“สามวันที่เค้าหายไป เธอทำไรลงไปบ้างชูใจ”
“...”
“คงไม่ได้ไปมีอะไรกับมันต่อจากมีกับเค้าใช่ปะ” ผมสบถ พ่นคำหยาบคายใส่เธออย่างทนไม่ได้พอเห็นว่าเธอได้แต่ยืนอึ้งไม่ตอบเหี้ยอะไร “มันโดนใจใช่ปะ มันดีกว่าเค้าใช่ปะ”
เพี้ยะ
ชูใจตบหน้าผมทันที นี่เป็นครั้งแรกที่เธอตบผมหลังจากที่เราคบกันมาหลายปี มันไม่แรง แต่ก็ทำให้ผมรู้สึกได้
“พะ... พูดแรงไปแล้วนะโหน”
“...”
“เค้ากลับกับพันจริงๆ แต่นั่นก็เพราะว่าโหนไม่มาเจอเค้าไม่ใช่เหรอ” ผมแค่นหัวเราะออกมาเสียงดังทันที แค้นใจชิบหาย สุดท้ายเธอก็เลือกมัน
“ถ้าเธอเลือกจะไปกับมัน”
“...”
“ก็ยอมเป็นของเค้าอีกคืนได้ปะ” ผมหันกลับมามองตาเธอ คราวนี้แววตาผมวาววับไปด้วยแรงอาฆาต “แต่คราวนี้... เค้าจะปล่อยใน”
[จบพาร์ท : โหน]
เพี้ยะ
ฉันตบโหนไปอีกที ตบเพราะเขาพูดคำว่าจะปล่อยในเพราะโกรธที่ฉันกลับกับพัน
แต่ฉันพูดอะไรไม่ได้ ในเมื่อหลักฐานมันคาตา ฉันคุยกับพันลับหลังเขา มันอาจดูเหมือนนอกใจนะ แต่ฉันไม่ได้มีเจตนาจริงๆ ฉันก็แค่ปรึกษาพันเรื่องที่เขาหายไปสามวันเต็ม พันตอบกลับมาว่าเห็นเขาไปกับผู้หญิงคนอื่น
ฉันยังไม่ปักใจเชื่อ เพราะโหนรักฉันมานานขนาดนั้น แล้วก็ไม่เคยเห็นเขาจะนอกลู่นอกทางจากฉันไปไหน
แต่... ตอนนี้ฉันชักจะเชื่อแล้ว พอเขาพูดออกมาว่าจะปล่อยใน
เขาไม่คิดจะถามฉันก่อนเลยด้วยซ้ำว่าเพราะอะไร
“ปล่อยในเหมือนที่ทำกับคนอื่นอ่ะเหรอ” ฉันเม้มริมฝีปาก มองหน้าเขาอย่างผิดหวังจับใจ “ถ้าแบบนั้น... ก็ไม่น่ามามีอะไรกับเค้า แล้วบอกว่าเค้าน่ารักเลยนี่”
โหนเซไปชนกับโต๊ะด้วยแรงผลักของฉัน เขาในตอนนี้แทบประคองสติไม่อยู่ การที่เขามีคนอื่นฉันไม่เคยรู้มาก่อน ฉันไม่เคยเช็คอะไรจากเขา นั่นเพราะความที่เราเป็นเพื่อนกันมานาน ฉันเชื่อใจเขามากพอ
และคำตอบของเขา
“... ใช่”
“...”
“แล้วทำไม” ฉันสบตาเขา ในตอนนั้นตัวเองร้องไห้ออกมาโดยไม่รู้ตัว เขาเป็นคนแรกของฉัน ถึงจะไม่ใช่แฟนคนแรก แต่ก็เป็นคนแรกของทุกเรื่อง... ที่เราสัมผัสกัน มีอะไรกัน
แต่เขาเองก็ไปทำแบบนี้กับคนอื่นเหมือนกัน
ถ้าสุดท้ายเขาเองก็ไม่รักฉัน ทำไมถึงทำเพื่อฉันขนาดนั้น
“ถ้าเป็นแบบนั้น” ฉันเสียน้ำตาออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ โหนที่มองหน้าฉันอยู่มีแววตาที่เพิ่งรู้สึกตัว แต่มันก็สายไปแล้ว เขาพูดมันออกมาหมดแล้ว “เราก็เลิกกันเถอะนะโหน”
เขาชะงักไป เมื่อฉันตัดสินใจเป็นฝ่ายบอกลาเขาก่อน
“เค้าเองก็เสียใจ”
“...”
“แต่เค้าคงให้อภัยโหนที่ไปทำแบบนี้กับคนอื่นนอกจากเค้าไม่ได้เหมือนกัน”
โหนเซจนไปชนกับโน้ตบุ๊ค เขาเบิกตากว้าง ในขณะที่ฉันเองก็ร้องไห้ ฉันเสียใจที่เสียครั้งแรกให้เขา แล้วเขากลับมาทำแบบนี้กับฉัน ฉันไม่รู้ว่าเขาหายหน้าไปไหนสามวันเต็ม แต่ที่พันบอกมันก็คงจะมีมูล ฉันไม่เคยเชื่อใครนอกจากเขา จนเขาหลุดปากพูดออกมาเอง
“ชูใจ”
“... ฮึก”
“ชูใจ เค้าไม่เอาแบบนี้ว่ะ” เขาโพล่งออกมา ร่างสูงโปร่งของโหนที่เต็มไปด้วยกลิ่นแอลกอฮอล์พุ่งเข้ามารวบตัวฉันเข้ามาไว้ในอ้อมแขน ฉันร้องไห้อย่างหนักกับอกของเขา แต่ก็ไม่อยากรับรู้อะไรอีกแล้ว
ฉันผลักเขาออกไปทันที
“โหน พอเถอะ”
“...”
“ถ้ามีอีกคน ก็แปลว่าโหนไม่ได้รักเราจริงๆ”
ฉันเปลี่ยนสรรพนามจากคำว่าเค้าเป็นเราเหมือนก่อนหน้านั้นที่เราเคยเป็นแค่เพื่อนกัน ก่อนที่เขาจะสารภาพออกมาว่ารักฉัน ก่อนที่ฉันจะยอมคบกับเขา ก่อนที่ฉันจะยอมเสียครั้งแรกให้เขา
“อึก... ชูใจ” โหนที่เมามายพยายามจะรวบตัวฉันเข้ามากอดอยู่ท่าเดียว เขาคงครองสติไม่อยู่จนอธิบายอะไรออกมาไม่ถูก แต่ฉันไม่สามารถทนอยู่ในอ้อมแขนเขาได้อีกต่อไปแล้ว ความเสียใจ ทุกความรู้สึกที่มี ฉันเชื่อพันไปแล้วเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์
“ออกไปได้แล้ว”
“ชูใจ”
“ออกไปได้แล้วโหน!” ท้ายที่สุดฉันก็ทนไม่ไหว ฉันรั้งแขนเขาให้เดินออกไปที่หน้าประตู เปิดประตูออกแล้วผลักเขาออกไปจากห้อง โหนที่แทบไม่มีแรงขัดขืนลงไปกองกับพื้นที่หน้าประตู เขาจะหยัดตัวลุกขึ้นเพื่อพุ่งเข้าหา แต่ฉันก็รีบปิดประตูใส่หน้าเขา
ปึงๆ!
โหนทุบประตูอีกครั้ง อีกครั้ง และอีกครั้ง ในขณะที่ฉันล้มลงไปนั่งพับเพียบกับพื้น
มากกว่าเสียใจที่ให้ครั้งแรกกับอดีตเพื่อนสนิท
นั่นคือเขาหวังแค่จะคบกับฉันเพื่อมีอะไรกันแค่นั้นเอง
[พาร์ท : โหน]
ผมฟื้นขึ้นมาอีกที ก็รู้สึกตัวว่าอยู่ใต้ตึกของชูใจ เห็นกองอ้วกตัวเองคาอยู่ในถุงพลาสติกข้างๆ
ผมเสยผมตัวเองขึ้นไป กลิ่นเบียร์หึ่งจนไม่น่าดู ก่อนที่จะหยัดกายลุกขึ้นเพื่อไปสตาร์ทรถแล้วจะขับออกไป แต่ก็เพิ่งรู้ว่าน้ำมันหมด
ผมล้มตัวลงนั่งพิงมอเตอร์ไซค์คันเก่ง จำได้ดีว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น แต่ก็แค่ลางๆ จำได้ว่าชูใจพูดอะไรสักอย่างไปแล้วผมตอบแบบไม่คิดไปว่าใช่ แล้วทำไม แค่นั้น
จำได้แค่ว่าตัวเองแดกเบียร์ไฮเนเก้นที่แพ้ที่สุด แล้วเมามายขึ้นไปหาเธอ ไปโวยวาย ไปเห็นว่าเธอ
คุยกับไอ้พันอยู่
“เหอะ สุดท้ายก็ไม่ยืดจริงๆ ว่ะ” ผมพึมพำกับตัวเองตอนที่ล้วงบุหรี่ในกระเป๋ากางเกงขึ้นมาจุดสูบ แต่ไฟแช็คหล่นหายไปไหนไม่รู้ เลยได้แต่คาบมวนบุหรี่ท่ามกลางอากาศร้อนจนแทบละลาย เผาไหม้ความรู้สึกผมจนเป็นจุล
“เราก็เลิกกันเถอะนะโหน”
ผลของการวู่วามไปขู่เธอว่าจะปล่อยใน สุดท้ายก็ได้คำบอกลามาเป็นของฝาก
เจ็บดีว่ะ
ผมแค่นหัวเราะออกมา ชะงักไปเมื่อได้ยินเสียงรถยนต์ที่หน้าตึกของชูใจ ผมผุดลุกขึ้นจากเบาะมอเตอร์ไซค์ หรี่ตามองทะเบียนรถที่โคตรคุ้น ก่อนจะรู้ว่ามันเป็นใครตอนที่มันเปิดประตูรถออกมาหลังจากที่จอดรอหน้าหอพัก
ไอ้พัน
ผมนิ่งไปเมื่อมันหันมาเห็นผมที่ยืนอยู่ตรงนี้ ไอ้พันเสหน้าไปทางอื่นอย่างไม่อยากจะมอง ในขณะที่ผมจะรู้สึกไม่โอเค
มันมารับชูใจเหรอวะ
“กูก็มารับชูใจ” ผมเดินตรงไปผลักไหล่มันทันที กล้าพูดเต็มปากเต็มคำว่าชูใจเป็นอะไรกับผม เพราะผมรักเธอ “มึงมีธุระอะไรกับเมียกู”
“เมีย?” สีหน้ามันเปลี่ยนไปทันที ก่อนที่ไอ้พันจะแค่นยิ้ม “แล้วไง”
มันผลักไหล่ผมกลับ ผมไม่คิดว่ามันจะเล่นสกปรกเป็นจนวันนี้
“...”
“ตอนนี้เมียมึงเค้าคุยอยู่กับกูว่ะ”
ผมนิ่งอึ้งไป ข้อความในไลน์ที่ผมไม่ได้อ่านเมื่อคืนที่ไปหาชูใจเพราะเมาไม่ได้สติ ผมรู้แค่ว่าชูใจคุยกับไอ้พัน แต่ไม่รู้ว่าคุยเรื่องอะไรกัน
แต่เท่าที่รู้ เธอต้องได้เรื่องผิดๆ อะไรจากไอ้พันมาสักอย่าง
“มึงไปพูดอะไรกับเมียกูไว้” ผมกระชากคอเสื้อมันเข้ามาจนชิดตัว เราสูงเท่ากันเลยไม่เป็นปัญหากับไอ้พัน มันปัดมือผมทิ้งทันที
“พูดอะไรของมึง”
“แล้วชูใจจะมีอาการแบบนั้นได้ไง ถ้ามึงไม่พูด” ผมกดเสียงต่ำ จ้องหน้ามันท่ามกลางแดดที่ร้อนระอุพอๆ กับใจผม
“มึงหายหน้าไปสามวัน ชูใจเขากังวลเลยมาปรึกษากู” มันไหวไหล่ “ก็เท่านั้น”
“...”
“คงรู้ตัวมั้งว่าหายไปเพราะอะไร กูเห็นมึงไปเดินกับเด็กที่เกษตร” มันแค่นยิ้ม “ถ้าไม่จริงจังกับชูใจขนาดนั้น ไปหาคนอื่นก็ได้”
“...”
“คนนี้กูดูแลเอง”
[พาร์ท : โหน]ผมนั่งจ้องหน้าจอโทรศัพท์นิ่งงันShoujai Chutimon : โหนShoujai Chutimon : ว่างอยู่มั้ย เรามีอะไรจะปรึกษาหน่อยข้อความที่ไม่ได้อ่านของชูใจโผล่ขึ้นบนหน้าจอ ผมกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ความพยายามที่จะลืมเธอพังลงก็วันนี้ไม่คิดว่าเธอจะทักมา ทำเหมือนเราเป็นเพื่อนกันอย่างสนิทใจขนาดนั้นเธอคงไม่รู้ ว่ามันลืมยากขนาดไหน กับการที่ต้องพยายามใช้ชีวิตโดยไม่มีเธอโดยที่ต้องเตือนตัวเองทุกวันว่ากูคือเพื่อน กูต้องเป็นเพื่อนแต่ก็คงเป็นเรื่องสำคัญมั้ง ถึงได้ทักมาได้ข่าวว่าไอ้ลูกโชนแทบไม่ยอมให้เธอออกห่างจากตัวเลยระหว่างสองอาทิตย์ที่ผ่านมา สองคนนั้นดูชัดเจนกันมากผมเคารพการตัดสินใจของเธอนะชื่อ โหน : รอเดี๋ยวนะชื่อ โหน : เราอยู่กับแฟนแต่ผมก็คงต้องเริ่มต้นใหม่เหมือนกันผมไม่ได้โกหก แค่พูดไม่หมดทุกอย่าง ว่าแฟนที่ว่าตอนนี้ก็แค่คุยๆ กัน ยังไม่ได้ตกลงคบกันจริงจัง เพราะผมยังตัดใจไม่ได้ชูใจชัดเจนขนาดนั้นแล้วว่ะ จะให้ผมเข้าไปแทรกกลางในฐานะอะไร ลูกก็ไม่มีแล้ว ไม่มีอะไรที่จะผูกมัดเราให้อยู่ด้วยกันอีก เข้าใจใช่ปะว่าแม่งไม่มีทางแล้วผมไม่ได้ไม่พยายาม แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันตัดกำลังกูไปหมดแล้ว
ผมเมามาย ขับมอเตอร์ไซค์กลับไปที่ห้อง นอนกดแชทเฟสดูข้อความเก่าๆ ของผมกับชูใจที่คุยกันผมนึกยิ้มตอนที่นึกไปถึงสมัยที่คบกับเธอแต่เป็นได้แค่เพื่อนสนิท ไม่สามารถเป็นไรที่มากกว่านั้น อาจเพราะใจผมไม่กล้าพอ หรือไม่เธอแม่งก็ซื่อบื้อเกินไปแต่ก็นึกเสียใจว่ะ ที่วันนี้มันไม่มีวันนั้นอีกแล้วเป็นเพื่อนก็คงดีกว่า เพราะว่าเพื่อนไม่มีวันเลิกกันติ๊งเสียงแจ้งเตือนเฟสทำให้ผมชะงักที่จะเลื่อนดูแชทของเรา พอเปิดเข้าไปดูก็เห็นว่าเป็นแจ้งเตือนเฟสของชูใจที่ผมตั้งติดตามเธอไว้เวลาเธออัพอะไร มันขึ้นเหมือนว่าเธอจะลงรูปใหม่ใจผมเต้น ตอนที่กดเข้าไปดูมันใช่รูปเธอกับไอ้ลูกโชน เป็นภาพที่เธอเซลฟี่คู่กับมัน ในฐานะแฟนผมมองภาพนั้น ใจแม่งชายิบ ฉีกยิ้มออกมาตอนที่กดพิมพ์ข้อความส่งไปในแชทของเธอสั้นๆชื่อ โหน : ยินดีด้วยนะชูใจกดอ่านทันที ผมเผลอคิดว่าเธอจะรอผมอยู่ แต่ก็ใจแฟบลงเมื่อเธอพิมพ์ตอบกลับมาShoujai Chutimon : ขอบคุณนะShoujai Chutimon : โหนเอง ก็เป็นเพื่อนที่ดีเหมือนกันจงใจใช่มั้ยวะจงใจพิมพ์คำว่าเพื่อนให้ผมรู้สถานะตัวเองในตอนนี้ใช่ปะผมรู้อยู่แล้วชื่อ โหน : ขอบคุณสำหรับทุกอย่างนะชูใจชื่อ โหน : เรายังเป็นเพื่อนเ
พี่ลูกโชนมาส่งฉันที่หอพักอย่างเคย เหมือนทุกๆ วันที่เขามาส่งฉันแต่ก็แปลกนะ... ที่ฉันไม่รู้สึกอะไรกับเขาเลยหัวใจเล็กๆ ที่เติบโตอยู่ในท้อง มันถูกตีตราว่าเป็นลูกของเขาคนนั้น เป็นลูกของคนที่เลือกจะปล่อยฉันไปแค่เพราะว่าพ่อแม่ฉันไม่ยอมรับเขา“เลิกคบกับมันแล้วเหรอ น้องชูใจ” ฉันชะงักไปเมื่อได้ยินเสียงของพี่ลูกโชนที่กำลังขับรถอยู่ตรงหน้า ผู้ชายที่มีความมั่นคง มีรถ บ้านมีฐานะ เรียนวิศวะ ผู้ชายแบบนี้สินะที่พ่อแม่ฉันต้องการ“หมายถึงใครคะ?”“ไอ้ขี้ก้างนั่น” เขาเรียกโหนแบบไม่มีความเกรงใจ ฉันคลี่ยิ้มบางออกมา“ไม่ได้คบหรอกค่ะ ทำไมเหรอ?”“พี่แค่อยากรู้ว่าหนูคิดยังไง ที่พ่อแม่หนูให้หนูหมั้นกับพี่” พี่ลูกโชนหันมาถามอย่างต้องการคำตอบ ฉันนิ่งไปฉันในตอนนี้ต้องรู้สึกอะไรเหรอ?ก็เป็นแค่ตุ๊กตาล้มลุกที่พ่อแม่จับให้เดินไปทางไหนก็ได้ แม้กระทั่งเลือกทางเดินชีวิตของตัวเองฉันยังทำอะไรไม่ได้เลย นับประสาอะไรกับการที่ฉันจะต้องแสดงความคิดเห็นกับเขาว่าฉันชอบหรือไม่ฉันยังคงยิ้มอยู่ แต่หัวใจแตกสลาย“ชูใจคงรู้สึกอะไรไม่ได้ นอกจากยินดีค่ะ” ฉันเลือกที่จะตอบอย่างเป็นกลางที่สุด แม้มันจะดูให้ความหวังคนตรงหน้าก็ตาม “พ่อแม่เลื
ผมเดินเข้าไปที่หลังตึกวิทยาลัยช่างที่เป็นอริกัน เห็นไอ้พันนั่งดูดบุหรี่อยู่กับเพื่อนวิทยาลัยนี้อยู่ไม่ไกลมือผมกำหมัดแน่น สูดลมหายใจลึกๆ เพื่อให้รู้ตัวว่าผมกำลังทำอะไรไอ้พันมันสังเกตเห็นผมก่อนตอนที่ผมเหยียบใบไม้แห้งเสียงดัง มันที่นั่งยองๆ อยู่ลุกขึ้นยืนแล้วล้วงกระเป๋าสบตาผม ในขณะที่ผมเองก็เดินไปหยุดอยู่ตรงหน้ามัน“มึงมาที่นี่ทำไมวะ” มันถามผมขึ้นมา ใจผมนึกถึงชูใจแล้วก็คลายหมัดออก สบตากับมันอย่างเงียบงัน “เราไม่ใช่เพื่อนกันแล้ว มึงคงไม่มีธุระอะไรกับกู”“...”“อีกอย่าง ช่วงนี้กูก็ไม่ได้ไปยุ่งกับเมียมึงแล้ว...”“แล้วถ้ากูอยากให้มึงกลับมายุ่งกับชูใจอีก มึงจะว่าไง?” ผมแทรกมันขึ้นมา ไอ้พันชะงักไป มันมีสีหน้าไม่เชื่อ“พูดบ้าอะไร”“กูยุ่งกับชูใจไม่ได้แล้วตอนนี้” ผมจ้องตามัน ก่อนที่จะแค่นยิ้ม “กูทำชูใจท้อง แล้วพ่อแม่ชูใจไม่คิดยอมรับกู”“...!”“ถ้าเป็นมึง เขาอาจจะยอมรับ อีกอย่างชูใจก็เคยชอบมึง”ไอ้พันเบิกตากว้างเมื่อผมสารภาพออกมาว่าผมทำชูใจท้อง มันเซไปนิดหน่อย แต่เพื่อนมันคว้าแขนไว้ ผมเข้าใจดี เอาจริงๆ มันก็รักชูใจไม่ต่างกับผม ผมมันก็แค่ไอ้ขี้ขลาด ถ้าไม่ใช่ผม มันคงเป็นใครก็ได้“ชูใจท้อง...?” มั
“เค้าไม่พร้อมจะมีลูก ไม่พร้อมเหี้ยไรทั้งนั้น”“...”“เค้าไม่มีอนาคตว่ะเธอ เค้าเรียนยังไม่จบ เค้าไม่มีงานเป็นหลักเป็นแหล่ง” ผมร้องไห้ออกมา สุดท้ายก็อ่อนแอต่อหน้าเธอ ผมรู้ว่าร้อยทั้งร้อย ผู้ชายอายุยี่สิบต้นๆ มาเจอเรื่องแบบนี้คงตันไปหมดทุกทางเหมือนผมผมไม่พร้อมเลยจริงๆ ว่ะ“...”“ให้เวลาเค้าหน่อยนะชูใจ” ผมพูดคำนั้นออกมา เพราะผมไม่รู้ว่าผมจะทำหน้าที่พ่อที่ดีได้มั้ย ในเมื่อทุกวันนี้ผมยังไม่เป็นชิ้นเป็นอัน ไม่เคยคิดถึงเรื่องอนาคต ลำพังที่ขยันเรียน เพราะหลงรักเธอแค่นั้น “ให้เวลาเค้าสักสองเดือน”“...”“เค้าขอเวลาแค่สองเดือน” ชูใจมองผมทั้งน้ำตา เธอเองคงเจ็บช้ำกับคำพูดผมมากพอ ลำพังแค่ทำตัวแบบนี้ก็ทำลายความเชื่อใจลงไปมากแล้วกับแฟนที่กำลังตั้งท้องอยู่ แถมยังให้เธอรอผมอีกรอแม่งตั้งสองเดือน เป็นใครก็ไม่รอหรอกว่ะ“... งั้นโหนก็ไปตามทางของโหนเถอะ” ชูใจโพล่งขึ้นมาอย่างหนักแน่น เหมือนเธอรู้แล้วว่าคนอย่างผมมันไม่มีอะไรดีจริงๆ“...”“เค้าพร้อมจะลาออกเมื่อท้องโต และเค้าจะเลี้ยงลูกเอง”ผมกลับมาที่ห้อง หลังจากเมามายไม่ได้สติผมทรงตัวไม่อยู่ ร้องไห้ตลอดเวลาเลยว่ะ ผมได้แต่โทษตัวเอง ว่าเป็นเพราะผม ชูใจถึงได้ท
[ชูใจมีน้องแล้วนะคะ!]หัวใจผมแทบหยุดเต้นซะเดี๋ยวนั้น ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว มือถือที่กำไว้แทบหลุดจากมือหลังจากที่เพื่อนของชูใจโทรมาบอกว่าเธอท้อง ผู้หญิงคนนั้นบอกทางไปคลีนิคเสร็จสรรพก่อนจะวางสายไปเพราะต้องเข้าไปดูอาการชูใจ ผมก็ขับไปอย่างไร้จุดหมาย เรื่องที่ผมกลัวที่สุดแม่งเกิดขึ้นแล้ว ชูใจท้องแล้ว แล้วผมจะทำไงต่อไปดีวะ?ผมไม่ได้คิดถึงเรื่องที่จะมีลูกมาก่อน เท่าที่คิดได้คือ... ต้องไปหาเธอต้องไปดูให้เห็นกับตาว่าเธอท้องจริงๆ!ผมเร่งความเร็วมากขึ้นกว่าเดิม แต่เพราะความเหม่อลอยของผม มารู้สึกตัวอีกทีรถมอเตอร์ไซค์ของผมก็พุ่งเข้าชนเสาอย่างแรงเปรี้ยง!!เฮือกสุดท้ายผมคิดถึงชูใจ ก่อนที่จะคิดถึงลูกลูกของผม[จบพาร์ท : โหน]ฉันลืมตาตื่นขึ้นมาในความเงียบ พอรู้สึกตัวก็เห็นว่ามีมินตันนั่งอยู่ข้างๆ ด้วยสีหน้าเป็นห่วง เธอกุมมือฉันไว้ ในขณะที่ฉันเองก็รู้สึกอ่อนแรง“มินตัน...” ฉันเรียกชื่อเพื่อนออกมา ก่อนที่จะลูบหน้าท้องของตัวเองอย่างลืมตัว“ตื่นแล้วเหรอ” เธอสบตาฉัน ในความรู้สึกนั้นเหมือนเธอจะตำหนิกลายๆ ด้วยสายตา “ถ้ารู้ว่าไม่ไหวก็อย่าฝืนมาเรียนสิ”ฉันเม้มริมฝีปากแน่น ไม่อยากยอมรับว่ามันเกิดขึ้นจริงๆ