเต็มมือ จากนั้นโน้มใบหน้าเผยอปากอ้าออกกว้างให้สิ่งใหญ่กว่าเข้ามา

“อ่าห์…อุ่นชะมัด” อิฐเชิดหน้ารับพลันปล่อยเสียงครางราวกับพอใจ ในขณะที่ขลุ่ยต้องกลั้นใจฝืนทำต่อไปทั้งน้ำตา

กึ้ด!

“แม่งเอ๊ย…! ระวังฟันหน่อยสิวะ!” คราวนี้อิฐถึงขั้นผลักขลุ่ยออก พร้อมตบเข้าซีกแก้มเต็มฝ่ามือ จนร่างผอมบางล้มลงไปกองอยู่บนพื้น

ตุ้บ! เพี้ยะ!

“โอ๊ย!” เสียงของขลุ่ยร้องด้วยความเจ็บ 

“มึงมานี่เลย! กูชักทนไม่ไหวละ!” อิฐลากคนมาใหม่โดยไม่คิดออมแรง ก่อนพาร่างผอมบางข้ามมาอีกฟากของห้อง ซึ่งเต็มไปด้วยอุปกรณ์หลากหลายวางเอาไว้เต็มไปหมด แถมยังมีกลิ่นเลือดเจือจางอยู่ จนต้องย่นจมูกหนี และคาดว่าคงเป็นของคนก่อนหน้านี้แน่ ๆ

จากนั้นรีบผลักขลุ่ยล้มลงบนเตียง แส้ที่หยิบติดมือมาถูกฟาดลงตามลำตัวของร่างเปลือยเปล่า จนขึ้นรอยริ้วแดง แต่กลับเป็นภาพที่คนกระทำมองแล้วรู้สึกพออกพอใจ

ฟึ่บ! เพี้ยะ! 

“อะ โอ้ย! ผะ…ผมเจ็บ”

“...มึงเป็นแค่สัตว์ที่กูซื้อมาระบาย ฉะนั้นเงียบปากไปซะ ก่อนกูจะไม่ใจดีอีก!” คำขู่ของคนที่ขึ้นชื่อว่านายหัวทำให้ขลุ่ยต้องกัดฟันทนต่อไปด้วยความเจ็บปวด

ร่างสูงกำยำยืดกายเตรียมพร้อม จากนั้นจึงตามทาบทับร่างผอมบางที่กำลังนอนอยู่บนเตียง และไม่รอให้ขลุ่ยได้ตั้งตัว รีบพลิกกายให้หันหลังกลับ

“โก่งก้นขึ้น กูทำไม่ถนัด” กายที่เปื้อนไปด้วยรอยแดงรีบพยุงกายทำตามทันที อิฐไม่รอช้า สอดแท่งร้อนเข้ากระแทกกระทั้น จนขลุ่ยต้องพยายามถอยกายหนี

“อะ…โอ๊ย! จะ…เจ็บ” เสียงร้องของขลุ่ยไม่ได้ทำให้อิฐหยุดลง หนำซ้ำกลับยิ่งเป็นตัวกระตุ้นอารมณ์อย่างดีด้วยซ้ำไป

มือใหญ่ขยุ้มปลายผมของเด็กหนุ่มให้เชิดขึ้น ราวกับต้องการระบายความกระสันของตัวเองลงไป ร่างผอมบางของโยกคลอนตามจังหวะกระทบ กลิ่นเลือดคาวคละคลุ้งจนแทบสำรอก ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าตรงนั้นบอบช้ำขนาดไหน

“...อ่าส์ ตอดรัดแน่นชะมัด” เสียงกระทบเนื้อด้วยความรุนแรง รัวเป็นจังหวะถี่ ๆ สุดท้ายก็ปลดปล่อยออกมา จนเต็มช่องทางล้นทะลักไหลเต็มผ้าปูเตียง พร้อมหยดเลือดจาง ๆ ตามเรียวขาอย่างช้า ๆ ราวกับร่องรอยประจักษ์ของความโหดร้ายที่เพิ่งผ่านพ้น

ร่างกำยำของอิฐมองดูเด็กหนุ่มที่กำลังนอนด้วยกายบอบช้ำอย่างไม่เหลียวแล ก่อนเดินออกไปสูดอากาศนอกหน้าต่าง หยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ พร้อมพ่นออกราวกับผ่อนคลาย

“...อึก…ฮือ…ฮือ” เสียงสะอื้นไห้ยังคงดังต่อเนื่อง ก่อนพยายามลุกจากบนเตียง แต่เพราะไม่ไหว ขาแข้งอ่อนแรง จนสะดุดล้มบนกองเลือดที่ไหลจากเรียวขาตัวเอง

อิฐทำเพียงปลายหางตามองตามเสียง ก่อนเดินกลับเข้ามาในห้องหยิบเสื้อผ้าตัวใหม่ขึ้นมาสวมใส่ จากนั้นเดินผ่านร่างผอมบางไปโดยไม่คิดสนใจแม้แต่น้อย

หยาดน้ำตาถูกปล่อยลงซ้ำแล้วซ้ำเล่า พยายามขบคิดว่าที่มาอยู่ตรงนี้ตัดสินใจถูกหรือไม่ ความคิดวูบหนึ่งผุดขึ้นมา ต่อให้มีหนี้ล้นฟ้าแค่ไหน ตราบใดยังมีลมหายใจอยู่คงมีหนทางรอด กลับกันหากยังอยู่ที่นี่ต่อไปอาจเหลือเพียงเถ้ากระดูกไว้ให้พ่อดูต่างหน้าก็เป็นได้

Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Latest chapter

  • สัมปทานอาญาเถื่อน   บทที่ ๒๙ โหดจนได้เมีย (END)

    อิฐที่ตื่นขึ้นมาในเช้าวันนี้ดูจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษ เขาอาศัยจังหวะจังหวะที่ขลุ่ยยังไม่ตื่นดี นอนตะแคงมองใบหน้าคนข้างกายอย่างเงียบ ๆ ด้วยความรู้สึกอบอุ่นและสุขล้นในอก รอยยิ้มบางผุดขึ้นตรงมุมปาก ก่อนกายกำยำจะก้มลงหอมพวงแก้มอิ่มเบา ๆ อย่างอ่อนโยนแกร๊ก! พรึ่บ!ภายหลังอาบน้ำแต่งตัวจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว อิฐคว้าลูกบิดเปิดประตูออกจากห้องหวังจะออกไปสะสางงานที่คั่งค้างอยู่ทันที แต่ทันใดนั้นร่างของลูกน้องที่เปรียบเสมือนทั้งมือซ้ายและขวากลับล้มระเนระนาดลงมากองอยู่ตรงหน้า แถมเสื้อผ้ายังคงอยู่ในชุดเดิมราวกับว่าเมื่อคืนพวกมันสองตัวนั่งกันอยู่ตรงนี้“... แหะ ๆ ครึกครื้นดีนะครับนายหัว ” เสือสะลึมสะลือพูดขึ้นมา ทั้งที่ตายังไม่ทันลืมดี“คะ…คือผมกับไอ้เสือจะมาแจ้งว่า ลูกค้ารายใหญ่จากสิงคโปร์ที่เราเลื่อนดีลสินค้าเอาไว้เมื่อวาน จะเข้ามาช่วงสายวันนี้ครับ”“อืม…กูเห็นอีเมลแจ้งจากลูกค้าแล้ว ส่วนพวกมึงรีบจัดการธุระของตัวเองให้เรียบร้อย สายไปแค่วินาทีเดียว กูหักเงิน!”ขณะเดียวกันขลุ่ยที่รู้สึกหนัก ๆ ตัว จากขนอะไรบางอย่างที่กำลังทิ่มแทงอยู่บนใบหน้า แต่เมื่อลืมตาขึ้นมากลับพบว่าเป็นเจ้าเตาฟืนนั่นเองที่มานอนแหมะอยู่บ

  • สัมปทานอาญาเถื่อน   บทที่ ๒๘ โอกาสสุดท้ายที่จะได้รัก

    แม้ต้องกลับมาเพราะแผนที่วางไว้ล่มไม่เป็นท่า แถมลูกชายยังปวดหนึบและเจ็บตึงไปหมด อิฐก็ได้แต่กัดฟันทน ข่มความกระสันที่ถูกปลุกขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ คิดในใจว่า...หากได้ขลุ่ยกลับมาเมื่อไหร่ เขาจะจัดให้หนักสมกับที่ต้องอดทนรอเกือบเดือน แต่ตอนนี้ต้องเบรกทุกความคิดไว้ก่อน เพราะทั้งเสือและทัพต่างก็เตือนกันหนักหนา ว่าหากไม่อยากสูญเสียอีกฝ่ายไปก็ต้องหักห้ามใจให้มากกว่านี้อิฐนึกถึงคำพูดที่ขลุ่ยเคยบอกไว้เมื่อตอนนั้น ก่อนตัดสินใจค่อย ๆ ละนิสัยความรุนแรงของตัวเองลง แต่ถามว่าหายขาดเลยไหม…ก็คงไม่ เพราะทุกอย่างต้องใช้เวลา แม้กระทั่งตอนที่เขาไม่สามารถพาอีกฝ่ายกลับมาได้ ทั้งที่ความจริงจะลากกลับไปเลยก็ทำได้ไม่ยาก เพียงแต่ผลได้เสียจากนั้นคงไม่คุ้มค่าที่จะเสี่ยง จึงจำใจต้องอดทนรออยู่อย่างนั้น จนกว่าอีกฝ่ายจะพร้อม“อึ้ม...อ่าส์...ซี้ด...ขลุ่ย…” เสียงครางต่ำสะท้อนก้องออกมาจากห้องน้ำ เงาร่างสูงกำยำที่กำลังพิงผนังรูดรั้งส่วนกลางกาย มือหยาบใหญ่เร่งเร้าขณะนึกถึงใบหน้าได้รูปของอีกคน เมื่อครั้งร่วมรักกัน ไม่นานน้ำสีขาวขุ่นก็ทะลักออกจากส่วนปลายพุ่งเปรอะเต็มพื้นกระเบื้องหรู พร้อมเสียงหอบถี่จากแรงอารมณ์ที่ผ่อนเบาลงแล้ว

  • สัมปทานอาญาเถื่อน   บทที่ ๒๗ ทางเลือกหัวใจ

    “กว่าจะมาได้นะมึง แล้วนั่นที่คอโดนอะไรกัดมาน่ะ” มือบางรีบคว้าปิดลำคอตัวเองเอาไว้ ใบหน้าเลิ่กลั่ก ก่อนรีบตอบแก้เก้อ“สงสัยคงเป็นแมลงแถวนี้มั้งพ่อ แถวบ้านเราจะมีบ้างก็ไม่แปลกหรอก...เนอะ” ขลุ่ยว่าพลางเสิร์ฟข้าวสวยร้อน ๆ พร้อมกุนเชียงผัดไข่วางลงบนโต๊ะ“เออ ๆ จะนอนหรือทำอะไรก็ปัด ๆ หน่อยแล้วกัน”“ได้พ่อ” ขลุ่ยก้มหน้าถอนหายใจอย่างโล่งอก แววตาเหลือบมองรอบ ๆ เห็นเสือกับทัพกำลังกลั้นหัวเราะกันอยู่ แถมไม่ไกลจากนั้น คนที่เป็นเจ้าของรอยประทับบนคอก็กำลังยืนปั้นหน้าแบบไม่รู้สึกรู้สาขลุ่ยชวนเสือและทัพมาทานข้าวด้วยกัน ผิดกับอีกคนแม้ไม่ได้เอ่ยสักนิด กลับมานั่งแหมะอยู่ข้าง ๆ โดยไม่ได้รับอนุญาตพร้อมตักข้าวให้ตัวเองเสร็จสรรพ“นายหัวกินได้เหรอครับ?” คำพูดเชิงประชดถูกแทรกกลางวงสนทนาขึ้นมา“นั่นสิ จะกินกันได้เหรอ” สองพ่อลูกผู้มีศักดิ์เป็นเจ้าของบ้านเอ่ยถาม เนื่องจากเห็นพ้องต้องกัน“ก็แค่กับข้าว อยู่ไหนก็กินได้หมดนั่นแหละครับ” อิฐพูดพลางตักข้าวเข้าปากไม่หยุด จนจานตรงหน้าพร่องไปเกือบหมดในพริบตา“งั้นผมถามอะไรจริง ๆ เลยนะนายหัว” มือที่กำลังกวาดข้าวก้อนสุดท้ายหยุดลง ก่อนเงยหน้าตั้งใจฟังอย่างดี“ไอ้ขลุ่ยมันใช้ห

  • สัมปทานอาญาเถื่อน   บทที่ ๒๖ คนที่ร้ายคนที่รัก

    เป็นเวลาตีสองกว่าแล้วเจ้าของห้องยังเอาแต่นั่งขบคิดว่าจะทำยังไงให้อีกฝ่ายยอมคืนดี คิดวกไปวนมาอยู่อย่างนั้น จนแทบไม่ได้นอนจริงจังเสียที กระทั่งจังหวะเหลือบไปมองเจ้าเตาฟืนที่กำลังขดตัวนอนอย่างสบายใจข้างล่าง จู่ ๆ อิฐก็ผุดไอเดียบางอย่างขึ้นมาได้ เขาลุกไปอุ้มมันออกมา จากนั้นจึงพลิกตัวลำตัวที่เริ่มหนักของมันไปมา พร้อมจัดท่าทางให้ดูเหมือนกำลังตรอมใจม๊าว!...ฟ่อ...เสียงขู่ฟ่อ ๆ ดังลั่น เพื่อแสดงถึงความไม่พอใจสุดขีด เล็บแหลม ๆ ของมันกางออกมาเตรียมจะข่วนอีกครั้ง“อยากได้แม่แกกลับมาหรือเปล่า ฉะนั้นทำตัวให้มีประโยชน์หน่อยสิ” อิฐเริ่มจัดท่าทางจนได้มุมที่ต้องการแล้ว เขาก็รู้สึกว่ามันยังไม่พอ ก่อนหยิบถ้วยชามที่เพิ่งเติมไว้จนเต็ม จากนั้นอุ้มเจ้าเตาฟืนมานอนเกยอยู่ตรงนั้น ราวกับว่ามันเศร้าซึมสุด ๆ จนไม่สามารถกินอะไรได้ เก็บไว้เป็นไม้ตายเผื่อเอาไว้เรียกร้องความสนใจจากอีกฝ่ายระหว่างทางนั่งสปีดโบ๊ททั้งเสือและทัพต่างคอยรายงานถึงคำสั่งที่นายหัวได้สั่งเอาไว้ว่าเป็นไปด้วยความเรียบร้อยดี และไม่มีอะไรต้องกังวล“แล้วของที่กูสั่งไว้ล่ะ ได้มาครบหรือยัง”“ครบแล้วครับนาย” เสือเป็นคนรายงานรายละเอียดทั้งหมด เพราะตอน

  • สัมปทานอาญาเถื่อน   บทที่ ๒๕ อิสระที่ไม่ได้โหยหา

    อิฐกลับมาถึงเกาะก็ต้องเคลียร์งานจนหัวหมุน หลังเปิดคอมพิวเตอร์เพื่อเช็กงานอีเมลต่าง ๆ ก็ทยอยหลั่งไหลเข้ามารัว ๆ ส่วนปัญหาที่น่าปวดหัวที่สุดคงหนีไม่พ้นเรื่องจากลูกค้าเก่าที่เวียดนามแจ้งมาว่าพบสินค้าที่ส่งไปมีตำหนิหลายจุด แต่พอเช็กดูดี ๆ ก็พบว่าทุกอย่างเกิดจากการท่าขนส่ง ถึงจะไม่ใช่ความผิดของบริษัทต้นทางเราเต็ม ๆ ก็ต้องรับผิดชอบอยู่ดี ในห้องทำงานที่เอกสารกองพะเนินล้นโต๊ะ อิทธิกรเอนกายพิงพนักเก้าอี้ ผ่อนลมหายใจเฮือกยาวทิ้งอย่างคนได้หยุดพัก พอหันกลับไปดูปฏิทินถึงได้รู้ว่าเวลาผ่านไปเกือบสองอาทิตย์แล้ว ร่างกำยำนั่งเงียบ ๆ อยู่คนเดียว ใจพะวงคิดถึงใครบางคน ดวงตาเคล้าโศกเศร้า ใบหน้าเรียวยาวได้รูป ริมฝีปากที่ต่อล้อต่อเถียงอย่างไม่เกรงกลัว ทั้งที่ตั้งใจว่าจะขึ้นไปหาบ่อย ๆ แต่ก็มัวแต่ยุ่งจนไม่ได้ออกไปไหนเลยแต่ไม่เป็นไร ตอนนี้เขาว่างแล้ว จะไปทุกวันเลย ต่อให้อีกคนไม่อยากเจอก็ไม่สน...ตรงหน้าอิทธิกรที่ไม่รู้จะทำอะไรต่อ หยิบรีโมตขึ้นมากดเปิดโทรทัศน์แบบลวก ๆ หวังแค่หาสิ่งใดมาช่วยเบี่ยงเบนความคิดถึงชั่วคราว ภาพบนหน้าจอปรากฏเป็นรายการข่าวด่วน ผู้ประกาศสาวสวยน้ำเสียงฉะฉานรายงานถึงการเสียชีวิตของเสี่ยมนต

  • สัมปทานอาญาเถื่อน   บทที่ ๒๔ หน้าสิ่วหน้าขวาน

    “คนไข้ปลอดภัยแล้วครับ โชคดีที่ไม่โดนอวัยวะสำคัญ และจะย้ายผู้ป่วยไปยังห้องพิเศษทั่วไปนะครับ” เสียงคุณหมอดังขึ้นทันทีที่ประตูห้องฉุกเฉินเปิดออก ทุกสายตาหันขวับไปมองต้นทางอย่างจดจ่อไม่กี่นาทีต่อมา พยาบาลเข็นเตียงออกมา อิทธิกรที่ยังคงหลับไม่ได้สติ ตามตัวมีสายระโยงระยางเต็มไปหมด ขลุ่ยตั้งท่าเดินขนาบเตียง แต่ทว่ากลับต้องชะงัก เมื่อได้ยินเสียงจากเหมที่ยืนอยู่ข้างหลัง“ดีนะที่มึงปลอดภัย เฮ้อ!” ขลุ่ยและเป้หันขวับมามองทันที“พี่เหมรู้จักเขาด้วยเหรอครับ?” เป้ถามขึ้นด้วยสีหน้าประหลาดใจ“อะ…เอ่อ แหะ ๆ ครับ” เหมหัวเราะแห้ง ๆ ลูบท้ายทอยแก้เขินกลบเกลื่อน ขลุ่ยเลิกคิ้วน้อย ๆ ความสงสัยก่อตัวตั้งแต่ได้ยินคำพูดสนิทสนมของทั้งคู่แล้ว“มึงกับพี่เขากลับไปก่อนก็ได้ เดี๋ยวกูเฝ้าต่อเอง” ขลุ่ยหันไปบอกเป้“แน่ใจนะ” เป้ถามให้แน่ใจอีกที“อือ ไปเถอะ”“แต่ถ้ามีอะไร โทรหากูได้ตลอดนะ”“...อื้อ”“พี่ฝากมันด้วยล่ะ” เหมเอ่ยพลางมองออกไปยังหน้าห้องผู้ป่วยที่เพิ่งเดินออกมาด้วยสายตาเป็นห่วง"พี่เสือและคุณทัพก็เหมือนกัน"“งั้นพวกกูฝากนายหัวด้วยนะไอ้ขลุ่ย พรุ่งนี้เช้าจะรีบมาหา” เสียงจากเสือแทรกตามมาด้วย ส่วนทัพทำเพียงพยักหน้าข

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status