วันนี้ฉันมีเรียนเพียงคาบเดียวเท่านั้น แต่ก็ยังกลับทันทีไม่ได้ เนื่องจากงานกลุ่มที่ต้องช่วยกันระดมความคิด กว่าจะลงตัวก็ปาไปสองทุ่มกว่าแล้ว พอกำลังจะกลับ เสียงไลน์ก็ดังขึ้นและแน่นอนว่ามันมาจากเพื่อนสนิทฉันเอง
Meeny : วันนี้ไปลั๊นลากันเพื่อนรัก
Janny : ไม่ไป
Meeny : มึงต้องไปค่ะเพื่อน กูจองโต๊ะแล้วค่ะ
Janny : เพื่ออะไร
Meeny : กูเพิ่งอกหักนะ ก็ต้องยาใจป่ะ
Janny : ยาใจที่ว่าคือดื่มงั้นเหรอ
Meeny : ใช่แล้ว โสดแซ่บขนาดนี้ ก็ต้องดื่มต้องเที่ยว ควงผู้สักหน่อย
Janny : จะไปกันสองคน?
Meeny : มีกุ้กอีกคน
Janny : ไม่ได้เจอมันมาสักพักเลย ไปก็ไป
Meeny : พูดง่ายแบบนี้ดีมากเพื่อนสาว ไว้เจอกันรีบกลับล่ะ
ฉันขับรถมาถึงคอนโด ก็พบว่ายัยมีนแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว ชุดเดรสสั้นเกาะอกสีขาว โชว์เนินนม และเรียวขา แน่นอนว่าต้องเอ็กซ์ ราวกับแม่เสือน้อยสุดยั่วอย่างเคย ผมลอนยาวสลวย พ่วงด้วยเครื่องประดับวิบวับ ส่วนฉันแน่นอนว่ามันตรงกันข้าม จัดเดรสดำยาวถึงเข่าด้านหน้ามิดชิด แต่มีลูกเล่นเว้าหลังจนเกือบสะโพกเผยให้เห็นแผ่นหลังอันขาวเนียน ตัดกับสีผมไวน์แดงสั้นประบ่า สวยเฉี่ยวน่าหลงใหลไม่แพ้กัน (เหมือนอวยตัวเองนะ แต่ฉันเองก็คิดว่าฉันเป็นคนหน้าตาดีมาก ๆ คนหนึ่งละนะ)
ครั้งนี้เราใช้รถยัยมีน มุ่งหน้าไปยังคลับประจำที่ไปแฮงค์เอ้าท์บ่อย ๆ เป็นคลับประจำของฉันด้วย จนตอนนี้เองก็สนิทกับเจ้าของคลับเอามาก ๆ แถมยังเป็นพี่ชายของยัยกุ้กอีก ทำให้การจองโต๊ะ VIP ของร้านนี้เป็นเรื่องง่ายดายเลยล่ะ และยัยกุ้กเองก็รออยู่ที่คลับแล้ว
เมื่อเรามาถึงคลับ
“ฉันสวยรึยัง” ยัยมีนที่กำลังเติมลิปเสร็จหันมาถามก่อนจะลงจากรถ
“อืม”
“ฉันเซ็กซี่ยัง”
“อืม”
“ฉันสวยและเซ็กซี่ยังเพื่อน”
“เออออ จะลงรถไหม อยากดื่ม”
“ใจร้อนไปได้ มึงเนี่ยขี้เหล้า นี่ขนาดไม่อยากจะมานะ”
ฉันได้แต่ส่ายหัวไปมา เอาจริงฉันเป็นคนหน้านิ่งพูดน้อย (แต่พูดในใจ กับคิดเยอะ) หน้าตาไร้ความรู้สึก คนมักเดาความคิดฉันไม่ค่อยได้ว่าคิดยังไง จนหลายคน ตั้งฉายาฉันว่า ราชินีน้ำแข็ง
เราเดินเข้าไปในคลับฝ่าฝูงคนอันเบียดเสียดไปยังโต๊ะที่ยัยกุ้กจองไว้ ซึ่งนางก็นั่งรออยู่แล้ว
“รอนานไหมกุ้ก” ฉันเอ่ยถามเพื่อนก่อนจะหย่อนตัวลงนั่งบนโซฟาข้างๆ เธอ ในขณะที่มีนวางกระเป๋าลง แล้วหันตัวไปยังบาร์เครื่องดื่มก่อนเพื่อน เห็นยัยมีนร่าเริงขนาดนั้น จริงๆ แผลใจยังคงข่มไว้นั่นแหละ
“กุ้กพี่เธอมาคลับไหม” ฉันหันไปถามกุ้ก
“พี่พลเหรอ มาสิ อยู่หลังบาร์โน้น” ยัยกุ้กรู้ดีว่าฉันสนิทกับพี่พล เพราะฉันมาดื่มที่นี่บ่อยที่สุด เห็นแบบนี้ฉันสายดื่มมากนะจึงทำให้เจอพี่เขาบ่อย ๆ แล้วอีกอยากพี่เขาก็เป็นเพื่อน เอ่อ.. ไม่พูดถึงดีกว่า เอาเป็นว่าเพราะทำให้เราได้เจอกันบ่อย ๆ ทั้งในคลับและนอกคลับ ฉันเลยนับถือพี่เขาเหมือนพี่ชายคนหนึ่งด้วยนั่นแหละ
พอเห็นว่ายัยมีนกลับมาพร้อมแก้วเหล้าแล้ว ฉันเองก็ลุกต่อจากมันไปยังบาร์เครื่องดื่มทันที ฉันนั่งลงเก้าอี้บาร์ก่อนจะเอ่ยบอกบาร์เทนเดอร์ด้วยน้ำเสียงราบเรียบเช่นเคย
“เอาเหมือนเดิมค่ะ” บาร์เทนเดอร์ประจำของที่นี่พยักหน้าก่อนจะหันไปทำเครื่องดื่มด้วยสกิลแพรวพราวทันที ฉันมองเขาชงเหล้าอย่างมืออาชีพ แต่ระหว่างนั้นก็มีเสียงอันคุ้นเคย เอ่ยทักทายมา แน่นอนว่า พอเหลือบตามองก็เป็นพี่พลเจ้าของคลับนี้ที่เดินออกมาจากหลังร้านนั่นเอง
“ว่าไงสาวน้อย มาดื่มอีกแล้วเหรอ” พี่พลเดินออกมาด้วยเสื้อเชิ้ตขาว สงสัยวันนี้พี่แกคงมีคุยธุรกิจแน่นอน
“ไม่ได้ตั้งใจมาค่ะพี่ โน้นเพื่อนลากมา” ฉันหันไปชี้ต้นเหตุให้พี่พล ในขณะนั้นบาร์เทนเดอร์ก็นำเครื่องดื่มที่มิกซ์เสร็จมาวางด้านหน้าฉัน
“แก้วนี้พี่เลี้ยง” พี่พลยิ้มให้ก่อนจะหันไปบอกแคชเชียร์
“ป๋ามากค่ะ แจนไม่เกรงใจนะคะ ขอบคุณมากพี่ชาย” ฉันตอบรับด้วยการยกแก้วไปหนึ่งกรุบ
ฉันนั่งคุยกับพี่พลไปพลางจิบแอลในแก้วไปสักพัก พอเริ่มกรึ่ม ก็ขอตัวกลับไปยังโต๊ะของตัวเอง แต่พอกลับมาก็ไม่เห็นยัยมีนแล้ว เหลือเพียงกุ้กที่นั่งเฝ้าโต๊ะ
“กุ้ก มีนล่ะมันไปไหนแล้ว” ฉันเอ่ยถาม
“โน้นไง” กุ้กชี้ไปทางมีนที่กำลังเต้นกับผู้ชายในฟลอร์ หน้าตาใช้ได้ สมแล้วได้ผู้แล้วลืมเพื่อนของแท้ แผลครั้งนี้ไม่นานก็หายแล้วมั้ง
“แล้วแกล่ะ กุ้ก ช่วงนี้เรียนเป็นไงบ้าง” ฉันเอ่ยถามกุ้ก จริง ๆ ฉันก็สนิทกับนางมากนะ แต่เนื่องจากสาขาที่นางเรียนออกสถานที่บ่อยๆ จึงยากมากที่จะนัดนางออกมาเที่ยวได้ ดังนั้นพอได้มาเที่ยวด้วยกันฉันเลยถามสารทุกข์สุกดิบนางมากหน่อย คุยไปดื่มไปนานพอควรกว่ายัยมีนจะกลับมาที่โต๊ะ
“มึง” เสียงสูงของยัยมีนเอ่ยขึ้นด้วยความดี๊ด๊า สงสัยผู้คนนั้นคงถูกใจนางไม่น้อย
“กูเจอรุ่นพี่ คนหนึ่งหล่อมากกกก” ยัยมีนเอ่ย พลางหย่อนตัวลงนั่งโซฟาทำตาลุกวาว
“รุ่นพี่ มอเราเหรอ” ยัยกุ้กเอ่ย
“ใช่ เรียนหมอปีห้าแล้วล่ะ พี่เขามากับเพื่อนอีกสองคนหมอปีห้าเหมือนกัน มีรุ่นพี่คนดังด้วยล่ะตัวจริงออร่าแรงมาก”
“....” ฉันได้แต่นิ่งฟัง
“สรุป ชอบคนไหนมีน คนดังเหรอ”
“ป่าวหรอกกุ้ก คนที่ฉันชอบคือคนที่เต้นด้วยกันแหละ ส่วนพี่คนหล่อคนดังคนนั้น แค่สบตาฉันยังไม่กล้า เขาดูไม่กล้าเข้าใกล้ แก่ก็รู้ฉายา”
“อย่าบอกนะว่า พี่หมอคนดังคนนั้น” กุ้ก กลืนน้ำลายไปหนึ่งอึก
“เออ คนนั้นแหละ”
ฉันนั่งฟังสนทนาระหว่างเพื่อนสาวทั้งสองคน ที่กำลังบรรยายถึงรุ่นพี่หมอคนดังคนหนึ่งดูท่าจะหล่อมาก แต่ทำไมพวกมันต้องกลัว งงไปหมด แต่ฉันก็ไม่ได้อยากจะรู้อะไรขนาดนั้นหรอก เพราะใน มอ เราคนมีฉายาไม่รู้ตั้งกี่คนเยอะแยะไปหมด ฉันเองก็เป็นคนไม่อ่านกระทู้มหาลัยหรือมานั่งเม้าท์เรื่องพวกนี้เท่าไหร่ เลยทำให้ความรู้เกี่ยวกับ มอนี้ เป็นศูนย์
“นี่ พวกแกสองคนไปเป็นเพื่อนฉันหน่อย” ยัยมีนลุกขึ้นอีกครั้งและหันมามองพวกฉันสองคนที่นั่งอยู่
“...” “...”
“พวกแกจะปล่อยให้สาวน้อยน่ารัก เซ็กซี่ ขยี้ใจหนุ่มๆ อยู่ท่ามกลางดงผู้ชายไม่ได้ ไม่ห่วงฉันกันเหรอ ใจร้ายกันจัง”
“ก็ไม่ต้องไปดิ” ฉันเอ่ยเพราะไม่ได้สนใจ
“ไม่ได้ ต้องไปพี่คนนี้กูชอบกูจริงจัง” ยัยมีนพูดออกมาด้วยท่าทีขึงขัง แม้คำนี้ ฉันกับกุ้กจะได้ฟังไม่รู้รอบที่เท่าไหร่แล้ว ประโยคเดิม ๆ คนนี้กูจริงจังเนี่ย
“ไปเถอะ ไม่งั้นไม่จบ” กุ้กเอ่ยพลางตบไหล่ฉันเบาๆ
“ตามใจมึงแล้วกัน มีน ” ฉันตอบขอไปที
“ขอบใจเพื่อนสาว”
“พวกมึงสองคนไปก่อนเลยนะ เดี๋ยวสิบนาทีฉันตามไป ขอไปเอาเหล้าโปรดแป๊บ” ฉันเอ่ยพลางยืนขึ้นเดินไปบาร์เครื่องดื่มอีกครั้ง
“ขอเหมือนเดิมค่ะ แก้วนี้จ่ายเองนะคะ ไม่ต้องรบกวนพี่พล”
ฉันเอ่ยกับบาร์เทนเดอร์ ก่อนจะรับแก้วเหล้าสูตรเฉพาะของฉันเอง
จากนั้นจึงลุกมุ่งไปยังโต๊ะของเหล่ารุ่นพี่หมอปีห้า ที่ยัยมีนบอกไว้ เดินผ่านเบียดเสียดคนมากมาย บางคนก็ดูเหมือนจะรู้จักฉันอยู่บ้างพยายามจะเดินเข้าหา แต่ฉันก็ยกแก้วเป็นการปฏิเสธไปด้วยหน้าตาเรียบเฉยเมื่อแหวกฝูงชนจนมาถึงโต๊ะ ก็เห็นยัยมีนยืนคุยจ้อกับบรรดาหนุ่มๆ อย่างสนุก เอาเถอะปล่อยนางสักวัน อกหักมาก็แทบตาบวมมาหลายวัน ส่วนยัยกุ้กก็นั่งตัวแข็งทื่อราวกับหลักกิโล นางคงทำตัวไม่ถูกสินะ ส่วนบรรดารุ่นพี่ในโต๊ะนั้นมี สามคน อืม...ก็สมควรที่ยัยมีนจะโดนตกง่าย ๆ แต่ละคนดูหล่อ สะอาดเนี้ยบ เข้าท่าอยู่ ยัยมีนคงสนใจรุ่นพี่คนที่ยืนคุยด้วยกันนั่นสินะ อีกคนผมยาวมัดรวบแอบเห็นเหล่ไปมองยัยกุ้กอยู่เหมือนกัน แต่อีกคนนี่สิเอาแต่ควงแก้วเหล้าดื่มเงียบๆเหมือนไม่ได้สนใจวงสนทนาเท่าไหร่ ยอมรับว่าคนนี้ดูหล่อสุดๆ และเป็นจุดสนใจของโต๊ะนี้ เพราะไม่ว่าจะมองไปสาว ๆ โต๊ะไหน ก็ต้องมีเหล่มามองเขาตลอดทั้งนั้น“ยัยมีน กุ้ก” สิ้นเสียงเรียก ยัยมีนหันหลังมากวักมือยกใหญ่ ส่วนกุ้กนั้นก็ฉีกยิ้มราวกับเห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์ เหนื่อยหน่อยนะกุ้ก“โทษที พอดีไปเอาเครื่องดื่มนิดหน่อย” หลังจากกระซิบข้างหูยัยมีนแล้ว ฉันก็นั่งลงโซฟาข้าง ๆ รุ่นพี่
ฉันเองก็ยืดตัวกลับมายังตำแหน่งที่เดิม ราวกับไม่ได้พูดอะไรออกไป หันไปสนใจแก้วเหล้าต่อ เอาจริงฉันยอมรับว่ารุ่นพี่เวลล์หล่อมาก ๆ ทั้งรูปร่างหน้าตาเขาก็ทำให้ฉันรู้สึกอย่างว่าจริง ๆ เนื้อแท้ของฉันเป็นคนติดเรื่องอย่างว่าแต่เพราะประสบการ์ณบนเตียงกับแฟนเก่าเมื่อนานมาแล้วมันห่วยแตก แย่สิ้นดี และกลับพบว่าการช่วยตัวเอง รวมไปถึงเซ็กทอยยังทำให้ฉันไปถึงฝั่งฝันกว่าแฟนเก่าซะอีกก็ทำให้ฉันปรับเปลี่ยนวิธีระบายไป แถมผู้ชายที่พยายามจะเข้าหาฉันนั้นก็ไม่ดึงดูดเลยสักนิด แต่กลับคนตรงหน้านี้ ไม่รู้ฉันเป็นอะไรแบบอยากได้ชิบหาย แค่อยากได้เรื่องอย่างว่านะ ไม่ได้ต้องการความรู้สึกผูกพันฉันแฟนแต่อย่างใดเราสองคนยังนิ่งเงียบแบบนั้น ต่างคนต่างอยู่ในภวังค์ของตัวเอง สลับมองกันไปมาอย่างหยั่งเชิง ไม่มีใครเริ่มปริปากพูดจวบจนที่ทั้งสี่คนที่ออกไปเต้นไปสูบบุหรี่กลับมานั่งยังที่เดิมแล้ว“น้องแจนไม่ออกไปเต้นบ้างเหรอครับ ไม่เบื่อเหรอ” พี่แม็กเอ่ยถาม ฉันได้แต่เงยหน้ายิ้มไม่ได้ตอบอะไร และตอนนี้ฉันรู้สึกได้ว่าเครื่องแอลที่ฉันดื่มไปเริ่มออกฤทธิ์ทำเอาสะลึมสะลืออยู่เหมือนกัน แต่ยังควบคุมสติได้อยู่“พี่แม็กคะ ยัยแจนไม่ใช่สายเต้น สายสูบ
EP.5“ให้ตายเถอะ ตื่นเต้นชะมัด” ฉันเข้าห้องน้ำจากนั้นออกมายืนส่องกระจกมองหน้าของตัวเอง ตอนนี้หัวใจฉันเต้นแรงเร็วทะลุนรกสัสๆ ไม่ใช่เพราะฉันประหม่าอะไรหรอก แต่มันเป็นความรู้สึกหิวกระหาย ผู้ชายคนนี้แรงดึงดูดให้เข้าหามากมายจริงๆ สมแล้วที่เพียงเขาเดินมาตามทางผู้หญิงในคลับก็จ้องตาเป็นมัน แต่ขอโทษนะที่ฉันขอคว้าโอกาสนี้ตัดหน้าพวกหล่อนไปก่อนโดยปกติฉันเป็นคนนิ่งพูดน้อย แต่พอเป็นเรื่องอย่างว่าภายในร่างกายมันก็ซู่ซ่าไปหมด ก็นะคนเราย่อมมีเรื่องดำมืดภายในตัว แต่อย่างน้อยสิ่งที่ฉันชอบจะไม่ทำผิดศีลธรรมเด็ดขาด นั้นคือคำปฏิญาณของฉันฉันคว้ากระเป๋าเดินออกมาจากห้องน้ำหยุดมองไปยังรุ่นพี่เวลล์ที่ยืนอยู่มุมอับอันมืดสลัว ก่อนจะยักคิ้ว และเดินนำไปก่อน เพราะคลับแห่งนี้ฉันมาบ่อยมาก บางครั้งหากเมาหนักๆ ฉันก็มักจะเปิดห้องนอนที่นี่เลย เพียงแค่ไลน์หาพี่พลเจ้าของคลับ พนักงานด้านบนก็สามารถจัดหาห้องว่างให้ทันที และแน่นอนครั้งนี้ฉันก็ไลน์ด่วนจองแล้วเหมือนกันเมื่อฉันเอื้อมมือเปิดประตูห้อง ก็หันมองรุ่นพี่เวลล์ที่มีท่าทีสงสัยเขาหยุดตรงหน้าประตูมองฉันอย่างมีคำถามมากมาย แต่สุ
ฉันกำลังบรรเลงเพลงรักเร่าร้อนบนเตียงกับรุ่นพี่เวลล์อยู่ ตอนนี้ใบหน้าเขาฝังหมกหมุ่นอยู่กับระหว่างขาฉัน ให้ตายเถอะเสียวจนใจจะขาด เขาใช้ลิ้นได้เก่งมาก ทำเอาฉันแทบขึ้นสวรรค์อยู่รำไร คิดไม่ผิดจริง ๆ ที่หน้าด้านอ่อยกับเขาตรงๆ“พี่เวลล์ ขอเร็วอีกนิดค่ะ ซี๊ดดดด มะ ไม่ไหวแล้ว” เขาตอบสนองฉันเร็วมาก ลิ้นเขารัวแรงเร็วกว่าเดิมเยอะ ก่อนที่ฉันจะเสร็จสม ฉันก็ใช้แรงที่มีกดหัวเขาแรงขึ้น เด้งสะโพกเข้าหาด้วยความดิบเถื่อนก่อนที่น้ำรักของฉันจะพรั่งพรูออกมาเปื้อนแฉะไปหมด“พี่เวลล์....อ่า” ฉันคลายมือออก ค่อยๆ พยุงตัวขึ้นมองเขาใบหน้าอันหล่อเหลานั้นยิ้มกรุ่นมองฉันราวกับถือชัย หึ...ยอมรับว่าฉันโดนเขาน็อคไปหนึ่งยก เสร็จสุขสมใจล่ะ แต่เอาเถอะฉันจะไม่ยอมให้เขาอยู่เหนือกว่าฉันหรอก ฉันจะทำให้ใบหน้ายิ้มกรุ่นของเขานั้นกลายเป็นเหยเกให้ได้เลยฉันเข้าไปคล้องคอเขาอีกครั้งยื่นหน้าประกบจูบอย่างตั้งใจ คราวนี้เป็นฉันที่เป็นฝ่ายผลักเขานอนราบลงบ้าง มือทั้งสองข้างของเราประสานกันมองตากันด้วยความโหยหา“พี่เวลล์ ขอฉันสำรวจร่างกายพี่บ้างนะคะ” สิ้นคำเขาจัดการถอดเสื้อผ้าตัวเองออกแสดงให้เห็นถึงหุ่นพระเจ้าปั
โอ๊ยเมื่อยตัวไปหมด เมื่อคืนฉันกับพี่เวลล์จัดหนักกันยกใหญ่จนตีสี่ กว่าฉันจะตื่นนอนก็ปาไปเกือบเที่ยง ดีนะว่าวันนี้มีเรียนบ่ายสองโมง ส่วนเขายังอยู่และดูเหมือนจะตื่นก่อนฉันเสียอีก ซึ่งเขากำลังเล่นมือถือ อยู่เงียบ ๆ ข้างฉันเราสองคนต่างมองหน้ากัน แต่กลับไม่มีใครปริปากพูดอะไรเลย เหมือนเรากลับมาเป็นอีกตัวตนหนึ่งที่เป็นคนเงียบๆ พูดน้อย ที่พูดมากตอนกลางคืนนั้นก็คงเป็นฤทธิ์แอลที่ถาโถมซัดดื่มอย่างกับน้ำเปล่านั่นแหละฉันละจากหน้าเขาหยิบผ้าขนหนูผืนหนึ่งที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงพันรอบตัวเพื่อเข้าไปอาบน้ำแต่ทันทีที่ลุก กลับโดนคนข้างๆ ดึงแขนให้กลับไปในอ้อมแขนของเขาก่อนจะก้มลงประทับริมฝีปากจูบเฉยเลย ก็จูบตอบเขาแหละเอากันทั้งทีก็เอาให้คุ้ม เพราะคงไม่มีโอกาสแบบนี้อีกแล้ว แต่เพราะมีเรียนบ่ายสอง ถ้าขืนมัวต่อมีหวังติดลมดังนั้นจึงกลั้นใจผลักเขาออกไป“ขอตัว พอดีมีเรียนต่อค่ะ” ฉันหยักคิ้วก่อนจะลุกไปอาบน้ำชำระร่างกายทันที เพราะตอนนี้เหนียวตัวจากเหงื่อสุดๆ พออาบน้ำเสร็จก็พบว่าเขาแต่งตัวเรียบร้อยไปก่อนแล้ว“พี่ไม่อาบน้ำก่อนเหรอคะ”“ไม่ครับ จะกลับไปอาบที่ ร
EP.8การทำธุระให้พ่อครั้งนี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยความราบรื่น เจอลูกค้าดีอย่างคุณเจมส์ไม่ต้องให้ถึงมือฉันเตะต่อยฉันก็โล่งใจ นึกว่าวันนี้จะได้ปะทะซะแล้วฉันขับรถออกจากโกดังสินค้า มุ่งหน้ากลับไปยังคอนโดของตัวเอง แต่แล้วก็เจอรถคันหรูจอดข้างทางคันหนึ่ง มีผู้หญิงแต่งตัวด้วยเดรสสีชมพูโบกไม้โบกมือยกใหญ่ด้วยสีหน้ากังวลอย่างเห็นได้ชัด ไม่ช่วยไม่ได้หรอก แถวนี้ค่อนข้างเปลี่ยวแสงไฟตามไรทางไม่ได้สว่างมากนัก หากขับผ่านไปฉันคงรู้สึกแย่แน่ ๆ เลยตัดสินใจจอดเทียบรถคันดังกล่าว ก่อนจะลดกระจกรถเอ่ยถามหญิงสาวคนนั้นทันที แต่ยังไม่ทันจะได้เอ่ยถามเธอก็แทรกเสียงเอ่ยขึ้นมาก่อน“ระ.. รุ่นพี่แจนใช่ไหมคะ ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไหม”“ฮืม...”“หนูชื่อวีค่ะ ปีสองนิเทศ เรียนคณะเดียวกับพี่มีนค่ะ”“อ่อ แล้วรู้จักฉันเหรอ”“ค่ะ ต้องรู้จักแน่นอนสิคะ พี่ดังจะตาย”“เหอะๆ ชื่อเสียงไร้สาระนั่นนะเหรอ อย่าไปใส่ใจ ว่าแต่ทำไมมาจอดรถอยู่ตรงนี้ รถเสียเหรอ”“ค่ะ วีกำลังจะกลับบ้าน ต้องผ่านทางนี้ตลอด แต่วันนี้ไม่รู้เป็นอะไรยางรถรั่วค่ะ ขับไม่ได้เลย”“แจ้งช่างรึยัง”“แจ้งแล้วค่ะ แต่เพราะตรงนี้ห่างไกล ช่างแจ้งกับวีว่าจจะมาช้าน่ะค่ะ”“งั้นพี่ไปส่งใ
EP.9(Well Part)“พี่เวลล์ พี่ตื่นเดี๋ยวนี้นะ” ผมที่กำลังนอนพักอยู่ในห้องพักหมอของโรงพยาบาล สะดุ้งตื่นอย่างไม่ได้ตั้งใจ เสียงที่คุ้นหูอย่างดี คนที่กล้าจะเข้าห้องผมมาปลุกถึงที่ นอกจากพ่อแม่ผมแล้ว ก็มีแค่น้องสาวจอมดื้อตัวดีของผมเท่านั้นแหละ แน่นอนว่าหากทำเมินเชย น้องสาวผมได้คว้าหมอนมาทุบตีผมแน่นอน“มีอะไร ว่างมากรึไงมากวนพี่” ผมขยี้ตาเบาๆ ก่อนจะมองไปยังต้นเสียง ใบหน้าน้องสาวผมยู่ยี่อย่างไม่พอใจ แต่จู่ ๆ น้ำตาก็ไหลอาบแก้มของเธอ ผมตกใจไม่น้อย ไม่เคยเห็นเธองอแงแบบนี้มาก่อน คนเอาแต่ใจอย่างน้องผมปกติมีแต่คนตามใจจนไม่เคยร้องไห้สักครั้ง“เป็นอะไร ร้องไห้ทำไม”“พี่ลืมไปแล้วรึไงที่วีโทรมาหาพี่อ่ะ”“....” ผมนิ่งอึ้ง นี่ผมลืมไปได้ไง“พะ...พี่ อีอนเอ็บเอาะอั้น”“ตั้งสติก่อนแล้วบอกพี่ดีๆ” น้องผมเอามือปาดน้ำตา และสูดหายใจเข้าลึกๆ“พี่เวลล์ เมื่อกี้มีคนจะวิ่งมาแทงฉัน”“อะไรนะ!!!”ผมได้ยินดังนั้นก็ลุกขึ้นทันที“มันเป็นใคร แจ้งตำรวจรึยัง บาดเจ็บตรงไหนรึเปล่า”ผมจับตัวเธอหมุนซ้ายหมุนขวา มองน้องสาวด้วยใบหน้าเคร่งเครียด จนน้องสาวผมเอามือสองมือจับแขนผมไว้ก่อนจะนั่งกดผมให้นั่งลง“หนูปลอดภัยดีค่ะพี่ มีรุ่นพี่ค
EP.10‘เอี๊ยด...’ เสียงประตูห้องเปิดออก“ไงน้องแจน ดีขึ้นไหม” เสียงของรุ่นพี่แม็กเอ่ยถาม ก่อนจะหันไปโบกมือพร้อมรอยยิ้มให้กับยัยมีน ยัยมีนก็เหมือนกันโบกมือตอบเขาไป แหม..พวกข้าวใหม่ปลามันก็งี้ แต่ดูเหมือนพี่แม็กไม่ได้เข้ามาคนเดียวนะสิ มีร่างชายสูงตระหง่านในชุดกาวน์หมอไม่ต่างไปจากพี่แม็ก วันนี้เขาสวมแว่นกรอบเงินหล่อเหลาเอาการ แน่นอนว่าเป็นใบหน้าที่ฉันจดจำได้ดี จะลืมลงได้ไง แม้แต่ตอนนี้มันก็ยังวนเวียนอยู่ในจิตใต้สำนึกอยู่เลย “สวัสดีค่ะพี่แม็ก แล้วก็...” ยัยมีนเอ่ยทักทายกับพี่แม็ก แต่พอเห็นอีกคนนางก็หันมองมาที่ฉันอย่างยิ้มกรุ่น ก่อนจะพูดต่อด้วยชื่อเขา “พี่เวลล์” “ครับ” เขาตอบเพียงสั้นๆ จากนั้นปลีกตัวเดินไปยังริมหน้าต่างมองออกไปด้านนอกอาคารทำตัวเหมือนโดนลากมาอย่างนั้น ก็ใช่สิเราสองคนเมื่อจบคืนนั้น ก็คือคนแปลกหน้าและแน่นอนว่าเรื่องนี้ฉันเป็นคนพูดเอง แต่ทำไมกันนะ ใจมันดันเจ็บจี๊ดแปลกๆ กับท่าทีเมินเฉยของเขาตรงหน้า ฉันกำลังคาดหวังอะไรอยู่“วันนี้ช่วงบ่ายน้องแจนคงได้กลับบ้านแล้วครับ”“ดีจังเลยค่ะ แจนไม่อยากอยู่โรงพยาบาลนี้ เบื่อจะแย่อยู่แล้ว” ฉันยิ้
หมอพัฒน์ หมอที่ดูโอบอ้อมอารี ใจดีและเป็นมิตรกับทุกคนในโรงพยาบาล ฉันเคยรักษากับเขา พี่แม็กเองก็ชมเขาไม่หยุด และดูเหมือนพี่เวลล์เองก็จะให้ความเคารพนับถือเขาไม่น้อย ไม่คิดเลยว่าเบื้องหลังใบหน้าที่แสนดีขนาดนี้ จะซุกซ่อนความเลวร้ายได้เกินจะบรรยาย“ทำหน้าแบบนั้น ตกใจรึไงกัน” หมอพัฒน์ยังบีบคางฉันแน่นไม่ยอมปล่อย“หึ ถุย...” ฉันสถบถุยใส่เขาไม่เกรงกลัว และแน่นอนว่าฉันถูกตบหน้าไปอีกหนึ่งฉาด ‘เพี๊ยะ’ มือของชายคนนี้รุนแรงมากกว่าผู้หญิงคนนั้นหลายสิบเท่า ตบเพียงครั้งเดียวทำให้หน้าสั่นเลือดกลบปากฉัน จนสำลักเลือดออกมาทางเรียวปากไหลเป็นทาง“ไม่เอานา...ผมไม่อยากทำร้ายคุณ ไม่อยากทำให้ใบหน้าสวยนี้ต้องระบมไปมากกว่านี้” หมอพัฒน์ปล่อยมือเขาออกจากใบหน้าฉัน ก่อนจะเดินวนไปมา ท่าทีเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายของเขาทำให้ฉันยิ่งเห็นความน่ากลัวของชายวัยกลางคนคนนี้“หมอพัฒน์ ไม่สิคุณพัฒน์ คุณทำแบบนี้ต้องการอะไร”“ผมรู้ว่าคุณรู้ว่าผมคือใคร เหมือนที่ผมรู้ว่าคุณคือใครน่ะ คุณหนูแจน” เขายืนกอดอกมองฉันด้วยใบหน้าแสยะยิ้มมองฉันราวกับลูกไก่ในกำมือ ในขณะที่ผู้หญิงด้านหลังนั่นมองฉันแทบจะกินเลือดกินเนื้ออยากฆ่าฉันให้พ้น ๆ“งั้นฉันก็ไม่พิ
EP.50ณ.โรงพยาบาลฉันได้สติอีกทีเหมือนจะถูกส่งมารักษาที่โรงพยาบาลแล้ว มองไปรอบ ๆ ดูเหมือนจะนอนพักอยู่ในห้องพิเศษวีไอพีของโรงพยาบาลที่คุ้นตานั่นแหละ จริง ๆ ก็จำเหตุการณ์หลังจากที่หมดสติในรถนั่นไม่ได้หรอก คงเป็นพี่เวลล์ที่เรียกรถพยาบาลมาละมั้ง ทำให้ฉันถึงมาอยู่ที่นี่ไม่นานนักก็มีพยาบาลวนเข้ามาตรวจฉันเป็นระยะ อาหารอ่อนเข้ามาเสิร์ฟ ส่วนพี่เวลล์ก็มีเข้ามาหาบ้าง ไม่สิค่อนข้างบ่อยเลยล่ะ แต่เพราะเขาเองก็ยังวุ่นกับวอร์ดจึงอยู่นานไม่ได้ ดังนั้นจึงทำได้เพียง ให้กำลังใจ มอบรอยยิ้มให้ แล้วก็กลับไปทำงานของตัวเองต่อ ส่วนยัยมีน กับพลอย ก็เจียดเวลามาเยี่ยมแล้ว แต่ฉันก็เป็นฝ่ายไล่พวกมันกลับไปไม่อยากให้พวกมันเฝ้า เพราะยังไงฉันเองก็มีสิ่งที่ต้องทำอยู่ฉันเคยคิดว่าถ้าฉันเจ็บจนต้องเข้าโรงพยาบาล เขาจะฟูมฟาย ดูกังวลและแสดงออกว่าเป็นห่วงมากกว่านี้ แต่เปล่าเลยเขาไม่เพียงดูนิ่งขรึมใบหน้าราบเรียบ แต่ไม่เอ่ยถามไถ่สาเหตุที่ฉันได้รับบาดเจ็บด้วยซ้ำก็เลยค่อนข้างแปลกใจอยู่หน่อยฉันที่ลุกขึ้นนั่งได้เพียงเครั้ง ก็ทิ้งตัวลงไปนอนแผ่บนเตียงผู้ป่วยเหมือนเดิน พลางมองฝ้าเพดานคิดอะไรเรื่อยเปื่อยไม่รู้เหมือนกันที่หมดสติไป
หลายเดือนต่อมาอีกไม่กี่วันก็ใกล้ปิดภาคเรียนแล้ว การมุ่งไปสู่ปีสี่ก็คืบคลานเข้ามา แม้โปรเจคนรกปีสามจะผ่านไป แต่การเรียนวิศวะมันไม่ง่ายเลย ยิ่งปีสี่แล้วถึงใจฉันจะพับโครงการนั่นไป แต่การเรียนในมหาลัยก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ส่วนพี่เวลล์ก็ง่วนกับโรงพยาบาลตามเคย แม้จะไม่ค่อยได้เจอกัน ความรักของฉันกับพี่เวลล์ยังคงดำเนินไปได้ด้วยดี โดยฉันกับพี่เขาก็เติมหวานด้วยการสัญญาว่าในหนึ่งวัน ต้องโทร หรือส่งข้อความหากัน ห้ามหายเด็ดขาด บางครั้งพอมีเวลาวันหยุดก็มักไปเที่ยวด้วยกัน หรือแม้กระทั่งเมคเลิฟกันบ้างถ้าสถานที่อำนวยส่วนวันนี้ ฉันกะจะเข้าไปตรวจโกดังสักหน่อย เพราะที่ผ่านมายุ่งทั้งเรื่องการเรียน และหาเวลาให้พี่เวลล์ ทำให้ห่างจากการไปดูแลงานของตระกูลไปพอสมควร จะปล่อยให้พี่ทิมจัดการคนเดียวได้ไง เขาก็มนุษย์คนหนึ่ง ถ้าฉันเป็นพี่เขา ก็คงบ่นว่า เจ้านายไม่ได้เรื่องแหง ๆ อีกอย่างเด่นเรื่องเรียน กับ ความรักไปแล้ว การงานจะน้อยหน้าได้ยังไงจริงไหมดังนั้นวันนี้ถือเป็นโอกาสดีที่จะได้เจียดไปเยี่ยมลูกน้อง แถมยังต้องติดตามอัปเดตข่าวสารพวกสายลับมาเฟียคู่อริอีก จะให้พวกมันมาหยามแย่งอิทธิพลทางการค้าฝั่งตะวันตกไม่ได้เด็ด
ดวงตาที่หลับสนิทของฉัน ถูกกระตุ้นด้วยแสงแดดอ่อน ๆ ที่สาดส่องเข้ามายังบานหน้าต่าง ฉันค่อย ๆ ลืมตาขึ้น หรี่มองไปยังหน้าต่างเล็กน้อยทอดมองออกไปยังตำแหน่งของแสงที่พาดผ่านมา ยกมือขยี้ดวงตาเบา ๆ พลางยืดแขนขึ้นเพื่อคลายความงัวเงีย“อ่ะ...” เพียงแค่ขยับจะลงจากเตียงก็รู้สึกได้ว่าร่างกายปวดร้าวไปทั้งตัว เสียงที่เปล่งออกทำให้คนที่อยู่ด้านนอกวิ่งมาด้วยความตกใจ“เป็นอะไรครับ” ฉันที่เห็นพี่เวลล์วิ่งกุลีกุจอวิ่งเข้ามาด้วยใบหน้าตกใจหน้าตื่น เลิกคิ้วมองเพื่อรอให้ฉันตอบ อึ้ย...ใครจะไปบอกกันล่ะ ว่าพี่คะฉันปวดตรงนั้นมาก ให้ตายก็ไม่พูดหรอก แค่นี้ไม่สะเทือน ‘อึก’“ป่าวค่ะ สะดุ้งตื่นนิดหน่อย ว่าแต่กลิ่นอะไรหอมจัง”“พี่ทำกับข้าวไว้ให้ รีบลุกมาแปรงฟัน อาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วออกมาทานด้วยกันนะ”“ค่ะ ฮี่...” ฉันยิ้มจนตาหยี่ให้เขาก่อนที่เขาจะลูบหัวเบา ๆ แล้วเดินออกจากห้องไป“ว่าแต่เมื่อคืนฉันนอนไปตอนไหน” ฉันลุกขึ้นมองไปรอบ ๆ ก็จ้องมองกระจกที่สะท้อนตัวเองขึ้นมา “แล้วชุดที่สวมใส่นี่ล่ะ พี่เวลล์ก็จัดการให้หมดงั้นเหรอ” พอหลับตาคิดถึงเหตุการณ์เมื่อคืน ในสมองฉันกลับจดจำแต่เรื่องอย่างว่า ท่านั้น ท่านี้ ได้เท่านั้น
ให้ตายเถอะ เสียวมากอยู่หรอก แต่ดูเหมือนคนที่ยืนอยู่จะเสียวกว่าฉันมากไปหน่อยไหม เล่นสอบเอวใส่ปากฉันจนมิดลำแทบสำลัก ดีนะว่าควบคุมมันไว้ทันทันทีที่เขากระตุกตัวปล่อยน้ำขุ่นอุ่นร้อนของเขาออกมาเต็มโพรงปากฉัน ฉันก็ตั้งใจกลืนมันทุกหยดไม่ให้เหลือ รอบนี้เหมือนเขาไม่ได้บังคับ แต่เป็นฉันเองที่เสียวซ่านจนอยากจดจ่ออยู่ตรงกึ่งกลางกลายเขาอีกสักหน่อย แต่พอโลมเลียได้ไม่ทันไร มันกลับมาแข็งขืนขึ้นอีกครั้งแล้ว‘พี่เวลล์ แอบหื่น นะเนี่ย’พอฉันละปากออกจากเจ้าแท่งที่ตอนนี้มันพยักหงึก ๆ อีกรอบนั้น ฉันก็ทรุดลง มือยันพื้นหยัดตัวไว้ หอบหายใจแรงจนต้องเปลี่ยนมานั่งขัดสมาธิ ยกมือเช็ดคราบบริเวณริมฝีปากพลางหายใจหอบถี่ด้วยความเหนื่อย แต่นั่งได้ไม่นาน คนที่ยืนจ้องมองกันอยู่ก็สอดแขนใต้รักแร้ฉัน ดึงฉันขึ้นให้ยืนจากนั้นก็สวมกอด“เหนื่อยแล้วเหรอ” เขากระซิบด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ส่วนฉันหอบหายใจแรงเหนื่อยจริง ๆ นั่นแหละหายใจไม่ทัน“ค่ะ เหนื่อย” ฉันตอบไปตามตรงแม้ว่าตรงนั้นจะปวดหนึบเพราะอยากมากก็ตาม“แต่พี่ไม่เหนื่อยเลยนะ” เขาเอ่ยเสียวแผ่วเบาก่อนจะงับใบหูเล็กๆ ของฉัน ตอนนี้เขาคงอารมณ์มาเต็มที่เพราะลมหายใจที่รดฉันมันร้อนมาก ร้อนช
EP.46(Well Part)จู่ๆ คนเมาในอ้อมแขนของผมก็กระซิบบอกรักผมซะงั้น ถ้าในเวลาปกติของแจนล่ะก็ไม่มีทางจะได้ยินคำบอกรักด้วยแววตาเสน่ห์แบบนี้เป็นแน่ สงสัยผมต้องขอบคุณคนที่คิดค้นน้ำมึนเมาขึ้นมานี้แล้วล่ะ เพราะมันสามารถเปลี่ยนคนที่แข็งกร้าวในยามปกติ ให้กลายเป็นคนขี้อ่อย ขี้อ้อนมาได้แต่นั่นก็ทำให้ผมเริ่มคิดอีก ถ้าเธอไปดื่มหนักที่ไหน เธอจะมีท่าทีแบบนี้กับคนอื่นด้วยรึเปล่า ไม่ได้การหลังจากนี้ผมคงต้องเข้มงวดกับเธอหน่อย ก็ตอนนี้เธอคือแฟนผมผมอุ้มคนเมามายวางลงโซฟากลางห้อง เพราะผมยังไม่ได้ทายาบริเวณขาและเข่าของเธอที่มันยังปรากฏรอยฟกช้ำ แม้ตอนนี้มันเป็นรอยจางสีม่วงแล้วก็ตาม แต่เพราะเธอทำตัวยุกยิกนั่งไม่นิ่ง จนผมต้องนั่งโอบรัดเธอจากด้านหลัง“นั่งนิ่งๆ พี่ทายาให้ก่อน” ผมบีบยาลงในมือก่อนจะเอื้อมลูบไปตามรอยแผลฟกช้ำอย่างเบามือ “ยังเจ็บอยู่ไหม” ผมเอ่ยข้างหูเธอ“ไม่ค่ะ ไม่เจ็บแล้ว” เสียงอันบางเบาของเธอตอบผม“ถ้าหายแล้วงั้น.....” ผมพูดให้เธอคิด ก่อนจะงับใบหูของเธอเบาๆมือผมเริ่มอยู่ไม่สุขละจากการทายาเลื่อนมาสัมผัสหน้าอกของเธอคลึงเบาๆ ผ่านเสื้อยืนแสนบางที่ผมให้เธอเปลี่ยน ใบหน้าผมโน้มลงเล็กน้อยมองต้นคอระหงส์ท
EP.45พี่เวลล์พาฉันขับรถออกจากร้านอาหาร ฉันมองเขาอย่างคาดเดาความคิดไม่ได้สักนิดว่าเขาจะพาฉันไปที่ไหน ทำอะไร ฉันรู้ได้แค่ว่าตอนนี้เขารู้สึกเหมือนร่างท่านมารสุดหล่อสายตาสุดแซ่บที่สามารถชี้นิ้วสั่งฉันให้ทำอะไรก็ได้แบบนั้น สายตาความอ่อนโยนที่เคยเห็นมันไม่มีเลยสักนิด ดูร้ายๆ เหมือนจ้องจะงับเหยื่ออยู่ตลอด“วันนี้พี่แปลกๆ นะคะ” ฉันจ้องมองเขาตาไม่กะพริบ ก็ดูสิขนาดขับรถอยู่ก็ทำมุมปากยกยิ้มเป็นระยะ ดื้อๆ เขาเหมือนคนโดนเข้าสิงอ่ะ“ฮ่า....พี่ยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ”“เนี้ย หัวเราะแบบนี้ก็แปลกแล้ว พี่ไปโดนยาอะไรมารึเปล่า” ฉันยืดหน้าไปมองเขาที่กำลังตั้งใจขับรถใกล้ๆ จ้องเขาอย่างคาดคั้น แต่ไม่ทันที่ฉันได้ตั้งตัว เขากลับหันมาจุ๊บฉันหนึ่งทีที่ริมฝีปากแล้วกลับไปสนใจกับการขับรถต่อฉันหดตัวกลับมานั่งประจำที่ตัวเอง ยกมือลูบปากตัวเองเบา ๆ ก่อนจะมองค้อนคนข้าง ๆ วันนี้ปากฉันเปื่อยไปหมดแล้วเพราะเขาแต่ถามว่าชอบไหม ริมฝีบางของเขาฉันต้องชอบอยู่แล้วล่ะ“พี่จะบอกฉันได้รึยังว่าจะพาฉันไปไหน”&ldquo
EP.44แม้ตอนนี้ฉันจะมีอะไรให้คิดมากมาย แต่เมื่ออยู่กับเพื่อน ๆ ฉันก็ต้องเฮฮาให้เต็มที่ สายตาอาจจะยังดูออกว่าหนักอึ้งเพราะยังเอาแต่คิดถึงเขา แต่ฉันก็ต้องฝืนเพราะพวกเราทุกคนในโต๊ะนี้ต่างผ่านนรกที่เรียกว่าโปรเจคเล็ก ๆ ปีสามกันมาจะให้มาเสียบรรยากาศเพราะฉันได้ยังไงล่ะอาหารที่สั่งเริ่มทยอยจัดวางบนโต๊ะของพวกเรา จากโต๊ะที่โล่งโจ้ง ตอนนี้กลับดูแคบไปถนัดตา เพราะหน้ามืดตามัวสั่งกันแบบไม่ยั้งคิด ตอนนี้ก็เลยมาลำบากท้องของพวกเราเองล่ะนะ“สั่งกันขนาดนี้จะกินหมดเหรอ” พลอยมองอาหารบนโต๊ะพลางทำหน้าเจื่อน“แค่เห็นก็รู้สึกอิ่มแล้วนะเนี้ย” ฉันพูดพลางกอดอกพิงหลังลงพนักพิง“จะมาโทษฉันคนเดียวไม่ได้นะเว้ย พวกแกเองก็พูดสิ่งที่อยากกินออกมาทั้งนั้น ฉันก็สั่งไปตามนั้น” ไอ้นัทลุกขึ้นยืนยันโต๊ะเถียงขาดใจ“ก็ยังไม่มีใครว่าอะไร นั่งลง ๆ” มิกที่อยู่ข้าง ๆ ไอ้นัทดึงตัวมันนั่งลง“เออ ใจเย็นก็แค่บ่น ๆ กันเท่านั้น ทานกันเถอะเดี๋ยวอาหารเย็นชืดหมด”พวกเราทั้งสี่คน ต่างเอ็นจอยกับอาหารที่อยู่ต
EP.43ณ.คอนโดตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาล ฉันก็ปิดมือถือเครื่องนั้นไปเลย ฉันรู้ว่าถ้าเดินออกมาพี่แม็กต้องรีบไปบอกพี่เวลล์แน่ ๆ ฉันยังไม่พร้อมที่จะคุยอะไรกับเขา เพราะตอนนี้แค่พูดเสียงสะอึกอันน่าอายนี่เขาต้องได้ยินแน่ ๆรู้นะว่าภาพที่เห็นนั่นมันอาจจะไม่มีอะไรก็ได้ แต่ฉันคิดมากไง มากเสียจนไม่อยากจะควานหาคำตอบ ทั้งที่เดินเข้าไปตรงนั้นถามให้รู้เรื่องก็คงจบแล้ว แต่ที่ไม่กล้า เพราะกลัว กลัวจะได้คำตอบที่ไม่อยากได้ยินขึ้นมานะสิฉันผิดเอง ที่จู่ ๆ ก็กลายเป็นคนงี่เง่า เอาไว้อารมณ์อ่อนไหวต่อความรักนี่ลดลง ฉันจะเป็นฝ่ายไปหาเขาเองเพราะยังไงฉันก็เชื่อใจพี่เวลล์อยู่แล้วล่ะ“อ่าวมาแล้วเหรอ” ยัยมีนที่กำลังนั่งกินขนมดูซีรีส์อยู่กลางห้องหันมาทักทายฉัน“พลอยยังไม่มาเหรอ” ฉันที่มองซ้ายมองขวาไม่เห็นเพื่อนอีกคน“ยังไม่เห็นนะ แกไม่โทรถามล่ะ”“ฉันปิดมือถือ” ฉันพูดก่อนจะโยนกระเป๋าลงโซฟาแล้วนั่งข้าง ๆ ยัยมีนที่มันกำลังวางถุงขนมละสายตาจากซีรีส์และหันมาสนใจฉัน“เ