บทที่ 60วินาทีต่อมาเขาจับไหล่สวีเหยียนซีทั้งสองข้าง ก่อนพูดด้วยน้ำเสียงดุดันว่า “เธอรู้ไหมว่าตอนนี้เธอกับฉินเซียวยังอยู่ในช่วงทบทวน แต่ตอนนี้เธอกลับอยู่กับผู้ชายคนอื่น ไม่กลัวถูกคนนินทารึไง? บอกพี่มา เธอตั้งใจแก้แค้นฉินเซียว ถึงได้ไปหาผู้ชายคนอื่นใช่ไหม?”สวีเหยียนซีสีหน้าเรียบเฉยก่อนสะบัดมือเขาออก “จะใช่ไม่ใช่มันก็เรื่องของฉัน คำพูดนี้พี่ไม่ควรพูดกับฉัน พี่ควรไปเตือนสวีหว่านหนิงต่างหาก มันเป็นเธอที่เป็นเมียน้อยแย่งสามีฉันไป ทำเรื่องที่ไร้คุณธรรมแบบนั้น”“แล้วก็พี่อย่าลืมนะ ตอนนี้คนนอกรู้หมดแล้วว่าคนที่จดทะเบียนสมรสกับฉินเซียวแท้จริงคือสวีหว่านหนิง งั้นฉันจะมีหรือไม่มีผู้ชายคนอื่น ใครจะมานินทาฉันได้? ตอนนี้คนที่นินทามันคือพี่!”สวีเหยียนเช่อโดนเธอตะคอกใส่จนสีหน้าตกใจ น้ำเสียงอ่อนลงทันที “ซีซี พี่ไม่ได้หมายความอย่างนั้นนะ พี่แค่กลัวว่าเธอจะใช้อคติส่วนตัวตัดสินใจผิด ถูกคนหลอกเข้า”“ต่อให้โดนหลอก ฉันก็ยินดี!”เมื่อเห็นเธอหงุดหงิดแบบนี้ สวีเหยียนเช่อจึงแน่ใจว่าเธอตั้งใจหาคนมาแก้แค้นฉินเซียวจริง ๆเขากดอารมณ์ไว้ ยังคงใช้น้ำเสียงอ่อนโยนพูดเอาใจเธอว่า “ซีซี พี่รู้ว่าเธอกำลังระงับอารมณ
บทที่ 59สวีเหยียนซีตบบ่าโหยวฉีเบา ๆ “ลำบากเธอแล้ว”โหยวฉีตอนนี้ก็ยังโมโหไม่หาย “แล้วทั้งสองตระกูลยังปล่อยข่าวออกมาอีกว่า หลังตรุษจีนก็จะจัดงานแต่งงาน บัตรเชิญคาดว่าอีกไม่กี่วันก็น่าจะเอามาแจก เหมือนกลัวว่าคนอื่นจะยังสงสัยว่าเป็นแค่ข่าวลือ”“ก็ดี รีบผูกมัดแต่เนิ่น ๆ” สวีเหยียนซีไม่ได้สนใจอีกต่อไปแล้ว “ฉินเซียวยังไม่กลับประเทศใช่ไหม”“ยังนะ ไอ้หมอนี่ซ่อนตัวเก่งชะมัด” โหยวฉีถามด้วยความห่วงใยว่า “มันจะทำให้เรื่องหย่าของพวกเธอล่าช้าไหม?”“ไม่หรอก ถึงเขาไม่อยากทำก็ต้องทำ ยังไงซะสองตระกูลก็ปล่อยข่าวออกมาแล้ว นอกจากว่าเขาจะใช้ชีวิตที่ต่างประเทศไปตลอดชีวิต และเลิกใช้ชื่อฉินเซียว” สวีเหยียนซีเพิ่งพูดจบ ด้านนอกก็เกิดความวุ่นวายตาเธอกระตุกเล็กน้อยคิดไม่ถึงว่าสวีเหยียนเช่อจะมาเร็วขนาดนี้เมื่อทั้งสองเงยหน้าขึ้น ประตูก็เปิดออกแล้วสวีเหยียนเช่อคลุมกายชุดดำทั้งตัว บวกกับใบหน้ามืดครึ้ม ปรากฏตัวราวกับเงาผีร้าย พอเห็นว่าสวีเหยียนซีนั่งอยู่ตรงนั้นอย่างสงบ เขาก็ถอนหายใจออกมา ปรับอารมณ์ปกติก่อนเดินไปหาเธอในสายตาโหยวฉี ท่าทางเขาแบบนี้เหมือนจะมาทำร้ายคนโหยวฉีจึงรีบลุกพรวดมาขวางหน้าสวีเหยียนซี
บทที่ 58หมอ ???ฟางห่าว “...”สถาปนิกสวีกำลังเอาใจเด็กหรือนี่จ้าวจวิ้นโจวพลิกตัว ไม่มีท่าทีต่อต้าน สวีเหยียนซีหันหน้ามา แล้วยิ้มให้กับคุณหมอ ก่อนแสดงท่าทีเหมือนกำลังบอกว่าดูสิแค่สองประโยคก็เอาใจจนเขายอมฟังได้ นี่เป็นความสัมพันธ์แบบเจ้านายกับลูกน้องซะที่ไหน? คุณหมอเก็บเรื่องซุบซิบนั้นไว้ ก่อนตรวจจ้าวจวิ้นโจวอย่างรวดเร็ว คุณหมอสีหน้าจริงจัง บอกว่าต้องให้น้ำเกลือจ้าวจวิ้นโจวพอได้ยินว่าต้องให้น้ำเกลือก็เริ่มต่อต้านอีก ใครจะคิดว่าสวีเหยียนซีที่ยืนข้าง ๆ จะตอบรับอย่างรวดเร็ว เธอบอกหมอให้น้ำเกลือจ้าวจวิ้นโจวตอนนี้สุดท้ายเขาก็ทำได้เพียงแสดงหน้าตาบูดบึ้ง ปล่อยให้คุณหมอติดสายให้น้ำเกลือให้สวีเหยียนซีก็ทำเพราะหวังดีกับเขา ยังไงซะอุณหภูมิร่างกายที่สูงเกินไปอาจทำให้เขาช็อกได้ อีกอย่าง ถ้าวันนี้ยังไม่หายดี พรุ่งนี้คาดว่าน่าจะกลับเมืองจิงไม่ได้โชคดีที่หลังจากกินยาน้ำไปสองขวด อาการของจ้าวจวิ้นโจวใกล้จะคงที่แล้วเขาที่หลับแค่ตื่นเดียวในวันนั้นตอนบ่ายก็ลงมาเดินเล่นข้างล่างได้แล้ว เขาถือโอกาสเอางานที่เหลือมาทำจนเสร็จวันรุ่งขึ้น พวกเขาบินกลับเมืองจิงตามแผนเดิมเมื่อลงจากเครื่องบิน สวี
บทที่ 57จ้าวจวิ้นโจวเปลี่ยนประเด็นกะทันหัน สวีเหยียนซีตกใจเล็กน้อย “เปล่านะคะ ฉันกำลังฟังคุณพูดอยู่ค่ะ” พูดจบ เธอเผยรอยยิ้มสวยไร้ที่ติออกมานานพอสมควร จ้าวจวิ้นโจวใช้ดวงตาคู่นั้นที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดแดงปิดตาลงชั่วครู่แล้วลืมตาขึ้นมา ถามด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นว่า “คุณกำลังด่าผม”สวีเหยียนซีถึงกับเหงื่อแตก เธอสงสัยว่าปรอทวัดไข้อาจแสดงค่าผิด แต่สมองของเขาก็ยังไม่เลอะเลือน “ท่านประธานจ้าวคะ คุณอยากดื่มน้ำไหมคะ?”“อยาก” ลูกกระเดือกของจ้าวจวิ้นโจวเคลื่อนไหวขึ้นลงตามท่าทางของเขา“งั้นฉันลงไปถามหาหลอดกับแม่บ้านหลี่ข้างล่าง คุณรอสักครู่นะคะ” เธอพูดอย่างเร็ว เงาด้านหลังที่เธอวิ่งออกไปเกือบจะปรากฏเป็นเงาซ้อนจ้าวจวิ้นโจวเวียนหัวตาลาย พ่นลมหายใจร้อนออกมาการอาบน้ำเย็นเมื่อคืนนี่มันบ้าชะมัดจริง ๆสวีเหยียนซีลงไปข้างล่างทักทายแม่บ้านหลี่แล้วก็ขอหลอด แม่บ้านหลี่ราวกับเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้ว ส่งหลอดและแก้วใบใหญ่ให้เธออย่างรวดเร็วแม่บ้านหลี่เอ่ยว่า “คุณผู้ชายทุกครั้งที่ป่วยก็งอแงเหมือนกับเด็กหกเจ็ดขวบ ให้เขาฉีดยากินยาเหมือนกับจะเอาชีวิตเขา ทุกครั้งเขาจะดันทุรัง ถ้าไม่ไหวจริง ๆ ก็จะดื่มแค่น้ำ
บทที่ 56เมื่อลุกขึ้นมามองเวลา แปดโมงแล้ว เธอจึงรีบลุกขึ้นมาล้างหน้าบ้วนปากเมื่อเปิดประตูออกไป เธอชนกับฟางห่าวพอดี“ผู้ช่วยฟาง คุณเป็นอะไรหรือเปล่าคะ?” ในขณะเดียวกันเธอสังเกตเห็นยาในมือของฟางห่าว ยาไอบูโพรเฟน… เธอถามออกไปด้วยความเป็นห่วงว่า “ผู้ช่วยฟาง คุณมีไข้หรือปวดหัวเหรอคะ?”ฟางห่าวตอบอย่างเลี่ยงไม่ได้ว่า “จู่ ๆ ท่านประธานจ้าวก็ไข้ขึ้นสูงครับ”สวีเหยียนซีตะลึงไปชั่วครู่ “ท่านประธานจ้าวไม่สบายเหรอคะ?”เมื่อคืนยังดี ๆ อยู่ไม่ใช่เหรอ?!“ใช่ครับ อุณหภูมิจะแตะสี่สิบองศาแล้ว”“ไม่ได้เรียกหมอเหรอคะ?”“ท่านประธานจ้าวไม่ยอมให้ผมเรียกครับ”โตเป็นผู้ใหญ่แล้วยังจะกลัวหมอ? สวีเหยียนซีจึงพูดว่า “เขาป่วยขนาดนี้แล้วอย่าให้ไข้ขึ้นจนสติมึนงงไปเลยนะคะ ผู้ช่วยฟางฉันแนะนำว่าคุณเรียกหมอดีกว่านะคะ อย่าตามใจเขาเลย คาดว่าตอนนี้เขาน่าจะไข้ขึ้นจนสมองเลอะเลือน ต่อให้เขาจะคัดค้าน เขาก็ไม่มีแรงหรอกค่ะ”เขาเหมือนกับเนื้อปลาวางบนเขียง จัดการได้สบาย ๆในใจของฟางห่าวถึงกับตะลึง สมกับเป็นผู้หญิงที่ประธานจ้าวชอบ ช่างกล้าหาญจริง ๆ“ได้ครับ ผมจะไปเรียกหมอเดี๋ยวนี้ งั้นรบกวนสถาปนิกสวีช่วยผมจับตาดูหน่อยนะคร
บทที่ 55“สวีเหยียนซี?”เสียงเคี้ยวน้ำแข็งกรอบแกรบหยุดลงทันที สวีเหยียนซีเงยหน้าขึ้น ด้วยความตะลึงปนงงงวย จ้องไปยังร่างสูงตรงหน้าสีหน้าของจ้าวจวิ้นโจวว่างเปล่าไปหลายวินาที ถ้าไม่เห็นด้วยตาตัวเองว่าเธอยัดก้อนน้ำแข็งเข้าปาก แค่ฟังเสียง เขาคงสงสัยว่าเธอกำลังเคี้ยวกระดูกแน่ ๆ“คุณ… เป็นอะไรหรือเปล่า?” หลังจากตกใจ จ้าวจวิ้นโจวก็แสดงสีหน้ากังวล พร้อมกับก้าวสามก้าวเหมือนพุ่งเข้ามา แล้วย่อตัวลงหน้าเธอก่อนถามว่า “อยู่ดี ๆ กินน้ำแข็งทำไม? เป็นไข้เหรอ?”ตอนที่ถาม เขายื่นมือออกไปแตะหน้าผากสวีเหยียนซีอุณหภูมิปกติยิ่งทำให้เขาไม่เข้าใจ จึงสรุปได้เพียงอย่างเดียวว่า “กินน้ำแข็งกลางดึกเป็นนิสัยส่วนตัวคุณเหรอ?”ก้อนน้ำแข็งในปากละลายเป็นน้ำหมดแล้ว สวีเหยียนซีกลืนน้ำลาย แล้วส่ายหน้าว่า “ไม่ใช่ค่ะ คือฉันคอแห้ง”“กระหายน้ำก็ดื่มน้ำสิ คุณกินน้ำแข็งทำไม?!” จ้าวจวิ้นโจวหยิบกล่องใส่น้ำแข็งไป “ตอนนี้เข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงแล้วนะ สวีเหยียนซี”“เดี๋ยว เดี๋ยว เดี๋ยว” สวีเหยียนซีตาไวมือไว ห้ามไม่ให้จ้าวจวิ้นโจวเอากล่องน้ำแข็งกลับใส่ตู้เย็น เธอพูดด้วยความอายว่า “คือเมื่อคืนฉันกินซุปเป็ดมากไป ฉันดื่มน้ำก็ไม่ดี