تسجيل الدخولภาระอันยิ่งใหญ่...ยากปฏิเสธ
-------------------
สุราชสั่งให้สาวน้อยของเขาเฝ้าอัญชนาไว้ไม่ให้เธอออกจากห้องน้ำ ตัวเขาเดินออกไปยังลานจอดรถ ไปที่รถเพื่อหยิบผ้าห่มผืนน้อยมาให้เธอห่อตัวออกไป
“ผมเอาผ้าห่มมาให้...ห่อตัวซะ” น้ำเสียงของเขาดูสงสารเธออยู่บ้าง
เขาสั่งสาวน้อยพาอัญชนาออกมายืนรอที่หน้าคลับ เขาจะขับรถมารับ
“นิ...พาเธอมารอตรง...หน้าคลับ”
“นางทำให้พวกเรายุ่งยาก...วุ่นวายจริงๆ” นางบ่นพึมพำใส่หน้าอัญชนา
สุราชขับรถไปตามแผนที่ที่เขาขอให้เธอส่งให้เขาที่ไลน์
“ใกล้ถึงบอกด้วย...ผมจะชะลอ”
“ค่ะ... บ้านหลังในสุดด้านซ้าย” เขาเริ่มชะลอรถให้ค่อยคลานเข้าไปจอดหน้าประตูรั้ว อัญชนากดรีโมต เธอขออนุญาตลงรถ สาวน้อยหน้าหวานจึงเปิดประตูลงไปก่อนที่จะให้อัญชนาก้าวออกไป
“ฝันดีนะครับ... ฝากบอกคุณพ่อคุณแม่ด้วยว่า ผมขอโทษ” เขาหันหน้ามาตะโกนบอกเบาๆ
“ค่ะ...” หญิงสาวเดินเข้าประตูบ้านไปอย่างห่อเหี่ยวใจ
“อ้าว...ไปทำอะไรกัน ทำไมเอาผ้าห่อตัวมา” แม่อัญญาเข้ามากอดลูกสาวตบหลังเบาๆ
“ไม่มีอะไรค่ะ คนไม่ดีลวนลามหนู” เธอบอกแม่เสียงสั่น
“เขารึ... แย่นะนายคนนี้”
“ไม่ใช่ค่ะ... พวกที่เมาในคลับนั้นค่ะ”
“ขึ้นไปอาบน้ำ...นอนซะลูก ตัวสั่นขนาดนี้” แม่อัญญาพาลูกสาวไปที่ห้องนอน
“พรุ่งนี้คุยกันนะ... หนูเพลียเหลือเกิน” หัวใจเธอตอนนี้เต็มไปความรันทด ท้อแท้อย่างไม่เคยเป็นเช่นนี้
อัญชนาเดินเข้าห้องนอน ปล่อยให้แม่อัญญาเก็บเอาเรื่องวันนี้ของเธอที่ไปพบกับชายหนุ่มไปคิดทั้งคืน
‘เฮ้อ... สงสารยัยอัญ ถ้าบริษัทของเราไม่ถูกหุ้นส่วนโกง ลูกคงไม่ต้องไปยุ่งกับผู้ชายคนนี้’
อัญญานึกถึงคำพูดของกังสดาลเพื่อนสมัยเรียนมัธยมด้วยกัน เธออยากให้บริษัทของพ่อสามีเข้ามาบริหารจัดการหนี้ให้ เธอได้ปรึกษากับวิชพันธ์สามีแล้วว่า สหพันธ์กรุ๊ปจะเข้ามาซื้อกิจการ โดยให้สุราชลูกชายของสุพจน์ ซึ่งเป็นลูกผู้น้องสายย่าศรีนวลเข้ามาช่วยดูแลธุรกิจนี้
สุพจน์ขณะนี้อยู่ในตำแหน่งซีอีโอฝ่ายการเงินแทนอนุพันธ์ ซึ่งเขาเสียชีวิตไปจากกระสุนปืนของย่าศรีนวล สุพจน์ติดหนี้ประพันธ์จากหุ้นที่เขาไปซื้อไว้แล้วขาดทุน และอาศัยบารมีของประพันธ์เสนอต่อที่ประชุมบอร์ด ให้เขาขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งแทนอนุพันธ์
“ญา...ไม่ต้องคิดมาก เบลจะเรียนคุณพ่อเองว่า บริษัทประกันภัยนี้มีอนาคต กำลังให้สุราชดูรายละเอียดและข้อมูลทั้งหมด ให้เขาเสนอที่ประชุมบอร์ดสัปดาห์หน้านี้ แล้วเราตกลงกันอีกทีที่ตัวเลขเท่าไหร่” กังสดาลเสนอแนะ
“ยัยอัญ...ต้องแต่งงานกับสุราช ฉันหนักใจนะเบล” อัญญาคิดหนักแทนลูกสาว
“ไว้เป็นเรื่องอนาคต เราแค่เสนอให้พวกเขาไปเจอกัน ถ้าไม่ชอบกันก็ไม่ต้องบังคับ” กังสดาลปลอบใจเพื่อน เธอแค่ต้องการให้สุราชแต่งงานกับคนที่เหมาะสม
“เบล ลูกสาวเราไม่ใช่คนหัวอ่อน ไม่ได้รักกัน...จับให้แต่งงาน มันลำบากใจกันทั้งสองฝ่าย”
“สุราช... เขาเป็นเด็กฉลาด เสียอยู่อย่างเดียว...”
“ทำไมเหรอ...” อัญญาจ้องหน้าเพื่อนรัก กลัวว่าชายหนุ่มจะแย่เกินกว่าแก้ไข
“เจ้าชู้... ควงสาวไปทั่ว คุณแม่เขามาปรึกษาเบลว่า ควรหาผู้หญิงที่เหมาะสมให้”
กังสดาลหนักใจเช่นกัน เพราะหลานชายคนนี้เป็นหนุ่มประเภท bad boy นิสัยของเขามีดีอยู่บ้างตรงที่ยังเชื่อฟังผู้ใหญ่ในครอบครัว
เช้าวันรุ่งขึ้นอัญชนาตื่นสายมาก ร่างกายระบมจากการต่อสู้ฟัดเหวี่ยงกับหนุ่มหื่นที่ในคลับนั้น เธอตกใจเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูห้องดังถี่ๆ อย่างร้อนรน
“คุณแม่มีอะไรเหรอ...เคาะประตูรัวขนาดนี้” เธอโซเซลงจากเตียงมาเปิดประตูห้อง
“คุณป้า...โทรมาบอกว่า สุราชอยู่โรงพยาบาล ประสบอุบัติเหตุเมื่อคืนนี้”
“โห...เป็นอะไรมากไหมนั่น” เธอพลอยร้อนรนไปด้วย
“แม่ว่าจะไปเยี่ยม... หนูไปด้วยกันนะ” อัญญามองหน้าลูกสาวหยั่งใจเธอ
“ค่ะ... รอหนูอาบน้ำแต่งตัวนะคะ หนูขับรถให้ค่ะ”
สองคนแม่ลูกรีบไปยังโรงพยาบาลแถวสุขุมวิทที่ชายหนุ่มนอนรักษาตัว ครั้นไปถึงกังสดาลรีบเดินเข้ามาหาทันที
“เขาอยู่ ไอซียู... คงไม่ได้เยี่ยม”
“เป็นอะไรสาหัสขนาดนั้นหรือ...เบล”
“รถตกถนนไปชนต้นไม้ สาวที่นั่งไปด้วยบาดเจ็บสาหัส ส่วนสุราชนี่สมองกระทบกระเทือน”
“ยัยอัญ... เมื่อคืนได้ข่าวว่าเขามาส่งหนูไม่ใช่เหรอ” กังสดาลขมวดคิ้วอย่างสงสัย
“ค่ะ...เขามาส่งหนู แล้วคงกลับไปโรงแรมกับ...ของเขาค่ะ” เธอตอบไม่ค่อยเต็มคำนัก
“นี่... เขาควงผู้หญิงคนนี้ไปเต้นรำกับหนูด้วยรึ”
“เอ่อ...” อัญชนาไม่อยากพาดพิงว่า เธอคนนี้อาจโวยวายเถียงกันจนเกิดอุบัติเหตุ
“บอกมา... ไม่ต้องกลัวหนูอัญ ป้าอยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น” กังสดาลจ้องหน้าสาวน้อย
“เขาชวนหนูไปเต้นรำด้วย ตอนหนูรอเขาที่ห้องพัก ผู้หญิงของเขาก็มาพอดี”
“หนูไปเต้นรำกับเธอด้วยใช่ไหม” กังสดาลคาดคั้นเอาข้อมูล
“ค่ะ... หนูไม่อยากมีปัญหา ไม่ว่าใดใดก็ตาม ไม่อยากสนใจเรื่องส่วนตัวของเขา หนูเป็นคนนอกนะคะ คุณป้า” อัญชนาส่ายหน้า
“นี่โชคดีนะ ที่เราไม่เป็นอะไร...”
“ค่ะ... เขามาส่งหนู แต่ระหว่างทางได้ยินเธอต่อว่าเขา หนูก็ไม่ได้ยินเขาโต้ตอบอะไร นิ่งตลอดทาง”
“พอหนูอัญถึงบ้าน คงทะเลาะกันช่วงขากลับไป” กังสดาลคาดเดาว่าเหตุการณ์น่าจะเป็นเช่นนั้น
... ... ... ...
สุราชนอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลเกือบสามเดือน อาการทางสมองของเขาดีขึ้นพอจำอะไรได้บ้าง บางส่วนอาจยังนึกไม่ออก ทำให้คุณแม่ของเขาปรึกษากับครอบครัวของอัญชนา เธอถูกเรียกมาพบกับวัลภาคุณแม่ของสุราชที่บ้าน
“สุราชบอกกับแม่ว่า จะให้หนูอัญชนาชดใช้ทำให้เขาเสียหาย” แม่วัลภาเอ่ยขึ้นอย่างหนักใจ
“ฮะ...อะไรคะ หนู....งง ค่ะ” อัญชนาร้องเสียงหลง
“เขาจำได้ว่าคืนที่ประสบอุบัติเหตุ หนูอัญอยู่ในรถ ก่อเรื่องถกเถียงกับผู้หญิงของเขา ทำให้เขาขาดสมาธิในการขับรถ”
“ตายจริง... หนูสับสนกับความจำของเขา ทำไมถึงได้จำอะไรที่ผิดเพี้ยนขนาดนี้”
“เขาอยากให้หนูแต่งงาน ไปช่วยดูแลฟื้นฟูให้ความจำเขากลับคืนมา”
“โห...คุณป้าขา... หนูไม่ใช่ care giver คนดูแลผู้ป่วยนะคะ” เธอแย้งทันที
“เขามีผู้หญิงคนนั้นอยู่แล้ว จะให้หนูเข้าไปวุ่นวายกับชีวิตของเขาอีกทำไมคะ” เธอยืนยันไม่ยอมเด็ดขาด
“ผู้หญิงคนนั้นหายหน้าไป เมื่อรู้ว่าสุราชจำอะไรไม่ได้ ความทรงจำเลอะเลือน คงไม่สนใจกันแล้ว เห็นมาเยี่ยมอยู่สองสามครั้ง จากนั้นไม่เคยมาอีกเลย” แม่วัลภาถอนหายใจกับโชคชะตาของลูกชาย
“วันนั้นไปเจอกัน แทบจะตีกันตาย” อัญชนานึกย้อนถึงวันแรกที่พบกัน
“เขาบอกแม่ให้หนูทำสัญญา...” วัลภาใช้แผนต่อรอง ตามที่ลูกชายแนะนำ
อัญชนาถอนหายใจราวภูเขาทับอก เธอไม่คาดคิดเลยว่าต้องมารับภาระยิ่งใหญ่ ยากที่จะปฏิเสธ... น้ำเสียงซีเรียสของหญิงสาวตอบกลับไปอย่างกังวล
“โห... คงวางแผน...เลิกหนูไปหาผู้หญิงนั้นอีก ถ้าความจำกลับมา”
การตัดสินใจอยู่ด้วยกัน ต้องมาจากพื้นฐานการเปิดเผยตัวตนกันตั้งแต่แรก-----------------------------------อัญชนาตกใจมากที่เห็นสุราชมีอาการแปลกๆ ขณะนี้เขาปวดหัวมากเกินกว่าจะทำอะไรได้ เธอรีบวิ่งจากห้องนอนออกไปที่ตู้เย็นตรงมุมแพนทรี เปิดตรงช่องฟรีซคว้าเจลประคบเย็นที่แช่ไว้ออกมา“คุณ... มา มา!!! ฉันประคบให้” เธอคว้าเอาผ้าขนหนูเช็ดผมของเขามาห่อและค่อยลูบไล่ตั้งแต่กลางกระหม่อมลงมาถึงต้นคอ“อืม...อืม...” เสียงบางเบาลอดจากไรฟันของเขา“นอนคว่ำหน้าลงไปที่หมอนเลย... ฉันประคบให้ ไม่นานจะดีขึ้น” เธอเอามือรีบคว้าหมอนมาวางให้เขาขยับกายขึ้นไป แล้วกระซิบตรงกกหูให้เขาทำตามที่สั่งเสียงอืออาเบาๆ หลับตาทำตามที่อัญชนาสั่งอย่างว่านอนสอนง่าย สุดท้ายเธอจึงขอให้เขานอนหงายและเอาถุงเจลวางลงบนหน้าผาก จากนั้นเธอก็ไล่นวดคลึงขมับของเขาเบาๆ ทั้งสองข้าง หญิงสาวใช้เวลาอยู่ตรงนี้ช่วยให้เขาดีขึ้นถึงหนึ่งชั่วโมง“คุณหลับไปนะ... ฉันจะไปชงชาเขียวร้อนๆ ให้ถ้าตื่นขึ้น” เธอกระซิบก่อนลงจากเตียง ฝ่ามือของชายหนุ่มจับแขนเธอคลึงวนไปมา“ไม่ต้องกลัว เดี๋ยวฉันมานะ” เธอโน้มตัวลงไปกระซิบเขาอีกครั้งอัญชนาได้เขียนไลน์ไปบอกแม่ว่า คืนนี้จะอ
บทพิศวาสของเขา มีอะไรน่าสงสัย-------------------------------------------อัญชนาตกใจตื่นจากอาการหลับใหล หลังจากได้ร่วมรักกันอย่างเผ็ดร้อน จิตสำนึกระคนความเศร้าจะทำให้เธอกลับบ้านไปด้วยความรู้สึกผิดกับครอบครัว“เป็นไงบ้าง... คุณช่วยผมรื้อฟื้นความทรงจำได้ดีทีเดียว” เขาเดินมาที่เตียงเปิดผ้าห่มซุกร่างเข้ามาโอบเธอไว้แนบอก“เงียบ...เป็นอะไรไหม...เจ็บรึเปล่า” เสียงนุ่มอบอุ่นของเขากระซิบข้างหู“ไม่พูดอะไรเลยหรือ... ผมจะรู้สึกผิดนะ ผมรุนแรงไปหรือ” เขาสะดุ้งรู้สึกน้ำตาของหญิงสาวชุ่มตรงแผงน้ำอกที่มีขนประปราย“my babe…สาวน้อยของผม ขอโทษ!!! เราไม่ได้ตกลงกันก่อนที่จะมีอะไรกัน” เขาจูบพวงแก้มและเช็ดน้ำตาให้เธอ“เราควรตกลงกันก่อน... ผมใจร้อนไปหน่อย ไม่คิดว่าจะเกินเลยขนาดนี้ ขอโทษนะ คุณทำให้ผม horny มาก ...นวดคลึงตรงจุดนั้น มัน arousing ปลุกอารมณ์ผมจนเตลิด” เขากระซิบเบาๆ ตรงกกหู ทำอัญชนาสยิว“ผมรับผิดชอบ... เราแต่งงานกันนะ” เขาออดอ้อนเสียงยั่วยวน“ผมจะไปต่อได้... คืนนี้ช่วยผมหน่อย” เขายังสาธยายยืดยาว“ผมอยากรู้จักคุณให้มากกว่านี้ รับอารมณ์ผมได้ไหมตอนร่วมรักกัน” อัญชนาได้ยินประโยคนี้ทำให้เธอหวั่นไหว เขา
บทพิศวาสคลั่งไคล้ของเขา ทำเธอใจละลาย-------------------------------------------วัลภาแม่ของสุราชได้ติดต่ออัญชนาหลายครั้ง จนในที่สุดหญิงสาวขอปรึกษากับแม่อัญญาอีกครั้งก่อนตัดสินใจ“แม่คะ... หนูไม่รู้จะยังไงดี ขอบททดสอบก่อนทำสัญญาแต่งงานดีไหมคะ” เธอยื่นข้อเสนอ“ลองคุยกับคุณป้าเบลดูก็ได้ แม่เคยได้ยินมาว่าก่อนแต่งงานกับสามี เธอเคยทำข้อตกลง เผื่อได้ข้อแนะนำอะไรก่อนตัดสินใจ แม่เข้าใจหนูนะ...”“แล้วคุณพ่อล่ะคะ ว่ายังไงบ้าง” เธอกังวลต่อความรู้สึกของพ่ออรรถพล“คืนนี้ลองปรึกษาคุณพ่อดูนะลูก แม่คุยก่อนหน้านั้น ท่านบอกว่าทำไมต้องไปบังคับลูก” อัญญาถอนหายใจกังสดาลได้ไปปรึกษากับวัลภาแม่ของชายหนุ่ม เธอได้รับข้อความจากอัญชนาว่าขอบททดสอบ ลองให้เวลาพวกเขาสองคนอยู่ด้วยกันก่อนทำสัญญาตกลงแต่งงาน“เบล... เข้าใจทั้งสองคน...พวกเขายังไม่รู้จักกัน จะให้ไปอยู่ด้วยกัน จะลำบากมากในการปรับตัวเข้าหากัน” กังสดาลกังวลใจแทนพวกเขาทั้งคู่“ก็อย่างที่หนูอัญเสนอมาก็ดีนะ ฉันว่าให้เธอลองไปทำความรู้จักกับสุราชก่อน แล้วหนูอัญเสนอยังไงบ้างล่ะ”“เธอจะไปลองดูแลเขาสักหนึ่งอาทิตย์ คุณภาลองไปถามลูกชายดูก่อนว่า ตกลงไหม” กังสดาลเห็นสม
ภาระอันยิ่งใหญ่...ยากปฏิเสธ-------------------สุราชสั่งให้สาวน้อยของเขาเฝ้าอัญชนาไว้ไม่ให้เธอออกจากห้องน้ำ ตัวเขาเดินออกไปยังลานจอดรถ ไปที่รถเพื่อหยิบผ้าห่มผืนน้อยมาให้เธอห่อตัวออกไป“ผมเอาผ้าห่มมาให้...ห่อตัวซะ” น้ำเสียงของเขาดูสงสารเธออยู่บ้างเขาสั่งสาวน้อยพาอัญชนาออกมายืนรอที่หน้าคลับ เขาจะขับรถมารับ“นิ...พาเธอมารอตรง...หน้าคลับ”“นางทำให้พวกเรายุ่งยาก...วุ่นวายจริงๆ” นางบ่นพึมพำใส่หน้าอัญชนาสุราชขับรถไปตามแผนที่ที่เขาขอให้เธอส่งให้เขาที่ไลน์“ใกล้ถึงบอกด้วย...ผมจะชะลอ”“ค่ะ... บ้านหลังในสุดด้านซ้าย” เขาเริ่มชะลอรถให้ค่อยคลานเข้าไปจอดหน้าประตูรั้ว อัญชนากดรีโมต เธอขออนุญาตลงรถ สาวน้อยหน้าหวานจึงเปิดประตูลงไปก่อนที่จะให้อัญชนาก้าวออกไป“ฝันดีนะครับ... ฝากบอกคุณพ่อคุณแม่ด้วยว่า ผมขอโทษ” เขาหันหน้ามาตะโกนบอกเบาๆ“ค่ะ...” หญิงสาวเดินเข้าประตูบ้านไปอย่างห่อเหี่ยวใจ“อ้าว...ไปทำอะไรกัน ทำไมเอาผ้าห่อตัวมา” แม่อัญญาเข้ามากอดลูกสาวตบหลังเบาๆ“ไม่มีอะไรค่ะ คนไม่ดีลวนลามหนู” เธอบอกแม่เสียงสั่น“เขารึ... แย่นะนายคนนี้”“ไม่ใช่ค่ะ... พวกที่เมาในคลับนั้นค่ะ”“ขึ้นไปอาบน้ำ...นอนซะลูก ตัวสั่น
มาเจออะไรที่ไม่คาดคิด ทำให้อกสั่นขวัญแขวน ------------------“อย่าบอกนะว่า...ต้องเป็นหนี้บุญคุณ” อัญชนาเสียดสีกลับไป แต่เสียงเธอบางเบา ...กลับรู้สึกเห็นใจเขาขึ้นมา“เฮ้อ...” เขาถอยหายใจยาวมาก เสียงถอนหายใจแบบนี้ แสดงว่าครอบครัวของเขาต้องมีปัญหาแน่นอน“ช่างมันเถอะ...” เขาเอ่ยราวจำยอม“จะยังไงล่ะ... คุณป้าจะไม่ว่าใช่ไหม ที่พวกเราไม่ยอมอ่ะ” เธอเปิดประเด็นวกกลับไปเรื่องเดิมเขายังไม่ทันตอบ เสียงกริ่งหน้าประตูก็ดังขึ้น จึงรีบก้าวตรงไปหน้าประตูแล้วส่องดูว่าใครมา“เฮ้อ... คุณไปนั่งตรงโซฟา...” เสียงสั่งขณะเดินกลับมาตรงโต๊ะที่เธอนั่งอยู่“ได้... จะให้ทำอะไรบอกด้วย สาวมาหาล่ะสิ” เธอมองหน้าเขาอมยิ้มอย่างเป็นต่อเขาได้แต่มองหน้าเธอเงียบไม่ตอบ แล้วหันหลังเดินกลับไปที่ประตู กระชากลูกบิด ประตูเปิดออก ทันใดสาวน้อยหน้าหวานแต่งตัวราวกับจะไปเต้นรำ เสียงรองเท้าส้นสูงลงส้นเป็นจังหวะทีละก้าว ทีละก้าวใกล้เข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าสาวอีกคน นางจ้องตาเขม็งมายังสาวซึ่งนั่งอยู่บนโซฟา ...เธอกำลังกดรีโมตทีวีอยู่“เธอมาทำอะไรอยู่ที่นี่... ฮะ ราช” นางแย่งรีโมตจากอัญชนาไป ขณะกำลังจะยกเอามันตบหน้าเธอ สุราชเข้ามาคว้าไว้ทัน
ต่างคาดหวังในสิ่งที่ตนเองไม่ต้องการณ ห้องอาหารในโรงแรมแกรนด์เซนเตอร์พอยต์ย่านสุขุมวิทเป็นสถานที่นัดหมายของหญิงสาวและชายหนุ่ม...“สวัสดีค่ะ...” อัญชนาก้าวเข้ามาหยุดยืนอยู่ตรงโต๊ะ ที่พนักงานเสิร์ฟได้เชิญเธอเข้ามา“สวัสดีครับ... คุณใช่ คนที่คุณป้าผมเชิญมา!!!” น้ำเสียงสะบัดห้วนกล่าวทักทายจากชายหนุ่มที่นั่งก้มหน้ากับมือถือ เงยหน้าขึ้นมองเธออย่างไม่เต็มตาเขาคือทายาทคนหนึ่งของตระกูลพงษ์กุล เป็นหลานชายของประพันธ์พ่อสามีของกังสดาลประธานใหญ่ของบริษัทสหพันธ์กรุ๊ป“อัญชนาค่ะ...” ร่างบอบบางในชุดสูทลำลองสีกรมท่าสวมทับกางเกงสแล็กสีดำ ตอบกลับอย่างเฉยเมย ราวกับว่าเขาไม่ได้มีความสำคัญอะไรเลยในการนัดหมายครั้งนี้“เราสองคนต้องมาทำความเข้าใจกัน...” ชายหนุ่มในชุดสูทสีเทาเข้มผูกเนคไทดำเอ่ยขึ้น โดยยังก้มหน้ากดโทรศัพท์มือถืออยู่“เรื่องนั้น...ฉันทราบจากคุณป้าคุณทั้งหมดแล้ว ไม่ทราบว่าต้องทำความเข้าใจอะไรอีกคะ”“เราไม่เคยเจอกันมาก่อน มาเจอกันนี่เป็น blind date ไหม” เขาเงยหน้าขึ้นมองหญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงกันข้ามเต็มตา แววตาของเขาดูระริกเข้าไปในความรู้สึกของอัญชนา“ไม่ใช่... นี่มันคือการต่อรองทางธุรกิจมากกว่า” เ







