ท่อนแขนแกร่ง มีความแข็งแรงเป็นมวลกล้ามเนื้อ พาดลงกลางเอวคอดกิ่วหลังเสร็จความใคร่ ก่อนจะชะงักกึกเผลอปล่อยให้เบาหวิวไปชั่วขณะ เมื่อได้ยินหญิงข้างกายเอ่ยคำถามนี้ วินาทีนั้นคงไร้คำตอบในหัวเขาไปแล้ว เพราะเวเดนแกล้งหลับ..
" ครอกกก Zzz"
" หือ! "
ถึงขนาดทำไศลาหันขวับมามอง ก่อนจะกรอกตามองบน แสดงถึงความเอือมระอา
" อะไรเนี่ย.. พอเสร็จแล้วก็ชิ่งหลับเลยงั้นเรอะ "
เธอเลิกคิ้วค้าง ยกฝ่ามือเตรียมจะฝาดเขาอีกรอบ ทว่า...
" ซี้ดดด~"
การขยับตัวของเธอ กลับกระทบกระเทือนถึงท่อนล่าง ตรงกลางกายที่บวมเป่งจนแดงก่ำ เพราะถูกคนข้างๆ กระหน่ำแทงไม่ยั้ง
ไศลานิ่วหน้าหยุดความคิดไว้ชั่วคราว เพื่อที่จะข่มความเจ็บนั้น และคาดว่าตอนนี้บนฟูกที่นอน คงเต็มไปด้วยหยดโลหิตเรียบร้อยแล้ว
" ไอ้บ้านี่"
ความโกรธที่มีในใจลึกๆ ทว่าไม่กล้าเผยออกมา เพราะกังวลภารกิจจะพัง พาลง้างมือใส่คนข้างๆด้วยความหมั่นไส้ ก่อนจะหันหลังให้ พลิกตัวกลับไปนอนดังเดิม พร้อมน้ำตาคลอเบ้า แล้วค่อยๆไหลลงมา
ชายหนุ่มที่กำลังแกล้งหลับ ใบหน้าเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มคงไม่มีวันรู้ ภายนอกที่เขาเห็นในตัวเธอนั้น แท้จริงแล้วมันตรงข้ามกันทุกอย่าง ไศลาเสียใจสูงสุด แต่เลือกที่จะไม่โวยวาย รู้ดีกึ่งหนึ่งของเรื่องที่เกิดขึ้น เธอเองก็มีส่วน
" ฮึก..."
น้ำตาที่ไร้เสียงนี้ จึงมีศักยภาพแค่ทำให้หมอนเปียกเท่านั้น ไม่สามารถเรียกร้องความสนใจจากคนข้างๆได้ นอกจากพยายามข่มตาให้หลับ และลืมมันไป ...คงทำได้แค่สาบานกับตัวเอง เมื่อใดที่รู้ความเป็นมาของพี่ชาย จงหนีไปให้ไกลที่สุด
☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆
ช่วงสายของอีกวัน ไศลาตื่นก่อน และรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะมีไข้ แต่เลือกที่จะลุกไปอาบน้ำ แทนที่จะนอนซม ดวงตากลมโตปลายตามองคนข้างๆ ด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไป ไม่ได้เปื้อนไปด้วยความไร้เดียงสา หรือซุกซนเหมือนคราก่อน แต่มันนิ่ง... เรียบขรึมราวกับถูกถ่ายบัตรประชาชน
เธอมองเขาอยู่อย่างนั้น มองตั้งแต่หัวจรดลงมาที่หน้าท้อง แล้วกลืนน้ำลายอึกใหญ่ เกิดนึกถึงเรื่องเมื่อคืน
ร่างกายนี้น่ะหรือ ที่ทับถมขึ้นคร่อมตัวเธอ พระเจ้า..ทั้งที่เธอตัวแค่นี้เนี่ยนะ
มันช่างต่างกันลิบ กว่าจะเทียบเท่าได้ คงต้องโคลนนิ่งตัวเธอถึงสองคนแล้วกระมัง ร่างบางค่อยๆพยุงตัวลุกขึ้น ย่างเท้าลงเหยียบพื้น ก่อนหันมามองคราบเลือดของตัวเอง ที่ติดแข็งเป็นไตบนที่นอน แล้วก้มหน้าสลด ถอนกายใจเบาสุดทว่ายาวเยียดราวกับเรียกสติตัวเองกลับคืน จึงจะหมุนตัว พาร่างเปลือยเปล่าเข้าห้องน้ำ ถึงจะรู้สึกคั่นเนื้อคั่นตัว อยากนอนต่อแค่ไหนก็ต้องอดทนให้ได้ ต่างกับเวเดนที่หลับสนิทแน่นิ่ง ลมหายใจสม่ำเสมอไร้ความทุกข์ร้อน
นานพอสมควรกับเวลาที่สูญเสียไปในการอาบน้ำ ไศลาใช้ตรงนั้นคิดเรื่องอื่นไปเกินครึ่ง ก่อนจะก้าวออกมาคืนสู่โลกแห่งความเป็นจริง ปรากฏภาพที่เห็นเมื่อคืนไม่มีอีกแล้ว
เบื้องหน้าคือสาวใช้ที่กำลังวุ่นวายอยู่กับการเก็บกวาด กับผ้าปูผืนเดิมนั้นหายไป
" นายท่านไปแล้วค่ะนายหญิง และฝากเดซี่ให้บอกนายหญิงว่าท่านจะกลับมารับไปงานเลี้ยงตอนเย็น"
ก่อนสาวใช้จะหันกลับมาคำนับ พร้อมสรรพนามที่เปลี่ยนไป และบอกในเรื่องที่เธอนั้นสงสัยอยู่ราวกับอ่านใจได้
"นายหญิงงั้นหรือ.." เธอทวนคำนั้นหน้าสลด ทว่าเร่งปรับเปลี่ยนเป็นเหมือนเดิมแล้วส่งยิ้มกลับไปให้
"จ้ะ .."
อย่างน้อยต้องขอบคุณที่หล่อนให้เกียรติกัน นับแต่นี้ชีวิตของเธอคงต้องเปลี่ยนสินะ ผ่านเรื่องเมื่อคืนมา ยามนี้ต้องเปลี่ยนทุกอย่างหมดใช่หรือเปล่า..
รวมถึงการวางตัวให้เหมาะสมกับสถานะของเธอด้วย หญิงสาวไม่ได้คิดการใหญ่ขนาดนั้น ที่ทำแบบนี้ไม่ได้วางแผนจะจับ หรือจงใจฮุบสมบัติ เพื่อหวังสบายทางอ้อมจากเขาเลย ทว่า.. เพียงแต่ว่า หากวันนี้เธอไม่เผยอตัวขึ้นมาเป็นบุคคลอีกชั้นนึง และมีความทะเยอทะยานบ้าง ไม่ใช่แค่ไม่ถึง หรือ เดินกระทบไหล่มาเฟียระดับเขาไม่ได้ แต่เธอ..จะไม่มีวันรู้เรื่องของพี่ชายเลย แค่นี้แหละที่เธอนั้นต้องการ
อาจจะดูไม่คุ้มค่ากับสิ่งที่สูญเสียไป แต่ในสถานการณ์ที่แม่กำลังจะตาย เสาหลักที่เคยหนุนหลังหายไป และเธอไม่มีปัญญาจะดูแลน้องให้ดีได้ มีเพียงสิ่งนี้ ที่สามารถทำให้เธอได้ในสิ่งที่ต้องการ ราวกับยิงปืนนัดเดียวได้นกหลายๆตัว
ใช่ เมื่อรู้เป็นนัยย์อยู่แล้ว ว่าการก้าวมาของเธอเพียงหนึ่งก้าวในสมาคมผู้ทรงอำนาจ และพี่ชายของเธอก็ตายไปโดยผู้บ้าอำนาจ การจะให้ครอบครัวของเธอดีขึ้น และตัวเธอไม่ถูกรังแกในอนาคต เธอต้องหาที่พึ่ง
ฉะนั้น..โครทิส เวเดโน่ ..จึงต้องกลายเป็นสามีจำเป็น...
" เสร็จแล้วก็ออกไปก่อนนะเดซี่ ฉันอยากพักผ่อน "
ไศลาหันไปบอก
หลังเดินเนิบนาบมานั่งลงหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ใบหน้าที่ราบเรียบก่อนหน้าเบ้ปากขมวดคิ้วเล็กน้อยของนายสาวจึงทำให้คนข้างหลังมองออก
" นายหญิงไม่สบายใช่ไหมคะ "
" นิดหน่อยน่ะ.."
โดยคนถูกถามก็ตอบอย่างไม่คิด
" เดซี่จะไปเอายาแก้ปวดกับยาลดไข้มาให้"
และทำให้เธอต้องยิ้มเจื่อน ระบายความละอายให้กับสาวใช้ เมื่อรู้ว่าหล่อนคงรู้
" เธอคงเห็นเลือดนั้นแล้วสินะ "
" ค่ะ..."
" ฮึ .."
" ไม่ต้องกังวลนะคะ นายหญิงจะเป็นเพียงคนเดียวที่เดซี่เต็มใจรับใช้ "
ดวงตากลมโตทอดมองตัวเองในกระจก ก่อนถามเสียงแผ่วผ่านทางนั้น
" พูดแบบนี้ กำลังจะบอกฉันใช่ไหม ว่าเจ้านายของเธอน่ะ มีนายหญิงหลายคน.."
แต่เธอก็ยังคงยิ้ม ยิ้มอยู่แบบนั้น แม้ใจจะหวิว ต่างกับสาวใช้ที่ทำหน้าสลด เดินเข้ามาซ้อนข้างหลัง หยิบหวีมาสางผมให้
" ค่ะ..."
" ฮึ คิดไม่ผิดเลยจริงๆ "
ฝ่ามือน้อยๆขาวเนียนราวกับหิมะ ยามโดนแสงยกขึ้นทาบหน้า เธอมองเข้าไปในตาลึกของตัวเอง
" บอกฉันทีสิเดซี่ ว่าเรื่องนี้ทั้งหมดนี้ ไม่ได้ถูกวางแผนไว้ก่อนแล้ว .."
หันซ้ายหันขวายลความสวยของตนเอง ที่ไม่อยากจะเชื่อว่าตอนนี้ มันสามารถฉุดดึงเธอขึ้นมาอยู่ตรงนี้ได้ ท่ามกลางแวดวงมาเฟียที่น่ากลัว เธอจะพบเจอกับอะไรบ้าง
ภาวนา...อย่าให้คนๆนั้น เป็นคนทำลายพี่ชายอย่างที่ใครต่อใครพูดไว้เลย
ไศลาทาลิปสติกสีนู้ดบางเบาเป็นลำดับสุดท้าย ต่อด้วยชุดเดรสเนื้อผ้าซาติน รวบรัดเอวคอดกิ่ว ปล่อยชายกระโปรงบานพริ้วเทียบเข่า เหลือเพียงสวมรองเท้าก็เป็นอันว่าเสร็จสิ้น
" สวยมากค่ะนายหญิง "
ก่อนเสียงชมเชยนั้นจะทำเธอยิ้มเจื่อน หันหลังให้กระจก ไปตั้งคำถาม
" คุณโครทิสจะมากี่โมง "
" ไม่ทราบค่ะ บอกไว้แค่ว่าจะมาตอนเย็น "
ดวงตากลมโต มีอายไลเนอร์แต้มเล็กน้อย ให้พอดูงาม ชำเลืองขึ้นมองนาฬิกาติดฝาผนัง พลางเม้มปาก เมื่อมันบอกเวลาย่างเข้าสองทุ่ม
" ได้บอกไหมว่าจะพาไปไหน? "
" เอ่อ ประโยคนั้น..ก็ไม่ค่ะ แค่สั่งว่าให้แต่ง..."
ฝ่ามือยกขึ้นห้าม ขัดการพูดของสาวใช้ ยังไม่ทันได้เอ่ยจบ ก่อนจะหลับตานิ่ง
" เขามีเวลาให้ฉันได้เตรียมตัวมากเกินไป.."
แล้วบ่นพึมพำกับตัวเอง ในขณะเดซี่ ซึ่งยืนมองอยู่ข้างหลังได้แต่ทำหน้าสลด คิดไปเองว่านายหญิงของหล่อนคงจะเครียด และทำได้แค่เห็นใจ
แต่แล้ว...
" ถ้าฉันไม่ไปล่ะ? "
" ไม่ได้นะคะ! "
กลับต้องทำหน้าเหวอต่อ ด้วยประโยคนี้ เมื่อคนตรงข้ามเลิกคิ้วโพล่งขึ้นมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ไศลาชะงักไปอึดใจหนึ่ง หันกลับไปเบิกตามองกระจก ราวกับนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ แล้วจึงจะพยักหน้าหงึกหงัก พึมพำกับตัวเอง
" ใช่...ฉันไม่ควรนิ่งเฉย การออกงานให้มากที่สุด นั่นคือโอกาส เอ้อ! เดซี่ "
และประโยคทิ้งท้ายมองผ่านกระจกไปยังสาวใช้
" คะ? "
" เจ้านายเธอน่ะ ถ้าฉันถามตรงๆ เขาจะบอกความจริงไหม "
ทว่า เสมือนหาคำถามพาตายไปให้กับหล่อน สาวใช้ทำหน้าสลดกว่าเก่า พาลทำให้คนถามขมวดคิ้วไปด้วย
" ได้โปรด..นายหญิงอย่าถามเรื่องนายท่านกับเดซี่เลยนะคะ เดซี่ไม่รู้เรื่องสักอย่าง "
" เฮ้อ.."
ก่อนจะถอนหายใจรัว หยิบน้ำหอมขึ้นมาพรม
" ช่างเถอะ ต่อจากนี้ ชีวิตของฉันคงวุ่นวายแล้วล่ะ ดูท่าทางเจ้านายเธอมีลับลมคมในเยอะ อีกอย่างมักทำเรื่องเกินคาดหมายเสมอ อาทิเช่น..จับฉันใส่ชุดราตรีในคืนนี้ "
ทั้งที่ก่อนหน้านี้ เธอใส่แต่เสื้อกับกางเกง หรือชุดที่มีสองชิ้นตลอด ไศลาเลิกคิ้วเม้มปาก บ่งบอกถึงการปล่อยวาง หยุดสงสัย พลางเดินไปนั่งรอสวยๆบนโซฟา
ก่อนหน้าสองชั่วโมง หลังสาวใช้บอก หล่อนได้รับโทรศัพท์จากโครทิสอีกครั้ง เพื่อย้ำเธอ ถึงเครื่องแต่งตัวที่เขาจัดหาไว้ให้ และให้รอคอย โดยที่ไม่บอกว่าจะพาไปไหนและเวลาเท่าไหร่สักคำ นั่นทำไศลาเซ็งจนกระทั่งตอนนี้ กลายเป็นเธอไร้ปากเสียงทั้งที่ทำได้ไปโดยปริยาย ทว่าต้องฝืนไว้ ไม่งั้น...ึคงพัง
สิบห้านาทีเลยผ่าน รถคันหรูวิ่งเข้ามาจอดเทียบ โครทิสเดินเร็วเข้ามาในตัวบ้าน พร้อมบริวารขนาบข้างสองคน เขาต้องการชำระร่างกายก่อน หลังตรากตรำทำงานหนักมาทั้งวัน แทบไม่ได้พักสมอง
" นายหญิงล่ะ "
" เรียบร้อยแล้วค่ะ "
" บอกเธอรอฉันอีกสิบนาที "
" ค่ะ นายท่าน.."
แต่แล้ว ไม่ทันได้เดินต่อ ประตูตรงหน้าเขากลับเปิดออก พร้อมเจ้าของห้องที่สวยกว่าปกติ
"....."
ขนาดทำคนเห็นถึงกับอึ้ง เวเดนมองตาไม่กระพริบ ก่อนจะกระแอมกระไอ แสร้งทำเป็นคลี่เน็คไท้ออกจากคอหลวมๆ
" ไปรอที่รถก่อนนะ ฉันขอเวลาสิบนาที"
" ค่ะ"
จากนั้นจึงเดินเข้าห้องตัวเองไป
☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆
งานเลี้ยงวันเกิด ที่ถูกจัดขึ้นในโรงแรมหรู กับสไตล์ปาร์ตี้หน้ากาก นี่เลยเป็นเหตุผลที่เธอมาได้ ไศลามองไกลเข้าไปในงาน ในขณะรถที่นั่งมาเคลื่อนช้าก่อนจะจอดสนิท เวเดโน่อยู่ในชุดทักชิโด้สีดำดูมีภูมิฐาน พร้อมหน้ากากฟินิกซ์สีเดียวกัน ส่วนของเธอสีครีมเข้ากันกับชุด
" พร้อมไหม วันนี้ฉันจะพาเธอมาเรียนรู้งาน "
" คะ? "
ทว่า เหมือนเธอจะยังไม่พร้อม สมองยังคงทึ่งกับเนื้องานแค่ภายนอกที่แสนจะอลังการ แต่น้อยกว่าภายใน
" เธอ..โอเคไหม? " โครทิสถามย้ำ
" พาฉันมาในฐานะอะไรคะ "
หญิงสาวละสายตา หันมาสนใจอย่างเต็มที่
" ตอนนี้เป็นเลขาฉันไปก่อน "
" ที่จริง คุณเปลี่ยนตำแหน่งฉัน เพราะฉันทำแจกันแตก เรื่องเมื่อคืนชดใช้ไม่พออีกหรือคะ "
เพราะก่อนหน้านี้ไม่มีเวลาถาม เขาชิ่งออกไปเสียก่อน ไศลาจึงจำเป็นต้องถามตรงนี้ ทั้งที่มีคนขับรถ ทว่าเธอเลือกที่จะแสร้งลืม โครทิสเลิกคิ้ว คาดไม่ถึงว่าหญิงสาวจะเป็นคนจริง และกล้าแสดงออก
" เรื่องนั้น เธอก็เป็นเมียฉันไง ต่อไปนี้ในบ้านหลังนั้น เธอจะมีอำนาจทุกอย่าง จะทำอะไรก็ได้ เป็นสิทธิ์ของเธอแล้ว"
" แล้วตอนนี้ หน้าที่ฉันคืออะไรคะ..."
" ไม่ยากเลย เป็นเมมโมรี่ให้ฉันไง เรียนรู้มันไว้ เธอจำเป็นต้องมีกลยุทธิ์ เพื่อเอาตัวรอดในวันข้างหน้า ไม่ว่าจะสถานะไหน ถ้าอยู่ใกล้ฉัน...จะต้องเก่งทุกอย่าง"
" ค่ะ.."
ไศลาพยักหน้า แต่ด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย พร้อมบุคลิกที่แปลกไป ทำให้เวเดนไม่คุ้นชิน เธอเย็นชาจนเขารู้สึกได้
" เอ...เมื่อคืนฉันทำเธอไม่มีความสุขหรือ ถึงได้เครียดขนาดนี้ "
ไศลาหันขวับมามองหน้าทันที อย่างลืมตัว ก่อนจะเงียบไปอึดใจหนึ่งแล้วสวมหน้ากาก อำพรางแววตาของตัวเองที่กำลังจะมีน้ำใสๆออกมาเอาไว้
" มันสำคัญนะคะ..."
" หืม..."
" ไปเถอะค่ะ ฉันพร้อมแล้ว..."
จากนั้นก็ลงจากรถ ผู้ที่ดูผู้หญิงไม่ออกอย่างเวเดนจึงทำได้แค่ส่ายหน้าและลอบยิ้มภายหลัง เขาชอบในความไวไฟของเธอ และคงงอนนิดหน่อย ที่ถูกเขาเผด็จศึกโดยไม่ทันได้เตรียมใจ ซึ่งคาดว่าอีกไม่นาน คงหาย ทว่า สำหรับเธอนั้นมันต่างกัน อยู่ๆ กลับน้อยใจเขาขึ้นมาเสียเฉยๆ อยากจะร้องไห้แบบไม่มีสาเหตุเสียนี่
ไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้าย หากคืนนี้สาวเอเชียอย่างไศลาจะต้องเดินกระทบไหล่ไปกับผู้โด่งดังอย่างพ่อค้าอาวุธเถื่อน เปิดบ่อนคาสิโน โดยมีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์บังหน้า
แขนเรียวที่คล้องท่อนแขนล่ำไว้ มีบ้างเล็กน้อยที่จะสั่นเทาเพราะความประหม่า
ทว่าต่อให้หน้าจริงภายใต้หน้ากากขนนกสีครีมนั้น จะยำเกรงและตื่นผู้คนแค่ไหน ก็ไม่มีใครเห็น หากจะมี ก็คงมีแต่คนขนาบอยู่ข้างๆ ที่รับรู้ถึงความผิดปกติได้จากการสั่นสะเทือนของวงแขน และอุ้งมือบางที่บีบหนักบนสูทเสื้อผ่านมายังเนื้อเขา
" กลัวหรือ .."
เวเดโน่โน้มหน้าลงกระซิบ หญิงสาวจึงเชิดหน้าขึ้นทันที แสร้งทำตรงข้ามกัน ไม่ยอมรับความจริง เธอคลายอุ้งมือที่ขยุ้มเสื้อออกจนหลวม หวังให้เขาเห็นว่า เธอนั้นไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิด แล้วยืดอกคอตั้งระหงในท่ายืนสง่างาม ผงาดราวกับนกยูงยามรำแพนสู้กับกล้องนับร้อย
แต่แล้ว ..
ทำไมความยโสถึงได้เดือดร้อนมายังมืออีกข้างนึงได้ล่ะ เมื่อเธอใช้มันขยุ้มชายชุดเดรสของตัวเองบริเวณต้นขา
" เปล่า..ใครบอกฉันกลัว"
" ฮึ ก็ดี! "
เวเดโน่กัดฟันกรอด เขาเกลียดนักกับความอวดดีของเธอ ที่มันเหมือนปฏิเสธทุกครั้งยามเขาต้องการจะปกป้อง กะว่าจะโอบไหล่สาวเจ้าเดินตีคู่กันไปในทีแรก คราวนี้เป็นอันต้องปล่อยไม่แยแส ดูสิ.. เธอจะรอดไหม
" นี่ จะไปไหนน่ะ รอด้วยสิ "
ก่อนคนจอมวางแผนจะลอบยิ้ม เมื่อเขาจงใจจะเดินเร็วกว่าปกติ เพื่อให้มันห่างกับเธอ หลังผ่านตาสื่อมวลชนมายังโซนวีไอพีที่ไม่มีใครเข้าถึงได้ แน่นอนหญิงสาววิ่งตามขาแทบพัน
" ไปหาพรรคพวก "
" แล้วฉันล่ะ "
" หืม เธอทำไม? "
ชายหนุ่มเลิกคิ้ว ทำหน้ายียวนกวนประสาท
" ก็ฉันถามเธอว่ากลัวไหม เธอบอกว่าไม่"
" ก็ฉันไม่กลัวจริงๆนี่ "
" งั้นไปหาอะไรกินซะสิ แล้วรอฉันอยู่แถวนั้น เดี๋ยวฉันไปหา "
จบประโยค ชายหนุ่มเตรียมจะรุดเดินต่อ แต่แล้ว..
หมับ!
" คุณโครทิส..."
ภรรยาป้ายแดงของเขา กลับถลาเข้ามาฉวยต้นแขน ร่างสูงจึงหันกลับมาเลิกคิ้วขึ้น ทว่า เธอกลับก้มหน้างุน แน่นิ่งไป ริมฝีปากเอิบอิ่มเม้มเข้าหาจนกลายเป็นเส้นตรง ส่วนคิ้วถึงแม้จะมองไม่เห็นเพราะมีหน้ากากบดบัง เขาก็พอจะดูออก คงกำลังขมวดพันกันจนยุ่งเหยิงเป็นแน่
ใช่แล้ว...สาวน้อยที่ว่า กำลังจะงอแง
" ฮึก..."
และแน่นอนคนอย่างเขาไม่ใช่คนใจที่ไหน ที่จะทิ้งเธอ และเหินห่างกะจะให้เธอโดดเดี่ยวขนาดนั้น เขาก็แค่ต้องการจะกำราบเธอ ให้เธอได้กลับมาเป็นตัวของตัวเองเหมือนเดิมก็เท่านั้น
" อยู่กับฉัน อายุเท่าไหร่ ก็แสดงออกมาให้หมด"
ท่อนแขนแกร่งรวบหัวทุยมาแนบอก พลางกระซิบ
" อย่าได้อวดดีแบบนั้นอีก เพราะฉันจะไม่รู้ ว่าเธอเป็นอะไร และฉันปกป้องเธอไม่ได้ "
" ฮึก..."
" เข้าใจไหม? "
ก่อนจะทาบริมฝีปากลงกลางหัวทุยแบบหนักๆ แล้วกอดคอพาเดินต่อ
" ค่ะ"
" โอเค งั้นไปกัน "
ในดินแดนที่ร้อนระอุและมืดมิด ราวกับเป็นห้องแคบที่ค่อยกันกินลมหายใจ เขาเห็นผู้ชายสองคนกำลังปีนกำแพง ข้ามจากฝั่งมาอีกฝั่ง เสมือนหนีอะไรบางอย่าง หนึ่งในสองนั้นคือเขา ผู้ซึ่งกำลังมองดูอยู่ ในความรู้สึก ช่างตื่นเต้น แสนระทึกใจ ผู้ชายที่ว่าโยนตัวเองลงมาก่อน แม้นบนกำแพงนั้นจะเต็มไปด้วยกับดักที่พร้อมจะทำลายร่างตลอดเวลา ทว่าเขาหามีความเกรงกลัวไม่ ในขณะที่มีเส้นทางรอดกว่านี้ หลังเท้าเหยียบสู่พื้น ถ้าไม่หันกลับมาช่วยใครอีกคน ซึ่งยังติดอยู่บนกำแพง ' ส่งมือมาไอ้หนู'มือหนาเต็มไปด้วยเลือดแห้ง เลือดสด บาดแผลฉกรรจ์นับสิบแผลยื่นขึ้นเหนือหัว เด็กผู้ชายในความทรงจำเขา มองลงมาด้วยสายตาซาบซึ้ง ก่อนจะเม้มปาก ราวกับเก็บอาการอ่อนแอของความรู้สึก ที่กำลังจะกลั่นออกมาเป็นก้อนน้ำตา' พี่จะช่วยผมหรือครับ ' เขาเอ่ยถามเสียงสั่น' เออใช่ มึงยัดมาให้กู จนกูต้องติดร่างแหไปด้วย คงไม่สมควรจะช่วยมึง 'ส่วนเขาเองก็กัดฟันตะเพิดกลับไปไม่แพ้กัน กระนั้นก็ยังยื่นมือค้างเอาไว้' แต่กูทำไม่ได้หรอกโว้ย ส่งมือมา! เดี๋ยวก็ตายห่ากันหมดหรอก '' พี่เป็นใครกันแน่ ''ไว้ให้พ่อมึงมาตอบล่ะกัน 'หมับเขาพูดติดตลกในคำทิ้งท้าย ก่อนใช้จังหวะ
โครทิส เวเดโน่ พ่นควันบุหรี่ออกจากปากเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนทำลายไฟให้มอดโดยการยัดลงในที่เขี่ย หลังลูกน้องคนสนิทก้าวเร็วมาคำนับ รายงานเรื่องที่ไศลาจวนจะถึง" มาถึงแล้วงั้นเหรอ? ""อีกสิบนาทีครับนาย""พาเธอไปบ้านใหญ่""ได้ครับ"ก่อนเวเดนจะเดินสวนไปขึ้นรถ เพื่อเร่งจัดการปัญหาบางอย่างที่กำลังจะเกิดความยุ่งเหยิงขึ้น นั่นหมายความว่า เมื่อไศลามาถึงหญิงสาวจะต้องอยู่ลำพังร่างสูงในรถสปอร์ตสีดำสนิท นั่งเอนหลังกับพนักเบาะข้างหลัง ศีรษะแนบพิงไว้ พลางพ่นลมหายใจแรงทุกครั้งยามขยับท่า อันโค่ลูกน้องคนสนิท ทำหน้าที่ขับรถให้ในค่ำคืนนี้มองผ่านกระจกหลังเป็นระยะๆ สลับกับท้องถนน เพื่อมองพฤติกรรมของนายตัวเอง แล้วลอบยิ้ม สังเกตุดีๆ ว่านายไม่ได้หลับ"ติดกับเข้าแล้วสินะครับ"เวเดโน่หรี่เปลือกตาที่ปิดหวังพักผ่อนเท่านั้นขึ้น พลางพ่นหายใจไล่ความหงุดหงิด" พูดอะไรของมึง กูไม่เข้าใจ"" ผมรู้ ประโยคธรรมดาแบบนี้ นายเข้าใจดีที่สุด"" งั้นเรอะ แล้วออะไรล่ะวะ "แล้วกอดอกเปลี่ยนเป็นตะแคงข้าง แสร้งปิดเปลือกตาลงใหม่ ในขณะอันโค่เลิกคิ้วสูง สมน้ำหน้าตัวเองในใจที่อยู่ดีไม่ว่าดี แต่เพราะความอยากรู้ เขาจึงเอ่ยถามตามตรง" นายรักผู
ประเทศไทยหลังไศลาเหยียบลงพื้น สิ่งแรกที่เกิดขึ้นกับเธอคือรอยยิ้ม หญิงสาวลืมเรื่องราวทั้งหมด ราวกับไม่เคยอยู่ในความทรงจำมาก่อน เมื่อลงจากเครื่อง ร่างบางจึงเร่งเดินทางกลับบ้าน โดยการนั่งรถแท็กซี่ เพราะโทรหาน้องชายกับแม่ไม่ติด วันนี้แหละ เธอจะเค้นถามให้หมด ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่แต่แล้ว...เมื่อถึง แล้วลงจากแท็กซี่ จูงกระเป๋าลากจนเกือบจะถึงหน้าบ้าน ปรากฏว่า..“ เห้ย..ไปไหนกันหมดอ่ะ “เธอพึมพำ แต่นั่นก็ไม่วายสาวเท้าต่อ เดินเร็วกว่าเก่า เร่งไปให้ถึง เพื่อจะเขย่าแม่กุญแจที่คล้องอยู่กับประตูรั้ว จากนั้นจึงทำการวางกระเป๋าลากไว้ ล้วงหาโทรศัพท์ลองโทรหาแม่สลับกับน้องชายอีกรอบ ทว่า...หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้“ อะไรกันเนี่ย “ดึงลงมาบ่น ก่อนจะเอาไปแนบหูใหม่ ทว่า ก็ยังเหมือนเดิมหมายแรกที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้............หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อ................พอ!“ โอ้ย! “ไศลากระทืบเท้าระบายอารมร์หงุดหงิด ก่อนจะยืนเท้าสะเอว หันหน้าไปทางบ้าน คิ้วที่ขมวดเข้าหากัน บ่งบอกถึงความงงเป็นอย่างดี“ เอาวะ! ” พลางพ่นลมหายใจ เป็นการเตรียมพร้อมที่จะ...ปีน!“
ไศลาทำตามที่เอมิเลียว่า คือการแต่งตัวรอ และเก็บข้าวของที่จำเป็นที่สุด เธอไม่ต้องทำอะไรทั้งสิ้น นอกเหนือจากการทำตัวอย่าไม่ให้มีพิรุธ เมื่อถึงเวลา...หล่อนจะโทรมาเอง ประโยคเพียงแค่นั้นก็ทำให้พอจะเดาได้แล้วว่า เอมิเลีย มาดามแห่งตระกูลเรกาโด คงใช้ช่วงเวลาการประชุมนัดพิเศษของเหล่าอัลฟาวันนี้ เปิดช่องทางให้เธอหลบหนี ใจจริงก็รู้สึกผิด ไม่ใช่ไม่ย้อนคิดหรอก หากถูกจับได้ว่างานนี้ คนที่ช่วยเธอคือผู้หญิงที่มีอำนาจใหญ่โต แล้วผลจะเป็นยังไงแต่ทว่า เธอ... การเอาตัวรอด และกลับไปในที่ที่ดีที่สุด มีแต่อิสระ รวมทั้งได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตา ใครล่ะจะไม่ต้องการ! หากโครทิส เวเดโน่ คือคนที่มีเมตตา รักเธอ และไม่มีความเห็นแก่ตัวจริง ย่อมเข้าใจตรงนี้อยู่แล้ว!ติ๊ด ติ๊ดเสียงข้อความเข้า ไศลาหันขวับ ละสายตาจากสิ่งที่ทำแทบจะตะครุบดู เมื่อเห็นว่าเป็นเอมิเลีย จึงทำการเร่งรีบ รนรานเสียจนมือสั่น เธอเผลอยิ้มกว้าง ก่อนจะเดินออกไปแต่แล้ว....“นายหญิงคะ “เดซี่กลับยืนถือถาดอยู่ตรงหน้า“.....!!!”“จะไปไหนหรือคะ เดซี่ทำของว่างมาให้ค่ะ”“เอ่อ..ฉัน...”หญิงสาวเกิดการตื่นตระหนกอยู่เป็นนิจ เกรงกลัวขึ้นมาเสียเฉยๆ ทั้งที่แต่ก่อนการ
ร่างเปลือยนอนหงาย หน้าอกกระเพื่อม บ่งบอกว่าเจ้าของนั้นแสนจะเหนื่อย ไศลากรอกตาไปมา หลังเสร็จกิจ และเขาคนนั้นออกไปจากตัวเธอแล้ว ความโล่งอกไม่ใช่เป็นการได้ปลดปล่อยธาราในตัวนั่น ทว่า มันคือการที่เธอนั้นผ่านคืนนี้ไปแล้วต่างหากจะทำยังไงต่อไปดี?เธอช้อนตามองร่างใหญ่ที่นอนอยู่เคียงข้าง มีท่อนแขนรองรับศีรษะทุยไว้ ดวงตากล้ำกลอกก่อนจะมีน้ำใสๆ เอ่อล้นออกมา จากนั้นจึงกระปริบถี่ หรี่ลงมาเหมือนเดิม จุดที่เห็นมันคือโคมไฟบนเพดานอันหรู เธอไร้คำตอบในตอนนี้ ไม่มีทางออกราวกับสมองตื้อพาลให้มืดมนไปหมด นั้นเป็นสิ่งที่กำลังร้องบอกเธอว่า...นอนเถอะ" เฮ้อ..."หญิงสาวพลิกตัวกลับไปกอดเขา คนที่หลับสนิท พลางใช้แก้มแนบแผงอกแกร่ง ที่เต็มไปด้วยไรขน ในขณะเธอเองก็สับสน' เวเดโน่... คุณกับฉัน เราช่างต่างกัน ชีวิตของฉันไม่ได้ต้องการแบบนี้ ฉันรู้..ฉันมาเพื่ออะไร 'ใช่ ในเมื่อรู้คำตอบแล้ว จะอยู่ต่อไปทำไมอีก?☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆ฟ้าสาง เวเดนตกใจตื่น พร้อมครึ่งท่อนบนผงกขึ้น ก่อนจะหันซ้ายหันขวา มองหาใครบางคน" ไศลา"ซ่า.. ซ่า...เมื่อได้ยินเสียงน้ำไหลออกมาจากห้องน้ำจึงโล่งใจ ให้ตายเถอะ! เมื่อคืนเขาฝันร้าย เช้านี้ใจคอจึงไม่ค่อยดีนัก
นานเท่าไหร่ไม่รู้ที่ไศลาหลับไป เมื่อรู้สึกตัวอีกที เลยต้องจูลใหม่ทั้งหมด ร่างบางลืมตาตื่น ก่อนเบิกตะลึงเมื่อเห็นว่าห้องนี้ไม่ใช่ห้องของตัวเองแล้ว" ที่นี่มัน..."ริมฝีบางเฉียบขมุบขมิบ ฝ่ามือบางตะปบแก้มเนียนใส ตีแปะๆ สองสามทีจนแดงเป็นรอย ก่อนจะเบิกตากว้างหนักกว่าเดิม แล้วรีบกระโจนลงจากเตียง ไปโผล่อีกทีที่ห้องตัวเอง โชคดีหน่อย ที่เวเดนไม่ได้อยู่ในห้อง หรือบริเวณนั้น" ฟู่ววว"เธอพ่นลมหายใจอย่างโล่งอก หลังปิดประตูลงสนิท และคราวนี้ไม่ลืมที่จะล็อคกลอนอย่างแน่นหนาด้วย ก่อนช้อนตามองไปรอบๆ เพื่อดูเวลา" จะหมดวันแล้วหรือนี่ "เธอห่อปากจู๋พร้อมขมวดคิ้ว ดวงตาคมกลอกไปกลอกมาคิดแผนเอาตัวรอด หลังนึกไปถึงดินเนอร์มื้อเย็น เพราะเดี๋ยวเขาต้องโผล่มา ไม่ก็ให้เดซี่มาตาม" ทำไงดี ทำไงดี คิดสิๆ อ่อ! นึกออกแล้ว ต้องป่วยสินะ โอเคตามนั้น "ว่าแล้วเธอก็ดีดตัวขึ้นบนเตียงทีนที ดึงผ้านวมผืนหนาขึ้นมาปกปิด นอนตะแคงหันหลังให้ประตู โดยไม่คิดแม้จะเปิดไฟหรือแอร์" จงหลับ จงหลับ หลับต่อสิไศลา ตะกี้ยังง่วงอยู่เลย"และเพราะรู้อยู่เต็มอก ว่ามาเฟียอย่างเขาจะหลอกกันคงไม่ง่าย วิธีหลับจนเพลีย คือวิธีที่ดีที่สุด ตัวมันจะร้อนขึ้นม