Share

ตอนที่ 9 บุญคุณต้องทดแทน

last update Last Updated: 2025-10-13 16:53:06

ตอนที่ 9

บุญคุณต้องทดแทน

หลังจากที่ขบวนของหมั้นกับเหล่าขันทีจากเมืองหลวงออกจากจวนไปแล้ว บิดาก็เรียกนางเข้าไปพบที่ห้องทำงาน

ใบหน้าของบิดายามนี้ดูอิดโรยนัก ราวกับทำงานหนักติดต่อกันมาหลายวันโดยไม่ได้นอน ทั้งที่ความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย

“ท่านพ่ออย่าทรงคิดมากเลยเพคะ ข้าเพียงแต่งงานเท่านั้นไม่ได้ตายเสียหน่อย” นางเอ่ยด้วยน้ำเสียงสดใสเพราะไม่อยากให้บิดาคิดมาก

“เห้อ!!! พ่อรู้ แต่เจ้าลูกเต่านั่นเล่ห์เหลี่ยมของมันมากมายนัก พ่อกลัวว่าเจ้าจะต้องเจ็บปวดเพราะเขา” อ๋องโจวจิ้วห้าวเอ่ยสิ่งที่ตนคิดกังวลออกมา

“ท่านพ่ออย่าคิดมากสิเพคะเดี๋ยวแก่เร็วนะ ข้าไม่เป็นไรเลยจริง ๆ ไม่แต่งให้เขาก็ยังมีบุรุษอื่นที่ข้าต้องออกเรือนด้วย แล้วก็ดีเสียอีกที่เป็นคุณชายหลง เรารู้ว่าเขาต้องการสิ่งใดเราก็เพียงยื่นข้อแลกเปลี่ยนที่สมน้ำสมเนื้อกับเขาก็พอ เท่านี้ชีวิตลูกก็ไม่ต้องห่วงอะไรแล้ว”

“หากวันหน้าพ่อไม่อยู่เขาก็จะคิดกำจัดเจ้า แล้วหาตัวประโยชน์คนใหม่มาแทนที่ พ่อยอมไม่ได้ที่จะให้เจ้าเป็นเช่นนั้น”

“ท่านพ่อเพคะ! กว่าจะถึงเวลานั้นข้าก็ตั้งหลักได้แล้ว ท่านคิดว่าบุตรสาวผู้นี้จะนั่งทำตัวไร้ประโยชน์เป็นฮูหยินในจวนเขาเฉย ๆ งั้นหรือ” นางเอ่ยพร้อมกับยิ้มให้บิดาคลายใจ

“แต่เจ้า.....” ท่านอ๋องทำท่าจะเอ่ยแย้ง แต่นางพูดสวนขึ้นมาก่อน

“ท่านพ่อลืมไปแล้วหรือเพคะ ว่าลูกคือคนที่คิดวิธีที่ทำให้ไทเฮากับฮองเฮาคืนดีกัน แถมยังช่วยให้ฮองเฮาปกครองเหล่าสนมในวังได้ง่ายขึ้นด้วย ส่วนเรื่องเงินทองลูกก็มีกิจการร้านชานมที่ขึ้นชื่อและกำลังจะขยายสาขาไปทั่วแคว้น แล้วยังมีอีกหลายกิจการที่ลูกเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง บุตรสาวของท่านหาได้เป็นสตรีในห้องหอธรรมดานะเพคะ”

นางพูดให้บิดาลองคิดตาม และดูเหมือนบิดาจะคลายกังวลลงมานิดหน่อย

“ก็ได้ ๆ พ่อจะเชื่อเจ้าสักครั้ง แต่หากชายผู้นั้นทำให้เจ้าเจ็บช้ำน้ำใจ เจ้าต้องรีบบอกพ่อทันทีเข้าใจหรือไม่” ท่านแองเอ่ยพลางลูบหัวบุตรสาวอย่างเอ็นดู

ตั้งแต่วันนั้นผ่านมากว่าสามเดือนแล้ว ที่นางต้องเตรียมตัวเพื่อแต่งเข้าเป็นฮูหยินของหลงจิวซิ่ง

อีกเรื่องคือนางต้องวางแผนเกี่ยวกับกิจการในมือเอาไว้ล่วงหน้าถึงสามปี เพราะรู้มาว่าหลังแต่งงานชายผู้นั้นจะพานางกลับเมืองหลวง

กำหนดแต่งงานของนางคืออีกหนึ่งเดือนข้างหน้า ที่ผ่านมาบิดาก็จับตามองคนผู้นั้นอยู่เสมอ และไม่ยอมให้นางกับเขาได้อยู่ด้วยกันตามลำพังสักครั้ง

มีครั้งหนึ่งที่เขาแอบมาหานางตอบที่บิดาไม่อยู่ แต่เขายังไม่ทันได้ก้าวขาเข้าประตูเรือนของนาง ก็ถูกบิดาถีบกระเด็นออกไปเสียแล้ว

แม้จะรู้ว่าหากเขาโต้ตอบก็สามารถเอาชนะบิดานางได้ แต่เขากลับไม่ทำเพราะเหตุผลที่รู้ ๆ กันอยู่ เขาคงกลัวบิดาจะเอาเรื่องนี้ไปร้องเรียนต่อองค์ฮ่องเต้เพื่อถอนหมั้นให้นางนะสิ

“คุณหนูเพคะ มีคนมาตะโกนอยู่ที่หน้าจวนบอกว่าเป็นผู้มีพระคุณของคุณหนู และต้องการพบหน้าคุณหนูเดี๋ยวนี้เพคะ”

สาวใช้ในจวนเข้ามาแจ้งขณะที่นางกำลังนั่งเขียนแผนงานล่วงหน้าอยู่ แม้จะแปลกใจเล็กน้อยแต่ก็พอมีคนในใจว่าผู้มีพระคุณนั้นคือใคร

“เชิญพวกเขาไปรอที่ห้องโถงรับรองแขกก่อน แล้วให้คนเฝ้าเอาไว้สักหลาย ๆ คนหน่อยนะ เดี๋ยวข้าทำงานตรงนี้เสร็จจะตามไป” นางเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจก่อนจะก้มหน้าก้มตาทำงานต่อ

จนเวลาผ่านไปกว่าครึ่งชั่วยามนางจึงได้ปิดสมุดตรงหน้าลง ก่อนจะยืดแขนคลายความเมื่อยขบที่เกิดขึ้น

“คุณหนูทานของว่างแล้วค่อยไปพบพวกเขาดีหรือไม่เพคะ” ไป๋ลู่เอ่ยถามขึ้นด้านหลัง นางจึงพยักหน้ารับเบา ๆ

กว่าจะทานของว่างเสร็จก็ใช้เวลาอีกครึ่งชั่วยาม นางจึงค่อย ๆ เดินไปที่ห้องโถงรับรองอย่างใจเย็น

เมื่อไปถึงก็ได้ยินเสียงด่าทอแว่วมาให้ได้ยิน โดยที่ยังไม่ได้ก้าวขาเข้าไปในห้องด้วยซ้ำ สีหน้าพวกบ่าวที่ยืนเฝ้าหน้าประตูนั้นบ่งบอกชัดเจนว่าคนในห้องโถงพูดถึงคุณหนูพวกตนอย่างไรบ้าง

“คุณหนูไม่ต้องไปพบพวกเขาจะดีกว่านะเพคะ บ่าวได้ยินที่พวกเขาพูดแล้วไม่ให้เกียรติคุณหนูเลยสักนิด” บ่าวเฝ้าหน้าประตูเอ่ยด้วยน้ำเสียงโมโหแทนนาง

“ไม่ต้องห่วงหรอกข้าจัดการได้” นางเอ่ยพร้อมกับยิ้มให้บ่าวผู้นั้นเล็กน้อย ก่อนจะเดินเข้าห้องโถงไปพร้อมกับไป๋ลู่

“นั่น ๆ นางมาแล้ว!!!” เสียงสตรีผู้หนึ่งดังขึ้ง เป็นฮัวอิงฮวานั่นเอง นางคิดไว้อยู่แล้วว่าสักวันคนบ้านฮัวต้องตามมาหาเรื่องนาง

แต่ไม่คิดว่าจะปล่อยให้เวลาผ่านมานานถึงเพียงนี้เท่านั้น พวกเขาเห็นนางก็รีบลุกขึ้นอย่างพร้อมเพรียงกัน โจวเยี่ยนเหยียนเดินผ่านพวกเขาไปทีละคนก่อนจะไปนั่งยังตำแหน่งสูงสุด

“พี่สาวนั่นควรเป็นท่านพ่อที่ได้นั่ง ท่านลืมมารยาทที่ควรทำไปหมดแล้วหรือ!!” ฮัวเจี้ยนอดีตน้องชายแสนขี้ขลาดของนางเอ่ยท้วงขึ้น

“ข้าหาได้ลืมมารยาทพื้นฐานไม่ แล้วสิ่งที่ข้ากำลังทำก็ไม่ได้ทำผิดอะไรนี่ พวกท่านเถอะมาหาข้าด้วยเรื่องอันใดกัน”

นางเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา สายตามองเลยทุกคนไปที่ประตูราวกับพวกเขาไร้ตัวตน

“จะ เจ้า!!!!”

“ฮัวเจี้ยนอย่าเสียมารยาท!!! หนิงอันลูกรัก ไม่ได้พบเจ้าเสียนานสบายดีหรือไม่ ตั้งแต่เจ้าไม่อยู่ปู่กับย่าก็เอาแต่บ่นคิดถึงเจ้าทุกวัน” ผู้เป็นอดีตบิดาเอ่ยกับนางอย่างสนิทสนม

“ท่านลุงฮัวอย่าเอ่ยราวกับเราสนิทกันนักเลย เดี๋ยวสาวใช้ของข้าจะเข้าใจผิดเอาได้ และอีกอย่างสัมพันธ์พ่อลูกของเรามันขาดลงตั้งแต่วันที่ท่านขายข้าให้ท่านอ๋องโจวจิ้งห้าวแล้วไม่ใช่หรือ”

“....”

“ยามนั้นท่านยังเป็นผู้เอ่ยปากเองแท้ ๆ ว่าเป็นตายอย่างไรอย่าได้กลับไปหาท่านอีก มายามนี้ท่านคิดจะกลืนน้ำลายตัวเองเสียแล้วหรือ” นางเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน พร้อมกับมองหน้าพวกเขาทีละคน

“ระ เรื่องในอดีตก็ให้มันแล้วไปเถอะนะลูกรัก อย่าเก็บมาคิดแค้นเคืองพวกเราเลย ที่ผ่านมาพวกเราทำลงไปเพราะความไม่รู้ทั้งนั้น อภัยให้แม่กับพ่อของเจ้าสักครั้งได้หรือไม่” หลี่ฮวาเอ่ยอ้อนวอนพร้อมกับลงไปนั่งคุกเข่าที่พื้น

“ท่านแม่อย่าทำเช่นนี้เลยเจ้าค่ะ ท่านเป็นแม่ของนางนะ พี่สาว!! ท่านไม่คิดจะเอ่ยอะไรบ้างหรือ!! นี่มารดาที่เคยเลี้ยงดูท่านมานะ!!!”

ฮัวอิงฮวารีบเอ่ยขึ้น พร้อมกับเข้าไปประคองมารดาตัวเองให้ลุกขึ้นยืน ภาพครอบครัวฮัวกำลังเล่นงิ้วครอบครัวรักใคร่ทำให้นางสนใจขึ้นมาเล็กน้อย

โจวเยี่ยนเหยียนได้แต่ยิ้มเยาะในใจ มองจากดวงจันทร์ยังรู้ว่าพวกเขาพยายามยัดเยียดให้นางรู้สึกผิด เพื่อร้องเอาบางสิ่งที่พวกเขาต้องการ

“อย่ามัวแต่เล่นงิ้วให้ข้าดูเลย งิ้วพวกนี้ท่านอ๋องพาข้าไปดูจนเบื่อแล้ว พวกท่านมาหาข้าเพื่อต้องการสิ่งใดจงพูดมาตามตรงเถอะ” นางเอ่ยตัดบทพวกเขา เมื่อเห็นว่าอดีตมารดาตั้งท่าจะบีบน้ำตา

“อะ เออ...” คำพูดของนางทำให้พวกเขาชะงักและมองหน้ากันอย่างเหนือความคาดหมาย

“คือว่าน้องชายเจ้าจะแต่งภรรยา นางเป็นบุตรสาวพ่อค้าที่อยู่หมู่บ้านข้าง ๆ พ่อก็อยากจะไปสู่ขอให้น้องชายเจ้า ติดแต่ว่าฝ่ายเจ้าสาวเรียกสินสอดเป็นเงินห้าตำลึงทองกับที่ดินอีกห้าแปลง” ผู้เป็นบิดาเอ่ยขึ้นมาก่อน

“หากบ้านเราเอาเงินกับที่ดินทั้งหมดไปแต่งภรรยาให้น้องชายเจ้า เราก็จะไม่มีเงินไว้ใช้จ่าย และไม่มีที่ไว้ทำกิน เพราะงั้นพวกเราจึงลองมาขอความช่วยเหลือกับลูกดู เจ้าเป็นถึงบุตรีท่านอ๋องเงินกับที่ดินเพียงเท่านี้คงไม่มากสำหรับเจ้าหรอกกระมั้ง” ผู้เป็นมารดาเอ่ยบ้าง

“ใช่ขอรับท่านพี่ ข้าเป็นบุตรชายเพียงคนเดียวของท่านพ่อ ย่อมต้องมีหน้าที่สืบสกุลเราต่อ หากได้แต่งกับภรรยาที่ดีอนาคตของข้าและครอบครัวก็ย่อมต้องดีตามไปด้วย ท่านคิดว่าเป็นเช่นที่ข้าพูดหรือไม่” ฮัวเจี้ยนเอ่ยพลางยิ้มแย้ม

“อืม...ก็เป็นอย่างเจ้าว่า แต่พวกท่านแซ่อะไรนะเจ้าคะ” นางเอ่ยคล้ายจะเห็นด้วย ทำให้พวกเราเริ่มยิ้มกว้างออกมา

“บิดาเจ้าก็แซ่ฮัวอย่างไรเล่า ผ่านมาเพียงสองปีทำเป็นจำไม่ได้นะเจ้าเนี่ย” ฮัวเฉิงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม

“ท่านพี่ลูกก็เพียงเย้าท่านเล่นเท่านั้น จริงหรือไม่อันเอ๋อร์”

หลี่ฮวาพูดแก้ให้ หากรู้ว่าจะพูดง่ายเพียงนี้นางคงเรียกเอาเงินค่าเลี้ยงดูกับนังเด็กน่าโง่ตรงหน้าเพิ่มอีกสักหน่อยแล้ว

“นั่นนะสิเจ้าคะ ท่านแซ่ฮัวแต่ตอนนี้ข้าแซ่โจว หากข้าออกค่าสินสอดให้ฮัวเจี้ยนแล้วข้าจะได้อะไร ในเมื่อข้ากับเขาก็ไม่ได้เป็นแซ่เดียวกัน วันหน้าเขาได้ดีก็ได้ดีในแซ่ฮัวไม่ใช่แซ่โจวของข้าตอนนี้เสียหน่อย ท่านทั้งสองคิดว่าเป็นเช่นที่ข้าพูดหรือไม่เจ้าคะ”

นางพูดจบทั้งสี่ก็อ้าปากพะงาบ ๆ ราวกับปลาขาดน้ำ ด้วยไม่อาจเถียงคำใดได้เพราะเป็นเช่นที่นางพูดมาทั้งหมด

“ตะ แต่เจ้าควรตอบแทนพวกเราที่เลี้ยงดูเจ้ามาบ้าง เจ้าได้ดีแต่กลับไม่คิดกตัญญูต่อผู้มีพระคุณเช่นนี้ วันหน้าคิดทำสิ่งใดจะไม่เจริญเอานะ!!” หลี่ฮวายกความเชื่อขึ้นมาขู่ แต่นางหาได้สนใจไม่

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สามี ข้าหาได้เป็นสตรีโง่เขลา   ตอนที่ 10 ไร้ราคา

    ตอนที่ 10ไร้ราคา“ผิดแล้วท่านป้าฮัว บุญคุณที่ข้าติดค้างพวกท่านไว้ ข้าได้ชดใช้คืนให้หมดแล้ว จะให้ข้าพูดหรือไม่ว่าบ้านที่พวกท่านอยู่ทุกวันนี้เป็นเงินของผู้ใดที่พวกท่านเอามาสร้าง” นางเอ่ยเพียงเท่านั้นก่อนจะเงียบไม่พูดต่อในความทรงจำของเจ้าของร่างนี้มีเหตุการณ์หนึ่ง ที่เจ้าตัวบังเอิญไปพบโสมต้นหนึ่งเข้าขณะไปเก็บผักป่าช่วยมารดาตอนอายุแปดขวบตัวมารดาเห็นครั้งแรกก็ดีใจจนออกนอกหน้า วันถัดมาบิดากับมารดาก็เข้าเมืองและซื้อของกลับบ้านมามากมาย แต่นางไม่ได้แตะต้องของเหล่านั้นเลยสักชิ้นต่อมาก็ได้จ้างช่างมาทำบ้านใหม่อย่างดี ทุกคนมีห้องแยกเป็นของตัวเองยกเว้นนางอีกเช่นเคย เพราะนางถูกสั่งให้ไปนอนที่ห้องเก็บฟืนพอนางได้ความทรงจำของร่างนี้มาจึงได้เข้าใจทุกอย่าง ทั้งที่ก่อนหน้านี้นางปล่อยพวกเขาไปแล้วแท้ ๆ ไม่คิดว่าจะเป็นพวกเขาเองที่เดินเข้ามาให้นางเอาคืนถึงบ้านหลังใหม่“ตะ แต่หากไม่ได้ข้ามีหรือเจ้าจะได้มานั่งชูคอเป็นลูกสาวท่านอ๋องอยู่ในตอนนี้ ไม่รู้แหละ!! วันนี้เจ้าต้องจ่ายค่าเลี้ยงดูให้พวกข้าสิบตำลึงทอง ไม่เช่นนั้นข้าจะประกาศให้ทุกคนรู้ว่าเจ้าเป็นคนอกตัญญูเพียงใด!!!”ฮัวเฉิงเห็นท่าว่าอย่างไรก็พูดกันดี ๆ

  • สามี ข้าหาได้เป็นสตรีโง่เขลา   ตอนที่ 9 บุญคุณต้องทดแทน

    ตอนที่ 9บุญคุณต้องทดแทนหลังจากที่ขบวนของหมั้นกับเหล่าขันทีจากเมืองหลวงออกจากจวนไปแล้ว บิดาก็เรียกนางเข้าไปพบที่ห้องทำงานใบหน้าของบิดายามนี้ดูอิดโรยนัก ราวกับทำงานหนักติดต่อกันมาหลายวันโดยไม่ได้นอน ทั้งที่ความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย“ท่านพ่ออย่าทรงคิดมากเลยเพคะ ข้าเพียงแต่งงานเท่านั้นไม่ได้ตายเสียหน่อย” นางเอ่ยด้วยน้ำเสียงสดใสเพราะไม่อยากให้บิดาคิดมาก“เห้อ!!! พ่อรู้ แต่เจ้าลูกเต่านั่นเล่ห์เหลี่ยมของมันมากมายนัก พ่อกลัวว่าเจ้าจะต้องเจ็บปวดเพราะเขา” อ๋องโจวจิ้วห้าวเอ่ยสิ่งที่ตนคิดกังวลออกมา“ท่านพ่ออย่าคิดมากสิเพคะเดี๋ยวแก่เร็วนะ ข้าไม่เป็นไรเลยจริง ๆ ไม่แต่งให้เขาก็ยังมีบุรุษอื่นที่ข้าต้องออกเรือนด้วย แล้วก็ดีเสียอีกที่เป็นคุณชายหลง เรารู้ว่าเขาต้องการสิ่งใดเราก็เพียงยื่นข้อแลกเปลี่ยนที่สมน้ำสมเนื้อกับเขาก็พอ เท่านี้ชีวิตลูกก็ไม่ต้องห่วงอะไรแล้ว”“หากวันหน้าพ่อไม่อยู่เขาก็จะคิดกำจัดเจ้า แล้วหาตัวประโยชน์คนใหม่มาแทนที่ พ่อยอมไม่ได้ที่จะให้เจ้าเป็นเช่นนั้น”“ท่านพ่อเพคะ! กว่าจะถึงเวลานั้นข้าก็ตั้งหลักได้แล้ว ท่านคิดว่าบุตรสาวผู้นี้จะนั่งทำตัวไร้ประโยชน์เป็นฮูหยินในจวนเขาเฉย ๆ งั้นหร

  • สามี ข้าหาได้เป็นสตรีโง่เขลา   ตอนที่ 8 ฝืนชะตา

    ตอนที่ 8ฝืนชะตาเรื่องที่ท่านอ๋องจะหาบุรุษให้บุตรสาวบุญธรรมเพียงคนเดียวนั้น ไปถึงหูหลงจิวซิ่งในเย็นวันนั้น ทำให้เขารู้สึกว่าต้องวางแผนทุกอย่างใหม่ ไม่เช่นนั้นตนคงเสียผลประโยชน์ที่คาดการณ์ไว้แน่“นายท่านขอรับ คนของเราบอกมาว่าคุณหนูโจวมักจะออกไปจุดตะเกียงด้วยตัวเองทางด้านหลังเรือนทุกวันตอนยามซวีขอรับ”บ่าวคนสนิทเอ่ยรายงาน ทำให้ผู้เป็นนายที่นั่งอยู่ครุ่นคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้“ปล่อยข่าวลือว่าคุณหนูโจวกับข้ามีใจปฏิพัทธ์ต่อกัน และตอนนี้กำลังพัฒนาความสัมพันธ์กันอยู่ แม้บิดาของนางจะไม่เห็นด้วยก็ตาม”“.....”“เรื่องนี้ทำให้มันเป็นเพียงแค่เรื่องนินทากันในกลุ่มสตรีเท่านั้น ไม่ต้องให้เรื่องใหญ่มากนัก และกำชับคนของเราให้จับตาดูทุกความเคลื่อนไหวของนางให้ดี แล้วมารายงานข้าทุกวัน”“ขอรับ”บ่าวคนสนิทรับคำ ก่อนจะถอยออกจากห้องไป ดูท่าแล้วนายท่านของเขาคงไม่ไช่เพียงต้องการหาผลประโยชน์จากคุณหนูโจวอย่างเดียวแล้ว แต่คงถูกใจนางด้วยส่วนหนึ่งต่างหากรุ่งเช้าข่าวลือเรื่องนี้ก็เริ่มแพร่กระจายไปทีละนิด จนรู้กันทั่วในกลุ่มของฮูหยินและเหล่าคุณหนูในเมืองไห่เฟิง กว่าท่านอ๋องจะรู้ก็หยุดข่าวลือนี้ไม่ได้แล้ว“นี่มันเ

  • สามี ข้าหาได้เป็นสตรีโง่เขลา   ตอนที่ 7 ตัดสัมพันธ์ด้ายแดง

    ตอนที่ 7ตัดสัมพันธ์ด้ายแดงด้วยธรรมเนียมที่นางรู้มาและยังมีเหล่าท่านป้าทั้งหลายคอยพร่ำสอนนั้น หากบุรุษใดมอบปิ่นหรือป้ายหยกสลักชื่อตระกูลให้สตรีนางใด นั่นหมายความว่าบุรุษผู้นั้นต้องการให้นางเป็นฮูหยินเอกของเขา“ต้องเสียมารยาทกับคุณชายหลงแล้ว ข้าคงไม่อาจรับของฝากเหล่านี้เอาไว้เจ้าค่ะ” นางเอ่ยตอบโดยไม่หลบตาเขา“น่าเสียดายยิ่งนัก เช่นนั้นข้าก็จะไม่บังคับคุณหนูให้เกิดความคับข้องหมองใจแล้วกัน แต่คงมีสักวันที่คุณหนูจะได้รับของเหล่านี้แน่นอน”ชายหนุ่มเอ่ยพร้อมกับลุกขึ้นยืนเต็มความสูง แล้วเดินออกจากศาลาไปโดยไม่เอ่ยลานางสักคำ สร้างความงุนงงให้แก่นางและพวกบ่าวเป็นอย่างมาก“เยี่ยนเหยียนนั่นใครหรือ ใช่คุณชายหลงที่คนกำลังลือกันอยู่ในตอนนี้หรือไม่ รูปงามนักข้าเห็นแล้วรู้สึกว่าหัวใจข้าคล้ายจะหยุดเต้นเลยล่ะ” จางเลี่ยงซูเอ่ยขึ้นขณะเดินเข้ามานั่งในศาลาจางเลี่ยงซูเป็นสหายที่รู้จักกันมาปีกว่าแล้ว บิดาของนางเป็นพ่อค้าที่ถือว่ามีอิทธิพลผู้หนึ่งในเมืองไห่เฟิงเลยทีเดียว ทั้งสองได้รู้จักและสนิทกันตอนงานเลี้ยงวันเกิดท่านเจ้าเมือง ตั้งแต่นั้นทั้งสองก็ไปมาหาสู่กันอยู่เรื่อย ๆ“ใช่! เป็นคนผู้นั้นแหละ มีดีแค่หน้า

  • สามี ข้าหาได้เป็นสตรีโง่เขลา   ตอนที่ 6 แรกพบเจอ

    ตอนที่ 6แรกพบเจอ“เจ้าว่าอย่างไรนะ!! แล้วคุณชายหลงคนพี่หรือคนน้องที่มา” บิดานางเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก“คุณชายหลงคนพี่พะย่ะค่ะ ชื่ออะไรนะ อ่อ...หลงจิวซิ่ง ใช่ ๆ ที่มีบรรยากาศน่ากลัว ๆ หน่อย”บ่าวผู้นั้นรายงานจบก็รีบขอตัวกลับออกไป เพราะอารมณ์คนหวงลูกสาวเริ่มปะทุขึ้นมาแล้ว“เหยียนเอ๋อร์เจ้าอยู่แต่ในเรือนตัวเองห้ามออกไปไหนเด็ดขาดจนกว่าพ่อจะให้คนไปตาม เข้าใจหรือไม่!!” บิดาหันมาเอ่ยกับนางด้วยน้ำเสียงจริงจัง ราวกับกำลังเกิดศึกสงครามอย่างไรอย่างนั้น“เพคะ ๆ เอาแบบเดิมใช่หรือไม่เพคะ” นางเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่ใส่ใจ เพราะเวลามีแม่สื่อหรือคุณชายบ้านใดมาที่จวน บิดาก็จะสั่งนางเช่นนี้เสมอ“ไป๋ลู่พาคุณหนูเจ้ากลับเรือนไปให้ไวเลย!!” บิดาเอ่ยก่อนจะขอตัวไปรับแขก นางจึงเดินกลับเรือนไปอย่างว่าง่ายบิดานางก็แปลกคน เขาผ่านมาขอพักที่จวนไม่ได้มาสู่ขอนางอย่างทุกครั้งเสียหน่อย ทำเป็นหวงนางไปได้“คุณหนูเมื่อครู่พ่อบ้านบอกว่ามีคนเอาสัตว์เปลือกแข็งมาส่ง คุณหนูจะทำอะไรทานดีเพคะ” ไป๋ลู่เอ่ยรายงานขณะเดินตามนางกลับเรือน“จริงหรือ!!! ไปดูกันเถอะถ้าได้กุ้งเยอะรอบนี้ข้าจะทำข้าวต้มกุ้งให้ท่านพ่อลองทาน” นางเอ่ยอย่างตื่

  • สามี ข้าหาได้เป็นสตรีโง่เขลา   ตอนที่ 5 สถานะที่แท้จริง

    ตอนที่ 5สถานะที่แท้จริงเมื่อนายท่านพูดจบในห้องก็ตกอยู่ในความเงียบทันที โดยเฉพาะฮัวหนิงอันที่พูดคำใดไม่ออกไปชั่วครู่ เจ้าของร่างนี้เป็นถึงลูกพระชายาอ๋องเลยงั้นหรือ!!“มะ หม่อมฉันเป็นลูกของพระชายาเลยหรือเพคะ!” นางเอ่ยถามเพื่อความมั่นใจ แต่ก็ต้องนิ่งค้างไปอีกครั้งกับคำตอบของนายท่านตรงหน้า“ไม่ใช่ เจ้าเป็นลูกของข้ากับนางต่างหาก เจ้าอ๋องชั่วช้าผู้นั้นไม่สมควรเป็นบิดาของใครด้วยซ้ำ!!” ฮัวหนิงอันยิ่งงุนงงมากกว่าเดิมท่านเอ่ยเช่นนี้หมายความว่าอย่างไรกันแน่ ไม่ใช่ว่ามารดาของนางแอบคบชู้แล้วไปแต่งกับบุรุษอีกคนหรอกนะ ยุคจีนโบราณมีเรื่องอะไรเช่นนี้ด้วยหรือ“.......”“ข้าโจวจิ้งห้าวเป็นน้องชายของอ๋องผู้นั้น และเป็นอดีตคนรักของมารดาเจ้า จากนี้ข้าจะรับเจ้าเป็นลูกบุญธรรมของข้าเอง” นายท่านหรือท่านอ๋องโจวจิ้งห้าวเอ่ยกับเด็กสาวที่นั่งทำหน้างุนงงอยู่“แปลว่านายท่านก็คือท่านอ๋องเช่นกันหรือเพคะ แล้วหมายความว่าอย่างไรที่บอกว่าข้าคือลูกของท่านกับท่านแม่ ช่วยอธิบายให้ข้าเข้าใจมากกว่านี้ได้หรือไม่เจ้าคะ”นางเอ่ยถามโดยไม่สนใจคำแทนตัวที่แสนยุ่งยากนั่น ทำให้คนตรงหน้าพอจะรู้ตัวว่าตนยังไม่ได้อธิบายเรื่องทุกอย่างให้

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status