“เป็นยังไงบ้าง? แผลคุณหายแล้วยัง?”“หายก็หายแล้วนั่นแหละ แต่ยังมีรอยแผลเป็นนิดหน่อย”ถังหว่านส่งเสียงไม่พอใจเล็กน้อย“ฉันไม่อยากให้หลี่ฮุ่ยหรานเห็นหรอกนะ ยังไงซะ ถ้าคิดถึงฉัน ก็ทำตัวดีๆ รออีกสักหน่อย”“อืม”หลินเฟิงวางสายโทรศัพท์และคิดอยู่ครู่หนึ่งเดิมทีเขาอยากไปกับหลี่ฮุ่ยหราน แต่เมื่อคิดว่าหลี่ฮุ่ยหรานงานยุ่งขนาดนี้ เขาอย่าไปเพิ่มความวุ่นวายให้เธอเลย“จ้าวเทียนหัว เตรียมรถให้ฉันคันหนึ่ง”หลินเฟิงโทรศัพท์ไปหาจ้าวเทียนหัว เมื่อจ้าวเทียนหัวได้ยิน กลับลำบากใจเป็นครั้งแรก“คุณชายหลิน ผมไม่มีสาขาย่อยที่เมืองเจิ้งเต๋อ ถ้าจะจัดเตรียมรถ เกรงว่าคงหารถที่เหมาะสมกับสถานะของคุณไม่ได้ชั่วคราว…”ได้ยินคำพูดนี้ หลินเฟิงส่ายหน้ายิ้มพูดว่า:“แค่ยานพาหนะเอง ไม่ต้องเอารถที่ดีอะไร นายรีบเตรียมให้หน่อยก็พอแล้ว”“ก็ได้รับ”จ้าวเทียนหัวขานรับ จากนั้นผ่านไปไม่นาน รถยนต์ออดี้ คันหนึ่งจอดอยู่ใต้ตึกของหลี่ซื่อกรุ๊ปหลินเฟิงก็ไม่ได้เลือกอะไรเพียงแต่หลังจากที่เขานำของขวัญที่ถังหว่านเตรียมเอาไว้ออกไปก็คิดอยู่ครู่หนึ่ง จึงนำหยกจิ้งจอกมีตำหนิที่ได้รับจากต่งเทียนไป๋ติดตัวไปด้วยถึงแม้หยกจิ้งจอกจะม
กวงเผิงฉี่ไม่เสียแรงที่เป็นเศรษฐีอันดับหนึ่งของหัวตงวงการที่เขาว่า เป็นวงการที่คนธรรมดาทั่วไปไม่สามารถเข้าถึงได้บุคคลใหญ่โตที่มาเข้าร่วงงานประมูลการกุศล มีทั้งในแวดวงการเมือง ธุรกิจ และการทหาร มีทั้งคนรวยและขุนนางราชการ อำนาจล้นฟ้าถึงขั้นที่หลินเฟิงยังได้พบกับตัวแทนของตระกูลซือหม่า ตระกูลหลง และตระกูลจี คนเหล่านี้กำลังพูดคุยกันอยู่ในห้องโถง บรรยากาศดูกลมกลืนมาก เสียงหัวเราะดังขึ้นไม่หยุดหลินเฟิงเห็นคนเยอะขนาดนี้ ก็ไม่ได้คิดจะเข้าร่วม เขาอยากจะหาที่นั่งลงเพื่อรอเผิงกวงฉี่ปรากฏตัวออกมากลับคิดไม่ถึงว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก้าวเข้ามาขวางหลินเฟิง“สวัสดีครับ คุณผู้ชายท่านนี้ เชิญแสดงบัตรเชิญของคุณด้วย”“บัตรเชิญ?”หลินเฟิงนิ่งอึ้งเล็กน้อยเขาถึงนึกขึ้นได้ว่า เมื่อครู่เขาออกมาด้วยความรีบร้อน มัวแต่สนใจถังหว่านที่เร่งรัด จนลืมบัตรเชิญที่อยู่ในลิ้นชักโต๊ะทำยังไงดีล่ะ?ถ้ากลับไปเอาตอนนี้ จะไม่ทันเวลาแล้วหลินเฟิงเงียบขรึมครู่หนึ่ง จากนั้นก็เงยหน้ามองไปทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและยิ้มพูดว่า:“ผมมีบัตรเชิญ แต่ผมรีบออกมา กลับลืมพามาด้วย ไม่ทราบว่าให้ความสะดวกหน่อยได้ไ
“หึ ผมไม่เคยได้ยินมาก่อน”ถังฮั่วไม่ยอมเสียโอกาสที่จะซ้ำเติมอยู่แล้ว เขาหัวเราะเยาะและพูดว่า:“ไอ้หมอนี่ถือว่าตัวเองเป็นผู้ชายของถังหว่าน แมงดาแบบนี้ คู่ควรที่จะเข้าร่วมงานประมูลการกุศลระดับสูงแบบนี้ด้วยเหรอ?”“หลินเฟิง ถ้าผมเป็นคุณ ผมคงกุมหน้าหนีไปแล้ว แทนที่จะไร้ยางอายอยู่ตรงนี้”“ทำให้ตระกูลถังของฉันอับอายจริงๆ”ได้ยินความคิดเห็นของถังฮั่ว แขกที่อยู่ในเหตุการณ์พากันมองไปทางหลินเฟิงโดยเฉพาะตอนที่พบว่าชุดสูทบนตัวของเขาเป็นแค่ “ของราคาถูก” ที่ราคาไม่กี่พันบาท ก็ส่งเสียงัวเราะเยาะออกมาหลายรูปแบบ“ไม่ใช่หรอกมั้ง มีคนกล้าแอบอ้างชื่อของตระกูลถังจริงๆ เหรอ?”“คุณไม่ได้ยินคุณชายถังฮั่วพูดเหรอ? เป็นผู้ชายที่เกาะถังหว่านตระกูลถัง”“จุ๊จุ๊จุ๊ไม่น่าแปลกใจเลย”เมื่อเผชิญกับการซุบซิบนินทารอบตัว จีอวิ๋นเจี๋ยสีหน้าดุดัน เดินเข้าไปขวางอยู่ข้างหน้าหลินเฟิงแล้วพูดว่า:“คุณชายหลินท่านนี้คือเพื่อนของฉันจี้อวิ๋นเจี๋ย ใครกล้ามีปัญหากับคณชายหลิน งั้นก็เท่ากับมีปัญหากับฉันจีอวิ๋นเจี๋ย!”ได้ยินคำพูดนี้ เสียงหัวเราะเยาะที่อยู่รอบๆ ก็ลดลงเล็กน้อยแต่เสียงอื่นๆก็ค่อยๆ ดังขึ้นมา“ไม่ใช่หรอกมั้ง ออก
“อะไรนะ?!”ได้ยินคำพูดนี้ ถังฮั่วมองไปทางคู่ควงที่อยู่ข้างๆ ด้วยความตะลึงงันผู้หญิงคนนี้คือคนที่เขาเพิ่งพบในไนท์คลับแห่งหนึ่ง จากที่เธอบอก ครอบครัวของเธอทุกข์ยากอย่างมาก พ่อติดการพนัน แม่หนีออกจากบ้าน ยังมีน้องชายสองคนที่เรียนหนังสือไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องไปทำงานในไนท์คลับแต่ถังฮั่วไม่เชื่อเรื่องนี้ แต่ผู้หญิงคนนี้หน้าตาสวย จึงก็เล่นสนุกสักวันสองวันแต่คิดไ่ม่ถึงว่าหลินเฟิงจะพูดว่าผู้หญิงคนนี้มีโรคจึงทำให้ถังฮั่วตกตะลึงทันที สีหน้าก็เปลี่ยนไปไม่เป็นธรรมชาติ“นายพูดซี้ซั้วอะไร?! คุณต่างหากที่เป็นโรค ป่วยกันทั้งครอบครัว!”ถูกหลินเฟิงพูดแทงใจดำ ผู้หญิงคนนี้ก็กระวนกระวายแล้วหลังจากที่กระวนกระวาย ปฏิกิริยาตอบสนองแรกของเธอคือหันมาด่าทอหลินเฟิงคำพูดของหลินเฟิง ทำให้ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นมุ่งความสนใจไปที่ผู้หญิงและถังฮั่วได้สำเร็จ“หึหึ มีโรคหรือไม่ ผมดูแค่แวบแรกก็รู้แล้ว ในเมื่ออาการป่วยของเผิงกวงฉี่เป็นผมที่รักษาหาย พวกคุณไม่จำเป็นต้องสงสัยวิชาแพทย์ของผม”หลินเฟิงหัวเราะเยาะได้ยินแบบนี้ ทั้งงานเสียงดังเกรียวกราวไปหมด“อะไรนะ? คุณรักษาอาการป่วยของเผิงกวงฉี่?!”“เดี๋ยวนะ
“คุณชายถัง ฉันจะกล้าหลอกคุณได้ยังไง?”“ไอ้หมอนั่นพูดเรื่องไร้สาระ เพื่อที่จะทำให้คุณเสียสมาธิ คุณอย่าติดกับเขาล่ะ!”ได้ยินผู้หญิงคนนี้พูดมีเหตุผล แต่การแสดงออกของร่างกายก็เหมือนกับที่หลินเฟิงกล่าวไว้ ถังฮั่วระมัดระวังมากขึ้นจากั้นออกไปอย่างรวดเร็ว เขาแอบหาแพทย์แผนจีนวัยกลางคนหน้าเหลี่ยมที่อยู่มาท่ามกลางกลุ่มคนอย่างลับๆ และถามเสียงเบาว่า:“ผู้อำนวยการเจียง คุณดูร่างกายของผม มีความผิดปกติจริงๆ ใช่ไหม?”หมอหน้าเหลี่ยมคนนี้ ก็คือผู้อำนวยการเจียงและโรงพยาบาลเมืองเจิ้งเต๋อที่เขาทำงานอยู่ และก็เป็นหนึ่งในสามผู้ยิ่งใหญ่เมืองเจิ้งเต๋อเขาสามารถมาร่วมงานประมูลในวันนี้ได้ก็เป็นเพราะโรงพยาบาลที่เขาสังกัดอยู่ เป็นหนึ่งในธุรกิจของเผิงกวงฉี่พูดได้ว่า ทั่วทั้งหัวตง เขาเป็นผู้ที่มีสถานะต่ำที่สุดในกลุ่มคนเหล่านี้ เป็นเพียงแค่ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเขามาร่วมงานได้ เป็นเพียงเพราะเผิงกวงฉี่บังเอิญเลือกเมืองเจิ้งเต๋อเป็นสถานที่จัดงานไม่อย่างนั้นเขาไม่มีสิทธิเข้าร่วมหรอกแต่ในเมืองเจิ้งเต๋อ ผู้อำนวยการเจียงก็ยังมีอำนาจอยู่บ้างเห็นคุณชายตระกูลถังขยับเข้ามาใกล้ ผู้อำนวยการเจียงรีบยิ้มให้ และยื
ไม่มีอะไรที่จารึกอยู่ในความทรงจำได้ดียิ่งกว่าเป็นแผลเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่มีจิตใจชั่วร้าย แต่หลินเฟิงก็ไม่ได้หลบเลี่ยง ก่อนจะจ้องมองเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยระดับเซียนเทียนด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก ในขณะที่ตัวเองกำลังจะถูกต่อยเข้าที่ใบหน้าถึงขั้นที่หลินเฟิงไม่ได้ใช้พลังชี่แท้ในการป้องกันก็ตาม“แกร่ก!”เมื่อได้ยินเสียงแตก เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยระดับเซียนเทียนก็แสดงความภาคภูมิใจออกมาทันที ดูเหมือนว่ากระดูกจมูกของหลินเฟิงจะถูกหักน้ำมือของเขาเข้าซะแล้วแต่ไม่นาน สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป เพราะว่าเขารับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดแปล๊บ ๆขึ้นมาตรงบริเวณกระดูกนิ้วของตัวเองเมื่อรอให้เขาจ้องมองดู ก็พบว่าสิ่งที่หักนั้นไม่ใช่กระดูกจมูกของหลินเฟิง แต่กลับเป็นนิ้วทั้งสี่ของตัวเอง“อ้าก_____!”สิบนิ้วเชื่อมต่อกับหัวใจ และความเจ็บปวดที่พามานั้นก็ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะสามารถรับได้ไหวยิ่งกว่านั้น การชกไปเต็มกำลังของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ได้ทำให้กระดูกนิ้วของตัวเองหักทั้งหมดในทันทีแรงสะเทือนสะท้อนกลับ ทำให้ข้อมือและแขนของเขาทั้งหมดกลายเป็นโคลนที่ไม่มีกระดูกมารองรับเจ้าห
หลินเฟิงแตะคางพร้อมกับขมวดคิ้วขึ้นในขณะที่กำลังทวนความจำ“หรือว่าจะเป็นแพทย์วัยกลางคนที่เคยคุยกับถังฮั่วก่อนหน้านี้หรือเปล่า?”หลินเฟิงยังไม่ทันจะคิดได้ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็รีบอธิบายให้หลินเฟิงฟังว่าผู้อำนวยการเจียงมีลักษณะอย่างไรชายวัยกลางคนที่มีใบหน้าเหลี่ยมและสวมใส่สูทลายทางสีดำ.....หลินเฟิงตกตะลึงไปเล็กน้อย นี่ไม่ใช่แพทย์วัยกลางคนที่ตัวเองมองแล้วรู้สึกคุ้นเคยหรอกเหรอ?เพียงแต่....“เพราะอะไรเขาถึงต้องการขัดการฉัน? ฉันไปทำให้เขาโกรธงั้นเหรอ?”หลินเฟิงยังคงเอ่ยถามเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยต่อไปเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ยังคงตอบอย่างตรงไปตรงมาเช่นกันเพื่อที่จะมีชีวิต เขาจึงบอกความจริงทุกอย่างให้หลินเฟิงได้ฟัง“หลังจากที่คุณชายถังฮั่วอธิบายก็รู้ว่าคุณก็คือหลินเฟิง คุณทำให้ลูกชายของผู้อำนวยการเจียงต้องสูญเสียร่างกายส่วนล่างไป เพราะอย่างนั้นผู้อำนวยการเจียงจึงอยากจะให้พวกเราแก้แค้นคุณ....”“พวกคุณไม่ใช่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของเผิงกวงฉี่ใช่ไหม? ทำไมต้องเชื่อฟังคำสั่งของเขาด้วยล่ะ?”หลินเฟิงเอ่ยถามด้วยความอยากรู้“ใช่...พวกเราเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอด
ในทางกลับกัน เขากลับถูกหลินเฟิงกดไว้กับเก้าอี้ไว้อย่างแรงการกดครั้งนี้ทำให้กระดูกทั่วทั้งตัวผู้อำนายการเจียงส่งเสียงดังกรอบแกรบออกมาทันที ราวกับว่าไม่สามารถรับน้ำหนักได้“อึก...”ผู้อำนวยการเจียงในเวลานี้ก็เหมือนกับภูเขาไฟที่ใกล้จะระเบิด แต่กลับถูกใครบางคนกดลงอย่างแรง จนใบหน้าแดงก่ำแล้วเลือกก็แทบจะพุ่งออกมาจากรูขุมขนในทันที“ผู้อำนวยการเจียง ไม่ต้องรีบร้อน รอให้ผมอธิบายให้คุณฟังว่าลูกชายของคุณนั้นทำอะไรลงไป มันก็ยังไม่สายเกินไปที่คุณจะโกรธ”หลินเฟิงยิ้มพร้อมกับตบที่ไหล่ของเขาเจียงจี้ถงในเวลานี้ถึงกับพูดอะไรไม่ออกอีกเลย เขาจ้องมองหลินเฟิงอย่างเอาเป็นเอาตาย และอยากจะรู้ว่าหลินเฟิงยังจะพูดอะไรออกมาอีก“ลูกชายของคุณนะ เป็นคนที่มีความสามารถคนหนึ่งเลยนะ”หลินเฟิงทำเสียงจุ๊จุ๊ จากนั้นก็เล่าเรื่องราวอันรุ่งโรจน์ ของเจียงปินที่มหาวิทยาลัยเจียงโจว ให้พ่อของเขาได้ฟังอีกครั้งก่อนที่จะได้พบกับน้องสาวของหลินเฟิงจากนั้นก็ใส่ร้ายหลินเฟิงต่อหน้าบรรดาบัณฑิต และคุยโวว่าคนใหญ่คนโตทั้งหมดเป็นเขาที่เรียกมาจากนั้นก็ถูกจางเต๋อหลินตบต่อหน้าทุกคนสุดท้ายก็โกรธมากจนกลับไปพาผู้คนมาใช้ความรุนแรงกั
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ความโกรธบนใบหน้าของหลงหยวนก็ค่อยๆ หายไปเขาหัวเราะกะทันหัน เสียงหัวเราะนั้นชั่วร้ายมาก“หลินเฟิง นายเก่งจริงๆ นายกล้าทำให้ฉันอับอายแบบนี้”ในตอนนี้บนโต๊ะของหลงหยวนมีโทรศัพท์มือถือจอกว้างตั้งไว้อยู่และบนโทรศัพท์ กำลังเปิดข่าวประจำวันไว้อยู่ในวิดีโอที่ข่าวเผยแพร่ออกมาหลงซิ่วที่คลุ้มคลั่งถูกเซนเซอร์บังเอาไว้ กับถานหงราชินีนักร้องเมื่อฟังเสียงกรีดร้องอันแหลมสูงของถานหงในวิดีโอ หลงเยียนก็หันกลับมามองลูกน้องของเขาด้วยสายตาที่เย็นชา“ทันหงกับหลงซิ่วล่ะ ให้พวกเขามาพบฉัน!”"นี่......"ผู้คุ้มกันตระกูลหลงลังเลเล็กน้อย ยิ้มอย่างกระอักกระอ่วนแล้วพูดว่า:“เมื่อข่าวนี้แพร่สะพัดออกไป เราจึงส่งคนไปตามหาพวกเขา สุดท้ายก็พบพวกเขาในบาร์ใต้ดินที่คุณหลงซิ่วมักไปเยี่ยมเยียน”“รอให้พวกเราพบคุณหลงซิ่วและถานหง พวกเขาก็ตายไปแล้ว...”“......”เมื่อได้ยินเช่นนี้ รอยยิ้มดุร้ายบนใบหน้าของหลงหยวนก็ยิ่งเข้มข้นมากขึ้น“หลินเฟิงนะหลินเฟิง นายประกาศสงครามกับฉันเหรอ? ฆ่าหลงอวี่และหลงเซี่ยว และทำให้ตระกูลหลงของฉันต้องอับอาย ฉันจะเก็บหนี้เลือดทั้งหมดนี้ไว้เป็นหลักฐาน!”"ไม่ช้าก็เร
ถานหงกำลังหัวเราะเยาะตัวเองเธอวางแผนมาเป็นเวลานาน โดยต้องการใช้ตระกูลหลง เพื่อแก้แค้นหลินเฟิง อิ่นนั่วเจียและคนอื่นๆติดไม่ถึงว่านี่จะเป็นผลลัพธ์สุดท้ายแม้แต่หลงซิ่วซึ่งได้รับการยกย่องว่าทรงพลังอย่างยิ่ง ก็ไม่สามารถต้านทานได้ในขณะนี้เขาถูกโยนลงพื้นอย่างไม่ใส่ใจเหมือนกับตะพาบน้ำแต่ทว่าถานหงกลับไม่รู้ว่าหลงซิ่วยังไงก็เป็นถึงรองหัวหน้าฝ่ายธุรการแนวหลังของสำนักหลงผาน ความแข็งแกร่งของเขาก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าคนอื่นเพียงแค่ด้อยกว่าหลินเฟิงมากไปหน่อยก็เท่านั้นเองยิ่งกว่านั้นเขายังมีความเย่อหยิ่งมากเกินไป เขาไม่ได้พาลูกน้องของเขามาด้วย เมื่อพวกเขาเผชิญหน้ากันครั้งนี้ ดังนั้นจึงถูกหลินเฟิงเอาชนะได้อย่างง่ายดายหลินเฟิงเตรียมยาพิษไว้สำหรับหลงซิ่วโดยเฉพาะเมื่อหลงซิ่วต้องการใช้พลังชี่แท้ พิษก็จะออกฤทธิ์พิษนี้จะไม่ฆ่าหลงซิ่วทันที แต่จะทำให้เขาเกิดความปรารถนาอันแรงกล้าในตอนแรกเขาสามารถต้านทานด้วยความมุ่งมั่นและพลังชี่แท้ของเขาได้ แต่เมื่อพิษค่อยๆ รุกรานร่างกาย เขาก็สูญเสียสติทั้งหมดไปหลังจากระบายความโมโห ก็เสียชีวิตทันทีเขากล้าใช้กลอุบายสกปรกกับหลินเฟิง ดังนั้นหลินเฟิงก็ไม่มีทา
“เพียงแค่วางยาคุณหลงซิ่ว เพื่อดูว่าคุณมีพละกำลังพอที่จะเป็นลูกผู้ชายหรือเปล่า”หลินเฟิงมองไปที่หลงซิ่วที่สวมสูทสีชมพู แต่งเนื้อแต่งตัวเกินความพอดี รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาจริงใจอย่างยิ่ง"แก......"“เอาล่ะ เอาล่ะ ผมรู้ว่าคุณทรมาน วางใจได้ ผมไม่มีทางไม่สนใจคุณ”ขณะพูดหลินเฟิงดีดนิ้วชายสองคนในชุดสูทก้าวออกมาจากด้านหลังของหลินเฟิง หามหลงซิ่วขึ้นและพาเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สองคนเหล่านี้คือคนของเผิงกวงฉี่ส่วนเผิงกวงฉี่ก่อนหน้านี้ เขาได้นำลูกน้องสี่หรือห้าคนของเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สอง ที่มีโซฟาสีชมพูขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ถ่ายภาพตั้งนานแล้วภายในห้องมีชายเปลือยกาย 2 คนล้มลงในแอ่งเลือดเมื่อถานหงเดินเข้ามาในห้องส่วนตัวด้วยรอยยิ้มอาฆาตบนใบหน้า เห็นชายที่นั่งอยู่บนโซฟารอยยิ้มบนใบหน้าของเธอแข็งทื่อ และกลายเป็นร่องรอยของความกลัวและความตื่นตระหนก“ถานหง ผ่านไปเพียงไม่กี่วัน เธอก็ได้พบกับที่พึ่งใหม่แล้วเหรอ?”เผิงกวงฉี่นั่งสูบบุหรี่ซิการ์อยู่บนโซฟา และมองไปที่ถานหงอย่างไม่ใส่ใจ"ฉัน......"ถานหงรู้สึกสับสนในเวลานี้ เผิงกวงฉี่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?หรือว่า...หัวใจของถานหงรู้ส
ชีพจรมังกร...จะเป็นจื่อเสวียนรึเปล่านะ? -อิ่นนั่วเจียตกใจอย่างมาก และไม่ทราบว่าจื่อเสวียนกลายมาเป็นชีพจรมังกรที่หลงซิ่วพูดถึงได้อย่างไรดูเหมือนว่าตระกูลหลงจะต้องการสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรอย่างมากและครั้งนี้หลงซิ่วช่วยเหลือถานหง ในที่สุดก็รู้เป้าหมายชัดเจนแล้วพวกเขามาที่นี่เพื่อสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรในมือของหลินเฟิง!หลังจากคิดเรื่องนี้ออก ใบหน้าของอิ่นนั่วเจียก็ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมาเลย นอกจากความคิดอันลึกซึ้งในทางกลับกัน จวงฉุนกลับถามหลงซิ่วด้วยสีหน้าสับสน:“คุณหลงซิ่ว ชีพจรมังกรคืออะไร?”“ชีพจรมังกรนั้นคือ…”หลงซิ่วไม่ต้องการตอบคำถามของจวงฉุน แต่เห็นว่าอินนั่วเจียยังคงจมอยู่กับความคิดเขาอธิบายอย่างเรียบง่ายว่า:"มีการกล่าวกันว่าชีพจรมังกรเป็นที่มาของโชคลาภของประเทศมังกร"“หากรวบรวมชีพจรมังกรครบทั้งแปดเส้นได้ ก็จะกลายเป็นราชาแห่งมังกรตัวจริงได้ ตามประวัติศาสตร์แล้ว ชีพจรมังกรเหล่านี้เป็นของตระกูลหลงของเรามาโดยตลอด”“เพราะเหตุนี้สถานที่นี้จึงเรียกได้ว่าเป็นประเทศมังกร”“แล้วนามสกุลของเราคือหลง (หลง แปลว่า มังกร) เข้าใจแล้วยัง?”“เราแค่อยากนำสิ่งที่เดิมเป็น
ดังนั้นการร่วมมือกับถานหง เพื่อจัดการกับอิ่นนั่วเจียและหลินเฟิงจึงเป็นเพียงงานเสริมเท่านั้นจุดประสงค์ที่แท้จริงของหลงซิ่วคือเพื่อสำรวจหรือแม้กระทั่งเอาชีพจรมังกรที่อยู่รอบตัวหลินเฟิงออกไป!มีเพียงแค่เอาชีพจรมังกรมาอยู่ในมือ หลงหยวนก็สามารถใช้พละกำลังของเขา จัดการกับหลินเฟิงอย่างกล้าหาญได้และเรื่องของชีพจรมังกรมีเพียงหลงซิ่วและสวีโจวซึ่งเป็นนักบู๊ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดานักบู๊ของตระกูลหลงที่เขาส่งออกไปเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ส่วนที่เหลือก็ไม่ชัดเจนนักแต่ในเวลานี้หลงซิ่วไม่รู้ว่าสวีโจวและคนอื่น ๆ ได้กลายเป็นวิญญาณที่ตายแล้วในมือของหลินเฟิง ด้วยความพยายามผลักดันของจวงฉุน ไม่มีใครหนีไปได้สักคนเหลือเพียงจวงฉุนเท่านั้น และเพื่อความอยู่รอด เขาจึงได้กลายมาเป็นคนทรยศหากหลงซิ่วรู้เรื่องนี้เกรงว่าเขาจะตบจวงฉุนคนไร้ประโยชน์คนนี้จนตายไปซะเลยแทนที่จะชื่นชมเขาเพราะเขาพาอิ่นนั่วเจียมาอยู่เคียงข้างเขา"เอาล่ะ"หลงซิ่วยืนขึ้นและโบกมือให้อิ่นนั่วเจียอย่างด้วยสีหน้านิ่งเฉย“ผมได้เตรียมคนและอุปกรณ์ไว้แล้ว อยู่ในห้องส่วนตัวใต้ดินชั้นสอง ถานหง คุณไปเตรียมตัวก่อนเถอะ”“รอผมถามคำถามอิ่
“ฉันคือลูกน้องของเธอ? คุณหลงซิ่ว นี่มันเรื่องอะไรกัน? ฉันจำได้ว่าไม่มีข้อกำหนดนั้นในสัญญาของเราหรอกมั้ง?”อิ่นนั่วเจียขมวดคิ้วและมองไปที่หลงซิ่วหลงซิ่วสับสนเป็นอย่างมาก แต่ไม่ได้พูดอะไรยังคงเป็นถานหงที่ตอบคำถามของอิ่นนั่วเจียด้วยเสียงหัวเราะ“อิ่นนั่วเจีย เธอช่างไร้เดียงสาเกินไป เธอคิดจริงๆ เหรอว่าตระกูลหลงจะเต็มใจยอมรับเธอ เพราะพวกเขาเห็นคุณค่าในชื่อเสียงและความสามารถของเธอจริงๆ”ถานหงส่ายหน้าอย่างดูถูกและกล่าวว่า:“ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน ตระกูลหลงจะยอมรับเธอได้ยังไง?”“อ่อใช่ ไม่ว่าฉันหรือตระกูลหลง ก็ไม่ได้โกหกเธอ เพราะฉันคือผู้รับผิดชอบบริษัทบันเทิงของตระกูลหลงที่เธอเข้าร่วมมาโดยตลอด”“ดังนั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อิ่นนั่วเจีย เธอต้องเชื่อฟังฉัน เข้าใจไหม?”“ฉันให้เธอถ่ายหนังอะไร เธอก็ต้องไปถ่าย”"เดี๋ยวนะ"อิ่นนั่วเจียยื่นมือออกไปและขมวดคิ้ว:“ถานหง เธอพูดรุนแรงเกินไปแล้ว ฉันจำได้ว่าฉันไม่เคยทำให้เธอขุ่นเคืองมาก่อน ทำไมเธอถึงตั้งใจจะจัดการกับฉันขนาดนั้น?”“ถึงขั้นยอมทุ่มเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเพื่อดึงตัวฉันมาจากหลี่ซื่อกรุ๊ปด้วย”“จุ๊จุ๊จุ๊”เมื่อได้ยินคำพูดของอิ่นนั
“บ้าเอ๊ย ฉันไม่สามารถทนได้จริงๆ ติดต่อน้องหลินให้ฉัน ฉันจะเข้าแทรกแซงเรื่องนี้ด้วย!”...วันต่อมาในบาร์ใต้ดินแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของเมืองจิงจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียที่สวมหมวกและหน้ากากไว้ และดูเรียบง่ายมากรีบเดินทางมาที่นี่ ที่นี่คือ “สถานที่นัดพบ” ที่หลงซิ่วพูดถึงควบคู่ด้วยเสียงดนตรีอันไพเราะและฝูงชนที่เต้นรำจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียเดินผ่านทางเดินและมองเห็นหลงซิ่วกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะ พร้อมคาบบุหรี่อยู่ในปากเมื่อเห็นว่าอิ่นนั่วเจียมาจริง ๆ ดวงตาของหลงซิ่วก็เป็นประกายบุหรี่ในปากของเขาหล่นลงพื้นโดยไม่รู้ตัวแม้ว่าอิ่นนั่วเจียจะสวมเพียงชุดเดรสยีนส์ซึ่งทำให้เธอดูเป็นเด็กสาวมากในวันนี้ แต่หุ่นที่น่าสะพรึงกลัวของเธอก็ยังทำให้ หลงซิ่วที่กำลังนั่งอยู่ตรงโต๊อย่างไม่ใส่ใจก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอ"เชี่ย ไม่เสียแรงที่เป็นซูเปอร์สตาร์ประเทศมังกรจริงๆ นะ!"หลงซิ่วอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบเธอกับถานหง หลังจากคิดดู นี่มันไม่ใช่คนระดับเดียวกันด้วยซ้ำ!แม้ว่าถานหงจะเป็นราชินีเพลงประเทศมังกร หน้าตาก็คล้ายๆกันแต่เมื่อเทียบกับอิ่นนั่วเจียสาวสวยที่อยู่แต่ในจอ ถานหงยังด้อยกว่าเยอะมากเพียงแค่ออร่าอันส
สำนักงานใหญ่กลุ่มเผิงกวง เมืองจิงขณะนั้นเผิงกวงฉี่กำลังคาบซิการ์ไว้ในปากอย่างเรื่อยเปื่ยอ ฟังการโต้เถียงขัดแย้งระหว่างตัวแทนจากทั่วทุกแห่งในการประชุมแม้ว่าเผิงกวงฉี่จะดูเป็นปกติ แต่ในใจเขากลับโกรธมากพวกขยะพวกนี้ได้แต่โทษกันไปมา และต่างคนต่างหาผลประโยชน์แม้แต่เผิงกวงฉี่ก็ยังคิดว่า ควรจะกำจัดคนไร้ประโยชน์เหล่านี้ และส่งเสริมให้คนอื่นขึ้นมาเป็นผู้นำภูมิภาคดีไหมขณะที่กำลังคิดแบบนี้ โทรศัพท์มือถือของเผิงกวงฉี่ก็ดังขึ้นกะทันหันเสียงโทรศัพท์ทำให้ห้องประชุมเงียบลงทันที“คุณหลินโทรมาครับ คุณเผิงกวงฉี่”ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ ยื่นโทรศัพท์ให้ด้วยความเคารพเมื่อคิดว่าเป็นหลินเฟิง เผิงกวงฉี่ก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมากไม่พูดไม่ได้ว่ายาหยกโมราของหลินเฟิงมีประสิทธิภาพมากจริงๆ ควบคู่กับน้ำพุร้อนที่เจียงโจว ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองดูหนุ่มลงเรื่อย ๆ และร่างกายก็เต็มไปด้วยกำลังวังชาแม้แต่ผู้หญิงคนใหม่ที่หามาช่วงนี้ ก็ไม่สามารถทำให้เขาพึงพอใจได้ช่วงนี้เขากำลังคิดว่าควรจะหาเพิ่มอีกสักหน่อย เพื่อสร้างทายาทให้กับตระกูลเผิงของเขาสองเดือนที่แล้ว นี่เป็นสิ่งที่เขาไม่กล้าคิดมาก่อนด้วยซ้ำ“ฮัลโหล
“ฉันจะโอนเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเข้าบัญชีของคุณทันที ทางที่ดีคุณให้อิ่นนั่วเจียออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ปโดยเร็วที่สุด ให้เธอมาพบฉันที่เมืองจิง”"ฮ่าฮ่าฮ่า......"ถานหงที่อยู่ปลายสายหัวเราะอย่างโอเวอร์“ฉันต้องการให้อิ่นนั่วเจียคุกเข่าอยู่แทบเท้าฉัน! ยังมีหลินเฟิง ฉันจะทำให้หลินเฟิงและหลี่ซื่อกรุ๊ปบ้าบออะไรนั่นได้ชำระในสิ่งที่ควรจ่าย!”หลังจากพูดจบโทรศัพท์ก็วางสายไปและภายในเวลาไม่กี่นาที ข้อความเงินสดเข้าบัญชีจำนวนสองหมื่นห้าพันล้านบาทก็ปรากฏบนโทรศัพท์มือถือของจวงฉุนทันทีเมื่อมองดูข้อความบนโทรศัพท์ ลมหายใจของจวงฉุนก็เร็วขึ้นอย่างมาก เขาไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนี้ในชีวิตของเขามาก่อนแต่เมื่อเขาเงยหน้ามองไปทางหลินเฟิง ก็รู้สึกเหี่ยวเฉาทันทีเขารู้ว่าเงินจำนวนนี้จะไม่มีวันมาถึงเขาด้วยซ้ำ อีกทั้งเรื่องที่อิ่นนั่วเจียเข้าร่วมตระกูลหลงเป็นเรื่องโกหกทั้งหมดเขาแค่อยากหลอกเอาเงินก้อนนี้มาจากหลงซิ่ว เพื่อใช้รักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้ก็เท่านั้นเอง“ตอนนี้โอนเงินก้อนนี้เข้าบัญชีของหลี่ซื่อกรุ๊ปเถอะ”หลินเฟิงไม่พูดมาก บังคับจวงฉุนให้ดำเนินการบนโทรศัพท์มือถือของเขาโดยตรงหลังจากนั้นไม่นาน เงิน