“ฮื่อ” สั้นๆ แต่ได้ใจความที่มีแค่สองพี่น้องนี้เท่านั้นที่เข้าใจ นายหัวเหมันต์ พูดน้อยและเงียบขรึมจนดูเหมือนหยิ่งและเย็นชา ยิ่งดวงตาสีน้ำเงินเข้มเกือบดำนั้น เวลาที่เจ้าตัวโกรธจัดมันจะมืดดำดูน่ากลัวจนคนที่ถูกมองเสียววาบเย็นไปถึงไขสันหลังเลยทีเดียว สองพี่น้องได้แต่มองหน้ากันอย่างปลงๆ กับความเย็นชาเสมอต้นเสมอปลายของนายหัวหนุ่ม ที่เป็นมาตลอดเกือบเจ็ดปี่ที่ผ่านมานับตั้งแต่เลิกรากับแฟนสาวสวยลูกครึ่งนามว่า แอนนิต้า รามอส นางแบบไฮโซที่ตอนนี้เธอแต่งงานอยู่กินกับสามีชาวฝรั่งเศสหลังจากทิ้งเจ้านายเขาไปอย่างไม่ไยดี
เมื่อถึงบ้านพักหลังใหญ่ในหมู่บ้านจัดสรรสุดหรู แถวชานกรุงนายหัวหนุ่มก็รีบขึ้นมาเก็บของเตรียมตัวกลับเกาะ เหมันต์ยืนนิ่งอยู่หน้ากระจกเงาในห้องน้ำใบหน้าหล่อเหลาคมคร้ามด้วยอยู่กลางแจ้งเป็นนิจนั้นดูเย็นชา เงาที่สะท้อนออกมาจากกระจกนั้น เป็นภาพภาพชายหนุ่มที่มีใบหน้าหล่อเหลาเยี่ยงเทพบุตรพึงมี ใบหน้าเหลี่ยมหล่อเหลาเข้มคม สันกรามแกร่งมีรอยผ่าบุ๋มที่คางบึกบึน จมูกโด่งเป็นสัน รับกับริมฝีปากหยักหนาสีเข้ม ผิวสีแทนสวย แผงอกกว้างเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อสวยงามดั่งรูปปั้นนักรบโรมันผู้ห้าวหาญ แต่แววตาสีน้ำเงินเข้มนั้นกลับเย็นชาแม้เจ้าตัวเองยังรู้สึกได้ เขากลายเป็นคนเย็นชาแบบนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ ตั้งแต่ตอนนั้นสินะ...
เกาะส่วนตัวเล็กๆ ในทะเลตอนใต้ของประเทศ เป็นเกาะส่วนตัวที่มีเนื้อที่กว้างประมาณหกกิโลเมตรความยาวรอบเกาะราวสิบสองกว่ากิโลเมตร โดยด้านหน้าเกาะนั้นเป็นเวิ้งอ่าวสวยงามมีท่าเรือที่สามารถจอดเรือได้ ชายหาดสวยที่มีทรายละเอียด ขาวสะอาดและชายฝั่งเหมาะแก่การเล่นน้ำและพักผ่อน
เกาะพราวแสงจันทร์เป็นเกาะส่วนตัวและค่อนข้างเงียบสงบถึงแม้จะมีรีสอร์ตสำหรับนักท่องเที่ยวแต่ที่นี่จะเปิดให้เฉพาะแขกระดับวีไอพีที่ต้องการความเป็นส่วนตัว และผู้ที่มาพักต้องเป็นคนที่รักธรรมชาติและสันโดษด้วย และไม่ใช่ทุกคนจะสามารถใช้เงินเพื่อเข้ามาพักได้ เพราะเจ้าของเกาะจะต้องขออนุญาตผู้เข้ามาพักในการตรวจสอบประวัติและจุดประสงค์ของการมาพักที่นี่อย่างเข้มงวด ถ้าผู้มาพักตกลงยินยอมและเจ้าของตกลงก็อันเป็นว่าเข้ามาพักผ่อนที่เกาะแห่งนี้ได้ และแม้ว่าการเข้ามาเที่ยวพักผ่อนที่เกาะพราวแสงจันทร์จะดูยุ่งยากและเจ้าของเกาะจะดูเหมือนว่าเรื่องมากสักเท่าใด ก็ยังมีคนที่ต้องการเข้ามาสัมผัสและชมความงดงามของน้ำทะเลสีมรกต ชายหาดขาวสะอาด และพักผ่อนเพลินเพลินไปกับการชมเกาะที่มีความสวยงามไม่แพ้ที่ใดๆ ในโลก ผู้คนเหล่านั้นก็ยินดีที่จะทำตามกฎที่ตั้งขึ้นของที่นี่อย่างไม่อิดออด และก็มีนักท่องเที่ยวมาพักไม่ขาดสายและที่สำคัญที่เกาะแห่งนี้จะรับนักท่องเที่ยวให้เข้าพักแค่ช่วงปีใหม่ถึงเดือนเมษายนเท่านั้น หลังจากนั้นทางเกาะจะปิดรับนักท่องเที่ยวทันที
ครอบครัวหิรัญวารินทร์ เจ้าของเกาะพราวแสงจันทร์โดยมีหัวหน้าครอบครัวคือ นิคลอส (มาร์ติเนซ คาร์เตอร์)หิรัญวารินทร์ นายใหญ่เลือดผสมไทย สแปนิช-อเมริกัน แม้จะมีเชื้อสายต่างชาติและหน้าตาก็ไม่มีส่วนไหนเหมือนคนไทยเลยสักนิดนั้น แต่นายใหญ่แห่งเกาะพราวแสงจันทร์ก็เลือกที่จะใช้นามสกุลของมารดาและอยู่ที่เมืองไทยกับภรรยาที่รักยิ่งนั่นคือนายหญิงวาริน สาวงามผู้เป็นดั่งดวงใจมากกว่าจะไปใช้ชีวิตหรูหราสุขสบายกับครอบครัวฝ่ายบิดาซึ่งเป็นถึงมหาเศรษฐีติดอันดับโลก อย่างตระกูล มาร์ติเนซ คาร์เตอร์
นายใหญ่นิคลอส และนายหญิงวาริน มีบุตรชายทั้งหมดสามคน และไม่รู้ว่าเรื่องบังเอิญหรือชะตาลิขิตลูกชายทั้งสามคนจะเกิดในช่วงฤดูกาลสามฤดู ลูกชายคนโตคือ เหมันต์ นายหัวหนุ่มวัย 36 ปี ที่ตอนนี้เป็นหัวเรือใหญ่ในการจัดการบริหารงานทุกอย่างในเกาะพราวแสงจันทร์ เนื่องจากเขาเกิดในฤดูหนาวที่ตอนนั้นเกาะพราวแสงจันทร์เกิดภาวะอากาศหนาวเย็นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนทั้งๆ ที่ในแถบจังหวัดภาคใต้ของไทยแทบจะไม่มีฤดูหนาวเลยก็ว่าได้ แต่คราวที่เหมันต์เกิดนั้นก็เกิดสภาวะที่หนาวมากจนน่าอัศจรรย์ใจ เขาจึงได้ชื่อว่าเหมันต์ หรือนายหัวมาร์ค
บุตรชายคนที่สองคือ คิม หรือคิมหันต์ หิรัญวารินทร์ มาร์ติเนซ คาร์เตอร์ ชายหนุ่มวัย 29 ปี เจ้าชายแสนสำราญและเร่าร้อนดั่งอากาศอันร้อนแรงของเดือนเมษยน เขาเป็นนักรักผู้เร่าร้อนและเนื้อหอม ซึ่งตอนนี้บริหารงานของวาริน กรุ๊ปด้านการแปรรูปอาหารเพื่อการส่งออกของครอบครัวและตอนนี้ก็กำลังเรียนรู้และดูงานด้านการบริหารอยู่อเมริกากับผู้เป็นปู่ซึ่งเขายินยอมที่จะใช้นามสกุล มาร์ติเนซ คาร์เตอร์ ของผู้เป็นปู่แทนผู้เป็นบิดา เพื่อเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างผู้เป็นบิดากับผู้เป็นปู่ เพราะเนื่องด้วยในอดีตนายใหญ่นิคลอสเคยถูกทอดทิ้งไร้การเหลียวแลจาก ตระกูลมาร์ติเนซคาร์เตอร์ แต่สุดท้ายนายใหญ่ก็ยอมให้บุตรชายคนกลางใช้นามสกุลของตระกูล มาร์ติเนซ คาร์เตอร์และคิมหันต์เองก็ยินดี
ส่วนน้องเล็กคนสุดท้องคือ วัตสัน หรือ วสันต์ ชายหนุ่มวัย 27 ปีผู้มีความสดใสร่าเริง ประดุจฝนแรกฤดู เขาเป็นคนที่ยิ้มหัวง่ายและขี้เล่นนอกจากนี้ยังเป็นขวัญใจบรรดาคนงานและพนักงานทั้งที่บริษัทแปรรูปและส่งออกวารินกรุ๊ป และที่ รีสอร์ตพราวแสงจันทร์อีกด้วยเพียงแต่ตอนนี้ชายหนุ่มไปเรียนต่อที่อเมริกาและวสันต์เองก็ชอบที่จะทำงานแบบอิสระและชอบช่วยเหลือผู้อื่นเสมอ ดังนั้นทางบ้านจึงไม่แปลกใจที่วสันต์จะเป็นหนึ่งในทีมหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ของหน่วยงานอาสาสมัครอิสระที่เข้าไปช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสในประเทศด้วยพัฒนาในแอฟริกาและกำลังจะจัดตั้งมูลนิธิช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสในประเทศโลกที่สาม
แต่ไม่ว่าอย่างไรทั้งสามหนุ่มก็ยังคงความโสดอยู่จนทำให้ทั้งนายใหญ่และนายหญิงกลัวว่าจะไม่ได้อุ้มหลานพยามหว่านล้อมและหาเหตุผลมาให้ทั้งสามหนุ่มมีครอบครัวเสียที โดยเฉพาะนายหัวมาร์คที่ตอนนี้อายุก็ปาเข้าไปสามสิบหกปีแล้วยังไม่คิดแต่งงานมีครอบครัว ทำให้ผู้เป็นบิดามารดาได้แต่หวังว่าจะมีหญิงสาวคนใดมาทลายกำแพงน้ำแข็งและจูงมือบุตรชายของนางเข้าประตูวิวาห์เสียที
ตอนที่ 187. ตอนอวสาน ความนุ่มหยุ่นนวลเนียนของผิวสาวทำให้ริคไม่พลาดสักตารางนิ้วที่จะเชยชม จนผิวสีน้ำผึ้งผุดผ่องแดงเห่อไปทั้งร่างและเขาก็ไม่พลาดเช่นกันที่จะฝากรอยรักเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของร่างงามนี้ “ฮื้อ พอก่อนค่ะ เรามีเรื่องต้องคุยกันก่อน” ดรุณนุชเอ่ยห้ามเมื่อสามีผู้เร่าร้อนดื่มชิมร่างงามจนเธอแทบร้อนเป็นไฟ แต่ความที่มีเรื่อร้อนใจใจทำให้เธอไม่อาจปล่อยให้ตนหวามไหวไปกับเขาจนลืมความตั้งใจได้ “อืม เอาไว้ก่อนจ๊ะฮันนี่ ตอนนี้สามีไม่ว่างจะคุยนะจ๊ะ” ริคเอ่ยชิดทรวงอกอวบใหญ่หวานล้ำและยังไม่ยอมเงยหน้าจากทรวงสาวจนดรุณนุชต้องกลั้นใจรวบเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีดึงศีรษะซึ่งกำลังซุกไซ้กับทรวงอกตนออกจนได้แม้จะยังหอบกระเส่าเร่าร้อนเพราะไฟพิษศวาสที่เขาเป็นผู้ก่อขึ้นก็ตามที “อืม ฮันนี่จ๋า มีอะไร” ริคยังไม่วายจะดึงดันก้มลงเชยชิมอกอวบจนดรุณนุชต้องซัดเผี๊ยะเข้าที่แขนแข็งแรงจนชายหนุ่มถึงกับสูดปากด้วยความเจ็บนิดๆ อารมณ์ร้อนแรงเมื่อครู่ก็ลดองศาลงมาเล็กน้อย “คนบ้ากามหื่นที่สุด คุยกันก่อนค่ะน้ำผึ้งซีเรียสนะคะ” ดรุณนุชค้อนสามีฉุนๆ ขึงตามองคนหื่นจัดอย่างขัดเคือง
ตอนที่ 186. งานเลี้ยงที่ไม่หรูหราแต่เรียบง่ายเหมือนงานบายศรีสู่ขวัญ ดำเนินไปด้วยความชื่นมื่นเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขใจ นายใหญ่และนายหญิงวารินซึ่งตอนนี้ชราลงมากแต่ก็ยังดูแข็งแรงกระปรี้กระเปร่า มองดูลูกหลานอย่างมีความสุขใบหน้าและแววตาที่ร่วงโรยตามวัยยิ้มแย้ม ดวงตาเป็นประกายด้วยความปลาบปลื้มใจที่วันนี้เป็นวันดีๆ อีกวันหนึ่ง แล้วเสียงร้องอย่างตื่นเต้นของน้องหนึ่งก็ดังลั่นเรียกความสนใจของทั้งสองให้มองไปยังร่างที่ดูสูงเกินเด็กในวัยเดียวกันวิ่งมาหาอย่างตื่นเต้น จนแก้มขาวใสของเด็กชายแดงปลั่ง “คุณปู่คุณย่าคับ อาวัตสันโทรมาแล้วคับ มาฟังเสียงอาวัตสันเร็วๆ” “จ้าลูก ไปเถอะค่ะคุณพ่อคุณแม่” อรุณนารีเข้ามาประคองร่างของนายหญิงวารินในขณะที่สามีประคองร่างผู้เป็นบิดาเดินไปยังโทรศัพท์ที่ลูกชายจอมซนเปิดเสียงลำโพงอย่างรู้งาน “สุขสันต์วันเกิดนะหลานอา สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่และทุกๆ คนด้วยนะครับ” เสียงของวสันต์ดังอู้อี้ไม่ค่อยชัดนักเหมือนอยู่ในที่อับสัญญาณ “จ๊ะลูก ทุกๆ คนสบายดีแล้ววัตสันล่ะลูกอยู่ไหนกัน” นายหญิงวารินตอบอย่างตื้นตันและรักใคร่บุตรชาย
ตอนที่ 185.“น่านสิค้า อาคิมขาของน้องนาเดียน่าสงสารจังที่โดนเมียทิ้ง ยังหนุ่มยังแน่นและยังหล่อด้วยเอางี้มั้ยคะให้น้าหนูดีช่วยดามอกมั้ยค้าน้าหนูดีของน้องนาเดียสวยน้า นี่ถ้าน้องนาเดียโตกว่านี้ น้องนาเดียจะไม่ทำให้อาคิมขาเสียใจเลย น้องนาเดียจะหาสาวๆ สวยๆ ให้อาคิมขาเอง” หนูน้อยนาเดียเด็กหญิงน่ารักตัวอ้วนกลมผิวขาวแก้มยุ้ยแดงปลั่งพูดฉะฉานเกินวัยพูดและทำท่าราวเด็กสาวริรัก“แต่เรย์ว่า ใครก็สวยสู้น้าหนูดีไม่ได้หรอก เรย์ว่าน้าหนูดีของเรย์เหมาะสมกับอาคิมขาที่สุด แต่เอ...ทำไมเวลาอาคิมมาน้าหนูดีก็ไป แล้วตกลงน้าหนูดีกับอาคิมเป็นอะไรกันแน่คับ คุณอาคิมขากับน้าหนูดีคนสวยเกลียดกันหรือคับ ถ้าเป็นอย่างนั้นก็แย่ แบบนี้เรย์ก็ได้คนอื่นมาเป็นแฟนน้าหนูดีแน่ๆ เสียดายจัง” เด็กชายเรย์ม่อน ที่มีหน้าตาคมคายน่ารักและมีผิวเช่นเดียวกับผู้เป็นมารดาส่วนความแก่แดดแก่ลมไม่เกินกันเอ่ยขึ้นพลางจ้องหน้าอาคิมขาเขม็งเหมือนต้องการหาคำตอบจนคนที่ถูกเด็กๆ ตัวร้ายทั้งสามคนมองเป็นตาเดียวเริ่มอึดอัด นี่เขาคิดผิดแน่ๆ ที่มาร่วมงานวันเกิดของหลานชาย และอาสามาเป็นพี่เลี้ยงเด็กๆ ให้บทที่พวกผู้ใหญ่ทั้งหลายกำลังวุ่นวายอยู่ในครัว“เอ่อ คือ ฮึ
ตอนที่ 184. “นี่พี่ริคโทรไปข่มหาเรื่องกวนประสาทพี่มาร์คอีกแล้วหรือคะ” ดรุณนุชถามสามีอย่างขุ่นเคืองเมื่อเห็นสามีสุดหล่อนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ท่าทางสะใจ ดูก็รู้ว่าโทรไปคุยข่มเหมันต์เรื่องที่ตัวเองได้ลูกแฝดชายหญิง ยิ่งดีใจยกใหญ่ และชายหนุ่มก็ขยันโทรไปคุยข่มกันจนบางครั้งอรุณนารีโทรมาบ่นกับเธอบ่อยๆ ว่าเบื่อชายหนุ่มทั้งสองที่ทำตัวเหมือนเด็กโข่งทั้งที่ตัวเองอายุเฉียดๆ สี่สิบเข้าไปแล้ว“โธ่ ฮันนี่จ๋าพี่ริคขาก็แค่ดีใจที่จะได้เห็นหน้าลูกเร็วๆ นี้ จนใจมันร้อนรนทนไม่ไหวจึงได้โทรไปเล่าสู่เพื่อนฝูงฟังไงจ๊ะ” ริคพูดกับเธอด้วยภาษาไทยชัดแจ๋ว และมันเป็นเรื่องที่เธอเพิ่งรู้เมื่อไม่นานมานี้ว่าริคสามารถฟังและพูดภาษาไทยได้ชัดพอสมควร และมันก็ทำให้เธองอนเขาไปหลายวันเช่นกันที่ถูกเขาหลอกและอับอายนักเมื่อนึกได้ว่าเธอแอบว่าเขาไปหลายอย่างเมื่อก่อนนี้ รวมทั้งที่เคยตั้งชื่อให้เขาว่า ริค เวร ด้วย“ไม่ต้องมาโธ่เลย พวกพี่นี่ทำอะไรเป็นเด็กๆ รู้ไหมคะว่ามันไม่น่ารักเลย พี่มาร์คเขาเสียใจนะคะ”“เมื่อก่อนบทที่แมงปอท้องใหม่ๆ พี่ก็เสียใจเหมือนกัน น้อยใจด้วยที่เราแต่งงานมีเมียก่อนดันมาท้องทีหลังเพราะเมียคิดว่าเราไม่รัก”“ค่ะ มัน
ตอนที่ 183.“ก็คงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของโรงพยาบาล แต่พี่มาร์คก็จะทำบุญให้เธอตามประเพณีทางศาสนา” เขาบอกภรรยาด้วยใบหน้าที่แฝงไว้ด้วยความเสียใจ มือหนาจับจูงมือเล็กๆ นั้นเดินเรื่อยๆ ไปตามชายหาดขาวสะอาด ลมทะเลกรุ่นกลิ่นหอมยามบ่ายพัดโชยโลมไล้ผิวกายราวจะพัดพาเอาความทุกข์ร้อนของคนให้ลงทะเลไปเสีย“แมงปอก็เห็นด้วยค่ะ อย่างน้อยๆ เธอก็จะได้ไปสู่สุคติ”“พี่ก็คิดแบบนั้น พี่อยากบอกเธอว่าพี่อโหสิให้เธอทุกอย่างและอยากขอให้เธออโหสิให้กับเราทุกๆ คนด้วย” สองสามีภรรยาเดินมาทรุดนั่งบนโขดหินใหญ่โดยมีเจ้าคอบร้า เจ้าลิลลี่และลูกๆ ของมันวิ่งตามมาเป็นพรวนเหมือนเช่นเคย ดูเหมือนลูกๆ ของเจ้าลิลลี่จะรักและเคารพเจ้าคอบร้ามากกว่าแม่ของมันเสียอีก เพราะไม่ว่าเจ้าคอบร้าจะไปที่ไหนหรือทำอะไร เจ้าไซบีเรียนฮัสกี้น้อยๆ สี่ตัวนี้ก็พร้อมจะตามไปและทำตามอย่างแข็งขัน จนผู้ที่พบเห็นมันต่างก็พากันมองดูพวกมันด้วยความชื่นชมเอ็นดู“เจสซี่ มินนี่ ทอฟฟี รินนี่ มานี่เร็วๆ” อรุณนารีร้องเรียกเจ้าสุนัขน้อยสี่ตัวที่เป็นตัวเมียสองตัว ตัวผู้สองตัว และเธอก็ตั้งชื่อให้พวกมันอย่างคล้องจองกัน แต่ตอนนี้พวกมันพากันตัวโตมากขึ้นเพราะได้รับการเลี้ยง
ตอนที่ 182.“คุณคะ คุณว่าสองคนนั่นจะเป็นไรมากไหมคะ เห็นเด็กๆ บอกว่ายังไม่ลงมาจากห้องตั้งแต่เมื่อวาน คุณแม่บ้านบอกว่าริคสั่งให้เอาอาหารไปให้ที่หน้าห้องแล้วสั่งห้ามไม่ให้ใครขึ้นไปวุ่นวายชั้นบนหากไม่เรียก โธ่คืนนั้นสองคนนั่นดูเหมือนจะแรงทั้งคู่นะคะคุณ ป่านนี้หนูฮันนี่ของฉันจะเป็นไงบ้างก็ไม่รู้” คุณราเชลบ่นกับสามีเบาๆ“โธ่คุณ ถ้าริคสั่งให้เอาอาหารไปให้และไม่ให้ใครไปวุ่นวายก็คงจะหมายความว่าเขาอยากใช้เวลาอยู่กับภรรยาเขาสองคนนั่นแหละ เรารอฟังข่าวดีกันดีกว่า ไม่แน่ป่านนี้หนูฮันนี่อาจจะกำลังมีหลานให้เราแล้วก็ได้” นายใหญ่แห่งคฤหาสน์เวลส์มองหน้ากันด้วยความหวังที่เรืองรองทันทีเวลาผ่านไปจากนาทีเป็นชั่วโมง จากชั่วโมงเป็นวันและผ่านผันเป็นเดือน เมื่อความรักความเข้าใจแทรกซึมในหัวใจที่มีรักและครองสติได้มองทุกอย่างด้วยเหตุและผลที่เหมาะสม ทุกชีวิตก็ย่อมถูกใช้ให้หมดไปในแต่ละวันอย่างมีความสุข อันความทุกข์นั้นเราก็เอาไว้ใกล้ตัวเพื่อจะได้มองเห็นและรู้ทันมันนั่นคือสิ่งที่ผู้มีปัญญาควรไตร่ตรองและคิดได้ แต่หากผู้โง่เขลามองและคิดอย่างไร้เหตุผลหลงผิดตกลงไปในบ่วงร้ายที่ตนเองเป็นผู้สร้างขึ้น ไฟแห่งความหลงผิดนั้นก็