Share

สามีข้าคือพรานป่า
สามีข้าคือพรานป่า
Penulis: Scince

ตอนที่ 1

Penulis: Scince
last update Terakhir Diperbarui: 2025-05-07 00:26:51

“คุณเซี่ยคะ วันนี้มีงานเปิดตัวคอนโดใหม่ ทางคุณจางส่งการ์ดเชิญมาด้วยนะคะ” เลขาคนสนิท อีกทั้งยังเป็นคนจัดการตารางงานทุกอย่างให้กับสาวสวยวัย 23 ปีคนนี้

เซี่ยซูมี่ เป็นหญิงแกร่งเพราะสร้างเนื้อสร้างตัวมาตั้งแต่อายุยังน้อย ใครบอกว่าเรียนจบแค่ชั้นมัธยมต้น แล้วจะประสบความสำเร็จไม่ได้ เธอเป็นอีกคนที่แสดงให้เห็นแล้วว่าหากมีความพยายามและตั้งใจ ถึงอย่างไรก็จะต้องไปถึงฝั่งฝันเข้าสักวัน

“อืม...กี่โมงนะ” เซี่ยซูมี่ใช้มือคลึงขมับ เพราะช่วงนี้เธอเร่งทำงานให้เสร็จ เพื่อที่จะได้ส่งออกให้ทันตามกำหนด จึงพักผ่อนไม่ค่อยเป็นเวลา หากไม่เหนื่อยเสียตั้งแต่ตอนนี้ คงได้เกษียณอายุตอนแก่แน่ๆ

เธอไม่อยากจะเป็นคนที่อายุ 50 ปีแล้ว ยังต้องต่อสู้ดิ้นรนชีวิตอีก ไม่คาดหวังว่าจะมีลูกหลานเอาไว้เลี้ยงดูตอนแก่ เพราะถ้าหากมีเงินก็ไม่จำเป็นต้องมีคนดูแล ให้เงินดูแลตัวเองง่ายที่สุดแล้ว มีเงินเสียอย่างทำอะไรก็ง่ายไปหมด

“งานเริ่ม 14.00 น.ค่ะ แต่อาจจะไปสายกว่านั้นได้นิดหน่อย” เลขาเผื่อเวลาให้เจ้านายได้มีเวลาส่วนตัว เพราะเธอเข้าประชุมตั้งแต่เช้า เพิ่งจะได้กินมื้อกลางวันตอน 13.00 น.

“เตรียมเสื้อผ้าแล้วใช่ไหม ถ้างั้นก็เรียกช่างเข้ามาเลย” เซี่ยซูมี่ไม่คิดที่จะเสียเวลาแต่งหน้าทำผมเอง เพราะเวลาของเธอมีค่ามากกว่านั้น สู้นั่งสวยๆ ให้ช่างมารุมใช้เวลาเพียงไม่นานก็เสร็จ เธอมีช่างประจำตัว ที่ไม่ว่าจะไปงานเล็กงานใหญ่แค่ไหนช่างคนนี้ก็เอาอยู่

“เรียบร้อยแล้วค่ะ คุณจะพักสายตาก่อนสักครึ่งชั่วโมงไหมคะ ยังพอมีเวลา” เลขาเป็นห่วงเจ้านาย แม้ว่าตัวเธอเองจะพักผ่อนไม่ต่างจากเจ้านาย แต่เธอไม่ได้แบกรับภาระทั้งหมดเอาไว้บนบ่า เพียงแค่ทำตามหน้าที่ที่ตัวเองได้รับมอบหมายเท่านั้น จึงไม่ถือว่าทำงานหนักอะไร ต่างจากเจ้านายคนสวยที่จะต้องคิดแผนงานด้วยตัวเองทั้งหมด ทำให้เวลาพักผ่อนที่มีอันน้อยนิดนั้นกลับน้อยลงไปอีก

“ไม่ต้องหรอก กลับมาค่อยพักทีเดียว วันนี้เทคิวที่เหลือทั้งหมดให้ด้วยนะ แล้วก็จองร้านสปาด้วย” เซี่ยซูมี่กล่าว เวลาที่เธอเหนื่อยจากงาน ร้านสปาคือที่แรกที่เธอเลือก หญิงสาวไม่คิดที่จะไปร้านเพื่อดื่ม เพราะสำหรับเธอแล้วมันคือการฆ่าตัวเองทางอ้อม แม้จะไม่เห็นผลเร็วในตอนนี้ แต่แน่นอนว่ามันมีผลระยะยาวอย่างแน่นอน

“ได้ค่ะ” เลขารับคำ

หากเจ้านายพูดแล้วต้องเป็นคำไหนคำนั้น มีช่วงแรก ๆ ที่เธอเข้ามาทำงานตั้งแต่บุกเบิกด้วยกันกับเจ้านาย แล้วแสดงความคิดเห็นออกไปหลังจากที่เธอตัดสินใจแล้ว

นอกจากที่เจ้านายคนสวยจะไม่ทำตามคำแนะนำแล้ว เธอยังยกเลิกงานจากนั้นก็ให้พนักงานคนอื่นรับผิดชอบ โดยให้เหตุผลว่าในเมื่อบอกแล้วทำไม่ได้ ก็คิดว่าไม่น่าจะเหมาะกับงานนี้ตั้งแต่แรก ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเลขาสาวไม่เคยขัดคำสั่งของเจ้านายอีกเลย เป็นเวลากว่า 5 ปีแล้วที่ทั้งคู่ต่างยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กันมา

เมื่อรับคำเรียบร้อยแล้ว ก็ไปเชิญช่างประจำคนสนิทเข้ามาจัดการดูแลเจ้านายต่อ ส่วนเลขาคนสนิทนั้นก็ทำหน้าที่ยกเลิกประชุมรายย่อยอีก 2 ราย โดยให้เหตุผลว่าเจ้านายมีงานสำคัญด่วนเข้ามา ซึ่งทางลูกค้ารายย่อยเองแม้จะไม่พอใจเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่ได้อยู่ในจุดที่จะแสดงความไม่พอใจได้ จึงได้แต่รับทราบและหาเวลาเป็นช่วงอื่นแทน หรือพูดง่ายๆ ว่าหากเป็นเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น มักจะมีกลิ่นไม่ดีลอยมา นั่นหมายถึงพวกเขาอาจจะต้องหาช่องทางอื่นเพื่อรักษาชีวิตเอาไว้ ไม่ช้าก็เร็วต้องถูกสลัดทิ้งอย่างแน่นอน

“สวยมากเลยค่ะคุณเซี่ย” ช่างแต่งหน้าสาวประเภทสองเอ่ยขึ้น เธอไม่ได้เยินยอเกินจริง เพราะหญิงสาวมากความสามารถที่อยู่ตรงหน้านี้สวยไม่มีที่ติ ตัวเธอเองแทบจะไม่ได้ลงเครื่องสำอางที่หนักหน้าเลยสักนิด เน้นไปทางงานผิวเพื่อโชว์ความสวยของผิวจริงมากกว่า

“ขอบคุณค่ะ” เซี่ยซูมี่ยิ้มบางให้ช่างแต่งหน้าทำผม ใช้งานกันจนรู้ใจไม่ต้องพูดอะไรมาก เพียงแค่ให้ดูชุดที่จะไปช่างแต่งหน้าก็รังสรรค์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม อีกทั้งยังถูกใจเจ้าของใบหน้าเป็นอย่างยิ่ง เพราะเธอไม่ชอบอะไรที่มันหนักหน้ามากจนเกินไป มันดูปลอม สำหรับเธอแล้วทุกอย่างต้องอยู่บนพื้นฐานของความจริง แม้ว่าความจริงจะทำให้เจ็บปวด คนเราไม่สามารถที่จะอยู่ในโลกของตัวเองได้ตลอดเวลา เพราะสุดท้ายแล้วสิ่งที่จะอยู่กับเราได้นานที่สุดก็คือความจริง

“ถ้าไม่มีอะไรแล้วพี่ขอตัวก่อนนะคะ” ช่างแต่งหน้าและช่างทำผมเอื้อมมือไปรับซองหนาบนโต๊ะ จากนั้นก็รีบออกจากห้องไป เพราะจะได้ให้เจ้าของใบหน้าที่พวกเธอแต่งในวันนี้นั้นได้แต่งตัว

เซี่ยซูมี่มองหน้าตัวเองบนกระจกบานใหญ่ ภายในห้องทำงานของเธอจะมีห้องสำหรับแต่งตัวไปงานพวกนี้อยู่แล้ว เพราะมันจะสะดวกกว่าการที่เธอจะกลับคอนโดเพื่อแต่งหน้า เสียเวลาตั้งเท่าไหร่ เอาเวลาที่เสียไปนั้นทำงานยังจะดีเสียกว่า ผู้หญิงคนนี้เมื่อก่อนเธอเคยอดมื้อกินมื้อ

 ตอนเด็ก ๆ เคยแม้กระทั่งคุ้ยขยะเพื่อหาเศษอาหาร หรือแม้แต่กระทั่งทำตัวเป็นขอทานเพื่อหาเงินไปโรงเรียน เธอใช้ชีวิตตัวคนเดียวมาตลอด พ่อกับแม่แยกทางกันและทิ้งเธอไว้ในห้องเช่าเล็ก ๆ ห้องหนึ่งอย่างไม่ไยดี

ตอนนั้นจำได้ว่าตัวเองอายุเพียง 14 ปีเท่านั้น เธอต้องหนีออกจากห้องเช่าเพราะไม่มีเงินจ่ายค่าเช่า ด้วยคิดว่าพ่อกับแม่ไปทำงานอีกเดี๋ยวคงกลับมา แต่รอแล้วรอเล่าพ่อกับแม่ก็ยังไม่กลับมา จวบจนข้าวสารในถังหมด น้ำก็ไม่มีจะดื่มกิน เจ้าของห้องเช่ามาทวงถาม เมื่อได้คำตอบว่าเธอไม่มีเงินพวกเขาขู่ว่าจะแจ้งทางตำรวจ แล้วจะส่งเธอไปยังมูลนิธิสำหรับเด็กเพื่อให้เอาไปดูแลต่อไป

เธอเองยังมีความหวังว่าพ่อแม่จะกลับมา แต่แล้วความหวังก็พังทลายเมื่อทางมูลนิธิจะมารับตัวเธอไปจริง ๆ เด็กหญิงต้องหนีหัวซุกหัวซุน กว่าจะเอาตัวรอดและมีวันนี้ได้ แต่เมื่อประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียงไปทั่วประเทศ บุคคลที่เธอเฝ้ารอพวกเขามาทั้งชีวิตกลับโผล่หน้ามาอย่างไม่ได้นัดหมาย หญิงสาวหัวเราะให้กับโชคชะตาของตัวเองเมื่อนึกถึงมัน จากนั้นก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ เพื่อกลับมาเป็นคนเดิม

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

“ขออนุญาตค่ะ” เลขาคนสนิทเห็นว่าช่างแต่งหน้าทำผมออกไปสักพักแล้ว แต่เจ้านายคนสวยของเธอยังไม่ออกมาเลยจึงได้ทำการเคาะเรียก

“อืม” เซี่ยซูมี่รับปากในลำคอ จากนั้นก็เปิดประตูออกไปด้วยท่าทีที่สง่างาม เธอบอกตัวเองอยู่เสมอว่าต้องมั่นใจในตัวเอง แม้ในวันที่อ่อนแอมากที่สุดก็ตาม ทุกอย่างจะถูกแสดงออกมาทางใบหน้า เธอจึงพยายามทำสีหน้าให้เรียบเฉยและเป็นปกติที่สุด เพื่อปกปิดบาดแผลภายในใจเอาไว้

“วันนี้คุณสวยมากเลยค่ะ” เลขามองเจ้านายตั้งแต่หัวจรดเท้า เธอเป็นคนที่ดูแลตัวเองดีเสมอ กินอาหารที่มีประโยชน์ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ทำให้รูปร่างของเจ้านายคนสวยดูดีราวกับนางแบบมืออาชีพก็ไม่ปาน

“ฉันจะเอารถไปเอง เธอไม่ต้องไปส่ง กลับบ้านไปพักผ่อนได้ เสร็จจากงานฉันจะไปที่ร้านสปาต่อเอง”

 เซี่ยซูมี่สั่งงานเลขา ตัวเธอเองยังเหนื่อยสายตัวแทบขาด แล้วเลขาที่รูปร่างบอบบางคนนี้จะไปเหลืออะไร เธอเป็นคนชอบออกกำลังกายจึงทำให้ร่างกายแข็งแรง แต่แม่เลขาคนเก่งกลับเป็นโรคกลัวการออกกำลังกาย จึงมักจะป่วยเสียงขึ้นจมูกบ่อย ๆ วันนี้ก็เช่นกัน

“ค่ะ ถ้างั้นก็เจอกันพรุ่งนี้นะคะ คุณมีประชุมกับผู้ถือหุ้นตอน 10.00 น.” เลขาคนเก่งพยักเข้าใจ ดีเหมือนกันเธอจะได้มีเวลาไปซื้อของเข้าบ้าน เพราะรู้สึกว่าของจะเกลี้ยงตู้เย็นเธอแล้ว

เซี่ยซูมี่รับกุญแจรถมา จากนั้นก็ตรงไปยังลานจอดรถชั้นพิเศษ และขับไปยังสถานที่จัดงานที่เซต GPS เอาไว้เรียบร้อยแล้ว เธอเป็นคนไม่จำเส้นทาง

 โดยปกติแล้วจะมีเลขาเป็นคนจัดการพาไป แต่วันนี้เลขาเหมือนจะป่วยจึงจำเป็นต้องฉายเดี่ยว อาจจะด้วยเส้นทางที่เธอไม่คุ้นเคย หรืออาจจะเพราะไม่ค่อยได้ขับรถเท่าไหร่ก็ไม่ทราบได้ แต่รู้สึกว่าเหมือนถนนข้างหน้าจะมีฝุ่นขาวลอยคลุ้ง ทำให้เธอมองเส้นทางไม่ชัดดังเดิม อีกทั้งยังคล้ายว่ามีแรงเหวี่ยงหรือแรงดึงดูดบางอย่างกระชากเธอออก ซึ่งความรู้สึกของเธอในตอนนั้นเหมือนถูกดึงเข้าไปยังสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยเอาเสียเลย

มาแล้วหรือผู้ถูกเลือก” เซี่ยซูมี่หันไปตามเสียง แม้จะยังงงอยู่บ้างว่าออกมาจากรถได้อย่างไร และมาที่นี่ได้อย่างไร ข้างหน้าของเธอนั้นไม่มีอะไรเลย นอกจากพื้นที่โล่งสีขาวสบายตา

“ที่นี่ที่ไหนคะ แล้วฉันมาที่นี่ได้ยังไง?” เซี่ยซูมี่พูดขึ้น เธอยังหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ เพราะมันค่อนข้างที่จะน่าเหลือเชื่อ

“ที่นี่คือรอยเชื่อมต่อที่จะพาเจ้าไปยังโลกอดีตที่เจ้าจากมา เจ้าเป็นคนอ้อนวอนขอให้ตัวเองได้กลับไปแก้ไขอดีตที่เคยทำผิดพลาด คำขอของเจ้ารอนานมาถึง 2000 ปีแล้ว และตอนนี้ก็กำลังจะได้กลับไปตามคำขอนั้น” เซี่ยซูมี่พยายามที่จะใช้สายตาเพ่งมองว่าต้นเสียงมาจากที่ไหน แต่กลับมองไม่เห็นอะไรเลยนอกจากหมอกจางๆ เพียงเท่านั้น

“ฉันน่ะหรือคะที่ร้องขอ” เซี่ยซูมี่ถามขึ้นอีกครั้ง เธอไปร้องขออะไรพวกนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน เพราะเซี่ยซูมี่คนนี้ไม่เคยนึกเสียใจในสิ่งที่ได้ทำลงไป

“เป็นร่างเดิมของเจ้าเมื่อชาติปางก่อน เอาล่ะไม่ต้องมากพิธีเราออกเดินทางกันเถอะ”

“เดี๋ยวก่อนสิคะ แล้วร่างของฉันตอนนี้ละคะ” เซี่ยซูมี่ยังคงเป็นห่วงร่างเดิม เพราะเธอกำลังอยู่ในจุดที่ประสบความสำเร็จสูงสุด แล้วจะให้ทิ้งไปได้อย่างไรกัน

“หมดเวลาบนโลกนี้แล้ว ในทุก ๆ 2000 ปีเท่านั้นที่พื้นพิภพจะถูกเปิดออกเพื่อให้โอกาสคนดีได้กลับไปแก้ไข และเจ้าก็เป็นผู้ที่ถูกเลือกจากดวงจิตที่บริสุทธิ์”

“หมายความว่าฉันตายจากโลกนี้ไปแล้วหรือคะ” เซี่ยซูมี่ไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่เธอได้ยิน ช่างไม่ยุติธรรมกับเธอเอาเสียเลย ผ่านมาตั้งสองพันกว่าปีแล้ว ทำไมถึงเพิ่งจะมาทำตามคำขอ แล้วพรากชีวิตของเธอไปในวันที่กำลังประสบความสำเร็จนี่น่ะหรือ

“ไม่ต้องห่วงหรอก ข้ามีพรวิเศษให้เจ้า 3 ข้อ” คล้ายว่าผู้ลึกลับจะได้ยินในสิ่งที่เธอกำลังคิด

“อะไรหรือคะ” เซี่ยซูมี่ถามขึ้น นึกปลอบใจตัวเองว่ายังดีกว่าที่ไม่ได้อะไรติดตัวไปเลย ไหนๆ ก็ตายไปแล้ว ยังโชคดีที่ได้โอกาสไปเกิดใหม่

ข้อที่ 1 ข้าวของที่เจ้าหามาในชาตินี้ จะถูกเก็บอยู่ในมิติ หากว่าเจ้าต้องการใช้เมื่อไหร่ก็แค่นึกถึงมัน แต่มีข้อแม้คือห้ามให้ผู้ใดล่วงรู้เป็นอันขาด

ข้อที่ 2 เจ้าจะมีความสามารถพิเศษติดตัวไป

ข้อที่ 3 ข้าให้เจ้าเป็นผู้ขอ”

สิ้นเสียงนั้นเซี่ยซูมี่ก็กลับมาคิดกับตัวเองว่าเธอจะขออะไร เพราะแค่เธอได้ทุกอย่างที่ตัวเองหามาในชาตินี้ติดตัวไปด้วยก็นับว่าดีมากแล้ว แม้ว่าจะเปิดเผยกับใครไม่ได้ก็ตาม

“ถ้าเช่นนั้นก็ขอให้เจอคนที่รักฉันจริง ไม่ต้องถูกทอดทิ้งให้อยู่คนเดียวลำพังเหมือนในชาตินี้อีก” เซี่ยซูมี่หลับตาอธิษฐาน ภายใต้หน้ากากที่เป็นคนเข้มแข็ง แต่เธอเองก็ยังคงโหยหาความรักอยู่เช่นกัน ปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอกลัวการอยู่คนเดียว จึงเอางานเป็นเพื่อน เหนื่อยก็แค่หลับไปจะได้ไม่ต้องคิดอะไร

“เจ้าได้คำขอนั้น จำเอาไว้ว่าห้ามเปิดเผยเรื่องนี้กับใครเด็ดขาด หากมีคนล่วงรู้พรทั้งหมดของเจ้าจะถูกยกเลิกทันที จงใช้ชีวิตที่เหลือของเจ้าต่อจากนี้ให้มีความสุข ดังเช่นที่เจ้าไม่เคยพบเจอมาก่อน ขอให้โชคดี”

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • สามีข้าคือพรานป่า   ตอนที่ 63

    “ท่านพี่เจ้าคะ ข้าเจ็บท้องเจ้าค่ะ” เซี่ยซูมี่ปลุกสามีในช่วงกลางดึกของคืนฝนตกหนักคืนหนึ่ง วันนี้กลับไม่โชคดีเหมือนครั้งที่คลอดซ่งอี้เทียน เพราะยังไม่ถึงกำหนดคลอดทุกคนจึงยังไม่มีการเตรียมการใดๆ “เจ็บอย่างไร ทนได้หรือไม่” ซ่งเวยหลงรีบลุกขึ้นเพื่อดูอาการของภรรยา ไม่หลงเหลือความง่วงเลยสักนิด “ไม่ไหวเจ้าค่ะ ให้คนไปตามหมอตำแยให้น้องทีเจ้าค่ะ” เซี่ยซูมี่เค้นเสียงออกมา แม้ว่าภายในใจจะไม่อยากพูดคุยอะไรไปมากกว่านี้เลยก็ตามทันทีที่ฟังภรรยาพูดจบ ซ่งเวยหลงก็ออกไปสั่งการสาวใช้ที่คอยรับใช้หน้าห้อง ให้ไปตามหมอตำแยมาโดยด่วน ฮูหยินซ่งกำลังจะคลอดลูกแล้ว สาวใช้ในเรือนรีบลุกเพื่อไปทำหน้าที่ของตนเองที่ได้รับมอบหมายอย่างไม่มีอิดออด แม้จะสงสัยอยู่บ้างว่ายังไม่ครบกำหนดจะคลอดได้อย่างไร แต่ก็มีเสียงแตกหลายเสียง เนื่องจากว่าครรภ์ของฮูหยินนั้นใหญ่ผิดปกติหลังจากนั้นราวๆ 2 ชั่วยาม เซี่ยซูมี่ก็ได้ให้กำเนิดทายาทสกุลซ่ง แต่ที่น่ายินดีไปมากกว่านั้นคือเป็นแฝดชาย แม้ว่าจะคลอดก่อนกำหนด แต่แฝดทั้งสองก็สมบูรณ์แข็งแรงดี เมื่อแฝดทั้งสองคลอดฟ้าฝนกลับหยุดลง จากนั้นก็มีแสงใหม่ของอีกวันโผล่ขึ้น คล้ายจะบอกเป็น

  • สามีข้าคือพรานป่า   ตอนที่ 62

    3 ปีผ่านไป ซ่งอี้เทียนเริ่มโตขึ้นมาก อีกทั้งยังเป็นเด็กที่รู้มากอีกด้วย เซี่ยซูมี่สอนลูกชายอ่านเขียนตั้งแต่ยังเด็ก ด้วยหวังว่าโตขึ้นไปในภายภาคหน้าเขาจะสามารถดูแลตัวเองได้ ส่วนกิจการของบ้านซ่งต้องบอกว่าขยายใหญ่โตมาก อีกทั้งยังสร้างโรงเตี๊ยมขึ้นมา เพื่อแข่งกับโรงเตี๊ยมเหอฟู่อีกด้วย โดยให้ชื่อโรงเตี๊ยมว่า หลงโถว เช่นเดียวกับร้านค้า ผู้คนในเมืองรวมไปถึงลูกค้าต่างเมือง ต่างรู้จักร้านหลงโถวนี้เป็นอย่างดีทางด้านคุณชายเหอได้ถูกทางการจับตัว เนื่องจากว่ามีคนมาร้องเรียนเรื่องที่ลูกสาวหายตัวไป หลังจากที่แต่งเข้าไปเป็นอนุ เมื่อมีคนมาร้องเรียนกับทางการ อีกหลายๆคนที่ได้ข่าวก็เริ่มมาร้องเรียนบ้าง เนื่องจากว่าเมื่อก่อนชาวบ้านต่างเกรงกลัวอำนาจและบารมีของสกุลเหอ อีกทั้งยังมีท่านเจ้าเมืองหนุนหลัง ทำให้ไม่มีใครแจ้งความเอาผิด แต่ตอนนี้ทุกอย่างได้เปลี่ยนไปแล้ว เมื่อมีท่านรองแม่ทัพหยางเข้ามาประจำการในเมืองนี้ ทำให้ชาวบ้านสามารถเข้าถึงทางการได้ง่ายขึ้น“มีชาวบ้านเข้ามารองเรียนเรื่องคนหายไม่เว้นวัน” ท่านเจ้าเมืองถอนหายใจ ไม่คิดเลยว่าสหายที่เติบโตด้วยกันมาจะเป็นคนเช่นนี้ เดิมทีเหอฟู่ผู้นี้เป็นคนจิตใจดีมีเมตตา

  • สามีข้าคือพรานป่า   ตอนที่ 61

    หลังจากที่ให้ลูกชายกินนม เซี่ยซูมี่จึงพาลูกชายออกมายังห้องโถง ซึ่งแม่บ้านเห่ยนำเตาขนาดเล็กมาวางไว้รอบๆ ห้อง เพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้กับภายในบ้าน ทำให้บ้านไม่หนาวเย็นอย่างที่ควรจะเป็น “มาแล้วหรือหลานชายของป้า มาให้ป้าอุ้มให้หายคิดหน่อยหน่อยเถิด” เซี่ยซือมั่นเงยหน้าจากผ้าที่กำลังปักอยู่ จากนั้นก็ยื่นงานปักให้สาวใช้คนสนิททำต่อ ส่วนนางนั้นเอื้อมมือเพื่อที่จะไปอุ้มหลายชายเข้าสู่อ้อมกอดซ่งอี้เทียนเหมือนจะสัมผัสได้ถึงความรักความเอ็นดูที่ท่านป้าหมาดๆของเขามีให้ ทารกน้อยอายุเพียง 1 เดือน จากตอนแรกที่อยู่ในอ้อมกอดมารดา จึงยอมให้ท่านป้าของเขาอุ้มเข้าไปกอดอย่างง่ายดายส่วนทางด้านท่านป้าที่เมื่อได้อุ้มหลานชายแล้วนั้น ก็รู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากว่าหลานชายไม่ได้ผอมแห้งดังเช่นที่ตนนั้นกังวล แต่เขากลับตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง ทารกน้อยมีน้ำหนักหากจะพูดแล้วนั้น น่าจะหนักกว่าเด็กทั่วๆ ไปเสียด้วยซ้ำ คิดไม่ถึงว่าทารกที่กินเพียงน้ำนมของผู้เป็นแม่เพียงอย่างเดียวจะอุดมสมบูรณ์ได้ “เป็นไรไปหรือเจ้าคะ?” เซี่ยซูมี่สังเกตเห็นสีหน้าฉงนของพี่สาวจึงอดที่จะเอ่ยถามออกไปไม่ได้ “เสี่

  • สามีข้าคือพรานป่า   ตอนที่ 60

    1 เดือนผ่านไปเซี่ยซูมี่ออกจากการอยู่ไฟแล้วเรียบร้อย อีกทั้งวันนี้ยังมีแขกมาเยี่ยม ซ่งอี้เทียน นั่นก็คือท่านป้าและท่านลุงหยางหรือเรียกอีกอย่างหนึ่งก็คือท่านรองแม่ทัพหยางนั่นเองกล่าวถึงเซี่ยซือมั่นเมื่อเข้าไปทำงานยังจวนของท่านรองแม่ทัพ ก็ได้มีโอกาสศึกษาดูใจกับรองแม่ทัพหนุ่มมากขึ้น ทำให้ทั้งสองคนมีโอกาสได้ใกล้ชิดกัน อีกทั้งหญิงสาวยังรับหน้าที่ในการทำอาหารขึ้นโต๊ะให้แก่เขาเองอีกด้วย คุณสมบัติเพียบพร้อมเช่นนั้นจะหนีจากฮูหยินใหญ่ของเขาไปได้อย่างไรกัน“หลานชายของป้า น่าตีท่านพ่อกับท่านแม่ของเจ้ายิ่งนัก หลานชายคลอดทั้งที กลับไม่ส่งข่าวคราวให้ป้าบ้างเลย” เซี่ยซือมั่นทำทีเป็นบ่นกับหลานชาย ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วพ่อกับแม่ของเจ้าก้อนกลมนั้นก็นั่งอยู่ด้วย “หิมะตกหนัก อีกทั้งข้าเองก็เพิ่งจะออกจากการอยู่ไฟ ป้าเห่ยไม่ยอมให้ข้าเห็นเดือนเห็นตะวันเลยล่ะเจ้าค่ะ” เซี่ยซูมี่อดที่จะบ่นแม่บ้านของตัวเองไม่ได้ เพราะนางไม่ยอมให้ออกไปไหนเลยแม้ว่าจะอ้อนวอนมากเพียงใดก็ตาม เซี่ยซูมี่เป็นคนสะอาด จะยอมให้ผมตัวเองมันเยิ้มได้อย่างไรกัน นอกจากมันแล้วก็ยังรู้สึกคันหนังหัวแต่ไม่อยากสอดนิ้วมือเข้าไปเพราะหนังหัวช่

  • สามีข้าคือพรานป่า   ตอนที่ 59

    เซี่ยซูมี่ลืมตาตื่นในเช้าของอีกวัน คิดว่าตัวเองฝันไปหรือเป็นเรื่องจริง แต่เมื่อใช้มือคลำสัมผัสที่หน้าท้องกลับพบว่ามันยุบลง ไม่ป่องเหมือนเมื่อวาน นอกจากนั้นแล้วในยามที่ขยับตัวก็รู้สึกเจ็บ อีกทั้งยังเหมือนได้ยินเสียงร้องงอแงของเด็กอีกด้วย “อือ” คุณแม่มือใหม่ส่งเสียงในลำคอ “ลูกพ่อ แม่ของลูกตื่นแล้ว” ซ่งเวยหลงตอนนี้กำลังอุ้มลูกชายอยู่สืบเนื่องจากเมื่อคืนที่ได้บอกกับหมอตำแยเอาไว้ว่าจะให้ลูกกินนมของภรรยาเป็นคนแรกนั้นต้องหยุดลง เนื่องจากว่าลูกชายร้องไห้งอแงในยามเช้าแต่ภรรยาเขากลับยังไม่ได้สติ ตนจึงจำเป็นต้องให้แม่นมที่เตรียมไว้สำหรับลูกชายทำหน้าที่แทนทารกน้อยราวกับว่ารับรู้และเข้าใจในสิ่งที่บิดาพูด ทันทีที่พูดถึงมารดาเขากลับเงียบเสียงลง คล้ายกำลังฟังเสียงการเคลื่อนไหวของมารดา แต่เมื่อไม่ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยเหมือนตอนที่อยู่ในท้อง เขากลับเริ่มเบะปากเตรียมที่จะร้องไห้อีกครั้ง “ท่านพี่ นะ น้ำเจ้าค่ะ น้องขอน้ำ” เซี่ยซูมี่รู้สึกลำคอแห้งผาก แม้ว่าอยากจะลุกขึ้นไปอุ้มลูกชายมากเพียงใด แต่ตอนนี้ตนต้องได้กินน้ำเพื่อให้ร่างกายมีแรงขึ้นมาก่อน “ฮูหยิน น้ำเจ้าค่ะ”

  • สามีข้าคือพรานป่า   ตอนที่ 58

    หลังจากที่ไปส่งพี่สาวที่จวนของท่านรองแม่ทัพ เรียกได้ว่าหายห่วงไปได้มากทีเดียว เดิมทีเซี่ยซูมี่ตั้งใจจะพาพี่สาวไปซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ ให้สมกับตำแหน่งแม่บ้านใหญ่ของจวนท่านรองแม่ทัพ แต่กลับถูกเจ้าของจวนขัดขึ้นเสียก่อน เนื่องจากว่าเขาได้ให้คนงานจัดเตรียมทุกอย่างเอาไว้เรียบร้อยแล้ว เมื่อไปถึงจวนก็ไปดูที่พักของพี่สาว คงต้องบอกว่าไม่เหมือนกับที่พักพิงของคนงานเลยสักนิด แม้จะบอกว่าไม่ได้ให้เข้าทำงานมาเป็นทาส หรือแม้กระทั่งยกตำแหน่งแม่บ้านใหญ่ให้ ก็ยังดูไม่ใช่ที่พักของคนงานอยู่ดี แต่คล้ายว่าเป็นห้องนอนของแขกคนสำคัญมากกว่าเซี่ยซือมั่นได้แต่มองหน้าน้องสาวเพื่อขอความคิดเห็น แต่เซี่ยซูมี่กับเดินตัวติดกับสามี ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นสายตาที่พี่สาวพยายามจะส่งมาให้ ได้เห็นการต้อนรับที่อบอุ่นเช่นนี้แล้วเซี่ยซูมี่เองก็เบาใจ “ท่านว่าพี่ชายของท่านจะจริงจังกับพี่สาวของข้ามากน้อยเพียงใดเจ้าคะ?” ระหว่างที่กลับบ้านป่า เซี่ยซูมี่ก็ชวนสามีพูดคุยเพื่อให้ไม่เหงาปากมากจนเกินไป “ชู่ว หยุดพูดจาส่งเดช มีคนตามมาส่งเราด้วย” ซ่งเวยหลงทำเสียงเป็นเชิงบอกให้ภรรยาหยุดพากพิงถึงบุคคลอื่น เนื่องจากว่าพี่ชายได้

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status