เธอรู้จุดอ่อนและได้สืบประวัติของคู่ขาทั้งเก่า ทั้งใหม่ของสิงห์มาโดยครบถ้วนไม่ให้คลาดสักคนเดียว ไม่ว่าจะเป็นวันเดือนปีเกิด พ่อ แม่ เคยประกอบอาชีพอะไรมาก่อน ปัจจุบันนี้อาศัยอยู่ที่ไหน มีคดีหรือมีหนี้สินเท่าไหร่บ้าง
ส่วนมากมักจะล้วนเป็นคนที่มีหน้ามีตาอยู่ในแวดวงสังคมและที่สำคัญพื้นฐานเดิมไม่ได้ร่ำรวยอาจถึงขั้นขาดแคลนทุนทรัพย์ อยากมั่งอยากมีจนกระทั่งขายศักดิ์ศรีเข้าแลกนอนกับสามีชาวบ้าน "แก!!" "ถ้าเธอยังมายุ่งวุ่นวายกับสามีฉัน ฉันรับรองได้เลยว่าอนาคตทางวงการบันเทิงหรือแม้กระทั่งพรีเซ็นเตอร์แบรนด์แบรนด์น้อยเธอก็จะไม่มีโอกาสเกิด" น้ำหนึ่งพูดพร้อมกับใช้ปลายนิ้วชี้รักหน้าผากมนของพรีมมี่อย่างแรงเรือนร่างของหล่อนเซไปด้านหลังเล็กน้อย "เรากลับกันเถอะค่ะพี่สิงห์ หนึ่งมีเรื่องจะถามพี่สิงห์เยอะแยะเลย" "คุณสิงห์ คุณสิงห์ต้องช่วยพรีมนะคะ" ดูเหมือนว่าเจ้าหล่อนจะไม่ยอมแพ้รีบพุ่งหลาวเข้ามาเกาะแกะวุ่นวายกับแขนแกร่งของสามีไฮโซน้ำหนึ่ง "คุณสิงห์ เมียคุณสิงห์รังแกพรีมนะคะ คุณสิงห์จะต้องช่วยพรีมนะคะคุณสิงห์" "เธอคงคิดว่าฉันพูดเล่นๆสินะพรีม งั้นก็รอดูจบผู้หญิงหน้าด้านและดื้อด้านอย่างเธอได้เลย" ไฮโซน้ำหนึ่งพูดด้วยน้ำเสียงติดหงุดหงิด "ก็เลือกเอา จะกลับกับหนึ่งหรือจะอยู่กับอีผู้หญิงคนนี้ อีผู้หญิงคนที่เป็นแค่เห็บหมัดปลิงคอยสูบเลือดสูบเนื้อ" "กรี๊ดส์!!!" เสียงกรีดร้องของพรีมมี่ดังไปทั่วร้านขายชุดนอนไม่ได้นอนจนแสบแก้วหูคนฟังยิ่งนัก มิหนำซ้ำหล่อนยังกระทืบเท้าเร่าๆคล้ายกับกำลังประจานกิริยาต่ำช้าของตัวเองออกมา "กลับ" ในที่สุดสิงห์ก็ต้องยินยอมกลับออกมากับภรรยาสาว บรรยากาศเงียบสงัดไปเรื่อยๆจนถึงลานจอดรถก็เริ่มมีเสียงถกเถียงดังขึ้น "หนึ่งทำแบบนี้เท่ากับไม่ไว้หน้าพี่เลยนะ พนักงานเขาจะคิดยังไง เค้าจะเคารพนับถือพี่หรือเปล่า!" สิงห์ตะคอกเสียงดังพร้อมกับรั้งแขนของภรรยากระชากเข้ามาห่างกาย "พี่สิงห์ยังแคร์สายตาคนอื่นหรือสนใจพวกเขาจะคิดยังไงอยู่อีกเหรอคะ? แอบหนีเมียแล้วพาชู้มาซื้อของแบบนี้เนี่ยพี่ก็ไม่ให้เกียรติหนึ่งเหมือนกัน! พี่ให้อีนั่นไม่ยามหน้าหนึ่งทั้งๆที่หนึ่งเป็นเมียที่ถูกต้องตามกฎหมายถึงทะเบียนสมรสอยู่" ร่างบอบบางโต้เถียงกลับไปด้วยแววตาแข็งขืนอย่างมิมีใครยอมใครเลยทีเดียว "แต่หนึ่งก็ไม่ควรทำแบบนั้น! พี่เป็นถึงซีอีโอบริษัทยักษ์ใหญ่ หนึ่งควรจะไว้หน้าพี่บ้าง อย่างน้อยก็กลับไปอาละวาดที่บ้านเถอะ" สิงห์เริ่มรู้สึกได้ถึงความไม่สงบสุขที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้...เขาชื่นชอบน้ำหนึ่งคนเดิมที่เงียบขรึมไม่เจ้ากี้เจ้าการหรือจุกจิกวุ่นวายเสียมากกว่า "รู้ตัวนะคะว่าเป็นถึงซีอีโอบริษัท แต่ก็กล้าพาแม่นางแบบตกอับคนนั้นควงมาเดินถึงห้าง! ลืมตัวเหรอคะว่ามีภรรยาแล้ว มักมากแบบนี้ใครเขาจะเคารพนับถือ ก่อนจะมองคนอื่นน่ะก็ช่วยหันกลับไปมองตัวเองบ้าง" ไฮโซน้ำหนึ่งสลัดฝ่ามือเหนียวแน่นของเขาทิ้งอย่างแรงแล้วปรายตามองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนที่จะกระตุกยิ้มมุมปาก แน่นอนว่าปฏิกิริยาการตอบโต้ที่อยู่เหนือการคาดหมายในหัวของสิงห์ ทำให้เขาอึ้งตาค้างลอบกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ด้วยความเหลือเชื่อก่อเกิดความกระอักกระอ่วนจนแทบพูดไม่เป็นภาษา "หนึ่ง! มันจะมากเกินไปแล้วนะ อย่างน้อยๆพี่ก็เป็นสามีหนึ่ง หนึ่งควรจะให้เกียรติพี่บ้าง" สิงห์ไม่เคยโดนใครหยามหน้าหรือพูดจากระทบกระแทกแดกดันเช่นนี้มาก่อน เธอเป็นแค่ภรรยา! มีสิทธิ์อย่างไรกล้าทำตัวก้าวร้าวขนาดนี้ "สามี เหอะ! ยังกล้าเรียกตัวเองว่าสามีได้เต็มปากนะคะ ไม่ละอายแก่ใจตัวเองบ้างเหรอ บอกให้คนอื่นให้เกียรติตัวเองแต่ตัวเองเคยให้เกียรติหนึ่งหรือเปล่า หนึ่งเป็นเมียเป็นผู้หญิงหน้าโง่พี่ให้อีลูกเด็กเล็กแดงของพี่มาสวมเขาแล้วหัวเราะเยาะมันน่าสมเพชผัวคนเดียวยังล่ามโซ่ไว้ไม่ได้ส่วนมันต้องกระโจนไปหาเศษหาเลยที่เป็นพวกซากกระดูกของเหลือเดน พี่เคยแคร์หรือเปล่าล่ะ!" ไฮโซน้ำหนึ่งตะคอกเสียงกลับไปอย่างเหลืออด เธอเองก็ไม่คิดเหมือนกันว่าจะได้ยินวาจาก้าวร้าวเช่นนี้เปล่งออกมาจากริมฝีปาก แต่เธอเป็นฝ่ายโดนกระทำมาโดยตลอด! นับจากวันนี้เป็นต้นไปเธอคือไฮโซคนใหม่ที่จะไม่ยอมให้ไอ้อีหน้าไหนมากระทำอยู่ฝ่ายเดียวได้อีก ไม่เว้นแม้กระทั่งคนที่เรียกว่าผัว "แล้วหนึ่งจะไปแคร์อะไร พี่ก็ให้หนึ่งเป็นที่หนึ่งอยู่แล้วไง หนึ่งเป็นเมียออกหน้าออกตาที่ได้ถือทะเบียนสมรสแค่นี้ไม่พอเหรอ?" คำพูดจากผู้ชายเห็นแก่ตัวทำให้เธอต้องเค้นเสียงหัวเราะในลำคอปรายตามองรอบๆโรงจอดรถแล้วตวัดกลับมาแลเขาอีกครั้ง "นี่หนึ่งต้องปลื้มปริ่มจนน้ำตาไหลแล้วไหว้ขอบคุณพี่หรือเปล่าคะที่ยกให้หนึ่งเป็นที่หนึ่งแล้วต้องยิ้มหน้าระรื่นต้อนรับที่สองที่สามที่สี่ที่มันจะเข้ามาใช้ผัวร่วมกับหนึ่ง หนึ่งขอถามหน่อยเถอะค่ะถ้าสมมุติหนึ่งให้พี่เป็นที่หนึ่งบ้างและหนึ่งก็จะมีผู้ชายคนอื่นมาคอยเอาอกเอาใจเพื่อนเติมส่วนที่มันขาดเหลือไป พี่จะโอเคหรือเปล่าคะ แต่หนึ่งว่ามันก็แฟร์ดีนะ พี่ทำได้หนึ่ฃก็ทำได้เหมือนกัน สมัยนี้ผู้หญิงกับผู้ชายมีสิทธิและเสรีภาพเท่าเทียมกันเพราะฉะนั้นหนึ่งก็ไม่จำเป็นต้องแคร์" ไฮโซน้ำหนึ่งพูดท้าทายสามีเต็มที่จนทำให้เขาชุนเฉียวขมวดคิ้วผูกปมแน่นแววตาคู่นั้นเกรี้ยวกราดจนแทบจะฆ่าฟันภรรยาให้ขาดสองท่อน "หนึ่งห้ามทำแบบนั้นเด็ดขาด! ไม่งั้นเราได้เห็นดีกันแน่" "พี่สิงห์ไม่ต้องกลัวหรอกนะคะว่าหนึ่งจะทำพฤติกรรมต่ำๆผิดศีลธรรม ผิดลูกผิดเมียผู้อื่นแบบนั้นเพราะว่าหนึ่งมีความเป็นคนและมีความรู้จักผิดชอบชั่วดีมากพอที่จะแยกแยะได้ว่าสิ่งไหนควรทำ สิ่งไหนไม่ควรทำ" ว่าจบไฮโซน้ำหนึ่งก็ทิ้งความเจ็บช้ำน้ำใจเพราะโดนตอกหน้าไว้กับสามีหนุ่ม จากนั้นก็สะบัดก้นเปิดประตูแล้วปิดดังปังพร้อมกับเข้าไปกระแทกตัวลงนั่งบนเบาะนุ่มในรถสปอร์ตคันหรู ก่อนจะสตาร์ทเครื่องเหยียบสุดไมล์หักเลี้ยวจนเสียงดังเอี๊ยดออกไปจากโรงจอดรถห้างสรรพสินค้าดังทันที "แม้งเอ้ย!!!" ชายหนุ่มสบถด่าอย่างหัวเสีย จากนั้นเขาก็เลยขับรถสปอร์ตของตัวเองออกไปฝากท้องที่บ้านของบิดามารดาซึ่งอยู่ห่างกันประมาณเกือบสิบกิโลเมตร ... @บ้านเดชาวัฒนกุล "ทูนหัวของบ่าว" คุณป้าแจ่มคุณป้าแม่บ้านและแม่นมที่คอยเลี้ยงดูสิงห์ตั้งแต่แบเบาะพุ่งตัวเข้ามาโอบรอบหัวแก้วหัวแหวนด้วยความดีใจ คุณพ่อคุณแม่ไม่เคยมีเวลาเลี้ยงดูเขาสักเท่าไหร่ เนื่องจากต้องไปทำงานทุกๆวันไม่มีหยุดหย่อน ออกตั้งแต่เช้าตรู่ไก่ไม่โห่ยามที่สิงห์ยังไม่ตื่นด้วยซ้ำ...กลับมาก็ดึกดื่นค่ำมืดจนเขานอนหลับเสียแล้ว ทำให้ทั้งวันแทบไม่ได้เจอกันเลยด้วยซ้ำ ฉะนั้นสิงห์จึงรักและให้ความเคารพคุณป้าแจ่มเปรียบเสมือนมารดาอีกคนหนึ่ง "สวัสดีครับป้าแจ่ม คิดถึงป้าแจ่มจังเลย" คำหวานหว่านล้อมที่คุณป้าจะมักจะได้ยินหัวแก้วหัวแหวนพ่นบอกทุกคราวที่ต้องการออดอ้อนหรือแม้กระทั่งทำอะไรผิดมา "มาพูดหวานให้คนแก่ใจอ่อนอีกแล้วนะคะเนี่ย ไปอยู่ที่เมืองนอกเมืองนาเป็นยังไงบ้าง อย่าบอกนะว่าคว้าแม่แหม่มผมทองมานอนด้วยอีกคน" คุณป้าแจ่มชำเลืองตามองชายหนุ่มอย่างจับผิด ทั้งทางบ้านใครเขาก็รู้ว่าสิงห์เป็นคนเจ้าเล่ห์ กะล่อน ปลิ้นปล้อนและเจ้าชู้ควงผู้หญิงเป็นว่าเล่นถึงเพียงใด...ชายหนุ่มเก็บร่างกายอันบอบช้ำและอ่อนแอเต็มทีประคองตัวขึ้นมาบนรถสปอร์ตคันหรูของตนเองในใบหน้าที่แปดเปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตาซบลงบนพวงมาลัยอย่างหมดเรี่ยวแรง...ที่ผ่านมาเขามันโง่งมเอง...เขาทำร้ายผู้หญิงที่รักเขามากที่สุดในชีวิตมาโดยตลอด เธอคิดว่าเธอคือของตาย จะอย่างไรเสียหันกลับไปเมื่อไหร่ก็คงจะเจอ...แต่เปล่าเลยทุกคำพูดและทุกการให้อภัยที่เกิดขึ้นเปอร์เซ็นต์ความศรัทธาและเปอร์เซ็นต์ที่อยากจะอยู่ต่อมันค่อยๆ เลือนหายและลดหลั่นลงไปตามลำดับจนไม่หลงเหลืออยู่เลย...เพิ่งมารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ต้องสูญเสียแล้วไม่สามารถเรียกร้องกลับคืนมาได้อีกยิ่งได้รับรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังศึกษาดูใจกับผู้ชายคนใหม่…มันทำให้ความหวังที่เธอจะให้โอกาสเขาอีกครั้งหนึ่งเริ่มร่อยหรอและค่อยๆ ลดน้อยลงไปทุกทีทุกที“ฮึก!! หนึ่ง พะ...พี่ขอโทษ ขอโทษจริงๆ” สิงห์พูดอย่างติดๆ ขัดๆ พลางเสียงสะอื้นแทรกเข้ามาเป็นระยะๆ ท่าทีแสดงอาการเย็นชาและคำพูดเปิดตัวคนรู้ใจใหม่จากภรรยาสาวแปรเปลี่ยนเป็นอาวุธไร้รูปร่างเชือดเฉือนก้อนเนื้อหัวใจของเขาจนไม่เหลือชิ้นดีจบแล้วใช่ไหม...เจ็บปวดเหลือเกิน...หากขอพรจากฟ้าได้ข้อหนึ่ง...เขาไม่ต้องการเงินทองเป็นร้อยเป็นพั
ท่านเจ้าสัวสุรเดชจะไม่มีวันยอมให้หลานสาวของตัวเองกลับไปอยู่ในวงโคจรนรกแบบนั้นอีกแล้ว! หลานสาวของเขาจะต้องเจอคนที่ดีกว่านี้ เจอคนที่ไม่ทำให้แกต้องเสียใจ เจอคนที่สามารถดูแลและทะนุถนอมความรู้สึก ความรัก ความศรัทธาของแกจริงๆ!“ท่านเจ้าสัว ผมขอเจอหน้าน้ำหนึ่งจะได้ไหมครับ ผมมีเรื่องจะคุยกับน้ำหนึ่ง ผมขอเถอะนะครับท่านเจ้าสัว” สิงห์คุกเข่าลงตรงหน้าท่านเจ้าสัวสุรเดชเพื่อร้องขอความเห็นใจให้เขาเมตตาผู้ชายคนนี้สักนิด...ให้เขาได้มีโอกาสพูดคุยกับน้ำหนึ่งสักหน่อย“ฉันไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาด่าแกจริงๆ ไอ้สิงห์ แกทำให้หลานสาวฉันต้องเสียใจไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ฉันก็ยังออมมือไม่เอาเรื่องเอาราวเพราะน้ำหนึ่งขอเอาไว้! แต่นี่แกมันโง่ แกดันเล่นชู้กับเพื่อนสนิทของหลานสาวฉัน! ฉันไม่ทำให้ชีวิตแกพังก็บุญแค่ไหนล่ะ!! อันที่จริงถ้าฉันจะยึดบริษัทซื้อหุ้นส่วนทั้งหมดให้หลานสาวฉันเป็นคนดูแลบริหารก็ยังได้เลย! นี่ถือว่าฉันยังเห็นแก่คุณปู่ของแก ฉันเลยไว้หน้าอยู่บ้าง นับจากวินาทีนี้เป็นต้นไป ไสหัวไปซะ! อย่ามายุ่งวุ่นวายกับหลานสาวฉันอีกแล้วอย่าหาว่าฉันไม่เตือน” ท่านเจ้าสัวสุรเดชพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่ดูสุขุมนุ่มลึกน่าเก
“ทำไมจะไม่ได้ล่ะคะ”“ก็ผมกลัวว่าผมจะล้ำเส้นน้ำหนึ่งมากเกินไป เราสองคนตอนนี้ก็ยังไม่ได้มีสถานะอะไรนอกจากกำลังคุยๆ คุยดูใจกันอยู่” เขาให้เกียรติน้ำหนึ่ง...เขาไม่อยากทำให้เธอเสื่อมเสียชื่อเสียงและถูกนำไปนินทาเสียๆ หายๆ“ก็ถ่ายในฐานะเพื่อนคนรู้จักหรือคนที่กำลังคุยกันอยู่ก็ได้” ในเมื่อคิดจะเปิดใจแล้วเธอก็ลุยเต็มที่!อย่างว่าเธอเป็นคนทุ่มเทกับความรัก! ตอนรักก็รักและให้ไปสุดใจอย่างไม่คิดจะเผื่อเปอร์เซ็นต์ไว้เจ็บปวด แต่ตอนเลิกเนี่ยสิทรมานจวนเจียนหมดลม!“ดูหัวเราะคิกคักมีความสุขกันมากเลยนะ” เสียงของแขกไม่ได้รับเชิญดังขึ้น “ดูหนึ่งแฮปปี้และเอ็นจอยมากเลยนะคะไม่เหมือนคนที่เพิ่งหย่ากับสามีไปหมาดๆ”แขกไม่ได้รับเชิญคนนั้นนั่นก็คืออดีตสามีห่วยแตก...แต่สภาพสิงห์แทบจะดูไม่เป็นผู้เป็นคนและดูไม่ได้เลยด้วยซ้ำ...ใบหน้าของเขาทรุดโทรมซูบเซียวคล้ายกับคนขาดสารอาหารพร้อมทั้งดวงตาอ่อนล้ารอบๆ หมองคล้ำอย่างกับอดหลับอดนอนมาเป็นระยะเวลาหลายคืน...“สวัสดีค่ะคุณสิงห์” น้ำหนึ่งยังคงให้เกียรติเขาเช่นเดิม“สวัสดีครับคุณสิงห์” นนทกานต์เองก็สวัสดีผู้ที่มีอาวุโสกว่าเขา เนื่องจากเขาอายุไล่เลี่ยกับน้ำหนึ่ง...ห่างกันเพียงแค่สอ
@สามเดือนผ่านไปในส่วนของสิงห์ได้รับผลกระทบจากการกระทำของตัวเองพอสมควร...นั่นก็คือถูกปลดออกจากตำแหน่งประธานคณะกรรมการบริหารบริษัทยักษ์ใหญ่! เนื่องจากทำความเสื่อมเสียชื่อเสียงมาจนถึงบริษัทจนลูกค้าเกิดความไม่ไว้วางใจและขุ่นเคืองใจเป็นอย่างมากกับพฤติกรรมของเขาจึงมีคนยกเลิกออเดอร์กันไปเป็นขบวน สร้างความเสียหายหลายล้าน ทั้งยังถูกประนามจากสังคมผ่านโลกโซเชียลวิเคราะห์ถึงนิสัยใจคอที่ไม่สามารถรับได้ จะไปจะมาที่ไหนก็ล้วนมีแต่คนซุบซิบนินทา...แต่ก็ได้ข่าวว่าเขาชอบชีวิตอิสระของตัวเอง จะทำอะไร จะไปที่ไหนก็ไม่ต้องแคร์ใคร! สิงห์ที่คั่วผู้หญิงเป็นว่าเล่น เข้าผับทุกคืนซ้ำยังได้ผู้หญิงติดไม้ติดมือมาล้วนงานดีทั้งนั้น! นี่มันสวรรค์ที่เขาใฝ่หาชัดๆ! ข่าวลือหนาหูพาดหัวข่าวจากหนังสือพิมพ์และโลกโซเชียลกระหน่ำไม่เว้นวัน...บ้างก็ข่าวกับดาราคนนู้น บ้างก็ข่าวกับนางเอกคนนี้ บ้างก็เขากับไฮโซคนนั้น...ส่วนชะเอมเองก็ได้รับผลกระทบไม่แพ้กัน หล่อนถูกวิพากษ์วิจารณ์หนักมาก ถูกตัดช่องทางการทำมาหากินทุกอย่างจนแทบจะต้องมุดหัวอยู่ในกระดองเพราะไม่กล้าออกไปเผชิญหน้ากับสังคม เนื่องจากโดนด่า โดนว่าจนอับอายขายขี้หน้า บางวันก็เล่นใ
น้ำหนึ่งเหยียดยิ้มอย่างชั่วร้ายชำเลืองตามองเพื่อนสนิทที่พร้อมจะเหยียบย่ำเธอให้จมดินสลับกับอดีตสามีเฮงซวยซึ่งคิดทำร้ายทั้งจิตใจและความรู้สึกเธอสารพัด“หนึ่ง...” สิงห์ส่ายศีรษะเพื่อห้ามปรามให้เธอหยุดพูด เพราะในตอนนี้เขาแทบไม่เหลือศักดิ์ศรีให้ยืนหยัดในแท่นผู้บริหารได้อย่างมีเกียรติแล้วแต่มันกลับเปล่าประโยชน์...“หนึ่งจับได้ว่าพี่สิงห์มีผู้หญิงคนอื่นค่ะ” กล่าวประโยคนี้จบเสียงฮือฮาซุบซิบนินทาก็เริ่มหนาหูขึ้น ส่วนเพื่อนสนิทเธอนั้นเมื่อรู้ตัวว่าไฟใกล้จะลามมาถึงขาตนก็ทำทีท่าจะก้าวย่องออกไปอย่างเงียบๆ ทว่าอันนาไหวตัวทันก็เลยรั้งแขนหล่อนเอาไว้“จะไปไหนเหรอเพื่อนรัก?” คนอย่างชะเอมคบไม่ได้ ฉะนั้นอันนาก็ไม่มีเหตุผลจำเป็นอะไรที่ต้องเก็บเอาไว้ ต่อให้คบหารู้จักกันมานานตั้งแต่สมัยเรียนเรียน แต่นั่นมันก็เป็นเครื่องช่วยย้ำเตือนอีกอย่างหนึ่งว่าเวลาไม่ได้ช่วยขัดเกลาทำให้จิตใจคนสูงส่งขึ้นมาได้เลยหากวันหนึ่งหล่อนทำอะไรที่ไม่เข้าตาชะเอมเข้า ชะเอมก็คงจะใช้มูลเหตุนั้นชักจูงให้ตัวเองกระทำความผิดแล้วใส่ไม่ยั้งกับหล่อนเหมือนที่กระทำกับน้ำหนึ่งแน่นอน“โดยปกติแล้วคุณสิงห์ก็มีผู้หญิงคนอื่นอยู่เรื่อยไม่ใช่เหรอคะ?”
“หนึ่ง...”“พี่สิงห์รีบเซ็นเถอะค่ะ เราจะได้ไม่ต้องมาเสียเวลานั่งอยู่ตรงนี้นานมาก เพราะหนึ่งมีธุระต้องไปทำต่อ” น้ำหนึ่งเลื่อนเอกสารไปตรงหน้าของสิงห์ซ้ำยังใช้ประโยคบีบบังคับให้เขาลงลายมือชื่อโดยเร็ว“...” สิงห์ค่อนข้างลังเล ภายในหัวใจมันวูบวาบร้อนรุ่มอย่างบอกไม่ถูก ความรู้สึกหนึ่งก็อยากเซ็นให้จบๆ เพื่อคืนอิสรภาพให้แก่ตนเองหลังจากนี้จะได้คั่วผู้หญิงอย่างตามใจโดยไม่ต้องแคร์สายตาคนอื่น แต่อีกใจหนึ่งก็รู้สึกเสียดายเธออยู่ไม่ใช่น้อย...อยู่ด้วยกัน คุยกัน ทำความรู้จักกันมาตั้งนาน หากวันหนึ่งน้ำหนึ่งไปมีผู้ชายคนอื่นจริงๆ เขาจะต้องทำตัวอย่างไรนะ?น้ำหนึ่งทั้งสวย เพียบพร้อม ฉลาด มีคุณสมบัติครบด้านซะขนาดนี้เธอจะมีผู้ชายอีกสักกี่ร้อยกี่พันคนที่คัดเลือกเข้ามาอยู่ในวงโคจรก็ยังได้เลย...ของของเขา ของที่เขาเคยสัมผัสทุกกระเบียดนิ้วในเรือนร่างนี้ ในอีกไม่ช้ามันอาจจะต้องกลายเป็นคนอื่นมาซ้ำรอยแค่คิดก็จุกอก!!!เขาอยากให้น้ำหนึ่งเป็นของเขาเพียงแค่คนเดียว! แต่...เขาจะมีผู้หญิงอีกสักกี่คนก็ย่อมได้ นี่คงเป็นความคิดของคนที่เห็นแก่ตัวสินะ...แต่เขาไม่อยากเสียน้ำหนึ่งไปให้ใครจริงๆ น้ำหนึ่งเป็นของเขา เป็นผู้หญิงของส
“ฮือ” เธอเข้าไปกอดท่านเจ้าสัวสุรเดชซ้ำเป็นครั้งที่สอง “เจ็บ...เจ็บเหลือเกินค่ะคุณปู่ หนึ่งทั้งรัก ทั้งดูแลและจงรักภักดีต่อพี่สิงห์มาโดยตลอด มอบให้เขาเป็นโลกทั้งใบแต่เขากลับทำกับหนึ่งแบบนี้...ต่อให้เขามีพวกผู้หญิงคนอื่นอีกสักร้อยสักพันคนหนึ่งก็ไม่รู้สึกจุกอกเท่าที่เห็นเขากำลัง...อยู่กับเพื่อนหนึ่ง เขาทำแบบนี้กับหนึ่งได้ยังไงอ่ะ”มันเป็นความรู้สึกสูญเสียทั้งเพื่อนสนิทและคนรักในเวลาเดียวกัน...ทั้งสองคนคือคนที่เธอรัก คือคนที่เธอไว้ใจแต่กลับมาหักหลังทรยศแล้วเล่นกันเองเสียอย่างนั้น...“เพราะไอ้สาระเลวนั่นมันหน้าตัวเมียไง หนึ่งโชคดีแล้วหลานที่ออกมาได้ ต่อจากนี้ชีวิตของหลานจะมีแต่ความสุข ความสงบสุขและเจริญก้าวหน้าไปเรื่อยๆ หลานจะเจอคนที่เขารักหลานได้มากกว่านี้ หลานจะเจอคนที่เขาพร้อมพอในการดูแลหลาน ในการรักหลานและไม่ทำให้หลานเสียใจเหมือนผู้ชายคนนี้อีก หลานสาวของปู่ทั้งสวย ทั้งเก่งขนาดนี้ ผู้ชายดีๆ เพอร์เฟคยังมีอีกเยอะที่รอต่อแถวกดบัตรคิวกันเป็นขบวน” สิ่งที่ท่านเจ้าสัวสุรเดชกล่าวออกมานั้นล้วนเป็นความจริง...ตั้งแต่ที่ไฮโซน้ำหนึ่งเปลี่ยนโฉมปรับลุคการแต่งตัวก็มีชายหลายคนทั้งไฮโซ ทั้งเซเลบ ทั้งดารา
“โอ๊ย!!” เสียงโอดโอยของสิงห์ร้องดังขึ้นเมื่อเพื่อนสนิทอย่างกระทิงจิ้มจุ่มสำลีลงบนบาดแผลบริเวณมุมปากของเขาอย่างแรง “เจ็บนะเว้ยไอ้กระทิง”“สมน้ำหน้า!! ทำอะไรโง่ๆ นะมึงเนี้ย แล้วก็ลำบากกูกับไอ้เหยี่ยวต้องมานั่งเป็นเพื่อนมึงตีสองตีสามขนาดนี้” กระทิงล่ะเหลืออดกับเพื่อนคนนี้เสียจริง“ก็กูเดือดร้อนจริงๆ นี่!” เดือดร้อนจริงหรือเดือดร้อนเล่นๆ ก็ให้สังเกตจากใบหน้าอันหล่อเหลาที่เดิมทีเคยมีสง่าราศีของสิงห์ตัวพ่อคาสโนว่าระดับประเทศ แต่ทว่าตอนนี้มันถูกประดับประดาด้วยรอยจ้ำแดงๆ ที่มีเลือดสีแดงสดไหลซิบ ทั้งหัวคิ้ว กราม โหนกแก้มทั้งซ้ายขวา มุมปาก แล้วไหนจะรอยช้ำบริเวณแขนและขาหลายจุดอีกด้วย!ก็ไอ้รอยบ้าๆ พวกนี้เกิดขึ้นตอนที่เขาขับรถออกมาจากผับได้ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงหลังจากที่น้ำหนึ่งหายตัวไปนั่นแหละ...และมั่นคงจะเป็นฝีมือใครไปไม่ได้นอกเสีย...“ก็มึงเล่นไปทำกับหลานท่านเจ้าสัวซะขนาดนั้น นี่เขาไว้ชีวิตมึงก็บุญหัวแล้วไอ้สิงห์! เอาจริงมึงนี่ไม่น่าชื่อสิงห์เลยนะ ทั้งนิสัยทั้งสันดานเหี้ยชัดๆ” กระทิงกล่าวอย่างชัดถ้อยชัดคำไม่ได้แลดูเห็นอกเห็นใจเพื่อนสนิทเลยแม้แต่น้อย“ไอ้กระทิง!!”“ก็กูพูดความจริงนี่หว่า ที่ผ่านม
เรือนร่างบางระหงวิ่งลงมาจากชั้นล่างของผับด้วยสภาพใบหน้าแปดเปื้อนหยาดน้ำตาโดยได้ยินเสียงเรียกร้องของสิงห์ตามหลังมาติดๆตุ้บ!! น้ำหนึ่งชนเข้ากับใครสักคน สายตาเล็กค่อยๆ แหงนขึ้นไปมองหน้าเขาแล้วรีบกล่าวคำขอโทษ“ขอโทษค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ”“หนึ่ง!! หนึ่ง!!!”ผู้ชายรูปหล่อเหลา ใบหน้าคมเข้มราวกับเทพบุตรที่ถูกวาดโดยพู่กันแต่งแต้มสีสันลงบนกระดาษร้อยปอนด์ด้วยช่างฝีมือดีระดับโลก คิ้วเป็นคิ้ว ปลายจมูกสันโด่งรับกับริมฝีปากที่มีสีสันสดใสคล้ายกับได้รับการแต่งแต้มด้วยลิปสติก“!!” เขาไหวตัวทันรีบดึงตัวร่างบางมาหลบเอาไว้แนบประชิดแผงอกแกร่งกำยำ ชำเลืองมองดูว่าสิงห์ผ่านออกไปจนแลไม่เห็นแล้วจึงค่อยๆ ผละออก“คุณหนีผู้ชายคนนั้นเหรอครับ?”“คุณช่วยพาฉันออกไปจากที่นี่ทีจะได้ไหมคะ” เธอไม่อยากพบหน้าใครทั้งนั้นแม้กระทั่งคีรินหรืออันนา แต่จะให้ทำอย่างไรในเมื่อเธอวิ่งออกมาตัวเปล่าไม่ได้หยิบแม้กระทั่งกระเป๋าสะพายที่ถูกบรรจุกุญแจรถเอาไว้ติดไม้ติดมือด้วย“ครับ” เขาไม่ปฏิเสธ..@ทะเลทั้งสองแล่นรถออกมาไกลพอสมควรจนถึงชายหาดแถบพัทยาใกล้ๆ กับกรุงเทพฯ ร่างบางถอนหายใจเฮือกใหญ่ทิ้งตัวลงบนหาดทรายขาวทอดมองทะเลอันกว้างขวางในยามค่