“ขอบคุณมากนะคะ”
เสียงหวานดังขึ้นก่อนร่างอรชรจะปรากฏขึ้นหลังเคาน์เตอร์พร้อมกับเงินทอนของลูกค้า ยื่นให้ไรเดอร์ที่มารับของไปส่งให้ลูกค้าเหมือนทุกวัน ดวงตากลมโตมองประตูกระจกที่ลั่นเสียงกระดิ่งกำลังปิดลงพร้อมกับยิ้มมองยอดในบัญชี วันนี้รายได้เป็นไปตามเป้าที่เธอตั้งเอาไว้ นับว่าไม่เลวกับร้านขายดอกไม้เล็ก ๆ ของเธอ
กวินตรา หญิงสาววัยยี่สิบสี่ปีเจ้าของร้านขายดอกไม้เล็ก ๆ ข้างตึกสำนักงานสูงเสียดฟ้า ใบหน้างามตามแบบฉบับลูกเสี้ยวญี่ปุ่นไทยจีน คุณแม่ของเธอเป็นคนกรุงเทพโดยกำเนิดแต่มีเชื้อจีน ส่วนคุณพ่อเป็นลูกครึ่งไทยญี่ปุ่นหน้าคมผิวขาวหล่อเหลาจนสาวน้อยใหญ่จ้องตาเป็นมัน แต่พ่อของเธอนั้นรักเพียงแม่ของเธอไม่เคยเหลียวแลใคร กวินตราจึงมีปณิธานว่าหากจะมีสามีสักคนก็ขอให้พบเจอคนแบบพ่อที่รักเดียวและทำทุกอย่างเพื่อครอบครัว
หลังจากพ่อและแม่ประสบอุบัติเหตุเมื่อหลายปีก่อนก็ได้ทิ้งสมบัติไว้ให้ไม่น้อยเลย เหล่าญาติมิตรที่ไม่เคยเจอหน้ากันหลายปีต่างมารวมตัวโดยไม่ได้นัดหมาย
ภายในงานศพของพ่อและแม่ ไม่ใช่ว่าพวกเขาห่วงที่จู่ ๆ เธอกลายเป็นเด็กกำพร้าตั้งแต่อายุยี่สิบหรอกนะ แต่ที่มาหาเพราะอยากจะเป็นผู้จัดการมรดกที่พ่อและแม่ของกวินตราหามาได้อย่างยากลำบากต่างหาก
ท่ามกลางความโชคร้ายของกวินตรา ยังดีที่มีหัสดินเข้ามาในชีวิตขณะที่เธออ่อนแอไร้ที่พึ่งเขาเป็นดั่งแสงสว่างและบ้านที่อบอุ่นให้กวินตราได้พึ่งพิง เมื่อสองใจตรงกันทั้งคู่จึงเริ่มคบหากัน
หัสดินไม่เคยแตะต้องเธอนอกจากหอมแก้มและจูบเท่านั้น เมื่อกวินตราบอกเขาว่าเธออยากรอให้พวกเขาแต่งงานกันเธอจะให้ทุกอย่างที่หัสดินต้องการ หัสดินเข้าใจทุกอย่าง ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ทั้งคู่คบหากันมาหลายปี ในที่สุดก็ถึงเวลาที่หัสดินจะทำในสิ่งที่รอมานานเสียที
“แต่งงานกันนะมิน” ร่างสูงนั่งคุกเข่าถือกล่องกำมะหยี่สีแดง ข้างในมีแหวนเพชรที่เขาเพียรเก็บเงินทั้งชีวิตเพื่อซื้อมาสู่ขอคนที่ตนรักและอดทนเฝ้ารอวันนี้มานานถึงสี่ปี
ดวงหน้างามน้ำตารื้นมองชายตรงหน้าด้วยความตื้นตัน เธอพยักหน้าแทบจะทันที ในที่สุดสิ่งที่พวกเขารอคอยที่จะสร้างครอบครัวด้วยกันก็มาถึงเสียที
3 เดือนต่อมาหลังจากที่กวินตราถูกแฟนหนุ่มขอแต่งงาน
“อื้ม ไม่เป็นไร เมไปทำธุระเถอะ มินเข้าใจ” กวินตราคุยโทรศัพท์กับเมธาวีเพื่อนสนิท เพราะวันนี้หัสดินติดงานด่วนจึงมาลองชุดแต่งงานกับเธอไม่ได้ กวินตราจึงชวนเพื่อนสนิทมาเป็นเพื่อน แต่เพื่อนสนิทก็ดันมาบอกว่ามาไม่ได้แล้วเพราะพี่ชายใช้ให้ไปทำธุระแทน กวินตราจึงเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องมาทำทุกอย่างคนเดียว
“ขอโทษจริง ๆ นะ ไว้ทำธุระเสร็จฉันจะแวะไปหาที่ร้าน” ปลายสายตอบอย่างรู้สึกผิด
“ไม่เป็นไรเลย นี่ดูชุดนี้สวยใช่ไหม”
พูดจบกวินตราได้เปิดกล้องให้เพื่อนรักดูชุดที่เธอเลือกอยู่นานสองนานให้ดูพร้อมกับหมุนตัวโชว์ เมธาวีถึงกับชมเพื่อนรักว่าเลือกแบบได้สวยเข้ากับตัวจริง ก่อนจะขอตัววางสายไปเพราะถึงคิวที่ตัวเองจะเข้าไปทำธุระแล้ว
หลังจากวางสายเพื่อนรักในที่สุดกวินตราก็เลือกแบบชุดของตัวเองเอาไว้ทั้งหมดสามแบบ เป็นชุดไทยหนึ่งและชุดราตรีอีกสองสำหรับพิธีการจนจบงาน อาทิตย์หน้ายังต้องมาถ่ายพรีเวดดิ้งอีกทำให้เธอต้องมานั่งเลือกชุดสำหรับถ่ายรูปอีก ในขณะที่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเอาแบบไหนดีเธอก็คิดถึงคำพูดของว่าที่เจ้าบ่าว ‘เธอชอบแบบไหนเราก็ชอบทั้งนั้น’
กวินตราหน้าแดงเมื่อคิดถึงใบหน้าของว่าที่สามีสวมชุดที่เธอพยายามคัดเลือก แต่ยังไม่ทันจะได้ตัดสินใจพนักงานที่ดูแลก็เดินมาบอกว่ามีคนมาขอพบ กวินตราคิดในใจหรือจะเป็นหัสดินมาเซอร์ไพรส์เธอที่ร้าน
แต่ความจริงกลับไม่ใช่ คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเป็นคนที่เธอไม่เคยเจอมาก่อน
“สวัสดีค่ะ” ร่างอรชรที่อยู่ในชุดเหมือนพนักงานออฟฟิศ ดวงหน้าสวยแต่นัยน์ตากลับซ่อนความเปรี้ยวเฉียบคมตามประสาคนใต้
“ค่ะ ไม่ทราบว่าคุณคือ...”
“ดิฉันชื่อมารีญาค่ะ เป็นรุ่นน้องของพี่ดิน พี่คือแฟนพี่ดินใช่ไหมคะ” มารีญายืนยันตัวตนทันที
ขณะที่กวินตราหลงคิดว่าหัสดินนั้นแสนดีเสมอ นี่คงเป็นห่วงว่าเธอจะเหงาเพราะเขาไม่ว่างจึงได้ขอให้รุ่นน้องมาช่วยเธอหรือเปล่า พอคิดอย่างนั้นในใจของเธอจึงไร้ความกังวลเชิญหญิงสาวเข้ามานั่งในห้องรับรองกับตนทันที
มารีญากวาดตามองอัลบั้มรูปที่วางเกลื่อนอยู่บนโต๊ะพร้อมกับเบ้ปากหนึ่งครั้งแล้วมองใบหน้างามของภรรยารุ่นพี่ที่เธอแอบชอบมานาน รู้สึกเจ็บใจที่แม้เธอบอกว่าท้องกับเขาเขายังไม่คิดจะรับผิดชอบและเปลี่ยนใจมาหาเธอ กลับขอกวินตราแต่งงานเสียอย่างนั้น
ย้อนกลับไป 1 เดือนที่แล้ว
“พี่บอกแล้วไงว่าพี่รับผิดชอบเราไม่ได้” หัสดินโกรธจนเลือดขึ้นหน้าเมื่อรุ่นน้องในแผนกที่เข้ามาทำงานได้เพียงสี่เดือนอยู่ ๆ ก็เดินมาบอกว่าท้องกับเขา
“ทำไมจะไม่ได้ นี่ลูกของเรานะคะ”
“พี่มีแฟนแล้ว เข้าใจไหม”
“ไม่รู้ล่ะ ถ้าพี่ไม่บอกหนูจะไปบอกเอง”
“หยุดนะ”
ด้วยที่กลัวความผิดเรื่องที่ตนพลาดพลั้งไปได้เสียกับรุ่นน้องที่ทำงานในวันงานกินเลี้ยงบริษัท วันนั้นเขาโดนหัวหน้าท้าดวลจนทำให้ตัวเองเมาจนขาดสติ ในขณะที่กำลังจะไปเรียกรถแท็กซี่กลับบ้านมารีญาก็มาบอกว่าจะขับรถไปส่งเขาที่บ้านแล้วหลังจากนั้นเขาเองก็จำอะไรไม่ได้ รู้ตัวอีกทีคือเขากับมารีญานอนอยู่บนเตียงด้วยกันโดยไม่มีเสื้อผ้าสักชิ้น
เขาจึงคิดที่จะขอกวินตราแต่งงาน คิดว่าเรื่องทุกอย่างจะจบลงแต่มันกลับไม่เป็นอย่างนั้น เพราะมารีญาดันตั้งท้อง หัสดินไม่รู้จะทำอย่างไรกับเรื่องนี้เพราะไม่มีทางที่เขาจะทิ้งคนแสนดีอย่างกวินตราไปแน่นอน
“พี่มินคบกับพี่ดินมานานแล้วเหรอคะ” กวินตราที่กำลังมองชุดในอัลบั้มเพราะรุ่นน้องของแฟนหนุ่มบอกว่าจะช่วยเลือก
“จ้ะ ก็อืม...ตั้งแต่พี่เรียนปีสอง มาถึงตอนนี้ก็สี่ปีได้มั้ง”
กวินตรายิ้มเขิน ใบหน้างามเปื้อนสีแดงเมื่อคิดถึงแฟนหนุ่มของตน ผิดกับมารีญาที่พ่นลมออกมาด้วยความหงุดหงิด
“ดีจังเลยนะคะ แล้วพี่ดินเคยนอกใจพี่บ้างมั้ยคะ”
กวินตราชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะหัวเราะ “ไม่จ้ะ”
“ไม่เหรอคะ ไม่มีเลยเหรอคะ หรือจริง ๆ พี่แค่ไม่รู้”
ดูเหมือนคำถามนี้จะสะกิดใจของกวินตราไม่น้อย เธอมองเด็กสาวที่อายุน่าจะห่างจากเธอประมาณสามปีด้วยความสงสัย
“หมายความว่ายังไงคะ”
“ตอนพี่ดินเล่าคิดว่าพี่มินแค่เป็นคนดี แต่พอมาเจอตัวจริงถึงได้รู้ว่าเป็นคนซื่อ พอลองได้คุยที่ไหนได้พี่เป็นคนโง่นี่เอง ไม่น่าล่ะแฟนไปทำคนอื่นท้องถึงไม่รู้”
ราวกับถูกสายฟ้าฟาดลงกลางใจอย่างจัง ภาพวิมานในฝันที่เคยวาดฝันเริ่มหลั่งไหลเข้ามาในหัวราวกับสายน้ำก่อนจะค่อย ๆ แตกสลายไปพร้อมกับรอยยิ้มของอีกคนที่ส่งมาให้
กวินตราชาไปทั้งตัวเมื่อมองอีกคนที่ยิ้มอย่างเลือดเย็นขณะมองเธอ แม้ว่าที่ผ่านมาหัสดินจะไม่เคยนอกลู่นอกทางกับเธอเลยสักครั้ง แต่เรื่องอย่างนี้หญิงสาวยอมรับว่าเคยมีแอบคิดแอบกลัวอยู่บ้าง
“นะ นี่ นี่น้องหมายถึงอะไร”
“หนูท้องกับพี่ดิน”
มารีญาเอาใบตรวจที่โรงพยาบาลให้กับกวินตราดู ทันทีที่อ่านพบว่าผลเป็นดั่งที่เด็กสาวตรงหน้าพูดเอาไว้ไม่มีผิด ทั้งยังมีชื่อของหัสดินที่เซ็นรับเป็นพ่อของเด็กอีก ไม่มีอะไรที่ชัดเจนไม่มากกว่านี้อีกแล้ว กวินตราแทบประคองร่างของตัวเองไม่อยู่ ใบตรวจที่ถืออยู่ในมือร่วงลงพื้นขณะที่มารีญาเดินออกจากห้องไปทิ้งเอาไว้เพียงว่าที่เจ้าสาวให้จมอยู่กับความคิดมากมายถาโถมจนหน้ามืด
“ว๊ายยย ตายแล้ว” เสียงสุดท้ายที่กวินตราได้ยินก่อนจะหมดสติไป
ธัชกรหันไปมองกวินตราแล้วพยักหน้าให้อย่างเข้าใจขณะที่เมธาวีเองก็ดูไม่ได้ใส่ใจเหมือนเมื่อก่อนแล้วเขาจึงตอบรับหลังจากที่ทานอะไรเสร็จวันนี้เมธาวีจะขอไปเดินตรวจงานกับกวินตราด้วย ส่วนธัชกรจะตามไปทีหลังเพราะว่าจะรออยู่คุยกับชัญญาก่อนในห้องรับแขกทั้งคู่ได้นั่งลงแล้วเปิดใจ ชัญญาเริ่มบทสนทนาทันทีไม่อ้อมค้อม“ฉันคิดดีแล้วนะคะ คือว่าฉันจะไปจากที่นี่”“คุณจะไปไหน อยู่ที่นี่ก่อนก็ได้ผมไม่ว่าหรอก ลูกจะได้อยู่กับคุณด้วย”ชัญญาคิดเอาไว้อยู่แล้วว่าธัชกรต้องพูดแบบนี้ เขาเป็นคนดีเสมอต้นเสมอปลายจริง ๆ“ฉันรู้ค่ะว่าคุณไม่ว่า แต่ฉันคงติดอยู่ที่นี่ตลอดไม่ได้หรอกนะคะ อีกอย่างไม่นานคุณก็จะแต่งงานใหม่ ถ้ามีเมียเก่าอยู่ด้วยมันจะดูน่าเกลียดไปมั้ย ฉันไม่อยากตกเป็นขี้ปากพวกเด็ก ๆ ในไร่” ชัญญาพูดทีเล่นทีจริง“ใครจะกล้าว่าคุณ ที่นี่ก็บ้านของคุณเหมือนกันอย่าลืมสิครับ...เอาเป็นว่าคุณตัดสินใจยังไงผมจะไม่ขัดขวางเลย แต่ขออย่างเดียวขอให้คุณมาเยี่ยมเด็ก ๆ บ้าง ที่นี่ต้อนรับคุณเสมอนะ”ชัญญาน้ำตาคลอ เธอพึ่งจะคิดได้ว่าจร
ชัญญามองหน้าหัสดินด้วยแววตาเห็นอกเห็นใจ“คุณไม่เสียดายเหรอคะ”“เสียดายสิครับ เสียดายมาก ๆ แต่ว่าผมเองก็ทำให้โอกาสมันหลุดมือไปเอง อีกนิดเดียวพวกเราจะได้แต่งงานกันแล้วแท้ ๆ แต่ผมกลับทำมันพังเพราะอารมณ์ชั่ววูบของตัวเอง”“พวกคุณกำลังจะแต่งงาน แล้วมันเกิดอะไรขึ้นคะ” ชัญญาพลิกเปลี่ยนท่านอนคว่ำเพื่อรอฟังเรื่องของอีกคนที่ดูเหมือนจะน่าสงสารกว่าเธอเสียอีกหัสดินถอนหายใจออกมายาว ๆ ก่อนจะเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้กับชัญญาฟังชัญญายกมือขึ้นปิดปากด้วยความตกใจ เธอฟังจบก็ถอนหายใจออกมาอย่างเสียไม่ได้ ที่แท้ชีวิตของชายคนนี้ก็น่าสงสารขนาดนี้ แต่เธอกลับคิดว่าเขาเข้มแข็งมาก ๆ ที่กล้าจะยอมรับความจริง“อยากกลับไปหาคุณมินมั้ยคะ ถ้าคุณอยากแย่งเธอฉันจะช่วย” ชัญญาถามด้วยสีหน้าจริงจังหัสดินชะงักไปครู่ใหญ่ ความคิดมากมายตีกันในหัวแต่ครู่เดียวชัญญาก็หลุดขำออกมา“ล้อเล่นน่ะค่ะ”“ตกใจหมดเลยครับ บอกตรง ๆ ผมก็เสียดายมินนะ แต่ว่าผมคงไม่แย่งเธอกลับมาแล้วละครับ ตอนนี้เธอเจอคนดี ๆ แล้ว ผมคงไม่เห็
นานแล้วที่เขาไม่ได้ฉลองงานเลี้ยงที่เต็มไปด้วยสีสันขนาดนี้ ต้องขอบคุณกวินตราที่เข้ามาในชีวิตของเขา เขารู้สึกราวกับว่าตัวเองนั้นได้กลับไปแก้ไข้ข้อบกพร่องที่เคยเป็นพ่อและสามีที่เอาแต่ทำงานไม่สนใจครอบครัว และเธอคือคนที่รับข้อบกพร่องนั้นของเขาได้ ทว่าจากนี้ไปธัชกรจะไม่ยอมปล่อยให้มันเกิดขึ้นอีก“เริ่มรู้สึกเสียดายแล้วเหรอครับพี่ดิน” ทนายหนุ่มกระซิบข้างหูพี่ชายด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริง“เปล่า พี่คิดว่าวันนี้มินดูมีความสุขมากเท่านั้น เผลอ ๆ บางทีอาจจะมีความสุขมากกว่าอยู่กับพี่อีก”“เห้อ คนดีจริงจริ๊งพี่ชายผม ไปดีกว่าครับไปสนุกก่อนกลับ ผมจะเมาให้เละไปเลย”ณัฐชัยลุกขึ้นแล้วคว้าเอาแก้วของตัวเองเพื่อไปสนุกกับสาว ๆ คนงานในไร่ที่อยู่อีกโต๊ะ ก็ด้วยฝีปากช่างพูดช่างเจรจาเขาหาเรื่องมาเล่าจนสาว ๆ นี่กรี๊ดกร๊าดชอบใจกันทั้งโต๊ะ แต่ว่ามีอยู่คนหนึ่งที่เอาแต่มองทนายจอมเจ้าชู้แล้วเบ้ปากวันก่อนยังของขึ้นใส่เธออยู่เลย วันนี้ไปหน้าม่อใส่คนงานบ้านเธอเสียแล้ว เกลียดจริง ๆ ผู้ชายแบบนี้เมธาวีคิดในใจก่อนจะถือแก้วแอลกอฮอล์ของตัวเองเดินเลี
ธัชกรจับแขนของหญิงสาวก่อนจะแกะเธอออก ทว่ายังไม่ทันจะได้เอาเธอออกจากตักเสียงของน้องสาวเธอก็เรียกกวินตราที่ยืนอยู่หน้าประตูบ้านพอดี ธัชกรใจหล่นไปอยู่ตาตุ่ม ร่างของชัญญาถูกธัชกรผลักจนล้มลงที่พื้นกวินตรามองทั้งคู่ด้วยสายตาที่ผิดหวังก่อนจะรีบวิ่งขึ้นไปบนห้องไม่สนกระทั่งเพื่อนสนิทที่เรียกเธอครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งยังตามมาก็ไม่ทันกวินตราปิดประตูห้องทันทีแล้วล็อกเอาไว้ปัง หญิงสาวหันไปเจอสภาพห้องถึงกับตะลึง ข้าวของเสื้อผ้าของเธอถูกรื้อกระจายเต็มห้อง กวินตราจึงเดินไปที่ตู้เสื้อผ้ากลับพบว่ามีเสื้อผ้าของคนอื่นมาแทนที่แล้วหญิงสาวเข้าใจแล้ว ธัชกรให้ภรรยาเก่าของเขากลับมาอยู่ที่นี่เหมือนที่แม่บ้านบอกจริง ๆ“มิน มินเปิดประตูให้ผมหน่อย” ธัชกรเรียกหญิงสาวอยู่หน้าห้อง กวินตรายกมือปาดเช็ดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มก่อนจะเดินไปเปิดประตูให้เขาธัชกรเดินเข้ามาในห้องพอได้เห็นอย่างนั้นเขาถึงกับตกใจ มองหน้าหญิงสาวที่ตนรักก็คิดว่าเธอเข้าใจผิดเขาไปมากมายแล้วในตอนนี้“ผมไม่ได้ให้ชัญญามาอยู่ที่ห้องนี้นะ ผมให้เธอไปนอนกับลูก”“ช่างเถอะค่ะ มินไ
กวินตราเดินขึ้นชั้นสองได้ยินเสียงร้องไห้ของเด็ก ๆ จึงเดินเข้าไปหา เห็นเมธาวีนั่งปลอบหลานชายทั้งสองอยู่ด้วยความยากลำบากเนื่องจากขาของเธอเจ็บและเด็ก ๆ ก็ดิ้นอยากจะเจอพ่อท่าเดียว“เม” กวินตราเดินเข้าไปนั่งข้าง ๆ ก่อนจะยิ้มให้กับนที และรพีที่กำลังร้องไห้จนใบหน้าเล็ก ๆ แดงก่ำ“อามิน พ่อกรอยู่ไหนครับ” เด็กน้อยเดินเข้าไปหาหญิงสาวที่นั่งลงตรงหน้าตนเองกวินตรารับร่างเล็ก ๆ ทั้งสองเข้ามากอดเอาไว้ ดูเหมือนนทีกับรพีจะสงบลงได้เมื่อถูกกวินตรากอดเอาไว้ เมธาวีเห็นแบบนั้นก็เข้ามากระซิบว่าเธอจะไปเอาของว่างมาให้ เด็ก ๆ จะได้ใจเย็นลง เมธาวีเลยชวนพี่เลี้ยงลงไปเตรียมของช่วยเธอและป้าน้อยก็ต้องขอตัวไปเตรียมกับข้าวตอนเย็นภายในห้องจึงเหลือแค่กวินตรากับเด็กแฝดสองคน“อยากฟังนิทานมั้ย อามินจะเล่าให้ฟัง”“นิทานเหรอครับ นทีชอบนิทาน” เด็กน้อยยิ้มกว้างก่อนจะวิ่งไปหยิบหมอนกับผ้าห่มมาเตรียมนอนรอฟัง“รพีก็ชอบครับ ตั้งแต่แม่ไม่อยู่พวกเราก็ไม่เคยฟังนิทานเลย”กวินตราถอนหายใจด้วยความสงสารก่อนจะนอนลงแล้วอ้าแ
“คงอย่างนั้นมั้งคะ” กวินตราพูดก่อนจะหันไปเปิดดูตู้เย็น แต่ว่าในครัวมีแม่บ้านที่กำลังนั่งเตรียมผักอยู่ บางคนก็อยากจะร่วมวงเลยพูดขึ้นบอกทนายหนุ่มแขกของกวินตรา“ใช่ค่ะคุณทนาย เมื่อก่อนพ่อเลี้ยงไม่ได้ร่ำรวยอย่างทุกวันนี้หรอกนะคะ ทั้งสองคนเรียนจบมามีแค่ตัวเปล่า แต่แม่ของหนูเล่าให้ฟัง...” แม่บ้านวัยสิบเจ็บเล่าทำให้ทนายหนุ่มรีบเดินเข้าไปนั่งร่วมวงแม่บ้านเมาท์มอยเรื่องเจ้านาย“...ว่ายังไงครับเล่าหน่อย”เห็นทนายหนุ่มมีความสนใจใคร่รู้เรื่องชาวบ้าน แม่บ้านช่างเมาท์จึงได้เล่าต่อถึงเรื่องราวในอดีตของทั้งสองคนโดยที่ลืมไปเลยว่ากวินตรากับธัชกรมีความสัมพันธ์ดี ๆ ด้วยกันอยู่“ก็เมื่อก่อนเห็นว่าที่นี่เป็นที่ของพ่อคุณชัญญาค่ะ แต่ถูกเจ้าพ่อเมืองลำปางคนก่อนซื้อไป คุณธัชกรเห็นว่าที่นี่สำคัญกับคุณชัญญามากเขาจึงซื้อเอาไว้ก่อนจะทำสวนและต่อเติมโฮมสเตย์หลังจากที่แต่งงานมีลูกกันน่ะค่ะ”“อ้อ แบบนี้นี่เองสินะครับ พอดีผมส่งผู้ชายคนใหม่คนนั้นเข้าคุกไปแล้ว แบบนี้คุณธัชกรคงไม่คิดจะพาคุณชัญญากลับมาที่นี่หรอกมั้งใช่มั้ยครับ ก็ที่นี