تسجيل الدخولบทพิศวาสคลั่งไคล้ของเขา ทำเธอใจละลาย
-------------------------------------------
วัลภาแม่ของสุราชได้ติดต่ออัญชนาหลายครั้ง จนในที่สุดหญิงสาวขอปรึกษากับแม่อัญญาอีกครั้งก่อนตัดสินใจ
“แม่คะ... หนูไม่รู้จะยังไงดี ขอบททดสอบก่อนทำสัญญาแต่งงานดีไหมคะ” เธอยื่นข้อเสนอ
“ลองคุยกับคุณป้าเบลดูก็ได้ แม่เคยได้ยินมาว่าก่อนแต่งงานกับสามี เธอเคยทำข้อตกลง เผื่อได้ข้อแนะนำอะไรก่อนตัดสินใจ แม่เข้าใจหนูนะ...”
“แล้วคุณพ่อล่ะคะ ว่ายังไงบ้าง” เธอกังวลต่อความรู้สึกของพ่ออรรถพล
“คืนนี้ลองปรึกษาคุณพ่อดูนะลูก แม่คุยก่อนหน้านั้น ท่านบอกว่าทำไมต้องไปบังคับลูก” อัญญาถอนหายใจ
กังสดาลได้ไปปรึกษากับวัลภาแม่ของชายหนุ่ม เธอได้รับข้อความจากอัญชนาว่าขอบททดสอบ ลองให้เวลาพวกเขาสองคนอยู่ด้วยกันก่อนทำสัญญาตกลงแต่งงาน
“เบล... เข้าใจทั้งสองคน...พวกเขายังไม่รู้จักกัน จะให้ไปอยู่ด้วยกัน จะลำบากมากในการปรับตัวเข้าหากัน” กังสดาลกังวลใจแทนพวกเขาทั้งคู่
“ก็อย่างที่หนูอัญเสนอมาก็ดีนะ ฉันว่าให้เธอลองไปทำความรู้จักกับสุราชก่อน แล้วหนูอัญเสนอยังไงบ้างล่ะ”
“เธอจะไปลองดูแลเขาสักหนึ่งอาทิตย์ คุณภาลองไปถามลูกชายดูก่อนว่า ตกลงไหม” กังสดาลเห็นสมควรในข้อตกลงนี้
สุราชยอมให้อัญชนาไปดูแลที่ห้องพักในโรงแรมซึ่งเคยนัดเดตกันครั้งแรก การพบกันครั้งที่สองนี้ ทั้งสองเริ่มคุ้นเคยกันมากกว่าครั้งแรก
“เชิญครับ... ผมรบกวนคุณหน่อยนะ” เขาเอ่ยขึ้นขณะเปิดประตูห้อง
อัญชนายกมือไหว้เขาตามธรรมเนียม เธอไม่อยากให้การพบกันครั้งนี้กลายเป็นความรู้สึกที่ไม่ดี
“ไม่ต้องไหว้ก็ได้ ผมไม่ซีเรียส”
“ทำตามธรรมเนียมค่ะ... วันนี้จะให้ฉันทำอะไรบ้าง นอกจากมาคอยนั่งเฝ้าคุณ”
“คุณมีวิธีช่วยรื้อฟื้นความทรงจำให้ผมไหม”
“ไม่มีค่ะ...” เธอปฏิเสธตรงๆ ไม่ได้เตรียมตัวก่อนมา เพราะไม่ได้รับข้อมูลว่าต้องทำอะไรบ้าง
“ไม่เป็นไร... คุณนั่งดูทีวี หรือ ทำอะไรก็ได้ ตามใจคุณ” เขาหรี่ตามองเธอ ในแววตานั้นอัญชนาเห็นเส้นบางๆ ระหว่างเขาและเธอ เริ่มมีความอบอุ่นมากขึ้นกว่าครั้งแรกที่ได้เจอกัน
หญิงสาวนั่งกดมือถือเปิดหาข้อมูลเกี่ยวกับการฟื้นฟูสมองที่กระทบกระเทือนจนขาดความทรงจำไปชั่วคราว
“เอ่อ...คุณ เราลองช่วยกันทำอาหารดีไหม” เธอเสนอชายหนุ่ม
“ดีเลย...บ่ายนี้ กินอะไรดี เสนอหน่อย” เขาไม่ชอบกินข้าวเที่ยง
“ผมตื่นค่อนข้างสาย มื้อเช้ากับเที่ยง เป็น brunch รวมกันเลย บ่ายสักสี่โมงเย็นผมจะกินอาหารว่าง คุณเสนอมาเลย”
“เราทำเกี๊ยวดีไหม...”
“ผมไม่ชอบอาหารมัน เผ็ด เปรี้ยว เค็ม”
“โห... ชอบแบบจืดสนิทเลยเหรอ”
“ปอเปี๊ยะสด...ชอบไหมล่ะ” อัญชนาเปิดรูปจากมือถือให้เขาดู
“spring rolls แบบนี้โอเค” เขายักคิ้วให้เธอ ชายหนุ่มอารมณ์ดีทีเดียว
“งั้นฉันขอลงไปซื้อของสดก่อน” เขายื่นบัตรเครดิตให้อัญชนาเอาไปใช้แทนเงินสด
“เอ่อ... คงไม่แพงเท่าไหร่... ฉันออกให้ได้” เธอพยายามคืนบัตรไปให้ แต่เขายังยัดเยียดยื่นกลับไปให้เธอ
“อย่าคิดมาก ผมไม่คิดทั้งต้นทั้งดอก...” อัญชนาสะดุ้งเมื่อได้ยินคำนี้ มันเหมือนไปสะกิดแผลวันนั้นที่เธอปะทะกับเขา แสดงว่าความจำของเขายังมีคำเหล่านี้อยู่
“เฮ้อ...” เธอถอนหายใจ จ้องหน้าเขา ชายหนุ่มคงนึกขึ้นได้
“เอ่อ...ผมขอโทษ” เขาจับมือหญิงสาวลูบฝ่ามือเบาๆ ปลอบใจ เธอคิดว่าธาตุแท้ของคนเราคงมีทั้งเลวและดี ถ้ารู้จักขอโทษ ถือว่ามีส่วนดีอยู่บ้าง
อัญชนาหายไปเกือบสองชั่วโมง เธอเพลิดเพลินกับการชอปปิ้ง ซื้อของสดและเครื่องปรุงมาลอตใหญ่ หอบหิ้วขึ้นมาวางลงหน้าประตูห้องพักก่อนกดกริ่ง
“รอครึ่งชั่วโมงได้ไหม...” เสียงของเขาดังออกมาตรงกล่องกดกริ่ง
“เอ่อ...” เธอ...งง ในที่สุดเอาของทั้งหมดวางกองตรงหน้าประตู เธอกดลิฟต์ลงไปชั้นล่างที่รีเซฟชั่น สั่งให้แจ้งแม่บ้านช่วยมาขนไปฝากไว้ตรงห้องแม่บ้านที่ชั้นนั้นก่อน
ครึ่งชั่วโมงต่อมาเธอกดลิฟต์ขึ้นไปที่ห้องพักอีกครั้ง สุราชเปิดประตูให้เธอทันทีที่ได้ยินเสียงกริ่ง แต่อัญชนาสะดุ้งเมื่อเห็นผู้หญิงคนหนึ่งกำลังเก็บของใส่กระเป๋าเสื้อผ้าใบใหญ่ แล้วหันมายิ้มให้ถามสั้นๆ ก่อนจะเดินไปที่ประตูซึ่งเปิดค้างอยู่
“พรุ่งนี้กี่โมงคะ คุณราช”
“ไว้อาทิตย์หน้าผมติดต่อไป...” เขาพยักหน้าให้เธอก่อนประตูจะถูกดันปิดเข้ามา
ชายหนุ่มหันมาที่เธอ ดูกระตือรือร้นมาก...
“มา...เริ่มกันเลยดีไหม แม่บ้านเอาของที่คุณซื้อทั้งหมดมาส่งแล้ว อยู่ตรงนั้น”
“ค่ะ...” หญิงสาวสงสัยพฤติกรรมของเขา ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร เขาใช้บริการแบบนี้ด้วยหรือ จะถามคงดูไม่สมควร เพราะเธอยังเป็นแค่คนนอก
“คุณช่วยล้างผักสดทีนะ...” เธอหันหลังไปเตรียมปรุงอาหาร...และเอ่ยขอให้เขาช่วย
“ผมขอเปลี่ยนชุด... 15 นาทีจะมาช่วย” เขาหายเข้าไปในห้องนอน สักพักได้กลิ่นน้ำยาอาบน้ำหอมโชยออกมา พร้อมกับผ้าเช็ดตัวผืนเล็กที่เขากำลังเช็ดผมอยู่
“มา ...ถึงไหนแล้ว”
“ฉันล้างผัก แช่น้ำยาไว้ คงได้แล้วล่ะ คุณเอาออกมาใส่ตะแกรงให้สะเด็ดน้ำ”
เขาก้มลงมาใกล้ซอกคอเธอ จนได้กลิ่นโคโลญจน์ เขาคงชอบใช้กลิ่นหอมเพื่อไว้ยั่วยวนสาวๆ
“อืม... วันนั้นที่เราเจอกันครั้งแรก แม่ผมเล่าว่าเราทะเลาะกัน” เขาคงอยากรื้อฟื้นความทรงจำ
“แล้วคุณจำอะไรได้บ้าง...ล่ะ” อัญชนาหันหน้ามาเกือบปะทะหน้าอกเขา
“ไม่เลย... ไว้ทำอาหารเสร็จ เล่าให้ผมฟังตอนกินดีกว่า” เขายิ้มให้เธอ
หญิงสาวหันกลับไปหั่นผักเตรียมไว้เพื่อเป็นไส้ และเอาแผ่นแป้งมาม้วนห่อ ไส้ผักโขมกับไส้กรอกหั่นเป็นลูกเต่าและผักกาหอมม้วนรองแผ่นแป้ง สุราชช่วยม้วนแผ่นแป้งโดยอัญชนาตักเครื่องที่ปรุงสุกลงไปให้เขาจัดการม้วนจนเสร็จ บางท่อนก็ไม่สวยแต่ไม่เป็นไร อย่างน้อยอาจช่วยรื้อฟื้นควาทรงจำให้กลับคืนมาได้บ้าง ขณะได้ลงมือทำกิจกรรมต่างๆ
“แล้วน้ำจิ้ม... dip คุณปรุงแล้วเหรอ” เขาหันซ้ายหันขวามองหา
“ไม่คะ... ซื้อมาเป็นขวด เผื่อจิ้มอย่างอื่นได้ด้วย” เธอยิ้มให้เขา
สุราชชงชาเขียวร้อนๆ มายื่นให้ เขามองจ้องหน้าเธอ
“ผมว่า วันนั้นเราดื่มชาเขียวกันที่นี่ไหม” เขาพยายามรื้อฟื้นความจำ
“ไม่ค่ะ... เอ่อ คุณไม่ได้เสิร์ฟน้ำอะไรฉันเลย ฉันไม่ได้หิวด้วย แค่รอคุณ...ทำกิจกรรมบางอย่าง”
“ผมทำอะไร... นึกไม่ออกเลย”
“เอ่อ... เรื่องส่วนตัว พูดไม่ได้”
“ผมทำอะไรเรื่องส่วนตัว... ฮ่า ฮ่า ฮ่า” เขาหัวเราะขึ้นมา แล้วเงียบไป
“คุณป้าบอกผมว่า เราไปเต้นรำกันที่คลับ”
“ใช่... คุณชวนฉันไป แต่คุณมีผู้หญิงอีกคนหนึ่งไปด้วย”
“งั้นสิ... ผมว่าต้องเป็นนิชารัตน์ ที่เคยมาเยี่ยมผม ตอนนี้เธอไม่เห็นมาหาผมเลย”
เขาพูดราวกับเรื่องราวนั้นเป็นแค่ความฝัน ไม่ได้มีอารมณ์ความรู้สึกใดใดกับเรื่องที่เกิดขึ้น
“คุณจำเรื่องเดิม สมัยเด็กๆ ได้ไหม...”
“ได้สิ... ผมชอบไปเที่ยวสวนสนุก ผมเคยเรียนยิงปืนสั้น”
“งั้นเรื่องสมัยเด็กจำได้กี่เปอร์เซ็นต์”
“ผมไม่เข้าใจ...” เขาจ้องตาเธอ
“ประมาณว่า จำได้กี่เรื่อง”
“แค่นั้น...”
“แล้วเรื่องที่ผ่านมาเมื่อปีที่แล้ว คุณจำอะไรได้บ้าง” เธอพยายามช่วยรื้อฟื้นความทรงจำ
“ผมจำได้ว่าอยู่ปารีสกับผู้หญิงคนหนึ่ง คง...นิชารัตน์”
“แค่นั้นหรือ...” เธอยังถามต่อ
“อืม... ผมชอบเธอ very romantic…” เธอจ้องหน้าเขาในใจไม่อยากถามต่อ เขาคงอยากเล่าเรื่องอะไรต่อมิอะไรที่มีความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนนั้น
“ผมกับคุณ...เราเคย sleep together… right?” เขาพูดภาษาอังกฤษ แสดงว่าทักษะภาษายังได้อยู่ ทั้งภาษาไทยด้วย
“No… ไม่ค่ะ... เราเพิ่งพบกันวันนั้นที่นี่ แล้วคุณก็ประสบอุบัติเหตุคืนนั้น” เขาได้ยินประโยคนี้ สีหน้าเครียด เอามือสองข้างยกขึ้นกุมขมับ
“เป็นอะไร...ปวดหัวหรือเปล่า” อัญชนาตกใจ ยืนขึ้นเอาฝ่ามือคลึงบริเวณท้าทอยของเขา
เสียงของสุราชพึมพำเบาๆ เหมือนกำลังเบาสบาย ลมหายใจถี่ๆ ในตอนแรกเริ่มผ่อนคลาย อัญชนาเอานิ้วมือทั้งสองข้างบีบนวดเส้นบริเวณต้นคอเบาๆ ไล่คลึงขึ้นไปจนถึงกลางกระหม่อม
“อืม...อืม very hot… very horny ร้อนมาก” เขาหลับตาพริ้มเอามือของเขาจับมืออัญชนาที่กำลังคลึงศีรษะอยู่มาลูบไล้ และคว้าเอวของหญิงสาวเข้ามากอดเอาฝ่ามือซ้ายลูบไล้แผ่นหลัง
“อย่า...อย่า ฉันไม่ได้...ให้..คุณทำ...อะไร...นะ” เสียงเธอเบา ขาดเป็นช่วงๆ
“very hot…. Come on … enjoy!!! my babe…” สุราชหวนนึกถึงความสัมพันธ์กับหญิงสาวคนหนึ่งขณะอยู่ที่ปารีส
เขาโลมไล้หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าจนเธออ่อนระทวย เสียงหอบกระเส่าของเธอทำให้เขายิ่งอยากเริ่ม foreplay
“Please be with me tonight… อยู่กับผมคืนนี้นะ” เขาร่ำร้องอย่างเมามัน
“No… ไม่...ไม่ เราไม่เคยมีอะไรกัน อย่านะ...” เสียงกระซิบบางเบาแทบขาดใจของเธออยู่ตรงซอกคอของเขา
“ผมจะให้ความสุขคุณ” ในใจของสุราชกำลังนึกถึงตอนที่กำลังเร่าร้อนกับเธอคนนั้น ผู้หญิงคนที่ยั่วยวนและมอบความสุขให้เขามากมาย จนเขาบอกไม่ได้เลยว่ารักหรือหลงเธอกันแน่
“ผมหลงใหลคุณมาก... ช่วยผมด้วยนะ คืนนี้เราจะ love act before making love เรากระตุ้นกันก่อนค่อยรักกัน” เสียงกระซิบข้างหูทำอัญชนามีอารมณ์ร่วม
สุราชอุ้มสาวน้อยคนนี้ไปที่ห้องนอน เขากำลังคิดถึงอารมณ์รักขณะยังคั่งค้างอยู่ที่ปารีส เขายังไม่ลืมลีลาแสนรัญจวนของเธอคนนั้น ซึ่งทำเอาเขาแทบคลั่งทุกคืน
เขาเริ่มไล่โลมไล้อัญชนาทั่วร่าง สาวน้อยตอนนี้แทบใจละลาย หมดอาการขัดขืนแต่อย่างใด เขานุ่มนวลละเมียดละไมสุดบรรยาย ทำเอาสาวที่ไม่เคยผ่านมือใครเช่นนี้มาก่อน ต้องตามอารมณ์ร่วมไปกับเขาในที่สุด
“คุณชอบแบบไหน...ผมชอบ from behind…” เขาจับอัญชนานอนคว่ำหน้า แล้วจัดการโลมไล้ทั่วบริเวณนั้น จนได้ยินเสียงของหญิงสาวร่ำร้องครวญครางดังขึ้นเรื่อยๆ เขาเมามันกับส่วนนั้นมาก ทั้งโลมไล้เลียจนเธอร้องครางไม่หยุด
เขายกเอวเธอขึ้นเบาๆ แล้วดันสุดหล่อไปเรื่อยๆ จนสุด เสียงอัญชนาร้องสุดเสียง ยิ่งทำให้เขาเมามันเร่งเร้าดุนร่างของเขากระตุ้นหญิงสาว เธอดิ้นเร่าไปมาอย่างรัญจวน
“โอ...แทบ...ขาดใจ” เธอร่ำร้องเบาๆ ขณะที่เขายังขยับร่างอยู่ตรงมุมเตียงอย่างรื่นรมย์
“You make me crazy… คลั่งคุณแล้วล่ะ... เราไปปารีสกันนะ” ขณะที่พูดเขายังร่ำร้องกระแทกกระทั้นด้วยความละมุน ทำเอาอัญชนารัญจวนแทบขาดใจ
ประสบการณ์ครั้งแรกกับชายหนุ่มนักรักอย่างเขา ไม่หลงเหลือความบริสุทธิ์ให้เธออีกต่อไป อัญชนากลายเป็นผู้หญิงคนแรกที่เขาร่วมรักด้วย หลังจากเขาเริ่มฟื้นตัวออกจากโรงพยาบาล
“คุณปลุกอารมณ์ผมได้ดีมาก much arousing!!!”
การตัดสินใจอยู่ด้วยกัน ต้องมาจากพื้นฐานการเปิดเผยตัวตนกันตั้งแต่แรก-----------------------------------อัญชนาตกใจมากที่เห็นสุราชมีอาการแปลกๆ ขณะนี้เขาปวดหัวมากเกินกว่าจะทำอะไรได้ เธอรีบวิ่งจากห้องนอนออกไปที่ตู้เย็นตรงมุมแพนทรี เปิดตรงช่องฟรีซคว้าเจลประคบเย็นที่แช่ไว้ออกมา“คุณ... มา มา!!! ฉันประคบให้” เธอคว้าเอาผ้าขนหนูเช็ดผมของเขามาห่อและค่อยลูบไล่ตั้งแต่กลางกระหม่อมลงมาถึงต้นคอ“อืม...อืม...” เสียงบางเบาลอดจากไรฟันของเขา“นอนคว่ำหน้าลงไปที่หมอนเลย... ฉันประคบให้ ไม่นานจะดีขึ้น” เธอเอามือรีบคว้าหมอนมาวางให้เขาขยับกายขึ้นไป แล้วกระซิบตรงกกหูให้เขาทำตามที่สั่งเสียงอืออาเบาๆ หลับตาทำตามที่อัญชนาสั่งอย่างว่านอนสอนง่าย สุดท้ายเธอจึงขอให้เขานอนหงายและเอาถุงเจลวางลงบนหน้าผาก จากนั้นเธอก็ไล่นวดคลึงขมับของเขาเบาๆ ทั้งสองข้าง หญิงสาวใช้เวลาอยู่ตรงนี้ช่วยให้เขาดีขึ้นถึงหนึ่งชั่วโมง“คุณหลับไปนะ... ฉันจะไปชงชาเขียวร้อนๆ ให้ถ้าตื่นขึ้น” เธอกระซิบก่อนลงจากเตียง ฝ่ามือของชายหนุ่มจับแขนเธอคลึงวนไปมา“ไม่ต้องกลัว เดี๋ยวฉันมานะ” เธอโน้มตัวลงไปกระซิบเขาอีกครั้งอัญชนาได้เขียนไลน์ไปบอกแม่ว่า คืนนี้จะอ
บทพิศวาสของเขา มีอะไรน่าสงสัย-------------------------------------------อัญชนาตกใจตื่นจากอาการหลับใหล หลังจากได้ร่วมรักกันอย่างเผ็ดร้อน จิตสำนึกระคนความเศร้าจะทำให้เธอกลับบ้านไปด้วยความรู้สึกผิดกับครอบครัว“เป็นไงบ้าง... คุณช่วยผมรื้อฟื้นความทรงจำได้ดีทีเดียว” เขาเดินมาที่เตียงเปิดผ้าห่มซุกร่างเข้ามาโอบเธอไว้แนบอก“เงียบ...เป็นอะไรไหม...เจ็บรึเปล่า” เสียงนุ่มอบอุ่นของเขากระซิบข้างหู“ไม่พูดอะไรเลยหรือ... ผมจะรู้สึกผิดนะ ผมรุนแรงไปหรือ” เขาสะดุ้งรู้สึกน้ำตาของหญิงสาวชุ่มตรงแผงน้ำอกที่มีขนประปราย“my babe…สาวน้อยของผม ขอโทษ!!! เราไม่ได้ตกลงกันก่อนที่จะมีอะไรกัน” เขาจูบพวงแก้มและเช็ดน้ำตาให้เธอ“เราควรตกลงกันก่อน... ผมใจร้อนไปหน่อย ไม่คิดว่าจะเกินเลยขนาดนี้ ขอโทษนะ คุณทำให้ผม horny มาก ...นวดคลึงตรงจุดนั้น มัน arousing ปลุกอารมณ์ผมจนเตลิด” เขากระซิบเบาๆ ตรงกกหู ทำอัญชนาสยิว“ผมรับผิดชอบ... เราแต่งงานกันนะ” เขาออดอ้อนเสียงยั่วยวน“ผมจะไปต่อได้... คืนนี้ช่วยผมหน่อย” เขายังสาธยายยืดยาว“ผมอยากรู้จักคุณให้มากกว่านี้ รับอารมณ์ผมได้ไหมตอนร่วมรักกัน” อัญชนาได้ยินประโยคนี้ทำให้เธอหวั่นไหว เขา
บทพิศวาสคลั่งไคล้ของเขา ทำเธอใจละลาย-------------------------------------------วัลภาแม่ของสุราชได้ติดต่ออัญชนาหลายครั้ง จนในที่สุดหญิงสาวขอปรึกษากับแม่อัญญาอีกครั้งก่อนตัดสินใจ“แม่คะ... หนูไม่รู้จะยังไงดี ขอบททดสอบก่อนทำสัญญาแต่งงานดีไหมคะ” เธอยื่นข้อเสนอ“ลองคุยกับคุณป้าเบลดูก็ได้ แม่เคยได้ยินมาว่าก่อนแต่งงานกับสามี เธอเคยทำข้อตกลง เผื่อได้ข้อแนะนำอะไรก่อนตัดสินใจ แม่เข้าใจหนูนะ...”“แล้วคุณพ่อล่ะคะ ว่ายังไงบ้าง” เธอกังวลต่อความรู้สึกของพ่ออรรถพล“คืนนี้ลองปรึกษาคุณพ่อดูนะลูก แม่คุยก่อนหน้านั้น ท่านบอกว่าทำไมต้องไปบังคับลูก” อัญญาถอนหายใจกังสดาลได้ไปปรึกษากับวัลภาแม่ของชายหนุ่ม เธอได้รับข้อความจากอัญชนาว่าขอบททดสอบ ลองให้เวลาพวกเขาสองคนอยู่ด้วยกันก่อนทำสัญญาตกลงแต่งงาน“เบล... เข้าใจทั้งสองคน...พวกเขายังไม่รู้จักกัน จะให้ไปอยู่ด้วยกัน จะลำบากมากในการปรับตัวเข้าหากัน” กังสดาลกังวลใจแทนพวกเขาทั้งคู่“ก็อย่างที่หนูอัญเสนอมาก็ดีนะ ฉันว่าให้เธอลองไปทำความรู้จักกับสุราชก่อน แล้วหนูอัญเสนอยังไงบ้างล่ะ”“เธอจะไปลองดูแลเขาสักหนึ่งอาทิตย์ คุณภาลองไปถามลูกชายดูก่อนว่า ตกลงไหม” กังสดาลเห็นสม
ภาระอันยิ่งใหญ่...ยากปฏิเสธ-------------------สุราชสั่งให้สาวน้อยของเขาเฝ้าอัญชนาไว้ไม่ให้เธอออกจากห้องน้ำ ตัวเขาเดินออกไปยังลานจอดรถ ไปที่รถเพื่อหยิบผ้าห่มผืนน้อยมาให้เธอห่อตัวออกไป“ผมเอาผ้าห่มมาให้...ห่อตัวซะ” น้ำเสียงของเขาดูสงสารเธออยู่บ้างเขาสั่งสาวน้อยพาอัญชนาออกมายืนรอที่หน้าคลับ เขาจะขับรถมารับ“นิ...พาเธอมารอตรง...หน้าคลับ”“นางทำให้พวกเรายุ่งยาก...วุ่นวายจริงๆ” นางบ่นพึมพำใส่หน้าอัญชนาสุราชขับรถไปตามแผนที่ที่เขาขอให้เธอส่งให้เขาที่ไลน์“ใกล้ถึงบอกด้วย...ผมจะชะลอ”“ค่ะ... บ้านหลังในสุดด้านซ้าย” เขาเริ่มชะลอรถให้ค่อยคลานเข้าไปจอดหน้าประตูรั้ว อัญชนากดรีโมต เธอขออนุญาตลงรถ สาวน้อยหน้าหวานจึงเปิดประตูลงไปก่อนที่จะให้อัญชนาก้าวออกไป“ฝันดีนะครับ... ฝากบอกคุณพ่อคุณแม่ด้วยว่า ผมขอโทษ” เขาหันหน้ามาตะโกนบอกเบาๆ“ค่ะ...” หญิงสาวเดินเข้าประตูบ้านไปอย่างห่อเหี่ยวใจ“อ้าว...ไปทำอะไรกัน ทำไมเอาผ้าห่อตัวมา” แม่อัญญาเข้ามากอดลูกสาวตบหลังเบาๆ“ไม่มีอะไรค่ะ คนไม่ดีลวนลามหนู” เธอบอกแม่เสียงสั่น“เขารึ... แย่นะนายคนนี้”“ไม่ใช่ค่ะ... พวกที่เมาในคลับนั้นค่ะ”“ขึ้นไปอาบน้ำ...นอนซะลูก ตัวสั่น
มาเจออะไรที่ไม่คาดคิด ทำให้อกสั่นขวัญแขวน ------------------“อย่าบอกนะว่า...ต้องเป็นหนี้บุญคุณ” อัญชนาเสียดสีกลับไป แต่เสียงเธอบางเบา ...กลับรู้สึกเห็นใจเขาขึ้นมา“เฮ้อ...” เขาถอยหายใจยาวมาก เสียงถอนหายใจแบบนี้ แสดงว่าครอบครัวของเขาต้องมีปัญหาแน่นอน“ช่างมันเถอะ...” เขาเอ่ยราวจำยอม“จะยังไงล่ะ... คุณป้าจะไม่ว่าใช่ไหม ที่พวกเราไม่ยอมอ่ะ” เธอเปิดประเด็นวกกลับไปเรื่องเดิมเขายังไม่ทันตอบ เสียงกริ่งหน้าประตูก็ดังขึ้น จึงรีบก้าวตรงไปหน้าประตูแล้วส่องดูว่าใครมา“เฮ้อ... คุณไปนั่งตรงโซฟา...” เสียงสั่งขณะเดินกลับมาตรงโต๊ะที่เธอนั่งอยู่“ได้... จะให้ทำอะไรบอกด้วย สาวมาหาล่ะสิ” เธอมองหน้าเขาอมยิ้มอย่างเป็นต่อเขาได้แต่มองหน้าเธอเงียบไม่ตอบ แล้วหันหลังเดินกลับไปที่ประตู กระชากลูกบิด ประตูเปิดออก ทันใดสาวน้อยหน้าหวานแต่งตัวราวกับจะไปเต้นรำ เสียงรองเท้าส้นสูงลงส้นเป็นจังหวะทีละก้าว ทีละก้าวใกล้เข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าสาวอีกคน นางจ้องตาเขม็งมายังสาวซึ่งนั่งอยู่บนโซฟา ...เธอกำลังกดรีโมตทีวีอยู่“เธอมาทำอะไรอยู่ที่นี่... ฮะ ราช” นางแย่งรีโมตจากอัญชนาไป ขณะกำลังจะยกเอามันตบหน้าเธอ สุราชเข้ามาคว้าไว้ทัน
ต่างคาดหวังในสิ่งที่ตนเองไม่ต้องการณ ห้องอาหารในโรงแรมแกรนด์เซนเตอร์พอยต์ย่านสุขุมวิทเป็นสถานที่นัดหมายของหญิงสาวและชายหนุ่ม...“สวัสดีค่ะ...” อัญชนาก้าวเข้ามาหยุดยืนอยู่ตรงโต๊ะ ที่พนักงานเสิร์ฟได้เชิญเธอเข้ามา“สวัสดีครับ... คุณใช่ คนที่คุณป้าผมเชิญมา!!!” น้ำเสียงสะบัดห้วนกล่าวทักทายจากชายหนุ่มที่นั่งก้มหน้ากับมือถือ เงยหน้าขึ้นมองเธออย่างไม่เต็มตาเขาคือทายาทคนหนึ่งของตระกูลพงษ์กุล เป็นหลานชายของประพันธ์พ่อสามีของกังสดาลประธานใหญ่ของบริษัทสหพันธ์กรุ๊ป“อัญชนาค่ะ...” ร่างบอบบางในชุดสูทลำลองสีกรมท่าสวมทับกางเกงสแล็กสีดำ ตอบกลับอย่างเฉยเมย ราวกับว่าเขาไม่ได้มีความสำคัญอะไรเลยในการนัดหมายครั้งนี้“เราสองคนต้องมาทำความเข้าใจกัน...” ชายหนุ่มในชุดสูทสีเทาเข้มผูกเนคไทดำเอ่ยขึ้น โดยยังก้มหน้ากดโทรศัพท์มือถืออยู่“เรื่องนั้น...ฉันทราบจากคุณป้าคุณทั้งหมดแล้ว ไม่ทราบว่าต้องทำความเข้าใจอะไรอีกคะ”“เราไม่เคยเจอกันมาก่อน มาเจอกันนี่เป็น blind date ไหม” เขาเงยหน้าขึ้นมองหญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงกันข้ามเต็มตา แววตาของเขาดูระริกเข้าไปในความรู้สึกของอัญชนา“ไม่ใช่... นี่มันคือการต่อรองทางธุรกิจมากกว่า” เ







