“นังแหนมรีบมาทำความสะอาดให้คุณเขาเร็ว”
ป้าพันรีบบอกให้แหนมมาทำความสะอาดเมื่อชายหนุ่มรับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะ
“นั่งรออยู่ตรงนี้ก่อนะคะเดี๋ยวป้าไปเอาน้ำเย็นๆ มาให้ดื่มค่ะ”
“ขอบคุณมากครับ”
แหนมรีบทำความสะอาดอย่างรวดเร็วตามที่เธอถนัดป้าพันเองก็เดินเข้าบ้านไปเตรียมน้ำเตรียมของว่างมาให้ชายหนุ่ม
จอมทัพเดินดูในสวนไปรอบๆ บริเวณเรื่อยๆ ทอดมองออกไปไกลสุดลูกหูลูกตาพร้อมกับลมเย็นๆ ที่พัดเอื่อยๆ ปะทะหน้าเขาเป็นระยะๆ มันทำให้รู้สึกเหมือนหลุดมาอีกโลกหนึ่งที่ปราศจากความวุ่นวายใดๆ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเธอถึงเลือกมาอยู่ในที่แบบนี้
“ห้องพร้อมแล้วค่ะคุณผู้ชาย”
“ขอบใจนะ”
แหนมวิ่งมาบอกแล้วก็รีบวิ่งหนีไปเพราะทนมองหน้าเขานานๆ ไม่ได้มันเขินจนพูดผิดพูดถูกไปหมดดาเมจคนหล่อมันรุนแรงเกินไปสำหรับเธอ
เมื่อยามค่ำคืนมาถึงชายหนุ่มล้มตัวลงนอนด้วยความอิ่มอกอิ่มใจเพียงแค่ได้เห็นหน้าเธอเขาก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว ยิ่งได้เห็นท้องที่นูนขึ้นมาแตกต่างจากเดิมนั้นก็ยิ่งทำให้เขาตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก
ต่อให้นอนกับพื้นดินเขาก็มีความสุขที่ได้อยู่ใกล้ลูกใกล้เมียแบบนี้ นอนคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยแล้วก็หลับไปจากความเหนื่อยล้าที่สะสมมาทั้งวัน
“พวกเราจะไม่กลับไปดูตาจอมกันจริงๆ เหรอ”
คเชนทร์พูดด้วยความอยากรู้เพราะไม่มีใครกลับไปแถมยังเปิดพูวิลล่าหลังโตแล้วเรียบร้อย รู้สึกว่าช่วงนี้ใช้ชีวิตได้ร่อนเร่กันเหลือเกินทั้งสี่คนบ้านก็ไม่กลับ งานก็ไม่ทำเอาแต่หาที่นอนที่เที่ยวไปวันๆ
“หนูอรคงไม่ใจร้ายฆ่ามันตายหมกสวนดอกไม้หรอกน่า ให้ทั้งสองคนได้ใช้เวลาปรับตัวกันสักหน่อยดีกว่าคนแก่อย่างเราใจเย็นๆรออุ้มหลานก็พอ”
ทัศนีย์ไม่เข้าข้างลูกตัวเองสักนิดแถมยังยกแก้วไวน์ขึ้นมาดื่มอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวอีกต่างหาก
“รีบๆ เที่ยวกันดีกว่าพวกเราอีกหน่อยหลานคลอดออกมาก็อดเที่ยวกันแล้วนะ”
“นั่นสิๆ อย่าไปสนใจมันเลยปล่อยให้หนูอรจัดการมันไปก็แล้วกันเนอะ” “ฮ่าๆ”
“เนอะๆ ฮ่าๆๆๆๆ “
เสียงชนแก้วหัวเราะชอบใจดังลั่นบ้าน ช่างเป็นช่วงชีวิตของคนแก่ที่มีความสุขเสียจริงๆ
เช้าวันต่อมา
วันนี้วิวดอกไม้ที่คนท้องชอบดูในตอนเช้านั้นเปลี่ยนไปมีคนที่เธอไม่ชอบขี้หน้ากำลังยืนรดน้ำดอกไม้ตั้งแต่เช้าตรู่ ชุดคนทำสวนก็เหมาะกับเขาดีไม่น้อย
แต่เห็นอย่างนั้นอรฤดีก็หมดอารมณ์ชมวิวเดินกลับเข้าบ้านไปทันที
“เข้ามาเร็วจังค่ะ ไม่ชมสวนแล้วเหรอคะ”
ป้าพันเอ่ยถามพร้อมกับยกมื้อเช้ามาเสริฟทันที
“หอมจังเลยค่ะ”
“ใช่ไหมคะ ทานเยอะๆ นะคะ คุณหนูในท้องจะได้แข็งแรง”
“อื้มมม อร่อยจังเลยค่ะ”
“ชอบใช่ไหมคะ คุณผู้ชายต้องดีใจมากแน่ๆ เลยค่ะอุส่าห์ตื่นมาเข้าครัวทำเองกับมือเลยนะคะ”
“แค่กๆ อะไรนะคะป้าพัน ใครเป็นคนทำนะคะ”
“ผมเอง.. ก็คุณบอกให้ผมพิสูจน์ว่าผมพร้อมจะเป็นพ่อคนหรือเปล่าต่อไปนี้ผมจะทำมื้อเช้าให้ลูกทานทุกวัน”
“แต่ชั้น”
“ผมทำให้ลูก”
ช่วงบ่าย..
“ผมซักผ้าให้ลูก”
ช่วงเย็น
“ผมเอานมอุ่นๆ มาให้ลูก”
ไม่ว่าจอมทัพจะทำอะไรก็ดูทุกคนจะเห็นดีเห็นงามไปด้วยซะหมดทุกอย่างเปิดทางให้กันแบบสุดๆ แต่ถึงอย่างนั้นอรฤดีก็ยังไม่ยอมใจอ่อนง่ายๆ
ก้อก ก้อก ก้อก
“นี่คุณมาทำไม ออกไปเดี๋ยวนี้นะ”
“ผมไม่ได้มาหาคุณผมมาบอกฝันดีลูกผม”
พูดจบเขาก็ตีหน้ามึนเดินดุ่มๆ เข้ามาย่อตัวลงคุกเข่ากับพื้นแล้วลูบท้องเธอเบาๆ ก่อนจะก้มลงไปจูบด้วยความอ่อนโยนโดยไม่ลืมที่จะสูดหอมกลิ่นกายเธอที่เขาโหยหาเหลือเกินแต่จะทำโจ่งแจ้งก็ไม่ได้เดี๋ยวจะเป็นเรื่องขึ้นมา
“เสร็จแล้วก็ออกไปได้แล้วชั้นจะนอน”
คนตัวสูงไม่ได้พูดอะไรอีก เขายอมทำตามที่เธอบอกอย่างว่าง่ายแล้วเดินออกไปเงียบๆ
“สู้ๆ นะคะคุณผู้ชาย ป้าเอาใจช่วยค่ะ”
ป้าพันพูดให้กำลังชายหนุ่มก่อนจะเดินออกจากบ้านไปนอนที่ห้องเก็บของเหมือนเดิม
เขาก็หันมายิ้มตอบกลับแต่รอยยิ้มในวันนี้ของเขานั้นมันเต็มไปด้วยความสุขอย่างบอกไม่ถูกแววตาของเขาไม่ได้เศร้าเหมือนวันแรกอีกแล้ว ..
เช้าวันต่อมา
อาหารเพื่อสุขภาพถูกวางไว้ตรงหน้าเธอด้วยมือของเขาและยังยืนมองเธอแทบไม่ละสายตาอีกต่างหาก
“จะมองอะไรขนาดนั้นใครมันจะไปกินลง มีอะไรทำก็ไปทำสิเข้ามายืนในบ้านทำไม”
เขายิ้มๆ กับท่าทางและคำพูดของเธอมันดูน่ารักเกินกว่าที่จะโกรธได้ลงแถมยังน่าจับมาหอมแก้มเลยจริงๆ ตอนที่งอนๆ แบบนี้
“อุก..อึก อ้วกกกกก อ้วกกกก”
ยังไม่ทันที่เขาจะได้เดินออกไปหรือพูดอะไรอยู่ๆ ก็รู้สึกคลื่นไส้ขึ้นมาเอาอีกแล้วววอาการมาอีกแล้วสินะ
“นี่คุณ..”
อรฤดีรีบลุกขึ้นเมื่อเห็นคนตรงหน้าอาการไม่ดี ทั้งป้าพันและแหนมก็รีบวิ่งเข้าไปดูในทันที
“เป็นอะไรมากหรือเปล่าคะคุณผู้ชาย หน้าซีดไปหมดแล้วค่ะ”
แหนมรีบเอายามาให้พร้อมกับถือถุงเตรียมรอรอบสอง
“ไม่เป็นไรครับ ผมไม่เป็นไร”
เมื่อได้ยินอย่างนั้นอรฤดีก็นั่งลงที่โต๊ะเหมือนเดิมไม่สนใจเขาอีก
“ไปนอนพักก่อนนะคะเดี๋ยวป้าเอาเกลือแร่ไปให้ค่ะ”
จอมทัพพยักหน้ารับแล้วรีบเดินกลับไปที่ห้องตัวเองเมื่อไปถึงก็รีบหยิบเอาเสื้อของอรฤดีที่แอบหยิบมาวันที่ซักผ้าให้เธอเอาขึ้นมาดมสูดหายใจเข้าจนเต็มปอดไปหลายฟอดอาการวิงเวียน คลื่นไส้ก็ค่อยๆ บรรเทาลง
เพียงแค่ได้ดมกลิ่นเธอเขาก็มีเรี่ยวมีแรงอยากออกไปทำสวนในทันที..ไม่ใช่ขยันอะไรหรอก แต่สวนตรงที่เขาทำมันตรงกับห้องของเธอและนั่นทำให้เขาได้เห็นได้แอบมองเธอทั้งวันมันมีความสุขอย่างบอกไม่ถูกเลยจริงๆ
“คงจะเหนื่อยมากนะคะ คุณเขาตื่นมาทำงานเองทุกอย่างตั้งแต่เช้าเลยค่ะไม่เคยบ่นเลยสักคำคุณอรจะไม่ไปดูหน่อยเหรอคะ”
ป้าพันถือขนมเค้กที่อรฤดีชอบมาให้เป็นของว่างแล้วถือโอกาสช่วยพูดให้จอมทัพทันที
“ป่วยก็ไปหาหมอสิคะ ทนไม่ไหวก็กลับบ้านไปอรก็ไม่ได้ห้ามอะไรเค้านี่คะ”
นอกจากจะไม่มีเยื่อใยแล้วก็ยังเฉยชามากจนป้าพันไม่รู้จะช่วยพูดอะไรต่อเลยทีเดียว
และหลังจากนั้นในทุกๆ วันหลังจากที่เตรียมมื้อเช้าไว้ให้เธอแล้วเขาก็จะถือจอบเข้าสวนไปช่วยคนงานปลูกดอกไม้รดน้ำพรวนดินหมั่นดูแลให้ออกดอกมาให้เธอได้ตื่นมาพบกอดดอกไม้สวยๆ ในทุกๆ เช้า .. ซักผ้าให้เธอและยังเริ่มจัดเตรียมอุปกรณ์ข้าวของเครื่องใช้เด็กอ่อนด้วยตัวเอง
ยิ่งเธอท้องแก่ขึ้นทุกวันเขาก็ยิ่งคอยดูแลใส่ใจใกล้ชิดทุกอย่างสม่ำเสมอจนเป็นเวลาผ่านมาสองเดือนกว่าแล้วที่เขาอยู่ที่บ้านสวนแห่งนี้กับเธอ.. ตอนนี้ท้องเธอโตขึ้นมาก..
เช้าวันต่อมา เมื่อแสงสว่างรอดผ่านหน้าต่างเข้ามาได้อรฤดีก็รีบตื่นมาดูแลเช็ดตัวให้คนที่ยังคงหลับอยู่ในทันที “แผลเต็มหน้าเลย คงจะเจ็บน่าดูเลยนะคะ”แหนมที่เปิดผ้าม่านชะโงกหน้ามาดูแล้วพูดออกมาด้วยความกลัว เกิดมาเพิ่มเคยเจอเรื่องแบบนี้แต่ก็ยิ่งปลื้มชายหนุ่มไปอีกเมื่อเขาพยายามปกป้องคนที่เขารักไว้โดยไม่ห่วงชีวิตของตัวเองเลย“ผมขอโทษ… ผม ผมขอโทษ” เสียงละเมอเบาๆ ดังขึ้นทั้งที่เจ้าตัวยังคงหลับอยู่ แต่คนที่เฝ้ารอการตื่นของอย่างใจจดใจจ่อนั้นกลับได้ยินมันอย่างชัดเจน .. หัวใจของเธอชาวาบไปทั้งตัวมันเหมือนความกลัวและความกังวลทั้งหมดสลายหายไปเมื่อได้ยินเสียงที่ออกจากปากของเขาแม้จะยังไม่ตื่นขึ้นมาก็ตาม..“ถ้ายังมัวนอนอยู่แบบนี้ชั้นจะไม่ยกโทษให้แล้วนะ ลูกหิวจะแย่แล้วเมื่อไหร่จะตื่นมาทำกับข้าวให้ลูกกิน.. ผ้าเต็มตะกร้าแล้วใครจะซัก คนงานก็ลาใครจะรดน้ำต้นไม้มัวนอนอยู่ได้ ..” “โอ้โหคุณอร เอาจริงเหรอคะ ..” แหนมขมวดคิ้วรีบหันขวับไปมองเจ้านายตนเองในทันทีเมื่อได้ยินอย่างนั้น อันนี้คือคุณอรให้อภัยจริงๆ แล้วใช่เปล่าหรือต้องการคนมาใช้แรงงานกันแน่ “ถ้าคุณให้อภัยผมให้ทำมากกว่านี้ผมก็ยอม” จอมทัพค่อยๆ ลืมตาขึ้
การกระทำดูแลเอาใจใส่ของเขาการเป็นกิจวัตรประจําวันที่ไม่ว่าจะเป็นเธอและเขาต่างคุ้นชินแม้ดูเหมือนจะหมางเมินอยู่บ้างเป็นครั้งคราว แต่เขาก็ยังตีหน้ามึนไปเรื่อยๆ ไม่สนใจและยังมีป้าพันคอยเป็นกำลังใจสำคัญคอยช่วยเหลือทำให้ทุกอย่างดูราบรื่นไปได้ด้วยดีขึ้นทุกวันๆ แม้เขาจะยังคงได้นอนที่ห้องเก็บของหลังบ้านเหมือนเดิม … “เห้ยบ้านนี้แหละมีแต่ผู้หญิงกับคนแก่ ป่านนี้คนงานกลับไปหมดแล้วทางสะดวกเว้ย” เด็กแว้นสองคนที่ต้องการเงินคอยซุ่มดูอยู่หลายวันตั้งใจจะเข้ามาขโมยเงินหรือของมีค่าเอาไปใช้กินใช้เที่ยว หลังจากที่ดูลาดเลามานานพอสมควรวันนี้ก็ตัดสินใจลงมือ.. “แล้วถ้ามีคนขัดขืนจะให้ทำยังไงวะ” “ก็ตบให้กลิ้งไปดิ่วะ ให้มันรู้ซะบ้างแต่พวกมันคงไม่กล้าหรอกมีแต่ผู้หญิงท้องกับคนแก่นี่หว่า” “อีคนท้องเป็นเจ้าของบ้านห้องมันน่าจะมีเงินเก็บไว้ แอบเข้าไปให้เงียบๆ อย่าให้อีแก่นั่นรู้จะได้จบงานไวๆ เข้าใจไหม” “เออๆ รู้แล้วน่า มึงนั่นแหละอย่าพลั้งมือทำให้เป็นเรื่องใหญ่ก็แล้วกัน”“พูดมา! ไปได้แแล้วๆ”เมื่อตกลงกันได้ บอกแผนการกันเสร็จสรรพแจ็กและเจก็ค่อยๆ ย่องเข้าไปในบ้านและเดินเลาะไปยังห้องที่คิดว่าเป็นห้องของอรฤดี แกร่ก..
“นังแหนมรีบมาทำความสะอาดให้คุณเขาเร็ว”ป้าพันรีบบอกให้แหนมมาทำความสะอาดเมื่อชายหนุ่มรับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะ “นั่งรออยู่ตรงนี้ก่อนะคะเดี๋ยวป้าไปเอาน้ำเย็นๆ มาให้ดื่มค่ะ” “ขอบคุณมากครับ”แหนมรีบทำความสะอาดอย่างรวดเร็วตามที่เธอถนัดป้าพันเองก็เดินเข้าบ้านไปเตรียมน้ำเตรียมของว่างมาให้ชายหนุ่มจอมทัพเดินดูในสวนไปรอบๆ บริเวณเรื่อยๆ ทอดมองออกไปไกลสุดลูกหูลูกตาพร้อมกับลมเย็นๆ ที่พัดเอื่อยๆ ปะทะหน้าเขาเป็นระยะๆ มันทำให้รู้สึกเหมือนหลุดมาอีกโลกหนึ่งที่ปราศจากความวุ่นวายใดๆ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเธอถึงเลือกมาอยู่ในที่แบบนี้ “ห้องพร้อมแล้วค่ะคุณผู้ชาย” “ขอบใจนะ” แหนมวิ่งมาบอกแล้วก็รีบวิ่งหนีไปเพราะทนมองหน้าเขานานๆ ไม่ได้มันเขินจนพูดผิดพูดถูกไปหมดดาเมจคนหล่อมันรุนแรงเกินไปสำหรับเธอเมื่อยามค่ำคืนมาถึงชายหนุ่มล้มตัวลงนอนด้วยความอิ่มอกอิ่มใจเพียงแค่ได้เห็นหน้าเธอเขาก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว ยิ่งได้เห็นท้องที่นูนขึ้นมาแตกต่างจากเดิมนั้นก็ยิ่งทำให้เขาตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูกต่อให้นอนกับพื้นดินเขาก็มีความสุขที่ได้อยู่ใกล้ลูกใกล้เมียแบบนี้ นอนคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยแล้วก็หลับไปจากความเหนื่อยล้าที่สะสมมาทั้ง
“อรเดี๋ยววันนี้พ่อแม่ว่าจะออกไปในเมืองหน่อยนะลูกน่าจะกลับดึกพักผ่อนให้มากๆ ไม่ต้องรอนะ ให้หลานแม่พักผ่อนมากๆ เข้าใจไหม”“ค่ะคุณแม่เที่ยวให้สนุกนะคะ” สิริวดีและทัศนีย์เดินมาบอกอรฤดีที่กำลังอ่านหนังสือเกี่ยวกับการเลี้ยงเด็กอยู่ในห้องหนังสือจริงๆ แล้วก็ต้องการเปิดโอกาสให้ทั้งสองคนได้ปรับความเข้าใจกันนั่นเอง แล้วบรรดาคนแก่ชอบเที่ยวก็พากันออกไปพร้อมกับรถตู้คู่ใจสวนกับจอมทัพที่หน้าบ้านแต่ก็ไม่ได้ทักทายอะไร ตอนนี้หัวใจเขาอยู่กับหญิงสาวที่ขโมยมันไปตั้งแต่เมื่อไหล่ก็ไม่รู้ รู้ตัวอีกทีเขาก็เอาแต่คิดถึงเธออยู่ตลอดเวลาอย่างนี้ “เห้ยย.. จิ๊ ลืมได้ไงวะ”เขาสบถออกมาเมื่อควานมือหาชุดนอนของเมียที่ต้องเอาไว้ดมเพื่อเติมพลังชีวิตแล้วไม่เจอ ตายแน่ๆ ถ้าไม่มีชุดนอนเธอเอาไว้ดมมีหวังเขาได้อ้วกแตกกินอะไรไม่ได้อีกแน่ๆ ถึงจะดูเหมือนคนโรคจิตก็เถอะแต่มันช่วยได้จริงๆ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อเลยแค่คิดว่าลืมเอาติดมาด้วยก็รู้สึกพะอืดพะอมขึ้นมาทันที นี่มันอะไรกันวะเนี่ย… “มาหาใครเหรอคะ”แหนมรีบวิ่งออกไปรับแขกเมื่อเห็นชายหนุ่มหน้าตาไม่คุ้นเดินลงจากรถมา “อรอยู่หรือเปล่า ผมมาหาอรไปบอกเธอที”“ได้ค่ะ รอสักครู่นะคะ” แหนมเ
วันต่อมา “หน้าตาสดชื่นขึ้นนะคะวันนี้ “พี่ปลาเอ่ยทักเมื่อเห็นจอมทัพเดินมานั่งที่โต๊ะอาหารด้วยใบหน้าแจ่มใสกว่าทุกวัน “พี่ปลาๆ ผมเดินในสวนเห็นต้นไม้หลังบ้านตรงนั้นมีลูกเต็มเลยผมอยากลองชิมครับ” ไม่รู้หรอกว่าต้นอะไรแต่เห็นลูกของมันแล้วก็รู้สึกน้ำลายไหลขึ้นมาซะอย่างนั้น“หูยยยย คุณจอมทานไม่ได้หรอกค่ะ มันเปรี้ยวววเข็ดฟันเลยนะคะ เดี๋ยวพี่ปลาไปหาดูผลไม้อย่างอื่นมาให้ดีกว่าค่ะ “มันคือมะยมไม่รู้เกิดมาเขาจะเคยกินไหมและก็คิดว่าคนอย่างเขาน่าจะไม่ชอบแน่นอน มะยมเนี่ยนะ เห็นปกติทานแต่ผลไม้นำเข้า กับเหล้ากับเบียร์ นี่จะมาอารมณ์ไหนกันแน่ นับวันเจ้านายของเธอยิ่งเพี้ยนขึ้นทุกที เมียทิ้งนี่ทำให้คนเสียสูญไปได้ไม่น้อยเลยนะะเพิ่งเคยเจอก็วันนี้แหละ “ทานมื้อเช้าก่อนนะคะ ข้าวต้มปลากระพงค่ะ เดี๋ยวพี่ปลาไปเอาผลไม้มาให้นะคะ” จอมทัพยื่นหน้าไปดมกลิ่นข้าวต้มแล้วก็รู้สึกจะอ้วกขึ้นมาทันทีแล้วก็คิดขึ้นมาได้..รีบหยิบชุดนอนของอรฤดีขึ้นมาดมอาการคลื่นไส้ก็ทุเลาลงแล้วตักข้าวต้มเข้าปาก จะอ้วกอีกก็ทำแบบเดิมอยู่อย่างนั้นจนพี่ปลาที่ถือจานสตอเบอร์รี่มาเห็นชะงักไปอีกที.. ไม่ปกติ เจ้านายของเขาไม่ปกติแล้ว..“มาแล้วค่ะ ผลไม้
“พ่อกับแม่ล่ะครับพี่ปลา” จอมทัพเอ่ยถามขึ้นเมื่อเดินเข้ามาในบ้านแล้วก็มีเพียงความเงียบงันไร้ซึ่งเสียงของแม่เขาที่มักจะดังลงมาถึงชั้นล่างเวลาที่ดูรายการตลกชื่อดังช่องหนึ่ง “คุณๆ ทั้งสองไม่อยู่บ้านค่ะ แต่ไม่ได้แจ้งไว้ว่าจะไปที่ไหนค่ะกลับเมื่อไหร่ค่ะ” ชายหนุ่มกวาดสายตามองบ้านที่ว่างเปล่าและเงียบเหงานี้ด้วยหัวใจที่มันห่อเหี่ยวเหมือนขาดอะไรบางอย่างไป ก่อนจะเดินขึ้นห้องของตัวเองบนชั้นสอง ความเหงาและความว่างเปล่าที่มันรู้สึกได้ว่าไม่เหลือใครสักคนเลยจริงๆ โดยเฉพาะสายตาของพ่อเขาที่แม้ปกติจะไม่ค่อยพูดอะไรมากมายและเป็นคนตลกใจดีแต่ตอนนี้สายตาของพ่อเขาที่มองมามันช่างเย็นชาเหลือเกิน ยิ่งแม่เขาที่เสียน้ำตาออกมาด้วยความเสียใจนี่เป็นครั้งแรกที่เขาทำให้แม่ร้องไห้ออกมาแบบนั้นมันคือคำตอบว่าเขาเป็นคนที่เลว เป็นคนที่ใช้ไม่ได้เอาเสียเลย เมื่อเปิดโทรศัพท์มือถือก็เจอรูปของลูกปัดคนที่เราเคยรักและตั้งใจจะใช้ชีวิตร่วมกับเธอไปจนวันสุดท้าย…แต่เธอกลับโกหกหลอกลวงเขาตลอดเวลา คำพูดที่แสนหวานของเธอมันไม่มีคำไหนที่เป็นเรื่องจริงเลย.. สาเหตุที่ครอบครัวของเธอไม่ค่อยจะชอบลูกปัดสักเท่าไหร่นักนั่นก็เพราะว่าเรื่องเมื่อหล