Share

chapter 10

last update Last Updated: 2025-01-23 11:27:47

แต่ถึงเห็นอย่างนั้น สาวน้อยหน้าใสแก้มป่อง นัยน์ตากลมโตบ้องแบ๊วก็ไม่สนใจ รีบสาวเท้าวิ่งไปด้านหน้า แล้วอ้าแขนดักไว้ด้วยหัวใจแกว่งๆ เกรงใจระคนสั่นเล็กน้อยจากมาดนิ่งๆ จนเป็นเย็นชาของอีกฝ่าย พานให้นึกไปถึงเจ้าหญิงหิมะ ที่เห็นแล้ว...หนาวต้นคอชะมัด!

“เธอนี่นะ...จะทำเย็นชาไปถึงไหนฮึ! ฉันทำอะไรให้ไม่พอใจก็บอกกันสิ ไม่พูดอย่างนี้ ฉันจะไปรู้ได้ยังไงกันล่ะว่าเธอคิดอะไรอยู่” หญิงสาวเอ่ยด้วยใบหน้างอง้ำ น้ำเสียงหวานใสและรอยยิ้มประจบประแจงราวกับว่าสนิทสนมกันมาแสนนาน

คนที่จมอยู่ในโลกส่วนตัว เดินทางออกจากบ้านมาด้วยอาการของคนที่หัวใจถูกบีบคั้นเคืองแค้น จนอึดอัดไม่อยากจะหายใจ มาเพียงแค่กาย ทิ้งวิญญาณเอาไว้ที่บ้านหยุดชะงัก ตวัดสายตาเข้มดุด้วยเกรี้ยวกราด กลีบปากอิ่มนุ่มซีดเผือดขบกัดเม้มอย่างพยายามระงับสติอารมณ์โทสะที่กรุ่นขึ้นใส่แม่สาวไม่รู้จักมารยาท ลามปามคนไม่รู้จัก ก่อนสาวเท้าเดินเลี่ยงไปอีกทาง แต่แม่คนเสียมารยาก็ยังเดินตามมาและสอดมือเข้าคล้องแขน ตีซี้ทำสนิทสนมด้วยอีก

คนร่างเพรียวบางหยุดเดิน ใบหน้าที่เชิดขึ้นสูงจนคอแข็งสะบัดขวับมอง...เพื่อบอกให้รู้ว่าเธอไม่พอใจเป็นอย่างมาก ไม่อยากสนทนาด้วย ทว่าแม่สาวร่างเล็กที่อยู่เบื้องหน้ากลับทำตาใส และยิ้มแฉ่งประจบประแจงอย่างไม่รับรู้เพลิงโทสะที่สาดใส่ไป

“กรุณาทำตัวมีมารยาทหน่อย ปล่อย!” หญิงสาวผู้ถูกก่อกวนเอ่ยด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้างดุ สำทับด้วยการส่งสายตาแข็งกร้าวและดุร้ายไปให้

“ขอโทษนะคะ ฉันไม่ได้อยากมาตีซี้ทำสนิทสนมกับคุณหรอก ฉันแค่อยากช่วยคุณเท่านั้นเอง” หญิงสาวก้มหน้าลงไปทำเสียงกระซิบกระซาบ ด้วยหางตาคล้ายยังเห็นเงาตะคุ่ม ๆ อยู่ไม่ไกล

“ช่วย...ไม่ทราบว่าฉันต้องให้เธอช่วยเรื่องอะไร!” คนถูกก่อกวนยังคงเอ่ยถามน้ำเสียงเย็นจัด

คนตัวเล็กกว่าถึงกับถอนหายใจเฮือกโต คิดสรุปเอาเอง จากลักษณะของการแต่งกายและรูปร่างภายนอกที่ได้เห็น ท่าทางเบื่อโลกขนาดนี้ต้องมีปัญหาหนักอก แต่มีปัญหาแค่ไหนก็ช่วยมองรอบๆ หน่อยได้ไหมเล่า ไม่ใช่บ้านตัวเองสักหน่อย เกิดมีเหตุร้ายแรงอะไร ใครจะไปช่วยได้ล่ะ

“ฉันไม่ได้อยากบอกให้คุณกลัวนะ แต่ช่วยดูรอบๆ หน่อยได้ไหม” คนตัวเล็กกว่ากระซิบบอก ด้วยรู้สึกว่าขนบนคอยังลุกเกรียว เสียวที่แผ่นหลังวูบๆ อยู่ เมื่อกวาดสายตามองไปรอบๆ ก็ยังเห็นเหล่าคนแต่งกายด้วยเสื้อผ้าพื้นเมืองแบบมิดชิด เหมาะกับการเดินทางในทะเลทรายเดินตามมาอย่างช้าๆ

ความจริงก็ไม่มีอะไรให้น่าสงสัยหรอกนะ แต่...สัญชาตญาณส่วนลึกในใจบอกว่ามีปัญหา ด้วยใบหน้าของทุกคนมีผ้าปิดอยู่จนเหลือเพียงแค่ลูกกะตาที่สอดส่ายเมียงมองมายังคนตรงหน้าเธอ ที่สำคัญคือตัวเธอเองเป็นพวกแปลกประหลาด ไม่เหมือนชาวบ้านชาวช่องทั่วไป แบบว่าพอจะเกิดเรื่องร้ายมักมีลางบอกเหตุ ครั่นเนื้อครั่นตัว เดี๋ยวร้อนเดียวหนาวคล้ายคนเป็นไข้! นะสิ

คนถูกเตือนรีบกวาดสายตามองไปทั่วบริเวณ ก่อนเบ้ปากเมื่อเห็นเพียงแค่ว่ามีคนเหลียวมองมาด้วยความสนใจ ซึ่งก็ไม่น่าแปลกสำหรับสาวซึ่งเต็มไปด้วยเสน่ห์เช่นเธอ

“ไม่ต้องสร้างเรื่องให้ดูน่ากลัว” คนตัวโตพูดเสียงเข้มดุ คนกำลังอารมณ์ไม่ดี เมื่อจำต้องดั้นด้นเดินทางมาจากครอบครัวที่รักมาถึงดินแดนทะเลทราย ใครอยากให้ชีวิตที่มีความสุข โอบล้อมไปด้วยครอบครัวที่อบอุ่นและความรักของพ่อแม่และญาติพี่น้องต้องมาสะดุด เพราะฝันร้ายกันเล่า! นี่ยังมาเจอแม่สาวช่างจินตนาการเรื่องร้ายๆ เอาเรื่องชวนปวดหัวมาให้อีก

“ฉันไม่อยากคุยกับเธอ ไปให้พ้น” คนที่ถูกก่อกวนไล่เสียงเย็นยะเยือก พลางเหลียวมองไปรอบๆ บริเวณอีกครั้ง ก็ไม่เห็นมีอะไรผิดปกติ หรือเพราะเธอไม่สนใจมองตั้งแต่แรก เลยไม่รู้เรื่องรู้ราว...แต่ก็ใช่ ในวินาทีนี้ใครจะไปสนใจอะไรล่ะ ในเมื่อความทุกข์รายรอบโอบล้อมกาย ให้ถูกจับไปฆ่าหมกทะเลทรายเสียก็ดี จะได้ไม่ต้องทำเรื่องบ้าๆ นั่น

แค่คิดเท่านั้น กลีบปากอิ่มก็สั่นระริกจนต้องรีบขบกัดเอาไว้ น้ำตาพานจะไหลออกมา จนต้องแหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่กระจ่างสดใส ช่างแตกต่างกับความรู้สึกของเธอในตอนนี้...ที่มืดมนเช่นอุโมงค์มืดมิดที่หาทางออกไม่เจอ 

“คุณนี่นะ ฉันแค่หวังดี ไม่ได้คิดอย่างที่ว่าเลยสักนิด มีตามองไม่เห็นหรือไง คนพวกนั้นจ้องมองคุณอย่างกับสุนัขจิ้งจอกจ้องขย้ำเหยื่ออันโอชะ ไปทำอะไรเข้าล่ะ ถึงได้ทำให้คนไม่พอใจขนาดนี้น่ะ” คนตัวเล็กเอ่ยถามอย่างคนปากไว ลักษณะที่สัมผัสได้ ไม่ใช่มองด้วยความสนใจ แต่กระเหี้ยนกระหือรืออยากจะทำมิดีมิร้ายมากกว่า

“เฮ้ย!! ไม่ใช่นะ” คนตัวเล็กรีบยกมือส่ายปฏิเสธโดยเร็วไว “อย่าเข้าใจผิด ฉันไม่ได้อยากรู้เรื่องของคุณหรอกนะ แต่ปากฉันมันไวไปนิดหนึ่งเท่านั้นเอง น่า...อย่าโกรธสิ แค่นี้คุณก็ทำท่าอย่างกับจะกัดคอฉันจนจมเขี้ยว ท่าทางน่ากลัวจนฉันตัวสั่นแล้วเห็นไหม” หญิงสาวรีบเอ่ยดักคอเสียก่อน เมื่อรับรู้ถึงรัศมีแห่งความขุ่นเคืองเกรี้ยวกราดที่สาดมาจากร่างเพรียว

“ไม่มีอะไรแล้วใช่ไหม ฉันจะได้ไปเสียที”

กลีบปากบางเฉียบเบ้ไปมาอย่างอึดอัดรำคาญใจตัวเอง เพราะไม่รู้ทำไมเธอถึงปล่อยให้คนตรงหน้าไปคนเดียวไม่ได้ เฮ้อ! เบื่อจังเลยกับไอ้ความรู้สึกแปลกๆ นี่นะ...เมื่อไหร่จะหมดไปเสียทีก็ไม่รู้

“อืม...ฉันไปกับคุณดีกว่า เกิดอะไรขึ้นจะได้ช่วยเหลือกัน”

“ไม่จำเป็น!” คนถูกก่อกวนกระแทกเสียงเข้มใส่จอมจุ้นจ้าน ถ้าหากเป็นอะไรไป...ก็ช่างหัวมันสิ! ตายหรืออยู่ก็มีค่าไม่ต่างกัน แต่การตายอาจให้ประโยชน์มากกว่าอยู่

“เอาน่าคุณ...เสียใจอะไรมา ก็อย่าทำเหมือนชีวิตไม่มีค่าอย่างนี้สิ ปัญหาทุกอย่างแก้ไขได้ทั้งนั้นแหละ แค่เราต้องให้เวลากับมันสักหน่อยเท่านั้นเอง” คนตัวเล็กคลี่ยิ้มหวาน พ่อกับแม่สอนเธอเสมอ ชีวิตคนเราทุกข์มากกว่าสุข จงทำตัวให้ชิน อย่าให้ความทุกข์มีอำนาจเหนือกว่า รู้จักคิดแก้ไขไตร่ตรองปัญหาอย่างรอบคอบและมีสติเข้าไว้ แล้วทุกอย่างจะดีเอง

“เธอจะไปรู้อะไร ไม่เกิดเรื่องกับตัวเองทำเก่งพูดสอนคนอื่นเขาได้ ทีหลังไม่ใช่เรื่องของตัวอย่ามาสอด!” คนเราเป็นอย่างนี้แหละ ชอบจุ้นเรื่องของคนอื่น ทำเป็นเก่ง แนะนำหาทางออกให้ แต่พอเกิดเรื่องกับตัวเอง...ก็เป็นเหมือนเธอนี่ไง เจ็บปวดเจียนหัวใจขาดรอน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สาปรักมนตราเชลย   chapter 101 - จบ

    “ว้าย! ทำอะไรนะคะคุณซีกัลป์” แขนกลมกลึงรีบยกขึ้นโอบรัดรอบแผงคอแกร่ง เมื่ออยู่ดีๆ อันเดซาอีก็ช้อนร่างเธอมานอนราบบนเตียงนอนผ้าขนสัตว์เนื้อนุ่ม “ปล่อยฉันก่อน...นะคะ” ขอขวัญยกสองมือยันแผงอกกว้าง กลืนน้ำลายคงคออย่างฝืดเคืองเมื่อเจอกับสายตาร้อนแรงแฝงไว้ด้วยความปรารถนาที่ปกปิดเอาไว้ไม่มิด “ไอย่าค่อนข้างจะขี้อาย แค่ถูกฉันจับมือนิดหน่อยก็อายจนหน้าแดงปลั่งแล้ว ผิดกับเธอที่...” ปลายนิ้วยาวตวัดลากไล้ไปบนผิวเนื้อนวลเนียนนุ่ม“เหมือนจะอ่อนหวาน อ่อนโยน แต่เอาเข้าจริงก็ร้อนแรงประหนึ่งน้ำมันราดลงไปบนกองไฟ”อยากจะบอกว่า...ไม่จำเป็นต้องทำอย่างนี้ก็ได้ นี่มันยังกลางวันอยู่เลย อีกอย่างให้เวลานับจากนี้พิสูจน์คำพูดของเขา ทว่าเพียงใบหน้าคร้ามแกร่งโน้มลงมา สัมผัสแผ่วเบาที่แนบหน้าผากกว้าง ไต่ลงมาเรื่อย ๆ จนถึงกลีบปากอิ่มนุ่ม ค่อย ๆ บดคลึงลงไปอย่างนุ่มนวลและอ่อนโยน“ฉันอยากให้ทั้งตัวเองและเธอมั่นใจ คนที่อยู่ด้วยคือแม่ของขวัญที่เดินทางมากับนกเหล็ก มาเพื่อให้ฉันแกะกล่องด้วยความเสน่หา ที่ฉันจะบอกทุก ๆ วัน ย้ำให้เธอแน่ใจในทุก ๆ สัมผัส”ปากหนาเม้มกัดสลับบดคลึง พลางสอดแทรกเรียวลิ้นอุ่นชื้นเข้าไปกระหวัดกวาดไล้ดื่มด่ำ

  • สาปรักมนตราเชลย   chapter 100

    ทั้งที่อยากจะถามตรงๆ ทว่าเห็นดวงตาที่ฉายแววตัดพ้อก็ทำให้เกิดพูดไม่ออกขึ้นมาฉับพลัน อีกทั้งถึงจะใช่คนเดียวกัน แต่ตอนนี้ต่างภพต่างความทรงจำ ต่างคนต่างก็มีวิถีชีวิตที่แตกต่างกันไปแล้ว ย่อมที่จะไม่ใช่คนเดียวกัน!ขอขวัญพยักหน้ารับ “ค่ะ ฉันพอจะจำเรื่องราวที่คุณเจอกับคุณไอซาย่าในตลาดได้ สาวน้อยที่อยู่ดีๆ ก็ถูกกล่าวหาว่าเป็นโจร ช่วงเวลาที่คุณสองคนอยู่ด้วยกัน รอบกายอบอวนไปด้วยความรักและความสุข แม้กระทั่งวันที่คุณบอกรัก”เจ็บแปลบในทุกคำที่เอื้อนเอ่ยออกมา เหมือนกับหัวใจถูกกรีดเป็นชิ้นๆ “และ...ขอแต่งงาน” เสียงของเขายังดังสะท้อนก้องอยู่ในหูเธอ เสมือนจะตอกย้ำความรักของอันเดซาอีและไอซาย่าให้เธอถึงระลึกเอาไว้ อย่าริอ่านทำตัวเป็นมารสอดแทรกกึ่งกลาง“แต่ที่ฉันไม่รู้คือเรื่องราวของอดีต การข้ามภพข้ามชาติมาจุติใหม่ ฉันจะใช่คุณไอซาย่ากลับมาเกิด เพื่อจะชดเชยวันเวลาที่คนซึ่งรักกันถูกพรากให้ห่างกัน ได้รักและให้คุณรักหรือเปล่า” แต่สิ่งหนึ่งที่รู้ ณ ห้วงเวลานี้ ทั้งตัวเธอเองและไอซายาต่างก็ปรารถนาในสิ่งเดียวกัน! ทำให้อันเดซาอีมีความสุขที่สุด ได้พบเจอแต่สิ่งดีๆ ตราบนานเท่านาน แม้เธอจะต้องเจ็บปวดก็ยอมจะให้เขาคิดอ

  • สาปรักมนตราเชลย   chapter 99

    “ว่าแต่...มันเรื่องอะไรกันล่ะ” ปลายนิ้วยาวลากไล้บนพวงแก้มนุ่มซับสีเลือดฝาดอย่างอ่อนโยน “เธอจะยอมบอกความจริงกับฉันได้หรือยัง มีเหตุผลกลใดที่ชักนำให้เธอตัดสินใจเดินทางมาที่นี่...ขอขวัญ”ชายหนุ่มจับคางมนให้แหงนขึ้น ปลายนิ้วยาวลูบไล้บนกลีบปากนุ่มแผ่วเบา “มาเป็นของขวัญให้กับผู้ชายที่จมอยู่กับห้วงแห่งความทุกข์ใจ โหยหาใครสักคนมาเติมความรู้สึกที่ขาดหาย พร้อมอยู่เคียงข้างกันตลอดไป”แม้จะผ่านเรื่องราวมามากมาย แต่พอจะให้เอ่ยปากบอกถึงเหตุผลที่ทำให้ตัวเองต้องมาที่นี่ ที่บางครั้งเธอรู้สึกเหมือนกับว่าเรื่องลี้ลับที่เกิดขึ้นเป็นเพียงแค่เรื่องเหลวไหล ฝันก็คือฝันมิอาจนำมาพิสูจน์ความจริงและอ้างเป็นหลักฐาน ทำให้คนอื่นเชื่อไม่ได้ด้วย“ทำไมล่ะ หรือเธอยังไม่ไว้ใจฉัน”ขอขวัญผ่อนลมหายใจออกจากปอด คิดว่าอันเดซาอีคงจะสัมผัสได้ถึงความหวาดกลัวที่ยังคงมียามถูกเขาแตะเนื้อต้องตัว หรือไม่ก็ออกมาทางความฝันที่ทำให้เธอสะดุ้งตื่นมาพร้อมหยาดน้ำตาที่เอ่อไหลอาบแก้ม“ไม่ใช่ค่ะ เพียงแค่ฉัน...ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟังคุณยังไงดี” ขอขวัญเอ่ยด้วยความงุนงงกับสิ่งที่พานพบมา ถึงตอนนี้เธอสับสนด้วยแยกไม่ค่อยออก สิ่

  • สาปรักมนตราเชลย   chapter 98

    ขอขวัญทำเสียงขลุกขลักในลำคอ ก่อนจะตวัดค้อนใส่พ่อจอมวางแผนวงโต ถ้าไม่ติดว่าอยากให้เพื่อนมีความความสุขด้วยละก็นะ...เธอจะภาวนาให้อติกานต์ใจแข็ง ไม่ยอมยกโทษให้ง่ายๆ“อ้าว...ไหนว่าสงสาร อยากให้เอแคลร์มีความสุขไง ทำไมถึงได้หน้าตายุ่งเหยิงแบบนี้ล่ะ”“มันก็ใช่อยู่หรอก แต่เล่นมาหลอกลวงกันอย่างนี้ใช้ได้ที่ไหน คนเดียวกันแท้ๆ แต่กลับทำเป็นไม่รู้เรื่องตอนคุณเอแคลร์เอ่ยทัก แถมยังจะปฏิเสธหน้าตายอีก”“ฮัลด์ก็มีเหตุผลในส่วนของเขาที่ต้องทำอย่างนั้น ซึ่งเราสองคนที่คนนอกไม่ล่วงรู้ แต่เมื่อเรื่องทุกอย่างคลี่คลายไปในทางที่ดีแล้ว เราก็ควรที่จะอวยพรให้ชีวิตคู่ของเขาสองคนมีความสุขตลอดไป...ใช่ไหม”ขอขวัญพยักหน้ารับ เอนกายอรชรแนบชิดอกกว้าง “ใช่ค่ะ...ทุกคนมีความสุขกันแล้วสินะ” หญิงสาวเอ่ยเสียงเบาหวิวยามคิดถึงเหล่าผู้คนที่อยู่รอบกายกับหนทางที่เขาเหล่านั้นได้เลือกแล้ว ฮารินะเพื่อแก้แค้นให้กับพ่อแม่ แม้รู้ว่าอันตรายก็ไม่หวาดหวั่น เข้าต่อกรกับโจรร้ายจนตัวเองแพ้พ่าย แต่ก็มีความสุข เมื่อได้กลับไปซบอกอุ่นท่องเที่ยวไปทั่วพื้นทรายที่รัก แม่โซไรยากับโอซามุที่ก็ผ่านเรื่องร้ายๆ มามากมาย กลายเป็นเพื่อนสนิทที่เข้าใจกันอติกา

  • สาปรักมนตราเชลย   chapter 97

    “บ้า! ใครรักคุณกันล่ะยะ เปล่าสักหน่อย”“อืม...นั่นสิ ฉันยังไม่ได้ยินคำบอกรักเลยนี่นา อย่างนี้คงต้องขอเบิ้นอีกสักรอบ เอ๊ะ...หลายรอบๆ ดีกว่า จะได้มั่นใจไอ้ที่ได้ยินเมียจ๋าบอกเมื่อกี้มันแว่วๆ สงสัยจะหูฝาดไปจริงๆ นั่นแหละ”“ไม่! ฉันบอกแล้ว...บอกแล้ว” อติกานต์รีบพูดจนลิ้นพัวพันกัน มือหนึ่งยกขึ้นดันใบหน้าคร้ามแกร่งที่ก้มลงมาหา อีกมือก็รีบตะครุบมือหนาที่โอบอุ้มทรวงอกกลมกลึง ค่อยๆ นวดคลึงทำให้เธอวาบหวามเสียวซ่าน ลมหายใจเริ่มจะขาดเป็นห้วงๆ“ถ้าไม่รัก ฉันคงไม่ยอมปล่อยให้เรื่องเมื่อกี้เกิดขึ้นหรอก” ดวงตากลมโตหลุบมองลอนกล้ามเนื้อบึกบึน พลางกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดเคืองเพราะกายแกร่งที่แนบชิด“ฉันเป็นเพียงแค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่มาจากต่างบ้านต่างเมือง หัวเดียวกระเทียมลีบ คุณกรุณาปรานีผู้หญิงคนนี้ที่เผลอรักคุณไป ทั้งก่อนหน้านั้นคุณเป็นจอมโจรร้ายอยู่เลย อุ๊ย!” อติกานต์หลุดเสียงอุทานออกมา เมื่อกายสาวอันตรธานลอยไปพำนักบนลำตัวแข็งแกร่ง ใบหน้านวลผ่องร้อนผ่าวและคิดว่าคงจะแดงปลั่งจรดลำคอระหง ยามนิ้วยาวลูบไล้นวดคลึงแผ่นหลังบอบบางอย่างช้าๆ“คุณ...ฮัลด์ หยุดก่อนสิคะ” อติกานต์เว้าวอนขอเสียงแหบพร่า เมื่อปทุมถันกลมก

  • สาปรักมนตราเชลย   chapter 96

    “อือ...” อติกานต์ร้องประท้วงเล็กน้อย เมื่อฝ่ามือหนาครอบครองทรวงอกอิ่มและนวดเฟ้นอย่างหนักหน่วงจะว่าไปเขาเคยเพียงแค่สัมผัสไม่เคยยลบัวตูมเต่งตึงของอติกานต์ชัดๆ สักครั้ง ชายหนุ่มจึงไม่รอช้า รีบถอนจูบและลากริมฝีปากไต่ลงไปตามแนวคาง ขบเม้มลำคอขาวผ่องแผ่วเบา ก่อนจะเคลื่อนไปหาทรวงอกกลมกลึงที่ไหวกระเพื่อม ที่เพียงแค่ได้เห็น...มิคาอิลก็หลุดเสียงคำรามออกมาพร้อมกับความกระหายราวกับเลือดในกายเดือดพล่านสองมือหนาสอดช้อนปทุมถันกลมกลึงขึ้นมา ปลายนิ้วยาวลากไล้ไปบนผิวเนื้อนุ่มๆ ใบหน้าคร้ามแกร่งเปื้อนยิ้ม ดวงตาเข้มเปล่งประกายด้วยปรารถนาขณะเหลือบขึ้นมองสบกับดวงตากลมโต“ฉันคิดไว้ไม่ผิด ไม่แค่นุ่มแต่ยัง...”เนื้อตัวอติกานต์สั่นสะท้าน วาบหวามเสียวซ่านจนเผลอหลุดเสียงร้องครางออกมา เมื่อมือหนานวดเคล้นสลับปลายนิ้วยาวลากไล้บนปลายยอดถันหดเกร็ง ปากอุ่นยังจะเลาะเล็มไปทั่วก้อนเนื้อนุ่มหยุ่นอย่างเย็นใจ เพียงปลายลิ้นร้อนตวัดไล้วนไปทั่วป้านบัวสีหวานและขบเม้มดึงเข้าสู่อุ้งปาก เธอก็เปล่งเสียงหวานพร่าด้วยวาบหวามจนท้องไส้ปั่นป่วน สองขาเรียวยาวสั่นระริก ปลายเล็บมนจิกลงบนแผ่นหลังกว้าง พลางเคลื่อนไหวไต่ขึ้นไปพัวพันกับเส้นผมหนา

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status