ตอนที่ 25
แม่สามี
ซ่งอี้เฉินได้ยินทุกประโยคที่หญิงสาวพูดคุยกัน ตนตามนางมาตั้งแต่หอนางโลม เข้าออกร้านอาภรรณ์และร้านเครื่องประดับ จนมาถึงโรงเตี๊ยมแห่งนี้
“นางช่างแสดงงิ้วได้เก่งกาจนัก หากนายท่านไม่ให้ข้าเฝ้าดูนางก่อนหน้านี้ ข้าคงคิดว่านางน่าสงสารแล้ว อึก!!!!”
ซุนเข่อซินพูดจบก็รู้สึกจุกที่ท้องทันที เพราะถูกผู้เป็นนายซัดพลังยุทธใส่ แม้ไม่ได้แรงมากแต่ก็ทำเอาเขาตัวงอได้เช่นกัน
“พูดมากเช่นนี้ข้าควรส่งเจ้าไปฝึกกับอี้เจินสักสองปี” ชายหนุ่มเอ่ยพร้อมกับมองลูกน้องตัวเองด้วยสายตาเย็นชา
“ยะ อย่าเลยขอรับ ข้าจะไม่พูดอีกแล้ว” ซุนเข่อซินรีบปิดปากตัวเองทันที ก่อนจะถูกไล่ให้ไปเอารถม้า เพราะโจวเยี่ยนเหยียนออกจากห้องข้าง ๆ แล้ว
หลงจิวซิ่งกำลังตรวจบัญชีอยู่ในห้องทำงานหลังร้าน ก็มีบ่าวเข้ามาแจ้งว่าอนุจงเอาสำรับมาส่ง
“รีบให้นางเข้ามา” ชายหนุ่มวางพู่กันในมือลงพร้อมกับลุกไปรับหญิงสาว
“ท่านพี่ทำงานอยู่หรือเจ้าคะ ข้ามารบกวนท่านหรือไม่” จงเยว่ชิงเอ่ยพร้อมกับส่งยิ้มหวานให้ชายหนุ่ม
“รบกวนอะไรกันเจ้าอุตส่าห์หิ้วปิ่นโตมาหาข้าเพียงนี้ แต่เจ้าไม่น่าลำบากเอาอาหารมาส่งข้าเช่นนี้เลย นั่งก่อนเถอะ” ชายหนุ่มเอ่ยพร้อมกับประคองหญิงสาวไปนั่งที่โต๊ะ
“ข้าอยากทำให้ท่านพี่นี่เจ้าคะ อีกอย่างอยู่จวนคนเดียวก็เหงานัก ฮูหยินน้อยก็ออกไปที่ใดก็ไม่รู้ตั้งแต่เช้า” หญิงสาวเอ่ยคล้ายบ่นไปเรื่อย
“หื้ม เจ้าบอกว่าโจวเยี่ยนเหยียนออกไปข้างนอกงั้นหรือ”
หลงจิวซิ่งถามอย่างแปลกใจ เมื่อคืนทุบหัวเขาจนแตกตกเช้ามากลับออกจากจวนไปเที่ยวเล่นข้างนอกอย่างสบายใจ มันน่านัก!!
“อ๊ะ!! ท่านพี่ยังไม่รู้หรือเจ้าคะ ข้าคิดว่าฮูหยินน้อยขออนุญาตท่านแล้ว เช่นนี้นางจะโกรธข้าหรือไม่ที่เอาเรื่องนี้มาบอกท่าน” จงเยว่ชิงแสดงท่าทีตื่นตระหนกออกมา
“ช่างเถอะเรื่องนี้ข้าจัดการเอง ว่าแต่คอเจ้าไปโดนอะไรมา เหตุใดจึงมีรอยแดงเช่นนั้น”
ชายหนุ่มเอ่ยพร้อมกับเอื้อมมือจะปัดผมของคนรักออกเพื่อจะได้มองเห็นชัด ๆ แต่นางเอามือขึ้นมาปิดเสียก่อน
“มะ ไม่มีอะไรเจ้าคะ พอดีตอนที่ข้าทำอาหารให้ท่านมีแมลงตกใส่คอเสื้อพอดี แต่ข้าทายาเรียบร้อยแล้วสักสองหรือสามวันคงหายเจ้าค่ะ ท่านพี่ลองชิมอาหารที่ข้าทำมาดีกว่าว่าอร่อยหรือไม่”
จงเยว่ชิงรีบเปลี่ยนเรื่องทันที ก่อนที่จะออกมานั้นนายท่านมาหานางที่เรือน แต่เพราะไม่ทันได้ระวังจึงไม่ได้สังเกตว่านายท่านทิ้งรอยไว้ที่ซอกคอของนางด้วย
“งั้นหรือ ไหนดูซิว่าเจ้าทำอะไรมาให้ข้าทาน”
ชายหนุ่มเอ่ยตามน้ำไป แต่เริ่มตงิดใจบ้างแล้วว่าคนรักคงมีเรื่องบางอย่างปิดบังตนอยู่แน่
“ท่านพี่ต้องทานข้าวให้เป็นเวลาบ้างนะเจ้าคะ ดูสิจนยามเว่ยแล้วยังไม่ทานข้าวเที่ยงเลย หากข้าไม่เอามาส่งท่านคงกลับไปทานข้าวเย็นทีเดียวสินะ” จงเยว่ชิงแสร้งบ่นชายหนุ่ม
“ข้ารู้แล้ว ครั้งหน้าข้าจะไม่ทำให้เจ้าต้องเป็นห่วงเช่นนี้อีก” ชายหนุ่มรับปาก ก่อนจะชะงักไปอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงทุบประตู
“นะ นายท่านรีบกลับจวนดีกว่าขอรับ!! เกิดเรื่องขึ้นที่จวนแล้วขอรับ!!” เสียงบ่าวเปิดประตูเข้ามาอย่างถือวิสาสะ เพราะคิดว่าผู้เป็นนายอยู่คนเดียว
“เกิดเรื่องขึ้นที่จวนงั้นหรือ มีเรื่องอะไรกัน!” หลงจิวซิ่งเอ่ยถามพร้อมกับผุดลุกขึ้นจากเก้าอี้
“ฮูหยินน้อยพาสตรีกลับจวนมาสองคน บอกว่าเป็นอนุของท่านขอรับ ตอนนี้ฮูหยินใหญ่เป็นลมไปแล้วกำลังตามหมอไปดูอาการ บ่าวจึงรีบมาตามคุณชายใหญ่นี่แหละขอรับ”
เมื่อบ่าวผู้นั้นพูดจบหลงจิวซิ่งก็หันมามองหน้าคนรักทันที จึงเห็นว่าจงเยว่ชิงกำลังมีสีหน้ากังวลอย่างชัดเจน
เขาจึงรีบพาจงเยว่ชิงกลับไปที่จวนทันที ในใจก็คิดบทลงโทษโจวเยี่ยนเหยียนไว้หลายวิธี
นางคงแค้นที่เขาพูดเช่นนั้นกับนางเมื่อคืน ต้องยอมรับว่านางฉลาดที่เลือกวิธีการเช่นนี้ เพราะนางรู้ว่าเขารักจงเยว่ชิงจึงได้คิดทำให้คนรักของเขาเสียใจ เพื่อที่เขาจะได้เสียใจด้วย
เมื่อลงจากรถม้าได้เขาก็จูงมือจงเยว่ชิงไปที่ห้องโถงเรือนใหญ่ ด้วยใบหน้าโกรธขึง
“ท่านพี่อย่าเดินเร็วนักสิเจ้าคะ แผลท่านยังไม่หายเลยนะ ข้าบอกท่านแล้วว่าให้พักผ่อนก่อน ท่านเพิ่งถูกฮูหยินน้อยทำร้ายมาเมื่อคืนเองนะเจ้าคะ” จงเยว่ชิงเอ่ยด้วยความเป็นห่วงชายหนุ่ม
หลงจิวซิ่งได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกอบอุ่นในหัวใจขึ้นมาทันที เพราะนางเป็นเช่นนี้เขาจึงรักและห่วงความรู้สึกของนางตลอด
“ข้าไม่เป็นไร เจ้าไม่ต้องห่วงเรื่องที่นางรับอนุเข้ามานะ ไม่ว่าอย่างไรข้าก็จะรักเพียงเจ้าผู้เดียวเท่านั้น” ชายหนุ่มเอ่ยคำมั่นสัญญาด้วยความหนักแน่น
เมื่อเข้าไปที่ห้องโถงก็เห็นมารดากับโจวเยี่ยนเหยียนนั่งอยู่ก่อนแล้ว ถัดมาเป็นสตรีแปลกหน้าสองคนที่ให้ความรู้สึกแตกต่างกันชัดเจน
“คารวะท่านแม่ขอรับ นี่มันเรื่องอะไรกัน!” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาพร้อมกับปรายตามองโจวเยี่ยนเหยียนที่นั่งถัดมา
“เจ้าถามฮูหยินเจ้าเองเถอะ แม่ปวดหัวเหลือเกิน” ฮูหยินใหญ่เอ่ยจบก็ยกยาหอมในมือขึ้นมาดม
“วันนั้นอนุจงบ่นว่าเหนื่อยเหลือเกินที่ต้องปรนนิบัติท่านพี่เพียงคนเดียว ครั้นจะให้ข้าปรนนิบัติท่านพี่เองก็กลัวจะทำให้ท่านพี่เสียอารมณ์เปล่า ๆ ข้าเลยรับอนุเพื่อช่วยแบ่งเบาอนุจงเจ้าค่ะ”
โจวเยี่ยนเหยียนเอ่ยพลางยิ้มหวานให้ชายหนุ่ม ที่ตอนนี้ยืนกำมือแน่นด้วยความโกรธ
“ข้าเพิ่งกลับมาเมืองหลวงได้ไม่นาน เจ้าก็ให้ข้ารับอนุเช่นนี้คนอื่นจะพูดถึงข้าอย่างไรเคยคิดบ้างหรือไม่!!!”
หลงจิวซิ่งกัดฟันพูดกับฮูหยินเอกตัวเอง ในใจอยากจะบีบคอนางให้ตายคามือแต่ตัวเองทำใจทำร้ายนางไม่ได้สักครั้ง แถมนางยังเอาคืนเขาอย่างเจ็บแสบทุกรอบ ไม่รู้ว่านางไปเรียนวิชาการต่อสู้เช่นนั้นมาจากที่ใด
ทั้งรุนแรงเด็ดขาด และตรงจุดตายทุกครั้งที่ลงมือ หากนางฝึกฝนมากกว่านี้เขาคงตายไปตั้งแต่ครั้งแรกที่มีเรื่องกับนางแล้ว
“จะเป็นไรไปเล่าเจ้าคะ ในเมื่อท่านก็รับอนุตั้งแต่แต่งข้าเข้าจวนได้เพียงสามวันเท่านั้น รับอนุหลังกลับมาถึงเมืองหลวงเพียงเท่านี้คงมีคนนินทาไม่เท่าข้ายามนั้นหรอกเจ้าค่ะ”
“ฮูหยินน้อยทำเช่นนี้เพราะต้องการทำให้ข้าเสียใจใช่หรือไม่เจ้าคะ แต่มันไม่เป็นผลดีเลยนะเจ้าคะ กลับกันมันจะทำให้ท่านพี่ไม่ชอบใจท่านมากกว่าเดิมเสียอีก”
จงเยว่ชิงเอ่ยพลางกลั้นสะอื้น น้ำตาไหลอาบแก้มงามจนคนมองต้องสงสาร และหลงจิวซิ่งก็ดูจะสงสารอนุผู้นี้มากกว่าเดิมเสียอีก
“ท่านแม่เรื่องรับอนุนั้นเป็นหน้าที่ของฮูหยินเอก เรื่องนี้ใคร ๆ ก็รู้ดี ข้ารู้ตัวว่าสามีไม่รักใคร่ชอบพอ ครั้นจะฝากความหวังไว้ที่อนุจงคนเดียวก็ใช่ที่ เพราะนางมาบ่นกับข้าบ่อย ๆ ว่าเหนื่อยนัก”
“......”
“ดังนั้นเพื่อให้ตระกูลหลงมีทายาทสืบสกุลข้าจึงต้องทำเช่นนี้ ท่านแม่ได้โปรดเข้าใจข้าด้วยนะเจ้าคะ”
นางหันไปเอ่ยกับแม่สามีแทน ฮูหยินใหญ่มองสะใภ้ตัวเองด้วยสายตาเหมือนพยายามมองให้ลึกถึงจิตใจ ก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างหนักอก
“ที่สะใภ้พูดมาก็มีเหตุผล ในเมื่อรับพวกนางมาแล้วก็ให้พวกนางอยู่ในจวนในฐานะอนุของเจ้าเถอะ”
“ท่านแม่!!!!” หลงจิวซิ่งเสียงหลงทันที ไม่คิดว่ามารดาจะเห็นดีเห็นงามกับโจวเยี่ยนเหยียนเช่นนี้
“เช่นนั้นอนุฟางเหนียงเหยียงก็อยู่เรือนไผ่หอมแล้วกัน ส่วนอนุจี้เหมยกุ้ยก็อยู่เรือนมู่ตานนะ”
นางเอ่ยสรุปก่อนจะให้คนพาอนุคนใหม่ทั้งสองไปเรือนตัวเอง ใบหน้ายามนี้ของนางดูมีความสุขมากกว่าวันที่เหยียบเข้าจวนนี้เสียอีก
“โจวเยี่ยนเหยียนเจ้าทำเช่นนี้ยังเห็นหัวข้าอยู่หรือไม่!!” เมื่อสตรีทั้งสองออกไปแล้วเขาจึงกัดฟันถามฮูหยินตัวเองอีกครั้ง
“ที่ข้าทำก็เพื่อตระกูลหลงทั้งนั้นนะเจ้าคะ ท่านพี่จะตำหนิข้าเช่นนี้ก็ไม่ได้ จริงหรือไม่เจ้าคะท่านแม่” นางหันไปถามฮูหยินใหญ่ที่ยังดมยาหอมอยู่
“จริง! หลงจิวซิ่งเจ้าจะตำหนินางได้อย่างไรในเมื่อเจ้าก็ไม่ได้ทำดีต่อนางตั้งแต่แรก แล้วอนุจงเจ้าหยุดร้องไห้ได้แล้ว จวนนี้ไม่ได้มีใครตายเสียหน่อย! เดี๋ยวก็อัปมงคลกันหมดพอดี!!”
ฮูหยินใหญ่ไม่เพียงตำหนิบุตรชายคนโต แต่ยังตำหนิตัวต้นเรื่องอย่างจงเยว่ชิงด้วย เพราะความอยากอวดว่าสามีโปรดปรานเพียงตนแท้ ๆ เรื่องจึงได้วุ่นวายเพียงนี้
จะโทษเพียงโจวเยี่ยนเหยียนก็ไม่ได้ เพราะจากที่ตนเห็นหญิงสาวคิดอย่างที่พูดจริง ๆ ก็ตั้งแต่มาถึงจวน บุตรชายนางก็ไม่ไปค้างที่เรือนนางเลยสักครั้ง จะเหยียบไปก็ต่อเมื่อมีเรื่องไปต่อว่านางเท่านั้น
ไม่มีนางสะใภ้ผู้นี้คงถูกบุตรชายคาดคั้นจนชอกช้ำตายแน่ นางละไม่ชอบใจเลยที่บุรุษมากภรรยาเช่นนี้ แต่ก่อนตระกูลหลงก็ถือคติมีภรรยาเพียงคนเดียวตลอด
ไม่รู้ว่าบุตรชายนางไปแตกคอกได้อย่างไร จึงคิดจะใช้สตรีเป็นสะพานปีนป่ายให้ตัวเองสูงขึ้นเช่นนี้
ตอนที่ 26เวลาเปลี่ยนคนเปลี่ยนหลงจิวซิ่งโกรธทั้งฮูหยินเอกและมารดาตัวเอง วันนั้นจึงประชดโดยการทิ้งสตรีทั้งสองให้รอเก้ออยู่ในเรือนตามลำพัง ส่วนตัวเองก็ไปนอนกกกอดกับอนุจงเช่นเคยแต่อนุทั้งสองไม่ได้เหมือนนาง ที่ไม่ได้รับความโปรดปรานก็สามารถอยู่ได้ ดังนั้นวันนี้นางจึงมาหาแรงจูงใจให้ทั้งสองเสียหน่อย“หากพวกทั้งคนใดคนหนึ่งสามารถปรนนิบัติคุณชายใหญ่ได้ก่อน ข้าจะมีรางวัลให้อย่างงาม” นางเอ่ยขณะที่ทั้งสองมายกน้ำชาให้ตนในเช้าวันถัดมาที่นางทำเช่นนี้เพราะอยากเห็นชายหนุ่มแตกหักกับอนุจง ทุกอย่างทำไปเพราะความสนุกของตัวเองล้วน ๆแต่อีกนัยหนึ่งคือเขาจะได้ไม่มีเวลามายุ่งวุ่นวายเรื่องกิจการของนาง ที่ยามนี้ดำเนินการไปได้เกือบเสร็จแล้ว“จริงหรือเจ้าคะ!!! นายหญิงพอจะบอกได้หรือไม่ว่ารางวัลนั้นคือสิ่งใด” จี้เหมยกุ้ยเอ่ยถามอย่างตื่นเต้น“ข้าไม่รู้ว่าพวกเจ้าจะชอบมันหรือไม่ เครื่องหัวชิ้นนี้ทำมาจากหยกชั้นดี การออกแบบงดงามยังไม่มีวางขายในเมืองหลวง เพราะมันเป็นเครื่องประดับที่ข้าสั่งทำขึ้นมาเอง”นางเอ่ยพร้อมกับเปิดกล่องเครื่องประดับในมือให้ทั้งสองดู แม้จะเป็นเพียงปิ่นระย้าแต่รูปแบบงดงามนัก“งดงามยิ่งนัก ข้าไม่เคยเ
ตอนที่ 25แม่สามีซ่งอี้เฉินได้ยินทุกประโยคที่หญิงสาวพูดคุยกัน ตนตามนางมาตั้งแต่หอนางโลม เข้าออกร้านอาภรรณ์และร้านเครื่องประดับ จนมาถึงโรงเตี๊ยมแห่งนี้“นางช่างแสดงงิ้วได้เก่งกาจนัก หากนายท่านไม่ให้ข้าเฝ้าดูนางก่อนหน้านี้ ข้าคงคิดว่านางน่าสงสารแล้ว อึก!!!!”ซุนเข่อซินพูดจบก็รู้สึกจุกที่ท้องทันที เพราะถูกผู้เป็นนายซัดพลังยุทธใส่ แม้ไม่ได้แรงมากแต่ก็ทำเอาเขาตัวงอได้เช่นกัน“พูดมากเช่นนี้ข้าควรส่งเจ้าไปฝึกกับอี้เจินสักสองปี” ชายหนุ่มเอ่ยพร้อมกับมองลูกน้องตัวเองด้วยสายตาเย็นชา“ยะ อย่าเลยขอรับ ข้าจะไม่พูดอีกแล้ว” ซุนเข่อซินรีบปิดปากตัวเองทันที ก่อนจะถูกไล่ให้ไปเอารถม้า เพราะโจวเยี่ยนเหยียนออกจากห้องข้าง ๆ แล้วหลงจิวซิ่งกำลังตรวจบัญชีอยู่ในห้องทำงานหลังร้าน ก็มีบ่าวเข้ามาแจ้งว่าอนุจงเอาสำรับมาส่ง“รีบให้นางเข้ามา” ชายหนุ่มวางพู่กันในมือลงพร้อมกับลุกไปรับหญิงสาว“ท่านพี่ทำงานอยู่หรือเจ้าคะ ข้ามารบกวนท่านหรือไม่” จงเยว่ชิงเอ่ยพร้อมกับส่งยิ้มหวานให้ชายหนุ่ม“รบกวนอะไรกันเจ้าอุตส่าห์หิ้วปิ่นโตมาหาข้าเพียงนี้ แต่เจ้าไม่น่าลำบากเอาอาหารมาส่งข้าเช่นนี้เลย นั่งก่อนเถอะ” ชายหนุ่มเอ่ยพร้อมกับประคอง
ตอนที่ 24รับอนุให้สามีเมื่อได้ฟังจบนางก็ยิ้มเย้ยหยันออกมาทันที ที่สร้างเรื่องพวกนี้ก็เพื่อเอาไว้บีบให้นางอยู่ใต้เท้าตัวเองนี่เอง“เกินไปแล้ว!! ถึงกับใส่ร้ายกันเพียงนี้คงไม่ต้องการให้นายหญิงออกงานสังคมได้เลยสินะ” ลู่หลิ่งเอ่ยเพราะโกรธแทนนายสาว“พวกเจ้าเชื่อข่าวลือเหล่านั้นหรือไม่” นางหันไปถามสาวใช้ทั้งสองอย่างใจเย็น“จะเชื่อได้อย่างไรเล่าเจ้าคะ ในเมื่อพวกข้าก็อยู่กับนายหญิงตลอดเวลา ย่อมมองออกว่านายหญิงเป็นคนเช่นไร” ลู่หลินรีบเอ่ย“เช่นนั้นข้าจะเล่านิทานให้ฟัง” นางเอ่ยพร้อมกับเริ่มเล่าเรื่องราวที่ผ่านมาให้ฟัง รวมทั้งเรื่องที่ตนสันนิษฐานเกี่ยวกับสามีผู้นี้ด้วย“เช่นนั้นนายหญิงจะทำอย่างไรต่อไปดีเจ้าคะ ขนาดเพิ่งมาถึงเมืองหลวงไม่นานยังกล้าทำถึงเพียงนี้ ก่อนหน้านี้นายหญิงไปเข้าเฝ้าไทเฮามาแท้ ๆ พวกเขายังไม่เกรงใจเลยสักนิด”ลู่หลินเอ่ยด้วยสีหน้ากังวล คนจวนนี้ไม่คิดเกรงกลัวอำนาจของราชวงศ์เลยสักนิด คงคิดว่าการค้าของตัวเองเรืองอำนาจมากสินะ“ข้าคิดว่าจะให้บิดาช่วยเรื่องหย่า จากนั้นข้าจะหายไปเสีย ออกไปใช้ชีวิตคนเดียวเปิดกิจการเลี้ยงตัวเอง ไม่ยุ่งเกี่ยวกับราชวงศ์อีก”นางเอ่ยความคิดที่ตนวางแผนไว้ แ
ตอนที่ 23ฮูหยินอำมหิต“ฮูหยินน้อยเกิดสิ่งใดขึ้นหรือเจ้าคะ ให้พวกบ่าวเข้าไปได้หรือไม่!!” เสียงลู่หลิ่งตะโกนมาจากด้านนอก“เข้ามา!!!! แล้วให้คนมาพาคุณชายใหญ่กลับเรือนไปด้วย!!!!!” นางเอ่ยพลางหอบหายใจเพราะความโกรธเมื่อเห็นสภาพของหลงจิวซิ่งสาวใช้ทั้งสามก็รีบเอามือปิดปากกลั้นเสียงร้องของตัวเองทันที“นายหญิงเจ็บที่ใดหรือไม่เจ้าคะ!!”ลู่หลินรีบเข้ามาดูนาง ก่อนจะตาโตอย่างตกใจอีกครั้ง เมื่อเห็นนางมีเลือดซืมที่มุมปาก พร้อมกับใบหน้าด้านซ้ายเริ่มบวมแดงแล้ว“ไปตามหมอเถอะ” นางบอกสาวใช้สั้น ๆ ก่อนจะเดินไปรอที่ห้องรับรองแขก เพราะหากมีการตามหมอเรื่องก็คงวุ่นวายกว่านี้แน่กว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยก็ผ่านมาเกือบสองชั่วยาม หมอมาดูอาการนางแล้วบอกว่าไม่เป็นอะไรมาก ก่อนจะเขียนใบสั่งยาแล้วกลับไปส่วนหลงจิวซิ่งนั้นหัวแตก หากเป็นในโลกที่นางจากมาคงได้เย็บไม่ต่ำกว่าสิบเข็มแน่ นอกนั้นก็ปากแตกแล้วก็พกช้ำเล็กน้อยเพราะล้มใส่โต๊ะทานข้าว“ฮูหยินน้อยเจ้าอธิบายให้ข้าฟังทีว่าเรื่องนี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร!” ฮูหยินใหญ่ที่ได้โอกาสจึงเอ่ยถามนางด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด“ฮึก!! ท่านพี่เคยเล่าเรื่องที่ทะเลาะกับฮูหยินน้อยตอนอยู่เมือ
ตอนที่ 22แตกหักจงเยว่ชิงรู้สึกไม่ค่อยพอใจนักที่ผลออกมาเป็นเช่นนี้ แต่หากตนขัดอะไรมากไปฮูหยินใหญ่อาจสงสัยเอาได้ จึงต้องปล่อยให้นังฮูหยินน้อยได้หน้าเป็นคนดีไป“นายหญิงปล่อยไปเช่นนี้จะดีหรือเจ้าคะ” มี่มี่สาวใช้คนสนิทเอ่ยถามนายสาว“ทำอย่างไรได้เล่า หากพูดมากเราจะถูกจับได้เอานะสิ ว่าแต่นายท่านบอกจะมาหาข้านี่เหตุใดยังไม่มากัน เดี๋ยวท่านพี่ก็กลับมาก่อนพอดี” จงเยว่ชิงบ่นออกมาเบา ๆ“ข้าก็มาแล้วนี่ไง เจ้าจะใจร้อนไปใยเล่า” เสียงทุ้มพร้อมบุรุษร่างสูงใหญ่เดินเข้ามาจากประตูหลัง ก่อนจะส่งกล่องไม้บางอย่างให้หญิงสาวสาวใช้ของจงเยว่ชิงเห็นดังนั้นจึงกลับออกไปรอด้านนอก เพื่อเฝ้าต้นทางเพราะเรื่องนี้ไม่สามารถให้ผู้อื่นรู้ได้“วันนี้นายท่านมาช้านะเจ้าคะ ปล่อยให้ข้าทนคิดถึงท่านอยู่ตั้งสองเค่อแหนะ” หญิงสาวเอ่ยพร้อมกับแสดงท่าทีแงงอนบุรุษผู้เข้ามาใหม่“ข้าขอโทษที่มาช้า เพราะออกไปหาซื้อของขวัญมาให้เจ้าอย่างไรเล่า ลองเปิดดูสิว่าเจ้าชอบหรือไม่”“ท่านซื้อของมาให้ข้าเช่นนี้เดี๋ยวบุตรชายท่านก็สงสัยเอาหรอก หลงจิวซิ่งผู้นั้นหาใช่คนโง่เขลาเมื่อไหร่กัน” นางเอ่ยเช่นนั้นแต่ปากกลับยิ้มกว้างของในกล่องเป็นปิ่นทองระย้าที่ปร
ตอนที่ 21หาเรื่อง“ข้าไปดูร้านที่จะเปิดกิจการในตลาดเจ้าค่ะ” นางเอ่ยตอบเสียงราบเรียบ พร้อมกับหยุดลงตรงหน้าเขา ใบหน้าเย็นชาของนางยิ่งทำให้หลงจิวซิ่งโกรธมากกว่าเดิม“เจ้าเป็นสตรีที่ออกเรือนแล้ว กลับจวนเวลานี้มันสมควรแล้วหรือ แถมจะเปิดกิจการแต่ไม่เอ่ยปากบอกสามีเช่นข้าสักคำ.....”“เข้าจวนเถอะเจ้าค่ะ! แล้วที่ท่านยืนต่อว่าข้าหน้าจวนเช่นนี้มันสมควรแล้วหรือ”นางเอ่ยแทรกพร้อมกับมองหน้าเขานิ่ง ก่อนจะเดินเลยเขาเข้าจวนไป แต่ยังไม่ทันได้ก้าวขาเข้าประตูจวนก็ถูกคนขวางไว้เสียก่อน“คารวะฮูหยินน้อยเจ้าค่ะ กลับมาจากวังหลวงคงเหนื่อยมากเป็นแน่ข้าเตรียมชามาต้อนรับท่านเจ้าค่ะ แล้วที่นั่นงดงามอย่างที่คนเล่าลือกันหรือไม่เจ้าคะ” จงเยว่ชิงที่รอโอกาสรีบเข้ามาขวางทางนางทันที“อนุจงช่างห่วงใยนักแต่นี่มันใช่เวลาหรือ จริงสิเจ้าเป็นเพียงบุตรสาวอนุจะรู้มารยาทได้อย่างไร ไว้ข้าว่างจะจ้างอาจารย์เก่ง ๆ มาสอนมารยาทเจ้าแล้วกันนะ”นางเอ่ยจบก็เดินผ่านไปทันที สองสาวใช้คนใหม่เองก็สำรวมกิริยาจนหลงจิวซิ่งยังไม่ทันสังเกตเห็นว่าฮูหยินตัวเองไม่ได้กลับจวนมาเพียงลำพังนางคิดไว้แล้วว่าวันนี้อย่างไรเขาก็ต้องหาเรื่องนาง เพราะตั้งแต่ที่รู