Beranda / รักโบราณ / หงส์เหนือพันธการ / บทที่ ๒/๑ ไร้ประโยชน์

Share

บทที่ ๒/๑ ไร้ประโยชน์

Penulis: KUNNUK
last update Terakhir Diperbarui: 2025-05-10 08:13:27

     อวี่คือแซ่ อักษรเหมยท้ายชื่อมาจากวันที่นางเกิดนั้นมีดอกเหมยบานสะพรั่งทั่วแผ่นดิน อักษรตัวสำคัญคือคำว่าเทียน ไหนเลยจะมาจากผู้อื่น เป็นเขาผู้นั้น องค์รัชทายาทโม่เทียนอวี่ อักษรเทียนนี้ ฮ่องเต้พระราชทานให้แก่นาง พร้อมพระราชโองการระบุสัญญาหมั้นหมายที่มาเยือนถึงหน้าจวนตระกูลอวี่

     สัญญาหมั้นหมายแตกต่างอย่างไรกับการผูกมัด ใคร ๆ ก็ว่าเป็นเรื่องมงคลยิ่ง มงคลอย่างไรกัน...แตกต่างจากพันธการอย่างไรหรือ อักษรเทียนกลางชื่อของอวี่เทียนเหมย ก็เป็นดังรับสั่งจากสวรรค์ ให้นางยึดเขาเป็นศูนย์กลางของชีวิต

     โม่เทียนอวี่ไท่จื่อ ‘ชีวิตของหม่อมฉันไม่เคยได้ใช้เพื่อตนเอง ล้วนแต่เพื่อพระองค์ทั้งสิ้น’ ไม่ชอบไม่ว่า ไม่เคยปรารถนาให้รัก...แต่มาหยามเกียรตินางต่อหน้าผู้คนมากมาย ไม่ละอายใจบ้างหรือ ตัวเป็นบุรุษกลับรังแกสตรีด้วยวาจา เขาอายุนับปีนี้ได้ยี่สิบสองปี มากกว่านางถึงห้าปี

     เด็กน้อยอายุห้าปี...อ่านตำรารู้ภาษาคนแล้ว ตรงข้ามกับนางซึ่งยังเป็นทารกน้อยนอนอยู่ในห่อผ้า

     หากไม่ยินดี เหตุใดจึงไม่ปฏิเสธด้วยตนเองตั้งแต่ยามนั้น ปล่อยเวลาล่วงเลยผันผ่าน จนถอยหลังกลับไม่ได้เพื่อสิ่งใด!

     องค์รัชทายาทโม่เทียนอวี่ พญามัจจุราชแห่งต้าเฉวียน สมยานามนี้ได้มาเพราะความโหดเหี้ยม กล่าวกันว่า...เขาฆ่าคนได้โดยไม่กระพริบตา เขาไปอยู่สนามรบตั้งแต่อายุหกขวบท่ามกลางสมรภูมิเดือด กลับวังหลวงครั้งแรกเมื่อเจ็ดวันที่แล้ว

     แม้จะถูกเรียกขานว่าเป็นพญามัจจุราช เขากลับเป็นที่รักของประชาชนคนในแคว้นต้าเฉวียน เพราะทุกหัวที่เขาตัด....ล้วนเป็นหัวของข้าศึกศัตรู

     สิบหกปีที่เขาอยู่สนามรบ อวี่เทียนเหมยแม้จะเป็นสตรี แต่นางเข้าใจดียิ่ง สนามรบหาใช่วังหลวงหรือสรวงสวรรค์ ไม่น่าอภิรมย์เลยแม้แต่น้อย

     เพราะเข้าใจ จึงไม่ได้คาดหวัง ในหนึ่งวันเขาอยู่กับดาบมากกว่าคน พบหน้าคนยามมีศึก ฝ่ายเดียวกันละเว้น ฝ่ายตรงข้ามเข่นฆ่า ไม่ได้ปรารถนาให้เขาต้องใจในตัวนางแต่ยามแรกพบเจอ

     ทว่า…ไม่คิดเลย จะกล่าววาจาทำร้ายใจกันรุนแรงได้ถึงเพียงนี้

     อวี่เทียนเหมยคิดว่าตนเองเข้าใจไม่ผิด ทั้งเขาและฝ่าบาท มีหรือจะไม่รับรู้ว่านางยืนอยู่ด้านนอกประตูกับเสิ่นกงกง

     ฝ่าบาทอวี่เทียนเหมยคาดเดาพระทัยได้ ทรงอยากให้นางได้ยินทุกคำของเขา เขาคิดเห็นเช่นไร นางจะได้รับรู้ หากเขาชื่นชม ทรงตรัสบอกนางได้ แต่หากเขาไม่ชอบใจ...จะให้ผู้เป็นใหญ่แสร้งทำเสมือนไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นก็ไม่ได้ ไม่บอกก็ไม่ได้ บอกก็ไม่ได้

     ส่วนเขา เจตนาแจ่มแจ้งอยากให้นางรู้สำนึกตน

     ไม่เหมาะสม ไม่คู่ควร เขาจึงยินยอม ทว่าไม่ขอยินดี  

     เคยเห็นหน้าเขาเพียงแค่ในภาพวาด ไม่คาดหวังให้เขารักนางมากมาย รู้ว่าคุณสมบัติของเขาทำให้สตรีทั้งหลายหมายปอง เขาจึงลำพองตนเช่นนี้เขาเก่งรอบด้าน ไร้เทียมทานเหนือใครเทียบเคียง บู๊หรือบุ๊นล้วนมีผลงานประจักษ์ชัดเป็นพยาน เรื่องราวของเขาถูกบอกเล่ากล่อมเกลาเป็นคำสั่ง ให้รับรู้ว่าต้องประพฤติตนดีพร้อมเพื่อคู่ควรจะเคียงคู่

     เรียกได้ว่าทั้งชีวิตของนาง อวี่เทียนเหมยใช้เพื่อเขา...เพื่อเขาเท่านั้นหาใช่คนอื่น...พันธะซึ่งผูกกันไว้ ต่างก็ควรเห็นใจกันไม่ใช่หรือ ใต้หล้านี้มีผู้ใดไม่รับรู้บ้าง นางเป็นและต้องเป็นของเขาเพียงผู้เดียว

     แบกอักษรคำว่าเทียนในชื่อ มากกว่าแบกชื่อเสียงของตระกูลเสียอีก !

     ขุนเขาไม่เปลี่ยนตามนาง นางจึงต้องเปลี่ยนตามขุนเขา ไม่ตามใจตนแต่ตามใจเขา คาดไม่ถึงว่าเขาจะขว้างแผ่นเหล็กมาให้นางเตะถูกเสียได้[1]

     หากไม่ชื่นชอบนาง ถึงขั้นเกลียดชังรังเกียจ แล้วเหตุใดจึงไม่ปฏิเสธ เขาย่อมรู้...ต้องรู้อยู่แล้วว่านางคือคู่หมั้น ฝ่าบาททรงรักใคร่เขามากเพียงใด ใต้หล้ารับรู้ หากเขาไม่ปรารถนา มีหรือฝ่าบาทจะกล้าขัดใจ

     สิบเจ็ดปียาวนานเสียจนอวี่เทียนเหมยล่วงเลยพลาดผ่านการแต่งงานครั้งแรกตามช่วงอายุ หากเขาไม่มีความตั้งใจว่าจะแต่งกับนาง พูดออกมาเลยเสียดีกว่า ไม่ใช่พูดก่อนพบหน้าไม่ถึงสองเค่อ[2]

     อวี่เทียนเหมยเข้าใจ รักหามีได้ในวังหลวง เพราะรักคือจุดอ่อน!

     ต้องผูกผมร่วมกันอย่างไม่มีข้อยกเว้น ยามฮ่องเต้ตรัสถามว่านางจะตามเขามาหรือกลับจวน ผิวเผินเป็นเพียงคำถาม แท้จริงแล้วเป็นรับสั่งให้ทำตาม

     ต้องพูดกันให้รู้เรื่อง ปฏิเสธครึ่ง ๆ กลาง ๆ ให้นางคลางใจในตนเอง ไม่ใช่เรื่องดีเลย นางถอยไม่ได้แล้ว หรือต่อให้ถอยได้ ชีวิตต่อไปในภายภาคหน้านางจะทำอย่างไร บุรุษใดจะกล้ามาสู่ขอนางต่อจากเขา คงไม่พ้นต้องไปบวชชีเข้าอารามเป็นแน่! เห็นทีคนจะได้ขำกันทั่วใต้หล้า อีกร้อยปีก็ไม่กล้าสู้หน้าผู้คน

     ทั้งหมดนี้ที่ทำ ทุกความพยายาม ถามว่านางรักเขาหรือก็ไม่ใช่ จะรักได้อย่างไร แม้แต่หน้าก็ไม่เคยเห็น!

     ปฏิเสธไม่ได้ ไม่ทำตามก็ไม่ได้ ผู้น้อยอย่างนาง มีหรือจะกล้าขวางทางมังกร มีแต่ต้องเดินตามคำสั่ง หัวไปทางไหน หางไปทางนั้น !

     จำเป็นต้องเป็นไท่จื่อเฟยหรือไม่ จำเป็นอย่างยิ่ง! หากไม่ใช่ไท่จื่อเฟย แล้วนางจะอดทนเพื่อสิ่งใดกันเล่า หากนางไร้วาสนา แล้วโชคชะตาให้ความหวังแก่นางกับครอบครัวเพื่อสิ่งใด!

     รับรู้ทั่วกันทั้งต้าเฉวียน บุตรีคนรองของจวนตระกูลอวี่ คือว่าที่ไท่จื่อเฟย ตัดผลกระทบของนางออกไป ผลกระทบต่อคนในครอบครัวก็ยังเหลืออยู่ หน้าที่การงานของน้องชาย คู่ชีวิตของน้องสาว บ่าวรับใช้ในจวน ชีวิตพวกเขาจะดีหรือร้าย ล้วนอยู่กับนาง บิดามารดานับวันแก่เฒ่า ซ้ำยังไร้ตระกูลหนุนหลัง ขึ้นหลังเสือแล้ว รู้ดีว่าหากทรงตัวไม่ได้จนตกลงไปจะมีบาดแผลใหญ่เจ็บเจียนตาย คำครหามากมายพุ่งเป้าหมายเข้ามาถาโถมใส่ เจ็บที่สุดไม่ใช่ใครแต่เป็นตัวของนาง...

[1] ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย กลับถูกปฏิเสธและถูกตำหนิ

[2] ๑ เค่อ เท่ากับ ๑๕ นาที

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • หงส์เหนือพันธการ   บทที่ ๑๖/๔ ไม่ง่ายเลย

    “นางคนชั้นต่ำ อย่ามาเสนอหน้า” อวี่เหวินตวาดเสียงดังลั่น เขาเงื้อมือขึ้นสูง เดินตรงไปหาสตรีทั้งสอง สาวใช้ของอวี่เทียนเหมย ต้องถูกสั่งสอนเสียบ้าง “หยุดการกระทำของท่านเดี๋ยวนี้” อวี่เทียนเหมยนั้น ชีวิตนี้นางไม่เคยขึ้นเสียงกับใคร แต่พอได้เห็นท่าทีของพี่ใหญ่แล้วไม่อาจทน ซูผิงเป็นคนของนาง ไม่ว่าใครก็ไม่อาจมาหยามเกียรติของซูผิงได้ อวี่เหวินชะงักค้าง ท่าทางของเหมยเหมย ดูทรงอำนาจอย่างน่าแปลก เท้าหยุดก้าวโดยพลันทันที เขาไม่เคยเห็นเหมยเหมยเป็นเช่นนี้มาก่อน อนิจจา…พอได้ชื่อว่าเป็นสตรีของไท่จื่อ มีหยางลู่ไทเฮาอยู่เบื้องหลัง อวดดีได้ถึงเพียงนี้เชียวหรือ ‘น่าชังจนหลงใหล’ อวี่เหวินอารมณ์เปลี่ยนไปมา ในใจเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวเย็น อยู่ ๆ เขาก็หอบหายใจแรงขึ้น จ้องหน้าอวี่เทียนเหมยไม่วางตา คิดว่าครั้งนี้เกินไปแล้ว อวี่เทียนเหมยดันซูผิงให้ไปอยู่ด้านหลัง สาวใช้ขืนตัวไม่ยินยอม แต่ไม่อาจขัดขืนคำสั่ง ซูผิงจึงยอมถอย แต่สาวใช้ยังตั้งท่าระวังภัย ไม่ยอมวางใจ “หากท่านไม่มีเกียรติ ก็อย่าคิดว่าคนอื่นจะไม่มีเกียรติดังเช่นท่าน” อวี่เทียนเหมยแววตาวาวโรจน์ด้วยความโกรธ นางไม่อา

  • หงส์เหนือพันธการ   บทที่ ๑๖/๓ ไม่ง่ายเลย

    ‘เสี่ยวซาน…’ อวี่หลางซานกลับมาแล้ว พอนึกขึ้นได้ อวี่เทียนเหมยก็เหมือนจะเห็นทางสว่างรออยู่เบื้องหน้า น้องชายของนางเป็นทหารในกองทัพ มีตำแหน่งไม่น้อย ย่อมต้องมีเส้นสายและมุมมองที่กว้างไกลกว่านาง อวี่เทียนเหมยคิดว่าเรื่องหนักอึ้งในใจของนางนี้ สามารถเล่าให้เสี่ยวซานฟังได้ เผื่อว่าน้องชายจะมีทางออกที่นางคิดไม่ถึงมาแนะนำ บิดาเกรงใจพี่ใหญ่มาก อวี่เทียนเหมยไม่เห็นด้วยในข้อนี้ ไม่ดีส่วนไม่ดี เอาความดีมาลบล้างไม่ได้ แต่บุญคุณถือเป็นเรื่องใหญ่สำหรับท่านพ่อ พี่ใหญ่นั้นบิดาของเขาสละชีวิต เพื่อท่านพ่อของอวี่เทียนเหมย ในอดีตก่อนท่านพ่อจะพบกับท่านแม่ ท่านพ่ออาศัยอยู่ที่สำนักศึกษาเก่า ต่อมาสำนักศึกษาเกิดไฟไหม้ เพื่อให้ท่านพ่อรอด บิดาของพี่ใหญ่ยอมสละชีวิตตายอยู่ในกองเพลิง ฝากฝังพี่ใหญ่ไว้กับท่านพ่อ บุญคุณมากล้น แค้นชำระแค้นด้วยชีวิตฉันใด บุญคุณชีวิตทดแทนด้วยชีวิตฉันนั้น บิดาถือเป็นหน้าที่ ชีวิตนี้ต้องดูแลพี่ใหญ่ให้ดี นับตั้งแต่วันนั้น หลังจากบิดาสอบจอหงวนได้ที่หนึ่ง ก็ขอสมรสพระราชทานจากฝ่าบาท แต่งงานสร้างฐานะร่วมกับมารดา รับเลี้ยงพี่ใหญ่ให้เป็นบุตรบุญธรรม พี่ใหญ่อายุมา

  • หงส์เหนือพันธการ   บทที่ ๑๖/๒ ไม่ง่ายเลย

    เอาเถิด…อย่างไรก็ได้สมรสพระราชทาน ได้ตำแหน่งไท่จื่อเฟยมาแล้ว นี่จึงถือเป็นเรื่องสำคัญ ใจไม่แน่นอน ตำแหน่งแน่นอน อวี่เทียนเหมยยามนี้ได้ชื่อว่าเป็นคนของหยางลู่ไทเฮา สุดท้ายแล้วต่อให้เขาไม่รักนางมากเพียงใด เขาก็จะไม่กล้าผิดใจกับไทเฮา คิดปลอบใจตนเองว่า ชีวิตจะยึดติดกับรักอย่างเดียวไม่ได้! “พี่รอง!” เสียงเรียกดังขึ้นขัดความคิด อวี่เทียนเหมยหันไปหาต้นเสียง อวี่ไฉฟงกำลังเดินจับมือบิดามารดามาที่โต๊ะกินข้าว อวี่เทียนเหมยส่ายศีรษะให้กับน้องสาว อวี่ไฉฟงเป็นคนช่างออดอ้อน ชอบทำตัวเป็นเด็กตลอดเวลา แต่แน่นอนว่าในสายตาของคนในครอบครัว แล้ว พฤติกรรมนี้ถือว่าน่ารัก! อวี่ไฉฟงแซ่อวี่ เป็นบุตรสาวตระกูลอวี่ อยู่ในจวนอยากทำกิริยาอย่างไรตามใจปรารถนา แต่ยามออกไปนอกจวน ต้องรักษากิริยาดีไม่แพ้ผู้ใด เรื่องราวระหว่างวันถูกถ่ายทอดเล่าให้กันฟัง ช่วยสร้างเสียงหัวเราะได้มากมายในมื้ออาหาร คนตระกูลอวี่รักใคร่กัน ข้อนี้รู้ไปทั่วเมืองหลวง แต่อยู่ ๆ ซูผิงวิ่งหน้าตั้งเข้ามาหา เห็นสีหน้าสาวใช้ก็รู้ได้ทันทีว่า มีเรื่องสำคัญมาบอก อวี่เทียนเหมยไม่เข้าใจเหมือนกัน ในหนึ่งวันนั้น

  • หงส์เหนือพันธการ   บทที่ ๑๖/๑ ไม่ง่ายเลย

    สองสามวันมานี้ จวนตระกูลอวี่คึกคักมากกว่าปกติ แขกมาเยี่ยมเยือนที่จวนหลายคนแบบไม่ซ้ำหน้า ระบุเจาะจงแทบทุกคนเสียด้วยว่า ต้องการพบอวี่เทียนเหมย สถานการณ์ไม่แน่นอน คนใจโลเลจะชอบเกาะหงส์เกาะมังกร[1] เอาใจไม่เลือกหน้า เผื่อว่ายามที่เดือดร้อนขึ้นมา แผ่นดินแบ่งแยกเมื่อใด จะได้มีข้ออ้างไว้เอาตัวรอด ต้าเฉวียนแบ่งออกเป็นสองฝั่งอย่างชัดเจน ขุนนางซึ่งไร้ที่พึ่งทั้งหลาย ยามนี้เข้าหาทุกฝั่ง เดินสวนกันจ้าละหวั่น ไปจวนนั้นจวนนี้ จวนตระกูลอวี่จึงต้องรับแขกมากหน่อย เพราะประกาศของหยางลู่ไทเฮา คนมาเยี่ยมเยือนมากเพียงใดก็ตาม ในใจไร้ความยินดี แต่ก่อนพบหน้าไม่สบตา ยามนี้มาส่งยิ้ม ‘ความจริงใจหาไม่ได้’ ยิ่งมากคนยิ่งต้องระวัง จะรับของขวัญก็ต้องถี่ถ้วน ล้วนมีปัญหาสอดไส้มาได้ทั้งสิ้น อวี่เทียนเหมยกลัวเกิดความผิดพลาดขึ้น อย่างไรนางก็ถือว่าเป็นม้าใหม่ในสนามรบ ยังไม่กล้ารับแขกด้วยตนเองแต่เพียงผู้เดียว จึงยกหน้าที่นี้ให้ตกเป็นของบุพการี บิดามารดารับแขกแทนบุตรสาวจนเหนื่อยอ่อน หมดแรงในทุกวัน ตกเข้ายามค่ำคืนมา อวี่เทียนเหมยลงมือเคี่ยวน้ำแกงใส่สมุนไพรบำรุงร่างกาย ทำอาหารมากมาย แทนคำขอบคุณ จ

  • หงส์เหนือพันธการ   บทที่ ๑๕/๕ จดจำไว้ว่า เจ้าหาใช่ตระเกียงไร้น้ำมัน

    ส่วนนาง… อวี่เทียนเหมยขอไม่เชื่อ คิดในแง่ดีทั้งที่ความจริงเป็นแง่ร้าย ตระกูลอวี่จะมีหงส์สองตัวได้อย่างไร ในเมื่อหงส์ตัวแรกที่หมายถึงนาง เดินมายังไม่ถึงครึ่งเส้นทาง ก็ดูจะพบทางตันไปต่อไม่ได้แล้ว ไม่รู้จะเอาอย่างไรกับชีวิตกันแน่! ท่านพ่อท่านแม่นั่งอยู่ไม่ไกล ตระกูลอวี่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิด มีลำดับขั้นได้ถวายของขวัญในตอนท้าย อวี่เทียนเหมยรีบลุกขึ้น เมื่อมองเห็นว่ามารดาส่งสายตามาเป็นสัญญาณเรียก เมื่อตระกูลอวี่ถวายพระพรไทเฮาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาถึงคราวของอวี่เทียนเหมย เจียถิงและซูถิงเดินตามมาเพื่อถือภาพวาดขนาดเท่าตัวคนให้ สาวใช้ยืนคนละฝั่ง กางภาพวาดออกมาเห็นเป็นภาพวิวทิวทัศน์ อวี่เทียนเหมยสังเกตพระพักตร์หยางลู่ไทเฮา นางมียิ้มละมุนบนใบหน้า เมื่อเห็นร่องรอยของความความพอพระทัย ปรากฎอยู่เต็มพระพักตร์ นางกราบทูลไทเฮาเสียงดัง “ชีวิตของเหมยเหมย นอกจากบิดามารดา หม่อมฉันมีฝ่าบาทและไทเฮาเป็นผู้มีพระคุณ ภาพวาดผืนนี้ หม่อมฉันวาดด้วยใจที่สำนึกรู้ ซาบซึ้งในพระเมตตา คำอวยพรใดในใต้หล้า หม่อมฉันไม่กล้าเอื้อนเอ่ย ด้วยว่าไทเฮาทรงเป็นมงคลยิ่งแล้ว” หยางลู่ไทเฮาทอด

  • หงส์เหนือพันธการ   บทที่ ๑๕/๔ จดจำไว้ว่า เจ้าหาใช่ตระเกียงไร้น้ำมัน

    มู่ฮองเฮาเก็บโทสะไว้ในพระทัยไม่แสดงออก องค์หญิงหยางลู่อิงฮวา เพราะมีนิสัยเสียเช่นนี้ ต่อให้เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ในการเป็นชายาของเสี่ยวหยาง มู่ฮองเฮาก็ขอปฏิเสธ หัวแข็งจนน่าชัง ทั้งยังควบคุมยากเกินไป! การแสดงขลุ่ย แม้จะมีข้อผิดพลาด แต่ว่าองค์หญิงหยางลู่อิงฮวากลับได้รับพระราชทานรางวัลจากไทเฮามากกว่าใคร เพราะเหตุผลใดใครจะรู้ดีเท่าหยางลู่ไทเฮา “เสียงขลุ่ยขององค์หญิงไพเราะมากเพคะ” อวี่เทียนเหมยรีบเอ่ยทันทีที่องค์หญิงเสด็จกลับมา อีกฝ่ายยักไหล่ “ขอบคุณคำชมที่จริงใจของท่าน” อวี่เทียนเหมยชะงักค้าง องค์หญิงรับมือได้ยากยิ่ง ต่อมาได้ยินเสียงหัวเราะจากเจ้าตัว จึงค่อยวางใจว่าเมื่อครู่โดนแกล้ง “หากเจ้าไม่อาย ก็ควรสงสารหูคนฟังบ้างเถิด” เสียงนี้ดังมาจากทางด้านหลัง สตรีสองนางที่นั่งข้างกันหันหน้าไปมอง คนหนึ่งหันหน้าหนี ส่วนอีกคนเบ้ปากใส่ผู้มาใหม่ทันที งานเลี้ยงครั้งนี้จัดขึ้นบนเรือ ไม่มีที่นั่งชัดเจนเหมือนงานเลี้ยงที่วังหลวง หยางลู่ไทเฮามีพระประสงค์อยากให้ทุกคนผ่อนคลาย ไม่เคร่งครัดพิธีมากจนเกินไป ใครปรารถนาจะนั่งที่ใดก็ตามแต่ใจ จึงมีคนเดินขวักไขว่ไปมาค่อนข้างม

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status