แชร์

ตอนที่ 6 ทุบตีคน

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-04 12:52:07

ฉีหลินเดินนำหน้าน้องสามีกลับมาถึงบ้านจากนั้นนางนำปลาไปให้แม่สามีเพื่อต้มน้ำแกงให้กับสามีของนาง และแวะดูลูกชายฝาแฝดของนางด้วย

อย่าดูถูกว่าพวกเขาอายุยังน้อยแต่เป็นเด็กที่รู้ความมากทุกวันเด็กน้อยทั้งสองหลังจากที่ดูแลแปลงผักหลังบ้านช่วยท่านย่าแล้ว ก็จะมาอยู่เป็นเพื่อนท่านพ่อของพวกเขาที่ป่วยจนไม่สามารถลุกออกจากเตียงได้

“ท่านแม่ ข้าจับปลามาได้ รบกวนท่านแม่ต้มน้ำแกงให้ท่านพี่ดื่มหน่อยนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะเข้าป่าไปเก็บผักเสียหน่อย”

“เจ้าทำไมไม่นอนพักอีกหน่อย เจ้าหายดีแล้วหรืออาหลิน”

“ข้าหายดีแล้วเจ้าค่ะท่านแม่ ไม่ต้องเป็นห่วงเจ้าค่ะ ข้าสบายดี”

“ท่านแม่ขอรับพวกเราไปด้วยได้หรือไม่ขอรับ” แฝดพี่

“หากพวกลูกไปใครจะอยู่ช่วยงานท่านย่า ใครจะคอยดูแลท่านพ่อ เอาไว้ท่านพ่อของลูกหายดีเมื่อไหร่แม่จะพาเจ้าสองคนไปด้วยดีหรือไม่”

“ตกลงขอรับ พวกข้าจะเชื่อฟังรอท่านแม่อยู่ที่บ้านและช่วยท่านย่าดูแลท่านพ่อขอรับ”

“ดีมากจ้ะเอาไว้แม่กลับมาแล้วจะทำของอร่อยให้กินนะ”

“ขอรับ พวกเราจะรอท่านแม่ทำของอร่อยนะขอรับ”

“ดีมาก เด็กดี แม่ไปก่อนอาเล็กของลูกรอแล้ว "

ฉีหลินพาเยว่เล่อสะพายตะกร้าไม้ไผ่ขึ้นหลังเดินออกจากบ้านทางปีกซ้ายของบ้านใหญ่ ก็เจอเข้ากับนางหลินป้าสะใภ้มหาภัยทันที เมื่อนางหลินมองเห็นฉีหลินและเยว่เล่อกำลังจะออกไปนอกบ้านแต่ไม่ใช่ทางที่จะไปทุ่งนาที่สามีและลูกชายของนางทำงานอยู่ จึงรู้สึกโมโหและก่นด่าทั้งสองคนทันที

“ ดี ดีจริง ๆ งานการไม่รู้จักทำ งานในนาเยอะแยะไม่ยอมไปช่วยกันทำ นอกจากข้าจะเลี้ยงหมาป่าตาขาวเอาไว้แล้ว พวกมันยังทำตัวเป็นปลิงคอยดูดเลือด โอ้สวรรค์เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายกับครอบครัวของข้ายิ่งนัก งานการไม่เคยช่วยทำ วัน ๆ เอาแต่เดินเล่นในป่าไปมา แล้วแบบนี้ข้าจะเอาข้าวสารที่ไหนกรอกหม้อ”

“พูดจบหรือยัง ถ้าพูดจบแล้วข้าจะได้ไปสักที ไม่ทราบว่าใครไปเหยียบหางท่านป้าหรือเจ้าคะ ถึงได้มาร้องโหยหวนอยู่ตรงนี้ ไม่อายชาวบ้านบ้างหรือเจ้าคะ”

“แก นังฉีหลิน แกว่าใครห๊ะ นี่น้องรองกับเมียสั่งสอนลูกสะใภ้ยังไง ให้มาก้าวร้าวกับผู้อาวุโสในบ้านเช่นนี้ อกตัญญูแล้ว อกตัญญูจริง ๆ ทำไมสวรรค์ถึงได้ส่งคนพวกนี้มาให้ครอบครัวข้ากัน”

ทางด้านเยว่เล่อตกใจจนหน้าขาวซีดทำไมวันนี้พี่สะใภ้ของนางไปกินดีหมีหัวใจเสือมาจากไหนถึงได้กล้าต่อปากต่อคำกับป้าสะใภ้อย่างไม่เกรงกลัวเช่นนี้

นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับพี่สะใภ้กันหรือว่าที่นางตกร่องเขาจะทำให้สมองนางกระทบกระเทือนกันแน่ถึงได้ทำให้นางมีความกล้าเช่นนี้ เมื่อเห็นท่าว่าไม่ดีแน่แล้วเยว่เล่อรีบดึงพี่สะใภ้ให้รีบเดินทันที

ตอนนี้นางหลินป้าสะใภ้ได้แต่โมโหจนหน้าดำเป็นตับหมู กว่าจะหาเสียงของตัวเองเจอทั้งสองคนก็เดินออกไปไกลแล้ว นางหลินทำได้เพียงเดินกระแทกเท้าเข้าบ้าน

“รอให้ถึงเย็นนี้ก่อนเถอะ ดูสิว่าข้าจะจัดการกับพวกเจ้าบ้านสองยังไง” นางหลินกว่าคาดโทษเอาไว้

ทั้งสองคนเดินมายังไม่ทันได้พ้นชายหมู่บ้านก็เจอเข้ากับหยางฮุ่ยเหม่ยลูกสาวคนสุดท้องของนางหลิน เยว่เล่อเหลือบตามองญาติผู้พี่ที่ไม่เคยหยิบจับงานบ้านเลยแม้แต่น้อย วัน ๆเอาแต่แต่งตัวสวยและเดินไปทั่วหมู่บ้านกับสหายของนางเท่านั้น

“ฮุ่ยเหม่ย นั่นไม่ใช่สะใภ้ของบ้านสองของเจ้าหรอกหรือ ไหนว่านางตกร่องเขายังไงล่ะทำไมถึงยังเดินได้อยู่” หลี่กุ้ยฮัวหนึ่งในเพื่อนของฮุ่ยเหม่ยพูดออกมาทันทีที่เห็นฉีหลินเดินมา

“ใครจะไปรู้ล่ะ เมื่อวานพี่สะใภ้ของข้าบอกว่านางรนหาที่ตายเอง ก็สมน้ำหน้าแล้วจะไปมองนางทำไมกันให้เสียอารมณ์”

“คนบางคนนี่ก็แปล๊กกกแปลกเนอะน้องเล็ก เป็นคนอยู่ดี ๆ ไม่ชอบ ชอบเป็นหมาไปเสียอย่างนั้น” 

ก็เอาสิเห่ามาก็ว่ากลับรับรองได้เลยว่าวันนี้ได้มีเรื่องแน่ ๆ ไหนก็ตั้งใจเอาไว้ว่าจะทุบตีคนก็ต้องทุบตี เริ่มจากลูกสาวสุดที่รักของป้ามหาภัยนี่เป็นยังไง ไหน ๆ มีหมาเดินหลงมาให้ตีแล้วก็ตีเสียหน่อยประเดี๋ยวจะเสียโอกาส

“เจ้าว่าใครเป็นหมา ฉีหลิน พูดจาให้มันดี ๆ หน่อย ข้าล่ะสงสารพี่เฟยเทียนเสียจริง ที่แต่งเมียเช่นเจ้าเข้าบ้าน”

“ข้าว่าใคร ข้าเอ่ยชื่อหรือยัง พวกเจ้าร้อนตัวหรือ แล้วข้าเป็นยังไงรึ ไม่ต้องมาคิดแทนสามีข้า หรือว่าเจ้าอยากจะได้สามีคนอื่น หน้าของเจ้าคงหนามากสินะ อย่าได้ริทำตัวมาให้ท่าสามีข้า”

“นี่ ฮุ่ยเหม่ยทำไมวันนี้นังฉีหลินมันแปลก ๆ แถมยังกล้าต่อปากต่อคำด้วยถ้าปกติแล้วมันต้องเดินก้มหน้าไม่ตอบโต้ไม่ใช่หรอ” กู้เจินจูพูดออกมาด้วยความไม่เข้าใจ

“ใครจะไปรู้ มันอาจจะตกเขาจนเพี้ยนไปก็ได้”

“สรุปพวกเจ้ามีธุระอะไรกับข้า ถ้าไม่มีข้าจะได้รีบไปทำมาหากิน ไม่ใช่เอาแต่แต่งหน้าแต่งตาเดินยั่วผู้ชายไปมางานการไม่ทำ”

“มันจะมากไปแล้วนะฉีหลิน เจ้ากล้าดียังไงพูดจาไม่ให้เกียรติข้า คอยดูเถอะว่าข้าจะจัดการเจ้ายังไง”

“พวกเจ้าสองคน จับนางไว้ให้ข้า” ฮุ่ยเหม่ยสั่งสหายทั้งสองให้จับฉีหลิน

“หยุดนะ อย่าทำอะไรพี่สะใภ้นะ ถ้าเกิดพวกท่านกล้าข้าจะไปบอกหัวหน้าหมู่บ้าน”

“หุบปาก เจ้าอยากจะโดนอีกคนใช่ไหม ได้ ข้าจะได้จัดการพวกกาฝากไปเสียทีเดียว”

ยังไม่ทันที่จะมีใครได้ลงมือฉีหลินไม่รอช้านางยกขาถีบสองคนที่กำลังจะเข้ามาจับนางพอดี มีหรือที่นางจะปล่อยให้มาจับนางได้ ฮุ่ยเหม่ยเมื่อเห็นว่าสหายของตัวเองล้มลงไปกองอยู่กับพื้นก็ตวาดออกมาด้วยความโมโห

“พวกเจ้าทำอะไรอยู่ยังไม่รีบจับมันเอาไว้อีก ไม่ได้เรื่องเลยจริง ๆ " ฮุ่ยเหม่ยผลักเยว่เล่อที่ตัวเล็กนิดเดียวกระเด็นออกไป

“ถ้าหากพวกเจ้าไม่หยุดอย่าหาว่าข้าไม่เตือน”

“ไม่ต้องไปกลัวพวกเรามีกันสามคน นังฉีหลินคนเดียวจะไปทำอะไรได้ จับมันเอาไว้ดูสิวันนี้ข้าจะจัดการกับมันยังไง หนอย บังอาจมากนัก"

ทั้งสามคนวิ่งกรูเข้าไปจับฉีหลินแต่กลับโดนทั้งมือทั้งเท้าของฉีหลินประเคนให้อย่างเต็มรัก ทางด้านฉีหลินที่กำลังทุบตีคนอยู่นั้น ปากนางก็ร้องขอความช่วยเหลืออยู่ตลอดเวลา อีกทั้งยังร้องอ้อนวอนว่าอย่าตีนาง

“โอ๊ย ๆ อย่าทำข้า อย่าทำข้าเลย ตุ๊บ ตั๊บๆ” ทั้งศอกทั้งเข่าประเคนให้หลี่กุ้ยฮัว

“โอ๊ย ข้ากลัวแล้วอย่าตีข้าเลย อย่าตีข้า เพี๊ยะ เพี๊ยะ" เสียงฝ่ามือกระทบกับใบหน้าของกู้เจินจู

“ข้าขอร้อง อย่าตีข้าเลยนะ ข้าเจ็บจะตายแล้ว ตุ๊บ พลั๊ก ตุ๊บ พลั๊ก ”

ทั้งมือทั้งเท้าประเคนใส่หยางฮุ่ยเหม่ยโดยไม่คิดจะออมแรงเลยแม้แต่น้อย แต่พอหางตาเหลือบไปเห็นว่ามีคนกำลังวิ่งมาทางนี้ฉีหลินจึงได้แกล้งล้มลงไปนอนกุมท้องอยู่ที่พื้นและบีบน้ำตาร้องไห้ออกมาประหนึ่งเจ็บปวดปางตาย

“หยู๊ดดดดดดดดด หยุดบัดเดี๋ยวนี้พวกเจ้ากล้ามากนะ รุมทำร้ายคนไม่มีทางสู้ พวกเจ้าล้วนเป็นสตรีที่ยังไม่ออกเรือนสมควรแล้วหรือที่ทำกิริยาเช่นนี้” หัวหน้าหมู่บ้านที่ไม่รู้มาจากไหนเอ่ยปากห้ามออกมา

“ท่านลุงเมิ่งพวกข้าต่างหากที่โดยฉีหลินทำร้าย พวกข้ายังไม่ทันได้ทำอะไรนางเลยนะ”

“พวกเจ้ายังจะมาแก้ตัวอะไรอีก ข้าเห็นกับตาพวกเจ้าแยกย้ายกันเดี๋ยวนี้ หากมีอีกข้าจะจับส่งทางการให้หมดเลย เยว่เล่อเจ้ามาดูพี่สะใภ้ของเจ้าก่อน”

“จะ เจ้าค่ะ ท่านลุงเมิ่ง” เยว่เล่อที่กำลังตกตะลึงกับภาพเหตุการณ์ตรงหน้า เมื่อสักครู่นี่มันอะไรกันนางยังเห็นพี่สะใภ้ของตัวเองรังแกคนอื่นอยู่เลยแต่พอท่านลุงเมิ่งวิ่งมาเท่านั้นและทำไมพี่สะใภ้ถึงไปนอนกองอยู่ที่พื้นได้

“พวกเจ้าแยกย้ายกันไป ครั้งต่อไปอย่าให้มีอีก พวกเจ้ามีเหตุผลอะไรทำไมถึงต้องรุมทำร้ายนาง นางทำอะไรให้พวกเจ้าเช่นนั้นรึ เรื่องนี้ข้าจะเรียกพ่อแม่พวกเจ้ามาว่ากล่าวตักเตือน สตรีที่ยังไม่ออกเรือนเช่นพวกเจ้าริเป็นอันธพาลรึ แบบนี้ใครจะแต่งพวกเจ้าเข้าบ้านกัน”

ทั้งสามคนได้แต่แค้นใจที่ไม่สามารถลงไม้ลงมือกับฉีหลินได้ ในทางกลับกันพวกนางกลับโดนฉีหลินเล่นงานแทน อีกทั้งพวกนางทั้งสามยังโดนหัวหน้าหมู่บ้านคาดโทษอีกด้วย

หลังจากทุกคนไปกันหมดแล้วฉีหลินที่ตอนนี้เยว่เล่อพยุงให้ลุกขึ้นมา นางยิ้มมุมปากด้วยความพอใจจากนั้นก็ปัดฝุ่นออกจากเสื้อผ้าพร้อมทั้งจัดทรงผมให้เข้าที่เข้าทางและเดินไปหยิบตะกร้าขึ้นมาสะพายหลัง ทำเหมือนว่าเมื่อสักครู่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“พี่สะใภ้ท่านไม่เป็นไรจริง ๆ หรือ เรากลับบ้านกันดีหรือไม่”

“ข้าไม่เป็นไร น้องเล็กอย่าได้เป็นห่วง เมื่อสักครู่ข้าเพียงแต่เล่นละครตบตาเท่านั้น ฮ่า ๆ สะใจจริง ๆ คอยดูเอาเถอะข้าจะคิดบัญชีกับคนพวกนั้นทีละคน”

เมื่อไม่มีอะไรแล้วฉีหลินเดินเข้าป่าด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ตอนนี้เอาของจากในมิติออกมาใช้ก็ไม่ได้วันนี้คงต้องแอบเอาสมุนไพรในมิติออกมาเสียแล้วไม่เช่นนั้นก็ไม่มีเงินไปสร้างบ้านใหม่ 

“น้องเล็กอดทนหน่อยนะ พี่จะหาทางให้ท่านพ่อแยกบ้านให้เร็วที่สุด”

“ข้ากลัวว่าท่านลุงจะไม่ยอมและท่านป้าคงไม่แบ่งอะไรให้เรา”

“ไม่แบ่งก็ไม่แบ่งสิ ถ้าเรามีเงินพอเราก็ย้ายออกไปอยู่ที่อื่นได้ วันนี้พี่มีลางสังหรณ์ว่าเราจะเจอของดีในป่ารีบเดินเถอะ”

“เจ้าค่ะ พี่สะใภ้”

ทั้งสองคนเดินมุ่งหน้าเข้าป่าไปเรื่อย ๆ ระหว่างทางพบเจอผักป่าบ้างประปรายแต่ฉีหลินไม่สนใจจะเก็บสักเท่าไหร่นางคิดว่าจะเดินเข้าไปในป่าลึกอีกหน่อยแล้วค่อยแอบเอาสมุนไพรในมิติออกมา

แต่ยังไม่ทันที่จะได้แอบเอาอะไรออกจากมิติมา นางก็พบเข้ากับเห็ดหลินจือดอกใหญ่ถึง 3 ดอกอยู่ที่ต้นไม้ใหญ่ด้านหน้าของนาง แต่ฉีหลินไม่คิดว่าตัวเองจะโชคดีขนาดนี้หรอก อาจจะเป็นชายชราที่พาเธอมาแอบช่วยเหลือเธออยู่  ในเมื่อมีคนมอบให้นางก็ไม่ปฏิเสธน้ำใจ ฉีหลินรีบวิ่งไปเก็บเห็ดหลินจือทั้งสามดอกใส่ตะกร้าทันที

“เยว่เล่อ เราเจอของดีเข้าให้แล้ว ”

“อะไรหรือเจ้าคะพี่สะใภ้”

“เห็ดหลินจือดูเหมือนว่าจะอายุมากไม่แน่ว่าอาจจะร้อยปี เจ้ารอพี่อยู่ตรงนี้พี่ปีนขึ้นไปเก็บครู่เดียว”

“พี่สะใภ้ระวังนะเจ้าคะ อย่าให้ตกลงมาอีก”

“พี่ไม่ตกหรอก เจ้าวางใจได้” 

“เราจะมีเงินแล้วใช่ไหมเจ้าคะ จะได้ให้ท่านพ่อแยกบ้านเสียที จะได้พาพี่ใหญ่ไปรักษา”

“เรายังแยกตอนนี้ไม่ได้หรอก ไม่รู้ว่าท่านพ่อกับน้องรองจะได้อะไรไปขายบ้างวันนี้ ก่อนที่เราจะแยกบ้านพี่ขอทุบตีคนให้มากหน่อย อีกอย่างยังต้องทวงสินเดิมของท่านแม่คืน รวมถึงสินเดิมของพี่ด้วย”

“มันจะได้คืนหรือเจ้าคะไม่ใช่พวกเขาเอาไปใช้หมดแล้วหรือ”

“อย่างน้อย ๆ ก็ต้องได้ที่ดินติดเชิงเขาของท่านแม่คืนมา ตอนแยกบ้านพวกเราจะได้ย้ายไปอยู่ที่นั้น”

“เจ้าค่ะ”

“ไปเก็บผักป่ากันแล้วค่อยกลับ วันนี้พอแค่นี้พรุ่งนี้เราค่อยมาใหม่ ต่อไปนี้พวกเราจะต่อต้าน วันนี้กลับไปแล้วพี่จะบอกให้ท่านพ่อไปพูดคุยเรื่องแยกครัวเราจะไม่กินข้าวรวมกับบ้านใหญ่”

“เจ้าค่ะพี่สะใภ้”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง    ตอนที่ 130 ความสุข

    ในตอนที่ประมุขมารได้ตายไปพร้อมกับดวงจิตที่แตกสลาย แต่ทว่ากลับไม่ได้แตกสลายไปทั้งหมด ยังมีดวงจิตอีกเสี้ยวได้หลุดลอยไปเกิดใหม่ในอีกภพชาติหนึ่ง เกิดใหม่เป็นมนุษย์ธรรมดาไม่สามารถระลึกชาติได้ ไม่มีความสามารถพิเศษอะไร เพียงใช้ชีวิตเรียบง่ายเพียงเท่านั้น นี่คือสิ่งที่ประมุขมารร่ำร้องขอความเมตตาจากสวรรค์ก่อนที่เข้าจะแหลกสลายไปหวังฉีหลินและเฟยเทียนกลับถึงหมู่บ้านป่าหมอก ทุกอย่างนางไม่คิดว่าจะง่ายดายถึงเพียงนี้ ในที่สุดประมุขมารก็คิดได้เสียที และหวังว่าพรที่นางและสามีร้องขอกับท่านมหาเทพนั้นจะทำให้ประมุขมารไปเกิดใหม่ในภพภูมิที่ดี มีความสุขและมีภรรยาที่รักเขามากแล้วก็ขอให้ทั้งสองคนเป็นคู่ด้ายแดงทุกภพทุกชาติไป นี่เป็นสิ่งเดียวที่นางและสามีทำได้หลังจากที่หมดปัญหา หมดสงคราม ทุกคนก็ใช้ชีวิตกันอย่างสงบสุข แคว้นหลงอยู่ในยุคที่เจริญรุ่งเรือง ประชาชนอยู่ดีกินดี และข่าวการกลับมาขององค์ชายแปดผู้หายสาบสูญ ตอนนี้ถูกแต่งตั้งเป็นชินอ๋อง ที่ดินศักดินาหมู่บ้านป่าหมอกและหมู่บ้านใกล้เคียงอีกสามหมู่บ้าน หวังฉีหลินทิ้งงานให้ลูกชายทั้งหลายแล้วหนีไปท่องเที่ยวกับสามี ทั้งสองคนออกไปท่องโลกกว้าง และมักจะนำผลไม้หรือพืช

  • สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง   ตอนที่ 129 การตัดสินใจของประมุขมาร

    หลังจากที่ประมุขมารได้รับสารท้ารบจากเฟยเทียน ทำให้เขาได้รู้ว่าต่อให้เวลาจะผ่านไปนานสักแค่ไหนบุรุษผู้กระหายสงครามและพร้อมจะทำลายศัตรูตรงหน้าให้ย่อยยับได้ทุกเมื่ออย่างแม่ทัพสวรรค์ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยถึงแม้ในชาติภพนี้เขาจะลงมาจุติในดินแดนของมนุษย์แต่ความสามารถของเขายังติดตัวมานั่นไม่ใช่เรื่องโกหก ถึงแม้มหาเทพจะไม่ค่อยชอบหน้าลูกเขยสักเท่าไหร่ แต่มหาเทพผู้รักลูกสาวยิ่งกว่าสิ่งใดย่อมไม่มีทางให้นางลำบากส่วนมารอย่างตัวเขาเล่าทำอันใดได้บ้าง เป็นเขาเองที่ไปตกหลุมรักนางข้างเดียว เป็นเขาเองที่ยึดมั่นถือมั่น เป็นเขาเองที่ไม่ยอมปล่อยวาง เขารู้ตัวเองดีด้วยพลังของตัวเขาเองยังไม่ฟื้นคืนกลับมาทั้งหมด ต่อให้สู้จนตัวตายก็ไม่สามารถเอาชนะทั้งสองได้ถึงแม้จะเอาชนะแม่ทัพสวรรค์ได้แล้วธิดามหาเทพจะชายตาแลเขาหรือก็ไม่ นางไม่เพียงไม่ชายตาแลหากแต่นางคงแก้แค้นเขาที่ทำให้สามีของนางต้องมีอันเป็นไป นอกจากจะไม่ได้ความรักแล้วสิ่งที่ได้กลับมาคือความเกลียดชังต่างหากที่นางจะหยิบยื่นให้เขาแล้วเหตุใดเขาถึงได้หน้ามืดตามัวเช่นนี้อยู่ถึงแสนปี ประชาชนเผ่ามารล้วนล้มตายไปตั้งเท่าไหร่ น้องชายคนเดียวของเขาที่เฝ้าเตือนสติเขาอยู่ตลอด

  • สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง    ตอนที่ 128 เดินทางไปเผ่ามาร

    เวลาผ่านไปแล้วนับเดือน ตอนนี้กองกำลังที่ฉีหลินฝึกฝนขึ้นมาก็ออกจากด่านกักตนกันทุกคนแล้ว เวลานี้ฉีหลินกับสามีพร้อมด้วยเหล่าสัตว์เทพพร้อมไปเยือนเผ่ามารแล้วเฟยเทียนเองก็เห็นสมควรว่าไม่ควรปล่อยเวลาให้ยืดเยื้อไปมากกว่านี้ หลังจากจบปัญหานี้ได้เท่ากับภารกิจของภรรยาได้เสร็จสิ้นลงเช่นกัน ต่อจากนี้ไปพวกเขาสามีภรรยาจะได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขเสียทีหลังจากกำหนดวันเคลื่อนพลได้แล้วฉีหลินก็ให้ทุกคนได้พักผ่อนให้เต็มที่ และเตรียมข้าวของที่จำเป็นใส่ลงในแหวนมิติให้เรียบร้อย ทั้งอาหารการกิน ยารักษาต่าง ๆ ทุกคนต่างเตรียมไปให้พร้อมสรรพ ด้วยศึกครั้งนี้อีกฝ่ายคือเผ่ามารไม่รู้ว่าจะมีฝีมือร้ายกาจขนาดไหน แต่พวกเขาเชื่อมั่นในตัวนายท่านและนายหญิงว่าจะนำพาพวกเขากลับบ้านมาอย่างปลอดภัยเฟยจิน เฮ่ออี และฮั่นเหวินไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมการรบในครั้งนี้ ลูก ๆ ของเฟยเทียนทุกคนก็เช่นเดียวกัน ส่วนสัตว์เทพที่คอยดูแลความปลอดภัยที่หมู่บ้านป่าหมอกมีเพียงต้าเซี่ยกับเสี่ยวเสวียนอู่เพียงสองตัวเท่านั้นส่วนเสี่ยวหลาง เสี่ยวหู่ เสี่ยวเฮย เสี่ยวรุ่ยจื่อ และพี่ใหญ่อย่างจินหลงล้วนเข้าร่วมการรบในครั้งนี้ คนที่กระตือรือร้นมากที่สุดคื

  • สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง   ตอนที่ 127 ตอนพิเศษ วันว่าง ๆ ของไป๋อี้ถัง

    ไป๋อี้ถังผู้โสดสนิท ครองตัวเป็นผู้บริสุทธิ์ประหนึ่งนักพรตผู้ทรงศีล อีกทั้งรังเกียจสตรีมากเล่ห์ หลังจากออกจากด่านกักตนมา เขาก็ต้องตั้งหน้าตั้งตาสั่งสอนลูกศิษย์ในสำนัก ไม่มีภรรยาและบุตรให้ดูแล เวลาทั้งหมดที่มีนอกจากฝึกฝนพลังปราณแล้ว เวลาส่วนที่เหลือเขาจึงเคี่ยวเข็ญลูกศิษย์ในสำนักศึกษาด้วยความเข้มงวดในเวลาต่อมา อาจารย์ใหญ่ไป๋อี้ถังจึงมีฉายาว่า อาจารย์ใหญ่จอมโหด หากใครไม่ทำการบ้านมาส่งก็จะโดนลงโทษให้ไปวิ่งรอบสถานศึกษา อีกทั้งยังจะต้องทำการบ้านในครั้งหน้ามากกว่าคนอื่นสองเท่าเท่านั้นยังไม่พอ ยังต้องเขียนจดหมายสำนึกผิดอีก 100 จบ และไปเก็บมูลทำความสะอาดคอกของสือเอ้อร์กับสืออีแทนคนงานในไร่ แถมยังต้องถูกเจ้าสือเอ้อร์กับสืออีกลั่นแกล้งจนหน้าทิ่มกองอึอีก ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่มีใครกล้าไม่ทำการบ้านอีกเลยวันนี้เป็นวันที่ไป๋อี้ถังว่างมาก มากที่สุด วันนี้เป็นวันหยุดของสถานศึกษา ไป๋อี้ถังจึงคิดว่าจะไปเดินเล่นที่ตลาดในเมือง และหาซื้อพู่กันกับแท่นฝนหมึกเพิ่มเพราะเท่าที่เขามีอยู่ตอนนี้ใช้ไปจนเกือบจะหมดแล้วจากนั้นเขาตั้งใจว่าจะชวนสหายทั้งสามของเขาไปด้วยกัน แต่กลับไม่มีใครไปเพราะแต่ละคนต้องการอยู่กับภรรยาแ

  • สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง   ตอนที่ 126 วางแผนรับมือกับเผ่ามาร

    หลังจากที่เฟยเทียนกับฉีหลินเดินทางกลับมาถึงหมู่บ้านป่าหมอกพร้อมลูกชายและเหล่าสหาย หนึ่งเดือนให้หลังเฟยจินก็กลับมาพร้อมกับฮั่นเหวินและเฮ่ออี หลังจากเข้าเฝ้าฮ่องเต้และรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดน รวมถึงส่งรายชื่อหนอนให้กับเบื้องบนแล้ว ตัวเขาเองก็หมดหน้าที่ ตอนนี้สงครามสงบลงแล้ว ทั้งสามจึงได้ยื่นหนังสือขอลาพักกลับบ้านเกิดเพื่อเยี่ยมบิดามารดาไป๋อี้ถังและสหายทั้งสามจะเข้าด่านกักตนเพื่อฝึกฝนในอีก 3 วันข้างหน้า โดยผู้ที่จะรับหน้าที่สั่งสอนศิษย์ในสถานศึกษาก็คือราชครูไป๋หย่งเต๋อที่เดินทางตามหลังเฟยจินได้เพียง 7 วันนอกจากไป๋หย่งเต๋อแล้วยังมีไป๋เจิ้นกั๋วเจ้ากรมอาญา เดินทางมาพร้อมกับไท่ปิงองครักษ์ประจำตัว นับเป็นการรวมตัวกันระหว่างองครักษ์เลยก็ว่าได้ เซียวหลางตัดสินใจแต่งงานและติดตามไป๋อี้ถัง ม่อถูเองก็เช่นเดียวกัน มีเพียงไท่ปิงเท่านั้นที่มีหน้าที่ดูแลไป๋เจิ้นกั๋วที่เมืองหลวงไท่ปิงเองก็อยากจะมีชีวิตเฉกเช่นสหายทั้งสองบ้าง เขาเองก็คงต้องเร่งฝึกองครักษ์ขึ้นมาใหม่เพื่อจะได้ทำหน้าที่แทนเขา ส่วนตัวเขาเองจะตามมาตั้งรกรากที่หมู่บ้านป่าหมอกแห่งนี้ตามสหายทั้งสองคนวันนี้ฉีหลินเรียกประชุมหน่วยลับที่เป

  • สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง    ตอนที่ 125 สิ้นสุดสงคราม เดินทางกลับบ้าน

    เฟยเทียนพาภรรยามุ่งหน้ากลับหมู่บ้านป่าหมอกทันที หลังจากจัดการทั้งสองแคว้นเรียบร้อยแล้ว และด่านสุดท้ายของภารกิจในครั้งนี้ก็คือจัดการกับเผ่ามารให้เด็ดขาด หากไม่กำจัดประมุขเผ่ามารเสียตอนนี้ ไม่แน่ว่าวันข้างหน้าก็จะเกิดปัญหาเช่นนี้อีก มีเพียงกำจัดประมุขมารให้ได้เท่านั้นทุกคนจะได้ไม่เดือดร้อน ตอนนี้มีข่าวส่งว่าอ๋องมารน้องชายเพียงคนเดียวของประมุขมารได้หนีออกจากเผ่ามารไปตั้งรกรากที่อื่นแต่เดิมอ๋องมารก็ไม่เห็นด้วยกับประมุขมารเรื่องยึดดินแดนมนุษย์ แต่ไหนเลยประมุขมารผู้เป็นพี่ชายจะยอมฟัง ในเมื่อมันเป็นความแค้นใจที่มีต่อธิดามหาเทพและสามี ต่อให้อีกนับล้านปีประมุขมารก็วางความแค้นในใจลงไม่ได้“ไม่รู้ว่าเจ้าสามแสบจะทำเรื่องปวดหัวให้ท่านพ่อกับท่านปู่มากมายเพียงใด โดยเฉพาะลูกสาวของท่านพี่ ป่านนี้ไม่ใช่พี่อี้ถังปวดหัวจนผมขาวหมดหัวแล้วหรือเจ้าคะ”“ฮ่า ฮ่า ไม่ขนาดนั้นกระมัง ลูกสาวของเราออกจะน่ารัก อีกอย่างพี่อี้ถังก็ไม่ใช่ว่าจะรับมือไม่ได้เลยนี่นะ”“ท่านพี่ก็เข้าข้างนางตลอดล่ะเจ้าค่ะ อีกหน่อยนางก็เสียคนพอดี”“ไม่ใช่ว่านางกลัวท่านแม่อย่างเจ้าอยู่หรอกหรือ เอาน่าลูกยังเด็กอยู่ยังไม่รู้ความ มีพวกต้าเซี่ยอย

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status