‘น้ำใจเล็กๆ น้อยๆ หวังว่าจะไม่น้อยจนเกินไปสำหรับ ‘ผู้ชายขายกล้วย’ อย่างคุณ ขอบคุณค่ำคืนดีๆ ที่น่าจดจำ’ ‘เปลวตะวัน’ ฉุนจัดเมื่อตื่นมาในเช้าวันใหม่หลังผ่านค่ำคืนอัน เร่าร้อนกับแม่สาวไวไฟความเร็วเกิน 5G แล้วพบธนบัตรสีเทา ปึกหนึ่ง พร้อมจดหมายระบุข้อความถึงเขาชัดเจน! “ห้าหมื่น! กล้าดียังไงมาตีค่าราคาฉันด้วยเศษเงินแค่นี้” คนอย่างเขาเสียเงินไม่ว่า แต่เสียหน้าไม่ได้! หยามกันขนาดนี้ ต่อให้ต้องควานหาจนไกลสุดขอบฟ้า เขาก็จะตามล่าเธอมาลงทัณฑ์ให้ได้ ‘หมอเปลวตะวัน’ ผู้แสนหล่อเหลา เบื้องหน้าเขาคือสูตินรีแพทย์ผู้แสนสุภาพและอ่อนโยนแต่เบื้องลึกเขาแสนร้าย เร่าร้อน และดุดัน! เธออยากมีลูก แต่ไม่อยากมีสามีผูกมัด ‘หนุมโฮสต์’ ทรงเสน่ห์ ในค่ำคืนนั้นจึงตอบโจทย์ 'พราวชมพู' ไม่คิดว่าการตัดสินใจเลือกคำตอบข้อนี้จะนำความยุ่งยากมาให้มากขนาดนี้ เธอตาถั่วหรือสวรรค์ชังความคิดรั่วๆ ของเธอจึงแกล้งสาปส่งให้ดวงตาเธอฝ้าฟางเข้าใจไปว่าเขาคือ ‘ผู้ชายขายกล้วย’ ในคำนิยามของเธอที่นัดหมายเอาไว้ เธออยากได้แค่ลูก ไม่อยากได้ผัว ใครอยากได้แม่ยกให้ฟรีๆเลยเอ้า!
View More“บ้าชิบ! ผู้หญิงบ้ากล้าดียังไงถึงได้ทำกับฉันแบบนี้”
เสียงสบถด้วยความโกรธดังลั่นห้องพร้อมๆกับธนบัตรสีเทาหลายสิบใบปลิวว่อนเต็มห้องตามอาการเหวี่ยงสุดแรงตามติดด้วยเสียงแก้วแตกกระจายจากแรงโทสะของคนร่างสูงใหญ่
เพล้ง!
“ห้าหมื่น! เธอตีราคาค่าตัวฉันแค่นี้เนี่ยนะแม่ผู้หญิงอวดดี”
เขาสบถด่ากราดขณะขยำกระดาษใบน้อยที่ระบุข้อความเจาะจง ถึงตัวเขาด้วยความรู้สึกโกรธจนบอกไม่ถูก
คนอย่างเขามีแต่จ่ายเพื่อซื้อความสุขกับผู้หญิง สนุกสุขสมแล้วก็ จบกัน ไม่มีวนกลับมากินของเก่าให้เสียอารมณ์
แต่แม่สาวไวไฟความเร็วยิ่งกว่าห้าจีที่ไม่ประสีประสาคนนั้นเป็นใครถึงเอาเงินมาฟาดหัวเขาแบบนี้
เขาต่างหากควรเป็นคนตีจากพร้อมเปย์เงินให้แทนคำขอบคุณกับความสุขสมที่เขาตักตวงจนอิ่มเอมเมื่อคืนนี้ ไม่ใช่ตื่นมาเพื่อเจอเงินปึกหนึ่งพร้อมจดหมายน้อยบ้าๆนี่
“ฮัลโหล! ไปพบฉันที่เพนท์เฮ้าส์ด่วน ฉันมีงานให้แกทำ”
คนหัวเสียกรอกเสียงออกคำสั่งคำรามก้องไปตามสายหลังจากโทรหาลูกน้องคนสนิทที่เรียกใช้กันจนรู้นิสัยใจคอ
น้ำเสียงและแววตาของเขายามนี้ดุดันเป็นคนละคนกันกับหมอเปลวตะวัน สูตินรีแพทย์ผู้แสนสุภาพอ่อนโยนขวัญใจคนไข้สาวน้อยสาวใหญ่ที่ขยันสรรหาโรคให้ตัวเองและดาหน้าเข้ามาขอรักษากับเขาจนคิวแน่นขนัดไปหมด
ใช่! เบื้องหน้าเขาคือหมอหนุ่มผู้แสนดี แต่อีกด้านที่ไม่มีใครคาดคิดเขาคือเพลย์บอยร้อยสังเวียนผู้เจนจัดในชั้นเชิงรัก
บนเตียงนอนเขาคือผู้ชายที่เร่าร้อนดุดัน
เรือนร่างหนั่นแน่นและความเป็นชายของเขาเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ แห่งเพศ ชวนให้คลั่งไคล้หลงใหล
แต่ถึงกระนั้นเขาก็มีกฎเหล็กของเขาเอง
คนใกล้ตัวคือสิ่งต้องห้าม
ความสาวบริสุทธิ์คือสิ่งที่เขาไม่พึงแตะต้อง
คนที่จะขึ้นเตียงกับเขาได้คือคนที่เขาเลือกและผู้หญิงเหล่านั้นจะสัมผัสกับความเร่าร้อนชวนลุ่มหลงได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น คนอย่างเขาไม่เคยลากใครขึ้นเตียงเป็นครั้งที่สอง
ผิดกับเจ้าหล่อนคนนี้!
เปลวตะวันยอมรับว่าเขาแหกในทุกกฎเกณฑ์
เยื่อพรหมจรรย์ของผู้หญิงคือของต้องห้ามแต่ว่าเขาก็ชำแรกกระแทกกระทั้นจัดการมันจนขาดสะบั้นเมื่อค่ำคืนนี้
เกราะป้องกันคือสิ่งสำคัญแต่เขาก็เหวี่ยงทิ้งแล้วกระโจนเข้าสู่สนามเหมือนคนไร้สติ
เขายอมรับอย่างไม่อายว่าเจ้าหล่อนเย้ายวนชวนให้น่าค้นหาเสียจนเขาไม่สนใจเรื่องอื่นใด แม้แต่เรื่องสำคัญสำหรับความสัมพันธ์ฉาบฉวยที่ไม่พึงเกิดขึ้น เขาก็ดึงดันไหลตามน้ำไปกับเจ้าหล่อนอย่างไม่ใส่ใจ
‘ผมขอถามอีกครั้ง คุณมั่นใจแค่ไหนที่จะให้ผมปล่อยเจ้ายักษ์ร้ายนี่พ่นพิษใส่ในถ้ำคุณ’
‘ฉันบอกแล้วว่าฉันมั่นใจพันเปอร์เซ็นต์แล้วไม่ต้องย้ำถามอีกนะคะ ฉันคิดและตัดสินใจแล้ว ไม่อย่างนั้นฉันไม่มีวันขึ้นเตียงกับคุณแน่’
‘คุณมั่นใจเสียจนผมเริ่มหวั่นแล้วสิ หึๆ’
ถึงปากจะย้ำถามเจ้าหล่อน แต่นั่นคือการย้ำถามตัวเองไปพร้อมๆกัน แต่ในเมื่อหมูกำลังจะหาม ปลากำลังจะลอดไซใครจะถอยกลับได้
‘คุณมั่นใจเถอะฉันไม่แล่นไปตามหาตัวคุณเรียกร้องให้คุณรับผิดชอบอะไรๆแน่ๆฉันรับผิดชอบตัวเองได้ดีพอที่จะไม่ร้องขอจากใคร’
‘ก็ดี! อย่ามาร้องให้รับทีหลังก็แล้วกัน หึๆ’
เจ้าหล่อนมั่นหน้าขนาดนั้นเขาจะยอมเสียเชิงชายได้อย่างไร
ในเมื่อเจ้าหล่อนเรียกร้องเขาเลยสนองให้อย่างถึงอกถึงใจ แต่ไม่รู้ถึงใจใครกันแน่
เธอเร่าร้อน เขาลุ่มหลง
เธอออดอ้อน เขาเฝ้าป้อนปรนเปรอไม่หยุดหย่อน
ความสาวสดของเจ้าหล่อนถูกอกถูกใจเขาเสียจนไม่ได้หลับได้นอน ท้ายสุดก็ผล็อยหลับไปด้วยกันเมื่อย่างเข้าสู่ช่วงเช้าวันใหม่
เขาและเธอก่ายกอดพากันหลับใหลลงด้วยความอิ่มเอมและอ่อนเพลีย
ตื่นมาอีกที...แทนที่จะได้พานพบเรือนร่างนุ่มนิ่มที่เติมเต็มความสุขด้วยกันมาตลอดคืน เขากลับพบธนบัตรสีเทาปึกนี้กับกระดาษใบเล็กที่เจ้าหล่อนจงใจส่งมอบให้เขา
‘น้ำใจเล็กๆน้อยๆ หวังว่าจะไม่น้อยจนเกินไปสำหรับผู้ชายขายกล้วยอย่างคุณ ขอบคุณค่ำคืนดีๆที่น่าจดจำ’
“สาบานได้เลย! ต่อให้เธออยู่สุดหล้าฟ้าเขียวฉันจะลากเธอกลับมาชดใช้ความผิดที่คิดดูหมิ่นฉันแบบนี้หึๆ” เปลวตะวันคาดโทษแล้วจัดการอาบน้ำแต่งกายเพื่อตรงไปยังเพนท์เฮ้าส์ตามนัดหมาย
ถ้อยคำและห้วงเวลาแห่งค่ำคืนหฤหรรษ์ของเขาและเธอผุดพรายขึ้นมาเป็นฉากๆ มันชัดเจนในความทรงจำตอกย้ำให้เขายิ่งโกรธเกรี้ยวอย่างถึงที่สุด
ใช่! ในค่ำคืนอันเร่าร้อนนั้น เขามั่นใจ เขาคือคนต้อนหล่อนขึ้นเตียง ปลุกปั่นจนหล่อนร่ำร้องเร่งเร้า ตอกย้ำถามถึงความมั่นใจในความก๋ากั่น และรสสวาทที่เขาได้ลิ้มรสแบบไม่เคยพานพบคือคำตอบ
‘คุณมั่นใจนะว่าจะให้ผมทำแบบนั้นจริงๆ’
‘แน่นอน’
‘แล้วจะมาร้องไห้เสียใจทีหลังไม่ได้นะ’
‘คนอย่างฉันไม่มีคำว่าเสียใจกับสิ่งที่ฉันคิดและตัดสินใจดีแล้ว’
‘ได้! ถ้าอย่างนั้นผมจะสนองให้จุใจคุณไปเลยหึๆ’
น้ำเสียงทุ้มนุ่มลึกนั้นแหบห้าวสั่นพร่าเพราะคนตั้งคำถามกำลังปั่นป่วนด้วยความซาบซ่าน แรงกำหนัดซึ่งพุ่งพล่านเล่นงานเขาจนแทบจะยับยั้งใจไม่ไหว
และเมื่อได้คำตอบเด็ดเดี่ยวไม่ลังเลใจ เจ้าของเรือนร่างกำยำก็จับส่วนหัวของเจ้าอนาคอนด้ายักษ์มุดเข้าสู่ช่องทางคับแคบซึ่งมุ่งตรงสู่โพรงถ้ำต้นกำเนิดธารน้ำฉ่ำชุ่มทันที
การเคลื่อนตัวเข้าสู่คอคอดอันคับแคบอย่างรวดเร็วนั้นเรียกเสียงหวีดหวานจากเจ้าของเรือนร่างอ้อนแอ้นที่นอนทอดกายแอ่นระแน้เชื้อเชิญเจ้าของงูยักษ์ร้าย
คอคอดนั้นไม่เคยมีใครย่ำกรายนั้นช่างคับแคบเกินไปสำหรับลำกายอันมหึมา เมื่อเจ้าอนาคอนด้าร้ายของเขาดุนหัวเข้าใส่หมายลอดผ่านเข้าไปด้วยความรวดเร็ว ความอ่อนนุ่มของผืนที่แห่งนั้นจึงแทบปริแตกเหมือนผืนดินแตกระแหงถูกท่อนเหล็กหนักๆตอกอัดอย่างรุนแรง
เมื่อลำกายกร้าวแกร่งแทรกผ่านเข้าไปได้ยากเย็นเหลือใจ เจ้าของเรือนกายแกร่งกร้าวจึงต้องถอดถอยออกมาตั้งหลักแล้วออกแรงปลุกปล้ำนำพามันลอดเข้าถอยออกอยู่เสียหลายหน
จนท้ายสุดก็พุ่งสอดลอดผ่านเข้าไปได้จนสุดลำกายใหญ่ยาว
การพาเจ้างูยักษ์ร้ายรุกล้ำเข้าไปดื่มด่ำหยาดน้ำอมฤตในคราวนี้ ทำเอาเจ้าของเรือนกายที่อุดมไปด้วยกล้ามเนื้อหนั่นแน่นทรงพลังถึงกับ หอบแฮ่ก
เขาพาเจ้าอนาคอนด้ายักษ์สัตว์เลี้ยงคู่ใจลอดเข้าลอดออกสำรวจซอกซอนโพรงถ้ำมานับครั้งไม่ถ้วน ไม่มีครั้งไหนที่ถูกสูบพลังมากเท่านี้
ช่องทางที่ไม่เคยมีผู้ใดสำรวจมาก่อนช่างเต็มไปด้วยความรู้สึกหฤหรรษ์ มันกระตุ้นความอยากรู้อยากลองและปลุกความเถื่อนดิบที่ซุกซ่อนในตัวเขาออกมาได้ชะงัดนัก
แอ๊ดดดด...เสียงประตูห้องพักเปิดออกพร้อมกับฝีเท้าหลายคู่ก้าวเข้ามาในห้องดังขึ้น พราวชมพูกับเปลวตะวันหันไปมองตามเสียงนั้นพอเห็นหมอปาลิดาอุ้มลูกน้อยเข้ามาก็ยิ้มกว้างพร้อมกับสบตากันโดยไม่ได้นัดหมายก่อนที่จะมองไปยังร่างน้อยๆในอ้อมแขนของพี่สาวพร้อมๆกัน“ปาป๊ามามี้ขาเจ้าหญิงมาแล้วค่ะ” เสียงปาลิดาเอ่ยนำมาพร้อมกับเดินมาหยุดข้างเตียงและส่งหนูน้อยในอ้อมแขนให้กับเปลวตะวันที่ยื่นมือไปรับลูกน้อยเข้าสู่อ้อมอก พราวชมพูมองดูภาพนั้นด้วยความรู้สึกซาบซึ้งในหัวใจ เธอซึมซับเก็บความรักท่วมท้นนี้ไว้ทุกอณูความรู้สึก“ลูกสาวของปาป๊าสวยน่ารักเหลือเกิน”“สวยน่ารักเหมือนแม่แต่ดูๆไปพี่ว่าเหมือนเปลวมากๆเลยนะ”“นั่นสิครับพี่ป่าน ผมว่าเจ้าหญิงเหมือนผมเอามากๆเลยนะครับ” เปลวตะวันยิ้มกว้างอย่างเห็นด้วย ดวงตาคมพริบพราวด้วยความตื่นเต้น“ดูสิพราวเจ้าหญิงหน้าตาเหมือนพี่อย่างกับแกะพิมพ์ออกมาเลยนะ” คนเห่อลูกหันมาทางเมียรักพร้อมกับบรรจงวางลูกน้อยลงสู่อ้อมแขนคนเป็นแม่อย่างทะนุถนอม“ถ้าพี่ไม่ตั้งใจพราวจะได้ลูกสมใจเหรอครับ”พราวชมพูค้อนวงเล็กแล้วหันมาสนใจลูกน้อยในอ้อมอก เ
“ทำหน้าแบบนี้แสดงว่าพราวไม่เชื่อใจพี่” เปลวตะวันแสร้งทำเสียงงอนๆ ทอดสายตาออดอ้อนยามมองเมียรัก พราวชมพูทำหน้ายู่แล้วตอบอย่างเสียไม่ได้“ก็บอกแล้วว่าพราวเชื่อใจพี่แต่ไม่ไว้ใจคนอื่น”เปลวตะวันถอนหายใจเบาๆก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลอ่อนโยน“ถ้าเชื่อใจก็ต้องวางใจว่าพี่จะไม่มีวันทำให้พราวเสียใจ”“พราวรักพี่หมอนี่คะ รักแล้วก็หวงมาก พราวไม่ชอบให้ใครเข้าใกล้พี่หมอ”ได้ฟังแบบนี้เปลวตะวันก็หัวใจฟูฟ่อง เขาบีบปลายจมูกพราวชมพูเบาๆก่อนทำท่าขบคิดแล้วพูดต่อ“ถ้าอย่างนั้นพี่จะดึงเอานักศึกษาชายมาคั่นกลางไม่ให้สาวๆเข้าใกล้ดีไหมครับ”“ชายแท้นะคะ ชายเทียมก็ห้ามพราวหวง”คราวนี้เปลวตะวันถึงกับหัวเราะลั่นห้อง ก็พอรู้หรอกว่าเมียขี้หึงและหวงหนักมากแต่นี่เล่นหวงไปถึงเพศที่สามทำเอาเขาถึงกับกลั้นหัวเราะไว้ไม่ได้“อย่าหัวเราะสิคะ”“ไม่หัวเราะก็ได้แต่ขอจูบพราวแทนก็แล้วกัน” เปลวตะวันว่าแล้วก็โน้มใบหน้าเข้าหาบรรจงจูบเมียรักตามปากว่าทันทีพราวชมพูที่ไม่ทันตั้งตัวถึงกับครางท้วงเบาๆ แต่ถึงจะท้วงก็ไม่ได้ผลักไสพอเขาบดจูบเว้าวอนเธอก็ตอบรับจูบหวาม
กริ๊งงงงง...กริ๊งงงงง...“หมอเปลวค่ะ หมอเปลวโทรมาแสดงว่าน่าจะถึงแล้ว” นิศาชลรับร้องบอกเมื่อเห็นสายเรียกเข้า พราวชมพูยิ้มกว้างด้วยความดีใจแต่ยิ้มได้ไม่เท่าไรก็ต้องร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวดเมื่อมดลูกเริ่มหดรัดตัวอีกระลอกและอาการปวดท้องก็หนักหน่วงขึ้นจับหัวใจ“โอ๊ยยยย...ปวดอีกแล้ว ลูกจ๋า...ใจเย็นๆนะลูก โอ๊ย....พี่ป่านขา ปวดมากคราวนี้ปวดมากจริงๆ”“นิบอกพยาบาลเตรียมห้องคลอดให้พร้อมแล้วย้ายพราวไปที่เตียงได้แล้ว”“ค่ะๆหมอป่าน ฮัลโหล หมอเปลวคะมาที่ห้องคลอดได้เลยนะคะตอนนี้คุณพราวกำลังจะย้ายขึ้นเตียงรอคลอดแล้วค่ะ” นิศาชลรับบอกกับปลายสายทันทีที่กดรับสายแล้วรีบกดอินเตอร์คอมพ์บอกกับพยาบาลเวรในวันนี้ให้เตรียมความพร้อมตามคำสั่งของหมอปาลิดาหลังจากนั้นไม่นานพราวชมพูก็ถูกย้ายขึ้นเตียงรอคลอด และพอคุณแม่มือใหม่ขึ้นขาหยั่งเตรียมพร้อม สายตาของเธอก็สบเข้ากับร่างสูงของสามีที่รักเดินเข้ามาด้วยความรีบร้อน“พี่หมอมาแล้ว”“พี่อยู่นี่แล้วพราว ขอบคุณสวรรค์ที่เมตตาให้พี่มาทันเวลา”&ldq
“พราวปวดมากไหม”“พอไหวค่ะพี่ป่าน มันไม่ได้ปวดตลอด ปวดเป็นพักๆตอนนี้ดีขึ้นบ้างแล้วค่ะ”“โอเค ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวเปลี่ยนเสื้อผ้านะ เราต้องไปโรงพยาบาลกัน”“พราวกำลังจะคลอดใช่ไหมคะพี่ป่าน”“เดี๋ยวต้องตรวจดูให้ละเอียดอีกทีว่าจะยืดการคลอดออกไปได้ไหม ปวดท้องแล้วก็มีน้ำเดินแบบนี้บางทีอาจต้องคลอดเลย”“ถ้าพราวคลอดก่อนกำหนดแบบนี้ยัยหนูจะเป็นอะไรหรือเปล่าคะพี่ป่าน” พราวชมพูถามอย่างกังวล ความไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อนแล้วยังต้องมาคลอดก่อนกำหนดแบบนี้ทำเอาเธอรู้สึกใจคอไม่ค่อยดี แถมยังมาปวดท้องคลอดตอนที่เปลวตะวันไม่อยู่เธอยิ่งรู้สึกกังวลอย่างบอกไม่ถูก“ทำใจให้สบายนะพราว ถ้าหากต้องคลอดจริงๆยัยหนูก็ไม่เป็นไรหรอก อายุครรภ์ของพราวกับน้ำหนักยัยหนูถ้าคลอดก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัยแล้วล่ะ”“ถึงจะอย่างนั้นแต่พราวก็อดใจเสียไม่ได้ค่ะ พี่หมอก็ไม่อยู่ด้วยพราวเลยกังวลไปหมด”“เรื่องปกติจ้ะพราวไม่ว่าใครก็กังวลทั้งนั้นแหละ แต่พราวมีพี่ทำใจให้สบายนะ มาเถอะพี่จ
เขาพูดอีกก็ถูกอีกเขาไม่ได้เอาตามแต่ใจเขาแต่เขาเอาตามแต่ใจเธอด้วยเช่นกันและเธอเองก็สุขหฤหรรษ์ไปพร้อมกันกับเขาเสียทุกครา“หายเหนื่อยแล้วมาต่อกันเถอะ”“พอก่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวพราวจะคลอดก่อนกำหนดหรือไม่ก็แท้งเสียก่อน”“ไม่หรอกน่า พี่เป็นหมอนะรู้ดีว่าท่าไหนถึงจะปลอดภัย”พราวชมพูค้อนรอบที่เท่าไรเธอนับไม่ถ้วน เปลวตะวันเห็นแล้วก็กระเซ้าอารมณ์ดี“สายตาแบบนี้ไม่เชื่อสินะ ไม่เป็นไรเดี๋ยวพี่จะทำให้ดู ทำมันทุกท่าที่ว่าเด็ดแต่ปลอดภัยนั่นแหละ พราวจะได้รู้ว่าพี่รู้จริงไม่ได้ขี้โม้” เขาบอกแล้วก็เริ่มต้นกระบวนท่าแรกทันทีพราวชมพูไม่ทันตั้งหลักถึงกับหวีดเบาๆด้วยความเสียดเสียวยิ่งเห็นเธอถูกปลุกอารมณ์ง่ายดายแบบนี้เปลวตะวันยิ่งฮึกเหิมจากที่คิดว่าจะเริ่มวันละท่าสองท่าเห็นแล้วค่ำคืนอันยาวนานคืนนี้น่าจะได้หลายกระบวนท่ากว่าจะหมดเรี่ยวแรงไม่เป็นไร! ไม่เป็นไร! จะวันละท่าสองท่าหรือหลายท่า ไม่ว่าวันพรุ่งนี้ หรือวันต่อๆไปเขาก็พร้อมเสมอ***************************เวลาผ่านมาหลายเดือนแล้วหลังจากที่เธอกับหมอห
พราวชมพูค่อยๆปิดเปลือกตาลงด้วยความรู้สึกผ่อนคลาย เธอนอนตะแคงน้อยๆหันหลังให้เขาขณะที่ฝ่ามือร้อนผ่าวของเขาคลึงเบาๆไปตามเรือนร่าง สัมผัสนั้นช่างนุ่มนวลชวนให้ผ่อนคลายจนแทบจะดำดิ่งลงสู่ห้วงนิทราแต่ยังไม่ทันหลับ พราวชมพูก็ต้องสะดุ้งเมื่อเขานาบริมฝีปากร้อนชื้นลงบนต้นคอนวลเนียนของเธอ ดูดกลืนนวลเนื้อตรงนั้น หากเดาไม่ผิดตอนนี้คงเป็นรอยคิสมาร์กที่เขาจงใจฝากฝังเอาไว้แสดงความเป็นเจ้าของเท่านั้นไม่พอฝ่ามือร้อนที่โลมลูบไปตามเอวคอดเลื่อนลากไปยังส่วนโค้งของสะโพกกลมกลึงก็ค่อยๆสอดผ่านรอยแยกของสาบเสื้อคลุมเข้าไปทักทายส่วนนั้นตรงกลางกาย“อย่าซนสิคะ พราวให้นวดไม่ได้ให้มาซุกซนแบบนี้”“เซ็กส์คือการนวดที่ดีที่สุด เชื่อพี่สิพี่เรียนมา” เขากระซิบเสียงสั่นแล้วปลุกปั่นเธออย่างเอาแต่ใจพราวชมพูเผลอไผลหลุดครางออกมาเบาๆเมื่อปลายนิ้วร้ายของเขาลากไล้ถูไถจุดกลางกายของเธอหน่วงหนักแต่แฝงด้วยความนุ่มนวลยั่วยวนให้เธอคลั่งไคล้คล้อยตาม“ปล่อยตัวตามสบายนะครับ พราวจะรู้สึกผ่อนคลายแล้วก็สุขจนเคลิ้มเลยเชียวแหละ”“อย่ามาอ้อล้อ พราวเจ็บหนักเพิ่งหายออกมาแบบนี้พี่หมอยังมีอารมณ์มาป
พราวชมพูรับรู้เรื่องราวด้วยอาการสงบนิ่งผิดจากเปลวตะวันที่แสดงอาการเคืองแค้นชัดเจน พราวชมพูเห็นแล้วก็ปลอบประโลมผ่อนปรนความเครียดขึงของเขาด้วยรอยยิ้มน้อยๆพร้อมลูบท่อนแขนแกร่งอย่างเอาอกเอาใจ“เรื่องมันผ่านไปแล้วพี่หมออย่าใส่ใจเลยนะคะ ตอนนี้พราวกับลูกก็ปลอดภัยแล้ว อะไรที่ให้อภัยได้ ก็ให้อภัยเถอะค่ะ โกรธแค้นไปก็เท่ากับเราร้อนอยู่ในใจเรา หาความสุขสงบไม่ได้หรอกนะคะ”“พี่รู้ว่าโกรธเขาเท่ากับจุดไฟเผาตัวเอง แต่พี่ก็ยังตัดใจอภัยให้ง่ายๆไม่ได้ ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกลทำผิด แต่มันครั้งแล้วครั้งเล่าและเกลก็ไม่เคยสำนึก”“พราวเชื่อเรื่องกฎแห่งกรรมค่ะ ใครทำอย่างไรย่อมได้อย่างนั้น พราวคนหนึ่งแหละที่จะไม่เอาขาตัวเองไปเกี่ยวไว้กับวิบากกรรมของใคร”“เพิ่งรู้ว่าเมียพี่จิตใจเป็นแม่พระเหลือเกิน พราวคนที่ฟาดใครไม่ยั้งหายไปไหนกันนะ”“ก็ยังอยู่ตรงนี้ยังเป็นคนเดิมนี่แหละค่ะแค่พราวรู้จักปล่อยวางและให้อภัยเป็น”เปลวตะวันฟังแล้วก็นิ่งไปสักพัก พราวชมพูพูดถูกหากปล่อยวางและให้อภัยได้ใจเราก็สงบสุข“จบเรื่องร้ายๆเสียทีออกจากโรงพยาบาลครั้งนี้เราไปจดท
“พี่ไม่เข้าใจ พี่ไม่รู้ พูดได้หน้าตายไปไหมพี่”“กูไปแย่งแฟนมึงตอนไหน เกิดมากูก็คบของกูอยู่คนเดียวแล้วกูก็ไม่ได้ไปแย่งใครมา มึงต่างหากมาแย่งเขาไปจากกู”“เรื่องพี่แย่งผมไปตอนไหนเอาไว้มีเวลาพี่ลองไปคิดเอาเองจะดีกว่า ผมขี้เกียจเล่า คนฉลาดๆทันคนแบบพี่น่าจะคิดออกได้ไม่ยาก ส่วนเรื่องแฟนพี่นั่นผมไม่ได้แย่งหรอกว่ะพี่ แต่ที่เขาตีตัวออกห่างหันมาซบอกผมวันนั้นก็เพราะพี่ดูแลรักษาเขาไว้ไม่ได้ต่างหาก เหมือนวันนี้ไงพี่เองก็รักษาคุณ พราวชมพูไว้ไม่ได้ ถ้าไม่มีผมอยู่ตรงนั้นพี่ลองคิดสิว่าจะเป็นยังไง เธอกับลูกจะรอดชีวิตมาได้ไหมวะพี่”“มึงไม่ต้องมาแดกดันมายกยอตัวเองข่มกู”“เปล่าพี่ ผมไม่ได้ข่มพี่ แต่ผมพูดจริง ปล่อยพราวชมพูให้ผมดูแลต่อเถอะพี่ เพราะอะไรๆมันพิสูจน์มาหลายครั้งแล้วว่าพี่ดูแลใครไม่ได้จริงๆ”“อย่าคิดว่ากูจะปล่อยให้มึงมายุ่งกับเมียกูเหมือนปล่อยให้มึงมาแย่งคนรักกูไป”“ว้าว! คำก็แฟน สองคำก็คนรัก ถ้าคุณพราวลุกขึ้นมาได้ยินแบบนี้เธอจะภูมิใจไหมนะที่พ่อของลูกเอาแต่พูดถึงผู้หญิงอื่นแบบนี้”“มึงกลับไปซะไอ้หมอยอด เรื่องที่มึงกวนตีนกูวันนี้กูจะถือ
อีกด้านของท้องถนนรถกระบะโฟร์วีลรุ่นล่าสุดของค่ายยักษ์ใหญ่จอดแบบกะทันหันเพราะเจ้าของรถทันได้เห็นเหตุการณ์เข้าแบบพอดิบพอดีอุบัติเหตุเป็นสิ่งไม่คาดคิดเสมอ และเขาเองก็ไม่อาจปล่อยผ่านเลยไปได้ จึงรีบจอดรถและเปิดประตูก้าวลงจากรถวิ่งข้ามถนนมาช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุเพียงแค่มาถึงคิ้วดกสวยของเขาก็ต้องขมวดมุ่นเพราะรถที่อัดติดอยู่กับต้นไม้นั้นช่างคุ้นตาเสียเหลือเกินสองตามองสองเท้าก้าวเข้าไปส่วนมือก็รีบโทรออกเรียกรถกู้ภัยทันทีพอบอกพิกัดเสร็จก็มาถึงตัวรถพอดี แล้วเขาก็ต้องตกใจจนทำสมาร์ตโฟนในมือร่วงหล่นเพราะเห็นคนเจ็บที่ติดอยู่ในรถเต็มสองตา“คุณพราว” ยอดนักรบรีบหาทางเปิดประตูรถหวังช่วยคนเจ็บ เห็นเธออยู่ในรถของเปลวตะวันเพียงลำพังก็ยิ่งเครียดขึงคนกำลังท้องแบบนี้ปล่อยให้มาขับรถเพียงลำพังในที่ไกลห่างผู้คนแบบนี้ได้อย่างไรโชคดีหรือเปล่าที่เขาผ่านมาเห็นเข้าถ้าหากโชคดีของเธอ เขาก็ขอให้โชคดีตลอดไป ให้เขาช่วยเธอได้ทันเวลาก่อนที่จะสายไป“คุณพราว! คุณได้ยินผมไหม” เขาทุบกระจกตะโกนเรียกเธอสุดเสียง ภาวนาให้รถกู้ภัยมาถึงโดยเร็
Comments