Mag-log in“เรื่องของกู” ผมพูดแค่นั้น แต่ไอ้เค้กเหมือนจะชินชากับท่าทางของผม ตอนผมเดินเข้าไปในห้องน้ำ มันก็เดินตามเข้ามาตอนที่กวักมือให้เพื่อนมันยืนอยู่หน้าห้องน้ำ
ผมจ้องหน้ามัน ไอ้เค้กปิดประตูห้องน้ำ มันล็อกไว้ แล้วเดินเข้ามาหาผม
“แล้วเรื่องของกูล่ะ?” มันย้อนถาม ผมจ้องหน้ามันนิ่ง ก่อนที่จะสั่นหน้า “ไม่เอางี้ดิโหน มึงแสดงออกมากไปป่าว ตั้งแต่กูบอกชอบมึงจริงๆ ก่อนจบ ปวช. มึงก็หลบหน้ากูตลอด”
“กูไม่ได้ชอบมึง” ผมพูดแล้วจุดบุหรี่ขึ้นสูบ “กูมีคนที่ชอบอยู่แล้ว”
“แต่มึงคงจำได้ ตอนที่เราคบกันอ่ะ” มันจุดสายฝนสูบตามผมบ้าง ไอ้เค้กมีสีหน้าเศร้าศร้อย “กูยังลืมมึงไม่ได้นะเว้ย ถึงตอนนั้นกูจะบอกว่ากูแค่คบมึงเล่นๆ เต๊าะเล่นๆ แต่กูเสือกชอบจริงขึ้นมาแล้วอ่ะ”
“...”
“ละทีนี้จะทำไงอ่ะ ละกูอ่ะ”
“มึงก็มีแฟนนี่ ตอนนี้” ผมพูดปัด “เราเลิกกันนานแล้ว กูก็ไม่ได้จริงจังกับมึงเหมือนกัน”
“เจ็บดีว่ะ” มันแค่นหัวเราะแกนๆ พอผมพูดตรงๆ ออกมา “มึงก็รู้ กูกับพี่ต้น มีแค่พี่ต้นที่รักกูอยู่ฝ่ายเดียว”
“...”
“กูไม่ได้รักมันเลย” มันเริ่มตาแดงๆ ผมเลยหันหน้าไปทางอื่น “มึงก็รู้ กูคบพี่ต้นเพราะอะไร มึงหนีไปไม่ได้ตลอดหรอกว่ะโหน”
“...”
“กูจีบมึงมาเป็นปี มึงไม่เคยใจอ่อนเลย แต่กูจะไม่ยอมแพ้”
“...”
“มึงจะไปส่งใครก็ได้ แต่ขออย่างเดียว” มันพ่นควันบุหรี่ออกมาตอนที่ขยี้ตาตัวเองแรงๆ “ขอแค่ยังคุยกับกู ให้กูจีบเหมือนเดิม”
เสียงกริ่งเริ่มเวลาเรียนปฏิบัติช่างกลดังขึ้นตอนนั้นพอดี ผมพ่นลมหายใจหนักแน่น ทิ้งบุหรี่ลงส้วมแล้วกดชักโครก ก่อนที่จะตบไหล่มันหนักๆ
“ได้”
“...”
“แต่กูก็ยังจะเห็นมึงเป็นเพื่อนเหมือนเดิม ก็แค่นั้น”
ผมพ่นลมหายใจหนักในชั้นเรียนตอนที่ซ่อมบำรุงเครื่องจักรกล จนเพื่อนในนั้นที่ยืนข้างกันเห็น มันเดินมาตบบ่าผม
“เป็นไรวะ ช่วงนี้ดูเซ็งๆ นะไอ้สัส”
“เรื่องไอ้เค้ก” ทุกคนรู้หมดเรื่องนี้ ผมเลยเลือกที่จะบอก เอาจริงๆ ที่ผมบอกว่าผมไม่รู้ว่าเค้กไม่ชอบชูใจเพราะอะไร จริงๆ แล้วผมรู้ดี แต่ผมเลือกที่จะไม่สน
เรื่องของคนในวิทยาลัย พอพูดกับคนนึงแม่งก็ปากต่อปาก รู้กันไปทั่ว ยิ่งไอ้เค้กแสดงออกขนาดนั้น มันเป็นปกติของเด็กอาชีวะที่จะแดกกันเองในกลุ่มเพื่อน วนลูปไปแบบนั้น เพราะพี่ต้นก็คือรุ่นพี่ที่ผมเคารพคนนึง มันก็คงรู้ว่าแฟนมันไม่ได้รักจริง คบเพราะเหงา ยังชอบผม แต่ก็ไม่ยอมเลิก
ไอ้เค้กมันเริ่มเต๊าะผมตอนช่วงที่ผมห่างจากชูใจ ที่บอกว่ามีแฟนมาบ้างอะไรนั่น มันก็เป็นผู้หญิงที่จีบไปเรื่อย ลัลล๊าไปวันๆ ไม่จริงจังกับใคร คบไว้เล่นๆ เผื่อเลือก
เราคบกันมาปีกว่า ผมเลิกกับมันเพราะไอ้เค้กเริ่มเรียกร้อง เพราะมันเริ่มชอบผมจริงๆ จนหลังเลิกกันมันก็มีแฟน พยายามประชดผมสารพัด แต่เชื่อเหอะ ใจผมมันไม่รู้สึกอะไรจริงๆ
จนเรียนจบ ปวช. ไอ้เค้กถึงมาบอกว่าลืมผมไม่ได้
ผมก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองหล่อ หรือมีดีอะไร แต่ในใจผมแม่งไม่เคยมีใครที่จะมาแทนที่ชูใจได้จริงว่ะ
ผมพยายามหลบหน้ามัน ไม่ค่อยคุยกับมันแม้ว่ามันจะตื้อผมชิบหายแค่ไหน แต่วันนี้ที่พอผมชัดเจนว่าผมจะจีบชูใจ
มันก็เหมือนว่า ยังมีชนักติดหลังผมอยู่
[จบพาร์ท : โหน]
เสียงผู้หญิงที่โทรคุยกับโหนเป็นใครกันนะ
คำถามนี้ติดอยู่ในใจของฉันตั้งแต่ต้นจนจบคลาสเรียน
เพราะงั้นระหว่างเรียนฉันจึงทำตัวแย่ๆ ไม่สนใจการเรียนด้วยการแอบไปส่องหน้าเฟสโหนทั้งที่ไม่เคยคิดจะส่องมาก่อน ปกติใครแท็กเขามาก็ผ่านๆ ตาแต่ฉันก็ไม่ได้สนใจนะ คือไม่ได้สนใจจริงๆ อ่ะ
ฉันเลื่อนลงมาเรื่อยๆ ส่วนมากโหนจะลงรูปรถมอเตอร์ไซค์ แชร์รูปรถ แชร์โพสต์รักๆ เพ้อๆ แล้วก็เพื่อนแท็กเขามาตอนกินเหล้ากัน ก็ไม่เห็นแปลกตรงไหน
แต่ที่เอะใจฉัน คือมีโพสต์สองสามโพสต์ที่มีผู้หญิงคนนึงแท็กเขาอยู่เป็นระยะๆ แต่โหนไม่ไลค์ไม่ตอบด้วยซ้ำ (คือฉันเข้าไปดูขนาดนี้เลยอ่ะ ฮือ)
ฉันเลื่อนไปเรื่อยๆ จนถึงปีที่โหนเข้าเรียนอาชีวะใหม่ๆ ช่วงนั้นเราไม่ค่อยได้คุยกัน โหนไม่ว่างด้วย เห็นแท็กผู้หญิงคนนึงบ่อยมาก หน้าตาคุ้นๆ ด้วยนะ ดูท่าว่าจะเป็นแฟนเขา
พอฉันกดเข้าไปดู ยังหลงเหลือโพสต์ที่แท็กกับผู้หญิงคนนั้นอยู่โพสต์นึง เป็นสถานะว่าคบกันในเฟสบุ้ค ชื่อผู้หญิงคนนั้นที่ขึ้นมาตรงกับผู้หญิงที่แท็กโหนสองสามโพสต์ในช่วงนี้
ฉันชะงักไปเลย ในนาทีนั้น
“เรารักเธอ... มาตั้งนานแล้ว”
พอนึกถึงคำพูดของโหน ฉันก็มีสีหน้าตึงๆ มีความรู้สึกโกรธขึ้นมาแบบไม่รู้ตัว ไม่รู้ว่ามันคือความรู้สึกอะไร แต่เชื่อสิ ถ้าเขารักฉันมานานขนาดนั้นจริงๆ
เขาคงไม่ยุ่งกับผู้หญิงคนไหนที่ไม่ใช่ฉันไม่ใช่เหรอ
โอเคว่าฉันอาจเห็นแก่ตัวไปหน่อย แฟนก็ไม่ใช่ นั่นสิ ไม่ใช่แฟนเลยแท้ๆ ฉันจะไปบังคับอะไรเขาได้
... แต่จูบฉันไปแล้วเนี่ยนะ!
ฉันเม้มริมฝีปากแน่น ถอนหายใจออกมา ฉันเป็นผู้หญิงพลังบวกที่กล้าจะชนกับปัญหา และเพราะฉันสงสัยมาก... มากเกินไป ฉันเลยตัดสินใจ
ทักไปหาผู้หญิงคนนั้นเลย
Shoujai Chutimon : สวัสดีค่ะ
อีกฝ่ายกดอ่านทันทีเหมือนรู้ว่าฉันจะทักมา ผู้หญิงคนนั้นตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว
เค้ก’ เค้ก : คะ
ภาษาวิบัติที่ดูเหมือนจะเป็นผู้หญิงแรงๆ หน่อยทำให้ฉันขมวดคิ้ว รู้สึกลังเลที่จะโต้ตอบกับเธอ แต่สุดท้ายเพราะความสงสัย ฉันก็เลยเลือกที่จะไฟต์
Shoujai Chutimon : คือ เราอยากถามอะไรหน่อยได้มั้ย
เค้ก’ เค้ก : อืม ว่ามาดิ
Shoujai Chutimon : เธอเป็นอะไรกับโหนเหรอ
ผู้หญิงคนนั้นปล่อยช่องแชทเงียบไปสักพัก ก่อนที่ข้อความจะขึ้นจุดสามจุดที่เคลื่อนไหวเหมือนว่าเธอกำลังพิมพ์อยู่ แต่ก็ลบไปหลายครั้ง เหมือนว่าเธอลังเลกับคำตอบมากเลยทีเดียว
แต่พอเธอตอบกลับมาด้วยคำตอบสุดเรียลเท่านั้นล่ะ
เค้ก’ เค้ก : เราเคยคบกับโหน แล้วตอนนี้ก็กำลังจีบมันอยู่
เค้ก’ เค้ก : เห็นช่วงนี้โหนเองก็ชอบไปรับไปส่งเธอ เธออ่ะเป็นอะไรกับโหน
ฉันอึกอักไปเมื่อเธอย้อนคำถามกลับมา จะว่ายังไงดีล่ะ คำตอบของเธอมันทำให้ฉันรู้สึกหน้าชาไปเลย อึกอักที่จะตอบกลับไปว่าฉันกับโหนเป็นอะไรกัน มือที่ถือโทรศัพท์ก็สั่นไปหมด สุดท้ายก็เสียไม่ได้ต้องพิมพ์ตอบกลับไปด้วยความเจ็บใจ
Shoujai Chutimon : เป็นแค่เพื่อนค่ะ
เธออ่านแล้วไม่ตอบ ฉันจึงเอามือมาลูบหน้าตัวเอง
นั่นก็เท่ากับว่าโหนจีบฉัน แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ไม่ปฏิเสธการจีบของผู้หญิงที่เคยเป็นแฟนเก่าของเขาอีกคน นั่นก็แปลว่าเขาเองก็ไม่ได้จริงจังอะไรกับฉันเลยสักนิด
หน็อย
ตึง!
ฉันเผลอกระแทกโทรศัพท์ลงกับโต๊ะเรียนเสียงดังจนคนหันมามองไม่เว้นแม้แต่อาจารย์ ฉันชะงักไป ก่อนที่จะคลี่ยิ้มแหยๆ แล้วโบกมือไปมาว่าไม่มีอะไรค่ะจนพวกเขาหันกลับไป ส่วนอาจารย์ก็กลับไปสอนต่อเหมือนเดิม
วินาทีนั้นฉันจึงกลับมาทำหน้าบูดบึ้งอีกครั้ง ให้ตายสิ เพราะโหนอีกแล้วที่ทำให้ฉันเผลอตัวไปได้ขนาดนี้
แต่ตอนนี้ฉันสาบานเลย
ฉันจะไม่หวั่นไหวกับผู้ชายแบบเขาอีกแล้ว
“อะ!” เธอหลุดครางเสียงดังนิดหน่อยเมื่อผมดูดดึงหน้าอกเธอผ่านผ้า ผมไม่อยากถอดอะไรในตัวเธอออก เพราะตอนนี้ถึงมันจะมืดมาก แต่ก็เป็นที่สาธารณะ แม้ว่าผมจะแทบทนไม่ไหวแล้วก็ตามผมดูดจนผ้าเธอเปียกน้ำลาย เห็นรอยยอดอกสีชมพูเข้มจางๆ ที่ดูเหมือนจะเข้มกว่าตอนที่เป็นแฟนกันเพราะเธอมีลูกแล้ว ผมจูบปากชูใจอย่างดูดดื่ม แลกลิ้นให้กัน ในขณะที่จะกัดปากเธอจนห้อเลือด“อื้อ โหน” เธอครางแล้วเริ่มจูบผมตอบกลับมา ผมถูกเธอผลักจนกึ่งนั่งกึ่งนอน ชูใจที่ถูกเลิกเสื้อจนเห็นชั้นในถอดเสื้อผ่าหลังออกทางศีรษะ แล้วขึ้นคร่อมผมอย่างใจกล้า “... จะไม่ให้ไปไหนแล้วนะ”เธอพูดแบบนั้น ผมจ้องหน้าเธอ เวลาผ่านไปเกือบปีชูใจเปลี่ยนไปขนาดนี้เชียวเหรอวะ ทั้งเซ็กซี่ ทั้งร้อน...“... อึก” ผมครางออกมาเบาๆ ในลำคอเมื่อถูกไล้ปลายนิ้วไปตามช่วงท้อง ชูใจเลิกเสื้อผมขึ้น ในขณะที่ใบหน้าจิ้มลิ้มก็เลื่อนมาดูดปากผมอย่างแนบแน่นเธอจูบเก่งจังวะ เคลิ้มเลยเนี่ย“อื้อ” แต่มือผมก็ไม่ปล่อยให้ว่าง ผมขยำหน้าอกเธอแรงๆ จนชูใจกระตุกนิดๆ เธอถูกผมต้อนจนมุมเหมือนอย่างเคย ในขณะที่ผมจะจงใจย้ำฝ่ามือลงหนักขึ้นแต่ใช่ เธอเองก็ร้ายใช่ย่อยมือเล็กๆ ของชูใจเลื่อนไปขยุ้มที่ใจกลาง
ฉันกลับมาแล้วล่ะจริงๆ ก็เพิ่งบินลงมาที่กรุงเทพเมื่อไม่กี่ชั่วโมงมานี่เอง ฉันกลับมาพร้อมกับลูก อุ้มลูกบินข้ามน้ำข้ามทะเลจากญี่ปุ่นมาที่ไทย เพื่อกลับมาสู่ชีวิตเดิมๆ ที่เคยเป็นอยู่พ่อแม่ดูดีใจที่เห็นหลาน แม้ว่าเวลาเกือบปีจะทำให้พวกเขาแทบไม่ค่อยเปลี่ยนไปก็ตาม แต่ไม่ได้บังคับอะไรฉันมากมายเหมือนเมื่อก่อนแล้ว อีกอย่างตอนที่ฉันตัดสินใจบินไปที่ญี่ปุ่นกับพี่ชาย ฉันเข้าร่วมงานการ์ตูน ออกบู้ทมากมายเพื่อปรับปรุงฝีมือตัวเองที่ทิ้งหายไปนาน โดยมีพี่ชุนคอยดูแลบำรุงฉันที่ท้องโตขึ้นเรื่อยๆ อยู่เสมอฉันไม่ใช่นักวาดการ์ตูนที่ดังที่สุดในญี่ปุ่น แต่ก็พอมีคนรู้จักทั้งต่างประเทศ ญี่ปุ่น และประเทศไทย นามแฝงของฉันคือ ‘Peach’ฉันเริ่มทำงานด้วยการวาดสีน้ำขาย ก่อนที่จะปรับปรุงมาซื้ออุปกรณ์สำหรับวาดภาพในคอมพิวเตอร์ เม้าท์ปากกา โปรแกรมวาดรูปอะไรต่างๆ ที่ต้องซื้อมาอ้อ ฉันสักแบบมินิมอลเล็กๆ ตามจุดต่างๆ ของร่างกายด้วยนะ ขออนุญาตพี่ชายแล้วล่ะ มันก็ดูน่ารักดีเหมือนกัน มุมมองของฉันที่เคยมีต่อคนสักเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงเลย ตั้งแต่มาคบกับโหน ฉันก็สนใจอะไรที่ตัวเองไม่ค่อยจะได้สัมผัสมากขึ้นอีกอย่างได้เรียนรู้แฟชั่นของญี่ปุ่
[พาร์ท : โหน]เป็นเกือบปีที่โคตรทรมานใช้ได้ถามว่าทำไมก็ตั้งแต่ที่ไปเคลียร์กับไอ้ลูกโชนวันนั้น มันก็ถอนหมั้นชูใจทันที แต่สาเหตุก็คงเพราะชูใจยังตั้งท้องกับผม ผมไม่รู้ว่ามันได้สารภาพเรื่องที่มันคบซ้อนหรือไม่ แต่ผมไม่สนเท่าไหร่ ขอแค่มันถอนหมั้นก็เป็นพอจะบอกว่าลูกทำให้ผมมีแรงผลักดันโง่ๆ ในเฮือกสุดท้ายก็ได้ และแม่งก็คงโง่จริงๆ เพราะหลังจากที่พ่อแม่เรียกชูใจมาคุยเรื่องที่ไอ้ลูกโชนถอนหมั้น ชูใจก็ตัดสินใจกลับต่างประเทศไปกับพี่ชายเธอ เห็นสายเพื่อนผมมันบอกมาว่าเธอจะอยู่ที่นั่นเป็นปีๆ จนกว่าจะคลอดลูก... ไม่รู้เธอจะกลับมาอีกมั้ยผมกระดกเหล้าลงคอ หลังจากวันนั้นก็ขอมาทำงานในร้านเหล้ากับพ่อ ทำมาได้เกินเกือบปีแล้วว่ะ แต่เป็นเกือบปีที่ผ่านไปได้อย่างยากลำบากผมไม่ได้เหนื่อยกับการรอคนที่ผมรัก เพราะตอนที่แอบรักเธอตอนสมัยเรียน ผมก็ทนมันได้เป็นปีๆแต่ความคิดถึงนี่ดิ มันผ่านยากมากว่ะผมนั่งคิดถึงเธอทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นเวลาทำงาน เวลานอน ทุกวินาทีลมหายใจผมมีแต่ชูใจคนเดียวเท่านั้น ผมตัดสินใจเลิกยุ่งกับใครๆ เพราะผมจะกลับมาหาเธออย่างเด็ดขาดแต่เธอหายไปในที่ที่ไกลเกินเอื้อมถึง เอาตรงๆ ก็ไม่มีเงินตามเธอไปด้วย ไม
ผมมาดักรอไอ้ลูกโชนที่ร้านเหล้าเดิมๆ มาเพื่อจะคุยกับมัน เพราะถ้ามันยังคิดจะยื้อชูใจไว้ต่อไป ผมก็ไม่ไว้หน้าเหมือนกันผมเห็นว่ามันโอบเอวแฟนตัวจริงมาด้วยกัน ผู้หญิงคนนั้นเป็นคนที่ผมค่อนข้างไม่คุ้นตา เธอสวย แต่คงไม่เท่าชูใจของกูผมยืนดูดบุหรี่รอ พวกมันเดินไปเต้นที่โต๊ะด้วยกัน ท่าทางกระหนุงกระหนิงทำให้ผมรู้สึกเดือดดาล เป็นครั้งแรกที่รู้สึกอยากต่อยหน้ามันให้เละ แม้ว่าจากที่เคยสืบมา ตัวผมเองคงสู้กำลังมันไม่ได้ก็ตามจนมันย้ายมานัวเนียกันตรงจุดเดิม ผมเลยถือวิสาสะเดินไปขัด“ไอ้ลูกโชน” มันผละปากจากซอกคอของผู้หญิง ก่อนที่จะเลิกคิ้วมองผม ดูเหมือนไอ้ลูกโชนจะเมา“เหี้ยไร? มึงเป็นใคร” ผู้หญิงมองผมอย่างหวาดกลัว ผมแค่นหัวเราะที่มันเมามายจนจำหน้าผมไม่ได้ ก่อนที่จะผลักตัวหนาๆ ของมันจนเซไปทีนึง เพราะไอ้เวรนี่เมามากจนไม่มีสมรรถภาพจะพยุงร่างตัวเองได้เลย“กูมีเรื่องจะคุยกับมึง”“...”“ตัวต่อตัว”“มึงมีไรจะคุยกับกูวะไอ้ขี้ก้าง” ไอ้ลูกโชนพูดอย่างเหยียดหยาม มันมองหน้าผมที่จ้องหน้ามันกลับไปอย่างแน่วแน่ ผมเองก็พร้อมเหมือนกัน ถึงจะรู้ว่าสุดท้ายผมอาจจะสู้มันไม่ได้ก็ตาม“เรื่องชูใจ” ผมตอบไปสั้นๆ มันแค่นหัวเราะทันที“
“เราทนใช้ชีวิตที่ไม่มีเธอไม่ได้ว่ะ” ผมกัดฟันแน่น เขย่าไหล่เธอเบาๆ อย่างออมแรง “ทั้งชูใจ ทั้งลูก เราต้องมีมันจริงๆ”“...”“ถ้าไปไม่ไหว ก็ขอให้คิดใหม่” ชูใจที่สบตาผมในระยะใกล้ ดวงตากลมโตของเธอเต็มไปด้วยน้ำตา เธอมองหน้าผม ก่อนที่จะเม้มริมฝีปากแน่นและก่อนที่เธอจะได้อ้าปากตอบอะไรกลับมา ความใจร้อนของผมที่อยากได้เธอกลับมาก็ทำให้ผมเลื่อนหน้าเข้าไปจูบเธอหนักๆ ปากที่นุ่มละมุนของชูใจทำให้ผมกุมใบหน้าเธอไว้ ก้มหน้าลงอีกเมื่อรู้ตัวว่าตอนนี้ความสูงเรามันต่างกันเกินไปชูใจพยายามดันอกผมออก ทึ้งเสื้อผมจนมันยับ เธอพยายามดิ้นรนทุกทางที่จะทำให้เธอไม่ทรยศต่อความรักของไอ้ลูกโชน แต่ผมรู้ดี ความรักของแม่งมันเป็นของปลอมทั้งเพถ้าเธอยังเชื่อไอ้เหี้ยนั่นที่มันตอแหลสร้างภาพมาว่ารักหลงเธอนักหนาแบบนั้นลง ผมก็ขอยอมเป็นคนเลวซะดีกว่า ที่จะต้องพยายามทำให้เธอท้องอีกทีในคืนนี้สติผมเลือนราง พอๆ กับแรงผลักไสของชูใจที่เริ่มอ่อนลง ผมไล้ปากของผมไปตามปากเล็กๆ ของเธอ กัดปากล่างของร่างเล็กแล้วช้อนตัวเธอขึ้นอุ้มตัวชูใจเล็กแถมเบาหวิว จนสงสัยว่าหลังจากเลิกกันเธอได้กินอะไรลงบ้างมั้ย ผมลืมตามองเธอระหว่างที่กำลังจูบซับน้ำตาให้เธอตอ
แกรกฉันรีบเปิดประตูออกไปอย่างลืมตัว ด้วยความรู้สึกทั้งหมดที่มี ฉันเห็นว่าเป็นโหนในลุคที่ดูต่างไปจากเคย เกือบเดือนที่ไม่ได้เจอกัน เขาเปลี่ยนแปลงทั้งสีผม รอยสักที่เพิ่มมากขึ้น และการแต่งตัวโหนที่ยืนจ้องหน้าฉันอยู่ที่หน้าประตู ฉันจ้องตาเขากลับไปเช่นกันแต่สิ่งที่ปรากฏในแววตาของเขา ฉันเห็นว่ามันเต็มไปด้วยความ... โหยหา?“... มาทำไมเหรอ” ฉันถามยิ้มๆ พยายามทำตัวเป็นปกติที่สุดกับเขา ยังไงก็ยังอยากเป็นเพื่อนเขาอยู่นะ ถึงเขาจะเริ่มต้นใหม่ไปแล้วก็ตามฉันคงเหมือนผู้หญิงโง่ๆ คนหนึ่ง ที่ผลักเขาออกไป ทำเหมือนโกรธเขาซะมากมาย แต่สุดท้ายก็โกรธไม่ลง แถมยังขาดเขาไม่ได้อยู่แบบนี้อีกโหนมองหน้าฉัน เขาฉีกยิ้มบางๆ กลับมา“คิดถึงเฉยๆ”“...!”“ผิดมั้ย ถ้ายังคิดถึงเธอ”ฉันนิ่งค้างไป นึกคำพูดออกมาไม่ได้เลย กลิ่นแอลกอฮอล์จากตัวเขาบ่งบอกว่าโหนคงจะเมา เพราะเขาเมาใช่มั้ย... เขาถึงมาที่นี่แต่ก็เพราะเมาอีกนั่นล่ะ ไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้นเลย“ผิดสิ” ฉันตอบกลับไป ทั้งๆ ที่ในใจสั่นไหวจนแทบบ้า นี่มันผ่านไปกี่วันแล้วนะ ที่ฉันไม่ได้ยินคำนี้จากเขา “เรามีแฟนแล้วนะ โหนก็มีแฟนแล้วเหมือนกัน”“...”“ถ้าแฟนโหนรู้ว่าโหนมาหาเรา...







