แชร์

สัมปทานอาญาเถื่อน
สัมปทานอาญาเถื่อน
ผู้แต่ง: หลงจุ้นถิง

ปฐมบท

ผู้เขียน: หลงจุ้นถิง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-23 13:28:51

ซ่าาาา!!

ยามค่ำคืนท่ามกลางเสียงท้องฟ้าคำราม ฝ่ามือของเด็กชายอายุราวสิบห้าปีคนหนึ่งกำลังพยายามตะเกียกตะกายเพื่อหาหนทางรอดจากคนบุคคลที่ได้ขึ้นชื่อว่าบิดา

ฟึ่บ! เพี้ยะ!

“...แฮ่ก ผมขอโทษ” อิฐพูดขอร้องซ้ำ ๆ เสียงสั่นเครือด้วยความเจ็บปวดจากการโดนหวดกลางหลังนับครั้งไม่ถ้วน เพียงเพราะเขาทำข้อสอบไม่ได้ดั่งที่พ่อคาดหวัง

“แกจะหนีไปไหน ห๊ะ!...ฉันบอกแกหลายครั้งแล้วว่าอย่าทำฉันขายหน้าเด็ดขาด แต่นี่อะไรผลสอบแทบจะรั้งท้ายอยู่แล้ว!”

อิฐนอนขดตัวอยู่บนพื้น มองผู้บังเกิดเกล้าด้วยน้ำตาที่คลอเบ้า เขาไม่เข้าใจเลยว่าการทำข้อสอบไม่ได้ตามที่หวังจำเป็นต้องลงโทษกันถึงขนาดนี้เชียวหรือ

!!!

“ครั้งหน้าผม…” ร่างที่ยังไม่สูงใหญ่เต็มวัยกำลังเตรียมอ้าปากพูดต่อ แต่กลับได้ยินเสียงมาจากขั้นบันได มองเห็นผู้เป็นแม่รีบสาวฝีเท้าลงมาอย่างรวดเร็วพร้อมกับโอบกอดลูกชายไว้แน่น สีหน้าเต็มไปด้วยความตกใจและหวาดหวั่น

“คุณทำบ้าอะไร! นี่ลูกของคุณนะ!” เสียงของคุณหญิงวรารัตน์แหลมสูงคล้ายตะคอกขึ้นเล็กน้อยจากความเหลืออด แววตาฉายชัดด้วยทั้งจากความผิดหวังและเจ็บปวดขณะจ้องหน้าผู้เป็นสามีอย่างที่เธอเลือกมาเป็นคู่ชีวิต

ปึก!

“เอานี่ดูซะ! ว่าลูกของเธอสร้างเรื่องงามหน้าแค่ไหน!” รังสิมันต์กระชากสมุดผลสอบจากมือแล้วโยนลงตรงหน้าอย่างไม่ไยดี

มืออุ่น ๆ ของผู้เป็นแม่ข้างกายอิฐค่อย ๆ หยิบสมุดผลสอบขึ้นมาเปิดดู ใบหน้าที่เคยตึงเครียดกลับเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนทันที เธอลูบปลายแก้มของลูกชายเบา ๆ พร้อมกับยิ้มให้

“เก่งแล้ว…ลูกแม่” คำพูดอ่อนโยนของผู้เป็นแม่ทำให้อิฐปล่อยโฮอย่างสุดกลั้น และสวมกอดคนตรงหน้าเอาไว้แน่น

“มัวแต่ให้ท้ายมันถึงเป็นแบบนี้ไงล่ะ! ฉันสอนให้มันนำคนอื่น แต่กลับสอบได้รองเขามันน่านัก!” รังสิมันต์ตวาดลั่น สีหน้าเต็มไปด้วยความไม่พอใจขีดสุด คุณหญิงวรารัตน์เงยหน้ามองสามี สีหน้าเต็มไปด้วยหยาดน้ำตาจากความผิดหวังซ้ำ ๆ เนื่องจากครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่สองแม่ลูกต้องมาเผชิญกับความเจ็บปวดทั้งร่างกายและจิตใจแบบนี้

“ออกไปเดินเล่นข้างนอกก่อนนะ เดี๋ยวแม่จัดการตรงนี้เอง” วารีรัตน์เอ่ยกับลูกชายเพียงคนเดียวด้วยเสียงอ่อนโยน

“แต่ว่า…”

“ไปเถอะ เชื่อฟังแม่นะ”

“ครับ…” ดวงตาสีดำขลับน้ำตาคลอหน่วย ค่อย ๆ เดินคอตกออกจากตัวบ้านหลังใหญ่ แต่ก็ยังไม่ลืมหันกลับไปมองคนสองคนที่ทั้งรักและเกลียดออกมาห่างไกลพอสมควร ด้วยความรู้สึกแปลก ๆ ในใจ 

อิฐวิ่งหน้าตั้งฝ่าสายฝนที่ยังคงกระหน่ำตกลงมาไม่หยุดหย่อน ก่อนพาตัวเองไปหลบอยู่ข้างโกดังไม่ใกล้ไม่ไกลจากตัวบ้านเท่าไหร่นัก

“ฮึก…ฮือ”

ทันทีที่เข้ามาถึง เสียงร้องประหลาดดังก็ดังแว่วราวกับอยู่ใกล้ ๆ อิฐพยายามเงี่ยหูฟังและมองหาที่มาของมัน ไม่ทันไรก็พบเด็กชายตัวเล็กกว่าเขารูปร่างอวบอ้วนกำลังนั่งขดตัวก้มหน้าร้องไห้ตัวสั่นอยู่หลังกล่องกระดาษเก่า ๆ

“เป็นอะไร ทำไมมานั่งร้องไห้อยู่ตรงนี้” เด็กชายที่กำลังก้มหน้าร้องไห้อยู่ชะงักกึก ก่อนค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมองดูทีละนิด เนื่องจากกลัวว่าอาจเป็นกุ๊กกู๋

“แล้วพี่ชายล่ะ เป็นอะไร” เสียงเล็ก ๆ นั่นถามย้อนเขากลับมาทั้งที่ตัวเองยังคงร้องไห้ไม่หยุด ราวกับกำลังสังเกตท่าทีอยู่เหมือนกัน

“ฉันถามนายก่อนนะ...”

“ก็แค่เจอเรื่องนิดหน่อยฮะ แต่เดี๋ยวก็ผ่านไปฮะ ถึงตาพี่ต้องเล่าให้ผมฟังแล้ว…”

“ขนาดนายยังไม่คิดบอกฉันเลย เอาเป็นว่าทุกอย่างอยู่ในบาดแผลที่นายเห็นแล้วนั่นแหละ” ทั้งคู่ต่างมานั่งอยู่ใกล้ ๆ กันราวกับกำลังปรับทุกข์ในเรื่องที่แต่ละคนพบเจอ แต่ก็ยังไม่มีใครยอมเอ่ยปัญหาที่แท้จริงออกมา เด็กชายตัวจ่ำม่ำเหลือบมองบาดแผลฉกรรจ์กลางหลังและตามตัวอีกเล็กน้อย

“เจ็บไหมฮะ” มืออวบอ้วนพยายามจิ้มเข้าไปในแผล

“ถามได้ ลองดูไหมล่ะ”

“แฮะ ขอโทษฮะ” ไม่รู้ว่าตอนไหน จู่ ๆ นัยน์ตาของอิฐเริ่มเปลี่ยนไปราวกับเอ็นดูเด็กคนนี้ขึ้นมา

“ไม่เป็นไร…”

ทันใดนั้นเด็กชายร่างอวบอ้วนก็เริ่มยุกยิก ๆ อยู่ไม่สุขเหมือนกับกำลังค้นหาอะไรบางอย่าง ก่อนปลาสเตอร์ยาที่ดูจะผ่านสงครามมาหนักหน่วงจะถูกแกะออกมา พร้อมแปะลงบนหน้าผากเขาอย่างรวดเร็ว

“เพี้ยง! เดี๋ยวโตขึ้น ผมจะคอยอยู่ข้าง ๆ พี่เองนะ” คำพูดไร้เดียงสา แม้อิฐจะรู้ว่าไม่ควรใส่ใจ แต่ทำอย่างไรได้ล่ะ ในเมื่อประโยคดังกล่าวเปรียบเสมือนแสงสว่างสำหรับเขาไปแล้ว

“จริงนะ”

“อื้อ” อิฐยื่นปลายนิ้วนางขึ้นมาเพื่อเกี่ยวก้อยเป็นคำมั่นสัญญาเอาไว้ ก่อนเด็กชายอวบอ้วนตรงหน้าจะยิ้มแป้นพยักหน้ารับคำ

“ฝนหยุดตกแล้ว งั้นผมไปก่อนนะฮะ เดี๋ยวค่ำจะโดนดุเอา” เหมือนน้ำฝนที่ค่อย ๆ จางหายไป เมื่อช่วงเวลาแห่งความสุขนั้นผ่านไปเร็วเหลือเกิน อิฐจำใจพยักหน้า มองแผ่นหลังอวบ ๆ ที่สวมเสื้อผ้าเก่า ๆ ดูแล้วฐานะคงไม่ดีนัก แต่กลับมีกะจิตกะใจเป็นห่วงคนอื่นอีก

“เดี๋ยว!...นายชื่ออะไรเหรอ เผื่อวันหนึ่งเจอกันจะได้เรียกถูก” คนเป็นพี่กว่าตะโกนถามลั่น

“ผมชื่อขลุ่ยฮะ!” เสียงเล็กตอบกลับด้วยรอยยิ้มสดใส แม้นัยน์ตาจะแลดูเศร้าไปหน่อย แต่ก็ยังคงงดงามอยู่ในความทรงจำของอิฐไม่เสื่อมคลาย

เวลาผ่านไปไม่นาน อิฐจำต้องกลับเข้าไปในบ้านอีกครั้ง ทว่าเบื้องหน้ากลับกลายเป็นภาพนองเลือดและโศกนาฏกรรมที่เปรียบเสมือนฝันร้ายที่เขาจะไม่มีวันลืม และใช่… บัดนี้เขากลายเป็นเด็กกำพร้าอย่างเต็มตัวแล้ว เหลือไว้เพียงมรดกจากสัมปทานของผู้เป็นพ่อเท่านั้น

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • สัมปทานอาญาเถื่อน   บทที่ ๒๙ โหดจนได้เมีย (END)

    อิฐที่ตื่นขึ้นมาในเช้าวันนี้ดูจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษ เขาอาศัยจังหวะจังหวะที่ขลุ่ยยังไม่ตื่นดี นอนตะแคงมองใบหน้าคนข้างกายอย่างเงียบ ๆ ด้วยความรู้สึกอบอุ่นและสุขล้นในอก รอยยิ้มบางผุดขึ้นตรงมุมปาก ก่อนกายกำยำจะก้มลงหอมพวงแก้มอิ่มเบา ๆ อย่างอ่อนโยนแกร๊ก! พรึ่บ!ภายหลังอาบน้ำแต่งตัวจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว อิฐคว้าลูกบิดเปิดประตูออกจากห้องหวังจะออกไปสะสางงานที่คั่งค้างอยู่ทันที แต่ทันใดนั้นร่างของลูกน้องที่เปรียบเสมือนทั้งมือซ้ายและขวากลับล้มระเนระนาดลงมากองอยู่ตรงหน้า แถมเสื้อผ้ายังคงอยู่ในชุดเดิมราวกับว่าเมื่อคืนพวกมันสองตัวนั่งกันอยู่ตรงนี้“... แหะ ๆ ครึกครื้นดีนะครับนายหัว ” เสือสะลึมสะลือพูดขึ้นมา ทั้งที่ตายังไม่ทันลืมดี“คะ…คือผมกับไอ้เสือจะมาแจ้งว่า ลูกค้ารายใหญ่จากสิงคโปร์ที่เราเลื่อนดีลสินค้าเอาไว้เมื่อวาน จะเข้ามาช่วงสายวันนี้ครับ”“อืม…กูเห็นอีเมลแจ้งจากลูกค้าแล้ว ส่วนพวกมึงรีบจัดการธุระของตัวเองให้เรียบร้อย สายไปแค่วินาทีเดียว กูหักเงิน!”ขณะเดียวกันขลุ่ยที่รู้สึกหนัก ๆ ตัว จากขนอะไรบางอย่างที่กำลังทิ่มแทงอยู่บนใบหน้า แต่เมื่อลืมตาขึ้นมากลับพบว่าเป็นเจ้าเตาฟืนนั่นเองที่มานอนแหมะอยู่บ

  • สัมปทานอาญาเถื่อน   บทที่ ๒๘ โอกาสสุดท้ายที่จะได้รัก

    แม้ต้องกลับมาเพราะแผนที่วางไว้ล่มไม่เป็นท่า แถมลูกชายยังปวดหนึบและเจ็บตึงไปหมด อิฐก็ได้แต่กัดฟันทน ข่มความกระสันที่ถูกปลุกขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ คิดในใจว่า...หากได้ขลุ่ยกลับมาเมื่อไหร่ เขาจะจัดให้หนักสมกับที่ต้องอดทนรอเกือบเดือน แต่ตอนนี้ต้องเบรกทุกความคิดไว้ก่อน เพราะทั้งเสือและทัพต่างก็เตือนกันหนักหนา ว่าหากไม่อยากสูญเสียอีกฝ่ายไปก็ต้องหักห้ามใจให้มากกว่านี้อิฐนึกถึงคำพูดที่ขลุ่ยเคยบอกไว้เมื่อตอนนั้น ก่อนตัดสินใจค่อย ๆ ละนิสัยความรุนแรงของตัวเองลง แต่ถามว่าหายขาดเลยไหม…ก็คงไม่ เพราะทุกอย่างต้องใช้เวลา แม้กระทั่งตอนที่เขาไม่สามารถพาอีกฝ่ายกลับมาได้ ทั้งที่ความจริงจะลากกลับไปเลยก็ทำได้ไม่ยาก เพียงแต่ผลได้เสียจากนั้นคงไม่คุ้มค่าที่จะเสี่ยง จึงจำใจต้องอดทนรออยู่อย่างนั้น จนกว่าอีกฝ่ายจะพร้อม“อึ้ม...อ่าส์...ซี้ด...ขลุ่ย…” เสียงครางต่ำสะท้อนก้องออกมาจากห้องน้ำ เงาร่างสูงกำยำที่กำลังพิงผนังรูดรั้งส่วนกลางกาย มือหยาบใหญ่เร่งเร้าขณะนึกถึงใบหน้าได้รูปของอีกคน เมื่อครั้งร่วมรักกัน ไม่นานน้ำสีขาวขุ่นก็ทะลักออกจากส่วนปลายพุ่งเปรอะเต็มพื้นกระเบื้องหรู พร้อมเสียงหอบถี่จากแรงอารมณ์ที่ผ่อนเบาลงแล้ว

  • สัมปทานอาญาเถื่อน   บทที่ ๒๗ ทางเลือกหัวใจ

    “กว่าจะมาได้นะมึง แล้วนั่นที่คอโดนอะไรกัดมาน่ะ” มือบางรีบคว้าปิดลำคอตัวเองเอาไว้ ใบหน้าเลิ่กลั่ก ก่อนรีบตอบแก้เก้อ“สงสัยคงเป็นแมลงแถวนี้มั้งพ่อ แถวบ้านเราจะมีบ้างก็ไม่แปลกหรอก...เนอะ” ขลุ่ยว่าพลางเสิร์ฟข้าวสวยร้อน ๆ พร้อมกุนเชียงผัดไข่วางลงบนโต๊ะ“เออ ๆ จะนอนหรือทำอะไรก็ปัด ๆ หน่อยแล้วกัน”“ได้พ่อ” ขลุ่ยก้มหน้าถอนหายใจอย่างโล่งอก แววตาเหลือบมองรอบ ๆ เห็นเสือกับทัพกำลังกลั้นหัวเราะกันอยู่ แถมไม่ไกลจากนั้น คนที่เป็นเจ้าของรอยประทับบนคอก็กำลังยืนปั้นหน้าแบบไม่รู้สึกรู้สาขลุ่ยชวนเสือและทัพมาทานข้าวด้วยกัน ผิดกับอีกคนแม้ไม่ได้เอ่ยสักนิด กลับมานั่งแหมะอยู่ข้าง ๆ โดยไม่ได้รับอนุญาตพร้อมตักข้าวให้ตัวเองเสร็จสรรพ“นายหัวกินได้เหรอครับ?” คำพูดเชิงประชดถูกแทรกกลางวงสนทนาขึ้นมา“นั่นสิ จะกินกันได้เหรอ” สองพ่อลูกผู้มีศักดิ์เป็นเจ้าของบ้านเอ่ยถาม เนื่องจากเห็นพ้องต้องกัน“ก็แค่กับข้าว อยู่ไหนก็กินได้หมดนั่นแหละครับ” อิฐพูดพลางตักข้าวเข้าปากไม่หยุด จนจานตรงหน้าพร่องไปเกือบหมดในพริบตา“งั้นผมถามอะไรจริง ๆ เลยนะนายหัว” มือที่กำลังกวาดข้าวก้อนสุดท้ายหยุดลง ก่อนเงยหน้าตั้งใจฟังอย่างดี“ไอ้ขลุ่ยมันใช้ห

  • สัมปทานอาญาเถื่อน   บทที่ ๒๖ คนที่ร้ายคนที่รัก

    เป็นเวลาตีสองกว่าแล้วเจ้าของห้องยังเอาแต่นั่งขบคิดว่าจะทำยังไงให้อีกฝ่ายยอมคืนดี คิดวกไปวนมาอยู่อย่างนั้น จนแทบไม่ได้นอนจริงจังเสียที กระทั่งจังหวะเหลือบไปมองเจ้าเตาฟืนที่กำลังขดตัวนอนอย่างสบายใจข้างล่าง จู่ ๆ อิฐก็ผุดไอเดียบางอย่างขึ้นมาได้ เขาลุกไปอุ้มมันออกมา จากนั้นจึงพลิกตัวลำตัวที่เริ่มหนักของมันไปมา พร้อมจัดท่าทางให้ดูเหมือนกำลังตรอมใจม๊าว!...ฟ่อ...เสียงขู่ฟ่อ ๆ ดังลั่น เพื่อแสดงถึงความไม่พอใจสุดขีด เล็บแหลม ๆ ของมันกางออกมาเตรียมจะข่วนอีกครั้ง“อยากได้แม่แกกลับมาหรือเปล่า ฉะนั้นทำตัวให้มีประโยชน์หน่อยสิ” อิฐเริ่มจัดท่าทางจนได้มุมที่ต้องการแล้ว เขาก็รู้สึกว่ามันยังไม่พอ ก่อนหยิบถ้วยชามที่เพิ่งเติมไว้จนเต็ม จากนั้นอุ้มเจ้าเตาฟืนมานอนเกยอยู่ตรงนั้น ราวกับว่ามันเศร้าซึมสุด ๆ จนไม่สามารถกินอะไรได้ เก็บไว้เป็นไม้ตายเผื่อเอาไว้เรียกร้องความสนใจจากอีกฝ่ายระหว่างทางนั่งสปีดโบ๊ททั้งเสือและทัพต่างคอยรายงานถึงคำสั่งที่นายหัวได้สั่งเอาไว้ว่าเป็นไปด้วยความเรียบร้อยดี และไม่มีอะไรต้องกังวล“แล้วของที่กูสั่งไว้ล่ะ ได้มาครบหรือยัง”“ครบแล้วครับนาย” เสือเป็นคนรายงานรายละเอียดทั้งหมด เพราะตอน

  • สัมปทานอาญาเถื่อน   บทที่ ๒๕ อิสระที่ไม่ได้โหยหา

    อิฐกลับมาถึงเกาะก็ต้องเคลียร์งานจนหัวหมุน หลังเปิดคอมพิวเตอร์เพื่อเช็กงานอีเมลต่าง ๆ ก็ทยอยหลั่งไหลเข้ามารัว ๆ ส่วนปัญหาที่น่าปวดหัวที่สุดคงหนีไม่พ้นเรื่องจากลูกค้าเก่าที่เวียดนามแจ้งมาว่าพบสินค้าที่ส่งไปมีตำหนิหลายจุด แต่พอเช็กดูดี ๆ ก็พบว่าทุกอย่างเกิดจากการท่าขนส่ง ถึงจะไม่ใช่ความผิดของบริษัทต้นทางเราเต็ม ๆ ก็ต้องรับผิดชอบอยู่ดี ในห้องทำงานที่เอกสารกองพะเนินล้นโต๊ะ อิทธิกรเอนกายพิงพนักเก้าอี้ ผ่อนลมหายใจเฮือกยาวทิ้งอย่างคนได้หยุดพัก พอหันกลับไปดูปฏิทินถึงได้รู้ว่าเวลาผ่านไปเกือบสองอาทิตย์แล้ว ร่างกำยำนั่งเงียบ ๆ อยู่คนเดียว ใจพะวงคิดถึงใครบางคน ดวงตาเคล้าโศกเศร้า ใบหน้าเรียวยาวได้รูป ริมฝีปากที่ต่อล้อต่อเถียงอย่างไม่เกรงกลัว ทั้งที่ตั้งใจว่าจะขึ้นไปหาบ่อย ๆ แต่ก็มัวแต่ยุ่งจนไม่ได้ออกไปไหนเลยแต่ไม่เป็นไร ตอนนี้เขาว่างแล้ว จะไปทุกวันเลย ต่อให้อีกคนไม่อยากเจอก็ไม่สน...ตรงหน้าอิทธิกรที่ไม่รู้จะทำอะไรต่อ หยิบรีโมตขึ้นมากดเปิดโทรทัศน์แบบลวก ๆ หวังแค่หาสิ่งใดมาช่วยเบี่ยงเบนความคิดถึงชั่วคราว ภาพบนหน้าจอปรากฏเป็นรายการข่าวด่วน ผู้ประกาศสาวสวยน้ำเสียงฉะฉานรายงานถึงการเสียชีวิตของเสี่ยมนต

  • สัมปทานอาญาเถื่อน   บทที่ ๒๔ หน้าสิ่วหน้าขวาน

    “คนไข้ปลอดภัยแล้วครับ โชคดีที่ไม่โดนอวัยวะสำคัญ และจะย้ายผู้ป่วยไปยังห้องพิเศษทั่วไปนะครับ” เสียงคุณหมอดังขึ้นทันทีที่ประตูห้องฉุกเฉินเปิดออก ทุกสายตาหันขวับไปมองต้นทางอย่างจดจ่อไม่กี่นาทีต่อมา พยาบาลเข็นเตียงออกมา อิทธิกรที่ยังคงหลับไม่ได้สติ ตามตัวมีสายระโยงระยางเต็มไปหมด ขลุ่ยตั้งท่าเดินขนาบเตียง แต่ทว่ากลับต้องชะงัก เมื่อได้ยินเสียงจากเหมที่ยืนอยู่ข้างหลัง“ดีนะที่มึงปลอดภัย เฮ้อ!” ขลุ่ยและเป้หันขวับมามองทันที“พี่เหมรู้จักเขาด้วยเหรอครับ?” เป้ถามขึ้นด้วยสีหน้าประหลาดใจ“อะ…เอ่อ แหะ ๆ ครับ” เหมหัวเราะแห้ง ๆ ลูบท้ายทอยแก้เขินกลบเกลื่อน ขลุ่ยเลิกคิ้วน้อย ๆ ความสงสัยก่อตัวตั้งแต่ได้ยินคำพูดสนิทสนมของทั้งคู่แล้ว“มึงกับพี่เขากลับไปก่อนก็ได้ เดี๋ยวกูเฝ้าต่อเอง” ขลุ่ยหันไปบอกเป้“แน่ใจนะ” เป้ถามให้แน่ใจอีกที“อือ ไปเถอะ”“แต่ถ้ามีอะไร โทรหากูได้ตลอดนะ”“...อื้อ”“พี่ฝากมันด้วยล่ะ” เหมเอ่ยพลางมองออกไปยังหน้าห้องผู้ป่วยที่เพิ่งเดินออกมาด้วยสายตาเป็นห่วง"พี่เสือและคุณทัพก็เหมือนกัน"“งั้นพวกกูฝากนายหัวด้วยนะไอ้ขลุ่ย พรุ่งนี้เช้าจะรีบมาหา” เสียงจากเสือแทรกตามมาด้วย ส่วนทัพทำเพียงพยักหน้าข

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status