Share

บทที่ 161

Author: จิ้งซิง
เมื่อเขากล่าวจบ แล้วจัดแจงเสื้อผ้า จากนั้นก้าวขาอย่างมั่นคงเข้าไปในจวนเจิ้นกั๋วกง เพื่อไปตามธิดาศักดิ์สิทธิ์ของเขา

เวินเฉวียนเซิ่งที่ไม่เข้าใจคำพูดของเป่ยเฉินหยวนขมวดคิ้ว

ในใจยังคงระแวง “เจ้าเป่ยเฉินหยวนจำต้องตามเวินซื่อมาให้ได้ตกลงต้องการทำสิ่งใด?”

ในไม่ช้า เวินเฉวียนเซิ่งได้รู้คำตอบอย่างรวดเร็ว

เวินซื่อกับเป่ยเฉินหยวนเข้ามาในจวนเจิ้นกั๋วกง เมื่อนั่งลงจึงเอ่ยถาม “ใต้เท้าเจิ้นกั๋วกง ตอนนี้ข้ากับอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนมาถึงแล้ว บังอาจถามสักคำคนสกุลเวินอยู่ในจวนทั้งหมดหรือไม่?”

เวินเฉวียนเซิ่งขมวดคิ้วเล็กน้อยกลับท่าทีการถามของเวินซื่อ แต่เนื่องด้วยเป่ยเฉินหยวนอยู่ข้างกาย สุดท้ายเขาไม่ได้ว่าอะไร

“นอกจากบุตรชายคนโตฉางอวิ้นและบุตรชายคนรอง คนอื่นล้วนอยู่ในจวน”

เวินฉางอวิ้นและเวินจื่อเฉินล้วนไปขอลาหยุด

พวกเขาคนหนึ่งเป็นขุนนางในราชสำนัก อีกคนยังเล่าเรียนอยู่ในสำนักศึกษา

เมื่อคืนเวินจื่อเยวี่ยถูกพิษจนหมดสติกะทันหัน ในครอบครัวน้องชายล้มลงสองคน ในฐานะพี่ใหญ่และพี่รองเวินฉางอวิ้นกับเวินจี่อเฉิงย่อมต้องกลับมาดูแลที่บ้าน

ดังนั้นทั้งสองคนจึงไปขอลาหยุดตั้งแต่เช้า

“เพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าใจผิด
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter
Mga Comments (1)
goodnovel comment avatar
พรนภา
จัได้เห็นเจิ้นกั๋วกงหน้าแหกหมอไม่รัย55555
Tignan lahat ng Komento

Kaugnay na kabanata

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 162

    อยากคลี่คลายเรื่องนี้นั้นง่ายมาก เวินซื่อแทบไม่ต้องคิดก็รู้ว่าพิษที่ทำให้เวินจื่อเยวี่ยกระอักเลือดหมดสติใครเป็นคนลงมือในงานเลี้ยงเมื่อคืน เวินจื่อเยวี่ยดูเหมือนยังดี ๆ อยู่ เพราะฉะนั้นพิษที่ว่าเขาอาจจะโดนตอนกลับมาแล้วก็ได้ตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้ ภายในเวลาอันสั้น คนที่ลงมือวางยาพิษไม่น่าจะสามารถลบร่องรอยทั้งหมดออกไปได้ดังนั้นตอนนี้วิธีที่ง่ายที่สุดคือตรวจค้นทันที“เป็นไปไม่ได้!”เมื่อได้ยินคำขอของเวินซื่อ เวินเฉวียนเซิ่งปฏิเสธอย่างไม่ลังเล“จวนเจิ้นกั๋วกงของข้าใช่ว่าใครที่ไหนอยากตรวจค้นก็สามารถค้นได้ ต่อให้อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนอย่างท่านก็ไม่มีอำนาจนั้น!”เป่ยเฉินหยวนแค่นหัวเราะ เขาเตรียมเอ่ยปาก แต่เวินซื่อที่อยู่ข้างกันดึงชายเสื้อเขากะทันหันเป่ยเฉินหยวนนิ่งไปครู่หนึ่ง แต่ไม่ได้ว่าอะไรส่วนคนที่กล่าวแทนเขาคือเวินซื่อเวินซื่อยิ้ม “อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนย่อมไม่มีอำนาจนั้น แต่ขอใต้เท้าเจิ้นกั๋วกงโปรดมองสถานะตอนนี้ของท่านให้ชัดเจน ไม่ใช่ข้ากับท่านอ๋องที่ต้องการมาจวนเจิ้นกั๋วกงให้ได้ แต่ท่านเป็นคนขอร้องให้พวกเรามา”“น้องห้า เหตุใดจึงปฏิบัติต่อท่านพ่อเช่นนี้...”เวินฉางอวิ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 163

    แต่หลังจากเวินซื่อได้ยินคำพูดของเขา กลับส่ายหน้า “ไม่ต้อง ข้ารู้ว่าใครเป็นคนวางยาพิษ ดังนั้นครั้งนี้ข้าจัดการเอง”นางไม่เพียงจะจัดการเรื่องนี้ แต่จะจัดการผู้อยู่เบื้องหลังที่อวดดีคนนั้นด้วยท้าทายนางครั้งแล้วครั้งเล่า คิดว่านางเป็นแมวป่วยหรืออย่างไร?หากไม่สั่งสอนให้เข็ดหลาบเสียบ้าง เกรงว่าภายหลังคงไม่จบไม่สิ้นกันสักทีดังนั้นบทสรุปสุดท้ายคือ เวินซื่อมา เป่ยเฉินหยวนที่ไม่วางใจจึงตามมาด้วย“แน่นอน ใต้เท้าเจิ้นกั๋วกงสามารถปฏิเสธคำขอของข้าได้ แต่ท่านต้องตรึกตรองให้ดี อาการของคุณชายสามดูเหมือนจะหนักหนาสาหัส ก็ไม่รู้ว่าจะยืนหยัดได้อีกนานเท่าใด?”มุมปากเวินซื่อยกขึ้นเล็กน้อยยามนี้ทั้งที่นางสวมชุดสีฟ้าทะเล แต่วาจาที่กล่าวออกมากลับโหดร้ายทารุณกายสวมชุดโพธิสัตว์ ปากคาบดาบเปื้อนเลือดเมตตาหรือ?เมื่อมองเวินซื่อที่เป็นเช่นนี้ จิตใจเป่ยเฉินหยวนรู้สึกเพียงหวาดหวั่นไม่น้อยหัวใจที่อยู่ตรงหน้าอกยิ่งเต้นตึกตักระรัวไม่หยุดทั้งที่ก่อนหน้านี้สวดมนต์ให้เขาฟัง ยังบริสุทธิ์ไร้ราคี ราวกับเทพธิดามาเยือนโลกมนุษย์ทว่าเวินซื่อในยามนี้ยิ่งทำให้เขาไม่อาจถอนตัวเป่ยเฉินหยวนเผลอลูบหน้าอกตัวเองแย่

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 164

    “หงอวี้ ด้านนอกเกิดเรื่องอะไรขึ้น เหตุใดด้านนอกจึงเอะอะเสียงดัง?”ภายในห้องของเวินอวี้จือ เวินเยวี่ยนั่งอยู่ข้างเตียง ขมวดคิ้วเอ่ยถามอย่างไม่สบอารมณ์หงอวี้ย่อตัว “บ่าวจะออกไปดูเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ”เพิ่งจะเดินไปถึงหน้าประตูห้อง นอกเรือนมีคนจำนวนหนึ่งเดินเข้ามา แต่ละคนสวมชุดเกราะสีดำ มีดาบตรงเอว ท่าทางดุดัน ทำให้หงอวี้ตกใจจนหน้าซีด“พวกเจ้าเป็นใคร? ที่นี่คือเรือนของคุณชายสี่แห่งจวนเจิ้นกั๋วกง พวกเจ้าบุกเข้ามาทำไม? !”“ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนกับธิดาศักดิ์สิทธิ์เรียนเชิญ ให้คุณชายสี่และคุณหนูหกของพวกเจ้าไปเรือนส่วนหน้ากับพวกเรา”เวินเยวี่ยที่ได้ยินความเคลื่อนไหวผิดปกติรีบออกมาตรวจดู พลันได้ยินเข้าพอดี สีหน้านางเปลี่ยนเล็กน้อย “อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนหรือ?”เหตุใดชายผู้นั้นจึงมาอีกแล้ว?เวินเยวี่ยรู้แต่แรกว่าวันนี้เวินเฉวียนเซิ่งต้องพาตัวเวินซื่อกลับมาแน่นอน เพราะนี่คือแผนการของนางตั้งแต่แรกรอให้เวินซื่อกลับมาถึง นางจึงจะโยนความผิดเรื่องวางยาพิษทำร้ายพี่ชายไปให้เวินซื่อทั้งหมดแต่นึกไม่ถึงว่าอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนจะตามมาด้วยเวินเยวี่ยกัดฟันกรอด แล้วเข้าไปสอบถาม “ไม่ทราบว่าท่านอ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 165

    สำหรับการกระทำเล็กน้อยของนาง เวินซื่อได้แต่แค่นเสียง ไม่ได้อยู่ในสายตาเพราะตอนนี้เป็นเพียงการสั่งสอนเล็กน้อยเท่านั้น ต่อไปถึงจะเป็นรางวัลชิ้นใหญ่ที่นางมอบให้เวินเยวี่ย“ในเมื่อทุกคนมาครบแล้ว เช่นนั้นเริ่มกันเถอะ”เวินซื่อกล่าวเสียงเรียบ ตั้งแต่ต้นจนจบ นางไม่มองเวินจื่อเยวี่ยกับเวินอวี้จือบนพื้นแม้แต่ครั้งเดียวท่าทีเช่นนี้ทำให้เวินจื่อเฉินรู้สึกขมขื่นอยู่ในใจอย่างอดไม่ได้เป่ยเฉินหยวนหันมองเวินเฉวียนเซิ่ง “เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการเข้าใจผิดที่ไม่จำเป็น จากนี้ต้องรบกวนเจิ้นกั๋วกงไปตรวจค้นพร้อมข้า”เวินเฉวียนเซิ่งไม่พูดสิ่งใดแต่ในใจเวินเยวี่ยกลับกระตุกวาบ นางเอ่ยถามโดยแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง “ท่านพ่อ คนมากมายขนาดนี้จะทำสิ่งใดเจ้าคะ?”เวินเฉวียนเซิ่งถึงได้เอ่ยขึ้น “ท่านอ๋องกับธิดาศักดิ์สิทธิ์สงสัยว่าคนวางยาพิษอยู่ในจวน ดังนั้นจึงต้องตรวจค้น”สีหน้าเวินเยวี่ยเกือบจะควบคุมเอาไว้ไม่อยู่อะไรคือคนวางยาพิษอยู่ในจวน?ไม่ได้ชัดเจนว่าเป็นเวินซื่อแล้วหรือ?ทำไมออกไปเพียงครั้งเดียว ก็กลายเป็นต้องค้นจวนแล้วล่ะ? !ในใจเวินเยวี่ยเกิดลางสังหรณ์ที่ไม่ดีทันทีนางนึกย้อนไปอย่างละเอียดเ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 166

    กระจกร้าวยากจะเหมือนเดิม...เวินจื่อเฉินชะงักอยู่ที่เดิมเขาไม่ต้องการคำนี้เขาต้องการกระจกร้าวกลับมาเหมือนเดิม จะกลายเป็นยากจะเหมือนเดิมได้อย่างไร?คำตอบนี้ทำให้เวินจื่อเฉินปวดใจ จนแทบจะยืนไม่ติดของขวัญที่เขามอบให้เวินซื่อคือกระจกหยกลายหงส์และนางฟ้าหนึ่งบาน อย่าว่าแต่เมืองหลวง ทั่วทั้งราชวงศ์ต้าหมิงก็มีเพียงไม่กี่บานเขารู้ตัวว่าทำให้น้องสาวไม่พอใจ น้องสาวจึงโกรธเขามากดังนั้นเขาแทบจะทุ่มหมดตัวเพื่อแลกมาจากสหาย ก็เพื่อมอบให้เวินซื่อเขาคิดว่า บางทีเช่นนี้อาจทำให้น้องสาวหายโกรธได้บ้าง?หากน้องสาวสามารถเข้าใจความหมายที่แฝงอยู่บนของขวัญ จะยิ่งดีมากแต่เขานึกไม่ถึง เวินซื่อเข้าใจได้จริง ๆ แต่คำตอบที่เขาได้รับกลับทำให้เวินจื่อเฉินหวาดกลัว“ไม่ เพราะของขวัญไม่ดี พี่รองไม่เลือกให้ดี...”เวินจื่อเฉินมองเวินซื่อแล้วส่ายหน้าไม่หยุด เขาฝืนยิ้มพร้อมกล่าว “น้องห้าอย่าโกรธพี่ เดี๋ยวพี่รองจะเลือกให้เจ้าใหม่อีกหนึ่งชิ้น ไม่ ชิ้นเดียวไม่พอ ต้องเลือกหลายชิ้น น้องห้าเจ้าอยากได้สิ่งใด? พี่รองจะซื้อให้เจ้าหมดเลย!”ขอเพียงไม่เอ่ยคำพูดนั้น!เวินจื่อเฉินราวกับถูกสะกดเขามองเวินซื่อที่นั่งอย

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 167

    เมื่อได้ยินหัวหน้ากองทัพธงดำกล่าวเช่นนี้ เวินฉางอวิ้นกับเวินจื่อเฉินไม่อาจขัดขวางได้แต่มองดูพวกเขายกน้องสามน้องสี่ออกไปพร้อมกันเพียงไม่นาน คนทั้งหมดไปถึงสถานที่แห่งหนึ่งเดิมทีแววตาเวินเยวี่ยไม่แยแส แต่เมื่อเริ่มเข้าไปใกล้สถานที่หนึ่งในไม่ช้าก็เริ่มเปลี่ยนไปโดยเฉพาะเมื่อเห็นทุกคนรายล้อมอยู่ตรงหน้าบ่อน้ำร้างด้านหลังห้องเก็บฟืน นางสั่นสะท้านไปทั้งตัวเมื่อพวกนางมาถึง เป่ยเฉินหยวนกับเวินเฉวียนเซิ่งที่อยู่ข้างบ่อน้ำต่างทยอยเงยหน้ามอง“หาสิ่งใดพบหรือ?”เวินซื่อก้าวขาเข้าไป พลันเห็นถุงกระดาษไขที่ถูกนำออกมาจากบ่อน้ำร้าง สิ่งที่ถูกห่อไว้ด้านในคือเป็ดทอดกรอบครึ่งตัว“ให้คนตรวจสอบแล้ว พิษที่อยู่บนนี้กับพิษที่อยู่ในตัวคุณชายสามคือพิษชนิดเดียวกัน”เวินซื่อได้ยินดังนั้น อมยิ้มแล้วเอ่ยขึ้น “ลงมือจากเป็ดทอดกรอบที่เวินจื่อเยวี่ยชอบกินมากที่สุด ดูท่าจะเข้าใจเขาไม่น้อย”เวินจื่อเฉินที่อยู่ด้านหลังเงยหน้ามองนางครั้งหนึ่งเวินเยวี่ยพยายามใจเย็นอย่าลนลาน อย่าลนลาน!ต่อให้หาเจอแล้วทำอะไรได้ ไม่มีใครยืนยันได้ว่านางเป็นคนทำ!“ยังมีอะไรอีก?”เวินซื่อเอ่ยถามเป่ยเฉินหยวนยิ้ม “ยังมีขวดยาขวดหน

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 168

    “เถ้าแก่ภัตตาคารเฟิ่งเซียนหรือ?”“ถูกต้อง เพื่อสะดวกต่อการซักถาม ข้ากับธิดาศักดิ์สิทธิ์ได้ส่งคนไปเชิญเถ้าแก่ภัตตาคารเฟิ่งเซียนมาที่นี่แล้ว”เป่ยเฉินหยวนยืนอยู่ข้างกายเวินซื่อ รูปร่างสูงใหญ่โน้มตัวปกคลุมร่างอรชรเล็กน้อย พร้อมกับยิ้มเหมือนนางแล้วมองดูทุกคนในสกุลเวิน“พวกเจ้ารู้ได้อย่างไรว่าเป็ดทอดกรอบนี่ต้องเป็นเป็ดทอดกรอบของภัตตาคารเฟิ่งเซียน?”สุดท้ายเวินเฉวียนเซิ่งทำใจไม่ได้ที่สุดท้ายเมื่อความจริงเปิดเผย บุตรสาวที่น่าสงสารของเขาคนนี้จะน่าเวทนาขนาดไหนดังนั้นจนมาถึงขนาดนี้แล้ว เวินเฉวียนเซิ่งก็ยังคิดหาวิธีช่วยเวินเยวี่ยปกปิดความจริงกระนั้นคนที่เขาต้องเผชิญหน้าในวันนี้ไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่เขาจะกำราบอยู่ในกำมือ แต่เป็นสองคนที่แตกต่างจากคนธรรมดาทั่วไปอย่างเช่นเป่ยเฉินหยวนหากจะบอกว่าเขาเวินเฉวียนเซิ่งคือจิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์ตัวหนึ่ง ถ้างั้นเป่ยเฉินหยวนก็คือหมาป่าที่ดุร้ายโหดเหี้ยมตัวหนึ่งเขาสามารถทำให้เจิ้นกั๋วกงที่มีอำนาจล้นมือในราชสำนักยอมกล้ำกลืนก้มหัวต่อหน้า ไม่เพียงเพราะในมือเขามีทหารอยู่ในมือหลายแสนนาย ยังมีฝีมือฆ่าคนโดยไม่กระพริบตาของเขาเวินเฉวียนเซิ่งกล้าเคาะโต๊ะใส่เขา แ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 169

    เป่ยเฉินหยวนรู้สึกว่าตัวเองเปลี่ยนไปแล้วเขาเป็นถึงอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนที่อยู่ใต้ผู้เดียวอยู่เหนือคนนับหมื่น มีแต่เขาที่เอ่ยปากใช้คนอื่น แต่ยามนี้เขากลับชอบความรู้สึกที่ถูกนางหนูคนนี้เรียกใช้โดยไม่มีสาเหตุ ดังนั้นเมื่อเวินซื่อเอ่ยขึ้น เขาจึงเงยหน้าอย่างดีใจทันทีพร้อมทำท่าหากเวินเฉวียนเซิ่งไม่ลงมือ เขาจะเข้าไปช่วยจริง ๆ เวินเฉวียนเซิ่งจะปล่อยให้เขาช่วยได้อย่างไร?เวินเฉวียนเซิ่งสีหน้าถมึงทึงหลังจากลังเลอยู่สักครู่ เขาจึงหันมองผู้ที่หลบอยู่ด้านหลังเวินฉางอวิ้น จากนั้นท่ามกลางสายตาไม่อยากจะเชื่อของลูกชายหลายคน เขาเอ่ยชื่อคนคนหนึ่ง...“เยวี่ยเอ๋อร์ ออกมา”คำสั้นๆ เพียงสี่พยางค์ ทำให้เวินเยวี่ยก่นด่าเวินซื่ออยู่ในใจนับครั้งไม่ถ้วนนางแพศยา นางแพศยา นางแพศยา!สมควรตาย ทำไมตอนนั้นนางไม่วางยานางแพศยาเวินซื่อผู้นี้ให้ตายๆ ไปซะ? !ตอนนี้เวินเยวี่ยแทบอยากย้อนเวลากลับไปเมื่อสองเดือนก่อน อยากจะวางยาพิษเวินซื่อให้ตายก่อนที่นางจะออกจากจวนเจิ้นกั๋วกง!ตอนนั้นต่อให้ท่านพ่อรู้ว่านางเป็นคนวางยาพิษ ก็คงไม่ทำอะไรนางแน่นอนแต่ตอนนี้สายไปแล้ว คนชั่วผู้นี้อาศัยฐานะที่ฝ่าบาทพระราชทานให้ อาศั

Pinakabagong kabanata

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 574

    “ฉางอวิ้น เจ้าต้องเข้าใจถึงความขมขื่นใจของพ่อ”เวินเฉวียนเซิ่งนั่งลงข้างกายเวินฉางอวิ้น พลางถอนหายใจเฮือกใหญ่“ตอนแรกพ่อแค่อยากให้เด็กคนนั้นมีบ้าน อยากจะชดใช้หนี้ทั้งหมดที่มีต่อสองแม่ลูกเท่านั้นเอง”“แต่ไม่เคยคิดเลยว่า เยวี่ยเอ๋อร์จะบาดหมางกับเจ้าห้ามาจนถึงขั้นนี้ ตอนนี้สุขภาพของพ่อก็ไม่ค่อยดีแล้ว บอกไม่ได้ว่าวันไหนจะลงไปพบกับแม่ของพวกเจ้า ถ้าไม่มีใครมาค้ำจุนครอบครัวนี้ จวนเจิ้นกั๋วกงของเราทั้งหมดช้าเร็วก็ต้องแยกทาง ถึงตอนนั้น เจ้าคิดว่าน้อง ๆ ของเจ้าจะยังมีโอกาสกลับมาหรือไม่?”เดิมทีเวินฉางอวิ้นไม่ต้องการโต้ตอบคำพูดของเวินเฉวียนเซิ่งรู้สึกว่าคำพูดก่อนหน้านี้ของเขาค่อนข้างน่าขบขันแต่เมื่อได้ยินประโยคสุดท้าย หัวใจของเวินฉางอวิ้นก็เต้นแรงขึ้นมาทันทีหากวันหนึ่งจวนเจิ้นกั๋วกงสลายไป น้องรอง น้องห้า...จะกลับมาได้อีกหรือไม่?ร่างกายของเวินฉางอวิ้นสั่นสะท้านครู่หนึ่งคำตอบที่ชัดเจนผุดขึ้นในหัวใจไม่ได้พวกเขาจะกลับมาไม่ได้อีกแล้วไม่ใช่เพราะชื่อเสียงของจวนเจิ้นกั๋วกง แต่เป็นเพราะไม่มีจวนเจิ้นกั๋วกงแล้ว ดังนั้นสายสัมพันธ์สุดท้ายที่เหลืออยู่ระหว่างพี่น้องของพวกเขาก็จะไม่มีอะไรเลยน

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 573

    เวินฉางอวิ้นที่รู้แล้วว่าเวินเยวี่ยเป็นใคร ความจริงก็ไม่รู้สึกแปลกใจกับเวินเยวี่ยในมุมนี้เพียงแต่ว่าก่อนหน้านี้นางเผยให้เห็นด้านที่ดูน่าสงสารและอ่อนแอต่อหน้าคนอื่น ด่าทอคนอื่นโดยไม่ยั้งคิดแบบนี้ไม่ได้เห็นบ่อยนักสายตาของเวินฉางอวิ้นเผยความเยาะหยันออกมาดูเหมือนว่านางจะไม่ได้มีความจริงใจต่อเจ้าสามเช่นกันเสียแรงที่เจ้าสามถอนหมั้นกับนังหนูเนี่ยนฉือเพื่อนาง จิตใจโหดเหี้ยมอำมหิตกลับกลอกปลิ้นปล้อนจริง ๆคิด ๆ ดูแล้วก็น่าจะไม่ใช่แค่เจ้าสามเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเจ้าสี่ด้วยเพราะถึงอย่างไรพวกเขาเหล่านี้ก็ขวางทางนางอยู่เวินฉางอวิ้นไตร่ตรองสักครู่ ก็มีเสียงฝีเท้าดังมาจากนอกห้องในเวลานี้เวินฉางอวิ้นยังนึกว่าเป็นเวินเยวี่ยที่กลับมาเล่นละครอีกครั้ง แต่ไม่นึกเลยว่าจะเป็นเวินเฉวียนเซิ่งผู้เป็นพ่อของเขา“ฉางอวิ้น พ่อมาเยี่ยมเจ้า”หลายวันมานี้ ที่แวะเวียนมาที่นี่อยู่เป็นครั้งคราวเช่นกันก็มีเวินเฉวียนเซิ่งด้วยเขาแวะมาเยี่ยมลูกชายคนโต และเพื่อเป็นการชดเชยเวินฉางอวิ้นรู้ว่าเขามาที่นี่เพื่ออะไร และไม่ค่อยอยากพบเขาเช่นกันดังนั้นทันทีที่ได้ยินเสียงของเวินเฉวียนเซิ่ง เขาก็หลับตาลงแกล้งทำเป็น

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 572

    “หออายุวัฒนะ? นั่นคือที่ใดกัน?”เวินเยวี่ยถามด้วยความงุนงงเวินจื่อเยวี่ยส่ายศีรษะ “ข้าก็ไม่รู้แน่ชัด แต่เพื่อนร่วมสำนักบอกข้าว่า ที่นั่นมียาชนิดหนึ่งที่เรียกว่ายาอายุวัฒนะ สามารถชุบชีวิตคนตายให้ฟื้นคืน เปลี่ยนเถ้ากระดูกให้กลายเป็นเลือดเนื้อ วิเศษมาก แต่ก็แพงมากเช่นกัน อยากซื้อก็ไม่ใช่ซื้อได้ง่าย ๆ”“พวกเราไปซื้อก็อาจจะซื้อไม่ได้อย่างนั้นหรือ?”เวินเยวี่ยไม่เห็นด้วยกับคำพูดที่ว่า “ไม่ใช่ซื้อได้ง่าย ๆ”เพราะถึงอย่างไรนางก็คือคุณหนูหกแห่งจวนเจิ้นกั๋วกง และเวินจื่อเยวี่ยก็เป็นคุณชายสามแห่งจวนเจิ้นกั๋วกงด้วยตัวตนของพวกเขา ในเมืองหลวงแห่งนี้ยังมีอะไรที่พวกเขาหาซื้อไม่ได้อีก?“เห็นว่าเป็นเพราะมียาน้อยมาก และไม่สามารถปล่อยออกมาได้ ดังนั้นไม่ว่าใครที่ไปซื้อก็ต้องรอ ข้าคิดว่าถ้าวิเศษขนาดนั้นจริง ๆ ก็ซื้อสักเม็ดหนึ่งกลับมาให้พี่ใหญ่ลองกิน หากได้ผลจริง ๆ ล้างพิษในร่างกายของพี่ใหญ่ได้ ท่านพ่อก็จะไม่โกรธอีกต่อไปแน่นอน”อันที่จริงพวกเขาสองคนก็ไม่มีทางอื่นแล้วในตอนนี้หายาถอนพิษไม่ได้ดอกไม้พิษก็หาไม่ได้เช่นกันทำได้เพียงรักษาตามมีตามเกิด ซื้อยาอายุวัฒนะนั่นมาให้พี่ใหญ่ลองกินดูเมื่อเวิน

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 571

    แต่ความตื่นเต้นดีใจนี้ดำเนินไปได้ไม่นานครึ่งชั่วยามต่อมา ฤทธิ์ของยาอายุวัฒนะก็สิ้นสุดลงความบ้าคลั่งในดวงตาของอันปี่เค่อหายไปอย่างรวดเร็วเขาเงยหน้าสูดหายใจเข้าลึก ๆ แต่วินาทีต่อมาปิดปากและจมูกด้วยความรังเกียจ“เก็บกวาดทำความสะอาดให้ข้าด้วย!”อันปี่เค่อออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด ก่อนจะสะบัดแขนเสื้อออกไปทันทีเมื่อเขาออกจากหออายุวัฒนะที่อยู่ชั้นใต้ดิน กลับไปที่ห้องหนังสือสกุลอันอีกครั้งหนึ่ง เขาก็กลับไปนั่งที่ด้านหลังโต๊ะหนังสือทันทีก่อนจะคว้ากระดาษที่เขียนชื่อไว้หลายชื่อแผ่นหนึ่งบนโต๊ะขึ้นมาเขากวาดสายตาผ่านรายชื่อเหล่านั้นอย่างไม่วางตา สุดท้ายก็จับจ้องไปที่ชื่อนั้นที่อยู่ด้านล่างสุด…“เวินซื่อ”“ธิดาศักดิ์สิทธิ์...จะเป็นธิดาศักดิ์สิทธิ์ตัวจริง หรือว่าธิดาศักดิ์สิทธิ์ตัวปลอม ก็ให้ข้าได้เห็นชัด ๆ สักหน่อยแล้วกัน……จวนเจิ้นกั๋วกงภายในเรือนของเวินฉางอวิ้นหลังจากกินยาต้มบัวหิมะที่เวินซื่อให้มาแล้ว เวินฉางอวิ้นก็ฟื้นขึ้นมาภายในไม่กี่วันจริง ๆเพียงแต่ร่างกายยังอ่อนแอมาก นอกจากลืมตามองไปรอบ ๆ ได้แล้ว เรื่องอื่นเขาก็ยังทำไม่ได้แม้แต่พูดยังพูดไม่ได้เลยทำได้เพียงนอนอย

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 570

    หลังจากคนรับใช้ผู้นั้นจากไป อันปี่เค่อก็นั่งลงบนเก้าอี้ไม้โบราณของเขาทันที หลับตาลง มือข้างหนึ่งงอนิ้วชี้แล้วคาะปลายนิ้วลงบนโต๊ะเป็นจังหวะซ้ำๆ ดัง “ต๊อกๆ ”ท่าทางเช่นนั้นดูเหมือนกำลังรอคอยบางสิ่งบางอย่างอยู่ไม่นานนัก หญิงงามนางหนึ่งที่สวมใส่อาภรณ์น้อยชิ้นก็ถือขวดหยกเขียวเดินเข้ามา ร่างกายอ่อนระทวย นั่งลงบนตักของอันปี่เค่อ แล้วเปิดขวดหยกเขียวนั้นให้เขาและเทยาเม็ดสีดำสนิทสามเม็ดออกมาจากข้างในพอยาเม็ดนั้นออกมา กลิ่นหอมประหลาดก็ฟุ้งกระจายไปทั่วห้องหินนี้ คล้ายคลึงกับกลิ่นหอมรัญจวนใจที่อบอวลอยู่ทั่วทั้งหอใต้ดินที่อยู่ด้านนอกอย่างยิ่งแต่หากนำยาเม็ดนั้นมาใกล้จมูกและปาก ก็ยังสามารถค้นพบได้อีกว่า บนยาเม็ดเหล่านี้ เห็นได้ชัดว่ายังมีกลิ่นคาวเลือดจางๆ ติดอยู่ด้วยหากเป็นคนปกติท เมื่อได้กลิ่นคาวเลือดบนยาเม็ดเหล่านี้ เกรงว่าจะรีบถอยห่างทันทีแต่เวลานี้ ภายในหออายุวัฒนะใต้ดินของสกุลอัน มีคนอยู่ทุกประเภท เว้นแต่เพียงคนปกติธรรมดาเท่านั้นอย่างเช่นอันปี่เค่อในยามนี้เขาปรือตาขึ้นเล็กน้อย เหลือบมองหญิงงามที่นั่งอยู่บนตัก แววตานั้นราวกับกำลังพิจารณาว่าอาหารที่จะกินในวันนี้คืออะไรหลังจากมองจ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 569

    ทางด้านอารามสุ่ยเยว่เงียบสงบสุขยิ่งนักแต่ทางด้านเมืองหลวงกลับมีคลื่นใต้น้ำก่อตัวอย่างรุนแรงห้องหนังสือสกุลอันอันปี่เค่อหยิบพู่กันขึ้น ตวัดพู่กันขีดเส้นหนักๆ ลงบนรายงานข่าวกรองฉบับหนึ่งที่ลูกน้องนำมาส่งให้ด้วยสีหน้าไร้อารมณ์จากนั้นก็พลันลุกขึ้นเดินไปยังเชิงเทียนไปพลาง ฉีกรายงานข่าวกรองฉบับนั้นเป็นชิ้นๆ ไปพลางสุดท้ายก็อาศัยเปลวไฟจากเชิงเทียนจุดมัน เปลวไฟก็ลุกลามเผากระดาษแผ่นนั้นอย่างรวดเร็ว และลามขึ้นไปด้านบน ลวกนิ้วมือของอันปี่เค่อที่จับมุมกระดาษอยู่เข้าอย่างจังแต่อันปี่เค่อราวกับไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดเลยแม้แต่น้อย ผ่านไปสองวินาที ถึงค่อยโยนกระดาษที่กำลังลุกไหม้ในมือทิ้งลงไปในอ่างถ่านที่มอดดับไปแล้ว“ใครก็ได้”เงาดำร่างหนึ่งพลันปรากฏขึ้นด้านหลังของอันปี่เค่อ คุกเข่าลงอย่างนอบน้อม“ลูกสาวผู้แสนดีคนนั้นของข้าตายแล้วหรือยัง?”เงาดำกล่าวอย่างระมัดระวัง “เรียนใต้เท้า คุณหนูรอง...ยังไม่ตายขอรับ”คำว่า “ยังไม่ตาย” ก็หมายความว่าการลงมือของคนเหล่านั้นล้มเหลวแล้วบนใบหน้าที่แก่ชราของอันปี่เค่อ พลันปรากฏรอยยิ้มเสแสร้งออกมา “ไอ้พวกไร้ประโยชน์ และหมากตัวหนึ่งที่ยังพอจะใช้งานได้อยู

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 568

    เป่ยเฉินหยวนเห็นสีหน้าของนาง ก็รู้ว่านางเพิ่งจะรู้ตัว ชั่วขณะหนึ่งก็อดขำไม่ได้“หลังจากนี้ไม่ต้องมาที่ภูเขาด้านหลังแล้วก็ได้ อากาศหนาวลมแรง เดี๋ยวจะป่วยเอาได้ง่ายๆ ”เวินซื่อพยักหน้าอย่างกระอักกระอ่วน “ได้”นางก็ลืมเรื่องนี้ไปเหมือนกันนางเงยหน้ามองเป่ยเฉินหยวนด้วยความอึดอัดใจ เอ่ยถามอย่างหยั่งเชิง “หรือว่า ตอนนี้พวกเรากลับไปอีกดี?”เป่ยเฉินหยวนยิ้มพลางเอ่ยขึ้นทันที “ไหนๆ ก็มาแล้ว อีกอย่างวันนี้ข้าก็อยากจะฟังที่นี่จริงๆ ”เหตุผลหลักคือในเรือนยังมีคนอื่นอยู่ เวลานี้ เขาไม่อยากให้คนอื่นมารบกวนเขาและอู๋โยวเป่ยเฉินหยวนหยิบของที่ตนนำมาด้วยออกมา ค้นเอาห่อขนมพุทราอุ่นๆ ออกมาจากข้างในห่อหนึ่ง และเสื้อคลุมลายดอกเหมยตัวใหม่อีกหนึ่งตัวเป่ยเฉินหยวนระงับความคิดที่อยากจะลงมือสวมให้ด้วยตนเอง แล้วยื่นเสื้อคลุมให้เวินซื่อก่อน“สวมเสื้อคลุมเสียเถอะ ตอนนี้ยังพอไหว ไม่ค่อยมีลม แต่ก็ต้องระวังไว้บ้าง”เวินซื่อเหลือบมองเสื้อคลุมตัวหนาที่ยังคงความอบอุ่นนั้น แล้วมองไปที่เป่ยเฉินหยวน สุดท้ายก็รับของขวัญอันใส่ใจชิ้นนี้มาอย่างเงียบๆ“นี่ ขนมพุทราที่ท่านชอบ”เป่ยเฉินหยวนรอจนนางสวมเสื้อคลุมเสร็จ ก็เปิ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 567

    “แล้วแมงมุมพิษนั้นจะส่งผลกระทบต่อท่านหรือไม่?”เป่ยเฉินหยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย สิ่งแรกที่เขาเป็นห่วงคือความปลอดภัยของเวินซื่อเวินซื่อพลันยิ้มออกมา “ไม่เป็นไร ไม่ส่งผลกระทบต่อข้า”“แล้วอาซื่อเจ้าแน่ใจได้อย่างไรว่าแมงมุมพิษของเจ้าอยู่บนตัวของหัวหน้าต่างเผ่าผู้นั้น? หากไม่ใช่หัวหน้าต่างเผ่าผู้นั้น แต่เป็นคนต่างเผ่าคนอื่นเล่า?”หลินเนี่ยนฉือถามเช่นนี้ ไม่ใช่การขัดคำพูดของเวินซื่อเพียงแต่นางกำลังกังวลเกี่ยวกับความเชื่อมโยงระหว่างเวินซื่อกับแมงมุมพิษ ตัวอย่างเช่น หากแมงมุมพิษตัวนั้นบาดเจ็บ มันจะส่งผลกระทบต่ออาซื่อหรือไม่ หรือแม้กระทั่งถ้าแมงมุมพิษตัวนั้นตายไป มันจะส่งผลสะท้อนกลับมายังอาซื่อหรือไม่?ถึงแม้พวกเขาจะไม่รู้ว่าแมงมุมพิษของอาซื่อเป็นมาอย่างไรกันแน่ แต่พอฟังดูแล้วกลับคล้ายคลึงกับวิชาแมลงกู่ของคนต่างเผ่าเหล่านั้นมากดังนั้น หลังจากที่เป่ยเฉินหยวนและหลินเนี่ยนฉือฟังคำพูดของเวินซื่อจบแล้ว สิ่งแรกที่ทั้งสองกังวลก็คือตัวเวินซื่อเวินซื่อเห็นสีหน้าของทั้งสองคนก็ชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็เข้าใจบางอย่างขึ้นมาในใจของนางรู้สึกอบอุ่นขึ้นมา ยิ้มพลางเอ่ยขึ้น “พวกท่านวางใจเถิด ข้าไม่เป็นอ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 566

    หลินเนี่ยนฉือที่นั่งมองทั้งสองคนอยู่ในเรือนเล็กๆ ตั้งแต่เมื่อครู่ มุมปากกระตุกเล็กน้อย“พอแล้วอาซื่อ อย่างไรเสียเขาก็เป็นท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทน เจ้าช่างใจกล้าเกินไปแล้ว”ถึงกับกล้าตำหนิท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนผู้มีอำนาจสูงสุดในราชสำนักรองจากฮ่องเต้ แถมยังขึ้นชื่อว่าเป็นเทพสงครามต่อหน้าเช่นนี้ จนเขาแทบเงยหน้าไม่ขึ้นหลินเนี่ยนฉือกลัวว่าเวินซื่อจะยั่วโมโหอีกฝ่ายเข้าจริงๆ นางจึงรีบยื่นมือออกไป ดึงตัวคนกลับมาแต่ไม่รู้ว่าเป็นความเข้าใจผิดของนางหรือไม่ ในขณะที่นางจับมือเล็กๆ ของอาซื่อไว้ สายตาของท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนที่อยู่ตรงข้ามกลับดูน่ากลัวขึ้นมาเล็กน้อย ทั้งยังทิ่มแทงอีกทำเอาหลินเนี่ยนฉือไม่กล้าพูดอะไรต่ออีก“ไม่เป็นไรๆ ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนไม่ใช่คนใจแคบเช่นนั้น”เวินซื่อยังไม่ทันสังเกตเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของหลินเนี่ยนฉือ ก็ยกมือขึ้นตบไหล่ของอีกฝ่ายเบาๆเป่ยเฉินหยวนเอ่ยขึ้นในตอนนี้ “อู๋โยวพูดถูก ข้าไม่ใช่คนใจแคบจริงๆ ยิ่งไปกว่านั้น อู๋โยวก็ยังเป็นสหายของข้า สหายของนาง ย่อมเป็นสหายของข้าเช่นกัน”มุมปากของหลินเนี่ยนฉือกระตุกอีกครั้งหากไม่ใช่เพราะได้ยินสรรพนาม

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status