การกระทำดูแลเอาใจใส่ของเขาการเป็นกิจวัตรประจําวันที่ไม่ว่าจะเป็นเธอและเขาต่างคุ้นชินแม้ดูเหมือนจะหมางเมินอยู่บ้างเป็นครั้งคราว แต่เขาก็ยังตีหน้ามึนไปเรื่อยๆ ไม่สนใจและยังมีป้าพันคอยเป็นกำลังใจสำคัญคอยช่วยเหลือทำให้ทุกอย่างดูราบรื่นไปได้ด้วยดีขึ้นทุกวันๆ แม้เขาจะยังคงได้นอนที่ห้องเก็บของหลังบ้านเหมือนเดิม …
“เห้ยบ้านนี้แหละมีแต่ผู้หญิงกับคนแก่ ป่านนี้คนงานกลับไปหมดแล้วทางสะดวกเว้ย”
เด็กแว้นสองคนที่ต้องการเงินคอยซุ่มดูอยู่หลายวันตั้งใจจะเข้ามาขโมยเงินหรือของมีค่าเอาไปใช้กินใช้เที่ยว หลังจากที่ดูลาดเลามานานพอสมควรวันนี้ก็ตัดสินใจลงมือ..
“แล้วถ้ามีคนขัดขืนจะให้ทำยังไงวะ”
“ก็ตบให้กลิ้งไปดิ่วะ ให้มันรู้ซะบ้างแต่พวกมันคงไม่กล้าหรอกมีแต่ผู้หญิงท้องกับคนแก่นี่หว่า”
“อีคนท้องเป็นเจ้าของบ้านห้องมันน่าจะมีเงินเก็บไว้ แอบเข้าไปให้เงียบๆ อย่าให้อีแก่นั่นรู้จะได้จบงานไวๆ เข้าใจไหม”
“เออๆ รู้แล้วน่า มึงนั่นแหละอย่าพลั้งมือทำให้เป็นเรื่องใหญ่ก็แล้วกัน”
“พูดมา! ไปได้แแล้วๆ”
เมื่อตกลงกันได้ บอกแผนการกันเสร็จสรรพแจ็กและเจก็ค่อยๆ ย่องเข้าไปในบ้านและเดินเลาะไปยังห้องที่คิดว่าเป็นห้องของอรฤดี
แกร่ก..แกร่ก กึก กึก กึก “ใคร ใครน่ะ!”
เสียงพยายามงัดประตูดังขึ้นผิดสังเกตทำเอาคนท้องที่นอนไม่ค่อยสบายตัวตื่นขึ้นมาในทันที
“ป้าพัน แหนม มีใครอยู่ข้างนอกไหม ป้าพัน”
เมื่อรู้สึกถึงความไม่ปกติอรฤดีก็ตะโกนเรียกเสียงดังในทันทีพร้อมกับพยายามดันตัวเองลุกขึ้นช้าๆ ไปด้วย
“เห้ยมันตื่นแล้วโว้ยเร็วๆ สิ”
“เอองั้นก็เข้าไปเลยไม่ต้องสนใจเหี้ยอะไรแล้วแค่คนท้อง”
“กรี้ดดดดโจรรรร! ช่วยด้วยยโรจเข้าบ้านนน!”
“หุบปากนะมึงอีนี่เดี๋ยวกูตบปากเลยแม่งเอาเงินมา!”
เจที่ปีนหน้าต่างเข้ามาได้ก่อนก็เดินตรงปรี่ไปหาอรฤดีแล้วง้างมือทำท่าจะตบเธอเพื่อขู่ให้เธอหยุดร้อง
“เงินอยู่ไหนมึงซ่อนเงินไว้ที่ไหนถ้าไม่อยากเจ็บตัวเอาเงินมาเดี๋ยวนี้!”
อรฤดีพยายามมองออกไปข้างนอกว่ามีใครได้ยินเสียงเธอไหมแต่ก็ไม่มีใครเข้ามาเลย แล้วผู้ชายคนนั้นล่ะคนที่บอกว่าจะดูแลเธอ ..
!กูบอกให้เอาเงินมาไงอีฉิบหายเดี๋ยวกูตบให้ลูกไหลแม่งเลย!”
“ผลั๊วะ! ผลั๊วะ! เห้ยไอ้เจ!”
เสียงจอมทัพใช้ไม้หน้าสามฟาดเด็กคนหนึ่งเข้าอย่างจังจนล้มลงไปกองกับพื้น แจ็กที่กำลังง้างมือจะตบอรฤดีก็หันกลับมาด้วยความตกใจไม่คิดว่าจะมีใครเข้าขัดขวางแบบนี้
“กรี้ดดดด! คุนอรขาป้ามาช้วยแล้วค่ะ!”
ป้าพันเปิดไฟให้สว่างแล้วคว้าไม้ไว้ในมือ
“ผลั๊วะ ๆ ๆ”
ตอนนี้แจ็กวิ่งเข้าใส่จอมทัพอย่างไม่กลัวไม้ในมือเขาเลยสักนิดเพราะมั่นใจในฝีมือที่เคยฝึกเรียนต่อยมวยมาบ้าง
“มาค่ะมาหาป้าค่ะ!”
ป้าพันรีบวิ่งเข้าไปกอดอรฤดีเอาไว้แล้วพาเธอออกไปจากห้องนั้นทันที
“มึงทำน้องกูไอ้เหี้ย! ผลั๊วะ! ๆ”
“ตุบ ตับ ผลั๊วะๆ โครมคราม”
เสียงทั้งสองต่อสู้กันไม่มีใครยอมใครต่างคนต่างเจ็บตัวเมื่อหันไปมองดูว่าอรฤดีออกไปจากห้องแล้วจอมทัพก็ไม่ห่วงอะไรอีกแล้ว
แต่ไม่นานเสียงรถตำรวจที่เขาสั่งให้ป้าพันโทรไปแจ้งก่อนจะเข้ามาช่วยอรฤดีก็มาถึงทำให้ทั้งสองคนพี่น้องรีบวิ่งหนีเอาตัวรอดไปคนละทิศละทางแต่ก็ไม่รอด
จอมทัพทิ้งตัวลงนอนแผ่หลาเลือดไหลเต็มหน้าและหัวหลายจุดข้าวของในห้องแตกพังกระจัดกระจายไปหลายอย่าง
“คุณๆ คุณเป็นยังไงบ้าง คุณ..”
อนรฤดีรีบวิ่งเข้ามาหาคนที่เจ็บหนักสุดด้วยความกลัว ภาพในวันวานกลับมาทับซ้อนกันอีกครั้ง..
ในวันที่เขาเคยช่วยเธอจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด โดยไม่ห่วงตัวเองเลย.. .”ฮึก ๆ คุณตอบชั้นสิคุณ ..”
เจ้าของใบหน้าสวยสะอื้นร้องไห้ออกมาในทันทีเมื่อร้องเรียกเท่าไหร่เขาก็ไม่ตอบแถมเลือดที่หัวก็ยังไหลออกมาเต็มไปหมด
“คุณกับลูกปลอดภัยดีใช่ไหม”
เขาปรือตามามองเธอที่ดูเหมือนจะเริ่มพร่าเลือนไปทุกที .. เห้อเจ็บตัวอีกแล้วตั้งแต่ครั้งนั้นรู้งี้ไปฝึกชกมวยไว้ซะก็ดี … ได้แต่คิดในใจจริงๆ ไม่ได้เป็นอะไรมากหรอกแค่แผลหัวแตก หน้าแหกนิดหน่อยแต่มันทั้งเจ็บทั้งเหนื่อยจนไม่มีแรงจะลุกขึ้นแล้ว ทำงานในไร่มาทั้งวันเหนื่อยจะตายอยู่แล้ว ..
“ชั้นไม่เป็นไร ชั้นไม่เป็นไรเลย”
เมื่อได้ยินแบบนั้นก็สบายใจแล้วก็หลับตาลงไม่ไหวแล้วคงต้องขอพักก่อน แต่คนที่ไม่รู้นี่สิ กลัวจนร้องไห้ไม่หยุด..
“คุณ คุณตื่นก่อนคุณณณ”
“หมอกำลังมาแล้วค่ะคุณอร”
“แม่..”
หมอปราบมาถึงก็ตกใจกับภาพตรงหน้ามากอรฤดีเองก็ดูไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่
“แม่พาอรไปนั่งก่อนครับ
ด้วยความกลัวเธอร้องไห้จนเป็นลมไปแล้ว แหนมออกไปคุยกับตำรวจอยู่ที่ข้างนอกเมื่อเสร็จำตำรวจเอาตัวไปแล้วก็รีบเข้ามาช่วยดูแลข้างใน
ทุกอย่างดูวุ่นวายยุ่งเหยิงไปหมดกว่าจะทำแผลกว่าจะจัดการทุกอย่างเรียบร้อยก็ปาไปหลายชั่วโมง
“สบายใจได้แล้วนะครับ พี่ทำแผลให้หมดแล้วให้ยาแก้ปวดไปด้วยน่าจะหลับยาวเลย เราก็พักผ่อนนะ”
หมอปราบจัดเตรียมทุกอย่างให้เข้าที่รอบเตียงคนที่เจ็บที่นอนหลับไม่ได้สติเรียบร้อยก็มานั่งลงข้างๆ อรฤดีที่เอาแต่จ้องมองคนบนเตียงไม่ละสายตา
“ขอบคุณมากนะคะพี่หมอ ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ เค้าจะไม่เป็นอะไรไปใช่ไหมคะ”
เธอหันมาถามหมอปราบน้ำตาคลอน่าสงสาร
“ไม่หรอก เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ตื่นมาวิ่งได้แล้วเชื่อพี่สิ”
“อรเชื่อพี่หมอค่ะ”
เธอค่อยๆ ลุกข้นไปนั่งลงที่ข้างเตียงเขาแล้วกุมจับมือของเขาไว้ไม่ปล่อยเมื่อเห็นอย่างนั้นทุกคนก็พากันออกไปให้เธอได้ใช้เวลากันเพียงลำพัง
“เราก็ต้องพักผ่อนมากๆ นะ ถ้าเป็นอะไรไปอีกคนจะแย่เอาเข้าใจไหม”
คำพูดทิ้งท้ายจากหมอปราบก่อนจะเดินพ้นประตูห้องไปด้วยความรู้สึกแปลกๆ บางอย่างที่ไม่อาจจะพูดออกไปได้ ..
“ค่ะพี่หมอ อรขอนั่งอยู่อีกแปปเดียวค่ะ”
เมื่อเสร็จเรื่องในบ้านแล้วหมอปราบก็ขับรถออกไปที่โรงพักทันทีเด็กเปรตพวกนี้ปล่อยเอาไว้ไม่ได้ต้องสั่งสอนกันหน่อย..
“เดี๋ยวป้าเฝ้าคุณผู้ชายให้เองค่ะ คุณอรไปนอนพักผ่อนเถอะนะคะ”
ป้าพันพูดเบาๆ เพราะไม่อยากจะให้ดังรบกวนคนป่วยมากนัก
อรฤดีส่ายหัวเบาๆ น้ำตาใสๆ ค่อยๆ ไหลเอ่อออกมามือก็กำจับมือของอีกคนเอาไว้แน่น
“อรกลัวค่ะ กลัวว่าเขาจะไปจากอรจริงๆ “
“คุณอรขา..ป้าขอพูดอะไรหน่อยนะคะ อย่าหาว่าป้าสอนเลย ดูสิคะคนเราจะตายจากกันตอนไหนยังไม่รู้เลยค่ะ ทุกอย่างมันเกิดขึ้นไวมากไม่มีเวลาให้เราเตรียมตัวหรอกนะคะ ถ้าวันนี้โชคไม่ดีคุณอรจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิตเลยนะคะ แล้วทำไมตอนที่ยังมีเวลาเราถึงไม่ทำดีกันไว้ล่ะคะ หนักนิดเบาหน่อยก็อภัยให้กันเถอะค่ะ ชีวิตคู่ใครๆ ก็ต้องเจอเรื่องขัดอกขัดใจด้วยกันทั้งนั้นถ้ามัวแต่ไปเสียเวลาตรงนั้นแล้วเวลาดีๆ ที่จะเกิดขึ้นล่ะคะ.. ถ้ายังรักยังต้องการกัน.. อภัยให้กันเถอะค่ะ”
อรฤดีปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อายอีกต่อไปแล้วโผเข้ากอดป้าพันไว้แน่นเพราะเธอแท้ๆ จนทุกอย่างเกือบจะสายไปแล้ว
ป้าพันลูบหัวทุยของเธอเบาๆ ด้วยความรักและเอ็นดูก่อนจะจัดที่นอนให้เธอได้นอนเฝ้าอยู่ใกล้ๆ เขาอย่างที่ต้องการ
เช้าวันต่อมา เมื่อแสงสว่างรอดผ่านหน้าต่างเข้ามาได้อรฤดีก็รีบตื่นมาดูแลเช็ดตัวให้คนที่ยังคงหลับอยู่ในทันที “แผลเต็มหน้าเลย คงจะเจ็บน่าดูเลยนะคะ”แหนมที่เปิดผ้าม่านชะโงกหน้ามาดูแล้วพูดออกมาด้วยความกลัว เกิดมาเพิ่มเคยเจอเรื่องแบบนี้แต่ก็ยิ่งปลื้มชายหนุ่มไปอีกเมื่อเขาพยายามปกป้องคนที่เขารักไว้โดยไม่ห่วงชีวิตของตัวเองเลย“ผมขอโทษ… ผม ผมขอโทษ” เสียงละเมอเบาๆ ดังขึ้นทั้งที่เจ้าตัวยังคงหลับอยู่ แต่คนที่เฝ้ารอการตื่นของอย่างใจจดใจจ่อนั้นกลับได้ยินมันอย่างชัดเจน .. หัวใจของเธอชาวาบไปทั้งตัวมันเหมือนความกลัวและความกังวลทั้งหมดสลายหายไปเมื่อได้ยินเสียงที่ออกจากปากของเขาแม้จะยังไม่ตื่นขึ้นมาก็ตาม..“ถ้ายังมัวนอนอยู่แบบนี้ชั้นจะไม่ยกโทษให้แล้วนะ ลูกหิวจะแย่แล้วเมื่อไหร่จะตื่นมาทำกับข้าวให้ลูกกิน.. ผ้าเต็มตะกร้าแล้วใครจะซัก คนงานก็ลาใครจะรดน้ำต้นไม้มัวนอนอยู่ได้ ..” “โอ้โหคุณอร เอาจริงเหรอคะ ..” แหนมขมวดคิ้วรีบหันขวับไปมองเจ้านายตนเองในทันทีเมื่อได้ยินอย่างนั้น อันนี้คือคุณอรให้อภัยจริงๆ แล้วใช่เปล่าหรือต้องการคนมาใช้แรงงานกันแน่ “ถ้าคุณให้อภัยผมให้ทำมากกว่านี้ผมก็ยอม” จอมทัพค่อยๆ ลืมตาขึ้
การกระทำดูแลเอาใจใส่ของเขาการเป็นกิจวัตรประจําวันที่ไม่ว่าจะเป็นเธอและเขาต่างคุ้นชินแม้ดูเหมือนจะหมางเมินอยู่บ้างเป็นครั้งคราว แต่เขาก็ยังตีหน้ามึนไปเรื่อยๆ ไม่สนใจและยังมีป้าพันคอยเป็นกำลังใจสำคัญคอยช่วยเหลือทำให้ทุกอย่างดูราบรื่นไปได้ด้วยดีขึ้นทุกวันๆ แม้เขาจะยังคงได้นอนที่ห้องเก็บของหลังบ้านเหมือนเดิม … “เห้ยบ้านนี้แหละมีแต่ผู้หญิงกับคนแก่ ป่านนี้คนงานกลับไปหมดแล้วทางสะดวกเว้ย” เด็กแว้นสองคนที่ต้องการเงินคอยซุ่มดูอยู่หลายวันตั้งใจจะเข้ามาขโมยเงินหรือของมีค่าเอาไปใช้กินใช้เที่ยว หลังจากที่ดูลาดเลามานานพอสมควรวันนี้ก็ตัดสินใจลงมือ.. “แล้วถ้ามีคนขัดขืนจะให้ทำยังไงวะ” “ก็ตบให้กลิ้งไปดิ่วะ ให้มันรู้ซะบ้างแต่พวกมันคงไม่กล้าหรอกมีแต่ผู้หญิงท้องกับคนแก่นี่หว่า” “อีคนท้องเป็นเจ้าของบ้านห้องมันน่าจะมีเงินเก็บไว้ แอบเข้าไปให้เงียบๆ อย่าให้อีแก่นั่นรู้จะได้จบงานไวๆ เข้าใจไหม” “เออๆ รู้แล้วน่า มึงนั่นแหละอย่าพลั้งมือทำให้เป็นเรื่องใหญ่ก็แล้วกัน”“พูดมา! ไปได้แแล้วๆ”เมื่อตกลงกันได้ บอกแผนการกันเสร็จสรรพแจ็กและเจก็ค่อยๆ ย่องเข้าไปในบ้านและเดินเลาะไปยังห้องที่คิดว่าเป็นห้องของอรฤดี แกร่ก..
“นังแหนมรีบมาทำความสะอาดให้คุณเขาเร็ว”ป้าพันรีบบอกให้แหนมมาทำความสะอาดเมื่อชายหนุ่มรับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะ “นั่งรออยู่ตรงนี้ก่อนะคะเดี๋ยวป้าไปเอาน้ำเย็นๆ มาให้ดื่มค่ะ” “ขอบคุณมากครับ”แหนมรีบทำความสะอาดอย่างรวดเร็วตามที่เธอถนัดป้าพันเองก็เดินเข้าบ้านไปเตรียมน้ำเตรียมของว่างมาให้ชายหนุ่มจอมทัพเดินดูในสวนไปรอบๆ บริเวณเรื่อยๆ ทอดมองออกไปไกลสุดลูกหูลูกตาพร้อมกับลมเย็นๆ ที่พัดเอื่อยๆ ปะทะหน้าเขาเป็นระยะๆ มันทำให้รู้สึกเหมือนหลุดมาอีกโลกหนึ่งที่ปราศจากความวุ่นวายใดๆ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเธอถึงเลือกมาอยู่ในที่แบบนี้ “ห้องพร้อมแล้วค่ะคุณผู้ชาย” “ขอบใจนะ” แหนมวิ่งมาบอกแล้วก็รีบวิ่งหนีไปเพราะทนมองหน้าเขานานๆ ไม่ได้มันเขินจนพูดผิดพูดถูกไปหมดดาเมจคนหล่อมันรุนแรงเกินไปสำหรับเธอเมื่อยามค่ำคืนมาถึงชายหนุ่มล้มตัวลงนอนด้วยความอิ่มอกอิ่มใจเพียงแค่ได้เห็นหน้าเธอเขาก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว ยิ่งได้เห็นท้องที่นูนขึ้นมาแตกต่างจากเดิมนั้นก็ยิ่งทำให้เขาตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูกต่อให้นอนกับพื้นดินเขาก็มีความสุขที่ได้อยู่ใกล้ลูกใกล้เมียแบบนี้ นอนคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยแล้วก็หลับไปจากความเหนื่อยล้าที่สะสมมาทั้ง
“อรเดี๋ยววันนี้พ่อแม่ว่าจะออกไปในเมืองหน่อยนะลูกน่าจะกลับดึกพักผ่อนให้มากๆ ไม่ต้องรอนะ ให้หลานแม่พักผ่อนมากๆ เข้าใจไหม”“ค่ะคุณแม่เที่ยวให้สนุกนะคะ” สิริวดีและทัศนีย์เดินมาบอกอรฤดีที่กำลังอ่านหนังสือเกี่ยวกับการเลี้ยงเด็กอยู่ในห้องหนังสือจริงๆ แล้วก็ต้องการเปิดโอกาสให้ทั้งสองคนได้ปรับความเข้าใจกันนั่นเอง แล้วบรรดาคนแก่ชอบเที่ยวก็พากันออกไปพร้อมกับรถตู้คู่ใจสวนกับจอมทัพที่หน้าบ้านแต่ก็ไม่ได้ทักทายอะไร ตอนนี้หัวใจเขาอยู่กับหญิงสาวที่ขโมยมันไปตั้งแต่เมื่อไหล่ก็ไม่รู้ รู้ตัวอีกทีเขาก็เอาแต่คิดถึงเธออยู่ตลอดเวลาอย่างนี้ “เห้ยย.. จิ๊ ลืมได้ไงวะ”เขาสบถออกมาเมื่อควานมือหาชุดนอนของเมียที่ต้องเอาไว้ดมเพื่อเติมพลังชีวิตแล้วไม่เจอ ตายแน่ๆ ถ้าไม่มีชุดนอนเธอเอาไว้ดมมีหวังเขาได้อ้วกแตกกินอะไรไม่ได้อีกแน่ๆ ถึงจะดูเหมือนคนโรคจิตก็เถอะแต่มันช่วยได้จริงๆ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อเลยแค่คิดว่าลืมเอาติดมาด้วยก็รู้สึกพะอืดพะอมขึ้นมาทันที นี่มันอะไรกันวะเนี่ย… “มาหาใครเหรอคะ”แหนมรีบวิ่งออกไปรับแขกเมื่อเห็นชายหนุ่มหน้าตาไม่คุ้นเดินลงจากรถมา “อรอยู่หรือเปล่า ผมมาหาอรไปบอกเธอที”“ได้ค่ะ รอสักครู่นะคะ” แหนมเ
วันต่อมา “หน้าตาสดชื่นขึ้นนะคะวันนี้ “พี่ปลาเอ่ยทักเมื่อเห็นจอมทัพเดินมานั่งที่โต๊ะอาหารด้วยใบหน้าแจ่มใสกว่าทุกวัน “พี่ปลาๆ ผมเดินในสวนเห็นต้นไม้หลังบ้านตรงนั้นมีลูกเต็มเลยผมอยากลองชิมครับ” ไม่รู้หรอกว่าต้นอะไรแต่เห็นลูกของมันแล้วก็รู้สึกน้ำลายไหลขึ้นมาซะอย่างนั้น“หูยยยย คุณจอมทานไม่ได้หรอกค่ะ มันเปรี้ยวววเข็ดฟันเลยนะคะ เดี๋ยวพี่ปลาไปหาดูผลไม้อย่างอื่นมาให้ดีกว่าค่ะ “มันคือมะยมไม่รู้เกิดมาเขาจะเคยกินไหมและก็คิดว่าคนอย่างเขาน่าจะไม่ชอบแน่นอน มะยมเนี่ยนะ เห็นปกติทานแต่ผลไม้นำเข้า กับเหล้ากับเบียร์ นี่จะมาอารมณ์ไหนกันแน่ นับวันเจ้านายของเธอยิ่งเพี้ยนขึ้นทุกที เมียทิ้งนี่ทำให้คนเสียสูญไปได้ไม่น้อยเลยนะะเพิ่งเคยเจอก็วันนี้แหละ “ทานมื้อเช้าก่อนนะคะ ข้าวต้มปลากระพงค่ะ เดี๋ยวพี่ปลาไปเอาผลไม้มาให้นะคะ” จอมทัพยื่นหน้าไปดมกลิ่นข้าวต้มแล้วก็รู้สึกจะอ้วกขึ้นมาทันทีแล้วก็คิดขึ้นมาได้..รีบหยิบชุดนอนของอรฤดีขึ้นมาดมอาการคลื่นไส้ก็ทุเลาลงแล้วตักข้าวต้มเข้าปาก จะอ้วกอีกก็ทำแบบเดิมอยู่อย่างนั้นจนพี่ปลาที่ถือจานสตอเบอร์รี่มาเห็นชะงักไปอีกที.. ไม่ปกติ เจ้านายของเขาไม่ปกติแล้ว..“มาแล้วค่ะ ผลไม้
“พ่อกับแม่ล่ะครับพี่ปลา” จอมทัพเอ่ยถามขึ้นเมื่อเดินเข้ามาในบ้านแล้วก็มีเพียงความเงียบงันไร้ซึ่งเสียงของแม่เขาที่มักจะดังลงมาถึงชั้นล่างเวลาที่ดูรายการตลกชื่อดังช่องหนึ่ง “คุณๆ ทั้งสองไม่อยู่บ้านค่ะ แต่ไม่ได้แจ้งไว้ว่าจะไปที่ไหนค่ะกลับเมื่อไหร่ค่ะ” ชายหนุ่มกวาดสายตามองบ้านที่ว่างเปล่าและเงียบเหงานี้ด้วยหัวใจที่มันห่อเหี่ยวเหมือนขาดอะไรบางอย่างไป ก่อนจะเดินขึ้นห้องของตัวเองบนชั้นสอง ความเหงาและความว่างเปล่าที่มันรู้สึกได้ว่าไม่เหลือใครสักคนเลยจริงๆ โดยเฉพาะสายตาของพ่อเขาที่แม้ปกติจะไม่ค่อยพูดอะไรมากมายและเป็นคนตลกใจดีแต่ตอนนี้สายตาของพ่อเขาที่มองมามันช่างเย็นชาเหลือเกิน ยิ่งแม่เขาที่เสียน้ำตาออกมาด้วยความเสียใจนี่เป็นครั้งแรกที่เขาทำให้แม่ร้องไห้ออกมาแบบนั้นมันคือคำตอบว่าเขาเป็นคนที่เลว เป็นคนที่ใช้ไม่ได้เอาเสียเลย เมื่อเปิดโทรศัพท์มือถือก็เจอรูปของลูกปัดคนที่เราเคยรักและตั้งใจจะใช้ชีวิตร่วมกับเธอไปจนวันสุดท้าย…แต่เธอกลับโกหกหลอกลวงเขาตลอดเวลา คำพูดที่แสนหวานของเธอมันไม่มีคำไหนที่เป็นเรื่องจริงเลย.. สาเหตุที่ครอบครัวของเธอไม่ค่อยจะชอบลูกปัดสักเท่าไหร่นักนั่นก็เพราะว่าเรื่องเมื่อหล