Se connecterสามปีก่อน ฉันเป็นสมาชิกทีมสำรวจทางวิทยาศาสตร์ที่มีอนาคตไกลที่สุด แต่หลังจากที่เข้าไปในแอนตาร์กติกา ฉันกลับถูกคนรักของกู้จิ่นเซิน ผู้ชายที่เป็นคู่หมั้นของฉันฆ่าตาย เธอขโมยเสบียงและกรีดใบหน้าของฉันจนเละ ก่อนจะผลักฉันตกเรือ มันน่าเศร้าตรงที่ตอนฉันตาย ฉันกำลังท้องลูกคนที่สองของฉันและกู้จิ่นเซินอยู่ แต่เมื่อทีมกู้ชีพมาถึง เธอกลับกล่าวหาว่าฉันขโมยเสบียงของเธอและกระโดดน้ำหนีความผิดไป กู้จิ่นเซินเป็นคนเขียนรายงานด้วยตัวเอง และลบชื่อฉันออกจากทีมสำรวจ ตั้งแต่นั้นฉันก็กลายเป็นที่รังเกียจของทุกคนในทีม จนกระทั่งสามปีต่อมา ก็มีคนพบศพที่ถูกแช่แข็งเป็นเวลานานของฉัน
Voir plusในวันที่ห้าหลังจากกู้จิ่นเซินขังตัวเองในบ้าน ในที่สุดก็มีข่าวส่งมา“กู้จิ่นเซิน นายอาจจะต้องทำใจไว้นะ” ปลายสายเป็นเสียงของอาจารย์อู๋คุนที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้า“หลังจากการตรวจดีเอ็นเอพบว่าบนเรือมีรอยเลือดของเสี่ยวเยว่… ไป๋เวยเวยก็ยอมรับสารภาพแล้ว…”“ตอนนั้นไป๋เวยเวยพยายามขโมยเสบียงและหนีไป แต่เสี่ยวเยว่พบเข้าก่อน เธอจึง…”“คาดว่าเธอจะถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต”เมื่อพูดถึงตรงนี้ เสียงของอาจารย์อู๋คุนก็เริ่มสั่น “ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เราเข้าใจเสี่ยวเยว่ผิดมาตลอด…”กู้จิ่นเซินยอมรับผลนั้นด้วยอารมณ์ที่นิ่งสงบ “ครับ ผมเข้าใจแล้ว”พูดจบ เขาก็วางสายไป และเป็นครั้งแรกในหลายวันที่เขาออกจากบ้านทันทีที่ไป๋เวยเวยเห็นกู้จิ่นเซิน แววตาของเธอก็เป็นประกายขึ้นมา “กู้จิ่นเซิน คุณมาช่วยฉันใช่ไหม?”กู้จิ่นเซินไม่ตอบคำถามนั้น แต่ถามกลับ “ไป๋เวยเวย ตอนที่คุณฆ่าเสี่ยวเยว่ คุณกลัวไหม? คุณเสียใจบ้างไหม?”ไป๋เวยเวยมองกู้จิ่นเซินผ่านกระจก ใบหน้าของเธอนิ่งไป“คุณมาเพื่อพูดเรื่องพวกนี้เหรอ?”“ฉันจะบอกให้ก็ได้ ฉันไม่เคยเสียใจเลย เธอมีสิทธิ์อะไรถึงได้ทำงานในทีมวิจัยอย่างราบรื่น ทำไมทุกคนถึงรักเธอ แล้วเธอม
กู้จิ่นเซินไล่ทุกคนออกไปและขังตัวเองไว้ในห้องเก็บของคนเดียว ห้องเก็บของเต็มไปด้วยฝุ่น กู้จิ่นเซินดึงกล่องใบหนึ่งออกมาจากมุมที่ลึกที่สุด ของที่อยู่ในกล่องมีไม่มากนัก ล้วนเป็นสิ่งของที่ฉันเคยให้กู้จิ่นเซิน สิ่งที่วางอยู่บนสุดคือกำไลหยก มันเป็นกำไลที่แม่ของกู้จิ่นเซินสวมให้ฉันด้วยมือตัวเองก่อนที่ท่านจะจากไป“เสี่ยวเยว่ ฉันจะต้องไปแล้วนะ จากนี้เธอกับเสี่ยวเซินต้องดูแลกันให้ดีนะ!”ตอนนั้นฉันตอบว่ายังไงนะ? ฉันตอบเธอว่า “คุณป้าสบายใจได้เลยค่ะ! ฉันจะอยู่กับกู้จิ่นเซินไปอีกนานแน่นอน คุณป้าไม่ต้องห่วง!”แต่สุดท้ายฉันก็ไม่สามารถเดินไปกับกู้จิ่นเซินจนสุดทางได้ ไม่มีคำแก้ตัวใด ๆ ให้แม่ของเขากู้จิ่นเซินจ้องกำไลหยกอันนั้น สีหน้าของเขาแสดงอาการปวดร้าว มือที่สั่นเทาพยายามเอื้อมไปหยิบกำไลขึ้นมา แต่ยิ่งยื่นมือออกไป มือของเขาก็ยิ่งสั่นมากขึ้น ทำให้กำไลหลุดมือและตกลงไปบนพื้นจนแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ รอยแตกบนกำไลก็เหมือนรอยแผลบนร่างกายของฉัน“เสี่ยวเยว่…” กู้จิ่นเซินคุกเข่าลงกับพื้น ร้องไห้อย่างหนักเหมือนกับว่าเขาได้เก็บความรู้สึกนี้มานาน ฉันนั่งอยู่ข้าง ๆ เขา มองดูเขาร้องไห้เพราะฉันด้วย
เมื่อเขาพูดจบ ทุกคนต่างก็นิ่งอึ้งไป ไม่มีใครพูดอะไรออกมา“พาใคร…กลับมา?” ไป๋เวยเวยถามฉันมองไป๋เวยเวย เธอตื่นตระหนกจนมือสั่นเทา เธอขบริมฝีปากแน่นกู้จิ่นเซินมีสายตาอ่านได้ยาก เขาถามซ้ำขึ้นอีกครั้ง “ในภารกิจครั้งนี้ พวกเขานำศพใครบางคนกลับมาด้วย”“คนนั้นก็คือเจียงหวยเยว่”“คุณบอกว่าเจียงหวยเยว่หนีไป แต่ทำไมศพของเธอกลับอยู่ที่แอนตาร์กติกา?”ไป๋เวยเวยพยายามหาข้อแก้ตัว “อาจจะเป็นเพราะตอนเธอหนีไป…”“เธอหนีไปแล้วมีเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้นจนเธอถึงแก่ชีวิต?” กู้จิ่นเซินหัวเราะเบา ๆ “แล้วทำไมตอนตาย เธอถึงมีบาดแผลทั่วทั้งตัว?”“ใบหน้า ลำคอ และท้องเต็มไปด้วยรอยมีด”“สิ่งที่สามารถยืนยันตัวตนของเธอได้ถูกเก็บไปจนหมด…”เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ เสียงของกู้จิ่นเซินก็เริ่มสั่น“เวยเวย คุณจะให้ผมเชื่อคุณได้ยังไง?”“กู้จิ่นเซิน นายพูดจริงเหรอ?” อาจารย์อู๋คุนลุกขึ้น และถามด้วยความไม่อยากจะเชื่อท่ามกลางสายตาของทุกคนที่มองมา กู้จิ่นเซินพยักหน้าอย่างเจ็บปวด“เสี่ยวเยว่คือคนที่พวกนายพากลับมาในครั้งนี้…”อาจารย์อู๋คุนทรุดตัวนั่งลงกับพื้น “หรือว่า…หรือว่าหลายปีที่ผ่านมา พวกเราเข้าใจเสี่ยวเยว่ผิดมาตลอด?”
กู้จิ่นเซินมองร่างของฉันอยู่นาน และในตอนที่ฉันกำลังจะคิดว่าเขาคงมองอยู่อย่างนั้นต่อไป จู่ ๆ เขาก็ลุกขึ้น ดึงซิปขึ้นปิด และนำฉันกลับไปวางไว้ที่เดิม เขาหยิบกุญแจและกลับบ้านทันทีแต่ทันทีที่เขาเปิดประตูบ้าน สิ่งที่ต้อนรับเขาก็คือหมัดหนัก ๆ ที่พุ่งเข้ามา “กู้จิ่นเซิน พี่ยังเป็นคนอยู่หรือเปล่า ทำไมถึงทิ้งพี่เวยเวยไว้คนเดียวกลางงานแต่งแบบนั้น?”“พี่รู้ไหมว่าตอนนั้นมีคนหัวเราะเยาะเธอมากแค่ไหน?” คนที่ต่อยกู้จิ่นเซินคือต้าจ้วง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความไม่พอใจที่มีต่อกู้จิ่นเซินแต่กู้จิ่นเซินราวกับไม่ได้ยินสิ่งที่อีกฝ่ายพูด เขาเดินเข้าบ้านไปเงียบ ๆ “กู้จิ่นเซิน ถึงนายไม่อยากจะแต่งงานกับลูกบุญธรรมของฉัน แต่นายก็ไม่ควรจะทำแบบนี้!” อาจารย์อู๋คุนตบโต๊ะเสียงดังลั่นฉันดูเหตุการณ์ทั้งหมดด้วยความรู้สึกเฉยชา ทุกคนกำลังปกป้องไป๋เวยเวยที่เสียใจอยู่กู้จิ่นเซินนั่งลงตรงข้ามไป๋เวยเวย โดยไม่มีคำขอโทษสักคำ“ไม่เป็นไรหรอกค่ะพ่อบุญธรรม กู้จิ่นเซินมีงานด่วน ฉันเข้าใจ!” ไป๋เวยเวยยิ้ม พร้อมทั้งทำท่าทีเป็นคนใจกว้างเข้าอกเข้าใจผู้อื่น“เวยเวย แผลของคุณยังเจ็บอยู่ไหม?”จู่ ๆ กู้จิ่นเซินก็เอ่ยถ