“ฮัลโหล? คุณชายหลิน?”“ช่วยผมตรวจสอบหน่อยว่าคุณหนูตระกูลเซี่ยงตอนนี้อยู่ที่ไหน? ยิ่งเร็วยิ่งดี”จ้าวเทียนหวาฟังจากน้ำเสียงที่เย็นชาของหลินเฟิงก็สามารถฟังออกได้คุณหนูตระกูลเซี่ยงคนนี้เกรงว่าจะจบเห่แล้วเขาไม่กล้าเอื่อยเฉื่อยแม้แต่น้อย จากนั้นก็ตรวจสอบตำแหน่งที่อยู่ของเซี่ยงจื่อหลานด้วยเวลาที่เร็วที่สุด“คุณหลิน ตอนนี้เซี่ยงจื่อหลานอยู่ที่ไนท์บาร์”หลังจากที่หลินเฟิงได้รับตำแหน่งที่แน่นอนของเซี่ยงจื่อหลาน เขาก็เดินทางไปที่ไนท์บาร์ในทันทีขณะเดียวกันสวีเชาก็โอบไหล่ของเซี่ยงจื่อหลานแล้วพูดปลอบ “หลานหลาน สร้อยคอเส้นนั้นถูกหลี่ฮุ่ยหรานขโมยไปจริง ๆ ครับ”“ก่อนหน้านี้ผมมีการร่วมธุรกิจกับหลี่ซื่อกรุ๊ป และก็ไม่ได้ระแวงอะไรเธอ แต่คิดไม่ถึงว่าเธอจะเป็นคนแบบนี้ได้”เซี่ยงจื่อหลานถามด้วยความสงสัย “จริงเหรอ?”“แน่นอนครับ ถ้าหากคุณไม่เชื่อผม ผมสาบานต่อสวรรค์ ถ้าผมโกหกคุณ ผม…”สวีเชานิ้วมือชี้ไปบนฟ้า ยังไม่ทันพูดออกจากปาก เซี่ยงจื่อหลานก็กดมือเขาเอาไว้“อย่าพูดจาซี้ซั้ว ฉันเชื่อคุณแล้วก็ได้”สวีเชายิ้ม “ผมรู้อยู่แล้วว่าคุณรักผมมากที่สุด”“คุณวางใจได้ ผมรับรองว่าต่อไปจะไม่ไปมาหาสู่กับหล
หลินเฟิงมองดูผู้ชายสองคนผู้หญิงหนึ่งคนที่อยู่ตรงหน้าความทรงจำในหัวก็ปรากฏขึ้นมาทันทีผู้หญิงคนนี้เป็นผู้หญิงที่เห็นที่คฤหาสน์อ่าวเทียนสุ่ยก่อนหน้านี้ไม่นานไม่ใช่เหรอและความสัมพันธ์กับสวีเชาก็ไม่ธรรมดา“ดูท่าเธอก็คือเซี่ยงจื่อหลานสินะ?”หลินเฟิงจ้องมองเธอด้วยสายตาเย็นชา “ตอนนี้ไปคุกเข่าขอโทษหลี่ฮุ่ยหรานซะ ฉันจะพิจารณาไว้ชีวิตหมา ๆ ของเธอ”“คุกเข่าขอโทษให้เธอ? หลี่ฮุ่ยหรานเป็นใครกัน? เธอคู่ควรด้วยเหรอ?” เซี่ยงจื่อหลานเหยียดหยามถึงที่สุด“แม่ง หมาบ้าจากที่ไหนกัน กล้ามาเห่าอย่างบ้าคลั่งอยู่ที่นี่?” หวงเทียนเช่อมองหลินเฟิงด้วยความดูถูกเซี่ยงจื่อหลานกวาดตามองหวงเทียนเช่อกับเฟิงเหยน “ในเมื่อนายอยากแก้แค้นให้หลี่ฮุ่ยหราน งั้นวันนี้ก็อย่าได้คิดจะมีชีวิตออกไปเลย”“ศิษย์พี่ทั้งสองคน คนคนนี้มอบให้พวกพี่จัดการนะคะ ถือว่าช่วยศิษย์น้องเล็กน้อย”หวงเทียนเช่อหัวเราะเสียงดัง “ศิษย์น้องหญิงพูดอะไรเนี่ย วันนี้เป็นวันเกิดของศิษย์น้อง เดิมทีพวกเราก็ไม่ได้เตรียมของขวัญอะไร”“งั้นก็หักแขนหักขาของไอ้หมอนี่ เอาให้ศิษย์น้องหญิงเลี้ยงเป็นสุนัขแล้วกัน!”เซี่ยงจื่อหลานปิดปากหัวเราะ “ศิษย์พี่คิดได้รอบ
“ไม่ว่าแกจะมีสถานะอะไร แกก็ใกล้จะต้องตายแล้ว”เขาเคยชิงอำนาจของสำนักหนานเยว่แล้ว ต่อให้ถูกโจมตีก็ยังมีท่าทางยโสโอหังแต่หลินเฟิงก็ไม่ได้เติบโตมาด้วยความหวาดกลัวเขาส่งเสียงไม่พอใจออกมา “ก็แค่สำนักที่อยู่มาเป็นเวลาร้อยปี แต่กลับกำเริบเสิบสาน ดูนายภูมิใจซะขนาดนี้”“งั้นฉันจะส่งนายไปพบกับอาจารย์บรรพบุรุษของพวกนายแล้วกัน”หลินเฟิงพูดจบ ก็ตบไปที่กะโหลกของเขาเฟิงเหยนยังไม่ทันร้องโอดครวญออกมา รูทวารทั้งเจ็ดก็มีเลือดไหลออก และตายทั้งที่ไม่หลับตาเดาว่าเขาตายโดยที่คาดคิดไม่ถึงด้วยซ้ำว่า หลินเฟิงจะกล้าฆ่าเขาจริง ๆเซี่ยงจื่อหลานที่นั่งอยู่บนเก้าอี้นั่งไม่ติดแล้วศิษย์พี่ทั้งสองคน คนหนึ่งหมดสติ อีกคนตายไปจนไม่รู้จะตายได้อย่างไรแล้วความสามารถแค่น้อยนิดของตัวเองไม่มีทางเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้“นาย…นายอย่าเข้ามานะ” เซี่ยงจื่อหลานถอยหลังไปติด ๆหลินเฟิงจับคอของเธอเอาไว้เธอก็เป็นคนที่สามารถปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ได้ รู้ตัวว่าสถานการณ์ไม่สู้ดีนัก จึงไม่กล้าแข็งข้อกับหลินเฟิงจึงรีบบีบน้ำตาออกมา แสร้งทำท่าทางน่าสงสาร “คุณอย่าฆ่าฉันนะ คุณมีความต้องการอะไรเสนอกับฉันมาได้เต็มที่”“ฉันสามาร
เซี่ยงจื่อหลานถอดเสื้อคลุมบางออกช้า ๆ ลมหนาวพัดผ่าน ทำให้เสื้อคลุมของเธอถูกพัดปลิวไปเห็นเขายังไม่ขยับเขยื้อนเซี่ยงจื่อหลานกัดฟันและถอดเสื้อผ้าทั้งหมดของตัวเองออกเธอที่ไม่เหลือเสื้อผ้าแม้แต่ชิ้นเดียวยืนสั่นอยู่ท่ามกลางลมหนาว แต่กลับไม่กล้าพูดจาหลินเฟิงในหัวกำลังครุ่นคิดถึงคำพูดของเธอ เมื่อเห็นเธอถอดเสื้อผ้าออกทีละชิ้นเขากลับไม่มีความสนใจแม้แต่น้อยหลินเฟิงเคยเห็นผู้หญิงหน้าตาสวยในโลกนี้มากมาย ผู้หญิงประเภทอย่างเซี่ยงจื่อหลานไม่เข้าตาเขาจริง ๆเขาดึงเซี่ยงจื่อหลานกลับเข้าไปในห้องเซี่ยงจื่อหลานรู้สึกดีใจอย่างมาก หัวใจที่หวาดเสียวในที่สุดก็สบายใจลงได้แต่หลินเฟิงกลับกดเธอเข้ากับกำแพงโดยไม่เกรงใจ“พี่ชาย คุณหยาบคายเกินไปหน่อยแล้ว” เซี่ยงจื่อหลานสายตายั่วยวน มุมปากยกขึ้นเล็กน้อยนึกว่าเขาเป็นบุคคลเก่งกาจ แต่คิดไม่ถึงว่าจะบ้ากามแบบนี้ตัวเองแค่ยั่วยวนนิดหน่อย ก็ควบคุมเขาได้สำเร็จน่าเสียดายที่เธอกลับคิดมากไปเองหลินเฟิงยกมือกดจุดใหญ่ ๆ ตรงบริเวณหน้าอกแต่ละจุดสามครั้งเซี่ยงจื่อหลานรู้สึกเจ็บหน้าอกอย่างมากในทันทีในตอนนี้หลินเฟิงก็ดึงมือกลับและปล่อยเซี่ยงจื่อหลานออก“อ๊ะ
หลินเฟิงส่ายหน้าด้วยความเหยียดหยาม “ตอนนี้คุณควรจะเตรียมตัวให้ดีหน่อยว่าจะขอโทษหลี่ฮุ่ยหรานอย่างไร ทำอย่างไรถึงทำให้หลี่ฮุ่ยหรานให้อภัยคุณได้”“แต่ไม่ใช่มาทำท่ายั่วยวนอยู่ตรงนี้”หลินเฟิงมองเธอด้วยความดูถูก จากนั้นเดินออกไปทันที“คุณ…ไอ้หมอนี่…โอ๊ย…”หลินเฟิงเพิ่งเดินออกจากประตู เซี่ยงจื่อหลานก็รู้สึกเจ็บหน้าอกเพิ่มขึ้นมาอีกทันทีเธอเจ็บจนเหงื่อออกเต็มตัวถึงขั้นที่ไม่มีแรงที่จะลุกยืนขึ้นเธอกัดฟันแน่น ใช้แรงทั้งหมดถึงได้หยิบโทรศัพท์ที่อยู่บนโต๊ะมาได้ จากนั้นก็รีบโทรหาคุณพ่อของตัวเองผ่านไปครู่ใหญ่เซี่ยงตงเซิงพาไป๋จินเต๋อตามมาที่ไนท์บาร์พวกเขาเพิ่งเข้ามาในห้องทำงาน ก็เห็นลูกสาวของตัวเองนอนเปลือยอยู่บนพื้นคนทั้งสองของสำนักหนานเยว่ก็ไม่รู้เป็นตายร้ายดีเขาตกตะลึงอย่างมาก งานเลี้ยงวันเกิดลูกสาวของตัวเองทำไมถึงได้เป็นแบบนี้ไปได้เขารีบเดินไปข้างกายเซี่ยงจื่อหลาน คลุมเสื้อผ้าให้เธอ “ลูก นี่มันเรื่องอะไรกันแน่?”“ใครทำร้ายพวกลูกจนเป็นแบบนี้?”เซี่ยงจื่อหลานพูดด้วยน้ำเสียงสั่นคลอน “หลิน…หลินเฟิง”“อะไรนะ? ไอ้เวรนี่อีกแล้วเหรอ?” เซี่ยงตงเซิงได้ยินชื่อของหลินเฟิงก็โกรธเป็นฟืน
โรงพยาบาลเมืองเจียงโจวจางซินนั่งอยู่ตรงเก้าอี้ยาวที่ทางเดิน เธอเพิ่งโทรศัพท์หาจางกุ้ยหลานเสร็จหลี่ฮุ่ยหรานพ้นขีดอันตรายกำลังจะย้ายไปที่ห้องพักผู้ป่วยเธอจึงเดินวนไปวนมาอยู่ตรงที่ทางเดิน จู่ ๆ หลินเฟิงก็กลับมา จากนั้นเธอก็หันหลังจะวิ่งหนีไปหลินเฟิงเดินเข้าไปจับข้อมือของเธอเอาไว้ และดึงเธอเข้ามาในห้องทันที“ว้าย…ไอ้สกุลหลิน นายจะทำอะไร? ฉันเจ็บนะ”จางซินรีบตะโกนขึ้นหลินเฟิงใบหน้าเย็นชาถามขึ้น “พูดมา วันนี้งานวันเกิดที่ตระกูลเซี่ยงตกลงว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่”“ฉัน…ฉันจะไปรู้ได้อย่างไร? อย่ามาถามฉัน รอให้พี่ของฉันตื่นมา นายไปถามเธอเองสิ” จางซินหลบสายตาหลินเฟิงหรี่ตาลง จากนั้นก็เข้าไปบีบคอของเธอเอาไว้“ฉันจะให้โอกาสเธอครั้งสุดท้าย”“อุ๊บ…ไอ้สกุลหลิน นายบ้าไปแล้วเหรอ นายกล้าลงมือกับฉันเหรอ?” จางซินตกตะลึงจนหน้าซีดคิดไม่ถึงว่าหลินเฟิงจะกำเริบเสิบสานขนาดนี้ เธอรู้สึกว่าตัวเธอหายใจไม่ออกแต่สองมือกลับจับกระเป๋าของตัวเองเอาไว้แน่น ไม่ยอมปล่อยแม้แต่วินาทีเดียวหลินเฟิงเห็นแบบนี้ก็เข้าไปแย่งกระเป๋ามาจากเธอจางซินเห็นแบบนี้ก็ไม่ให้อยู่แล้ว “นายจะทำอะไร? กล้าแย่งของของฉัน เอ
จางซินได้ยินประโยคนี้ทำให้ตกใจจนทำอะไรไม่ถูกเธอหันไปพูดร้องห่มร้องไห้กับหลินเฟิง“หลินเฟิง นาย..นายรีบช่วยฉันสิ…ฉันพูด ฉันพูดพอใจแล้วยัง?”หลินเฟิงเห็นแบบนี้ก็เดินเข้าไป ขวางทางทั้งสองคนเอาไว้ “คนคนนี้ พวกนายพาตัวไปไม่ได้แล้วล่ะ”“แกแม่งเป็นใครวะ? กล้ามาขัดขวางคนของสำนักหนานเยว่?” ชายร่างกำยำหนึ่งในนั้นขมวดคิ้วแล้วพูดเหยียดหยามหลินเฟิงพูดขึ้นอย่างเรียบเฉย “ฉันไม่สนว่าพวกนายเป็นใคร ตอนนี้ปล่อยคนซะ”“แม่งเอ๊ย” คนอีกคนหนึ่งปล่อยหมัดออกมาทันทีว่องไวเป็นอย่างมากและว่องไวกว่าหวงเทียนเช่อและเฟิงเหยนแต่อยู่ต่อหน้าหลินเฟิงยังไม่เพียงพออยู่ดีเขาเอียงหน้าเล็กน้อย จากนั้นก็ปล่อยหมัดกระแทกไปตรงหน้าของเขาอย่างไวราวกับสายฟ้าอีกฝ่ายตกตะลึงทันที จากนั้นก็ล้มลงบนพื้น และสลบไสลไปเหมือนกับเด็กทารก อีกคนหนึ่งเห็นแบบนี้ก็ตกตะลึงจนหน้าถอดสีเดิมอยากจะจับตัวจางซินไปหลินเฟิงก็จับข้อมือของเขาเอาไว้และออกแรงทันที“แกร่ก” ทั้งแขนบิดเบี้ยวจนผิดรูป“อ๊าก…แขนของฉัน…ไอ้เวร แกเป็นใครกันแน่?”“นายเป็นคนของสำนักหนานเยว่เหรอ?”ชายร่างกำยำกัดฟันพูด “พูดจาไร้สาระ รู้ว่าเราคือคนของสำนักหนานเยว่ยังจะ
“รอให้หลี่ฮุ่ยหรานฟื้นมา ทางที่ดีเธออธิบายเรื่องนี้ให้ชัดเจนด้วย”หลินเฟิงถลึงตาใส่เธอจางซินกลืนน้ำลาย ในใจรู้สึกกระวนกระวายไม่กล้ามองตาหลินเฟิงด้วยซ้ำในตอนนี้เอง จางกุ้ยหลานกับหลี่เหวินเชาก็ตามมาที่โรงพยาบาลเห็นหลี่ฮุ่ยหรานที่สลบไม่ได้สติ จางกุ้ยหลานก็ถึงกับตกตะลึง “แม่เจ้า นี่ใครกันแน่ที่ทำร้ายจนฮุ่ยหรานของพวกเราเป็นแบบนี้?”จางซินพูดขึ้นทันที “เป็น…คุณหนูของตระกูลเซี่ยง”“คุณหนูตระกูลเซี่ยง?” จางกุ้ยหลานสีหน้างุนงง“มันเรื่องอะไรกัน? พวกเราไม่เคยล่วงเกินตระกูลเซี่ยงมาก่อนนะ! คุณหนูตระกูลเซี่ยงทำไมถึงได้ทำร้ายหลี่ฮุ่ยหรานล่ะ?”“จริงด้วย…ในนี้ต้องมีเรื่องเข้าใจผิดอะไรกันหรือเปล่า?” หลี่เหวินเชารีบพูดขึ้นจางกุ้ยหลานมองไปทางหลินเฟิงที่อยู่ด้านข้าง “หลินเฟิง เป็นแกไอ้สารเลวที่หาเรื่องคุณหนูตระกูลเซี่ยงใช่ไหม?”หลินเฟิงคิดไม่ถึงว่าจางกุ้ยหลานจะโยนความผิดมาที่เขาในทันทีเขาพูดเยาะหยัน “เรื่องนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับฉันทั้งนั้น เป็นสวีเชาที่เหยียบเรือสองแคม”“สร้อยคอมูลค่าหนึ่งร้อยล้านบาทที่มอบให้หลี่ฮุ่ยหราน สร้อยเส้นนั้นเป็นของที่เซี่ยงจื่อหลานมอบให้สวีเชา”“แกพูด
“เพียงแค่วางยาคุณหลงซิ่ว เพื่อดูว่าคุณมีพละกำลังพอที่จะเป็นลูกผู้ชายหรือเปล่า”หลินเฟิงมองไปที่หลงซิ่วที่สวมสูทสีชมพู แต่งเนื้อแต่งตัวเกินความพอดี รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาจริงใจอย่างยิ่ง"แก......"“เอาล่ะ เอาล่ะ ผมรู้ว่าคุณทรมาน วางใจได้ ผมไม่มีทางไม่สนใจคุณ”ขณะพูดหลินเฟิงดีดนิ้วชายสองคนในชุดสูทก้าวออกมาจากด้านหลังของหลินเฟิง หามหลงซิ่วขึ้นและพาเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สองคนเหล่านี้คือคนของเผิงกวงฉี่ส่วนเผิงกวงฉี่ก่อนหน้านี้ เขาได้นำลูกน้องสี่หรือห้าคนของเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สอง ที่มีโซฟาสีชมพูขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ถ่ายภาพตั้งนานแล้วภายในห้องมีชายเปลือยกาย 2 คนล้มลงในแอ่งเลือดเมื่อถานหงเดินเข้ามาในห้องส่วนตัวด้วยรอยยิ้มอาฆาตบนใบหน้า เห็นชายที่นั่งอยู่บนโซฟารอยยิ้มบนใบหน้าของเธอแข็งทื่อ และกลายเป็นร่องรอยของความกลัวและความตื่นตระหนก“ถานหง ผ่านไปเพียงไม่กี่วัน เธอก็ได้พบกับที่พึ่งใหม่แล้วเหรอ?”เผิงกวงฉี่นั่งสูบบุหรี่ซิการ์อยู่บนโซฟา และมองไปที่ถานหงอย่างไม่ใส่ใจ"ฉัน......"ถานหงรู้สึกสับสนในเวลานี้ เผิงกวงฉี่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?หรือว่า...หัวใจของถานหงรู้ส
ชีพจรมังกร...จะเป็นจื่อเสวียนรึเปล่านะ? -อิ่นนั่วเจียตกใจอย่างมาก และไม่ทราบว่าจื่อเสวียนกลายมาเป็นชีพจรมังกรที่หลงซิ่วพูดถึงได้อย่างไรดูเหมือนว่าตระกูลหลงจะต้องการสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรอย่างมากและครั้งนี้หลงซิ่วช่วยเหลือถานหง ในที่สุดก็รู้เป้าหมายชัดเจนแล้วพวกเขามาที่นี่เพื่อสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรในมือของหลินเฟิง!หลังจากคิดเรื่องนี้ออก ใบหน้าของอิ่นนั่วเจียก็ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมาเลย นอกจากความคิดอันลึกซึ้งในทางกลับกัน จวงฉุนกลับถามหลงซิ่วด้วยสีหน้าสับสน:“คุณหลงซิ่ว ชีพจรมังกรคืออะไร?”“ชีพจรมังกรนั้นคือ…”หลงซิ่วไม่ต้องการตอบคำถามของจวงฉุน แต่เห็นว่าอินนั่วเจียยังคงจมอยู่กับความคิดเขาอธิบายอย่างเรียบง่ายว่า:"มีการกล่าวกันว่าชีพจรมังกรเป็นที่มาของโชคลาภของประเทศมังกร"“หากรวบรวมชีพจรมังกรครบทั้งแปดเส้นได้ ก็จะกลายเป็นราชาแห่งมังกรตัวจริงได้ ตามประวัติศาสตร์แล้ว ชีพจรมังกรเหล่านี้เป็นของตระกูลหลงของเรามาโดยตลอด”“เพราะเหตุนี้สถานที่นี้จึงเรียกได้ว่าเป็นประเทศมังกร”“แล้วนามสกุลของเราคือหลง (หลง แปลว่า มังกร) เข้าใจแล้วยัง?”“เราแค่อยากนำสิ่งที่เดิมเป็น
ดังนั้นการร่วมมือกับถานหง เพื่อจัดการกับอิ่นนั่วเจียและหลินเฟิงจึงเป็นเพียงงานเสริมเท่านั้นจุดประสงค์ที่แท้จริงของหลงซิ่วคือเพื่อสำรวจหรือแม้กระทั่งเอาชีพจรมังกรที่อยู่รอบตัวหลินเฟิงออกไป!มีเพียงแค่เอาชีพจรมังกรมาอยู่ในมือ หลงหยวนก็สามารถใช้พละกำลังของเขา จัดการกับหลินเฟิงอย่างกล้าหาญได้และเรื่องของชีพจรมังกรมีเพียงหลงซิ่วและสวีโจวซึ่งเป็นนักบู๊ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดานักบู๊ของตระกูลหลงที่เขาส่งออกไปเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ส่วนที่เหลือก็ไม่ชัดเจนนักแต่ในเวลานี้หลงซิ่วไม่รู้ว่าสวีโจวและคนอื่น ๆ ได้กลายเป็นวิญญาณที่ตายแล้วในมือของหลินเฟิง ด้วยความพยายามผลักดันของจวงฉุน ไม่มีใครหนีไปได้สักคนเหลือเพียงจวงฉุนเท่านั้น และเพื่อความอยู่รอด เขาจึงได้กลายมาเป็นคนทรยศหากหลงซิ่วรู้เรื่องนี้เกรงว่าเขาจะตบจวงฉุนคนไร้ประโยชน์คนนี้จนตายไปซะเลยแทนที่จะชื่นชมเขาเพราะเขาพาอิ่นนั่วเจียมาอยู่เคียงข้างเขา"เอาล่ะ"หลงซิ่วยืนขึ้นและโบกมือให้อิ่นนั่วเจียอย่างด้วยสีหน้านิ่งเฉย“ผมได้เตรียมคนและอุปกรณ์ไว้แล้ว อยู่ในห้องส่วนตัวใต้ดินชั้นสอง ถานหง คุณไปเตรียมตัวก่อนเถอะ”“รอผมถามคำถามอิ่
“ฉันคือลูกน้องของเธอ? คุณหลงซิ่ว นี่มันเรื่องอะไรกัน? ฉันจำได้ว่าไม่มีข้อกำหนดนั้นในสัญญาของเราหรอกมั้ง?”อิ่นนั่วเจียขมวดคิ้วและมองไปที่หลงซิ่วหลงซิ่วสับสนเป็นอย่างมาก แต่ไม่ได้พูดอะไรยังคงเป็นถานหงที่ตอบคำถามของอิ่นนั่วเจียด้วยเสียงหัวเราะ“อิ่นนั่วเจีย เธอช่างไร้เดียงสาเกินไป เธอคิดจริงๆ เหรอว่าตระกูลหลงจะเต็มใจยอมรับเธอ เพราะพวกเขาเห็นคุณค่าในชื่อเสียงและความสามารถของเธอจริงๆ”ถานหงส่ายหน้าอย่างดูถูกและกล่าวว่า:“ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน ตระกูลหลงจะยอมรับเธอได้ยังไง?”“อ่อใช่ ไม่ว่าฉันหรือตระกูลหลง ก็ไม่ได้โกหกเธอ เพราะฉันคือผู้รับผิดชอบบริษัทบันเทิงของตระกูลหลงที่เธอเข้าร่วมมาโดยตลอด”“ดังนั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อิ่นนั่วเจีย เธอต้องเชื่อฟังฉัน เข้าใจไหม?”“ฉันให้เธอถ่ายหนังอะไร เธอก็ต้องไปถ่าย”"เดี๋ยวนะ"อิ่นนั่วเจียยื่นมือออกไปและขมวดคิ้ว:“ถานหง เธอพูดรุนแรงเกินไปแล้ว ฉันจำได้ว่าฉันไม่เคยทำให้เธอขุ่นเคืองมาก่อน ทำไมเธอถึงตั้งใจจะจัดการกับฉันขนาดนั้น?”“ถึงขั้นยอมทุ่มเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเพื่อดึงตัวฉันมาจากหลี่ซื่อกรุ๊ปด้วย”“จุ๊จุ๊จุ๊”เมื่อได้ยินคำพูดของอิ่นนั
“บ้าเอ๊ย ฉันไม่สามารถทนได้จริงๆ ติดต่อน้องหลินให้ฉัน ฉันจะเข้าแทรกแซงเรื่องนี้ด้วย!”...วันต่อมาในบาร์ใต้ดินแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของเมืองจิงจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียที่สวมหมวกและหน้ากากไว้ และดูเรียบง่ายมากรีบเดินทางมาที่นี่ ที่นี่คือ “สถานที่นัดพบ” ที่หลงซิ่วพูดถึงควบคู่ด้วยเสียงดนตรีอันไพเราะและฝูงชนที่เต้นรำจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียเดินผ่านทางเดินและมองเห็นหลงซิ่วกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะ พร้อมคาบบุหรี่อยู่ในปากเมื่อเห็นว่าอิ่นนั่วเจียมาจริง ๆ ดวงตาของหลงซิ่วก็เป็นประกายบุหรี่ในปากของเขาหล่นลงพื้นโดยไม่รู้ตัวแม้ว่าอิ่นนั่วเจียจะสวมเพียงชุดเดรสยีนส์ซึ่งทำให้เธอดูเป็นเด็กสาวมากในวันนี้ แต่หุ่นที่น่าสะพรึงกลัวของเธอก็ยังทำให้ หลงซิ่วที่กำลังนั่งอยู่ตรงโต๊อย่างไม่ใส่ใจก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอ"เชี่ย ไม่เสียแรงที่เป็นซูเปอร์สตาร์ประเทศมังกรจริงๆ นะ!"หลงซิ่วอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบเธอกับถานหง หลังจากคิดดู นี่มันไม่ใช่คนระดับเดียวกันด้วยซ้ำ!แม้ว่าถานหงจะเป็นราชินีเพลงประเทศมังกร หน้าตาก็คล้ายๆกันแต่เมื่อเทียบกับอิ่นนั่วเจียสาวสวยที่อยู่แต่ในจอ ถานหงยังด้อยกว่าเยอะมากเพียงแค่ออร่าอันส
สำนักงานใหญ่กลุ่มเผิงกวง เมืองจิงขณะนั้นเผิงกวงฉี่กำลังคาบซิการ์ไว้ในปากอย่างเรื่อยเปื่ยอ ฟังการโต้เถียงขัดแย้งระหว่างตัวแทนจากทั่วทุกแห่งในการประชุมแม้ว่าเผิงกวงฉี่จะดูเป็นปกติ แต่ในใจเขากลับโกรธมากพวกขยะพวกนี้ได้แต่โทษกันไปมา และต่างคนต่างหาผลประโยชน์แม้แต่เผิงกวงฉี่ก็ยังคิดว่า ควรจะกำจัดคนไร้ประโยชน์เหล่านี้ และส่งเสริมให้คนอื่นขึ้นมาเป็นผู้นำภูมิภาคดีไหมขณะที่กำลังคิดแบบนี้ โทรศัพท์มือถือของเผิงกวงฉี่ก็ดังขึ้นกะทันหันเสียงโทรศัพท์ทำให้ห้องประชุมเงียบลงทันที“คุณหลินโทรมาครับ คุณเผิงกวงฉี่”ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ ยื่นโทรศัพท์ให้ด้วยความเคารพเมื่อคิดว่าเป็นหลินเฟิง เผิงกวงฉี่ก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมากไม่พูดไม่ได้ว่ายาหยกโมราของหลินเฟิงมีประสิทธิภาพมากจริงๆ ควบคู่กับน้ำพุร้อนที่เจียงโจว ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองดูหนุ่มลงเรื่อย ๆ และร่างกายก็เต็มไปด้วยกำลังวังชาแม้แต่ผู้หญิงคนใหม่ที่หามาช่วงนี้ ก็ไม่สามารถทำให้เขาพึงพอใจได้ช่วงนี้เขากำลังคิดว่าควรจะหาเพิ่มอีกสักหน่อย เพื่อสร้างทายาทให้กับตระกูลเผิงของเขาสองเดือนที่แล้ว นี่เป็นสิ่งที่เขาไม่กล้าคิดมาก่อนด้วยซ้ำ“ฮัลโหล
“ฉันจะโอนเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเข้าบัญชีของคุณทันที ทางที่ดีคุณให้อิ่นนั่วเจียออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ปโดยเร็วที่สุด ให้เธอมาพบฉันที่เมืองจิง”"ฮ่าฮ่าฮ่า......"ถานหงที่อยู่ปลายสายหัวเราะอย่างโอเวอร์“ฉันต้องการให้อิ่นนั่วเจียคุกเข่าอยู่แทบเท้าฉัน! ยังมีหลินเฟิง ฉันจะทำให้หลินเฟิงและหลี่ซื่อกรุ๊ปบ้าบออะไรนั่นได้ชำระในสิ่งที่ควรจ่าย!”หลังจากพูดจบโทรศัพท์ก็วางสายไปและภายในเวลาไม่กี่นาที ข้อความเงินสดเข้าบัญชีจำนวนสองหมื่นห้าพันล้านบาทก็ปรากฏบนโทรศัพท์มือถือของจวงฉุนทันทีเมื่อมองดูข้อความบนโทรศัพท์ ลมหายใจของจวงฉุนก็เร็วขึ้นอย่างมาก เขาไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนี้ในชีวิตของเขามาก่อนแต่เมื่อเขาเงยหน้ามองไปทางหลินเฟิง ก็รู้สึกเหี่ยวเฉาทันทีเขารู้ว่าเงินจำนวนนี้จะไม่มีวันมาถึงเขาด้วยซ้ำ อีกทั้งเรื่องที่อิ่นนั่วเจียเข้าร่วมตระกูลหลงเป็นเรื่องโกหกทั้งหมดเขาแค่อยากหลอกเอาเงินก้อนนี้มาจากหลงซิ่ว เพื่อใช้รักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้ก็เท่านั้นเอง“ตอนนี้โอนเงินก้อนนี้เข้าบัญชีของหลี่ซื่อกรุ๊ปเถอะ”หลินเฟิงไม่พูดมาก บังคับจวงฉุนให้ดำเนินการบนโทรศัพท์มือถือของเขาโดยตรงหลังจากนั้นไม่นาน เงิน
“ดูเหมือนว่าคุณจะได้เจอกับอิ่นนั่วเจียจริงๆ นะ”หลงซิ่วที่อยู่ปลายสายพูดอย่างใจเย็นว่า:“ผมลืมบอกคุณไปว่าตอนนี้อิ่นนั่วเจียเป็นสมาชิกของหลี่ซื่อกรุ๊ปแล้ว เธอเต็มใจที่จะออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ป และร่วมมือกับตระกูลหลงของเราจริงๆ เหรอ?”เมื่อได้ยินสิ่งที่หลงซิ่วพูดจวงฉุนสั่นสะเทือนไปทั้งตัวเกือบหัวใจวายเพราะความโมโหในที่สุดเขาก็ได้ลิ้มรสว่าการถูกหลอกเป็นอย่างไรหากหลงซิ่วเล่าเบื้องหลังของอิ่นนั่วเจียให้เขาฟังก่อนหน้านี้เขาจะพาผู้คนมาที่นี่เพื่อมาหาอิ่นนั่วเจีย และตกหลุมพรางได้ยังไง?ตอนนี้มันสายเกินไปที่จะพูดอะไรอีกแล้วร่องรอยแห่งความโกรธเริ่มผุดขึ้นในใจของจวงฉุนหากพูดว่าเมื่อครู่เพียงแค่โกหกหลงซิ่ว เขาก็มีความกดดันอยู่ไม่น้อยเมื่อเขาได้ยินว่าหลงซิ่วปกปิดเรื่องของอิ่นนั่วเจียกับเขา เขาก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันทีหากคุณไม่ได้บอกผมให้ชัดเจนก่อนที่คุณจะจากไปผมจำเป็นต้องตกไปอยู่ในมือของหลินเฟิงงั้นเหรอ?จวงฉุนตัดสินใจ คำพูดก็ราบรื่นมากขึ้น“ใช่ครับ คุณอิ่นนั่วเจียบอกผมเอง แต่ว่า...”"แต่ว่าอะไร?"หลงซิ่วที่ปลายสายโทรศัพท์ขมวดคิ้วเล็กน้อย“แต่คุณอิ่นนั่วเจียบอกว่าเธอได้เซ็น
จวงฉุนคิดว่าคำพูดนี้สมบูรณ์แบบไร้ที่ติขณะที่จวงฉุนกำลังจมอยู่กับจินตนาการของเขา หลินเฟิงก็ยื่นมือออกไปและโบกไปมาตรงหน้าจวงฉุน“การปล้นทำลายของพวกนายในครั้งนี้ ได้ทำลายสินค้าของหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันมูลค่าสองหมื่นห้าพันล้านบาทเต็มๆ เพียงแค่นายสามารถชดเชยเงินสินค้าเหล่านี้ให้เราได้ ฉันก็จะไม่ถือสาเอาความ”"สองหมื่นห้าพันล้านบาท?"เมื่อได้ยินตัวเลขนี้ อิ่นนั่วเจียที่อยู่ข้างๆ ก็เปิดริมฝีปากสีแดงของเธอออกครู่หนึ่ง เธอก็ส่ายหัวอย่างจนปัญญาหลินเฟิงกำลังพยายามกรรโชกเงินอยู่เหรอ!"เป็นไปไม่ได้!"เห็นได้ชัดว่าจวงฉุนก็ตกใจกับจำนวนเงินมหาศาลนี้อย่าว่าแต่ยี่สิบห้าล้านบาทเลย แม้แต่ห้าพันล้านบาทเขาก็ยังไม่มี จะอุดรูโบ๋นี้ได้อย่างไรหลินเฟิงรีดไถมากเกินไปจริงๆ“แน่นอนว่าหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันไม่สนใจเงินจำนวนน้อยๆ นี้ แต่ฉันแค่อยากเห็นท่าทางของคุณ”“เป็นไงบ้าง?”หลินเฟิงจ้องมองจวงฉุนด้วยความสนใจอย่างยิ่ง ต้องการดูว่าคนๆ นี้จะหาเงินได้มากเท่าไหร่เพื่อเอาชีวิตรอดได้ในเมื่อเสียหายหนึ่งหมื่นล้านบาท หลินเฟิงต้องหาชดเชยมาจากที่อื่น"ดี...ดีครับ!"จวงฉุนรู้ดีว่าวันนี้เขาไม่มีสิทธิ์ต่อรองกับหลิ