“เป็นไปได้ยังไง ผู้หญิงคนเดียวสองเดือนกว่าแล้วแต่หาตัวไม่เจอ” เปลวตะวันสบถบ่นอย่างหัวเสียเมื่อคนสนิทที่เรียกใช้งานเป็นประจำรายงานความคืบหน้าเรื่องที่เขาให้ติดตามหาตัวผู้หญิงคนนั้น
จากคืนนั้นจนวันนี้เขาแทบกินไม่ได้นอนไม่หลับ ในหัวเขามีแต่ข้อความหยามหน้าที่เจ้าหล่อนคนนั้นทิ้งเอาไว้ให้ตอกย้ำวันแล้ววันเล่า
สาบานได้เลยว่าถ้าหากชาตินี้เขาตามล่าลากเจ้าหล่อนมาลงทัณฑ์ให้สาสมกับความอวดดีไม่ได้ เขาจะตามจองเวรทุกชาติไปไม่สิ้นสุด คนอย่างเขาสามชาติสามภพแก้แค้นก็ยังไม่สาย
“นายมั่นใจนะว่านายตั้งใจหาแม่นั่นจริงๆ”
“โธ่...นายครับ ผมเคยโกหกนายเสียที่ไหนล่ะครับ นี่ผมก็ควานหาแทบพลิกแผ่นดินแล้วก็ไม่พบใครสักคนเลยนะครับที่จะเข้าข่ายว่าเป็นผู้หญิงที่นายตามหา”
“บ้าชะมัด! ผู้หญิงคนเดียวทำไมหายากหาเย็นแบบนี้นะ”
“เอ่อ...นายครับ”
“มีอะไร”
“ปกตินายไม่เคยเรียกหาใครครั้งที่สองแล้วนี่...”
“อย่าเสือกสักเรื่องจะได้ไหม จะไปไหนก็ไป แล้วถ้าตามหาแม่นั่นไม่เจอก็อย่ากลับมาให้เห็นหน้าอีกเข้าใจไหม”
จบคำตวาดของหมอหนุ่มรูปงามแต่ดุดันยิ่งกว่าเสือ ลูกน้องผู้รู้ใจก็รีบเผ่นแนบไม่ลีลาท่ามาก เจ้านายของเขาอารมณ์ร้ายไม่เข้าใครออกใคร ยิ่งเวลาไม่ได้ดั่งใจยิ่งไม่ควรอยู่ใกล้ เรื่องเหล่านี้เขารู้ดีกว่าใคร
พอคล้อยหลังคนสนิทคนติดอยู่กับความคับแค้นฝังแน่นใจก็ได้แต่ฟาดงวงฟาดงากับตัวเอง
เขาต้องนิ่งให้มาก ต้องใช้ความคิดให้หนัก เขาเชื่อว่าเจ้าหล่อนอยู่ไม่ไกล เพียงแต่มีอะไรบางอย่าง บดบังทำให้เขาและเธอแคล้วคลาดกัน
ดึ๋ง ดึ่ง...
สายตาคมดำสนิทตวัดขวับมองหน้าจอสมาร์ตโฟนที่วางอยู่บนโต๊ะตรงหน้า พอเห็นว่าใครเป็นคนส่งข้อความมา ริมฝีปากหยักราวคันศรก็คลี่ยิ้มก่อนยื่นมือหนาใหญ่ไปหยิบเอาสมาร์ตโฟนเครื่องโปรดมาเปิดอ่านข้อความ แล้วโทรหาเจ้าของข้อความทันที
“พี่ต้องไปดูงานต่างประเทศสองอาทิตย์ มาอยู่คลินิกแทนพี่ได้ไหม” นั่นคือคำทักทายจากพี่สาวเพียงคนเดียวของเขา
“จะทักทายถามสารทุกข์สุขดิบน้องบ้างไม่ได้เหรอครับคุณพี่”
“จะต้องถามทำไมในเมื่อพี่รู้อยู่แล้วว่าเปลวมีความสุขอยู่ทุกคืนวัน”
เปลวตะวันหัวเราะร่วนกับคำตอบ นอกจากคนสนิทแล้วก็มีพี่สาวเขานี่แหละที่รู้ไส้รู้พุงเขาดีกว่าใคร
“ไม่ต้องมาหัวเราะ บอกมาคำเดียวว่ามาได้หรือไม่ได้”
“โธ่...พี่ครับ มีครั้งไหนบ้างที่ผมจะปฏิเสธพี่น่ะ”
“พี่ไม่ใช่แม่ยกเราไม่ต้องมาทำปากหวานกับพี่”
“พี่ล่ะก็ อย่าซีเรียสนักสิครับ นี่ผมน้องพี่นะ ไม่ใช่นักเรียนที่พี่ต้องวางมาดดุเข้าใส่น่ะ”
“ก็เพราะเป็นน้องน่ะสิถึงต้องดุ ขนาดว่าพี่ดุเปลวยังอ้อล้อไม่เป็นโล้เป็นพายแบบนี้ นี่ถ้าคุณพ่อคุณแม่ยังอยู่คงปวดหัวกับเปลวไม่เว้นวันแน่”
“ผมเป็นหมอแล้วนะพี่ หมอฝีมือดี เก่งด้วย ไม่อย่างนั้นพี่จะเรียกหาให้ไปดูแลคนไข้ที่คลินิกแทนพี่เหรอครับ ฮ่าๆๆ”
“โอเคย่ะ! พ่อคนเก่ง เก่งงานแล้วก็ควรเก่งเรื่องการใช้ชีวิตด้วยนะยะไม่ใช่โอนเอนเป็นไม้หลักปักเลนแบบนี้”
“เอาเป็นว่าพี่จะไปวันไหน ไปกี่วันครับ ผมจะได้เคลียร์งานทางนี้ไปดูคลินิกแทนพี่”
“เปลี่ยนเรื่องทันทีเชียวนะ”
“ไม่รีบเปลี่ยนเดี๋ยวพี่ก็บ่นจนตีนกาขึ้นอีกน่ะสิครับไม่เอานะครับ เท่าที่มีผมก็ว่าพี่นับไม่ถ้วนแล้ว”
“เรานี่มัน”
“ฮ่าๆๆ ผมวางสายก่อนนะครับ ต้องเข้าห้องผ่าตัดแล้วพี่ส่งตารางงานมาได้เลยไปล่ะครับรักพี่นะครับบายจุ๊บๆ” พูดจบหมอเปลวตะวันก็รีบวางสายแล้วปิดเครื่องหนีทันที ทำเอาปลายสายได้แต่เข่นเขี้ยวหมั่นไส้ในความเป็นเด็กหนุ่มช่างยียวนในสายตาคนเป็นพี่
แต่อย่างว่าน้องชายเธออาจจะกวนประสาทไปบ้างแต่เรื่องงานก็ไม่เคยทำให้ใครผิดหวัง
ก๊อกๆ ก๊อกๆ
เสียงเคาะประตูห้องส่งสัญญาณบอกว่าอาจมีคนไข้เข้ามารักษาคุณหมอสาวจึงกดกริ่งส่งสัญญาณกลับไปให้รู้ว่าให้เข้ามาได้
“คุณหมอคะ มีคนไข้มาขอฝากครรภ์ค่ะ ขอเป็นหมอผู้หญิงเท่านั้น คุณหมอจะตรวจเลยไหมคะ หรือจะนัดให้มาหลังคุณหมอกลับมาแล้ว”
“ให้เข้ามาตรวจเลยสิ คนกำลังท้องกำลังตื่นเต้น ยังไงก็คงไม่อยากรอนาน”
พยาบาลสาวรับคำแล้วหันหลังกลับไปและกลับเข้ามาอีกครั้งพร้อมหญิงสาวร่างโปร่งระหงในชุดเดรสสีหวานสดใส
“สวัสดีค่ะคุณหมอ”
“เชิญนั่งค่ะ คุณ...”
“พราวชมพูค่ะ เรียกสั้นๆว่าพราวก็ได้ค่ะ”
คุณหมอสาวคลี่ยิ้มสวยส่งให้ว่าที่คุณแม่ที่หน้าตาดูอ่อนวัยกว่าตัวเลขบ่งบอกอายุที่ระบุในประวัติคนไข้รายใหม่ของคลินิก ดวงตาดำขลับอ่อนโยนทอดมองคนแจ้งความประสงค์ขอฝากครรภ์แล้วเริ่มซักประวัติ
“ลูกคนแรกเหรอคะ”
“ใช่ค่ะ นี่ค่ะชุดตรวจครรภ์ พราวลองตรวจมาแล้ว แบบนี้คือท้องแน่ๆใช่ไหมคะ”
หมอปาลิดาหรือหมอป่านผู้ใจดีของคนไข้ยื่นมือไปรับสิ่งที่ว่ามาดูแล้วยิ้มอ่อนโยนก่อนตอบ
“ใช่ค่ะ สองขีดชัดเจน แต่เดี๋ยวตรวจซ้ำอีกรอบได้ค่ะเพื่อความแน่นอน ว่าแต่ประจำเดือนครั้งสุดท้ายเมื่อไรคะ”
“สองเดือนกว่าแล้วค่ะ” พราวชมพูรีบตอบด้วยความกระตือรือร้น ยามนี้หัวใจเธอแทบกระดอนออกมานอกอก
“พราวรอจนมั่นใจก่อนถึงได้ตรวจแล้วก็มาพบคุณหมอเพื่อปรึกษาเรื่องฝากครรภ์ค่ะ”
“ยินดีด้วยนะคะ ท้องแรกแบบนี้คงตื่นเต้นแน่เลย”
“ใช่ค่ะ ตื่นเต้นมาก ดีใจยิ่งกว่าถูกรางวัลที่หนึ่งอีกค่ะ”
หมอสาวยิ้มกับอาการตื่นเต้นยินดีนั้นพร้อมกับถามไถ่ต่อเพื่อเป็นข้อมูลจดบันทึกไว้สำหรับการฝากครรภ์
“แต่งงานมากี่ปีแล้วคะ แล้วนี่คุณสามีไม่ได้มาด้วยเหรอ”
คำถามนั้นทำเอาพราวชมพูต้องกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ก่อนรวบรวมความกล้าตอบออกไปอย่างคนมั่นอกมั่นใจ
“พราวไม่มีสามีหรอกค่ะ พราวยังไม่ได้แต่งงาน”
มือเล็กๆที่กำลังจรดปลายปากกาจดบันทึกข้อมูลชะงักกึกก่อนที่ เจ้าตัวจะช้อนสายตาขึ้นมองว่าที่คุณแม่คนใหม่ เห็นเจ้าหล่อนยิ้มกว้างมองมาก่อนแล้ว สีหน้าแววตาไร้ร่องรอยแห่งความโศกเศร้าก็อดประหลาดใจไม่ได้
“เอ่อ...จะเป็นไปไหมคะถ้าหมอจะถามต่อ เพราะมันเป็นข้อมูลสำคัญสำหรับการฝากครรภ์ค่ะ”
“คุณหมอถามมาเถอะค่ะ พราวยินดีตอบพราวไม่มีอะไรปิดบังอยู่แล้วค่ะ” พราวชมพูตอบด้วยความมั่นใจ แต่คุณหมอสาวฟังแล้วไม่ได้รู้สึกโล่งใจไปด้วย
เจอคนไข้ท้องหลังหย่าขาดมาก็มาก
ท้องไม่พึงประสงค์ก็เยอะ
แต่ไม่เคยเจอใครท้องไม่มีพ่อแล้วยังยิ้มแย้มแจ่มใสได้มากเท่าคนตรงหน้าอีกแล้ว
แอ๊ดดดด...เสียงประตูห้องพักเปิดออกพร้อมกับฝีเท้าหลายคู่ก้าวเข้ามาในห้องดังขึ้น พราวชมพูกับเปลวตะวันหันไปมองตามเสียงนั้นพอเห็นหมอปาลิดาอุ้มลูกน้อยเข้ามาก็ยิ้มกว้างพร้อมกับสบตากันโดยไม่ได้นัดหมายก่อนที่จะมองไปยังร่างน้อยๆในอ้อมแขนของพี่สาวพร้อมๆกัน“ปาป๊ามามี้ขาเจ้าหญิงมาแล้วค่ะ” เสียงปาลิดาเอ่ยนำมาพร้อมกับเดินมาหยุดข้างเตียงและส่งหนูน้อยในอ้อมแขนให้กับเปลวตะวันที่ยื่นมือไปรับลูกน้อยเข้าสู่อ้อมอก พราวชมพูมองดูภาพนั้นด้วยความรู้สึกซาบซึ้งในหัวใจ เธอซึมซับเก็บความรักท่วมท้นนี้ไว้ทุกอณูความรู้สึก“ลูกสาวของปาป๊าสวยน่ารักเหลือเกิน”“สวยน่ารักเหมือนแม่แต่ดูๆไปพี่ว่าเหมือนเปลวมากๆเลยนะ”“นั่นสิครับพี่ป่าน ผมว่าเจ้าหญิงเหมือนผมเอามากๆเลยนะครับ” เปลวตะวันยิ้มกว้างอย่างเห็นด้วย ดวงตาคมพริบพราวด้วยความตื่นเต้น“ดูสิพราวเจ้าหญิงหน้าตาเหมือนพี่อย่างกับแกะพิมพ์ออกมาเลยนะ” คนเห่อลูกหันมาทางเมียรักพร้อมกับบรรจงวางลูกน้อยลงสู่อ้อมแขนคนเป็นแม่อย่างทะนุถนอม“ถ้าพี่ไม่ตั้งใจพราวจะได้ลูกสมใจเหรอครับ”พราวชมพูค้อนวงเล็กแล้วหันมาสนใจลูกน้อยในอ้อมอก เ
“ทำหน้าแบบนี้แสดงว่าพราวไม่เชื่อใจพี่” เปลวตะวันแสร้งทำเสียงงอนๆ ทอดสายตาออดอ้อนยามมองเมียรัก พราวชมพูทำหน้ายู่แล้วตอบอย่างเสียไม่ได้“ก็บอกแล้วว่าพราวเชื่อใจพี่แต่ไม่ไว้ใจคนอื่น”เปลวตะวันถอนหายใจเบาๆก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลอ่อนโยน“ถ้าเชื่อใจก็ต้องวางใจว่าพี่จะไม่มีวันทำให้พราวเสียใจ”“พราวรักพี่หมอนี่คะ รักแล้วก็หวงมาก พราวไม่ชอบให้ใครเข้าใกล้พี่หมอ”ได้ฟังแบบนี้เปลวตะวันก็หัวใจฟูฟ่อง เขาบีบปลายจมูกพราวชมพูเบาๆก่อนทำท่าขบคิดแล้วพูดต่อ“ถ้าอย่างนั้นพี่จะดึงเอานักศึกษาชายมาคั่นกลางไม่ให้สาวๆเข้าใกล้ดีไหมครับ”“ชายแท้นะคะ ชายเทียมก็ห้ามพราวหวง”คราวนี้เปลวตะวันถึงกับหัวเราะลั่นห้อง ก็พอรู้หรอกว่าเมียขี้หึงและหวงหนักมากแต่นี่เล่นหวงไปถึงเพศที่สามทำเอาเขาถึงกับกลั้นหัวเราะไว้ไม่ได้“อย่าหัวเราะสิคะ”“ไม่หัวเราะก็ได้แต่ขอจูบพราวแทนก็แล้วกัน” เปลวตะวันว่าแล้วก็โน้มใบหน้าเข้าหาบรรจงจูบเมียรักตามปากว่าทันทีพราวชมพูที่ไม่ทันตั้งตัวถึงกับครางท้วงเบาๆ แต่ถึงจะท้วงก็ไม่ได้ผลักไสพอเขาบดจูบเว้าวอนเธอก็ตอบรับจูบหวาม
กริ๊งงงงง...กริ๊งงงงง...“หมอเปลวค่ะ หมอเปลวโทรมาแสดงว่าน่าจะถึงแล้ว” นิศาชลรับร้องบอกเมื่อเห็นสายเรียกเข้า พราวชมพูยิ้มกว้างด้วยความดีใจแต่ยิ้มได้ไม่เท่าไรก็ต้องร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวดเมื่อมดลูกเริ่มหดรัดตัวอีกระลอกและอาการปวดท้องก็หนักหน่วงขึ้นจับหัวใจ“โอ๊ยยยย...ปวดอีกแล้ว ลูกจ๋า...ใจเย็นๆนะลูก โอ๊ย....พี่ป่านขา ปวดมากคราวนี้ปวดมากจริงๆ”“นิบอกพยาบาลเตรียมห้องคลอดให้พร้อมแล้วย้ายพราวไปที่เตียงได้แล้ว”“ค่ะๆหมอป่าน ฮัลโหล หมอเปลวคะมาที่ห้องคลอดได้เลยนะคะตอนนี้คุณพราวกำลังจะย้ายขึ้นเตียงรอคลอดแล้วค่ะ” นิศาชลรับบอกกับปลายสายทันทีที่กดรับสายแล้วรีบกดอินเตอร์คอมพ์บอกกับพยาบาลเวรในวันนี้ให้เตรียมความพร้อมตามคำสั่งของหมอปาลิดาหลังจากนั้นไม่นานพราวชมพูก็ถูกย้ายขึ้นเตียงรอคลอด และพอคุณแม่มือใหม่ขึ้นขาหยั่งเตรียมพร้อม สายตาของเธอก็สบเข้ากับร่างสูงของสามีที่รักเดินเข้ามาด้วยความรีบร้อน“พี่หมอมาแล้ว”“พี่อยู่นี่แล้วพราว ขอบคุณสวรรค์ที่เมตตาให้พี่มาทันเวลา”&ldq
“พราวปวดมากไหม”“พอไหวค่ะพี่ป่าน มันไม่ได้ปวดตลอด ปวดเป็นพักๆตอนนี้ดีขึ้นบ้างแล้วค่ะ”“โอเค ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวเปลี่ยนเสื้อผ้านะ เราต้องไปโรงพยาบาลกัน”“พราวกำลังจะคลอดใช่ไหมคะพี่ป่าน”“เดี๋ยวต้องตรวจดูให้ละเอียดอีกทีว่าจะยืดการคลอดออกไปได้ไหม ปวดท้องแล้วก็มีน้ำเดินแบบนี้บางทีอาจต้องคลอดเลย”“ถ้าพราวคลอดก่อนกำหนดแบบนี้ยัยหนูจะเป็นอะไรหรือเปล่าคะพี่ป่าน” พราวชมพูถามอย่างกังวล ความไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อนแล้วยังต้องมาคลอดก่อนกำหนดแบบนี้ทำเอาเธอรู้สึกใจคอไม่ค่อยดี แถมยังมาปวดท้องคลอดตอนที่เปลวตะวันไม่อยู่เธอยิ่งรู้สึกกังวลอย่างบอกไม่ถูก“ทำใจให้สบายนะพราว ถ้าหากต้องคลอดจริงๆยัยหนูก็ไม่เป็นไรหรอก อายุครรภ์ของพราวกับน้ำหนักยัยหนูถ้าคลอดก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัยแล้วล่ะ”“ถึงจะอย่างนั้นแต่พราวก็อดใจเสียไม่ได้ค่ะ พี่หมอก็ไม่อยู่ด้วยพราวเลยกังวลไปหมด”“เรื่องปกติจ้ะพราวไม่ว่าใครก็กังวลทั้งนั้นแหละ แต่พราวมีพี่ทำใจให้สบายนะ มาเถอะพี่จ
เขาพูดอีกก็ถูกอีกเขาไม่ได้เอาตามแต่ใจเขาแต่เขาเอาตามแต่ใจเธอด้วยเช่นกันและเธอเองก็สุขหฤหรรษ์ไปพร้อมกันกับเขาเสียทุกครา“หายเหนื่อยแล้วมาต่อกันเถอะ”“พอก่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวพราวจะคลอดก่อนกำหนดหรือไม่ก็แท้งเสียก่อน”“ไม่หรอกน่า พี่เป็นหมอนะรู้ดีว่าท่าไหนถึงจะปลอดภัย”พราวชมพูค้อนรอบที่เท่าไรเธอนับไม่ถ้วน เปลวตะวันเห็นแล้วก็กระเซ้าอารมณ์ดี“สายตาแบบนี้ไม่เชื่อสินะ ไม่เป็นไรเดี๋ยวพี่จะทำให้ดู ทำมันทุกท่าที่ว่าเด็ดแต่ปลอดภัยนั่นแหละ พราวจะได้รู้ว่าพี่รู้จริงไม่ได้ขี้โม้” เขาบอกแล้วก็เริ่มต้นกระบวนท่าแรกทันทีพราวชมพูไม่ทันตั้งหลักถึงกับหวีดเบาๆด้วยความเสียดเสียวยิ่งเห็นเธอถูกปลุกอารมณ์ง่ายดายแบบนี้เปลวตะวันยิ่งฮึกเหิมจากที่คิดว่าจะเริ่มวันละท่าสองท่าเห็นแล้วค่ำคืนอันยาวนานคืนนี้น่าจะได้หลายกระบวนท่ากว่าจะหมดเรี่ยวแรงไม่เป็นไร! ไม่เป็นไร! จะวันละท่าสองท่าหรือหลายท่า ไม่ว่าวันพรุ่งนี้ หรือวันต่อๆไปเขาก็พร้อมเสมอ***************************เวลาผ่านมาหลายเดือนแล้วหลังจากที่เธอกับหมอห
พราวชมพูค่อยๆปิดเปลือกตาลงด้วยความรู้สึกผ่อนคลาย เธอนอนตะแคงน้อยๆหันหลังให้เขาขณะที่ฝ่ามือร้อนผ่าวของเขาคลึงเบาๆไปตามเรือนร่าง สัมผัสนั้นช่างนุ่มนวลชวนให้ผ่อนคลายจนแทบจะดำดิ่งลงสู่ห้วงนิทราแต่ยังไม่ทันหลับ พราวชมพูก็ต้องสะดุ้งเมื่อเขานาบริมฝีปากร้อนชื้นลงบนต้นคอนวลเนียนของเธอ ดูดกลืนนวลเนื้อตรงนั้น หากเดาไม่ผิดตอนนี้คงเป็นรอยคิสมาร์กที่เขาจงใจฝากฝังเอาไว้แสดงความเป็นเจ้าของเท่านั้นไม่พอฝ่ามือร้อนที่โลมลูบไปตามเอวคอดเลื่อนลากไปยังส่วนโค้งของสะโพกกลมกลึงก็ค่อยๆสอดผ่านรอยแยกของสาบเสื้อคลุมเข้าไปทักทายส่วนนั้นตรงกลางกาย“อย่าซนสิคะ พราวให้นวดไม่ได้ให้มาซุกซนแบบนี้”“เซ็กส์คือการนวดที่ดีที่สุด เชื่อพี่สิพี่เรียนมา” เขากระซิบเสียงสั่นแล้วปลุกปั่นเธออย่างเอาแต่ใจพราวชมพูเผลอไผลหลุดครางออกมาเบาๆเมื่อปลายนิ้วร้ายของเขาลากไล้ถูไถจุดกลางกายของเธอหน่วงหนักแต่แฝงด้วยความนุ่มนวลยั่วยวนให้เธอคลั่งไคล้คล้อยตาม“ปล่อยตัวตามสบายนะครับ พราวจะรู้สึกผ่อนคลายแล้วก็สุขจนเคลิ้มเลยเชียวแหละ”“อย่ามาอ้อล้อ พราวเจ็บหนักเพิ่งหายออกมาแบบนี้พี่หมอยังมีอารมณ์มาป