“พ่อกับแม่ล่ะครับพี่ปลา”
จอมทัพเอ่ยถามขึ้นเมื่อเดินเข้ามาในบ้านแล้วก็มีเพียงความเงียบงันไร้ซึ่งเสียงของแม่เขาที่มักจะดังลงมาถึงชั้นล่างเวลาที่ดูรายการตลกชื่อดังช่องหนึ่ง
“คุณๆ ทั้งสองไม่อยู่บ้านค่ะ แต่ไม่ได้แจ้งไว้ว่าจะไปที่ไหนค่ะกลับเมื่อไหร่ค่ะ”
ชายหนุ่มกวาดสายตามองบ้านที่ว่างเปล่าและเงียบเหงานี้ด้วยหัวใจที่มันห่อเหี่ยวเหมือนขาดอะไรบางอย่างไป ก่อนจะเดินขึ้นห้องของตัวเองบนชั้นสอง
ความเหงาและความว่างเปล่าที่มันรู้สึกได้ว่าไม่เหลือใครสักคนเลยจริงๆ โดยเฉพาะสายตาของพ่อเขาที่แม้ปกติจะไม่ค่อยพูดอะไรมากมายและเป็นคนตลกใจดีแต่ตอนนี้สายตาของพ่อเขาที่มองมามันช่างเย็นชาเหลือเกิน ยิ่งแม่เขาที่เสียน้ำตาออกมาด้วยความเสียใจนี่เป็นครั้งแรกที่เขาทำให้แม่ร้องไห้ออกมาแบบนั้นมันคือคำตอบว่าเขาเป็นคนที่เลว เป็นคนที่ใช้ไม่ได้เอาเสียเลย
เมื่อเปิดโทรศัพท์มือถือก็เจอรูปของลูกปัดคนที่เราเคยรักและตั้งใจจะใช้ชีวิตร่วมกับเธอไปจนวันสุดท้าย…แต่เธอกลับโกหกหลอกลวงเขาตลอดเวลา คำพูดที่แสนหวานของเธอมันไม่มีคำไหนที่เป็นเรื่องจริงเลย..
สาเหตุที่ครอบครัวของเธอไม่ค่อยจะชอบลูกปัดสักเท่าไหร่นักนั่นก็เพราะว่าเรื่องเมื่อหลายปีก่อน เป็นช่วงที่เขาไปเรียนเมืองนอกได้ไม่นาน และได้เจอกับเธอ โดยที่เธอนั้นมีคู่หมั้นอยู่แล้วก็คือดนัยนั่นเอง
แต่ด้วยความที่จอมทัพไม่รู้ว่าเธอมีคู่หมั้น และลูกปัดที่เห็นจอมทัพแล้วก็ตกหลุมรักตั้งแต่แรกพบเช่นกันเธอจึงปิดบังเรื่องที่มีคู่หมั้นเอาไว้ เพราะทั้งสองคนก็ไม่ได้อยู่ด้วยกัน ไม่ได้เรียนด้วยกัน
แล้ววันที่ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนกำลังไปได้ด้วยดี ลูกปัดก็ท้องขึ้นมา ซึ้งจอมทัพค่อนข้างตกใจเพราะเขาป้องกันตลอดมีข้อสงสัยหลายอย่างจนเรื่องถึงหูผู้ใหญ่ เธอใช้การตั้งท้องมาใช้เป็นข้อได้เปรียบในการต่อรองต่างๆ แต่แม่ของจอมทัพให้คนไปสืบเรื่องราวครอบครัวเธอจึงได้รู้ว่าเธอมีคู่หมั้นอยู่แล้วและติดต่อกันอยู่ตลอดเวลาและคาดว่าเด็กในท้องก็เป็นลูกของเธอกับคู่หมั้น ไม่ใช่ลูกของจอมทัพ
เมื่อแม่ของจอมทัพจะเปิดเผยเรื่องที่เธอโกหกเธอก็ทำแท้งในทันทีและบอกว่าเป็นอุบัติเหตุทำให้จอมทัพรู้สึกผิดมากกับเรื่องที่เกิดขึ้น
ถึงแม้แม่ของจอมทัพจะบอกความจริงแล้วแต่เขาก็ยังตัดใจไม่ได้เพราะรักลูกปัดมากเธอสัญญาว่าจะไม่ทำแบบนั้นอีก พร้อมจะอยู่เคียงข้างเขาตลอดไปด้วยความรักเขาจึงมองข้ามเรื่องเหล่านั้นไปได้อย่างง่ายดาย
โดยไม่รู้เลยว่าลูกปัดไม่เคยห่างหายการติดต่อไปจากดนัยเลย จนได้มาเจอกันกับอรฤดีถึงจุดเริ่มต้นของเขาและเธอจะไม่ได้สวยงามราบรื่นเท่าไรนัก
แต่การได้มีเธออยู่ข้างๆ มันทำให้เขาได้เห็นบางสิ่งบางอย่าง ความสบายใจแบบที่เขาไม่เคยได้ใครมาก่อน รอยยิ้มที่หลายๆ ครั้งเขาก็ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเขาเผลอยิ้มออมาตั้งแต่เมื่อไหร่เมื่อเธออยู่ตรงหน้าเขา
เขาไม่เคยคิดที่จะอยากทำอะไรเพื่อเธอเลยสักนิดแต่รู้ตัวอีกทีสิ่งที่เธอชอบก็ถูกสร้างขึ้นด้วยมือของเขา รอยยิ้มของเธอที่เขาอยากจะเห็นและรักษามันไว้ … แต่เขากลับทำลายมันให้พังลงไปกับมือ
เขาทำให้เธอเจ็บปวด แววตาที่เธอมองเขามันเต็มไปด้วยความเกลียดชังมันทำให้รู้ได้ชัดเจนเลยว่าสิ่งนี้คือความเสียใจจริงๆ มันคือความเจ็บปวดที่ทรมานเสียจนไม่รู้เลยว่าชีวิตนี้จะต้องก้าวเดินไปทางไหนต่อ
ภาพรอยยิ้มและร้องไห้ของเธอมันคอยตามหลอกหลอนเขาแม้แต่ตอนหลับฝัน เสียงสะอื้นที่เขาไม่แม้จะสนใจฟังตอนนี้มันดังก้องชัดเจนจนเขาเผลอปาดน้ำตาตัวเองไปหลายครั้ง…
“ผมขอโทษ … ผมขอโทษ”
เสียงพูดแผ่วเบาดังจนแทบไม่ได้ยินจากปากคนที่ละเมอเพ้อออกมาเมื่อผล็อยหลับไปจากความเครียดและเพลียจากการคิดมาก .. แต่ใครเลยจะได้ยิน
หลายต่อหลายวันผ่านไปที่บ้านของเขาก็ยังเงียบเหงาอยู่เหมือนเคยพ่อแม่ของเขาไม่ค่อยจะอยู่บ้านเอาเสียเลย กลับมาก็แค่วันสองวันแล้วก็หายไปอีกเป็นแบบนั้นเสมอๆ
“อ้าวลงมาแล้วเหรอคะคุณจอมวันนี้มีสเต็กที่คุณจอมชอบด้วยนะคะ พี่ปลาตั้งใจทำสุดฝือมือเลยค่ะ”
“ดีเลยกำลังอยากทานอยู่พอดีเลยครับ”
จอมเดินมานั่งประจำที่ของตัวเองและก็มองหาพ่อกับแม่ของตนด้วยความเคยชินถึงจะไม่มีใครเลยก็ตาม
“อึก..อุบ อ้วกกกก อ้วกกกก”
“ว้ายยย เป็นอะไรไปคะคุณจอม ไม่สบายหรือเปล่าคะ”
“พี่ปลาทำอะไรมาครับ อุกก..อ้วกกกก เหม็นมากเลยครับแค่กๆ”
เพียงแค่พี่ปลายกจานสเต็กมาวางชายหนุ่มก็อ้วกพุ่งออกมาทันทีทำเอาพี่ปลาตกอกตกใจไปหมด ดูเหมือนว่าช่วงนี้เจ้านายของเธอจะเครียดมากจริงๆ ถ้าขืนเป็นแบบนี้ต่อไปมีหวังเสียสุขภาพแน่ๆ
“ถ้างั้นพี่ปลาจะไปตักข้าวต้มมาให้นะคะ”
จอมทัพบ้วนปาก ล้างมือเสร็จก็มานั่งที่เดิมให้ตายเถอะข้าวเช้าก็ยังไม่ได้กินแล้วยังมาอ้วกออกหมดไส้หมดพุงแบบนี้อีกทรมานสุดๆ ไปเลย
นั่งคิดอะไรเพลินไปได้ไม่นานพี่ปลาก็ยกถ้วยข้าวต้มมาวางกลิ่นหอมๆ ที่ชายหนุ่มได้กลิ่นเข้าไปแล้วก็
“อ้วกกกกแค่กๆ อุก อ้วกกกก”
“ว้ายยคุณจอมมมม”
ชายหนุ่มวิ่งอ้วกจนหมดเรี่ยวแรงจนต้องคลานออกจากห้องน้ำมานอนซมอยู่บนโซฟา
พี่ปลารีบไปเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดเหงื่อเช็ดหน้าเพิ่มความสดชื่นให้ชายหนุ่มพร้อมกับเกลือแร่แก้วโต
“เหมือนจะตายเลย เกิดมาไม่เคยเป็นอะไรแบบนี้มาก่อนสงสัยจะเครียดมากไปหลายวันมานี้เอาแต่คิดเรื่องเดิมๆ วนไปวนมาเครียดลงกระเพราะหรือเปล่านะเรา”
นอนคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยแล้วก็หันไปหยิบแก้วเกลือแร่มาดื่มแต่ก็สะดุดตากับถุงกระดาษสีดำที่วางอยู่ไม่ไกลเท่าไหร่
“นั่นถุงอะไรครับพี่ปลา แม่ลืมไว้เหรอ”
“อ่อ เปล่าค่ะ อันนั้นเป็นถุงผ้าคุณอรพอดีคุณนายให้ไปทำความสะอาดบ้านน่ะค่ะ พี่เลยเอามาซักเก็บไว้ค่ะ”
“ไหนเอามาให้ผมดูหน่อย”
“แต่พี่ปลายังไม่ได้ซักเลยนะคะ อยู่ในตู้ตั้งหลายวันแล้วน่าจะเหม็นอับนะคะไม่เป็นไรเอามาเถอะครับพี่ปลา”
“คะ ค่ะ”
พี่ปลาก็ได้แต่คิดว่ายังไงก็ของเมียเค้านี่เนอะ น่าจะคิดถึงเมียนั่นแหละไม่มีออะไรหรอแล้วก็เดินไปหยิบถุงกระดาษที่มีชุดของอรฤดีอยู่เต็มถุง
เขารับถุงมาแล้วก็ดีดตัวลุกขึ้นนั่งเอนพิงโซฟาไว้เพียงแค่กลิ่นหอมจางๆ จากเสื้อผ้าก็ทำให้เขารู้สึกมีเรี่ยวแรงขึ้นมาทันที ทำให้ชายหนุ่มรีบรื้อเสื้อผ้าของเธออออกมา
“ค่อยๆ สิคะคุณจอมยังไม่มีแรงงเลยนะคะ เดี๋ยวก็เป็นลมเป็นแล้งไปอีกหรอกค่ะ ข้างล่างมีแต่ชุดนอนค่ะ จะรื้อออกมาหรอคะ”
พี่ปลารีบปรามไว้เพราะเขารื้อออกมาจะหมดถุงแล้วทำเหมือนหาอะไรอยู่อย่างนั้น แต่เมื่อได้ยินพี่ปลาพูดอย่างนั้นเขากลับจับถุงเทออกมาหมดเลยทันที
“ผมเอาตัวนี้ครับ ฟอดดดดด! ฟอดดดดดด!”
“เอ่อออ… เอ่ออ”
ชายหนุ่มหยิบชุดนอนสายเดี่ยวผ้าซาตินสีครีมออกมาแล้วเอาโป่ะหน้าตัวเองไว้สูดหายใจหอมชุดนอนของเมียสุดลมหายใจทำเอาที่ปลาถึงกับตกกะใจตาค้างพูดอะไรไม่ออกกับภาพตรงหน้า อยู่กันมาตั้งยี่สิบกว่าปีพึ่งจะเห็นเขาทำอะไรแบบนี้ … อันนี้คือเพ้อหาเมีย หรือคิดถึงมากเกิน หรือโรคจิต อะไรยังไงพี่ปลางง ไปหมดแล้ว
“ชุดนี้ไม่ต้องซักนะครับ”
จอมทัพผงกหัวขึ้นมาเปิดผ้าเมียออกจากหน้าเล็กน้อยแล้วบอกกับพี่ปลาที่กำลังเก็บส่วนที่เหลือกลับใส่ถุงเหมือนเดิม
“ค่ะ เป็นไงบ้างคะหอมชื่นใจไหม”
“สุดๆ เลยครับ หายเวียนหัวเลย ผมขออยู่แบบนี้สักพักนะครับ”
คำถามที่ไม่คิดว่าเขาจะตอบ กลับตอบเสียงกระปรี้กระเป่าออกมาเฉยเลยทำเอาพี่ปลารีบถือถุงวิ่งหนีไปแทบไม่ทัน
รู้แล้ววว รู้แล้วววทำไมคุณอรถึงหนีไป อีปลารู้แล้วววววว
เช้าวันต่อมา เมื่อแสงสว่างรอดผ่านหน้าต่างเข้ามาได้อรฤดีก็รีบตื่นมาดูแลเช็ดตัวให้คนที่ยังคงหลับอยู่ในทันที “แผลเต็มหน้าเลย คงจะเจ็บน่าดูเลยนะคะ”แหนมที่เปิดผ้าม่านชะโงกหน้ามาดูแล้วพูดออกมาด้วยความกลัว เกิดมาเพิ่มเคยเจอเรื่องแบบนี้แต่ก็ยิ่งปลื้มชายหนุ่มไปอีกเมื่อเขาพยายามปกป้องคนที่เขารักไว้โดยไม่ห่วงชีวิตของตัวเองเลย“ผมขอโทษ… ผม ผมขอโทษ” เสียงละเมอเบาๆ ดังขึ้นทั้งที่เจ้าตัวยังคงหลับอยู่ แต่คนที่เฝ้ารอการตื่นของอย่างใจจดใจจ่อนั้นกลับได้ยินมันอย่างชัดเจน .. หัวใจของเธอชาวาบไปทั้งตัวมันเหมือนความกลัวและความกังวลทั้งหมดสลายหายไปเมื่อได้ยินเสียงที่ออกจากปากของเขาแม้จะยังไม่ตื่นขึ้นมาก็ตาม..“ถ้ายังมัวนอนอยู่แบบนี้ชั้นจะไม่ยกโทษให้แล้วนะ ลูกหิวจะแย่แล้วเมื่อไหร่จะตื่นมาทำกับข้าวให้ลูกกิน.. ผ้าเต็มตะกร้าแล้วใครจะซัก คนงานก็ลาใครจะรดน้ำต้นไม้มัวนอนอยู่ได้ ..” “โอ้โหคุณอร เอาจริงเหรอคะ ..” แหนมขมวดคิ้วรีบหันขวับไปมองเจ้านายตนเองในทันทีเมื่อได้ยินอย่างนั้น อันนี้คือคุณอรให้อภัยจริงๆ แล้วใช่เปล่าหรือต้องการคนมาใช้แรงงานกันแน่ “ถ้าคุณให้อภัยผมให้ทำมากกว่านี้ผมก็ยอม” จอมทัพค่อยๆ ลืมตาขึ้
การกระทำดูแลเอาใจใส่ของเขาการเป็นกิจวัตรประจําวันที่ไม่ว่าจะเป็นเธอและเขาต่างคุ้นชินแม้ดูเหมือนจะหมางเมินอยู่บ้างเป็นครั้งคราว แต่เขาก็ยังตีหน้ามึนไปเรื่อยๆ ไม่สนใจและยังมีป้าพันคอยเป็นกำลังใจสำคัญคอยช่วยเหลือทำให้ทุกอย่างดูราบรื่นไปได้ด้วยดีขึ้นทุกวันๆ แม้เขาจะยังคงได้นอนที่ห้องเก็บของหลังบ้านเหมือนเดิม … “เห้ยบ้านนี้แหละมีแต่ผู้หญิงกับคนแก่ ป่านนี้คนงานกลับไปหมดแล้วทางสะดวกเว้ย” เด็กแว้นสองคนที่ต้องการเงินคอยซุ่มดูอยู่หลายวันตั้งใจจะเข้ามาขโมยเงินหรือของมีค่าเอาไปใช้กินใช้เที่ยว หลังจากที่ดูลาดเลามานานพอสมควรวันนี้ก็ตัดสินใจลงมือ.. “แล้วถ้ามีคนขัดขืนจะให้ทำยังไงวะ” “ก็ตบให้กลิ้งไปดิ่วะ ให้มันรู้ซะบ้างแต่พวกมันคงไม่กล้าหรอกมีแต่ผู้หญิงท้องกับคนแก่นี่หว่า” “อีคนท้องเป็นเจ้าของบ้านห้องมันน่าจะมีเงินเก็บไว้ แอบเข้าไปให้เงียบๆ อย่าให้อีแก่นั่นรู้จะได้จบงานไวๆ เข้าใจไหม” “เออๆ รู้แล้วน่า มึงนั่นแหละอย่าพลั้งมือทำให้เป็นเรื่องใหญ่ก็แล้วกัน”“พูดมา! ไปได้แแล้วๆ”เมื่อตกลงกันได้ บอกแผนการกันเสร็จสรรพแจ็กและเจก็ค่อยๆ ย่องเข้าไปในบ้านและเดินเลาะไปยังห้องที่คิดว่าเป็นห้องของอรฤดี แกร่ก..
“นังแหนมรีบมาทำความสะอาดให้คุณเขาเร็ว”ป้าพันรีบบอกให้แหนมมาทำความสะอาดเมื่อชายหนุ่มรับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะ “นั่งรออยู่ตรงนี้ก่อนะคะเดี๋ยวป้าไปเอาน้ำเย็นๆ มาให้ดื่มค่ะ” “ขอบคุณมากครับ”แหนมรีบทำความสะอาดอย่างรวดเร็วตามที่เธอถนัดป้าพันเองก็เดินเข้าบ้านไปเตรียมน้ำเตรียมของว่างมาให้ชายหนุ่มจอมทัพเดินดูในสวนไปรอบๆ บริเวณเรื่อยๆ ทอดมองออกไปไกลสุดลูกหูลูกตาพร้อมกับลมเย็นๆ ที่พัดเอื่อยๆ ปะทะหน้าเขาเป็นระยะๆ มันทำให้รู้สึกเหมือนหลุดมาอีกโลกหนึ่งที่ปราศจากความวุ่นวายใดๆ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเธอถึงเลือกมาอยู่ในที่แบบนี้ “ห้องพร้อมแล้วค่ะคุณผู้ชาย” “ขอบใจนะ” แหนมวิ่งมาบอกแล้วก็รีบวิ่งหนีไปเพราะทนมองหน้าเขานานๆ ไม่ได้มันเขินจนพูดผิดพูดถูกไปหมดดาเมจคนหล่อมันรุนแรงเกินไปสำหรับเธอเมื่อยามค่ำคืนมาถึงชายหนุ่มล้มตัวลงนอนด้วยความอิ่มอกอิ่มใจเพียงแค่ได้เห็นหน้าเธอเขาก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว ยิ่งได้เห็นท้องที่นูนขึ้นมาแตกต่างจากเดิมนั้นก็ยิ่งทำให้เขาตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูกต่อให้นอนกับพื้นดินเขาก็มีความสุขที่ได้อยู่ใกล้ลูกใกล้เมียแบบนี้ นอนคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยแล้วก็หลับไปจากความเหนื่อยล้าที่สะสมมาทั้ง
“อรเดี๋ยววันนี้พ่อแม่ว่าจะออกไปในเมืองหน่อยนะลูกน่าจะกลับดึกพักผ่อนให้มากๆ ไม่ต้องรอนะ ให้หลานแม่พักผ่อนมากๆ เข้าใจไหม”“ค่ะคุณแม่เที่ยวให้สนุกนะคะ” สิริวดีและทัศนีย์เดินมาบอกอรฤดีที่กำลังอ่านหนังสือเกี่ยวกับการเลี้ยงเด็กอยู่ในห้องหนังสือจริงๆ แล้วก็ต้องการเปิดโอกาสให้ทั้งสองคนได้ปรับความเข้าใจกันนั่นเอง แล้วบรรดาคนแก่ชอบเที่ยวก็พากันออกไปพร้อมกับรถตู้คู่ใจสวนกับจอมทัพที่หน้าบ้านแต่ก็ไม่ได้ทักทายอะไร ตอนนี้หัวใจเขาอยู่กับหญิงสาวที่ขโมยมันไปตั้งแต่เมื่อไหล่ก็ไม่รู้ รู้ตัวอีกทีเขาก็เอาแต่คิดถึงเธออยู่ตลอดเวลาอย่างนี้ “เห้ยย.. จิ๊ ลืมได้ไงวะ”เขาสบถออกมาเมื่อควานมือหาชุดนอนของเมียที่ต้องเอาไว้ดมเพื่อเติมพลังชีวิตแล้วไม่เจอ ตายแน่ๆ ถ้าไม่มีชุดนอนเธอเอาไว้ดมมีหวังเขาได้อ้วกแตกกินอะไรไม่ได้อีกแน่ๆ ถึงจะดูเหมือนคนโรคจิตก็เถอะแต่มันช่วยได้จริงๆ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อเลยแค่คิดว่าลืมเอาติดมาด้วยก็รู้สึกพะอืดพะอมขึ้นมาทันที นี่มันอะไรกันวะเนี่ย… “มาหาใครเหรอคะ”แหนมรีบวิ่งออกไปรับแขกเมื่อเห็นชายหนุ่มหน้าตาไม่คุ้นเดินลงจากรถมา “อรอยู่หรือเปล่า ผมมาหาอรไปบอกเธอที”“ได้ค่ะ รอสักครู่นะคะ” แหนมเ
วันต่อมา “หน้าตาสดชื่นขึ้นนะคะวันนี้ “พี่ปลาเอ่ยทักเมื่อเห็นจอมทัพเดินมานั่งที่โต๊ะอาหารด้วยใบหน้าแจ่มใสกว่าทุกวัน “พี่ปลาๆ ผมเดินในสวนเห็นต้นไม้หลังบ้านตรงนั้นมีลูกเต็มเลยผมอยากลองชิมครับ” ไม่รู้หรอกว่าต้นอะไรแต่เห็นลูกของมันแล้วก็รู้สึกน้ำลายไหลขึ้นมาซะอย่างนั้น“หูยยยย คุณจอมทานไม่ได้หรอกค่ะ มันเปรี้ยวววเข็ดฟันเลยนะคะ เดี๋ยวพี่ปลาไปหาดูผลไม้อย่างอื่นมาให้ดีกว่าค่ะ “มันคือมะยมไม่รู้เกิดมาเขาจะเคยกินไหมและก็คิดว่าคนอย่างเขาน่าจะไม่ชอบแน่นอน มะยมเนี่ยนะ เห็นปกติทานแต่ผลไม้นำเข้า กับเหล้ากับเบียร์ นี่จะมาอารมณ์ไหนกันแน่ นับวันเจ้านายของเธอยิ่งเพี้ยนขึ้นทุกที เมียทิ้งนี่ทำให้คนเสียสูญไปได้ไม่น้อยเลยนะะเพิ่งเคยเจอก็วันนี้แหละ “ทานมื้อเช้าก่อนนะคะ ข้าวต้มปลากระพงค่ะ เดี๋ยวพี่ปลาไปเอาผลไม้มาให้นะคะ” จอมทัพยื่นหน้าไปดมกลิ่นข้าวต้มแล้วก็รู้สึกจะอ้วกขึ้นมาทันทีแล้วก็คิดขึ้นมาได้..รีบหยิบชุดนอนของอรฤดีขึ้นมาดมอาการคลื่นไส้ก็ทุเลาลงแล้วตักข้าวต้มเข้าปาก จะอ้วกอีกก็ทำแบบเดิมอยู่อย่างนั้นจนพี่ปลาที่ถือจานสตอเบอร์รี่มาเห็นชะงักไปอีกที.. ไม่ปกติ เจ้านายของเขาไม่ปกติแล้ว..“มาแล้วค่ะ ผลไม้
“พ่อกับแม่ล่ะครับพี่ปลา” จอมทัพเอ่ยถามขึ้นเมื่อเดินเข้ามาในบ้านแล้วก็มีเพียงความเงียบงันไร้ซึ่งเสียงของแม่เขาที่มักจะดังลงมาถึงชั้นล่างเวลาที่ดูรายการตลกชื่อดังช่องหนึ่ง “คุณๆ ทั้งสองไม่อยู่บ้านค่ะ แต่ไม่ได้แจ้งไว้ว่าจะไปที่ไหนค่ะกลับเมื่อไหร่ค่ะ” ชายหนุ่มกวาดสายตามองบ้านที่ว่างเปล่าและเงียบเหงานี้ด้วยหัวใจที่มันห่อเหี่ยวเหมือนขาดอะไรบางอย่างไป ก่อนจะเดินขึ้นห้องของตัวเองบนชั้นสอง ความเหงาและความว่างเปล่าที่มันรู้สึกได้ว่าไม่เหลือใครสักคนเลยจริงๆ โดยเฉพาะสายตาของพ่อเขาที่แม้ปกติจะไม่ค่อยพูดอะไรมากมายและเป็นคนตลกใจดีแต่ตอนนี้สายตาของพ่อเขาที่มองมามันช่างเย็นชาเหลือเกิน ยิ่งแม่เขาที่เสียน้ำตาออกมาด้วยความเสียใจนี่เป็นครั้งแรกที่เขาทำให้แม่ร้องไห้ออกมาแบบนั้นมันคือคำตอบว่าเขาเป็นคนที่เลว เป็นคนที่ใช้ไม่ได้เอาเสียเลย เมื่อเปิดโทรศัพท์มือถือก็เจอรูปของลูกปัดคนที่เราเคยรักและตั้งใจจะใช้ชีวิตร่วมกับเธอไปจนวันสุดท้าย…แต่เธอกลับโกหกหลอกลวงเขาตลอดเวลา คำพูดที่แสนหวานของเธอมันไม่มีคำไหนที่เป็นเรื่องจริงเลย.. สาเหตุที่ครอบครัวของเธอไม่ค่อยจะชอบลูกปัดสักเท่าไหร่นักนั่นก็เพราะว่าเรื่องเมื่อหล