แชร์

ตอนที่ 6 - 1 ไม่น่าคบหา

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-05-04 13:04:49

ครั้นสตรีทั้งสามมาถึงเรือนบุปผา เสียงหัวเราะพูดคุยกันดังจนออกมานอกเรือน โหรวหลิงหลิงยังคงกุมมือคุณหนูสามสกุลหลี่ให้เดินเข้าไปภายในเรือนด้วยกัน ก่อนที่จะแนะนำให้ทุกคนได้รู้จัก หลี่ชิงเหมียว คุณหนูสามบุตรีคนรองของท่านเจ้าสำนักบัณฑิตหลี่ และไม่ลืมแนะนำหลี่ชิงหรง คุณหนูรอง พี่สาวต่างมารดาของหลี่ชิงเหมียวให้ทุกคนได้รู้จักเช่นกัน

แน่นอนว่าบุตรีที่เกิดจากอนุภรรยานั้น ย่อมไม่ได้รับความสำคัญ หลี่ชิงเหมียวดีกว่าหน่อย แม้นางจะเป็นบุตรีที่เกิดจากภรรยารอง แต่ภรรยารองของท่านเจ้าสำนักบัณฑิตหลี่ ผู้ใดก็รู้ความเป็นมาของนาง ดังนั้นหลี่ชิงเหมียวจึงมีสถานะที่น่าคบหามากกว่าหลี่ชิงหรง

“จินเอ๋อร์…เจ้าก็มางานวันนี้ด้วยหรือ”

หลี่ชิงหรงหาได้สนใจสายตาคุณหนูผู้สูงส่งที่กำลังรุมล้อมน้องสาวต่างมารดาอยู่ไม่ นางเดินเข้าไปทักทายสหายของตน อีกฝ่ายเป็นบุตรีที่เกิดจากอนุเช่นกัน ทว่าได้รับความรักจากผู้เป็นบิดามากกว่าบุตรีที่เกิดจากภรรยาเอก

“ข้าคิดว่าเจ้าจะไม่มาเสียแล้ว ว่าแต่…นั่นน้องหญิงสามที่เจ้าเคยบอกว่าเป็นจุดด่างพร้อยของตระกูลหลี่น่ะหรือ” หรวนลี่จินทักทายอีกฝ่ายกลับ ก่อนที่จะบุ้ยปากไปทางกลุ่มสตรี ซึ่งกำลังรุมล้อมเด็กสาวผู้หนึ่งอยู่

“อือ…นางเพิ่งจะหายป่วย แต่พอหายก็อวดฉลาดขึ้นมา เมื่อก่อนไม่รู้ว่านางแสร้งโง่หรืออย่างไร”

เรื่องนี้ทำให้หลี่ชิงหรงอิจฉาริษยาหลี่ชิงเหมียวอยู่ไม่น้อย ตกน้ำเกือบตาย ฟื้นมากลายเป็นคนละคน จากคนโง่เขลากลายเป็นคนฉลาดขึ้นมา เช่นนี้มิใช่นับว่าเป็นความชอบของนางหรอกหรือ

“นางยังเยาว์วัย กว่าจะถึงวัยปักปิ่น ยามนั้นเจ้าก็คงจะออกเรือนไปแล้ว อย่าได้คิดไปมีเรื่องมีราวกันเลย อย่างน้อย พวกเจ้าก็เป็นพี่น้องสายเลือดเดียวกัน”

หรวนลี่จิน กระซิบบอกสหาย ก่อนที่จะมองไปยังคุณหนูสามสกุลหลี่ ที่กำลังถูกพวกคุณหนูจากตระกูลใหญ่ห้อมล้อมอยู่ ด้วยแววตาที่เฉยชา

“คิดมีเรื่องอันใดกัน ข้าน่ะหรือจะกล้า ยามนี้นางกลายมาเป็นบุตรสาวคนสำคัญของท่านพ่อไปแล้ว”

หลี่ชิงหรงยังคงอดพร่ำบ่นให้สหายฟังถึงเรื่องของน้องสาวต่างมารดาผู้นี้ไม่ได้ นางบอกเล่าถึงพฤติกรรมของหลี่ชิงเหมียว ตั้งแต่ก่อนจมน้ำ และหลังจากฟื้นจากการจมน้ำ ให้สหายฟังอย่างละเอียด

หรวนลี่จินที่ได้ยินแล้ว ก็รู้สึกว่าช่างเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก เพราะจากเด็กที่ไม่รู้ความ กลับกลายมาเป็นเด็กที่เฉลียวฉลาดและทันคน หากในโลกนี้มีภูตผีอยู่ นางคงจะเชื่อว่า ไม่แน่คุณหนูสามอาจจะไม่ใช่คุณหนูสามก็ได้

ทว่าเรื่องเช่นนี้มิอาจกล่าวออกมาให้ผู้ใดฟังได้ เพราะในเมืองถงแห่งนี้ ทั่วทุกแห่งล้วนมีแต่บัณฑิต บัณฑิตมักจะไม่เชื่อในเรื่องราวลี้ลับ เพราะหลักคำสอนของขงจื๊อ

หลี่ชิงเหมียวที่กำลังนั่งคุยอยู่กับพวกคุณหนูจากตระกูลใหญ่ในเมืองถง ก็ไม่ลืมที่จะมองไปยังพี่สาวต่างมารดาของตน เห็นทีพี่หญิงรองของหลี่ชิงเหมียว คงจะไม่ใช่สตรีที่น่าคบหานัก มีสหายก็มีอยู่เพียงแค่หนึ่งคน

“เหมียวเอ๋อร์…เจ้าอย่าว่าพี่ยุ่งวุ่นวาย หรือเอ่ยวาจา สร้างความแตกแยกให้เจ้า และพี่สาวของเจ้าเลยนะ”

หลี่ชิงเหมียวดึงสายตากลับมามองยังสตรีที่นั่งอยู่ข้างๆ เป็นคุณหนูใหญ่จากตระกูลซ่ง วัยเพียงสิบเจ็ดปี แต่ถึงอย่างไรก็แก่กว่าหลี่ชิงเหมียวถึงสามปี

“พี่หญิงซ่งมีสิ่งใดที่อยากจะกล่าวกับข้าอย่างนั้นหรือเจ้าคะ”

“พี่สาวของเจ้านางนี้ หาใช่คนที่น่าคบหาไม่”

ซ่งอวี้หรูกระซิบบอก พลางลอบมองไปยังผู้ที่กำลังถูกนางกล่าวถึง อีกฝ่ายก็กำลังพูดคุยกับสหายข้างกายอยู่เช่นกัน ทว่าไม่รู้ว่าเป็นเรื่องอันใด เพราะพวกนางมองมายังหลี่ชิงเหมียวเป็นพักๆ

“ข้าเพิ่งจะหายดี เมื่อไม่นานมานี้ จึงไม่ค่อยได้ใกล้ชิดกับพี่หญิงรองมากนัก พวกท่านรู้จักพี่หญิงรองมานานแล้วหรือเจ้าคะ” หลี่ชิงเหมียวแสร้งเอ่ยออกมาอย่างรู้สึกเสียดาย และลองถามคุณหนูเหล่านี้ออกมา

“ไม่นานเท่าใดหรอก แต่ก็พอจะมองนางออก" ซ่งอวี้หรูเบะปาก จากนั้นจึงกล่าวต่อ

"ก่อนหน้านี้เป็นนาง ที่ติดตามอยู่ข้างกายพี่หญิงใหญ่ของเจ้า ยามที่มาร่วมงานเลี้ยงที่จวนสกุลซ่งของข้า หรือแม้แต่ไปงานเลี้ยงของตระกูลอื่นในเมืองถง แต่ทว่า…หลังจากที่พี่หญิงใหญ่ของเจ้าออกเรือนไป นางก็ไม่ค่อยโผล่หน้ามางานเลี้ยงอีกเลย อาจจะเป็นเพราะก่อนหน้านั้น นางเคยยุยงให้คุณหนูสกุลอื่น ไม่ลงรอยกัน”

“ใช่ๆ ข้าได้ยินคุณหนูสองจวนนั้นกล่าวว่า คุณหนูรองตระกูลหลี่ แอบมีใจให้พี่ชายของเจ้า ที่เป็นลูกศิษย์คนโปรดของท่านเจ้าสำนักศึกษาตระกูลหลี่ บิดาของนาง จึงได้ยุแยงให้พวกนางทะเลาะกันเอง เพื่อที่ตนจะได้ไร้คู่แข่ง”

โหรวหลิงหลิงรีบแสดงความเห็นออกมา หลี่ชิงเหมียวรู้สึกสนใจเรื่องราวของพี่หญิงรองเข้าไปทุกที นอกจากจะใจดำอำมหิตแล้ว ยังเป็นผู้ที่ชอบเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ของผู้อื่นด้วยหรือนี่

“ฝันไปเถิด!!! พี่ชายใหญ่ของข้าน่ะหรือ ที่จะแต่งนางมาเป็นพี่สะใภ้ รอให้พระอาทิตย์ขึ้นทางตะวันตกเสียก่อน เขามีสตรีที่ถูกใจอยู่แล้ว เป็นคุณหนูรองจากสกุลหยวนที่อยู่เมืองเซิ่ง อีกไม่นานท่านแม่ก็จะเชิญแม่สื่อให้ไปทาบทามให้เขาแล้ว จะมาชอบพอพี่ชายของข้าได้อย่างไร เอ่อ…พี่ขออภัยเจ้าด้วยนะเหมียวเอ๋อร์…ถึงอย่างไรแล้วนางก็เป็นบุตรสาวจากตระกูลหลี่ พี่หาได้ดูแคลนตระกูลหลี่ไม่ แต่นางไม่คู่ควรกับพี่ชายของข้าจริงๆ หากเปลี่ยนมาเป็นเจ้านั้นก็ไม่แน่”

ซ่งอวี้หรูอุทานออกมา ก่อนที่จะอธิบายให้สหายฟังอย่างยืดยาว ท้ายๆ ก็ยังไม่วายหยอกเย้าเด็กสาววัยแรกแย้มอย่างหลี่ชิงเหมียว ทว่าหลี่ชิงเหมียวที่ได้ยินเช่นนั้นก็แทบจะสำลักน้ำชานางยิ้มแห้งออกมา ก่อนที่จะรีบโบกมือปฏิเสธด้วยถ้อยคำที่ถ่อมตน

“คุณชายใหญ่ซ่ง เป็นบัณฑิตที่รอบรู้ ทั้งยังมีสตรีที่พึงใจอยู่แล้ว จะให้เปลี่ยนใจไปมอบให้แก่สตรีอื่นได้อย่างไรกัน อีกทั้งข้ายังเด็ก ความรู้ติดตัวก็มีน้อย ยังไม่คิดถึงเรื่องออกเรือนเจ้าค่ะ”

ทั้งโหรวหลิงหลิงกับซ่งอวี้หรูที่ได้ยินเช่นนั้นก็พากันหัวเราะออกมา สามสาวต่างวัยสนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว สนิทกันจนทำให้สตรีสองคน ที่อยู่ฝั่งตรงกันข้ามรู้สึกหมั่นไส้

เสียงดนตรีที่ศาลากลางน้ำข้างเรือนบุปผาดังขึ้น เรียกความสนใจของทุกคนให้หันไปมอง เสียงหัวเราะของคุณหนูทั้งสามตระกูลจึงเงียบหายไปเช่นนั้น หลี่ชิงเหมียวเหลือบมองไปยังโต๊ะที่พี่สาวต่างมารดานั่ง ทว่ากลับไม่มีอีกฝ่ายนั่งอยู่ตรงนั้นแล้ว มิใช่ว่าคงออกไปหาเรื่องใส่ตัวหรอกกระมัง

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • หลี่ชิงเหมียว..ภรรยาผู้หวนคืน   ตอนพิเศษ ผลตอบแทนของการเป็นคนดี (จบ)

    หลัวอี้เฉินและหลี่ชิงเหมียว ยังคงอาศัยอยู่ในเรือนเดิม ถึงแม้ยามนี้หลัวอี้เฉิน จะกลายมาเป็นผู้นำตระกูลอย่างเต็มตัว และหลี่ชิงเหมียวก็เป็นฮูหยินใหญ่ ทำหน้าที่ดูแลทุกเรื่องในเรือนหลัง ทว่านางกลับชอบเรือนหนิงอันมากกว่าเรือนใหญ่ ที่พ่อแม่สามีอาศัยอยู่ เพราะนางอยู่ที่เรือนหนิงอันแล้วรู้สึกว่าจิตใจสงบสุขหลี่ชิงเหมียวเดินกลับไปยังเรือนหนิงอัน ทุกย่างก้าวของนางได้พบกับบ่าวรับใช้ ที่มีมากขึ้นไปจากเดิม เพราะตระกูลหลัวขยับขยาย ทำให้หลัวอี้เฉินซื้อบ่าวรับใช้มาเพิ่ม อย่างเช่นสาวรับใช้ข้างกายนางสองคน ก็ซื้อมาใหม่ยามที่หลัวลี่เซียนเพิ่งจะอายุได้สองปี“ท่านแม่...” หลัวลี่เซียนวัยแปดปี ส่งเสียงเรียกขานมารดา ขณะที่นางกำลังเดินจูงมือน้องชายวัยสองปีมาด้วยกัน หลัวอี้ซ่งก้าวเดินอย่างมั่นคง ก่อนจะปล่อยมือของพี่สาว แล้ววิ่งเข้าไปหามารดา หลี่ชิงเหมียวย่อกายลงโอบกอดเขาเอาไว้“ท่านแม่....อุ้ม...” เด็กน้อยบอกมารดานัยน์ตาทอประกายออดอ้อน หลัวลี่เซียนอยากจะเอ่ยปากห้ามน้องชาย ทว่ามารดากลับอุ้มเขาขึ้นจากพื้นแล้ว“ฮูหยิน...” แม่นมซิ่วและบรรดาสาวรับใช้ร้องอุทานออกมาพร้อมกันด้วยความตกใจ ถึงแม้ทารกในครรภ์ของฮูหยินจะมั่นค

  • หลี่ชิงเหมียว..ภรรยาผู้หวนคืน   ตอนพิเศษ ผลตอบแทนของการเป็นคนดี

    เสียงหัวเราะของเด็กน้อย ทำให้หัวใจของผู้ใหญ่ รู้สึกผ่อนคลาย นัยน์ตาคมทอดมองไปยังบุตรสาวคนโต และบุตรชายคนเล็ก ที่กำลังวิ่งเล่นอยู่ด้วยกัน ภายในลานกว้างของจวนผ่านมาสองปีหลัวลี่เซียน บุตรสาวของเขานั้นเติบโตขึ้นมาก จนสามารถดูแลน้องชายวัยสองปีได้แล้ว ส่วนบุตรชายคนโตวัยสิบหกปี ก็ได้สอบผ่านเป็นซิ่วไฉอย่างที่ตั้งใจ และกำลังเตรียมตัวลงสนามสอบต่อไป“เหมียวเอ๋อร์... พี่คิดว่าพวกเราควรจะมีน้องสาว ให้พวกเขาอีกสักคนเถิด” จู่ ๆ หลัวอี้เฉินก็กล่าวออกมา หลังจากที่ทอดสายตา มองไปยังลูกทั้งสองอยู่เนิ่นนานทว่าคำชวนของสามี ทำให้หลี่ชิงเหมียวที่เพิ่งดื่มชาลงไป เกิดอาการสำลักขึ้นมา นางไม่ได้หวาดกลัวในการตั้งครรภ์ หรือการให้กำเนิด แต่นางกลับรู้สึกเหน็ดเหนื่อยกับอาการแพ้ท้องต่างหาก และไม่รู้ว่าหากมีอีกคนแล้ว นางจะเป็นบุตรีอย่างที่พวกตนตั้งใจหรือไม่แม่นมซิ่วส่งสายตาให้แก่อี้เหลียน และสาวรับใช้รอบกาย จนทุกคนถอยออกไปจากบริเวณนี้อย่างรู้ความ ปล่อยให้นายท่านกับนายหญิง ได้พูดคุยกันถึงเรื่องใกล้ชิดส่วนตัวตามลำพัง“ท่านพี่... แล้วท่านจะแน่ใจได้อย่างไร ว่าถ้าหากพวกเรามีลูกอีกคน แล้วจะเป็นบุตรี หากข้าให้กำเนิดบุตรชา

  • หลี่ชิงเหมียว..ภรรยาผู้หวนคืน   ตอนพิเศษ เจตนาของสวรรค์...คือการทำความดี 1

    “นายท่าน... คุณชายใหญ่ ฮูหยินให้บ่าวมาเชิญพวกท่าน กลับไปกินมื้อเช้ากันได้แล้วเจ้าค่ะ วันนี้ฮูหยิน ท่านจะออกไปคำนับท่านปรมาจารย์ ที่อารามหลัวเซิง” สาวรับใช้เข้ามาเชิญเจ้านายทั้งสองตามคำสั่งของนายหญิง“ไปอารามหรือ... ข้าก็อยากจะไปด้วย” หลัวอี้เฉินเอ่ย ก่อนที่จะสั่งลูกน้อง แล้วชวนบุตรชายกลับจวน“พวกเจ้าแยกย้ายกันเถิด เจ๋อเอ๋อร์...พวกเราก็รีบกลับจวนไปกินมื้อเช้ากับท่านแม่และน้องสาวของเจ้ากัน”“ขอรับท่านหัวหน้า” บรรดาผู้ใต้บังคับบัญชารับคำ“ขอรับท่านพ่อ...” หลัวอี้เจ๋อรับคำบิดาเช่นกัน สองพ่อลูกรีบพากันกลับจวนอย่างไม่รีรอ การปล่อยให้สตรีรอนาน ไม่ใช่สิ่งที่บุรุษพึงกระทำกู้จงกับกู้อี้ก็เอ่ยลาบรรดาสหายร่วมงานเช่นกัน เพราะพวกเขาต่างก็มีคนของตน รอกินมื้อเช้าพร้อมพวกเขาอยู่ที่เรือนบุรุษที่เหลือจึงพากันแยกย้าย พลางคิดในใจว่า การมีครอบครัวมันดีเพียงนี้เชียวหรือ ท่านหัวหน้าแต่ละคน ถึงได้ดูกระตือรือร้นเพียงนี้รถม้าของจวนตระกูลหลัว มุ่งหน้าออกจากจวนในยามซื่อ ยามนี้ครรภ์ของหลี่ชิงเหมียวมั่นคงแล้ว จึงทำให้การเดินทางระยะใกล้ไม่ลำบากมากนัก ไม่นานนักรถม้าของตระกูลหลัวก็มาถึงอารามหลัวเซิง ทว่าหลี่ชิงเหมี

  • หลี่ชิงเหมียว..ภรรยาผู้หวนคืน   ตอนพิเศษ เจตนาของสวรรค์...คือการทำความดี

    หลี่ชิงเหมียวตั้งครรภ์ลูกคนที่สองของชาติภพนี้ หลังจากที่บุตรสาวคนโต มีอายุได้เพียงห้าปี ทว่านี่ก็นับว่านานมากพอ กว่าที่นางจะสามารถก้าวข้าม ความหวาดกลัว ที่เคยอยู่ภายในใจนางยอมหยุดยาสมุนไพร เพื่อที่จะปล่อยให้ตนเองตั้งครรภ์ ทว่าก็ใช้เวลานานนับหนึ่งปี กว่าที่เด็กคนนี้ จะมาเกิดกับตน“นี่ข้ากำลังจะมีลูกอีกคนแล้วจริง ๆ หรือ”ท่านหมอหลินกลับไปแล้ว ทว่าหลัวอี้เฉินยังคงตกอยู่ในภวังค์ เขาเฝ้าถามตนเองซ้ำๆ ว่าเขากำลังจะมีลูกอีกคนจริงๆ หรือ หลี่ชิงเหมียว แม่นมซิ่ว และอี้เหลียน มองไปยังชายหนุ่มด้วยแววตาขบขัน“นายท่านไม่ต้องประหลาดใจไปหรอกเจ้าค่ะ เป็นเพราะฮูหยินของพวกเรา หยุดดื่มยาสมุนไพรป้องกันการตั้งครรภ์ และดื่มยาสมุนไพรบำรุง เพื่อเตรียมการตั้งครรภ์มานานนับปีแล้วเจ้าค่ะ” แม่นมซิ่วไขข้อข้องใจ ให้แก่นายท่านที่กำลังแสดงสีหน้าสับสนงุนงง กับเรื่องการตั้งครรภ์ของนายหญิง“จริงหรือ” หลัวอี้เฉินถามภรรยา นัยน์ตาคมมองไปยังนางเป็นประกายทว่าเขากลับยังคงไม่กล้าเข้าไปใกล้ เพราะก่อนหน้านี้ นางบอกว่ารู้สึกเหม็นกลิ่นกายของเขา ถึงได้อาเจียนออกมา ยามนี้เขายังไม่ได้อาบน้ำ จึงยังไม่กล้าเข้าไปใกล้นาง“จริงเจ้าค่ะ” หล

  • หลี่ชิงเหมียว..ภรรยาผู้หวนคืน   ตอนพิเศษ อย่าหวาดกลัวที่ต้องเผชิญหน้า 1

    หลี่ชิงเหมียวนั่งอยู่ในศาลาพักผ่อนกับบุตรสาว ที่เอาแต่ร้องตะโกนให้กำลังใจพี่ชายก็รู้สึกปวดศีรษะขึ้นมา“เซียนเอ๋อร์... เจ้าเองก็อยากลองขี่ม้าใช่หรือไม่” หลัวลี่เซียนหันขวับเดินเข้าไปออดอ้อนมารดา“เจ้าค่ะท่านแม่...”“ยามนี้เจ้ายังเยาว์วัยนัก ร่างกายก็ยังเติบโตไม่สมบูรณ์ ไม่อาจควบคุมอาชาตัวโตเช่นนั้นได้” สิ้นคำกล่าวของมารดา หลัวลี่เซียนก็แสดงสีหน้าผิดหวังออกมาทว่าก่อนที่จะนางจะแสร้งหลั่งน้ำตาขอความเห็นใจจากมารดาออกมา หลี่ชิงเหมียวก็แอบโบกมือให้บ่าวในสนามบ่าวผู้นั้นจูงอาชาตัวเล็กสีนิลเข้ามา หลัวลี่เซียนมองไปยังอาชาตัวน้อย ก่อนที่จะหันหน้ากลับมามองมารดานัยน์ตาเป็นประกาย หลี่ชิงเหมียวแสร้งยกชาขึ้นมาจิบ“ท่านแม่... ขอบคุณเจ้าค่ะ ข้ารักท่านแม่ที่สุด”หลัวลี่เซียนโผเข้าไปกอดมารดา พลางกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน นางหอมแก้มของมารดาซ้ายทีขวาทีอย่างเอาใจ หลี่ชิงเหมียวรู้สึกใจอ่อนยวบ สุดท้ายแล้ว นางก็ต้องพ่ายแพ้ให้บุตรสาวขี้อ้อนผู้นี้อยู่ร่ำไปหลัวอี้เฉินกับหลัวอี้เจ๋อ สองพ่อลูกที่สังเกตเห็นนางฟ้าตัวน้อย กำลังจะขึ้นอาชา ต่างก็รีบควบอาชากลับมา หลัวอี้เจ๋อเสนอตัวดูแลน้องสาวเอง เพราะอาชาที่หลัวลี

  • หลี่ชิงเหมียว..ภรรยาผู้หวนคืน   ตอนพิเศษ อย่าหวาดกลัวที่ต้องเผชิญหน้า

    หลังจากที่หลี่ชิงเหมียวให้กำเนิดหลัวลี่เซียนได้ห้าปี เด็กหญิงก็เริ่มเดินตามรอยเท้าของบิดามารดา แม้เกิดเป็นหญิง แต่ผู้ใดกันที่บอกว่าสตรีอ่อนแอ แล้วนางจะต้องอ่อนแอ นางเองก็มีคนที่อยากจะปกป้องเช่นกัน“คุณหนูหลัว... ท่านแน่ใจหรือเจ้าคะ ว่าอยากจะฝึกวรยุทธ์จริงๆ” สตรีที่ดูมีความรู้ตรงหน้าเอ่ยถามลูกศิษย์ตัวน้อยออกมาด้วยความตกใจอาจารย์อี้ นางเป็นอาจารย์ที่หลี่ชิงเหมียว เชิญให้มาสอนบุตรีที่จวน โดยอาจารย์อี้ ได้จัดตารางการเรียนให้เด็กหญิงได้เรียนรู้ตัวอักษร และการฝึกคัดอักษรหลายวันที่ผ่านมาคุณหนูหลัวก็ดูตื่นเต้นดี ทว่าพอเวลาผ่านไปได้สิบวัน คุณหนูน้อยกลับกล่าวออกมาอย่างทอดถอนใจ ว่าสิ่งที่อาจารย์เช่นนางสอนมานั้น นางรู้ทั้งหมดแล้ว เป็นท่านแม่ของนาง ที่เคยจับมือสอนนาง ให้เขียนพู่กัน ในยามที่นางยังวัยเพียงแค่สี่ขวบอาจารย์อี้ไม่อยากจะเชื่อ ในคำพูดของเด็กวัยห้าขวบ นางจึงได้ทำการทดสอบเด็กน้อย ทว่าคุณหนูหลัว ราวกับเป็นเด็กที่มีพรสวรรค์มาตั้งแต่เด็ก นางสามารถเรียนรู้สิ่งใดได้อย่างรวดเร็ว จะเรียกได้ว่า รู้ความไวกว่าเด็กวัยเดียวกันก็ไม่ผิดและการที่นางได้พบกับอัจฉริยะตัวน้อยเช่นนี้ ทำให้อาจารย์อี้ รู้สึ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status