"โหห ป้าครับ ว่าแต่คุณแม่อยู่หรือเปล่าครับวันนี้ผมอยากจะขอมาฝากท้องด้วยคน" พูดพร้อมกับชูนิ้วชี้ขึ้นมาตั้งตระหง่านเพื่อส่งเสริมอริยาบทภาพประกอบคำพูดของตัวเอง
"อยู่ค่ะ วันนี้คุณผู้หญิงลงครัวทำอาหารด้วยตัวเองเลย" "ครับ งั้นเดี๋ยวผมขอตัวไปหาคุณแม่ก่อนนะครับ" สิงห์จุมพิตซ้ายขวาที่พวงแก้มนุ่มยืดหยุ่นของคุณป้าแจ่มสลับกันเพื่อเป็นการอำลา ก่อนที่จะเดินเข้าไปในตัวบ้านขนาดใหญ่พร้อมกับยกฝ่ามือขึ้นเสยผมแบบลวกๆ ภายในห้องครัวอบอวลไปด้วยกลิ่นอาหารหอมโชยลอยขึ้นมาแตะปลายจมูกพร้อมกับปรากฏควันสีเทาหม่นแกมขาวฟุ้งกระจาย "สวัสดีครับคุณแม่" สองมือยกประนมแล้วก้มไหว้จนศีรษะแทบจรดกับหัวเข่า "ไง กลับมาแล้วหรือไง" นี่คือคำทักทายแรกที่ได้ยินจากริมฝีปากของมารดา "ครับ กลับมาตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็น" "มาคนเดียว?" นุช หรือ กนกนุชประธานสมาคมอนุรักษ์พันธุ์ไม้ไทยเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของคุณก้องเกียรติหุ้นส่วนบริษัทจำหน่ายอาหารหมาชื่อดัง ซ้ำยังเป็นที่นับหน้าถือตาของเราในแวดวงสังคมไฮโซพวกคุณหญิงคุณนายอีกด้วย "ครับ" น่าเบื่อหน่ายของลูกชายหล่อนก็พอจะเดาออกว่าเกิดจากสาเหตุอะไร ก็แม่ภรรยาตัวดีนั่นน่ะสิ! กนกนุชชอบลูกสะใภ้คนนั้นเสียจริง ทั้งเงียบ เซ่อร์ จืดชืด ไร้รสนิยม ไม่มีอะไรคู่ควรกับตำแหน่งนี้เลยสักนิดแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ก็เลยต้องจำใจรับอย่างกัดฟันฝืน "หึ! ทะเลาะกับเมียมาล่ะสิท่า" "น้ำหนึ่งเปลี่ยนไปมากเลยครับแม่ แม่รู้หรือเปล่า" สีหน้าครุ่นเครียดของลูกชายทำให้กนกนุชหรี่ตามองเขาด้วยความแปลกใจ "ฉันไม่ได้ใส่ใจเรื่องเมียแกเท่าไหร่หรอกไร้สาระ" กนกนุชไหวไหล่ตอบ "ฉันก็บอกแกแล้วว่ารีบๆหาทางหย่ากับแม่นั่นซะ หนูพรฟ้าลูกสาวของคุณหญิงพรสวรรค์รองประธานสมาคมอนุรักษ์พันธุ์ไม้ไทยทั้งเพียบพร้อม รูปสวย กิริยาวาจาน่ามองไม่อืดจืดชืดและที่สำคัญเรียนจบปริญญาโทจากต่างประเทศ" นี่คืองานอดิเรกอย่างหนึ่งของคุณหญิงกนกนุช นั่นก็คือหาเมียและยัดเยียดให้กับลูกชาย! ช่างสอด ช่างยุพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้ผัวเมียแตกหักกัน "จะให้ผมทำอย่างนั้นได้ไงล่ะครับแม่ ท่านเจ้าสัวคงได้ส่งคนมาหักคอหรือตัดหนทางทำมาหากินผมน่ะสิ" ใครๆเขาก็รู้ว่าท่านเจ้าสัวคุณปู่ของไฮโซน้ำหนึ่งมีอิทธิพลและอำนาจมากแค่ไหน เขาคงไม่โง่ลงไปเล่นกับไฟหรอก! แม้นที่ผ่านมาจะแอบลักกินขโมยกินเก็บเล็กผสมน้อยหาเศษหาเลยไปบ้างแต่ก็ยังพอให้อภัยได้เพราะเมียช่วยเอาไว้ แต่คราวนี้! หึ! ตายกับตายสถานเดียวเท่านั้น น้ำหนึ่งคงไม่ยอมแน่ๆ หนำซ้ำเวอร์ชั่นใหม่นี้ยิ่งบีบบังคับให้เขาทำอะไรต่อมิอะไรยากขึ้นอีกด้วย "แกก็ทำให้แม่นั่นทนไม่ได้แล้วออกไปจากชีวิตแกเองสิ ฉลาดทุกเรื่องแต่ทำไมเรื่องแค่นี้คิดไม่ได้ โง่!" กนกนุชมองค้อนลูกชายด้วยความเหลืออด แต่จะให้เขาเลิกและหย่าขาดกับน้ำหนึ่งหัวใจมันก็หน่วงแปลกๆ...จริงอยู่ที่น้ำหนึ่งตอบสนองความต้องการทางด้านเพศตรงข้ามหรือเซ็กซ์ให้กับเขาไม่ได้ดีเท่ากับนางบำเรอคนอื่น ทว่าทุกครั้งที่เขากลับมาเหนื่อยๆก็จะมีเธอคอยช่วยดูแล ไม่ว่าจะเป็นทำอาหาร ป้อนข้าวป้อนยา เช็ดตัว แทบจะกลายเป็นสาวใช้ส่วนตัวไปเลยก็ว่าได้ "ครับ แล้วนี่มีอะไรพิเศษหรือเปล่าทำไมวันนี้แม่ถึงได้ลงครัวทำอาหารด้วยตัวเอง?" ปกติกนกนุชแทบจะไม่เคยจับตะหลิวหรือมีดเพื่อหั่นผักเลยสักครั้ง อาหารที่ใช้ประทังชีวิตสิ่งตั้งแต่เด็กจนโตป่านนี้ก็ล้วนเป็นฝีมือของคุณป้าแจ่มทั้งสิ้น "ตะเสือ อยากกินยำปลาดุกฟูของโปรดฉันก็เลยต้องลงครัวเองนี่ไง" น้ำเสียงของกนกนุชดูอ่อนลงกว่าเมื่อครู่เป็นไหนๆเมื่อพูดถึงลูกชายคนโตซึ่งเป็นหัวแก้วหัวแหวน เขามีบุตรชายสองคน คนโตชื่อเสือ ณัฐชนน เดชาวัฒนกุล อายุ 35 ปี ปัจจุบันเป็นเจ้าของสนามรถแข่งที่โด่งดังและมีชื่อเสียงอันดับต้นๆของเมืองไทย ได้แต่งงานกับพรรุ้ง บุตรสาวคนโตของคุณหญิงพรสวรรค์รองประธานชมรมอนุรักษ์พันธุ์ไม้ไทยเมื่อสามปีที่แล้ว ส่วนคนเล็กนั่นก็คือสิงห์ "ครับ วันนี้ผมจะมาฝากท้องที่นี่ด้วยคนนะครับ" ว่าจบสิงห์ก็เดินออกไปรอด้านนนอก ... "เดินดีๆนะคะ" เขาแหงนหน้าขึ้นไปมองตามเสียงอ่อนหวานที่ดังมาจากบันไดด้านบน ทอดปรากฏเห็นภาพคู่รักชายหนุ่มคู่หนึ่งกำลังเดินประคองกันมาด้านล่างด้วยท่าทีสนิทสนมรักใคร่ "เอ้า! ไอ้สิงห์ มาตั้งแต่เมื่อไหร่วะ" "มาเมื่อเห็น" เสือและสิงห์ไม่ถูกคอ ไม่ลงรอยกันมาตั้งแต่ไหนแต่ไรเพราะเคยแอบชอบผู้หญิงคนเดียวกันนั่นก็คือ พรรุ้ง จำได้ว่าตอนนั้นเขาสู้สุดใจ พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อครอบครองแต่สุดท้ายแล้วเมื่อเขาไม่ได้เป็นผู้ถูกเลือก ก็ต้องยินยอมเดินออกไปแต่โดยดี "เอ้าไอ้นี่! แล้วเมียมึงเป็นยังไงบ้าง" "ก็สบายดี" "สวัสดี สิงห์สบายดีนะ" สิงห์และพรรุ้งเคยเป็นเพื่อนร่วมรุ่นเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาด้วยกันมาก่อน เขาตามจีบหล่อนตั้งแต่ใส่กระโปรงจีบรอบจนกระทั่งเปลี่ยนเป็นทรงเอ ท้ายสุดก็ไม่สามารถก้าวขาข้ามผ่านกำแพงคำว่าเพื่อนได้ "อืม" เขามองหน้าอดีตเพื่อนแล้วค่อยๆตามลงมาทอดเห็นเนินหน้าท้องนูนผ่านชุดคลุมสีชมพูลายดอกเดซี่แลดูน่ารัก เธอท้อง! ท้องลูกของไอ้เสือ ตอนท้องแรกที่ทำให้ทั้งสองต้องมาร่วมหัวจมท้ายกันก็ดันลื่นล้มในห้องน้ำจนแท้ง...ต้องขูดมดลูกรักษาตัวอยู่นานเกือบปี "มากินข้าวกันเถอะลูก อาหารเสร็จเรียบร้อยแล้วนะ" กนกนุชตะโกนเสียงเรียกบอก ทำให้ทั้งสามคนละความสนใจจากกันแล้วเดินเข้าไปในห้องโถง บรรยากาศบนโต๊ะอาหารของเที่ยงวันนี้เต็มไปด้วยความอึมครึมเงียบเชียบจนน่าขนหัวลุก คงจะมีแค่สองสามีภรรยาเสือและพรรุ้งที่นั่งสวีทหวานโดยไม่เกรงใจสายตาอำมหิตของสิงห์เลยสักนิด "ทำไมไม่พาเมียแกมาด้วยล่ะตะสิงห์" คุณก้องเกียรติผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชายคนรองด้วยความสงสัย "น้ำหนึ่งไม่ว่างครับ" "แกก็เพลาเพลาลงบ้างเรื่องผู้หญิงเนี่ย หัดเกรงใจแล้วไว้หน้าท่านเจ้าสัวหน่อย อย่าทำให้เขาต้องโมโหประเดี๋ยวบริษัทเราจะแย่" คุณก้องเกียรติรักและเอ็นดูสะใภ้คนรองเป็นพิเศษเพราะตกแต่งเข้ามาอย่างถูกต้องตามประเพณี เข้าตามตรอกออกตามประตูไม่ใช่รอให้ท้องป่องก่อนแล้วค่อยไปสู่ขอเหมือนหนูพรรุ้งจนทำให้พ่อแม่เขาต้องมาแหกอกถึงบ้าน "จะไปอะไรนักหนา ท่านเจ้าสัวเองก็ไว้หน้าเราเหมือนกันนั่นแหละ ถ้าเกิดลูกชายเราไม่แต่งงานกับหลานสาวท่านก็คงไม่มีใครเอา จืดชืด น่าเบื่อขนาดนั้นคงได้ขึ้นคานแน่ๆ" คุณกนกนุชขัด หล่อนอยากจะได้หนูพรฟ้าบุตรสาวคนเล็กของคุณหญิงพรสวรรค์มาเป็นสะใภ้รองมากกว่า! "สู้หนูพรฟ้าของฉันไม่ได้เลยสักนิด" "คุณป้ากำลังพูดถึงฟ้าอยู่หรือเปล่าคะ" จู่ๆพรฟ้าก็ปรากฏตัวเข้ามาในห้องโถง ในสภาพที่กำลังสวมเดรสกระโปรงระบายพริ้วประมาณเข่าพร้อมทั้งสะพายกระเป๋าแบรนด์ดัง หล่อนแต่งหน้าอ่อนๆด้วยเครื่องสำอางชั้นดีรับกับผมยาวสลวยสีน้ำตาลดำถึงกลางบ่าสร้างเสน่ห์ในตัวหญิงสาวได้ดีเยี่ยม พรฟ้า เป็นน้องสาวของพรรุ้ง สะใภ้คนโตในตระกูลเดชาวัฒนกุล ปัจจุบันนี้อายุยี่สิบหกปีห่างจากผู้เป็นพี่สาวเพียงเจ็ดปีเท่านั้น "หนูพรฟ้าา" กนกนุชลากเสียงยาว "สวัสดีค่ะคุณลุง คุณป้า พี่เสือ พี่สิงห์ พี่พรรุ้ง วันนี้ฟ้าแวะเอาขนมคุกกี้เจ้าประจำมาฝากคุณป้าค่ะ" พรฟ้าพูดพร้อมกับหย่อนสะโพกลงนั่งบนเก้าอี้ข้างๆสิงห์ "โห อาหารบนโต๊ะหน้าตารับประทานทั้งนั้นเลยค่ะ เที่ยงนี้ฟ้าขอมาฝากท้องที่นี่ได้ด้วยหรือเปล่าคะ". "ได้เลยสิลูก วันนี้ป้าลงแรงทำกับข้าวด้วยตัวเองเลยนะ" กนกนุชยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ "ป้าแจ่ม ไปเอาจานมาให้คุณพรฟ้าหน่อย" "ฟ้าต้องขอกราบขอบพระคุณคุณป้ามากเลยนะคะที่ให้ฟ้ามาร่วมรับประทานอาหารเที่ยงในวันนี้ด้วย ดูพร้อมหน้าพร้อมตาเลยเชียว" พรฟ้าเป็นคนแพรวพราวพูดจามีเสน่ห์จึงสามารถดึงดูดสายตรงข้ามได้ไม่ยาก "ไม่ต้องเกรงใจเลยจ้ะ หนูพรฟ้าเป็นน้องสาวของหนูพรรุ้งสะใภ้คนโตของป้าก็เท่ากับว่าเป็นลูกสาวป้าอีกคนนั่นแหละ" นี่แหละเป้าหมายของกนกนุช แถมวันนี้ก็บังเอิญเสียจริง...คุณก้องเกียรติรู้สึกปวดหลังจึงลาป่วยหนึ่งวัน คุณกนกนุชก็ไม่เข้าสมาคมอนุรักษ์พันธุ์ไม้ไทยเพราะลูกชายหัวแก้วหัวแหวนพาเมียมาพักที่บ้านก็เลยอยากจะดูแลคอยต้อนรับ ส่วนสิงห์ก็ดันแห้วจากพรีมมี่และมีปากเสียงกับภรรยาขอฝากท้องที่นี่! ทุกอย่างลงตัวราวกับเตี๊ยมมา!ชายหนุ่มเก็บร่างกายอันบอบช้ำและอ่อนแอเต็มทีประคองตัวขึ้นมาบนรถสปอร์ตคันหรูของตนเองในใบหน้าที่แปดเปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตาซบลงบนพวงมาลัยอย่างหมดเรี่ยวแรง...ที่ผ่านมาเขามันโง่งมเอง...เขาทำร้ายผู้หญิงที่รักเขามากที่สุดในชีวิตมาโดยตลอด เธอคิดว่าเธอคือของตาย จะอย่างไรเสียหันกลับไปเมื่อไหร่ก็คงจะเจอ...แต่เปล่าเลยทุกคำพูดและทุกการให้อภัยที่เกิดขึ้นเปอร์เซ็นต์ความศรัทธาและเปอร์เซ็นต์ที่อยากจะอยู่ต่อมันค่อยๆ เลือนหายและลดหลั่นลงไปตามลำดับจนไม่หลงเหลืออยู่เลย...เพิ่งมารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ต้องสูญเสียแล้วไม่สามารถเรียกร้องกลับคืนมาได้อีกยิ่งได้รับรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังศึกษาดูใจกับผู้ชายคนใหม่…มันทำให้ความหวังที่เธอจะให้โอกาสเขาอีกครั้งหนึ่งเริ่มร่อยหรอและค่อยๆ ลดน้อยลงไปทุกทีทุกที“ฮึก!! หนึ่ง พะ...พี่ขอโทษ ขอโทษจริงๆ” สิงห์พูดอย่างติดๆ ขัดๆ พลางเสียงสะอื้นแทรกเข้ามาเป็นระยะๆ ท่าทีแสดงอาการเย็นชาและคำพูดเปิดตัวคนรู้ใจใหม่จากภรรยาสาวแปรเปลี่ยนเป็นอาวุธไร้รูปร่างเชือดเฉือนก้อนเนื้อหัวใจของเขาจนไม่เหลือชิ้นดีจบแล้วใช่ไหม...เจ็บปวดเหลือเกิน...หากขอพรจากฟ้าได้ข้อหนึ่ง...เขาไม่ต้องการเงินทองเป็นร้อยเป็นพั
ท่านเจ้าสัวสุรเดชจะไม่มีวันยอมให้หลานสาวของตัวเองกลับไปอยู่ในวงโคจรนรกแบบนั้นอีกแล้ว! หลานสาวของเขาจะต้องเจอคนที่ดีกว่านี้ เจอคนที่ไม่ทำให้แกต้องเสียใจ เจอคนที่สามารถดูแลและทะนุถนอมความรู้สึก ความรัก ความศรัทธาของแกจริงๆ!“ท่านเจ้าสัว ผมขอเจอหน้าน้ำหนึ่งจะได้ไหมครับ ผมมีเรื่องจะคุยกับน้ำหนึ่ง ผมขอเถอะนะครับท่านเจ้าสัว” สิงห์คุกเข่าลงตรงหน้าท่านเจ้าสัวสุรเดชเพื่อร้องขอความเห็นใจให้เขาเมตตาผู้ชายคนนี้สักนิด...ให้เขาได้มีโอกาสพูดคุยกับน้ำหนึ่งสักหน่อย“ฉันไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาด่าแกจริงๆ ไอ้สิงห์ แกทำให้หลานสาวฉันต้องเสียใจไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ฉันก็ยังออมมือไม่เอาเรื่องเอาราวเพราะน้ำหนึ่งขอเอาไว้! แต่นี่แกมันโง่ แกดันเล่นชู้กับเพื่อนสนิทของหลานสาวฉัน! ฉันไม่ทำให้ชีวิตแกพังก็บุญแค่ไหนล่ะ!! อันที่จริงถ้าฉันจะยึดบริษัทซื้อหุ้นส่วนทั้งหมดให้หลานสาวฉันเป็นคนดูแลบริหารก็ยังได้เลย! นี่ถือว่าฉันยังเห็นแก่คุณปู่ของแก ฉันเลยไว้หน้าอยู่บ้าง นับจากวินาทีนี้เป็นต้นไป ไสหัวไปซะ! อย่ามายุ่งวุ่นวายกับหลานสาวฉันอีกแล้วอย่าหาว่าฉันไม่เตือน” ท่านเจ้าสัวสุรเดชพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่ดูสุขุมนุ่มลึกน่าเก
“ทำไมจะไม่ได้ล่ะคะ”“ก็ผมกลัวว่าผมจะล้ำเส้นน้ำหนึ่งมากเกินไป เราสองคนตอนนี้ก็ยังไม่ได้มีสถานะอะไรนอกจากกำลังคุยๆ คุยดูใจกันอยู่” เขาให้เกียรติน้ำหนึ่ง...เขาไม่อยากทำให้เธอเสื่อมเสียชื่อเสียงและถูกนำไปนินทาเสียๆ หายๆ“ก็ถ่ายในฐานะเพื่อนคนรู้จักหรือคนที่กำลังคุยกันอยู่ก็ได้” ในเมื่อคิดจะเปิดใจแล้วเธอก็ลุยเต็มที่!อย่างว่าเธอเป็นคนทุ่มเทกับความรัก! ตอนรักก็รักและให้ไปสุดใจอย่างไม่คิดจะเผื่อเปอร์เซ็นต์ไว้เจ็บปวด แต่ตอนเลิกเนี่ยสิทรมานจวนเจียนหมดลม!“ดูหัวเราะคิกคักมีความสุขกันมากเลยนะ” เสียงของแขกไม่ได้รับเชิญดังขึ้น “ดูหนึ่งแฮปปี้และเอ็นจอยมากเลยนะคะไม่เหมือนคนที่เพิ่งหย่ากับสามีไปหมาดๆ”แขกไม่ได้รับเชิญคนนั้นนั่นก็คืออดีตสามีห่วยแตก...แต่สภาพสิงห์แทบจะดูไม่เป็นผู้เป็นคนและดูไม่ได้เลยด้วยซ้ำ...ใบหน้าของเขาทรุดโทรมซูบเซียวคล้ายกับคนขาดสารอาหารพร้อมทั้งดวงตาอ่อนล้ารอบๆ หมองคล้ำอย่างกับอดหลับอดนอนมาเป็นระยะเวลาหลายคืน...“สวัสดีค่ะคุณสิงห์” น้ำหนึ่งยังคงให้เกียรติเขาเช่นเดิม“สวัสดีครับคุณสิงห์” นนทกานต์เองก็สวัสดีผู้ที่มีอาวุโสกว่าเขา เนื่องจากเขาอายุไล่เลี่ยกับน้ำหนึ่ง...ห่างกันเพียงแค่สอ
@สามเดือนผ่านไปในส่วนของสิงห์ได้รับผลกระทบจากการกระทำของตัวเองพอสมควร...นั่นก็คือถูกปลดออกจากตำแหน่งประธานคณะกรรมการบริหารบริษัทยักษ์ใหญ่! เนื่องจากทำความเสื่อมเสียชื่อเสียงมาจนถึงบริษัทจนลูกค้าเกิดความไม่ไว้วางใจและขุ่นเคืองใจเป็นอย่างมากกับพฤติกรรมของเขาจึงมีคนยกเลิกออเดอร์กันไปเป็นขบวน สร้างความเสียหายหลายล้าน ทั้งยังถูกประนามจากสังคมผ่านโลกโซเชียลวิเคราะห์ถึงนิสัยใจคอที่ไม่สามารถรับได้ จะไปจะมาที่ไหนก็ล้วนมีแต่คนซุบซิบนินทา...แต่ก็ได้ข่าวว่าเขาชอบชีวิตอิสระของตัวเอง จะทำอะไร จะไปที่ไหนก็ไม่ต้องแคร์ใคร! สิงห์ที่คั่วผู้หญิงเป็นว่าเล่น เข้าผับทุกคืนซ้ำยังได้ผู้หญิงติดไม้ติดมือมาล้วนงานดีทั้งนั้น! นี่มันสวรรค์ที่เขาใฝ่หาชัดๆ! ข่าวลือหนาหูพาดหัวข่าวจากหนังสือพิมพ์และโลกโซเชียลกระหน่ำไม่เว้นวัน...บ้างก็ข่าวกับดาราคนนู้น บ้างก็ข่าวกับนางเอกคนนี้ บ้างก็เขากับไฮโซคนนั้น...ส่วนชะเอมเองก็ได้รับผลกระทบไม่แพ้กัน หล่อนถูกวิพากษ์วิจารณ์หนักมาก ถูกตัดช่องทางการทำมาหากินทุกอย่างจนแทบจะต้องมุดหัวอยู่ในกระดองเพราะไม่กล้าออกไปเผชิญหน้ากับสังคม เนื่องจากโดนด่า โดนว่าจนอับอายขายขี้หน้า บางวันก็เล่นใ
น้ำหนึ่งเหยียดยิ้มอย่างชั่วร้ายชำเลืองตามองเพื่อนสนิทที่พร้อมจะเหยียบย่ำเธอให้จมดินสลับกับอดีตสามีเฮงซวยซึ่งคิดทำร้ายทั้งจิตใจและความรู้สึกเธอสารพัด“หนึ่ง...” สิงห์ส่ายศีรษะเพื่อห้ามปรามให้เธอหยุดพูด เพราะในตอนนี้เขาแทบไม่เหลือศักดิ์ศรีให้ยืนหยัดในแท่นผู้บริหารได้อย่างมีเกียรติแล้วแต่มันกลับเปล่าประโยชน์...“หนึ่งจับได้ว่าพี่สิงห์มีผู้หญิงคนอื่นค่ะ” กล่าวประโยคนี้จบเสียงฮือฮาซุบซิบนินทาก็เริ่มหนาหูขึ้น ส่วนเพื่อนสนิทเธอนั้นเมื่อรู้ตัวว่าไฟใกล้จะลามมาถึงขาตนก็ทำทีท่าจะก้าวย่องออกไปอย่างเงียบๆ ทว่าอันนาไหวตัวทันก็เลยรั้งแขนหล่อนเอาไว้“จะไปไหนเหรอเพื่อนรัก?” คนอย่างชะเอมคบไม่ได้ ฉะนั้นอันนาก็ไม่มีเหตุผลจำเป็นอะไรที่ต้องเก็บเอาไว้ ต่อให้คบหารู้จักกันมานานตั้งแต่สมัยเรียนเรียน แต่นั่นมันก็เป็นเครื่องช่วยย้ำเตือนอีกอย่างหนึ่งว่าเวลาไม่ได้ช่วยขัดเกลาทำให้จิตใจคนสูงส่งขึ้นมาได้เลยหากวันหนึ่งหล่อนทำอะไรที่ไม่เข้าตาชะเอมเข้า ชะเอมก็คงจะใช้มูลเหตุนั้นชักจูงให้ตัวเองกระทำความผิดแล้วใส่ไม่ยั้งกับหล่อนเหมือนที่กระทำกับน้ำหนึ่งแน่นอน“โดยปกติแล้วคุณสิงห์ก็มีผู้หญิงคนอื่นอยู่เรื่อยไม่ใช่เหรอคะ?”
“หนึ่ง...”“พี่สิงห์รีบเซ็นเถอะค่ะ เราจะได้ไม่ต้องมาเสียเวลานั่งอยู่ตรงนี้นานมาก เพราะหนึ่งมีธุระต้องไปทำต่อ” น้ำหนึ่งเลื่อนเอกสารไปตรงหน้าของสิงห์ซ้ำยังใช้ประโยคบีบบังคับให้เขาลงลายมือชื่อโดยเร็ว“...” สิงห์ค่อนข้างลังเล ภายในหัวใจมันวูบวาบร้อนรุ่มอย่างบอกไม่ถูก ความรู้สึกหนึ่งก็อยากเซ็นให้จบๆ เพื่อคืนอิสรภาพให้แก่ตนเองหลังจากนี้จะได้คั่วผู้หญิงอย่างตามใจโดยไม่ต้องแคร์สายตาคนอื่น แต่อีกใจหนึ่งก็รู้สึกเสียดายเธออยู่ไม่ใช่น้อย...อยู่ด้วยกัน คุยกัน ทำความรู้จักกันมาตั้งนาน หากวันหนึ่งน้ำหนึ่งไปมีผู้ชายคนอื่นจริงๆ เขาจะต้องทำตัวอย่างไรนะ?น้ำหนึ่งทั้งสวย เพียบพร้อม ฉลาด มีคุณสมบัติครบด้านซะขนาดนี้เธอจะมีผู้ชายอีกสักกี่ร้อยกี่พันคนที่คัดเลือกเข้ามาอยู่ในวงโคจรก็ยังได้เลย...ของของเขา ของที่เขาเคยสัมผัสทุกกระเบียดนิ้วในเรือนร่างนี้ ในอีกไม่ช้ามันอาจจะต้องกลายเป็นคนอื่นมาซ้ำรอยแค่คิดก็จุกอก!!!เขาอยากให้น้ำหนึ่งเป็นของเขาเพียงแค่คนเดียว! แต่...เขาจะมีผู้หญิงอีกสักกี่คนก็ย่อมได้ นี่คงเป็นความคิดของคนที่เห็นแก่ตัวสินะ...แต่เขาไม่อยากเสียน้ำหนึ่งไปให้ใครจริงๆ น้ำหนึ่งเป็นของเขา เป็นผู้หญิงของส
“ฮือ” เธอเข้าไปกอดท่านเจ้าสัวสุรเดชซ้ำเป็นครั้งที่สอง “เจ็บ...เจ็บเหลือเกินค่ะคุณปู่ หนึ่งทั้งรัก ทั้งดูแลและจงรักภักดีต่อพี่สิงห์มาโดยตลอด มอบให้เขาเป็นโลกทั้งใบแต่เขากลับทำกับหนึ่งแบบนี้...ต่อให้เขามีพวกผู้หญิงคนอื่นอีกสักร้อยสักพันคนหนึ่งก็ไม่รู้สึกจุกอกเท่าที่เห็นเขากำลัง...อยู่กับเพื่อนหนึ่ง เขาทำแบบนี้กับหนึ่งได้ยังไงอ่ะ”มันเป็นความรู้สึกสูญเสียทั้งเพื่อนสนิทและคนรักในเวลาเดียวกัน...ทั้งสองคนคือคนที่เธอรัก คือคนที่เธอไว้ใจแต่กลับมาหักหลังทรยศแล้วเล่นกันเองเสียอย่างนั้น...“เพราะไอ้สาระเลวนั่นมันหน้าตัวเมียไง หนึ่งโชคดีแล้วหลานที่ออกมาได้ ต่อจากนี้ชีวิตของหลานจะมีแต่ความสุข ความสงบสุขและเจริญก้าวหน้าไปเรื่อยๆ หลานจะเจอคนที่เขารักหลานได้มากกว่านี้ หลานจะเจอคนที่เขาพร้อมพอในการดูแลหลาน ในการรักหลานและไม่ทำให้หลานเสียใจเหมือนผู้ชายคนนี้อีก หลานสาวของปู่ทั้งสวย ทั้งเก่งขนาดนี้ ผู้ชายดีๆ เพอร์เฟคยังมีอีกเยอะที่รอต่อแถวกดบัตรคิวกันเป็นขบวน” สิ่งที่ท่านเจ้าสัวสุรเดชกล่าวออกมานั้นล้วนเป็นความจริง...ตั้งแต่ที่ไฮโซน้ำหนึ่งเปลี่ยนโฉมปรับลุคการแต่งตัวก็มีชายหลายคนทั้งไฮโซ ทั้งเซเลบ ทั้งดารา
“โอ๊ย!!” เสียงโอดโอยของสิงห์ร้องดังขึ้นเมื่อเพื่อนสนิทอย่างกระทิงจิ้มจุ่มสำลีลงบนบาดแผลบริเวณมุมปากของเขาอย่างแรง “เจ็บนะเว้ยไอ้กระทิง”“สมน้ำหน้า!! ทำอะไรโง่ๆ นะมึงเนี้ย แล้วก็ลำบากกูกับไอ้เหยี่ยวต้องมานั่งเป็นเพื่อนมึงตีสองตีสามขนาดนี้” กระทิงล่ะเหลืออดกับเพื่อนคนนี้เสียจริง“ก็กูเดือดร้อนจริงๆ นี่!” เดือดร้อนจริงหรือเดือดร้อนเล่นๆ ก็ให้สังเกตจากใบหน้าอันหล่อเหลาที่เดิมทีเคยมีสง่าราศีของสิงห์ตัวพ่อคาสโนว่าระดับประเทศ แต่ทว่าตอนนี้มันถูกประดับประดาด้วยรอยจ้ำแดงๆ ที่มีเลือดสีแดงสดไหลซิบ ทั้งหัวคิ้ว กราม โหนกแก้มทั้งซ้ายขวา มุมปาก แล้วไหนจะรอยช้ำบริเวณแขนและขาหลายจุดอีกด้วย!ก็ไอ้รอยบ้าๆ พวกนี้เกิดขึ้นตอนที่เขาขับรถออกมาจากผับได้ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงหลังจากที่น้ำหนึ่งหายตัวไปนั่นแหละ...และมั่นคงจะเป็นฝีมือใครไปไม่ได้นอกเสีย...“ก็มึงเล่นไปทำกับหลานท่านเจ้าสัวซะขนาดนั้น นี่เขาไว้ชีวิตมึงก็บุญหัวแล้วไอ้สิงห์! เอาจริงมึงนี่ไม่น่าชื่อสิงห์เลยนะ ทั้งนิสัยทั้งสันดานเหี้ยชัดๆ” กระทิงกล่าวอย่างชัดถ้อยชัดคำไม่ได้แลดูเห็นอกเห็นใจเพื่อนสนิทเลยแม้แต่น้อย“ไอ้กระทิง!!”“ก็กูพูดความจริงนี่หว่า ที่ผ่านม
เรือนร่างบางระหงวิ่งลงมาจากชั้นล่างของผับด้วยสภาพใบหน้าแปดเปื้อนหยาดน้ำตาโดยได้ยินเสียงเรียกร้องของสิงห์ตามหลังมาติดๆตุ้บ!! น้ำหนึ่งชนเข้ากับใครสักคน สายตาเล็กค่อยๆ แหงนขึ้นไปมองหน้าเขาแล้วรีบกล่าวคำขอโทษ“ขอโทษค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ”“หนึ่ง!! หนึ่ง!!!”ผู้ชายรูปหล่อเหลา ใบหน้าคมเข้มราวกับเทพบุตรที่ถูกวาดโดยพู่กันแต่งแต้มสีสันลงบนกระดาษร้อยปอนด์ด้วยช่างฝีมือดีระดับโลก คิ้วเป็นคิ้ว ปลายจมูกสันโด่งรับกับริมฝีปากที่มีสีสันสดใสคล้ายกับได้รับการแต่งแต้มด้วยลิปสติก“!!” เขาไหวตัวทันรีบดึงตัวร่างบางมาหลบเอาไว้แนบประชิดแผงอกแกร่งกำยำ ชำเลืองมองดูว่าสิงห์ผ่านออกไปจนแลไม่เห็นแล้วจึงค่อยๆ ผละออก“คุณหนีผู้ชายคนนั้นเหรอครับ?”“คุณช่วยพาฉันออกไปจากที่นี่ทีจะได้ไหมคะ” เธอไม่อยากพบหน้าใครทั้งนั้นแม้กระทั่งคีรินหรืออันนา แต่จะให้ทำอย่างไรในเมื่อเธอวิ่งออกมาตัวเปล่าไม่ได้หยิบแม้กระทั่งกระเป๋าสะพายที่ถูกบรรจุกุญแจรถเอาไว้ติดไม้ติดมือด้วย“ครับ” เขาไม่ปฏิเสธ..@ทะเลทั้งสองแล่นรถออกมาไกลพอสมควรจนถึงชายหาดแถบพัทยาใกล้ๆ กับกรุงเทพฯ ร่างบางถอนหายใจเฮือกใหญ่ทิ้งตัวลงบนหาดทรายขาวทอดมองทะเลอันกว้างขวางในยามค่