“คุณหมอคะ นี่มัน…”
“เมื่อกี้ผมแอบเห็นนะ มีบางคนแอบไม่พอใจ ตอนที่มีนาขอเบอร์ผม อย่าโกหก”
“ไม่ใช่ซะหน่อย ก็แค่…”
“ไม่รีบขึ้นไปตอนนี้ เดี๋ยวจะดึกนะครับ”
ยี่หวาจำใจต้องพาเขาขึ้นห้องมาด้วย ไม่คิดมาก่อนเลยว่าหมอติณณ์ จะรุกหนักกว่าตอนที่เธอจีบเขาด้วยซ้ำไป ตอนนั้นเธอก็คิดว่าตัวเองหน้าด้านสุด ๆ แล้วนะ แต่มาดูตอนนี้แล้ว เธอสู้หมอติณณ์ไม่ได้เลย
“เข้ามาก่อนสิคะ”
เขาเดินตามเธอเข้าไปในห้องชุดสุดหรู ซึ่งคิดว่าราคาน่าจะแพงเอาเรื่อง เพราะห้องของยี่หวาแม้ว่าจะเล็กกว่าที่เขาอยู่ แต่แยกสัดส่วนชัดเจน มีห้องครัวแยก และห้องนั่งเล่น ดูแล้วห้องน้ำน่าจะมีสองห้อง เพราะเห็นมีห้องนอนแยกอยู่อีกทาง
“ผมขอเข้าห้องน้ำหน่อยนะ”
"เชิญค่ะ"
เธอเปิดไฟให้เขา และเดินเข้ามาในห้อง เมื่อประตูห้องน้ำปิด ก็รีบมานั่งที่โซฟาเพื่อสงบอารมณ์
“ใจเย็น ๆ ไม่มีอะไรทั้งนั้น เขาก็แค่แวะมาเข้าห้องน้ำ”
ยี่หวาพยายามไม่ตื่นเต้น เมื่อหมอติณณ์เดินออกมาจากห้องน้ำ เธอก็ยื่นน้ำมาให้เขา
“ดื่มน้ำก่อนไหมคะ”
“ขอบคุณมากนะ ห้องของคุณ… น่ารักมาก เหมาะกับคุณมากเลย”
"เอ่อ นี่คุณหมอคะ ทำไมเดินสำรวจห้องคนอื่นแบบนี้ล่ะ"
เธอเดินตามเขาแทบไม่ทัน เพราะคิดว่าจะยื่นขวดน้ำให้เขา และรีบส่งเขากลับไป แต่หมอติณณ์กลับเดินเข้าไปในห้อง สำรวจจนทั่ว และนั่งโซฟาของเธอ
“โซฟานุ่มดีนี่ เข้าใจเลือกเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลยนะ ฮ้าว….”
“คุณหมอคะ นี่ก็เริ่มดึกแล้วนะคะ ไม่รีบกลับบ้านเหรอคะ"
“อืม... นั่นสินะ ดึกแล้วจริงด้วย ทำไมโซฟาของคุณ เหมือนจะดูดวิญญาณได้แบบนี้ล่ะ แค่ล้มตัวลงนอนก็เริ่มง่วงเลย"
“เดี๋ยวนะคะ! คุณจะมานอนตรงนี้ไม่ได้นะ นี่มันดึกแล้ว”
“แค่งีบนิดหน่อย คุณคงไม่ไล่หมออย่างผม ที่ทำงานหนักเกือบสิบแปดชั่วโมงต่อวัน ที่วันนี้ยังช่วยคุณ เลี้ยงข้าวและพามาส่ง กลับไปทั้งง่วง ๆ แบบนี้หรอกใช่ไหม ถ้าผมหลับในและขับรถชนขึ้นมา อุ๊บ!”
“อย่าพูดอะไรเป็นลางแบบนั้นสิคะ ปากคุณเป็นอะไรไปน่ะ”
หมอติณณ์สูดกลิ่นมือของเธอ ที่เอามาปิดปากเขาเอาไว้ และยิ้มออกมาทันที เมื่อเห็นเธอนั่งลงข้าง ๆ เขาก็รีบดึงตัวเธอลงมานอนข้าง ๆ ทันที
“ว้าย! คุณหมอคะ อย่าทำแบบนี้ ฉันตกใจหมด ปล่อยนะคะ”
เขาดึงเธอเข้ามากอดเอาไว้ โซฟานี้กว้างพอที่จะนอนสองคนแบบเบียด ๆ ได้ และเขาก็ชอบมาก ทำให้นึกถึงวันเก่า ๆ ที่เคยอยู่กับเธอ ที่คอนโดของเขาสมัยที่มหาลัย
“อืม…ขอสักครั้งเถอะนะยี่หวา วันนี้ผมเหนื่อยมากเลย ขอรบกวนคุณแค่แป๊บเดียว ของีบสักหน่อย หายเหนื่อยแล้วผมจะไปเอง ได้ไหม”
"คุณปล่อยฉันก่อนสิคะ กอดเอาไว้แบบนี้ จะนอนสะดวกได้ยังไง"
“อันนี้ก็ขอร้อง ผมอยากอยู่แบบนี้สักพัก นะครับยี่หวา ถือว่าผมขอร้อง”
เสียงออดอ้อนของเขาในตอนนี้ ทำให้เธอปฏิเสธไม่ได้ แต่เสียงของหมอติณณ์ เหมือนพร้อมจะหลับได้ตลอดเวลาจริง ๆ เธอถูกเขากอดเอาไว้ หมอติณณ์รู้สึกว่า หัวใจของเขาสงบ และอบอุ่นกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ห้าปีแล้วที่เขาไม่ได้รู้สึกอบอุ่น เหมือนอยู่บ้านแบบนี้ เขาค่อย ๆ ผ่อนคลาย และไม่นานก็นิ่งไป เขาหลับสนิทไปแล้วจริง ๆ
‘ให้ตายเถอะ อย่าบอกนะว่า
หลับไปเลยน่ะ น้ำก็ยังไม่ได้อาบ คนบ้าอะไรเนี่ย….’ยี่หวาค่อย ๆ ขยับตัวออกมา หมอติณณ์นอนนิ่ง และหายใจสม่ำเสมอ ไปทั้งชุดแบบนั้นเลย เธอมองดูเขาอีกครั้ง เขาดูโตขึ้นมาก หลังจากที่ไม่ได้เจอมาห้าปี รูปร่างของเขาสูงใหญ่กำยำ เป็นหนุ่มเต็มตัว บึกบึนและแข็งแรง ความหล่อตามวัยทำให้สาว ๆ ที่เดินผ่าน ไม่มีใครไม่หันมามอง
“นอนแบบนี้ได้หนาวตายพอดี ช่วยไม่ได้สินะ หาผ้าห่มมาให้เขาหน่อยก็แล้วกัน”
เธอลุกขึ้นไปหาผ้าห่มมาให้เขา หมอติณณ์ที่นอนอยู่ ยิ้มออกมาอย่างพอใจพร้อมกับนึกในใจ
‘กว่าจะเข้ามาในนี้ได้ ไม่มีทางจะออกไปง่าย ๆ หรอกน่ายี่หวา รู้จักพี่น้อยเกินไปแล้ว’
ยี่หวาหาผ้าห่มออกมาห่มให้เขา คนตัวโตไม่เหมาะกับโซฟาเอาเสียเลย แต่เธอเห็นว่าเขานอนหลับสนิท ก็เลยไม่อยากกวน“งานของพวกคุณหมอ คงจะหนักมากจริง ๆ สินะ เพลียจนหมดสภาพขนาดนี้ มีเวลานอนกับเขาบ้างมั้ยเนี่ย”ยี่หวายืนมองดูติณณ์ภพ และคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย สุดท้ายก็ตัดสินใจเข้าห้องไปอาบน้ำ เพราะวันนี้เธอเองก็เหนื่อยมาทั้งวัน เธอเบาแอร์ข้างนอกให้เขาแล้ว เพราะกลัวว่าเขาจะหนาว พรุ่งนี้เป็นวันหยุด แต่คงไม่ดีแน่ ถ้ามีผู้ชายนอนอยู่ในห้องสาวโสดแบบนี้ “เอายังไงดีล่ะ ปลุกเขา หรือว่าไม่ปลุกดี”ยี่หวานั่งคิดอยู่ในห้อง แต่เห็นหมอติณณ์หลับสนิทเพราะความอ่อนเพลีย ก็ไม่อยากให้เขาขับรถกลับไปจริง ๆ ในใจของเธอยังเป็นห่วงเขาอยู่ แต่ก็ไม่อยากยอมรับ ถ้ายังเป็นแบบนี้อยู่ คงได้ใจอ่อนให้เขาอีกครั้งแน่ ๆ“ช่างมันเถอะ แค่คืนเดียวเอง ไม่เป็นอะไรหรอกน่า พรุ่งนี้ตื่นมา เผลอ ๆ เขาก็กลับไปแล้ว”ยี่หวาตัดสินใจข่มตาให้หลับ ซึ่งทำได้ยากมาก เพราะรู้ว่าใครยังนอนอยู่ข้างนอก แม้จะมีประตูกั้น แต่เธอยังไม่ลืมอ้อมกอดเพียงชั่วครู่ ที่ถูกเขากอดเมื่อกี้นี้“พอได้แล้ว นอน ๆ ๆ อย่าเพ้อเจ้อ โอ๊ย!!!”ส่วนคนที่นอนอยู่ข้างนอก ก็ได้แต่ยืนพิงประตู
“คุณหมอคะ นี่มัน…”“เมื่อกี้ผมแอบเห็นนะ มีบางคนแอบไม่พอใจ ตอนที่มีนาขอเบอร์ผม อย่าโกหก”“ไม่ใช่ซะหน่อย ก็แค่…”“ไม่รีบขึ้นไปตอนนี้ เดี๋ยวจะดึกนะครับ”ยี่หวาจำใจต้องพาเขาขึ้นห้องมาด้วย ไม่คิดมาก่อนเลยว่าหมอติณณ์ จะรุกหนักกว่าตอนที่เธอจีบเขาด้วยซ้ำไป ตอนนั้นเธอก็คิดว่าตัวเองหน้าด้านสุด ๆ แล้วนะ แต่มาดูตอนนี้แล้ว เธอสู้หมอติณณ์ไม่ได้เลย“เข้ามาก่อนสิคะ”เขาเดินตามเธอเข้าไปในห้องชุดสุดหรู ซึ่งคิดว่าราคาน่าจะแพงเอาเรื่อง เพราะห้องของยี่หวาแม้ว่าจะเล็กกว่าที่เขาอยู่ แต่แยกสัดส่วนชัดเจน มีห้องครัวแยก และห้องนั่งเล่น ดูแล้วห้องน้ำน่าจะมีสองห้อง เพราะเห็นมีห้องนอนแยกอยู่อีกทาง“ผมขอเข้าห้องน้ำหน่อยนะ”"เชิญค่ะ"เธอเปิดไฟให้เขา และเดินเข้ามาในห้อง เมื่อประตูห้องน้ำปิด ก็รีบมานั่งที่โซฟาเพื่อสงบอารมณ์“ใจเย็น ๆ ไม่มีอะไรทั้งนั้น เขาก็แค่แวะมาเข้าห้องน้ำ”ยี่หวาพยายามไม่ตื่นเต้น เมื่อหมอติณณ์เดินออกมาจากห้องน้ำ เธอก็ยื่นน้ำมาให้เขา“ดื่มน้ำก่อนไหมคะ”“ขอบคุณมากนะ ห้องของคุณ… น่ารักมาก เหมาะกับคุณมากเลย”"เอ่อ นี่คุณหมอคะ ทำไมเดินสำรวจห้องคนอื่นแบบนี้ล่ะ"เธอเดินตามเขาแทบไม่ทัน เพราะคิดว่าจะยื่นขว
หมอติณณ์หันมากระซิบ และโอบเอวเธอเข้ามาจนชิด ก่อนจะตอบเพื่อน ๆ ไป“เอาไว้ค่อยนัดเจอกันวันหลังนะ วันนี้ต้องรีบไปส่งยี่หวากลับบ้านก่อน วันนี้ทำงานเหนื่อย ต้องรีบพากลับไปพักผ่อนน่ะ”“ว้าว…. สุดยอดไปเลยหมอติณณ์ ได้เลยเอาไว้โทรคุยกัน จริงสินายเปลี่ยนเบอร์แล้วนี่ เอาเบอร์มาหน่อยสิ”"ได้สิ หวารอพี่เดี๋ยวนะ"“ค่ะ”เธอทำอะไรไม่ได้ แต่เมื่อเห็นสายตาของมีนา ก็เริ่มอยากจะเอาคืน เพราะรู้ว่า มีนาเคยชอบหมอติณณ์มาตั้งแต่สมัยเรียน และพยายามแทรกเข้ามาระหว่างเธอกับติณณ์เสมอ แต่หมอติณณ์ไม่ได้คิดอะไรกับเธอ และเคยปฏิเสธไปแล้วถึงสองครั้ง“เอาไว้ค่อยนัดเจอกันนะ”“ติณณ์กลับมาคบกับรุ่นน้องคนนี้เหรอ”“มีนา! ไม่เอาน่า นี่มันเรื่องส่วนตัวของหมอติณณ์ ไอ้ตงกับวรุณรออยู่ข้างในแล้วนะ”“แลกเบอร์กับเราด้วยสิหมอติณณ์”มีนายื่นมือถือมาให้เขา ยี่หวาสะบัดไหล่ออกจากเขาเบา ๆ แต่หมอติณณ์ก็รีบคว้าเธอเข้ามาอีกครั้ง แม้แต่หมอเจย์ ก็เห็นถึงอาการที่หมอติณณ์แสดงความเป็นเจ้าของ โดยไม่สนใจมีนาเลย “ไม่เป็นไรหรอกมีนา เอาไว้ผมติดต่อเจย์ไป แล้วค่อยเจอกันก็ได้ ไปก่อนนะเจย์ แล้วเจอกัน”“ได้สิแล้วเจอกัน เอาไว้พาน้องยี่หวา มาทานข้าวด้วยกันด
เขาได้ยินเธอคุยโทรศัพท์ และตัดสินใจตามมาที่นี่ และสังเกตเห็นว่า เธอสั่งกาแฟมานั่งดื่มไปสองแก้ว ระหว่างที่รอคู่ดูตัว ก็นึกเป็นห่วงเธอขึ้นมา“ไม่เป็นไรค่ะ คุณหมอทานข้าวเถอะค่ะ”“หายเผ็ดแล้วใช่ไหม เปลี่ยนกินอย่างอื่นมั้ย”“ก็ได้ค่ะ”ทั้งสองคนนั่งทานข้าวกันต่อเงียบ ๆ หมอติณณ์ไม่อยากจะเร่งรัดเธอ เพราะกลัวว่า นอกจากยี่หวาจะไม่ใจอ่อนแล้ว จะกลายเป็นว่า เธอจะเกลียดเขาแทน ระหว่างที่ทั้งคู่นั่งทานข้าว บรรยากาศก็เริ่มดีขึ้นตามลำดับ ยี่หวาไม่คิดเลยว่า หมอติณณ์จะเอาใจใส่เธอ บางทีอาจจะมากกว่าตอนเป็นแฟนด้วยซ้ำไป“กินของหวานแก้เผ็ดสักหน่อยนะ เอาลูกตาลลอยแก้วสองที่ครับ”“คุณหมอชอบกินของหวานด้วยเหรอคะ”“เมื่อก่อนไม่ได้ชอบหรอก แต่เพราะต้องคอยกิน เวลาใครบางคนกินไม่หมด ก็เลยกลายเป็นชอบไปแล้วน่ะ”“เปล่าเสียหน่อย ก็แค่อยากให้ลองชิมเท่านั้นเอง”“ยอมรับเหรอว่า กินไม่หมดจริง ๆ”“ก็…ไม่ใช่แบบนั้นค่ะ ตอนนั้นกับตอนนี้ เหมือนกันที่ไหนล่ะคะ”“ก็ได้ งั้นคราวนี้กินให้หมดล่ะ”ยี่หวาเผยยิ้มออกมาเป็นครั้งแรก หมอติณณ์ได้แต่นั่งอึ้งเมื่อเห็นเธอยิ้มออกมา เขาคิดถึงเธอมากจริง ๆ และไม่เคยลืมได้เลย เรื่องเมื่อห้าปีก่อน ที่ยี่หว
“อะไรนะคะ เลี้ยงข้าวเหรอคะ ไม่เกินไปหน่อยเหรอคะ”“คุณไม่เลี้ยงไม่เป็นไร ผมเลี้ยงคุณเองก็ได้ ไหน ๆ ก็อยู่ที่ร้านแล้วนี่ จริงไหม นั่งก่อนสิ ผมหิวมากเลย”“นี่คุณ…”เขาพูดและดันเธอไปนั่งเก้าอี้ตัวในสุด และเขานั่งข้าง ๆ เพื่อไม่ให้เธอหนี ยี่หวาทำตัวไม่ถูก แต่วันนี้ที่จริงแล้ว เธอคงต้องขอบคุณเขาจริง ๆ ที่ช่วยเธอเอาไว้ เพราะไม่คิดว่าศุภนัทจะตื๊อเก่งขนาดนั้น“อยากกินอะไรดีล่ะ ที่นี่มีอาหารที่คุณชอบกินหลายอย่างเลยนะ เลือกร้านได้ดีจริง ๆ”“ฉันไม่ได้เลือกเองหรอกค่ะ”“อ้องั้นเหรอ หรือว่าเราจะไปกินที่อื่นกันดีล่ะ”“ไม่ค่ะ คุณหมอทำแบบนี้เพื่ออะไรกันแน่คะ”หมอติณณ์หันไปมองบริกร ที่กำลังจะเดินมารับออเดอร์ เขาจึงสั่งอาหารสองสามอย่างโดยที่ไม่ถามเธอ ยี่หวานั่งนิ่งไม่พูดอะไร เมื่อเขาสั่งเสร็จก็หันมามองเธออีกครั้ง“ไม่รู้จริง ๆ เหรอ ว่าทำไปเพราะอะไร”ยี่หวาใจเต้นแรง เธอไม่เคยเป็นแบบนี้มานานแล้ว และตอนนี้เขากำลังจะทำให้เธอ ไม่เป็นตัวของตัวเองอีกครั้ง“คุณหมอไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ก็ได้ค่ะ เรื่องที่ผ่านมาแล้ว ยังไงก็กลับคืนไปไม่ได้”“ผมก็ไม่ได้บอกว่า สนใจเรื่องที่ผ่านมา ที่ผมต้องการคือตอนนี้ต่างหาก”“คุณต้องก
ยี่หวารู้สึกเหนื่อยมาก กับการที่แม่ของเธอ ชอบสรรหาคนมาดูตัวและจับคู่ให้เธอ ยี่หวาไม่อยากขัดใจแม่ ทุกครั้งเธอก็ไปตามนัด และปฏิเสธไปทุกคน ในใจของเธอยังไม่มีใครเข้ามาแทนที่เขาได้“ก็ได้ค่ะ แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวนะคะ ที่ไหนคะ ร้านอาหารในโรงแรม... ก็ได้ค่ะ ครั้งหน้าไม่ต้องนัดใครให้แล้วนะ แค่ทำงานก็เหนื่อยจะตายแล้ว”เธอเดินออกไปเพื่อเรียกรถแท็กซี่ เพื่อไปที่นัดหมายดูตัว ตามที่แม่ของเธอจัดการเอาไว้ให้ ไม่ไปก็คงจะทำให้แม่เสียหน้า ดังนั้นเธอจึงต้องไป และปฏิเสธให้จบ ๆ ไปร้านอาหาร“ง่่วงชะมัดเลย เมื่อไหร่จะมาเนี่ย กาแฟแก้วที่สองแล้วนะ”เธอนั่งรออยู่เกือบครึ่งชั่วโมง คู่ดูตัวของเธอเหมือนว่าจะยังไม่มา “อีกสิบนาทีถ้าไม่มา ฉันจะกลับบ้านแล้วนะ”ไม่นานหลังจากที่เธอพึมพำกับมือถือ เพราะนั่งไถฟีดข่าวไปเรื่อย ผู้ชายสวมชุดสูทสีดำ ก็เดินเข้ามาหาเธอทันที“สวัสดีครับ คุณชื่อยี่หวาหรือเปล่า”“ใช่ค่ะ”เธอเงยหน้าขึ้นไปมองคู่ดูตัวของเธอ เขาเป็นนักธุรกิจหนุ่มใหญ่ ที่น่าจะอายุพอ ๆ กับหมอติณณ์ แต่สีหน้าดูเจ้าชู้มากกว่า เขายื่นมือมาให้เธอ“ผมชื่อศุภนัท จะเรียกว่า “นัท” ก็ได้ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ"“ยินดีที่ได้รู้จ