Share

ตอนที่ 5 - 2 ร่ำเรียนวิชา

last update Last Updated: 2025-05-03 12:33:54

หลี่ชิงเหมียวสัมผัสได้ถึงความรู้สึกอึดอัด อาจจะเป็นเพราะความหวาดกลัวจากเจ้าของร่างเดิม ที่มีต่ออีกฝ่าย จึงได้มีปฏิกิริยาเช่นนี้ ทว่ากับนางนั้นไม่ใช่ นางไม่เคยกลัวผู้ใด

คติประจำใจของนาง คือตาต่อตาฟันต่อฟัน หากสตรีผู้นี้ คือคนที่คิดร้าย และลงมือทำร้ายหลี่ชิงเหมียวจริง นางก็พร้อมที่จะทวงความยุติธรรม ให้แก่เด็กสาว เพื่อตอบแทนอีกฝ่าย ที่สละร่างกายนี้ให้แก่นางได้มาเกิดใหม่

“ท่านอาจารย์ชิวมาแล้วเจ้าค่ะ”

เสียงของสาวรับใช้ดังขึ้นมาจากด้านหน้าเรือนบุปผา ก่อนที่สตรีรูปร่างสูงโปร่ง วัยเพียงสามสิบต้นๆ จะเยื้องย่างเข้ามา พร้อมกับสาวรับใช้คนสนิท ที่ในมือถือฉินตัวโปรดของเจ้านายเข้ามาด้วย

“คารวะท่านอาจารย์ชิวเจ้าค่ะ” ทั้งหลี่ชิงหรง และหลี่ชิงเหมียว ย่อกายประสานมือ คำนับทักทายผู้มาใหม่อย่างพร้อมเพรียงกัน

ชิวซิงอีก้าวเข้ามารับการคำนับจากลูกศิษย์ทั้งสอง ก่อนที่นางจะใช้สายตาลอบสำรวจ คุณหนูที่นางได้ยินมาจากผู้คนภายนอก ร่ำลือกันว่า แต่ก่อนคุณหนูผู้นี้ เป็นเพียงเด็กสาวที่มีเพียงแค่รูปโฉมงดงามเท่านั้น แต่สติปัญญาเปรียบได้กับเด็กเพียงแค่สามขวบ

ทว่าเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้าของนางในยามนี้ กลับดูแตกต่างไปจากที่ผู้คนได้เล่าลือ เพราะในดวงตาของเด็กสาวตรงหน้า มีแต่ความเฉลียวฉลาด และลึกล้ำ จนไม่อาจทำให้คนดูแคลนได้

“ท่านคือคุณหนูสามใช่หรือไม่”

ชิวซิงอีเอ่ยปากถามเด็กสาวออกมาทันที หากเทียบกับสตรีที่ยืนอยู่ไม่ไกลกัน คุณหนูผู้นี้ ดูมีสง่าราศียิ่งกว่าคนข้างๆ เสียอีก

“ใช่แล้วเจ้าค่ะ ศิษย์คือหลี่ชิงเหมียว คุณหนูสามสกุลหลี่” หลี่ชิงเหมียวตอบออกมาด้วยวาจาฉะฉาน

ชิวซิงอีเผยรอยยิ้มพอใจออกมา นี่น่ะหรือ…เด็กสาวที่เคยมีสติปัญญาอ่อนด้อย ช่างน่าเหลือเชื่อยิ่งนัก หากก่อนหน้านี้ นางไปพบเจอกับหลี่ชิงเหมียวข้างนอก นางก็คงไม่คิดว่า อีกฝ่ายจะเป็นคุณหนูสามสกุลหลี่ที่ผู้คนเล่าลือกัน

“พวกท่านคงได้ยินชื่อแซ่ของข้ามาจากท่านเจ้าสำนักบัณฑิตหลี่แล้วกระมัง” ชิวซิงอีเดินนำหน้าคุณหนูทั้งสองไปนั่งยังโต๊ะที่ดูเหมือนว่าถูกจัดเตรียมเอาไว้

“เจ้าค่ะ…ท่านพ่อบอกว่า ท่านอาจารย์ชิวเป็นอาจารย์สอนดีดฉินที่มีชื่อเสียงของเมืองถิง ให้พวกข้าตั้งใจเรียนจากท่านให้มาก”

หลี่ชิงหรูตอบออกมาด้วยรอยยิ้ม แล้วจึงไปนั่งลงยังโต๊ะอีกตัว หลี่ชิงเหมียวไม่ได้มีความคิด ที่จะประจบเอาใจอาจารย์เหล่านี้ นางเดินไปนั่งลงยังโต๊ะตัวที่ว่างอยู่เงียบๆ

ท่านอาจารย์ชิวไม่พูดจาให้มากความ เพราะการที่นางมาที่นี่ในวันนี้ คือถ่ายทอดวิชาดีดฉิน ให้แก่คุณหนูทั้งสอง นางจึงสอบถามเพียงแค่ว่า ทั้งสองคนมีความรู้ และมีพื้นฐานเกี่ยวกับการดีดฉินมากเพียงใด หลี่ชิงหรูที่มีอายุมากกว่าหลี่ชิงเหมียวตอบออกมาก่อน

“ข้ารู้เพียงแค่เบื้องต้นเท่านั้นเจ้าค่ะ ส่วนน้องหญิงสาม…นางคงจะไม่รู้ แม้แต่ท่วงทำนอง คงจะต้องลำบากท่านอาจารย์สักระยะเจ้าค่ะ”

นางปรายตามองไปยังหลี่ชิงเหมียว ในแววตามีแต่ความดูถูกดูแคลน ท่านอาจารย์ชิวเห็นแล้ว ก็พอจะเดาออก ว่าคุณหนูรองผู้นี้ ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยชอบน้องสาวต่างมารดามากนัก

แต่นี่ก็เป็นเรื่องภายในเรือนหลังของสกุลหลี่ นางจึงแสร้งที่จะมองข้ามไป ตนมีหน้าที่สอนวิชาดีดฉินให้พวกนางเท่านั้น ผู้ใดจะรับได้มากแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของพวกนาง

“เอาเถิด… ไม่มีผู้ใดแก่เกินเรียน วันนี้อาจารย์จะช่วยสอนพวกเจ้า ตั้งแต่เริ่มต้นเลยก็แล้วกัน ถ้าเช่นนั้น…พวกเรามาทำความรู้จักฉินกันก่อนดีหรือไม่”

ชิวซิงอีนึกเห็นใจคุณหนูสามอยู่ไม่น้อย แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใด ยามที่นางได้สบตากับเด็กสาว นางกลับรู้สึกว่า คุณหนูสามผู้นี้ หาใช่เด็กที่ไม่รู้อะไรเลย อย่างเช่นที่คุณหนูรองกล่าวไม่

วันนี้ที่เรือนบุปผา จึงไม่ได้มีเสียงฉินลอยออกมา ให้คนในจวนได้ยิน เป็นเพราะท่านอาจารย์ชิว ต้องการที่จะให้ลูกศิษย์ทั้งสอง ได้ทำความรู้จักกับฉินอย่างแท้จริง

ส่วนหลี่ชิงเหมียว ที่ถูกหลี่ชิงหรงดูแคลน นางกลับไม่ได้เก็บเอาคำพูดของอีกฝ่ายมาใส่ใจ แม้นางจะไม่ถึงกับชำนาญทางด้านดนตรีเหมือนกับการฝึกวรยุทธ์ แต่ทว่าในชาติภพก่อน นางก็เคยร่ำเรียนมาทุกสิ่งแล้ว หาใช่คนที่ไม่รู้อันใดเลย อย่างที่หลี่ชิงหรงกล่าวไม่

“คุณหนูรองก็เหลือเกิน…รู้ทั้งรู้ว่าท่านเพิ่งจะดีขึ้น ก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้ร่ำเรียนวิชาใดๆ จริงจัง จะให้รู้ไปกว่านางที่เรียนมาก่อนถึงสิบปีได้อย่างไร”

อี้เหลียนที่เดินตามหลังหลี่ชิงเหมียวบ่นออกมา ขณะที่ทั้งสองกำลังเดินกลับเรือนพักส่วนตัว

“ช่างนางเถิด…นางคงรู้สึกดี ที่ได้ดูแคลนข้า ปล่อยให้นางมีความสุขไปก่อน แล้วเจ้าจะได้เห็น ว่าคุณหนูของเจ้า หาใช่คนที่จะยอมถูกคนรังแกไม่” หลี่ชิงเหมียวฉีกยิ้มออกมา

แม้ในฝันเด็กสาวเจ้าของร่าง จะไม่ได้บอกถึงสาเหตุการตายของตน ทว่านางกลับคาดเดาได้ จากพฤติกรรมและการได้ยินเรื่องความสัมพันธ์ ของอีกฝ่ายกับหลี่ชิงหรง

อีกทั้งวันสุดท้ายที่หลี่ชิงเหมียวมีชีวิตอยู่ ก็อยู่กับอีกฝ่ายตามลำพัง แล้วยังจะเป็นผู้ใดไปได้อีก ที่ทำร้ายหลี่ชิงเหมียวจนตาย หากไม่ใช่หลี่ชิงหรง พี่สาวต่างมารดาผู้นั้น…

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หลี่ชิงเหมียว..ภรรยาผู้หวนคืน   ตอนพิเศษ ผลตอบแทนของการเป็นคนดี (จบ)

    หลัวอี้เฉินและหลี่ชิงเหมียว ยังคงอาศัยอยู่ในเรือนเดิม ถึงแม้ยามนี้หลัวอี้เฉิน จะกลายมาเป็นผู้นำตระกูลอย่างเต็มตัว และหลี่ชิงเหมียวก็เป็นฮูหยินใหญ่ ทำหน้าที่ดูแลทุกเรื่องในเรือนหลัง ทว่านางกลับชอบเรือนหนิงอันมากกว่าเรือนใหญ่ ที่พ่อแม่สามีอาศัยอยู่ เพราะนางอยู่ที่เรือนหนิงอันแล้วรู้สึกว่าจิตใจสงบสุขหลี่ชิงเหมียวเดินกลับไปยังเรือนหนิงอัน ทุกย่างก้าวของนางได้พบกับบ่าวรับใช้ ที่มีมากขึ้นไปจากเดิม เพราะตระกูลหลัวขยับขยาย ทำให้หลัวอี้เฉินซื้อบ่าวรับใช้มาเพิ่ม อย่างเช่นสาวรับใช้ข้างกายนางสองคน ก็ซื้อมาใหม่ยามที่หลัวลี่เซียนเพิ่งจะอายุได้สองปี“ท่านแม่...” หลัวลี่เซียนวัยแปดปี ส่งเสียงเรียกขานมารดา ขณะที่นางกำลังเดินจูงมือน้องชายวัยสองปีมาด้วยกัน หลัวอี้ซ่งก้าวเดินอย่างมั่นคง ก่อนจะปล่อยมือของพี่สาว แล้ววิ่งเข้าไปหามารดา หลี่ชิงเหมียวย่อกายลงโอบกอดเขาเอาไว้“ท่านแม่....อุ้ม...” เด็กน้อยบอกมารดานัยน์ตาทอประกายออดอ้อน หลัวลี่เซียนอยากจะเอ่ยปากห้ามน้องชาย ทว่ามารดากลับอุ้มเขาขึ้นจากพื้นแล้ว“ฮูหยิน...” แม่นมซิ่วและบรรดาสาวรับใช้ร้องอุทานออกมาพร้อมกันด้วยความตกใจ ถึงแม้ทารกในครรภ์ของฮูหยินจะมั่นค

  • หลี่ชิงเหมียว..ภรรยาผู้หวนคืน   ตอนพิเศษ ผลตอบแทนของการเป็นคนดี

    เสียงหัวเราะของเด็กน้อย ทำให้หัวใจของผู้ใหญ่ รู้สึกผ่อนคลาย นัยน์ตาคมทอดมองไปยังบุตรสาวคนโต และบุตรชายคนเล็ก ที่กำลังวิ่งเล่นอยู่ด้วยกัน ภายในลานกว้างของจวนผ่านมาสองปีหลัวลี่เซียน บุตรสาวของเขานั้นเติบโตขึ้นมาก จนสามารถดูแลน้องชายวัยสองปีได้แล้ว ส่วนบุตรชายคนโตวัยสิบหกปี ก็ได้สอบผ่านเป็นซิ่วไฉอย่างที่ตั้งใจ และกำลังเตรียมตัวลงสนามสอบต่อไป“เหมียวเอ๋อร์... พี่คิดว่าพวกเราควรจะมีน้องสาว ให้พวกเขาอีกสักคนเถิด” จู่ ๆ หลัวอี้เฉินก็กล่าวออกมา หลังจากที่ทอดสายตา มองไปยังลูกทั้งสองอยู่เนิ่นนานทว่าคำชวนของสามี ทำให้หลี่ชิงเหมียวที่เพิ่งดื่มชาลงไป เกิดอาการสำลักขึ้นมา นางไม่ได้หวาดกลัวในการตั้งครรภ์ หรือการให้กำเนิด แต่นางกลับรู้สึกเหน็ดเหนื่อยกับอาการแพ้ท้องต่างหาก และไม่รู้ว่าหากมีอีกคนแล้ว นางจะเป็นบุตรีอย่างที่พวกตนตั้งใจหรือไม่แม่นมซิ่วส่งสายตาให้แก่อี้เหลียน และสาวรับใช้รอบกาย จนทุกคนถอยออกไปจากบริเวณนี้อย่างรู้ความ ปล่อยให้นายท่านกับนายหญิง ได้พูดคุยกันถึงเรื่องใกล้ชิดส่วนตัวตามลำพัง“ท่านพี่... แล้วท่านจะแน่ใจได้อย่างไร ว่าถ้าหากพวกเรามีลูกอีกคน แล้วจะเป็นบุตรี หากข้าให้กำเนิดบุตรชา

  • หลี่ชิงเหมียว..ภรรยาผู้หวนคืน   ตอนพิเศษ เจตนาของสวรรค์...คือการทำความดี 1

    “นายท่าน... คุณชายใหญ่ ฮูหยินให้บ่าวมาเชิญพวกท่าน กลับไปกินมื้อเช้ากันได้แล้วเจ้าค่ะ วันนี้ฮูหยิน ท่านจะออกไปคำนับท่านปรมาจารย์ ที่อารามหลัวเซิง” สาวรับใช้เข้ามาเชิญเจ้านายทั้งสองตามคำสั่งของนายหญิง“ไปอารามหรือ... ข้าก็อยากจะไปด้วย” หลัวอี้เฉินเอ่ย ก่อนที่จะสั่งลูกน้อง แล้วชวนบุตรชายกลับจวน“พวกเจ้าแยกย้ายกันเถิด เจ๋อเอ๋อร์...พวกเราก็รีบกลับจวนไปกินมื้อเช้ากับท่านแม่และน้องสาวของเจ้ากัน”“ขอรับท่านหัวหน้า” บรรดาผู้ใต้บังคับบัญชารับคำ“ขอรับท่านพ่อ...” หลัวอี้เจ๋อรับคำบิดาเช่นกัน สองพ่อลูกรีบพากันกลับจวนอย่างไม่รีรอ การปล่อยให้สตรีรอนาน ไม่ใช่สิ่งที่บุรุษพึงกระทำกู้จงกับกู้อี้ก็เอ่ยลาบรรดาสหายร่วมงานเช่นกัน เพราะพวกเขาต่างก็มีคนของตน รอกินมื้อเช้าพร้อมพวกเขาอยู่ที่เรือนบุรุษที่เหลือจึงพากันแยกย้าย พลางคิดในใจว่า การมีครอบครัวมันดีเพียงนี้เชียวหรือ ท่านหัวหน้าแต่ละคน ถึงได้ดูกระตือรือร้นเพียงนี้รถม้าของจวนตระกูลหลัว มุ่งหน้าออกจากจวนในยามซื่อ ยามนี้ครรภ์ของหลี่ชิงเหมียวมั่นคงแล้ว จึงทำให้การเดินทางระยะใกล้ไม่ลำบากมากนัก ไม่นานนักรถม้าของตระกูลหลัวก็มาถึงอารามหลัวเซิง ทว่าหลี่ชิงเหมี

  • หลี่ชิงเหมียว..ภรรยาผู้หวนคืน   ตอนพิเศษ เจตนาของสวรรค์...คือการทำความดี

    หลี่ชิงเหมียวตั้งครรภ์ลูกคนที่สองของชาติภพนี้ หลังจากที่บุตรสาวคนโต มีอายุได้เพียงห้าปี ทว่านี่ก็นับว่านานมากพอ กว่าที่นางจะสามารถก้าวข้าม ความหวาดกลัว ที่เคยอยู่ภายในใจนางยอมหยุดยาสมุนไพร เพื่อที่จะปล่อยให้ตนเองตั้งครรภ์ ทว่าก็ใช้เวลานานนับหนึ่งปี กว่าที่เด็กคนนี้ จะมาเกิดกับตน“นี่ข้ากำลังจะมีลูกอีกคนแล้วจริง ๆ หรือ”ท่านหมอหลินกลับไปแล้ว ทว่าหลัวอี้เฉินยังคงตกอยู่ในภวังค์ เขาเฝ้าถามตนเองซ้ำๆ ว่าเขากำลังจะมีลูกอีกคนจริงๆ หรือ หลี่ชิงเหมียว แม่นมซิ่ว และอี้เหลียน มองไปยังชายหนุ่มด้วยแววตาขบขัน“นายท่านไม่ต้องประหลาดใจไปหรอกเจ้าค่ะ เป็นเพราะฮูหยินของพวกเรา หยุดดื่มยาสมุนไพรป้องกันการตั้งครรภ์ และดื่มยาสมุนไพรบำรุง เพื่อเตรียมการตั้งครรภ์มานานนับปีแล้วเจ้าค่ะ” แม่นมซิ่วไขข้อข้องใจ ให้แก่นายท่านที่กำลังแสดงสีหน้าสับสนงุนงง กับเรื่องการตั้งครรภ์ของนายหญิง“จริงหรือ” หลัวอี้เฉินถามภรรยา นัยน์ตาคมมองไปยังนางเป็นประกายทว่าเขากลับยังคงไม่กล้าเข้าไปใกล้ เพราะก่อนหน้านี้ นางบอกว่ารู้สึกเหม็นกลิ่นกายของเขา ถึงได้อาเจียนออกมา ยามนี้เขายังไม่ได้อาบน้ำ จึงยังไม่กล้าเข้าไปใกล้นาง“จริงเจ้าค่ะ” หล

  • หลี่ชิงเหมียว..ภรรยาผู้หวนคืน   ตอนพิเศษ อย่าหวาดกลัวที่ต้องเผชิญหน้า 1

    หลี่ชิงเหมียวนั่งอยู่ในศาลาพักผ่อนกับบุตรสาว ที่เอาแต่ร้องตะโกนให้กำลังใจพี่ชายก็รู้สึกปวดศีรษะขึ้นมา“เซียนเอ๋อร์... เจ้าเองก็อยากลองขี่ม้าใช่หรือไม่” หลัวลี่เซียนหันขวับเดินเข้าไปออดอ้อนมารดา“เจ้าค่ะท่านแม่...”“ยามนี้เจ้ายังเยาว์วัยนัก ร่างกายก็ยังเติบโตไม่สมบูรณ์ ไม่อาจควบคุมอาชาตัวโตเช่นนั้นได้” สิ้นคำกล่าวของมารดา หลัวลี่เซียนก็แสดงสีหน้าผิดหวังออกมาทว่าก่อนที่จะนางจะแสร้งหลั่งน้ำตาขอความเห็นใจจากมารดาออกมา หลี่ชิงเหมียวก็แอบโบกมือให้บ่าวในสนามบ่าวผู้นั้นจูงอาชาตัวเล็กสีนิลเข้ามา หลัวลี่เซียนมองไปยังอาชาตัวน้อย ก่อนที่จะหันหน้ากลับมามองมารดานัยน์ตาเป็นประกาย หลี่ชิงเหมียวแสร้งยกชาขึ้นมาจิบ“ท่านแม่... ขอบคุณเจ้าค่ะ ข้ารักท่านแม่ที่สุด”หลัวลี่เซียนโผเข้าไปกอดมารดา พลางกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน นางหอมแก้มของมารดาซ้ายทีขวาทีอย่างเอาใจ หลี่ชิงเหมียวรู้สึกใจอ่อนยวบ สุดท้ายแล้ว นางก็ต้องพ่ายแพ้ให้บุตรสาวขี้อ้อนผู้นี้อยู่ร่ำไปหลัวอี้เฉินกับหลัวอี้เจ๋อ สองพ่อลูกที่สังเกตเห็นนางฟ้าตัวน้อย กำลังจะขึ้นอาชา ต่างก็รีบควบอาชากลับมา หลัวอี้เจ๋อเสนอตัวดูแลน้องสาวเอง เพราะอาชาที่หลัวลี

  • หลี่ชิงเหมียว..ภรรยาผู้หวนคืน   ตอนพิเศษ อย่าหวาดกลัวที่ต้องเผชิญหน้า

    หลังจากที่หลี่ชิงเหมียวให้กำเนิดหลัวลี่เซียนได้ห้าปี เด็กหญิงก็เริ่มเดินตามรอยเท้าของบิดามารดา แม้เกิดเป็นหญิง แต่ผู้ใดกันที่บอกว่าสตรีอ่อนแอ แล้วนางจะต้องอ่อนแอ นางเองก็มีคนที่อยากจะปกป้องเช่นกัน“คุณหนูหลัว... ท่านแน่ใจหรือเจ้าคะ ว่าอยากจะฝึกวรยุทธ์จริงๆ” สตรีที่ดูมีความรู้ตรงหน้าเอ่ยถามลูกศิษย์ตัวน้อยออกมาด้วยความตกใจอาจารย์อี้ นางเป็นอาจารย์ที่หลี่ชิงเหมียว เชิญให้มาสอนบุตรีที่จวน โดยอาจารย์อี้ ได้จัดตารางการเรียนให้เด็กหญิงได้เรียนรู้ตัวอักษร และการฝึกคัดอักษรหลายวันที่ผ่านมาคุณหนูหลัวก็ดูตื่นเต้นดี ทว่าพอเวลาผ่านไปได้สิบวัน คุณหนูน้อยกลับกล่าวออกมาอย่างทอดถอนใจ ว่าสิ่งที่อาจารย์เช่นนางสอนมานั้น นางรู้ทั้งหมดแล้ว เป็นท่านแม่ของนาง ที่เคยจับมือสอนนาง ให้เขียนพู่กัน ในยามที่นางยังวัยเพียงแค่สี่ขวบอาจารย์อี้ไม่อยากจะเชื่อ ในคำพูดของเด็กวัยห้าขวบ นางจึงได้ทำการทดสอบเด็กน้อย ทว่าคุณหนูหลัว ราวกับเป็นเด็กที่มีพรสวรรค์มาตั้งแต่เด็ก นางสามารถเรียนรู้สิ่งใดได้อย่างรวดเร็ว จะเรียกได้ว่า รู้ความไวกว่าเด็กวัยเดียวกันก็ไม่ผิดและการที่นางได้พบกับอัจฉริยะตัวน้อยเช่นนี้ ทำให้อาจารย์อี้ รู้สึ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status