Home / โรแมนติก / หัวใจในตะวัน / บทที่ 9 ยัยตัวยุ่ง

Share

บทที่ 9 ยัยตัวยุ่ง

last update Last Updated: 2025-11-21 21:59:24

ด้านในสวนมะพร้าวดูคึกคักเป็นพิเศษ ตรงปากทางที่คนดูต้นทางสองคน การแข่งขันกันเก็บมะพร้าวว่าใครจะทำได้มากที่สุดในเวลาที่กำหนด จะต้องใช้ต้นที่มีลูกมะพร้าวจำนวนมากและใกล้เคียงกัน เกมนี้จะใช้เวลาแค่สิบนาที เพื่อความปลอดภัย เพราะเผื่อนายหัวมาจะได้หนีกันทัน มันถือเป็นการหาตังค์ที่ใช้เวลาน้อยที่สุดสำหรับพิณตะวัน...สิบนาทีได้ 1000 บาท มันเจ๋งมาก

นั่นคือเงินที่ลงขันกันของผู้เข้าแข่งขัน 10 คน คนละ 100 บาท ใครชนะก็เอาไปใส่กระเป๋าให้อุ่นไปถึงกระดองไต ส่วนกองเชียร์ก็สามารถเล่นพนันกันได้ว่าจะพนันว่าคนไหนจะชนะ แต่ถ้ารอบไหนที่พิณตะวันลงแข่งด้วย จะไม่ค่อยมีใครพนัน เพราะส่วนใหญ่ไอ้ตะวันจะชนะ จึงไม่มีใครยอมแทง แต่ก็มีเหมือนกันที่แกล้งแพ้ เพื่อไม่ให้วงการต้องล้ม ก็ต้องเปลี่ยนกันชนะบ้าง แพ้บ้างตามโอกาส

"เฮ้ย...แน่ใจเหรอลูกพี่ ว่านายหัวจะไม่เข้ามาจ๊ะเอ๋เข้าให้น่ะ"

เสียงไอ้ก้องเอ่ยถาม เวลานี้สมุนต่างก็เรียกลูกพี่จนติดปากตั้งแต่เด็ก

"แน่ใจสิโว้ย...ไม่เข้ามาแถวนี้หรอกเพราะตารางคือต้องไปดูหอยมุก แถมวันนี้จะมีคุณเชอรี่มาจีบ หลังจากเมื่อวานนี้คุณมะปรางมาขายมะปรางหวานทั้งสวน นายคงอิ่มมะปรางแปล้ เมื่อเช้าเห็นไม่ค่อยเจี๊ยะข้าวเท่าไหร่ ฟาดแต่กาแฟดำ คงจะเตรียมท้องไว้ชิมเชอรี่ผลใหญ่ๆ มั่งละเอ็ง"

พิณตะวันเอ่ยกับสมุนอย่างสนุกปาก เห็นพวกผู้หญิงเทียวมารุมทึ้งนายหัวจนเบื่อ

"ว่าแต่ไอ้โก้มันเข้าประจำตำแหน่งหรือยัง"

พิณตะวันเอ่ยถาม เวลานี้ มะพร้าวสิบต้นมีผู้เข้าแข่งขันยืนประจำอยู่เรียบร้อยแล้ว พิณตะวันจะแข่งด้วย เพราะกำลังเก็บสะสมตังค์เอาไว้ซื้อของขวัญวันเกิดให้แม่เดือนหน้า

"เรียบร้อยแล้วล่ะ มันขึ้นไปอยู่บนยอดมะพร้าวคอยดูต้นทาง"

ไอ้ก้องตอบ ต้นทางนั้นห่างจากบริเวณนี้ประมาณสองร้อยเมตร ถ้าหากไอ้โก้เห็นรถมอร์เตอร์ไซค์ของนายหัวก็จะรีบเป่าปากทำสัญญาณหวีดหวิวที่เข้าใจความหมายกันในแก๊ง

บนเกาะแห่งนี้อยู่ห่างไกลแผ่นดินใหญ่มาก โทรศัพท์จะมีเฉพาะที่เรือนใหญ่ บ้านผู้ใหญ่และบ้านครูใหญ่เท่านั้น เป็นโทรศัพท์จากสัญญาณดาวเทียม แต่ผู้คนที่นี่ใช้ชีวิตอยู่กับวิถีธรรมชาติอย่างเรียบง่าย อาหารทั้งผักและเนื้อก็ผลิตกันได้อย่างสบาย จะมีเรือเข้าฝั่งทุกสัปดาห์ และสามารถไปได้ทุกเวลาที่ฉุกเฉินและจำเป็น แถมมีเฮลิคอปเตอร์ของนายหัวอีกด้วย นายหัววิลสามารถบินเองได้

สำหรับน้ำใช้นั้น บนเกาะมีแหล่งน้ำจืดเป็นน้ำตกจากภูเขา และมีการเจาะบาดาลสูบขึ้นพักไว้บนถังใหญ่แล้วปล่อยเป็นประปาไปตามบ้านอย่างเป็นระบบและสะดวกสบาย นายหัวได้จัดให้มีการทำระบบกรองน้ำดื่มที่สะอาดและใช้เพียงพอแก่คนทั้งเกาะ

"เอาล่ะ พี่น้อง วันนี้ฤกษ์งามยามปลอด เราอย่าพูดพล่ามทำเพลงให้เสียเวลา ต่อไปรอบที่หนึ่ง 10 คนแรก รายชื่อตามโผที่ลงสมัคร เวลาสิบนาทีตามเคย ใครได้มากที่สุดเอาไปเลย 1000 บาท เอ้าเตรียมตัวและเตรียมตีนให้พร้อมพี่น้องเอ๊ย! ส่วนใครจะพนันกับเจ้ามือก็เอาเงินใส่ซองพร้อมเขียนชื่อคนที่ท่านแทงและเขียนชื่อตัวเองกำกับตามเคย เอาซองมาใส่ขัน เอ้า เร่เข้ามาๆ"

เสียงหัวหน้าคณะเสี่ยงภัยประกาศเปิดงานและเรียกแขกกลางดงมะพร้าว ผู้คนก็ส่งเสียงเฮ และเชียร์กันใหญ่ ผู้เข้าแข่งขันก็รีบหันหน้าเข้าหาต้นมะพร้าว คนเอาซองขาวมาใส่ขันกันพรึ่บๆ ไอ้แหลมเป็นคนคอยดูแลอย่างใกล้ชิดข้างๆ หัวหน้าแก๊ง

"เอ้า เรียบร้อยแล้ว ข้าจะนับแล้วนะโว้ย หนึ่ง...สอง...ซั่ม! ไป!"

สิ้นเสียงสัญญาณ คณะลิงปีนมะพร้าวก็รีบปีนพะองขึ้นอย่างรวดเร็วและชำนาญ เสียงเฮดังลั่นไม่ขาดระยะ ลูกมะพร้าวหล่นตุ๊บตั๊บๆ กองเชียร์ยืนอยู่ในรัศมีที่ปลอดภัยอย่างรู้ดี

ปี๊ดดดดดดด....

เสียงเป่าปากหมดเวลาดังขึ้น เหล่าคณะกรรมการก็รีบกรูไปยังใต้ต้นมะพร้าวพร้อมกระดาษกับดินสอ มีกรรมการประจำต้นละสองคนคอยจับตาดูถ้าหากมีมะพร้าวกลิ้งไปไกลหรือไปในเขตของอีกคนก็จะรีบโยนกลับไปใต้ต้นให้ คณะผู้เข้าแข่งขันปีนลงมาด้วยความตื่นเต้น รอลุ้นว่าตนจะได้ฟาดตังค์แบงค์พันหรือไม่

"กรรมการส่งผลการนับมา เร็วๆ เข้า จะได้เวลาสำหรับรอบต่อไปแล้ว วันนี้วันเสาร์สากล เป็นวันมหามงคลยิ่ง ใครโชคดีชนะ อย่าลืมไปเซ่นเจ้าแม่ศรีมหาพร้าวด้วย"

เสียงหัวหน้าคณะเสี่ยงภัยแจ้งเตือนตามหน้าที่ เห็นว่า เจ้าแม่ศรีมหาพร้าว เป็นญาติห่างๆ กับเจ้าแม่ศรีมหาโพธิ์ ท่านมีหน้าที่ดูแลสวนมะพร้าว เลยได้ฉายานามว่า เจ้าแม่ศรีมหาพร้าว...

"รอบนี้ท่านเจ้าแม่ท่านโปรดอะไรวะไอ้ตะวัน"

เสียงใครคนหนึ่งตะโกนถาม เพราะคิดว่าเผื่อตัวเองชนะจะได้ซื้อได้ถูก เพราะเวลามีการแข่งขันแต่ละรอบ หัวหน้าแก๊งผู้ทำหน้าที่เป็นสื่อวิญญาณด้วยก็จะเข้าทรงถาม และเจ้าแม่ก็จะโปรดไม่ซ้ำกัน...

"อ้อ...ขอเวลาข้าส่งสัญญาณไปกราบถามท่านสักแปร๊บ!"

ว่าแล้วผู้เป็นสื่อกลางก็หลับตาลงแล้วทำปากขมุบขมิบท่องคาถา...

"โอม...มะอึก มะโอ มะโหไม่ดี โอม เจ้าแม่ศรีมหาพร้าวเอ๊ย วันนี้โปรดอะไรจ๊ะ..."

เสียงผู้สื่อสารถาม แล้วก็ทำท่าเอียงหูฟัง เหมือนกับว่าเจ้าแม่กำลังมากระซิบอยู่ใกล้รูหู!

"อ้อ...รอบที่ 1 ผู้ชนะให้ถวายเลย์รสมันฝรั่งแท้ห้าถุงพร้อมกับนมจืดหนึ่งแพ็ค!"

ผู้เป็นสื่อวิญญาณประกาศเสียงดัง ซึ่งเป็นประเพณีที่จะต้องทำกันทุกครั้งอย่างเคร่งครัด ถ้าหากใครต้องการจะมีโชคในครั้งต่อไป!

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หัวใจในตะวัน   บทที่ 48 บัณฑิตหมาดๆ

    "เฮ้ย...ร้องไห้ทำไมกัน ไม่เอา... ห้ามร้อง ตะวันไม่ใช่คนอ่อนแอและร้องไห้ง่ายสักหน่อย...หยุดร้องเดี๋ยวนี้เลย"เขาทั้งปลอบและทั้งสั่ง...แต่ร่างบางก็ร้องไห้สะอึกสะอื้นไม่ยอมหยุด ชายหนุ่มชักเริ่มใจไม่ดี ไม่อยากเห็นน้ำตาของยัยตัวดี เขาล้มตัวลงไปนอน ดึงร่างบางให้นอนซบหน้าอก ลูบแผ่นหลังบางเบาๆ"ไม่เอาน่า...หยุดร้องก่อน...คืนนี้จะเลี้ยงฉลองความสำเร็จของตะวัน แล้วมาร้องไห้แบบนี้ ตาบวม หมดสวยกันพอดี"เขาแกล้งแหย่"ไม่อยากสวย! ฮือๆ "คนไม่อยากสวยส่งเสียงโต้ตอบ กอดเอวเขาไว้แน่นแล้วก็ร้องไห้จนเสื้อเขาเปียก"เอาล่ะ...หยุดร้องก่อน... นะ""ตะวันมะโห! ฮือๆ และก็น้อยใจด้วย! นายหัวจะใจร้ายกับตะวันไปถึงไหน"เสียงสะอื้นเอ่ยตัดพ้อต่อว่า"มะโห แต่ไม่ร้องได้ไหม ฉันไม่ชอบเห็นน้ำตาของตะวัน"เสียงห้าวเอ่ยแล้ว ผลักร่างบางให้นอนหงายไปกับที่นอน จากนั้นก็ค่อยใช้ปลายนิ้วเช็ดน้ำตาให้อย่างอ่อนโยน พิณตะวันร้องไห้จนพอใจก็หยุด... นอนซุกหน้ากับอกกว้าง รู้สึกอบอุ่นในหัวใจที่ได้อยู่กับเขาอีกครั้ง..."หายมะโหหรือยังหือ..." เขาแกล้งถาม พลางก้มไปหอมแก้มที่เปียกด้วยน้ำตา พิณตะวันค้อนคว่ำให้เขา"ตบหัวแล้วลูบหลังเหรอ...จะมะโหต่อถ้

  • หัวใจในตะวัน   บทที่ 47 บัณฑิตหมาดๆ

    ****พิณตะวันจัดการเก็บข้าวของที่คอนโด คุยกับวายุแล้วว่าจะย้ายออก ของใช้ส่วนตัวก็ไม่มีอะไรมาก วายุจึงให้ขนไปไว้ที่บ้านอิสรีพัฒน์ แล้วก็คืนคอนโดไปไอลวิลเดินทางมาถึงบ้านที่กรุงเทพฯ ในเวลาบ่ายคล้อย ร่างเพรียวระหงนั่งรออยู่แล้วที่สวนหย่อมหลังบ้าน พอเฮลิคอปเตอร์ลงจอด เจ้าหล่อนก็ลุกขึ้นยืนทำหน้าตื่นเต้น เมื่อไอลวิลลงจากเครื่อง ร่างเพรียวก็วิ่งเข้าไปหาทันทีจนเขาแทบจะเปิดอ้อมแขนกางรับไม่ทัน เจ้าตัวโผเข้ากอดอย่างเต็มที่และเต็มแรง โดยไม่กลัวว่าจะพากันล้ม เขาต้องตั้งหลักยืนให้มั่น"เบาๆ หน่อย จะพากันล้มกลิ้งเอา"เสียงห้าวเอ่ย รู้สึกขำที่เวลาผ่านไปสี่ปี คนในอ้อมแขนอายุย่างยี่สิบสองปีแล้ว แต่กับเขาก็ยังคงทำตัวเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง..."ดีใจที่สุด ตะวันรอนายหัวมาสองวันเต็มๆ ตะวันขนของจากคอนโดมาไว้ที่นี่หมดแล้ว ของไม่มีแยะหรอก แค่สองกระเป๋าเอง คุณท่านจัดห้องให้ตะวันห้องหนึ่ง อยู่ติดกะห้องของนายหัวด้วยล่ะ"เสียงแจ๋วเอ่ยรายงานยาวเหยียด...เงยหน้าขึ้นยิ้มกระจ่าง ใบหน้านวลปลั่งมีสีเรื่อด้วยเลือดฝาดแห่งวัยสาว ดวงตาคู่กลมโตเปล่งประกายวาวระยับเต็มไปด้วยความสุข"ตะวันช่วยแม่ครัวเตรียมอาหารสำหรับคืนน

  • หัวใจในตะวัน   บทที่ 46 บัณฑิตหมาดๆ

    เจ้าของวันเกิดกำลังยืนหลับตาอธิษฐานเสียงดัง"ขอให้นายหัวมีสุขภาพกายและใจแข็งแรง ขอให้นายหัวมีความสุขมากๆ ขอให้พระคุ้มครองให้นายหัวปลอดภัย ขอให้นายหัวจงเจริญยิ่งๆ ขึ้นไป สาธุ๊..."เสียงแจ๋วเอ่ยขอพร"อ้าว แล้วกัน วันเกิดเรา ก็ขอให้ตัวเองสิ มาขอให้ฉันทำไม"เสียงห้าวเอ่ยทักท้วงอย่างรู้สึกขำเจ้าหล่อน"ก็นั่นแหละเป็นสิ่งที่ตะวันต้องการที่สุดสำหรับวันเกิด ถ้านายหัวมีความสุขและสุขภาพดี ตะวันก็มีความสุขยิ่งกว่าไง"คนอธิษฐานเอ่ยโต้ตอบบอกเหตุผล ไอลวิลจึงพยักหน้ายอมๆ ให้ทำตามอำเภอใจ จากนั้นเจ้าตัวก็เป่าเทียนวันเกิดที่ปักอยู่เพียงเล่มเดียวตรงกลางเค้ก มือบางจัดการตัดเค้กแล้วใส่จานเดียวกับช้อนสองคัน นั่งกินด้วยกันที่โซฟา เปิดทีวีรายการการ์ตูนคลอเป็นแบ็กไปด้วยไอลวิลมองดูคนที่กินเค้กจนพุงกาง แถมเจ้าหล่อนยังคะยั้นคะยอบังคับเขา พอเขาหยุดตักกิน ก็ลงมือป้อนให้ถึงปาก ไอลวิลรู้ทันเจ้าตัวดีที่ทำท่ากินช้าลงอย่างเห็นได้ชัด"ถ้าอิ่มแล้ว ก็เก็บไว้ในตู้เย็นดีไหม ไม่ต้องฝืนหรอกมั้ง" เขาเอ่ยอย่างรู้ทัน คนอิ่มทำหน้ายิ้มแหยให้"ก็ตะวันกลัวนายหัวเสียน้ำใจนี่นา"เจ้าตัวพูดเสียงอ่อย เพราะเมื่อครู่ก่อนได้ประกาศปาวๆ ว่าจ

  • หัวใจในตะวัน   บทที่ 45 My Sunshine...

    พิณตะวันหันไปมองลริณา"เอาไงดีริณา...จะให้คุณวาไปส่งไหม คุณแม่ของริณาจะว่าหรือเปล่าที่มีหนุ่มไปส่งแบบนี้"พิณตะวันเอ่ยอย่างที่ไม่ได้คิดอะไร แต่ทำให้ลริณาหน้าแดง และวายุก็เลิกคิ้วสูงกับคำพูดของเจ้าหล่อน"เอ่อ...ไม่เป็นไรค่ะ คุณแม่รู้จักพี่ตะวันนี่คะ"สาวน้อยเอ่ยตอบน้ำเสียงอ่อน วายุไม่เข้าใจว่าเด็กสองคนนี้มาคบหาเป็นเพื่อนกันได้อย่างไร คนหนึ่งห้าวสุดห้าว กล้าแกร่งก็ปานนั้น อีกคนก็หวานสุดหวานและเรียบร้อยสุดบรรยายแบบนี้"แต่พี่เพิ่งเคยเห็นท่านครั้งเดียวและคุยโทรศัพท์ด้วยหนหนึ่ง ก็เท่านั้นเอง แต่ก็ลองไปดู ไปเลยๆ คุณวา"คนกลางตัดสินใจทันที คนขับรถก็ทำตามโดยมีคนที่นั่งเบาะหลังเป็นคนบอกทาง วายุเอาที่อยู่ใส่ใน GPS ให้ช่วยบอกทางให้ จากนั้นก็ขับรถไปยังบ้านของลริณาคฤหาสน์หลังใหญ่มีบริเวณกว้างขวาง สมกับเป็นครอบครัวที่ทำเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ จากประตูรั้วต้องขับรถเข้าไปอีกประมาณร้อยเมตรเลยทีเดียว"อยู่กันกี่คนนี่ริณา"พิณตะวันถามสาวน้อย แต่ไม่ได้ทำตาโต เพราะพิณตะวันเห็นบ้านอิสรีพัฒน์จนชินซึ่งก็ใหญ่โตพอกัน แต่ที่สำคัญพิณตะวันไม่ตาโตกับสมบัติของใคร บ้านของพิณตะวันที่เกาะคือสวรรค์ที่สุดแล้วสำหรับพิณ

  • หัวใจในตะวัน   บทที่ 44 My Sunshine...

    "หือ..."ทำเอาคนฟังต้องนิ่งชะงักไม่แน่ใจว่าเจ้าหล่อนหมายถึงอะไร"อยากเห็นนาย ... ความจริงตะวันก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรกับวันเกิดหรอกนะ นายหัวไม่ต้องเข้ามาวันเกิดก็ได้ เพราะมันตั้งสิ้นปีโน่นแน่ะ นายหัวยกยอดมาอาทิตย์หน้าก็ได้ ตะวันไม่ถือหรอก ฉลองวันเกิดล่วงหน้าไง"คนอยากเจอเอ่ยโน้มน้าว ไอลวิลยิ้มขำ"ก็ถ้าว่าง จะเข้าไป ช่วงนี้ต้องอยู่เกาะ ตอนนี้ไม่เหมือนตอนที่ตะวันอยู่ มันมีคนแปลกถิ่นและแปลกหน้าเข้ามา พวกต่างชาติ เพื่อนบ้านไทยนี่แหละ แอบเข้ามาป้วนเปี้ยน เราเลยต้องวางเวรยามที่เกาะรังนกทุกเกาะของเรา"เขาเอ่ยเล่าความเป็นไปให้เจ้าของเกาะตัวจริงฟังนิดหนึ่ง"จริงเหรอ...ตะวันอยากกลับไปช่วยนายเร็วๆ มาเรียนทำไมก็ไม่รู้ ไม่เห็นมีประโยชน์เลย ถ้าตะวันอยู่ที่โน่นกับนายคงจะมีประโยชน์กว่านี้"เจ้าตัวดีได้โอกาสก็บ่นใส่ทันที"งานพวกดูแลเกาะ ให้พวกผู้ชายเขาทำ เราเรียนบัญชีก็ดีแล้ว ต่อไปจะได้ช่วยวายุที่สำนักงานใหญ่ นั่นก็เป็นงานสำคัญ""แต่ตะวันอยากช่วยนายมากกว่านะ...อะไรกัน ไหนว่าเรียนจบแล้วจะให้กลับไงเล่า"น้ำเสียงเริ่มขุ่นและงอน"ฉันแค่เกริ่นให้ฟัง จบแล้วค่อยว่ากันอีกทีว่าตะวันอยากจะอยู่ไหนและทำอะไร คิดว่าอยากจ

  • หัวใจในตะวัน   บทที่ 43 My Sunshine...

    การเรียนเป็นไปอย่างราบรื่นและเรียบร้อย พิณตะวันเป็นคนที่ถ้าหากตั้งใจจะทำสิ่งใดแล้วก็จะมีความมุ่งมั่นพยายามและไม่ไขว้เขวกับสิ่งยั่วยุ สภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยสิ่งล่อหลอกให้คนในวัยศึกษาเล่าเรียนเป๋มีมากมายในเมืองกรุง แต่พิณตะวันไม่เคยเป๋เหมือนเด็กในวัยเดียวกันอีกหลายคนผู้ที่ไม่มีจุดยืนและไม่มีเป้าหมายที่แน่นอนในชีวิตนั้น สามารถตกเป็นเหยื่อของสังคมแห่งวัตถุนิยมได้ง่ายๆ ดังนั้นพิณตะวันจึงรู้สึกขอบคุณบิดามารดาและสิ่งแวดล้อมที่ทำให้พิณตะวันได้รู้จักโลกที่เป็นธรรมชาติของชีวิตที่แท้จริง ไม่ใช่โลกจอมปลอมของมหานครกรุงเทพฯ ที่เต็มไปด้วยสิ่งล่อใจว่าสวยงาม แต่เบื้องหลังเบื้องลึกนั้นกลับสกปรกโสมมสำหรับพิณตะวันแล้ว ถ้าให้เปรียบเทียบกรุงเทพฯ เป็นผู้หญิง เมืองฟ้าอมรแห่งนี้ก็เปรียบเสมือนหญิงสาวที่ไม่ได้อาบน้ำ แต่พยายามห่อหุ้มร่างด้วยเสื้อผ้าสวยงามและฉีดพรมน้ำหอมเพื่อดับกลิ่นอย่างเต็มที่ แต่งหน้าแต่งตัวเริดหรูอลังการ ทำให้คนที่ไม่รู้เบื้องลึกหลงคิดว่าสวยงามและหอมหวนทวนลมเสียเหลือทน แต่ความจริง ถ้าเปลื้องผ้าออกจะรู้ว่าร่างนั้นเหม็นสางสกปรกและหมักหมมด้วยเชื้อโรคแค่ไหน... ดังนั้นคนอย่างพิณตะวันไม่ยอมหลงเ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status