LOGINหมอลี่จู ส่งจูบให้จางจิ้งก่อนจะเดินออกจากห้องไป จางจิ้งได้แต่ขำกับท่าทีของลี่จู เธอเป็นผู้หญิงน่ารักและใจดี เสียก็แต่เขาไม่ได้ชอบเธอ จางจิ้งเดินกลับไปยืนข้างเตียงของฟางเฟย แค่คืนกับวัน ตอนนี้สีหน้าของฟางเฟยดูดีขึ้นจริง ๆ หวังว่าเธอในอีกช่วงเวลาคงปลอดภัย จางจิ้งกุมมือของหญิงสาวเอาไว้ ส่งพลังไปถึงฟางเฟย รีบกลับมานะพี่รออยู่
เสียงหัวเราะเฮฮาดังออกมาจากห้องพักฟื้นบนแดนสวรรค์ เกาฟางเฟยเล่าเรื่องมากมายบนโลกมนุษย์ ณ เวลาปัจจุบันให้กับ ซื่อเว่ยต้าตี้ กุ้ยอ้ายป๋อเฉิง และมู่ตัน ฟัง ชายหนุ่มทั้งสองเล่นหมากไปดื่มน้ำชาไป และกินขนมปังกรอบที่เธอเอาติดตัวมา ฟังเรื่องต่าง ๆ ที่เธอเล่า ประหนึ่งฟังนิทานหลอกเด็ก เจ้าเด็กน้อยก็พลอยหัวเราะชอบใจไปด้วย
“นี่อะไรกัน พวกเจ้าเป็นถึงเทพระดับสูง มานั่งจับกลุ่มส่งเสียงดังอะไรกัน พวกเจ้านะ พวกเจ้า เห็นสถานพยาบาลของข้าเป็นบ้านของพวกเจ้ากันรึไง”
เทพไท่ไป๋จิงซิง ยืนเท้าเอวบ่นพวกเขา ซื่อเว่ยต้าตี้ถึงกับหัวเราะกับท่าทางของท่านเทพอาวุธโส
“เกาฟางเฟย ซื่อเว่ยต้าตี้ ข้ากับมู่ตันกลับก่อนดีกว่า ตาเฒ่าอารมณ์เสียแล้ว ข้าเพิ่งก่อเรื่องจากตำหนักสวรรค์มาหมาด ๆ จะมาโดนเรื่องนี้อีก คงไม่ใช่เรื่องดี ตาหนูมาหาพ่อ เรากลับบ้านกันนะ พ่อมีตุ๊กตาไม้ให้เจ้าเล่นทั้งวันเลย”
“ได้ ๆ ถ้าผ่านไปข้าจะไปแวะหาพวกท่าน”
กุ้ยอ้ายป๋อเฉิงและมู่ตันทำความเคารพท่านเทพไท่ไป่จิงซิง แล้วเดินหายไปในอากาศ
“เหลือเจ้าสองคนแล้ว เกาฟางเฟย แม่หนูผู้นี้ดูเจ้าจะฟื้นตัวเร็วดีนี่ เป็นแค่มนุษย์เหตุใดถึงดูพิเศษยิ่งนัก”
ไท่ไป๋จิงซิงจับชีพจรของหญิงสาว แล้วถึงกับอ้างปากค้างตาโต
“เป็นไปไม่ได้ แม่หนูฟางเฟยทำไมถึงมีพลังเทพ ตอนบาดเจ็บมาแค่พลังชีพมนุษย์ยังแทบไม่เหลือ แต่ตอนนี้มีพลังเทพเป็นไปไม่ได้ แม้มีไม่มากก็ไม่ควรเป็นไปได้” ไท่ไป๋จิงซิงรีบวิ่งหน้าตาตื่นออกไป
เกาฟางเฟยกับซื่อเว่ยต้าตี้ต่างมองหน้ากันด้วยความสงสัย
“ซื่อเว่ยต้าตี้ ปกติเทพมีพลังกันกี่ระดับขั้น แต่ล่ะขั้นต่างกันอย่างไง”
“มี 12 ขั้น ถ้าเจ้ามีตามที่ท่านผู้เฒ่ากล่าว นี่คือจุดเริ่มต้น ที่ว่าน่าแปลก เพราะเจ้าไม่ได้ฝึกฝนอะไรเลย จะมีพลังแบบนั้นได้อย่างไร แม้แต่ข้า และเหล่าเทพปัญจธาตุ ยังต้องฝึกฝนกันอยู่นาน แม้เราจะมีติดตัวกันมาตั้งแต่จุติก็ตาม ต้องมีตัวยาบางอย่างที่เจ้ากินเข้าไป ทำให้พลังของเจ้าเปลี่ยนไป ท่านเทพไท่ไป๋จิงซิง คงกลับไปตรวจดูตัวยาที่ให้เจ้ากิน”
ซื่อเว่ยต้าตี้ประคองเกาฟางเฟย ไปที่ห้องปรุงยาของท่านไท่ไป๋จิงซิง ที่ดูจะกำลังวุ่นวายกับการตรวจสอบสูตรยาที่ใช้รักษา ฟางเฟยมองดูหม้อปรุงยาหลายใบ ที่กำลังเคี้ยวสมุนไพรจนกลิ่นคละคลุ้งไปทั่วหอปรุงยา เทพไท่ไป๋จิงซิง มีเทพบริวารและเซียนรับใช้จำนวนมาก ที่นี่คงเปรียบได้กับโรงพยาบาลของแดนสวรรค์
“เจอแล้ว ๆ เห็ดหลินจื่อ พระราชทานจากองค์ฮั่นยุหวี่ นี่เป็นเห็ดหลินจือที่ไม่เหมือนเห็ดปกติที่เราใช้กัน เหล่าลูกศิษย์แพทย์สวรรค์ ต่างเข้าไปมุงดู เห็ดหลินจือต้นเหตุที่ถูกหันจนแหว่ง เพื่อใช้เข้าเครื่องยา มันน่าจะเป็นเห็ดหลินจือวิเศษ ที่ท่านฮั่นยุหวี่เก็บเอาไว้ ถึงขั้นเพิ่มพลังให้แก่นดวงจิตได้ วิเศษจริง ๆ”
ซื่อเว่ยต้าตี้แอบเห็น เทพผู้เฒ่ากำลังแอบหยิบเห็ดหลินจือที่เหลือ ใส่ในเสื้อของตนเอง ระหว่างที่เหล่าศิษย์แพทย์สวรรค์กำลังมุงพินิจพิเคราะห์ ชิ้นเห็ดหลินจืออยู่อีกมุมห้อง เทพเจ้าหนุ่มหายตัว โผล่ไปจับมือเทพผู้เฒ่าไท่ไป๋จิงซิง แบบคาหนังคาเขา
“ท่านไท่ไป๋จิงซิง เห็ดนี้เสด็จพ่อพระราชทานให้แก่เกาฟางเฟย ท่านจะแอบจิ๊กอีกแล้วเหรอ สมุนไพรเร่งเจริญครรภ์ท่านก็ได้ไปแล้ว ยังจะเอาเห็ดของนางอีก ท่านนี่นะเหลือเกินจริง ๆ”
"จุ๊ ๆ เงียบน่าท่านซื่อเว่ยต้าตี้ อย่าให้เด็ก ๆ มันได้ยิน ข้าจะดูไม่ดี"
“ท่านรู้ตัวด้วยรึ ส่งเห็ดคืนมา แล้วก็จัดยาของนางมาด้วย ข้าจะกลับแดนห้วงเวหา ดวงดาราน้อยใหญ่คิดถึงข้าใจจะขาดอยู่แล้ว”
“ใครให้ท่านกลับแดนห้วงเวหากัน” เสียงผู้หญิงดังมาจากหน้าประตู
ภายในห้องผู้ป่วย เกาจางจิ้ง นั่งมองร่างฟางเฟยที่ยังคงนอนนิ่งสงบ อุปกรณ์ที่เคยพ่วงระโยงระยาง ถูกถอดออกหมดแล้ว เหลือแต่น้ำเกลือที่ยังต้องให้อยู่ ทุกอย่างดีขึ้นเหลือแต่รอเธอตื่นขึ้นมาเท่านั้นเอง หมอหมิงลี่จูยื่นกล่องนมให้ชายหนุ่ม “นายน้อยเกา คุณมาเฝ้าเธอแบบนี้ไม่มีประโยชน์เลย ตอนนี้ร่างกายเธอไม่มีอะไรน่าห่วงแล้ว อีกไม่นานเธอจะฟื้น คุณควรไปทำอย่างอื่นบ้างนะ” จางจิ้งรับกล่องนมจากคุณหมอลี่จูมาลงบนโต๊ะแพทย์หญิงหมิงลี่จู เข้ามาดูอาการเกาฟางเฟย เห็นชายหนุ่มที่เธอหลงรัก เอาแต่นั่งอยู่แบบนี้ รู้สึกขัดตา “งานของผมคือ ดูแลเธอ ฟางเฟยไม่ยอมตื่นเท่ากับยังไม่ดีขึ้น คุณเป็นหมอพูดตามอาการ สำหรับผมไม่ใช่ คุณมีวิธีทำให้เธอตื่นได้ไหม ถ้าทำได้นอกจากกินข้าวผมแถมดูหนังด้วยหนึ่งเรื่อง”“ยากจัง แต่ข้อเสนอน่าสนใจมาก ฉันอยากกินข้าว ดูหนัง ฟังเพลงกับคุณจะตายอยู่แล้ว แต่ถ้าไปสภาพนี้ก็ไม่ไหวนะ ฉันชอบเกาจางจิ้งที่ดูดุ ๆ เถื่อน ๆ เป็นแบบตอนนี้ ฉันหนีบหมอในโรงพยาบาลไปก็ได้ ส่วนอาการของน้องฟางเฟย เรื่องแบบนี้มันก็ต้องรอเวลา คุณจะให้ฉันทำให้เธอตื่น ฉันทำไม่ได้หรอก เกาจางจิ้งคุณลองคุยกับเธอสิ ถ้าเธอได้ยินเสียงคุณ เธอน่
“อะไรคือมาร ท่านก็ดูรูปงามดวงตาสีฟ้าอมเขียวก็มีเฉพาะเวลาโกรธ ก็ไม่น่าจะเห็นว่าเป็นมาร อะไรคือมาร”“ข้ามีทุกอย่างที่ดูเป็นเทพใช่รึไม่ แต่มีอยู่สิ่งหนึ่งสาวงาม ที่เจ้ายังไม่รู้” ซื่อเว่ยต้าตี้ทำหน้าดุแววตาเริ่มเปลี่ยนเป็นแข็งกระด้างน่าหวาดกลัว เขาค่อย ๆ เดินเข้าหาเธอจนประชิด ฟางเฟยถอยหลังจนไปติดราวระเบียง ที่กั้นระหว่างทางเดินกับสระบัว ซื่อเว่ยต้าตี้รีบโอบเอวดึงร่างบางมาชิดตัว “กลัวข้ารึไม่” ฟางเฟยกรีดร้องรีีบผลักเขาออก แต่ซื่อเว่ยต้าตี้กลับหัวเราะชอบใจ เทพรับใช้ที่เดินผ่าน เผลอตัวเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มหญิงสาวที่หยอกล้อกันถึงเนื้อถึงตัว“มองอันใด หรือพวกเจ้าอยากต้องโทษ”“มิบังอาจเจ้าค่ะ เพียงแต่มีผู้คนมากมายล่ำลือ ว่าหญิงมนุษย์ของท่านซื่อเว่ยต้าตี้งดงามนัก พวกข้าแค่อยากเห็นนาง แต่ไม่คิดว่าจะเห็นเอ่อ…อย่างอื่น” ซื่อเว่ยต้าตี้ดึงมือฟางเฟยมายืนต่อหน้าพวกนางกำนันสาวสวรรค์“เงยหน้าขึ้น เงยหน้าดูนางให้เต็มตาแล้วต่อไปจะได้ไม่ต้องมาแอบมองกันอีก” เทพรับใช่ค่อย ๆ เงยหน้าดูฟางเฟยซื่อเว่ยต้าตี้ฉวยโอกาส หอมแก้มหญิงสาวต่อหน้าธารกำนัน ทุกคนได้แน่อ้าปากค้าง รวมทั้งฟางเฟยที่ยืนตัวชาทำอะไรไม่ถูก ถึงเธอจ
“ลูกเข้าใจแล้ว ก่อนหน้านี้ลูกคิดผิดมาตลอด แต่ตอนนี้เข้าใจหมดแล้ว ต่อจากนี้ลูกจะตั้งใจและไตร่ตรองให้มากขึ้น จะไม่ให้นางต้องได้รับบาดเจ็บเช่นนี้อีก”“เกาฟางเฟย ต่อจากนี้เจ้าต้องฝึกตน ผู้ถือคันฉ่องไม่ใช่ทุกคนจะได้ทำหน้าที่พิเศษ ชะตาของเจ้ากับสวรรค์ผูกติดกัน ไม่ว่าในใจเจ้าต้องการคำตอบอะไร เจ้าก็หลีกหนีมันไม่พ้น”“ท่านเทพเจ้าฮั่นยุหวี่ ข้ามีคำถาม ท่านช่วยบอกได้หรือไม่ ความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลเกากับสวรรค์คืออะไร”องค์ฮั่นยุหวี่ มองใบหน้างดงามของฟางเฟย แล้วยิ้มละมุน“นานมาแล้ว บนพื้นดินแห้งแล้ง ผู้คนทุกข์ยากลำบากยากเข็ญ ความช่วยเหลือใด ๆ ก็เข้าไม่ถึง ตระกูลผู้นำทำพิธีบวงสรวงขอต่อฟ้าดิน ในเมื่อขอต่อคนไม่สำเร็จสวรรค์เท่านั้นที่จะเป็นที่พึ่งพิง มาถึงตรงนี้เจ้าคงสงสัย ผู้คนมากมายขอพร ทำไมพรที่สวรรค์ให้แก่มนุษย์จึงต่างกัน แน่นอนเพราะคนที่ทำพิธีขอในตอนนั้น มีความสำคัญต่อสวรรค์ พรของสกุลเกาจึงพิเศษกว่าใคร แต่ไม่มีอะไรได้มาง่ายดาย ในเวลานั้นสวรรค์เอง ก็เพิ่งจบสงครามการฟื้นฟูก็ต้องทำพรก็ต้องให้ การแลกเปลี่ยนจึงถูกกำหนดนับแต่นั้นมา ไม่ใช่ทายาทคันฉ่องทองแดงทุกคนจะต้องทำคุณทดแทน มีแค่บางคนเท่านั้นที่มี
ซื่อเว่ยต้าตี้ผู้แข็งแกร่งอุ้มฟางเฟยเดินมาตลอดทาง ตั้งแต่ตำหนักหอยาไท่ไป๋จิงซิง จนถึงตำหนักสวรรค์ที่ใหญ่โตวิจิตรงดงาม เขาวางฟางเฟยลงหน้าตำหนักใหญ่ เสียงทหารองครักค์สวรรค์กล่าวรายงาน เสียงดังก้องกังวานจนฟางเฟยรู้สึกขนลุก“องค์ชายซื่อเว่ยต้าตี้ เทพเจ้าดวงดาราห้วงเวหา ขอเข้าพบพระเจ้าขา”“เข้ามา” เสียงองค์ฮั่นยุหวี่ทรงอำนาจและบารมี ดังสะท้อนทั่วห้องโถงใหญ่ซื่อเว่ยต้าตี้ กระซิบกับฟางเฟย อย่างแผ่วเบา“เจ้ากำลังจะอยู่ต่อหน้า องค์ฮั่นยุหวี่ เดี๋ยวทำความเคารพตามข้านะ ไม่ใช่ทำเหมือนเวลาเจ้าอยู่หน้าศาลเจ้า นั่นมันธรรมเนียมที่มนุษย์คิดกันเอง” ฟางเฟยทำตาโตหันไปมองเขา แต่ซื่อเว่ยต้าตี้ก้าวเท้าเข้าไปในห้องโถงแล้ว นี่เขาเห็นเธอมาตลอดงั้นเหรอ ซื่อเว่ยต้าตี้รู้ได้อย่างไงว่าอยู่หน้าศาลเจ้าเธอทำความเคารพแบบไหน ฟางเฟยรีบเดินตามซื่อเว่ยต้าตี้เข้าไปด้านใน องค์ฮั่นยุหวี่ประมุขสวรรค์ ไม่ได้ใช้ชีวิตหรูหราแบบที่เธอคิดหรือที่เห็นในหนังเลย องค์ฮั่นยุหวี่อยู่ในชุดสีขาว ที่มีเสื้อตัวนอกที่เป็นสีเหลืองนวลตา ตัดเย็บจากผ้าไหมเนื้อดีแต่เรียบง่าย นั่งคัดตำราอยู่หน้าโต๊ะไม้ที่วางติดพื้น ดูเป็นผู้ใหญ่ใจดีที่สุขุมเยือกเย
ฟางเฟยและทุกคนหันไปมองต้นเสียงที่มาถึง เทพธิดารูปโฉมงดงามนางหนึ่งพร้อมเทพธิดารับใช้ ใบหน้ายิ้มสดใสทอดสายตาไปที่ซือเว่ยต้าตี้ “นาน ๆ ทีท่านจะกลับมาแดนสวรรค์ ไม่คิดกลับตำหนักซื่อเว่ย ไปเข้าเฝ้าองค์ฮั่นยูหวี่ ก็จะกลับแดนห้วงเวหา ดูจะไม่ค่อยเหมาะสมนะ”“ข้ากำลังพานางไปเข้าเฝ้า แล้วจะกลับห้วงเวหา ไม่คิดจะพักที่นี่ ข้าทิ้งงานมาหลายวัน ข้าไม่อย่าต้องโทษมีความผิดใด ๆ ทั้งสิ้น”“ช่างใจร้ายนัก ท่านไม่คิดถึงข้าบางเลยรึ แดนห้วงเวหาท่านก็ปิดผนึกเอาไว้ ไม่ว่าผู้ใดก็เข้าออกมิได้ ข้าไปหาหลายหน ทหารยามก็ปฏิเสธทุกครั้ง จะฝ่าผนึกพลังเวทย์ก็ทำมิได้ ท่านจะหลบหน้าข้าแบบนี้ตลอดไปเช่นนั้นรึ”เทพเจ้าหนุ่มทำเป็นหูทวนลมไม่ได้ยินสิ่งที่นางพูด "ท่านเทพไท่ไป๋จิงซิง รบกวนจัดยาให้นางแล้วให้คนไปส่งให้ข้าด้วย” ซื่อเว่ยต้าตี้หยิบชิ้นเห็ดหลินจือ ส่งให้เทพผู้เฒ่าหนึ่งชิ้น เป็นสินน้ำใจ แล้วเขาก็รีบเดินมาประคองฟางเฟย เพื่อเดินออกจากห้องปรุงยา แต่ก็ถูกเทพธิดาบริวารของนางผู้มาเยือนขวางไว้“บังอาจ” ซื่อเว้ยต้าตี้ตวาดใส่พวกนาง “พวกเจ้าเป็นแค่สาวใช้ อย่ากำเริบกับข้า”พวกนางได้แต่ก้มศีรษะตัวสั้นด้วยความหวาดกลัว“ซื่อเว่ยต้าตี้ ท่
หมอลี่จู ส่งจูบให้จางจิ้งก่อนจะเดินออกจากห้องไป จางจิ้งได้แต่ขำกับท่าทีของลี่จู เธอเป็นผู้หญิงน่ารักและใจดี เสียก็แต่เขาไม่ได้ชอบเธอ จางจิ้งเดินกลับไปยืนข้างเตียงของฟางเฟย แค่คืนกับวัน ตอนนี้สีหน้าของฟางเฟยดูดีขึ้นจริง ๆ หวังว่าเธอในอีกช่วงเวลาคงปลอดภัย จางจิ้งกุมมือของหญิงสาวเอาไว้ ส่งพลังไปถึงฟางเฟย รีบกลับมานะพี่รออยู่เสียงหัวเราะเฮฮาดังออกมาจากห้องพักฟื้นบนแดนสวรรค์ เกาฟางเฟยเล่าเรื่องมากมายบนโลกมนุษย์ ณ เวลาปัจจุบันให้กับ ซื่อเว่ยต้าตี้ กุ้ยอ้ายป๋อเฉิง และมู่ตัน ฟัง ชายหนุ่มทั้งสองเล่นหมากไปดื่มน้ำชาไป และกินขนมปังกรอบที่เธอเอาติดตัวมา ฟังเรื่องต่าง ๆ ที่เธอเล่า ประหนึ่งฟังนิทานหลอกเด็ก เจ้าเด็กน้อยก็พลอยหัวเราะชอบใจไปด้วย“นี่อะไรกัน พวกเจ้าเป็นถึงเทพระดับสูง มานั่งจับกลุ่มส่งเสียงดังอะไรกัน พวกเจ้านะ พวกเจ้า เห็นสถานพยาบาลของข้าเป็นบ้านของพวกเจ้ากันรึไง”เทพไท่ไป๋จิงซิง ยืนเท้าเอวบ่นพวกเขา ซื่อเว่ยต้าตี้ถึงกับหัวเราะกับท่าทางของท่านเทพอาวุธโส“เกาฟางเฟย ซื่อเว่ยต้าตี้ ข้ากับมู่ตันกลับก่อนดีกว่า ตาเฒ่าอารมณ์เสียแล้ว ข้าเพิ่งก่อเรื่องจากตำหนักสวรรค์มาหมาด ๆ จะมาโดนเรื่องนี้อีก ค







