เธอถามอย่างสงสัย “คนจากตระกูลเซียง?”อู๋เสี่ยวเจี๋ยพยักหน้า "คุณหนูถังมีสายตาที่เฉียบแหลม คนเหล่านี้เป็นสามพี่น้องตระกูลเซียงจากหยางเฉิง"ถังหว่านพูดอย่างเหยียดหยาม "ฉันไม่คิดว่าแกจะติดต่อกับคนจากตระกูลเซียง ไม่น่าแปลกใจเลยที่แกหยิ่งผยองขึ้นกว่าเดิม"เพราะหยางเฉิงและเจียงโจวเป็นเมืองใกล้เคียง และตระกูลเซียงก็เป็นผู้ประกอบการท้องถิ่นในหยางเฉิงอำนาจตระกูลของพวกเขานั้นไม่ใช่น้อย และโดยไม่คาดคิด ตอนนี้พวกเขาได้ขยายอาณาเขตมายังเจียงโจวแล้วอู๋เสี่ยวเจี๋ยจุดบุหรี่แล้วพูด "ฉันสงสัยว่าคุณหนูถังจะกล้าพนันหรือเปล่า?"หลังจากเข้าร่วมตระกูลเซียงแล้ว นายใหญ่เซียงยังมอบหมายแฝดสามคนที่เติบโตในตระกูลเซียงมาตั้งแต่เด็กให้เขาด้วยพวกเขาแต่ละคนล้วนเป็นนักสู้ที่มีทั้งทักษะที่ยอดเยี่ยมและมือเปื้อนเลือดอีกด้วยแม้ว่าจะกล่าวกันว่ามีไว้เพื่อปกป้อง แต่ก็เพื่อการสอดแนมด้วยเช่นกันวันนี้เขาก็อยากจะเห็นว่าทั้งสามคนนี้มีความสามารถมากแค่ไหนถังหว่านเท้าเอว แล้วดูถูกว่า "ฉันกลัวแกงั้นเหรอ? ใครอยากจะออกมาก่อน?"พี่คนโตของตระกูลเซียงก้าวไปข้างหน้าทันที“ถ้าคุณแพ้มันจะเป็นยังไง คุณหนูถัง?” อู๋เสี่ยวเจี๋ยถา
เซียงคนโตที่มีความสูงตระหง่านกว่า 190 ซม. ทำให้โจวเฉินดูแคระแกร็น อีกฝ่ายได้เปรียบด้านรูปร่างแต่โจวเฉินมีความคล่องตัวเป็นอาวุธ เขาหลบเลี่ยงและโยกหลบอย่างมีชั้นเชิงเขาหลีกเลี่ยงการต่อยหนักๆ ของคู่ต่อสู้ และคว้าจังหวะโจมตีได้ในทันทีพี่ใหญ่เซียงโดนหมัด สีหน้าของเขาจึงเปลี่ยนเป็นดุร้ายฝีเท้าของเขาเร็วขึ้น ความถี่หมัดของเขาสูงขึ้นทั้งสองแลกเปลี่ยนการเคลื่อนไหวหลายสิบครั้งในพริบตาโรงงานเต็มไปด้วยฝุ่นตลบและบรรยากาศที่ตึงเครียดชัยชนะนั้นยากที่จะกำหนดได้ชั่วระยะเวลาหนึ่งยิ่งโจวเฉินโจมตีมากเท่าไหร่ก็ยิ่งตกใจมากขึ้นเท่านั้น แอบถอนหายใจว่าเด็กคนนี้มาจากไหนไม่คาดคิดว่าจะมีแรงมากเช่นนี้ขณะที่พี่ใหญ่เซียงออกหมัดอีกครั้งเขาก็หลบอย่างรวดเร็ว"โอกาสดี"เมื่อมองเห็นการป้องกันรอบเอวของคู่ต่อสู้ เขาจึงกำหมัดแน่นและต่อยอย่างดุเดือด"ปัง."เสียงดังอู้อี้หมัดของเขาถูกจับในมือของอีกฝ่ายอย่างแน่นหนาโจวเฉินตกใจมาก ไม่เคยคิดว่าคู่ต่อสู้ของเขาจะดักรอการโจมตีของเขาอยู่“ฉันคิดว่าแกเป็นคนที่น่าเกรงขาม แต่กลับกลายเป็นว่าแกเป็นเพียงคนอ่อนแอที่เอาเปรียบจากจุดอ่อนคนอื่น”จากนั้นเขาก็ชกไปท
เขาแสดงเก่งขนาดนั้นเลยเหรอ?เขาอยากจะจัดการทั้งสามคนด้วยตัวเองคนเดียวเลยเหรอ?ดวงตาของถังหว่านหรี่ลงเล็กน้อย ตามความเข้าใจของเธอเกี่ยวกับหลินเฟิง เขาจะไม่พยายามทำอะไรเว้นแต่เขาจะมั่นใจในความสำเร็จเป็นไปได้ไหมว่า หลังจากได้รับโสมเสวียนหลิงเมื่อครั้งก่อน ความแข็งแกร่งของเขาถึงได้เพิ่มขึ้นไปอีก?อู๋เสี่ยวเจี๋ยหัวเราะชอบใจ "ฮ่าๆ คุณหนูถัง ลูกน้องของคุณดูไม่เห็นจะเท่าไหร่ แต่รู้วิธีอวดดีเก่งจริงๆ"ถังหว่านมีศรัทธาอย่างเต็มที่ในหลินเฟิง จึงได้โต้กลับไปว่า "ไม่ว่าจะโอ้อวดดีหรือไม่ก็ตาม เราก็จะได้เห็นดีกัน""ฮึม"อู๋เสี่ยวเจี๋ยตะคอกอย่างเย็นชา "พี่ใหญ่เซียง จัดการไอ้เด็กคนนี้ซะ"พี่ใหญ่เซียง วอร์มข้อมือของเขา "หนุ่มน้อย เตรียมพบกับความตายของแกได้เลย"ทันทีที่เขาพูดจบ พี่ใหญ่เซียงก็ต่อยทันทีมันเหมือนกับลูกกระสุนปืนใหญ่ที่เล็งตรงไปที่ใบหน้าของหลินเฟิงแต่หลินเฟิงยังคงไม่ขยับเขยื้อนขณะที่หมัดของพี่ใหญ่เซียง กำลังจะปะทะเข้ากับเขาทันใดนั้น หลินเฟิงก็ยกมือขึ้นและคว้ามันไว้เขาหยุดหมัดของพี่ใหญ่เซียงที่รุนแรง และป้องกันไม่ให้มีการเคลื่อนไหวใด ๆอีกต่อไป"แก..."ดวงตาของพี่ใหญ่เซีย
อู๋เสี่ยวเจี๋ยกลืนน้ำลายอย่างหนัก โบกมืออย่างเร่งรีบไปที่การจ้องมองที่น่าสะพรึงกลัวของถังหว่าน“คุณหนูถัง ฉันแค่ล้อเล่นก่อนหน้านี้ โปรดอย่าคิดจริงจังไปเลย…”ถังหว่านยกท่อเหล็กในมือของเธอขึ้น: "ล้อเล่นเหรอ?"จากนั้นเธอก็ทุบท่อไปที่หัวของอู๋เสี่ยวเจี๋ยทันใดนั้นหัวของเขาก็แตกทันทีลูกน้องของอู๋เสี่ยวเจี๋ยถึงกลับก้าวออกมาข้างหน้าหลินเฟิงเหลือบมองพวกเขา และทำให้พวกเขาไม่กล้าเข้าใกล้"อา..." อู๋เสี่ยวเจี๋ยกุมหัวแล้วพูดว่า "คุณหนูถัง ฉันผิดไปแล้ว ฉันยังสำนึกผิดไม่พออีกเหรอ?"“ฉันจะคืนเงินให้คุณ…”ถังหว่านมองเขาด้วยความรังเกียจ: "คืนเงินให้ฉัน นั่นคือสิ่งที่ต้องทำ"“เอาล่ะ โอนเงินมาให้ฉันเดี๋ยวนี้”อู๋เสี่ยวเจี๋ยไม่กล้าลังเลและสั่งให้เลขาของเขาโอนเงินให้ถังหว่านทันทีในช่วงเวลาหนึ่ง ถังหว่านก็ได้เงินที่ค้างอยู่กลับมาอู๋เสี่ยวเจี๋ยเช็ดเลือดออกจากหน้าผากแล้วพูดว่า "คุณหนูถัง ต่อจากนี้เราไม่เป็นหนี้กันแล้ว คุณช่วยออกไปได้ไหม?"“ฉันจะไป แต่อย่างที่ฉันบอกไปแล้ว ฉันจะทำให้ชีวิตของแกเหมือนตกอยู่ในนรก”ดวงตาของถังหว่านเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าอู๋เสี่ยวเจี๋ยยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ก่
“คุณต้องการให้ฉันพาคนบางคนมาจากเมืองหลวงหรือเปล่า?”หลังจากไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง ถังหว่านก็พูดว่า "ไม่จำเป็น เมื่อหลินเฟิงอยู่ที่นี่ ตระกูลเซียงนั้นก็ไม่ใช่เรื่องกังวลอะไรมากนัก"ที่สำคัญเธอไม่ต้องการระดมกำลังพลจากตระกูลของเธอเองการทำเช่นนั้นจะแสดงให้เห็นว่าตัวเองนั้นไม่มีความสามารถการกลับไปหาครอบครัวของเธอในอนาคตมีแต่จะเป็นฝ่ายถูกกระทํามากขึ้น“เอางั้นก็ได้ครับ” โจวเฉินพยักหน้า โดยไม่ได้พูดถึงประเด็นนี้อีกต่อไปถังหว่านขับรถไปโรงพยาบาลและจัดหาแพทย์ที่ดีที่สุดทำการต่อกระดูกให้โจวเฉินบัญชีของหลินเฟิงก็ได้รับเงินโอนเข้ามา 100 ล้านเช่นกันหลังจากออกจากโรงพยาบาล ถังหว่านก็เชิญเขา "คุณหลิน คุณมีแผนจะทำอะไรต่อหลังจากนี้ไหม?"“ไม่มี” หลินเฟิงส่ายหัวด้วยรอยยิ้มอันเป็นประกาย ถังหว่าน "วันนี้เราทำเงินได้ 100 แล้ว คืนนี้เราไปดื่มกันไหม?""มีไดนาสตี้บาร์เปิดใหม่ในเขตซีเฉิง ฉันคิดว่าที่นั่นบรรยากาศดี"ฉินอิ๋งเกาหัว "คืนนี้คุณพ่อต้องการให้ฉันกลับบ้าน ดังนั้นฉันคงไปไม่ได้"เธอรู้ว่าคำเชิญของถังหว่านมีไว้สำหรับหลินเฟิง ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจไม่เป็นก้างขวางคอ”“เอ่อ... คืนนี้ฉันไม่สน
หวังเส้าหรงมองใบหน้าที่อันอ่อนเยาว์ของหลี่ฮุ่ยหรานและอดไม่ได้ที่จะภูมิใจเล็กน้อยคิดว่าคุณจะเอาชนะฉันได้ ด้วยความฉลาดเล็กๆ น้อยๆ ของเธอ ช่างน่าขำจริงๆโยนเรื่องนี้ไปที่พ่อของเขาเองหลี่ฮุ่ยหรานและคนอื่น ๆ ไม่สามารถไปหาพ่อของเขาเองเพื่อตรวจสอบความจริงได้เขานี่เป็นอัจฉริยะจริงๆหลี่ฮุ่ยหรานถือแก้วในมือของเธอ แต่ใจของเธอไม่เชื่อคำพูดของหวังเส้าหรงจางกุ้ยหลานดึงแขนลูกสาวของเธอ และดุ “ลูกสาว แกช่วยหยุดคิดเรื่องนี้ได้ไหม?”“นายน้อยหวังช่วยลูกมาตั้งหลายครั้ง ความสงสัยไม่รู้จบของแกจะทำให้ความรู้สึกของนายน้อยหวังเจ็บปวดจริงๆนะ”หลี่ฮุ่ยหรานพยักหน้า: "ได้ค่ะ หนูเข้าใจแล้ว"สิ่งที่คุณแม่ของเธอพูดนั้นสมเหตุสมผล เธอทำเกินไปหน่อยเพราะการกระทำของเธอเองในเวลานี้เพื่อนร่วมงานในบริษัทกำลังดื่มเหล้าและจับวงคุยกัน“แกเคยได้ยินไหม เรื่องที่หลอเฟยหู่ถูกฆ่าเมื่อไม่กี่วันก่อน”“โลกใต้ดินในเขตซีเฉิงตอนนี้ตกอยู่ในความสับสนวุ่นวายไปหมดแล้ว”หลี่ฮุ่ยหรานถามอย่างรวดเร็วว่า "มันเกิดขึ้นจริงๆเหรอ? เรื่องจริงหรือเปล่า?"เพื่อนร่วมงานที่สวมแว่นพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำอีก: "แน่นอน มันเป็นเรื่องจริง เพื่อนของ
“ใช่แล้ว ท่านประธาน ฉันอิจฉาจังเลย...” เพื่อนร่วมงานหญิงคนหนึ่งพูดพร้อมประสานมือทั้งน้ำตามุมปากของหวังเส้าหรงยกขึ้น เมื่อพิจารณาถึงบรรยากาศและสถานการณ์ในปัจจุบัน เขาคิดไม่ออกว่าหลี่ฮุ่ยหรานจะมีเหตุผลอะไรที่จะปฏิเสธเขาหลี่ฮุ่ยหรานถูกเพื่อนร่วมงานและแม่ของเธอกึ่งผลักกึ่งดัน จึงทำให้รู้สึกลังเลขณะที่เธอกำลังจะยื่นมือไปตอบตกลงอย่างหุนหันพลันแล่น เสียงเย็นชาก็ดังขึ้น“ว้าว การขอแต่งงานในบาร์ ช่างมีชีวิตชีวาจริงๆ!”หลี่ฮุ่ยหรานตัวแข็งทื่อเมื่อได้ยินเสียง เสียงนี้คุ้นเคยกับเธอมากเหลือเกินเธอเงยหน้าขึ้นมองทันทีและพบว่าถังหว่านเป็นคนพูดโดยมีหลินเฟิงอยู่ข้างๆเธอ สีหน้าของเขาเย็นชายิ่งกว่าในขณะนั้นหลี่ฮุ่ยหรานก็ดึงมือของเธอกลับโดยสัญชาตญาณ“หลินเฟิง… มันไม่ใช่…”หลี่ฮุ่ยหรานพยายามอธิบายโดยสัญชาตญาณ แต่เมื่อเห็นถังหว่านอยู่ข้างๆ เขา เธอก็ตระหนักขึ้นได้เธอหย่ากับเขาไปแล้ว...จะต้องอธิบายไปเพื่ออะไร?เธอไม่ต้องการเห็นหลินเฟิงมากับผู้หญิงคนอื่นและเธอไม่ต้องการให้หลินเฟิงเห็นเธอตอบตกลงคำขอแต่งงานของหวังเส้าหรงเช่นกันความทรงจำในอดีตของพวกเขาที่อยู่ด้วยกันแวบขึ้นมาในใจของเธอ
หวังเส้าหรงก้าวเข้าไปในห้องน้ำแล้วกดโทรศัพท์วันนี้ถ้าเขาไม่สามารถกำจัดหลินเฟิงได้ โอกาสของเขากับหลี่ฮุ่ยหรานก็จะลดน้อยลงไปอีกด้วย“ฮัลโหล? นั่นใคร?”“พี่จ้าว นี่ฉันเอง หวังเส้าหรง”น้ำเสียงที่ปลายสายของอีกฝ่ายที่ดูเป็นกันเองดังขึ้นทันที “อ่อ นายน้อยหวัง เป็นไงบ้าง วันนี้โทรหาฉันมีอะไรเหรอ?”หวังเส้าหรงพึมพำในโทรศัพท์พี่จ้าวที่อยู่อีกด้านหนึ่งตบหน้าอกของเขาโดยสัญญาว่า "น้องพี่ ไม่ต้องกังวลไป ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฉันเอง แค่รอดูก็พอ""เอาล่ะ พี่จ้าว ฉันจะโอน 'ค่าน้ำชา' 500,000 บาท ไปยังบัญชีของพี่โดยตรงในภายหลังนะ"หวังเส้าหรงยิ้มแล้วพูดว่า "แล้วก็อย่าปล่อยให้น้องคนนี้กลับบ้านไปมือเปล่าล่ะ"หลังจากวางสายแล้ว หวังเส้าหรงก็กลับมานั่งที่ด้วยความพึงพอใจกับตัวเองจางกุ้ยหลาน ถามอย่างกระตือรือร้น “นายน้อยหวังคุณไปไหนมา?”“ไม่มีอะไร แค่ไปห้องน้ำครับ” หวังเส้าหรงพูด และมองหลินเฟิงอย่างสบายๆ ตอนนี้ไม่ได้สนใจเขาอีกต่อไปแล้วเขาหันไปหาหลี่ฮุ่ยหราน"ฮุ่ยหราน ผู้ชายคนนี้มาที่นี่เพื่อยั่วยุเธออย่างชัดเจน เราไม่ควรที่จะทำลายบรรยากาศที่นี่ลงได้นะ"“มาใช้เวลาของเราให้สนุกกันเถอะ ไม่ต้
“เพียงแค่วางยาคุณหลงซิ่ว เพื่อดูว่าคุณมีพละกำลังพอที่จะเป็นลูกผู้ชายหรือเปล่า”หลินเฟิงมองไปที่หลงซิ่วที่สวมสูทสีชมพู แต่งเนื้อแต่งตัวเกินความพอดี รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาจริงใจอย่างยิ่ง"แก......"“เอาล่ะ เอาล่ะ ผมรู้ว่าคุณทรมาน วางใจได้ ผมไม่มีทางไม่สนใจคุณ”ขณะพูดหลินเฟิงดีดนิ้วชายสองคนในชุดสูทก้าวออกมาจากด้านหลังของหลินเฟิง หามหลงซิ่วขึ้นและพาเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สองคนเหล่านี้คือคนของเผิงกวงฉี่ส่วนเผิงกวงฉี่ก่อนหน้านี้ เขาได้นำลูกน้องสี่หรือห้าคนของเขาไปที่ชั้นใต้ดินที่สอง ที่มีโซฟาสีชมพูขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ถ่ายภาพตั้งนานแล้วภายในห้องมีชายเปลือยกาย 2 คนล้มลงในแอ่งเลือดเมื่อถานหงเดินเข้ามาในห้องส่วนตัวด้วยรอยยิ้มอาฆาตบนใบหน้า เห็นชายที่นั่งอยู่บนโซฟารอยยิ้มบนใบหน้าของเธอแข็งทื่อ และกลายเป็นร่องรอยของความกลัวและความตื่นตระหนก“ถานหง ผ่านไปเพียงไม่กี่วัน เธอก็ได้พบกับที่พึ่งใหม่แล้วเหรอ?”เผิงกวงฉี่นั่งสูบบุหรี่ซิการ์อยู่บนโซฟา และมองไปที่ถานหงอย่างไม่ใส่ใจ"ฉัน......"ถานหงรู้สึกสับสนในเวลานี้ เผิงกวงฉี่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?หรือว่า...หัวใจของถานหงรู้ส
ชีพจรมังกร...จะเป็นจื่อเสวียนรึเปล่านะ? -อิ่นนั่วเจียตกใจอย่างมาก และไม่ทราบว่าจื่อเสวียนกลายมาเป็นชีพจรมังกรที่หลงซิ่วพูดถึงได้อย่างไรดูเหมือนว่าตระกูลหลงจะต้องการสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรอย่างมากและครั้งนี้หลงซิ่วช่วยเหลือถานหง ในที่สุดก็รู้เป้าหมายชัดเจนแล้วพวกเขามาที่นี่เพื่อสิ่งที่เรียกว่าชีพจรมังกรในมือของหลินเฟิง!หลังจากคิดเรื่องนี้ออก ใบหน้าของอิ่นนั่วเจียก็ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมาเลย นอกจากความคิดอันลึกซึ้งในทางกลับกัน จวงฉุนกลับถามหลงซิ่วด้วยสีหน้าสับสน:“คุณหลงซิ่ว ชีพจรมังกรคืออะไร?”“ชีพจรมังกรนั้นคือ…”หลงซิ่วไม่ต้องการตอบคำถามของจวงฉุน แต่เห็นว่าอินนั่วเจียยังคงจมอยู่กับความคิดเขาอธิบายอย่างเรียบง่ายว่า:"มีการกล่าวกันว่าชีพจรมังกรเป็นที่มาของโชคลาภของประเทศมังกร"“หากรวบรวมชีพจรมังกรครบทั้งแปดเส้นได้ ก็จะกลายเป็นราชาแห่งมังกรตัวจริงได้ ตามประวัติศาสตร์แล้ว ชีพจรมังกรเหล่านี้เป็นของตระกูลหลงของเรามาโดยตลอด”“เพราะเหตุนี้สถานที่นี้จึงเรียกได้ว่าเป็นประเทศมังกร”“แล้วนามสกุลของเราคือหลง (หลง แปลว่า มังกร) เข้าใจแล้วยัง?”“เราแค่อยากนำสิ่งที่เดิมเป็น
ดังนั้นการร่วมมือกับถานหง เพื่อจัดการกับอิ่นนั่วเจียและหลินเฟิงจึงเป็นเพียงงานเสริมเท่านั้นจุดประสงค์ที่แท้จริงของหลงซิ่วคือเพื่อสำรวจหรือแม้กระทั่งเอาชีพจรมังกรที่อยู่รอบตัวหลินเฟิงออกไป!มีเพียงแค่เอาชีพจรมังกรมาอยู่ในมือ หลงหยวนก็สามารถใช้พละกำลังของเขา จัดการกับหลินเฟิงอย่างกล้าหาญได้และเรื่องของชีพจรมังกรมีเพียงหลงซิ่วและสวีโจวซึ่งเป็นนักบู๊ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดานักบู๊ของตระกูลหลงที่เขาส่งออกไปเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ส่วนที่เหลือก็ไม่ชัดเจนนักแต่ในเวลานี้หลงซิ่วไม่รู้ว่าสวีโจวและคนอื่น ๆ ได้กลายเป็นวิญญาณที่ตายแล้วในมือของหลินเฟิง ด้วยความพยายามผลักดันของจวงฉุน ไม่มีใครหนีไปได้สักคนเหลือเพียงจวงฉุนเท่านั้น และเพื่อความอยู่รอด เขาจึงได้กลายมาเป็นคนทรยศหากหลงซิ่วรู้เรื่องนี้เกรงว่าเขาจะตบจวงฉุนคนไร้ประโยชน์คนนี้จนตายไปซะเลยแทนที่จะชื่นชมเขาเพราะเขาพาอิ่นนั่วเจียมาอยู่เคียงข้างเขา"เอาล่ะ"หลงซิ่วยืนขึ้นและโบกมือให้อิ่นนั่วเจียอย่างด้วยสีหน้านิ่งเฉย“ผมได้เตรียมคนและอุปกรณ์ไว้แล้ว อยู่ในห้องส่วนตัวใต้ดินชั้นสอง ถานหง คุณไปเตรียมตัวก่อนเถอะ”“รอผมถามคำถามอิ่
“ฉันคือลูกน้องของเธอ? คุณหลงซิ่ว นี่มันเรื่องอะไรกัน? ฉันจำได้ว่าไม่มีข้อกำหนดนั้นในสัญญาของเราหรอกมั้ง?”อิ่นนั่วเจียขมวดคิ้วและมองไปที่หลงซิ่วหลงซิ่วสับสนเป็นอย่างมาก แต่ไม่ได้พูดอะไรยังคงเป็นถานหงที่ตอบคำถามของอิ่นนั่วเจียด้วยเสียงหัวเราะ“อิ่นนั่วเจีย เธอช่างไร้เดียงสาเกินไป เธอคิดจริงๆ เหรอว่าตระกูลหลงจะเต็มใจยอมรับเธอ เพราะพวกเขาเห็นคุณค่าในชื่อเสียงและความสามารถของเธอจริงๆ”ถานหงส่ายหน้าอย่างดูถูกและกล่าวว่า:“ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน ตระกูลหลงจะยอมรับเธอได้ยังไง?”“อ่อใช่ ไม่ว่าฉันหรือตระกูลหลง ก็ไม่ได้โกหกเธอ เพราะฉันคือผู้รับผิดชอบบริษัทบันเทิงของตระกูลหลงที่เธอเข้าร่วมมาโดยตลอด”“ดังนั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อิ่นนั่วเจีย เธอต้องเชื่อฟังฉัน เข้าใจไหม?”“ฉันให้เธอถ่ายหนังอะไร เธอก็ต้องไปถ่าย”"เดี๋ยวนะ"อิ่นนั่วเจียยื่นมือออกไปและขมวดคิ้ว:“ถานหง เธอพูดรุนแรงเกินไปแล้ว ฉันจำได้ว่าฉันไม่เคยทำให้เธอขุ่นเคืองมาก่อน ทำไมเธอถึงตั้งใจจะจัดการกับฉันขนาดนั้น?”“ถึงขั้นยอมทุ่มเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเพื่อดึงตัวฉันมาจากหลี่ซื่อกรุ๊ปด้วย”“จุ๊จุ๊จุ๊”เมื่อได้ยินคำพูดของอิ่นนั
“บ้าเอ๊ย ฉันไม่สามารถทนได้จริงๆ ติดต่อน้องหลินให้ฉัน ฉันจะเข้าแทรกแซงเรื่องนี้ด้วย!”...วันต่อมาในบาร์ใต้ดินแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของเมืองจิงจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียที่สวมหมวกและหน้ากากไว้ และดูเรียบง่ายมากรีบเดินทางมาที่นี่ ที่นี่คือ “สถานที่นัดพบ” ที่หลงซิ่วพูดถึงควบคู่ด้วยเสียงดนตรีอันไพเราะและฝูงชนที่เต้นรำจวงฉุนและอิ่นนั่วเจียเดินผ่านทางเดินและมองเห็นหลงซิ่วกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะ พร้อมคาบบุหรี่อยู่ในปากเมื่อเห็นว่าอิ่นนั่วเจียมาจริง ๆ ดวงตาของหลงซิ่วก็เป็นประกายบุหรี่ในปากของเขาหล่นลงพื้นโดยไม่รู้ตัวแม้ว่าอิ่นนั่วเจียจะสวมเพียงชุดเดรสยีนส์ซึ่งทำให้เธอดูเป็นเด็กสาวมากในวันนี้ แต่หุ่นที่น่าสะพรึงกลัวของเธอก็ยังทำให้ หลงซิ่วที่กำลังนั่งอยู่ตรงโต๊อย่างไม่ใส่ใจก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอ"เชี่ย ไม่เสียแรงที่เป็นซูเปอร์สตาร์ประเทศมังกรจริงๆ นะ!"หลงซิ่วอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบเธอกับถานหง หลังจากคิดดู นี่มันไม่ใช่คนระดับเดียวกันด้วยซ้ำ!แม้ว่าถานหงจะเป็นราชินีเพลงประเทศมังกร หน้าตาก็คล้ายๆกันแต่เมื่อเทียบกับอิ่นนั่วเจียสาวสวยที่อยู่แต่ในจอ ถานหงยังด้อยกว่าเยอะมากเพียงแค่ออร่าอันส
สำนักงานใหญ่กลุ่มเผิงกวง เมืองจิงขณะนั้นเผิงกวงฉี่กำลังคาบซิการ์ไว้ในปากอย่างเรื่อยเปื่ยอ ฟังการโต้เถียงขัดแย้งระหว่างตัวแทนจากทั่วทุกแห่งในการประชุมแม้ว่าเผิงกวงฉี่จะดูเป็นปกติ แต่ในใจเขากลับโกรธมากพวกขยะพวกนี้ได้แต่โทษกันไปมา และต่างคนต่างหาผลประโยชน์แม้แต่เผิงกวงฉี่ก็ยังคิดว่า ควรจะกำจัดคนไร้ประโยชน์เหล่านี้ และส่งเสริมให้คนอื่นขึ้นมาเป็นผู้นำภูมิภาคดีไหมขณะที่กำลังคิดแบบนี้ โทรศัพท์มือถือของเผิงกวงฉี่ก็ดังขึ้นกะทันหันเสียงโทรศัพท์ทำให้ห้องประชุมเงียบลงทันที“คุณหลินโทรมาครับ คุณเผิงกวงฉี่”ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ ยื่นโทรศัพท์ให้ด้วยความเคารพเมื่อคิดว่าเป็นหลินเฟิง เผิงกวงฉี่ก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมากไม่พูดไม่ได้ว่ายาหยกโมราของหลินเฟิงมีประสิทธิภาพมากจริงๆ ควบคู่กับน้ำพุร้อนที่เจียงโจว ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองดูหนุ่มลงเรื่อย ๆ และร่างกายก็เต็มไปด้วยกำลังวังชาแม้แต่ผู้หญิงคนใหม่ที่หามาช่วงนี้ ก็ไม่สามารถทำให้เขาพึงพอใจได้ช่วงนี้เขากำลังคิดว่าควรจะหาเพิ่มอีกสักหน่อย เพื่อสร้างทายาทให้กับตระกูลเผิงของเขาสองเดือนที่แล้ว นี่เป็นสิ่งที่เขาไม่กล้าคิดมาก่อนด้วยซ้ำ“ฮัลโหล
“ฉันจะโอนเงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเข้าบัญชีของคุณทันที ทางที่ดีคุณให้อิ่นนั่วเจียออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ปโดยเร็วที่สุด ให้เธอมาพบฉันที่เมืองจิง”"ฮ่าฮ่าฮ่า......"ถานหงที่อยู่ปลายสายหัวเราะอย่างโอเวอร์“ฉันต้องการให้อิ่นนั่วเจียคุกเข่าอยู่แทบเท้าฉัน! ยังมีหลินเฟิง ฉันจะทำให้หลินเฟิงและหลี่ซื่อกรุ๊ปบ้าบออะไรนั่นได้ชำระในสิ่งที่ควรจ่าย!”หลังจากพูดจบโทรศัพท์ก็วางสายไปและภายในเวลาไม่กี่นาที ข้อความเงินสดเข้าบัญชีจำนวนสองหมื่นห้าพันล้านบาทก็ปรากฏบนโทรศัพท์มือถือของจวงฉุนทันทีเมื่อมองดูข้อความบนโทรศัพท์ ลมหายใจของจวงฉุนก็เร็วขึ้นอย่างมาก เขาไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนี้ในชีวิตของเขามาก่อนแต่เมื่อเขาเงยหน้ามองไปทางหลินเฟิง ก็รู้สึกเหี่ยวเฉาทันทีเขารู้ว่าเงินจำนวนนี้จะไม่มีวันมาถึงเขาด้วยซ้ำ อีกทั้งเรื่องที่อิ่นนั่วเจียเข้าร่วมตระกูลหลงเป็นเรื่องโกหกทั้งหมดเขาแค่อยากหลอกเอาเงินก้อนนี้มาจากหลงซิ่ว เพื่อใช้รักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้ก็เท่านั้นเอง“ตอนนี้โอนเงินก้อนนี้เข้าบัญชีของหลี่ซื่อกรุ๊ปเถอะ”หลินเฟิงไม่พูดมาก บังคับจวงฉุนให้ดำเนินการบนโทรศัพท์มือถือของเขาโดยตรงหลังจากนั้นไม่นาน เงิน
“ดูเหมือนว่าคุณจะได้เจอกับอิ่นนั่วเจียจริงๆ นะ”หลงซิ่วที่อยู่ปลายสายพูดอย่างใจเย็นว่า:“ผมลืมบอกคุณไปว่าตอนนี้อิ่นนั่วเจียเป็นสมาชิกของหลี่ซื่อกรุ๊ปแล้ว เธอเต็มใจที่จะออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ป และร่วมมือกับตระกูลหลงของเราจริงๆ เหรอ?”เมื่อได้ยินสิ่งที่หลงซิ่วพูดจวงฉุนสั่นสะเทือนไปทั้งตัวเกือบหัวใจวายเพราะความโมโหในที่สุดเขาก็ได้ลิ้มรสว่าการถูกหลอกเป็นอย่างไรหากหลงซิ่วเล่าเบื้องหลังของอิ่นนั่วเจียให้เขาฟังก่อนหน้านี้เขาจะพาผู้คนมาที่นี่เพื่อมาหาอิ่นนั่วเจีย และตกหลุมพรางได้ยังไง?ตอนนี้มันสายเกินไปที่จะพูดอะไรอีกแล้วร่องรอยแห่งความโกรธเริ่มผุดขึ้นในใจของจวงฉุนหากพูดว่าเมื่อครู่เพียงแค่โกหกหลงซิ่ว เขาก็มีความกดดันอยู่ไม่น้อยเมื่อเขาได้ยินว่าหลงซิ่วปกปิดเรื่องของอิ่นนั่วเจียกับเขา เขาก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันทีหากคุณไม่ได้บอกผมให้ชัดเจนก่อนที่คุณจะจากไปผมจำเป็นต้องตกไปอยู่ในมือของหลินเฟิงงั้นเหรอ?จวงฉุนตัดสินใจ คำพูดก็ราบรื่นมากขึ้น“ใช่ครับ คุณอิ่นนั่วเจียบอกผมเอง แต่ว่า...”"แต่ว่าอะไร?"หลงซิ่วที่ปลายสายโทรศัพท์ขมวดคิ้วเล็กน้อย“แต่คุณอิ่นนั่วเจียบอกว่าเธอได้เซ็น
จวงฉุนคิดว่าคำพูดนี้สมบูรณ์แบบไร้ที่ติขณะที่จวงฉุนกำลังจมอยู่กับจินตนาการของเขา หลินเฟิงก็ยื่นมือออกไปและโบกไปมาตรงหน้าจวงฉุน“การปล้นทำลายของพวกนายในครั้งนี้ ได้ทำลายสินค้าของหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันมูลค่าสองหมื่นห้าพันล้านบาทเต็มๆ เพียงแค่นายสามารถชดเชยเงินสินค้าเหล่านี้ให้เราได้ ฉันก็จะไม่ถือสาเอาความ”"สองหมื่นห้าพันล้านบาท?"เมื่อได้ยินตัวเลขนี้ อิ่นนั่วเจียที่อยู่ข้างๆ ก็เปิดริมฝีปากสีแดงของเธอออกครู่หนึ่ง เธอก็ส่ายหัวอย่างจนปัญญาหลินเฟิงกำลังพยายามกรรโชกเงินอยู่เหรอ!"เป็นไปไม่ได้!"เห็นได้ชัดว่าจวงฉุนก็ตกใจกับจำนวนเงินมหาศาลนี้อย่าว่าแต่ยี่สิบห้าล้านบาทเลย แม้แต่ห้าพันล้านบาทเขาก็ยังไม่มี จะอุดรูโบ๋นี้ได้อย่างไรหลินเฟิงรีดไถมากเกินไปจริงๆ“แน่นอนว่าหลี่ซื่อกรุ๊ปของฉันไม่สนใจเงินจำนวนน้อยๆ นี้ แต่ฉันแค่อยากเห็นท่าทางของคุณ”“เป็นไงบ้าง?”หลินเฟิงจ้องมองจวงฉุนด้วยความสนใจอย่างยิ่ง ต้องการดูว่าคนๆ นี้จะหาเงินได้มากเท่าไหร่เพื่อเอาชีวิตรอดได้ในเมื่อเสียหายหนึ่งหมื่นล้านบาท หลินเฟิงต้องหาชดเชยมาจากที่อื่น"ดี...ดีครับ!"จวงฉุนรู้ดีว่าวันนี้เขาไม่มีสิทธิ์ต่อรองกับหลิ