Home / รักโบราณ / ห้วงรักข้ามกาลเวลา / ตอนที่ 2 สู่โลกใหม่

Share

ตอนที่ 2 สู่โลกใหม่

last update Last Updated: 2025-07-23 22:06:55

       เมื่อแสงสีทองจางหายไป นลินญาพบว่าตัวเองยืนอยู่ท่ามกลางทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ ท้องฟ้าสีครามสดใส และสายลมที่พัดผ่านใบหน้าสวยเบา ๆ แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากห้องนั่งเล่นที่เธอเพิ่งอยู่เมื่อครู่

 “ที่นี่...คือที่ไหนกัน” นลินญาพูดกับตัวเองเบา ๆ ขณะที่เธอกวาดสายตามองไปรอบ ๆ บริเวณ ทุกสิ่งทุกอย่างดูแปลกตาไปหมด ธรรมชาติที่อยู่ราบรอบตัวเธอช่างงดงามและสมบูรณ์แบบกว่าที่เคยเห็นในชีวิตประจำวัน ดอกไม้ป่าหลากสีส่งกลิ่นหอมอ่อน ๆ ลอยมาในสายลม ชวนให้รู้สึกสงบและผ่อนคลาย แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้เธอรู้สึกหวั่นวิตกอย่างมาก

 นลินญามองไปรอบ ๆ แต่ไม่มีสิ่งใดที่ทำให้เธอรู้สึกคุ้นเคย ทุ่งหญ้าที่เธอยืนอยู่ทอดยาวไปจนสุดสายตา มีภูเขาสูงใหญ่เป็นฉากหลัง ต้นไม้ใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่ห่างออกไปดูมีอายุเก่าแก่ราวกับผ่านกาลเวลาอันยาวนานมาแล้ว เธอรู้สึกได้ว่าที่นี่ไม่ใช่โลกที่เธอคุ้นเคยอีกต่อไป

 “ฉัน... ฉันต้องฝันไปแน่ ๆ” นลินญาพยายามปลอบตัวเอง มือทั้งสองข้างกุมแผนที่ที่ยังอยู่ในมือแน่น แต่แผนที่กลับไม่เปล่งแสงอีกแล้ว มันกลายเป็นกระดาษเก่า ๆ ที่มีรอยขาดเหมือนดังเดิม

 นลินญาก้าวเดินไปตามทางเดินเล็ก ๆ ที่ตัดผ่านทุ่งหญ้า ความรู้สึกกลัวและสับสนเริ่มครอบงำจิตใจ แต่เธอก็พยายามข่มความกลัวไว้ เธอรู้ว่าการยืนนิ่งอยู่ที่เดิมคงไม่ช่วยอะไรได้

 หลังจากเดินตามทางเดินมาได้สักระยะ นลินญาก็มองเห็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลนัก บ้านเรือนทำจากไม้ตั้งเรียงรายอยู่กลางทุ่งนา สายตาของเธอเบิกกว้างขึ้นเมื่อสังเกตเห็นผู้คนในหมู่บ้านนั้น สวมใส่เสื้อผ้าที่ดูโบราณ ท่าทางและการแต่งกายของพวกเขาช่างแตกต่างจากสิ่งที่เธอคุ้นเคย

 “ที่นี่มันอะไรกันแน่ หรือว่านี่คือยุคโบราณ…” นลินญาเริ่มปะติดปะต่อความคิดในหัว ยิ่งมองไปรอบ ๆ เธอก็ยิ่งมั่นใจว่าสถานที่ที่เธออยู่ไม่ใช่โลกปัจจุบันอีกต่อไป

 นลินญาตัดสินใจเดินเข้าไปในหมู่บ้านอย่างช้า ๆ หัวใจของเธอเต้นแรงด้วยความกลัว แต่ความอยากรู้อยากเห็นกลับชนะทุกความรู้สึก ในที่สุด เธอก็เดินเข้าไปถึงกลางหมู่บ้าน ผู้คนเริ่มหันมามองเธอด้วยสายตาสงสัยเพราะเธอเป็นคนแปลกหน้าและการแต่งกายก็ดูแปลกแตกต่างไปจากพวกเขา

 หญิงสาวคนหนึ่งในชุดผ้าฝ้ายสีขาวขลิบแดงที่เดินผ่านไปหยุดยืนมองนลินญาอย่างพินิจพิจารณา เธอมีดวงตากลมโตและผิวสีน้ำผึ้ง ริมฝีปากยิ้มเล็ก ๆ ก่อนจะเอ่ยทักทาย อย่างเป็นมิตร 

 “แม่หญิง แม่หญิงมาจากเมืองไหนหรือจ๊ะ”

 นลินญารู้สึกตกใจเล็กน้อย แต่ก็พยายามตอบอย่างสุภาพ “ฉัน... ฉันหลงทางมาน่ะค่ะ ไม่ทราบว่าที่นี่คือที่ไหนกันแน่”

 หญิงสาวมองนลินญาตั้งแต่หัวจรดเท้า “ที่นี่คือสุโขทัย แม่หญิงไม่รู้จริง ๆ หรือจ๊ะ” เสียงของเธอแฝงด้วยความสงสัยและประหลาดใจ

 “สะ..สุโขทัย…” นลินญาทวนคำในใจ ความเป็นจริงที่ไม่น่าเชื่อค่อย ๆ กระจ่างขึ้นมาในความคิด นลินญาต้องหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อควบคุมสติของตนเอง

 “ใช่จ้ะ สุโขทัย เป็นอาณาจักรที่รุ่งเรืองมาตั้งแต่หลายสิบปีก่อน แล้วแม่หญิงเป็นใคร มาจากเมืองไหนล่ะจ๊ะ” หญิงสาวถามต่อด้วยความสุภาพและเป็นมิตร

นลินญาเริ่มรู้สึกไม่แน่ใจว่าเธอควรจะบอกความจริงหรือไม่ จึงเลือกที่จะตอบเลี่ยง ๆ 

 “ฉัน...มาจากเมืองที่ห่างไกลมากค่ะ ฉันหลงทางมาที่นี่ ไม่รู้ว่าจะกลับไปยังไง”

 หญิงสาวพยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะเอ่ยว่า “ถ้าอย่างนั้น ไปพักที่บ้านผู้ใหญ่บ้านก่อนดีไหมจ๊ะ ท่านเป็นคนใจดี คอยช่วยเหลือคนต่างถิ่นเสมอ”

 นลินญาพยักหน้ารับข้อเสนออย่างลังเล แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่นที่ดีกว่า “ขอบคุณมากค่ะ รบกวนด้วยนะคะ”

 หญิงสาวพานลินญาเดินไปตามทางเล็ก ๆ ที่มีบ้านเรือนไม้ตั้งเรียงรายอยู่สองข้างทาง เสียงสุนัขเห่ารับเมื่อมีคนเดินผ่านไปมา บรรยากาศในหมู่บ้านเต็มไปด้วยความสงบและเรียบง่าย กลิ่นหอมของอาหารที่กำลังถูกปรุงลอยมาจากบ้านเรือนรอบ ๆ เสียงหัวเราะและการสนทนาของชาวบ้านทำให้นลินญารู้สึกผ่อนคลายขึ้นเล็กน้อย แต่ลึก ๆ ในใจยังคงมีความกังวลอยู่

 เมื่อถึงบ้านหลังหนึ่งซึ่งหญิงสาวที่นำนลินญามาเธอบอกว่าเป็นบ้านของผู้ใหญ่บ้าน หญิงสาวเคาะประตูไม้เบา ๆ ก่อนจะเปิดเข้าไป “ผู้ใหญ่จ้ะ มีแขกมาขอพึ่งพัก”

 ผู้ใหญ่บ้านที่ดูมีอายุและใบหน้าที่เคร่งขรึมแต่ใจดี เดินออกมาต้อนรับ เขาสวมชุดผ้าไหมสีเข้ม ผิวสีแทนจากการทำงานกลางแดด ใบหน้าเต็มไปด้วยริ้วรอยที่แสดงถึงประสบการณ์ชีวิตยาวนาน

 “เข้ามาก่อนสิ แม่หญิง” ผู้ใหญ่บ้านเชิญนลินญาเข้าไปในบ้านด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่น นลินญารู้สึกได้ถึงความปลอดภัยที่เริ่มเกิดขึ้นในใจ เธอก้าวเข้าไปในบ้านที่ตกแต่งอย่างเรียบง่ายแต่ดูอบอุ่น

“ขอบคุณค่ะ” นลินญากล่าวด้วยความเคารพ ก่อนจะนั่งลงบนพื้นเสื่อที่ปูอยู่กลางห้อง

“แม่หญิงเป็นใคร มาจากไหนหรือ” ผู้ใหญ่บ้านถามด้วยความสุภาพ แต่แฝงด้วยความสงสัยเช่นกันเพราะลักษณะท่าทางการแต่งกายและคำพูดไม่ได้เหมือนคนที่นี่เลย แต่โชคดีที่ยังพอสื่อสารกันได้รู้เรื่อง

 นลินญานิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจพูด “ฉัน...มาจากเมืองที่ไกลมากค่ะ ฉันไม่รู้ว่าจะกลับไปอย่างไร…”

 ผู้ใหญ่บ้านพยักหน้าเบา ๆ “ไม่เป็นไร ไม่ต้องกังวลไป ที่นี่พวกเรายินดีช่วยเหลือทุกคนที่ต้องการความช่วยเหลือ ขอให้แม่หญิงคิดว่าที่นี่เป็นบ้านของเจ้าก็แล้วกัน”

 คำพูดของผู้ใหญ่บ้านทำให้นลินญารู้สึกอบอุ่นในใจ แม้เธอจะยังคงไม่แน่ใจว่าตัวเองจะทำอย่างไรต่อไป แต่ในตอนนี้ เธอรู้สึกว่าตัวเองไม่โดดเดี่ยวอีกต่อไป

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ห้วงรักข้ามกาลเวลา   ตอนที่ 25 ครอบครัวที่กลับมารวมตัวอีกครั้ง (จบ)

    ขณะที่นลินญายืนอยู่ในอ้อมกอดของท่านขุนศรีอิศรา ความรู้สึกอันอบอุ่นและความรักที่เธอมีต่อเขาก็ไหลกลับมาอย่างเต็มเปี่ยม ความคิดถึงที่เธอเคยเก็บงำไว้อย่างยาวนานถูกปลดปล่อยออกมา น้ำตาแห่งความสุขและการรอคอยที่สิ้นสุดในที่สุดทำให้เธอรู้สึกเหมือนได้กลับบ้านอย่างแท้จริง เมื่ออ้อมกอดคลายลง นลินญาเห็นลูกชายตัวน้อยที่เธอเคยจากมา กำลังเดินเข้ามาหาเธอ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสงสัยและความตื่นเต้น ดวงตาที่สุกใสของเขามองดูแม่ของเขาอย่างอ้อนวอน “แม่จ๋า” เด็กน้อยพูดขึ้นเบา ๆ ราวกับกลัวว่าสิ่งที่เขาเห็นอาจเป็นเพียงความฝัน นลินญาทรุดตัวลงบนเข่าและยื่นแขนออกไปหาลูกชาย น้ำตาแห่งความสุขไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย “แม่อยู่นี่แล้วจ้ะลูก แม่กลับมาแล้ว” อิศเรศเด็กชายตัวน้อยรีบวิ่งเข้ามากอดนลินญาแนบแน่น ขณะที่นลินญากอดลูกไว้ในอ้อมแขน เธอรู้สึกถึงความอบอุ่นและความสุขที่เธอคิดว่าจะไม่เคยได้รับอีกต่อไป การได้พบลูกอีกครั้งทำให้เธอรู้สึกว่าการตัดสินใจกลับมาในยุคสุโขทัยเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ท่านขุนศรีที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็มองดูภาพนั้นด้วยรอยยิ้มและน้ำตา “ข้าดีใจเหลือเกินที่ครอบครัวของเรากลับมาพร้อมหน้ากันอีกครั้ง” นลิน

  • ห้วงรักข้ามกาลเวลา   ตอนที่ 24 การกลับสู่ยุคสุโขทัย

    หลังจากค้นพบจดหมายจากท่านขุนศรีอิศรา นลินญารู้สึกว่าหัวใจของเธอยังคงผูกพันกับยุคสุโขทัยอย่างลึกซึ้ง แม้ว่าเธอจะพยายามสร้างชีวิตใหม่ในยุคปัจจุบัน แต่หญิงสาวก็ยังความรู้สึกว่ามีบางสิ่งบางอย่างที่ยังไม่สมบูรณ์ทำให้เธอไม่สามารถลืมอดีตได้ ความรักและความคิดถึงท่านขุนศรีและลูกชายยังคงแทรกซึมอยู่ในทุกส่วนของชีวิตเธอ แม้ว่าตอนนี้เธอจะมีตัวแทนความรักของเธอกับท่านขุนศรีอยู่ในครรภ์แล้วก็ตาม วันนี้ช่วงขณะที่นลินญากำลังทำงานที่ศูนย์วิจัย ดร. ปกรณ์ได้เดินเข้ามาหาเธอด้วยท่าทีที่รีบเร่งและดูตื่นเต้น “คุณนลิน ผมมีข่าวที่น่าตื่นเต้นที่จะมาบอกคุณ” “มีอะไรหรือเปล่าคะด๊อกเตอร์ ดูท่าทางคุณจะดีใจมากๆ” “ผมค้นพบหลักฐานใหม่ที่อาจเกี่ยวข้องกับการเดินทางข้ามกาลเวลา ในระหว่างการขุดค้นที่แหล่งโบราณคดี” ระหว่างที่ฟัง ดร.ปกรณ์พูด หัวใจของนลินญาเต้นตึกตักด้วยความตื่นเต้นเช่นกัน “ทีมของพวกเราได้ค้นพบเครื่องรางโบราณที่ถูกกล่าวถึงในตำนานว่าเป็น กุญแจแห่งกาลเวลา ที่สามารถเปิดประตูสู่ยุคต่าง ๆ ได้ นี่ไงข่าวนี้มันน่าตื่นเต้นไหมนลิน นี่อาจจะเป็นโอกาสที่เรารอคอย มันอาจเป็นวิธีที่สามารถเชื่อมต่อกับห้วงกาลเวลาได้จริง ๆ”

  • ห้วงรักข้ามกาลเวลา   ตอนที่ 23 การค้นพบใหม่และการก้าวข้าม

    ชีวิตใหม่ในยุคปัจจุบันของนลินญาค่อย ๆ กลับคืนสู่สภาพปกติ แม้ว่าเธอจะยังคงคิดถึงครอบครัวในยุคสุโขทัยอยู่เสมอ แต่เธอก็เริ่มเข้าใจว่าการกลับมาของเธอในยุคนี้มีความหมายมากกว่าที่เธอคิด ชีวิตของเธอในสุโขทัยไม่ใช่แค่ความทรงจำที่สวยงาม แต่มันได้หล่อหลอมให้เธอกลายเป็นคนที่เข้มแข็งและเต็มไปด้วยความเข้าใจในชีวิตและกาลเวลาวันหนึ่งขณะที่นลินญากำลังทำงานที่ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย เธอได้พบกับนักวิจัยด้านโบราณคดีคนหนึ่งที่มาขอคำปรึกษาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ยุคสุโขทัย นักวิจัยคนนั้นเป็นคนหนุ่มชื่อว่า ดร. ปกรณ์ ผู้ซึ่งสนใจในวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ไทยโบราณอย่างลึกซึ้งระหว่างการสนทนา นลินญาเริ่มเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับยุคสุโขทัยจากความทรงจำของเธอ แม้ว่าเธอจะไม่สามารถบอกความจริงทั้งหมดเกี่ยวกับการเดินทางข้ามเวลาของเธอได้ แต่เธอก็แบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับวิถีชีวิต ประเพณี และความเป็นอยู่ของคนในยุคนั้นได้อย่างละเอียด จน ดร. ปกรณ์เองก็แปลกใจในความรู้ลึกซึ้งที่นลินญามี“คุณนลินญา คุณมีความรู้เกี่ยวกับยุคสุโขทัยมากกว่าที่ผมเคยพบเจอมาก่อน คุณศึกษาเรื่องนี้มานานหรือครับ” ดร. ปกรณ์ถามด้วยความสงสัย ขณะที่เขามองดูนล

  • ห้วงรักข้ามกาลเวลา   ตอนที่ 22 ชีวิตใหม่ในยุคปัจจุบัน

    นลินญารู้สึกและรับรู้ได้ถึงแรงดึงดูดมหาศาลที่ดึงดูพาเธอผ่านห้วงกาลเวลา ทุกอย่างรอบตัวของเธอหมุนเร็วขึ้นเรื่อยๆ ก่อนจะค่อยๆ ช้าลงและสลายหายไปในที่สุด เมื่อหญิงสาวลืมตาขึ้นอีกครั้ง เธอพบว่าตัวเองกลับมาอยู่ในยุคปัจจุบัน ทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวคุ้นเคยแต่นลินญากลับรู้สึกถึงความแปลกแยกในเวลาเดียวกัน หญิงสาวยังอยู่ในที่เดิมและชุดเดิมที่เธอใส่ในวันที่เธอได้หายตัวไป เธอยืนอยู่ ณ ที่ตรงนี้ แต่คราวนี้ไม่มีท่านขุนศรีชายที่เธอรักและรักเธอมาก ไม่มีอิศเรศลูกรักของเธอ ไม่มีบ้านเรือนในยุคสุโขทัยที่เธอได้อาศัยอยู่มาหลายปี และไม่มีครอบครัวที่เธอรักเหลืออยู่ นลินญารู้สึกถึงความว่างเปล่าในใจ แต่มันก็มาพร้อมกับความรู้สึกของความสำเร็จที่เธอได้ช่วยชีวิตอิศเรศลูกชายคนเดียวของเธอเอาไว้ เธอยืนอยู่คนเดียวในยุคปัจจุบัน ท่ามกลางเสียงจอแจของเมืองและผู้คนที่เดินผ่านไปมา แต่ในใจของเธอเต็มไปด้วยความทรงจำและความรักที่เธอมีต่อครอบครัวในยุคสมัยสุโขทัย “ท่านขุนศรีของนลิน นลินจะไม่ลืมท่าน นลินจะอยู่ที่นี่และจดจำทุกอย่างไว้ในใจ อิศเรศลูกแม่ แม่ขอให้ลูกสุขภาพแข็งแรงโตขึ้นเป็นคนดีแข็งแกร่งเหมือนท่านพ่อนะลูกรักของแม่” นลินญา

  • ห้วงรักข้ามกาลเวลา   ตอนที่ 21 ทางเลือกที่ขมขื่น

    หลังจากได้รับคำเตือนและคำแนะนำจากท่านนักปราชญ์ นลินญากับท่านขุนศรีก็เดินทางกลับมายังเรือนของพวกเขาที่มีลูกน้อยคอยอยู่กับบ่าวไพร่ เมื่อกลับมาถึงเรือน นลินญารู้ว่าถึงเวลาแล้วที่เธอต้องเปิดใจคุยกับท่านขุนศรีอิศราผู้เป็นสามีที่เธอรักยิ่ง ร่างสูงดูเงียบไปไม่ค่อยพูดและเหมือนมีเรื่องที่ทำให้ต้องคิดตั้งแต่อยู่ที่อาศรมท่านนักปราชญ์แล้ว นลินญารู้ว่าเธอต้องเผชิญกับการตัดสินใจที่ยากที่สุดในชีวิต ถึงสิ่งที่เธอค้นพบและความจริงที่โหดร้ายที่เธอต้องเผชิญ ผลกระทบจากการแยกห้วงกาลเวลาทั้งสองยุคออกจากกัน คำแนะนำของท่านนักปราชญ์อาจเป็นทางเดียวที่จะรักษาชีวิตอิศเรศลูกชายของเธอได้ แต่นั่นหมายความว่าเธอจะต้องกลับไปยังยุคปัจจุบันและจากครอบครัว ผู้ชายที่เธอรักและลูกชายของเธอในยุคสุโขทัยไปอย่างถาวร ในคืนนั้น ขณะที่ท้องฟ้าสุโขทัยเต็มไปด้วยดวงดาว นลินญานั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่กับท่านขุนศรีผู้เป็นสามี และมีอิศเรศลูกชายของพวกเขานอนหลับอยู่ในอ้อมแขนของเธอ ท่านขุนศรีมองดูภรรยาและลูกชายด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักและความเป็นห่วง เมื่อเห็นว่านลินญามีบางสิ่งที่ต้องการพูด เขาจึงถามอย่างอ่อนโยน “แม่หญิงนลินญาเมียข้า ท่า

  • ห้วงรักข้ามกาลเวลา   ตอนที่ 20 ผลของการเชื่อมโยงสองยุค

    หลายเดือนผ่านไปหลังจากพิธีกรรมโบราณเชื่อมห้วงกาลเวลาเพื่อเชื่อมโยงสองยุคเข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์ นลินญาและท่านขุนศรีอิศราพยายามใช้ชีวิตอย่างปกติ ทั้งสองต่างรู้สึกโล่งใจที่เหตุการณ์แปลก ๆ ที่เคยเกิดขึ้นได้หยุดลง นลินญาไม่เห็นภาพลวงตาจากยุคปัจจุบันอีกต่อไป และเสียงที่เคยลอยเข้ามาในโสตประสาทของเธอก็หายไปหมด ความรู้สึกไม่เสถียรที่เคยครอบงำจิตใจนลินญาก็จางหายไป ทำให้เธอสามารถกลับมามีสมาธิกับการดูแลครอบครัวและใช้ชีวิตในยุคสุโขทัยได้อีกครั้ง แต่ทว่าลึก ๆ ในใจของนลินญาและท่านขุนศรี พวกเขาต่างก็รู้ในใจดีว่าความสงบสุขนี้อาจเป็นเพียงชั่วคราวเท่านั้น พวกเขาไม่รู้ว่าผลของการเชื่อมโยงสองยุคจะส่งผลอย่างไรในระยะยาว และสิ่งที่ต้องเสียสละเพื่อให้สองยุคสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสมดุลคืออะไร คืนหนึ่ง ขณะที่นลินญากำลังนั่งเย็บผ้าอยู่ใต้แสงตะเกียง อิศเรศลูกชายของเธอที่เคยหลับอยู่ก็เริ่มร้องไห้เสียงดัง นลินญารีบวางงานในมือและวิ่งไปดู แต่เมื่อเธออุ้มลูกชายขึ้นมา ทันทีที่อ้อมแขนของเธอได้สัมผัสกับลูกน้อยนลินญาก็รู้สึกได้ถึงบางสิ่งที่เปลี่ยนไป เธอสัมผัสได้ถึงความร้อนของอุณหภูมิในร่างกายของลูกชาย ราวกับว่าเขาม

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status