8.30am
เรียวขางามเดินลงบันไดมาด้วยท่าทีที่รีบเร่งเพราะเกรงว่าคนที่ส่งข้อความมาขู่เอาไว้เมื่อคืนจะตั้งท่ากินหัว กระโปรงที่ถูกติติงไปเมื่อวานก็ถูกเปลี่ยนให้ยาวลงมาใต้เข่า ทว่าพอเท้าแตะบันไดขั้นสุดท้าย กลับวางเปล่า ไม่มีใครนั่งรอ
เฮ้ออ!
ปลาทูถอดหายใจเฮือกใหญ่พร้อมกับกลอกตามองบน อึดใจเดียวก็คว้ากระเป๋าออกจากบ้าน ตรงไปยังบ้านข้างๆโดยไม่ลืมปิดล็อกประตูบ้านตัวเอง
“พี่คิณ” เสียงเล็กตะโกนเข้าไปในบ้านแต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ ประตูด้านหลังถูกล็อคจากด้านในแสดงว่าเขาน่าจะอยู่ชั้นบน “อย่าบอกนะว่าพึ่งตื่นแล้วกำลังอาบน้ำน่ะ”
เธอมีเรียนตอนเก้าโมงแล้วตอนนี้ก็สายมากแล้ว ร่างบางจึงเขย่งปลายเท้าเอื้อมหยิบกุญแจที่ซ้อนอยู่หลืบคานประตู ที่ลับนี้ไม่มีใครรู้แม้กระทั่งเจ้าของบ้านทั้งสองท่าน ยกเว้นก็แต่อคิณลูกชายเจ้าของบ้านกับปลาทูเด็กสาวข้างบ้าน ส่วนบ้านของปลาทูก็มีที่ซ้อนไม่ต่างกัน
มันคือความลับที่รู้กันแค่สองคน!
ชั้นล่างเงียบสนิท เท้าเล็กจึงเดินขึ้นบันได เปิดประตูห้องแรกขวามือโดยไม่คิดจะเคาะบอกคนด้านใน ทว่ากลับเจอสิ่งที่เซอร์ไพรส์กว่า
“ไอ้พี่คิณ!” ปลาทูตะโกนออกไปสุดเสียง เมื่อเจ้าของห้องยังนอนซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มบนเตียง
ครอก~
ไม่มีตอบกลับ นอกจากเสียงกรนที่ฟังแล้วทำให้รู้สึกหงุดหงิดมากขึ้นกว่าเดิม คนตัวเล็กจึงสาวเท้าไปยังเตียงขนาดคิงไซส์ กลิ่นแอลกอฮอล์ฟุ้งเป็นต้องย่นจมูก ก่อนจะทำการเอาหมอนที่วางข้างฟาดใส่คนบนเตียงเต็มแรง
ปึก ปึก!!
“พี่คิณตื่น ตื่นเดี่ยวนี้”
“อือ!” คนถูกขัดใจครางในลำคอพร้อมขมวดคิ้วเป็นปม แต่ยังไม่ลืมตา น้องจึงฟาดไปอีกสองที
“ไอ้พี่คิณ ปลาทูสายแล้วนะ ตื่นสักทีเถอะ ขอร้อง”
“...” ยังคงนิ่ง ไม่ไหวแม้แต่ติ่งเดียว
“พี่คิณ!!!” โน้มตัวไปตะคอกเสียงใส่หูคนแน่นิ่ง “ตื่นนน!” เรียกจนท้อแต่ถูกคนที่หลับสนิทสู้กลับจนชนะน็อค
โอเค ปลาทูยอม
มือเล็กล้วงหามือถือตัวเองกดออกไปเบอร์ของเพื่อนใหม่ที่ได้เมมเอาไว้เมื่อวาน รอไม่นานยิ้มก็รับสาย
“ยิ้ม เธอถึงมหาลัยหรือยัง?”
(ยังเลย เราพึ่งออกคอนโด มีไรหรือเปล่าหรือให้เราไปรับ)
ปลายสายถามเหมือนรู้ใจ ปลาทูจึงไม่รอช้ารีบบอก พลางใช้สายตามองคนบนเตียงด้วยความเอือมระอา
“มารับหน่อยนะยิ้ม ไอ้พี่คิณบอกจะส่งไปแต่นอนตายเหมือนวิญญาณลงนรกไปเรียบร้อยแล้วงะ”
(ดูพูดเข้า)
ยิ้มกลั้วขำแต่อีกคนไม่ตลกด้วย
“ก็มันจริง เรียกก็แล้ว ฟาดด้วยหมอนก็แล้ว ไม่กระดิกแม้แต่แอะเดียว”
(เคๆ รออยู่หน้าบ้านนะ เดี๋ยวเราไปรับ)
“แต้งกิ้ว”
หลังจากวางสายจากยิ้ม ใบหน้าบูดบึ้งก็จ้องหน้าพี่ด้วยความเง้างอด ก่อนที่มือน้อยจะล้วงเอาปากกาเมจิกในกระเป๋าแล้วบรรจงเขียนกลางหน้าผากเขาเป็นการส่งศาล
ร่างเล็กออกจากห้อง ลงไปยืนรอเพื่อนอยู่หน้าบ้านตัวเองโดยไม่ลืมที่จะเอากุญแจไว้ที่เดิมพร้อมล็อคประตูให้เสร็จสรรพ เพราะไม่รู้ว่าเจ้าบ้านเขาจะตื่นกี่โมง
รออยู่ไม่ถึงสิบนาทีรถขอยิ้มก็มาจอดที่หน้าบ้าน
“ไปเรียนกัน”
“อึม”
แสงแดดจ้าบอกเวลาบ่ายกลางๆ ปลุกคนที่หลับไม่รู้ตัวให้รู้สึกตัว อคิณดีดตัวนั่ง สะบัดหัวแรงๆไล่อาการแฮงค์
“ยัยเด็กนั้นจะตื่นหรือยังวะ?” แม้หัวจะปวดตึบๆแต่ก็ยังไม่ลืมเรื่องของน้องข้างบ้าน มือหนาเอื้อมหยิบโทรศัพท์ของตัวเอง ก่อนจะตกใจในเวลาต่อมา “เหี้ย! บ่ายสอง”
ร่างหนารีบรุดออกจากเตียง เปิดประตูหน้าต่างมองไปยังบ้านข้างๆที่อยู่ติดกัน ประตูทุกบานปิดสนิทบ่งชัดว่าปลาทูไม่ได้อยู่บ้าน อคิณจึงคว้าผ้าเช็ดตัวที่แขวนอยู่หน้าตู้เสื้อผ้าตรงเข้าห้องน้ำ
กึก!
เป็นต้องชะงักค้างเมื่อเห็นปฏิมากรรมศิลปะบนใบหน้า ทว่า หากเป็นปกติอคิณคงจะหัวเสีย โทรไปด่ายัยเด็กแสบที่เล่นซุกซนมาเขียนหน้าเขา แต่ครั้งนี้มันกลับไม่ใช่แบบนั้น รูปหน้าสัตว์ที่ควรจะวาดกลับเป็นเพียงตัวหนังสือเพียงพยางค์เดียว
งอน
ไม่บ่อยนักที่คนตัวเล็กจะเขียนคำนี้กลางหน้าผากเขา เท่าที่จำได้นี่เป็นครั้งที่สาม ซึ่งมันหมายความว่า เด็กสาวโกรธและงอนเขาจริงๆ
“แม่งเอ๊ย!” สถบออกมาด้วยความหัวเสีย พลางทึ้งหัวตัวเองแรงๆก่อนจะรีบจัดการธุระของตัวเองให้เรียบร้อย
“รู้ไหมว่าพวกพ่อๆกับแม่ๆเป็นห่วงมากแค่ไหน?”“ทำไมไปไหนไม่บอกไม่กล่าว?”“โทรไปก็ไม่ติด แม่เป็นห่วงจนจะบ้าแล้วลูกเอ้ย”ทั้งอคิณและปลาทูต่างก็ก้มหน้ารับฟังคำด่า เหตุเพราะหายไปกันทั้งคืนแล้วไม่ติดต่อใคร เวลานี้เอกภพกับปราณีก็บินมาด้วย ทำให้ทั้งคู่โดนสองต่อ จนหูแทบชา และด้วยความที่เป็นเด็กขี้อ้อน ร่างเล็กจึงเดินเข้าไปสวมกอดแม่ของสามี กอดแม่ตัวเองไม่ได้เดี๋ยวโดนเพิ่มข้อหา“แม่ณีขา อย่าโกรธเลยนะคะ คือพี่คิณขาเขาแค่อยากชวนหนูไปดูพระอาทิตย์ขึ้นเองค่ะ” ไหนๆก็ไหนๆ รู้วิธีเอาตัวรอดเป็นยอดดี โยนขี้ให้พี่แม่งเลย!“หึ?” ชายหนุ่มได้แต่ขมวดคิ้วมองภรรยาตัวน้อยด้วยความกล้ำกลืน แล้วใครมันบอกว่ามีอารมณ์วะ แม่ง!“ตาคิณ นี่แกพาน้องไปเกเรมาเหรอ?” เอกภพหันไปเท้าสะเอวใส่ลูกชาย โมโหจริงๆ เขากับภรรยาบินมาถึงตั้งแต่เช้ามืด ไม่ได้พงไม่ได้พักอะไรเลย ก็ต้องมากังวนใจเพราะไอ้ลูกตัวดี“แต่จริงๆ อคิณตามใจยัยตัวแสบตลอดนะ ไม่มีทางที่อคิณจะพาน้องไปเอง” ดารีรู้จักลูกสาวดีจึงค้าน “ดาว่ามันต้องมีอะ...”“มันจะมีอะไรล่ะน้องดา เจ้าคิณน่ะฟังใครที่ไหน” ปราณีขัดจังหวะ พลางลูบหัวลูกสะใภ้อย่างรักใคร่ ประหนึ่งว่าเด็กน้อยไม่ผิด “นี่ก็คง
อึก!อคิณถึงกับลอบกลืนน้ำลาย คำพูดคำจาของเด็กน้อยมันชวนให้หัวใจซาบซ่านเหลือเกิน“สนองมันหน่อยสิครับคนดี ซี๊ด” เป็นต้องซูดปากแรงๆ กำเบาะแน่นระบายความเสียดเสียว เด็กน้อยอ้าปากครอบเข้าไปเกือบครึ่งลำ ไม่รีรอใดๆผงกหัวขึ้นลง แรกๆก็เนิบนาบแต่สักพักก็เร่งจังหวะ โดยใช้มือสาวตรงโคนไปด้วยจ๊วบ!ปากเล็กดูดดุนจนแก้มตอบ ราวกับแท่งเอ็นร้อนคือไอศกรีมรสช็อคโกแลตชิปกับชาเขียว ที่กินเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อไม่อิ่ม รัญจวนหัวใจดวงโตจนต้องขบกรามแน่น ครางเสียงเร้าร้อนดังระงมทั้งคันรถใบหน้าหวานก็ช้อนขึ้นมามองสบตาคม มันยิ่งเป็นเชื้อเพลิงปลุกกำหนัดให้เตลิด เผลอกลั้นหายใจตอนที่น้องดูดหัวเห็ดแล้วส่งยิ้มให้กันทางสายตา เล่นเอาเกร็งหน้าขาจนปวด“อ่า อย่าดูดหัว พี่เสียวค่ะ”“แล้วไม่ชอบเหรอคะ?”โห เสียงหวานขนาดนี้ กะจะไม่ยอมให้ได้เกิดกันเลยดิ“ชะ ชอบครับ อ่า” คนเสียวจัดแทบทนไม่ไหว รู้สึกทรมานเหมือนคนใจจะขาด รวบผมสลวยเอาไว้ในมือแล้วกำแน่น ขณะเดียวกันก็จ้องมองแก่นกายที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดผลุบเข้าออกไวๆคับปากอุ่นชื้น น้ำลายไหลเลอะไปทั้งท่อนเอ็น กระสันจนต้องร้องขอชีวิต “เธอครับ เบาๆ เดี๋ยวพี่แตก อือ ปลาทู หนู ที่รักพี่จะตายค่
หน้าร้านยุ่งวุ่นวายเมื่อลูกค้ามาราวกับงานลดแลกแจกแถม ปลาทูเห็นว่าพี่ๆคนอื่นรับออเดอร์ไม่ทัน จากที่กำลังช่วยเช็ดแก้ว มือเล็กจึงหยิบเอาไอแพดที่ว่างอยู่ไปรับลูกค้าแทนหลังจากรับออร์เดอร์เรียบร้อยแล้วก็วิ่งไปดูที่หลังร้าน ถึงจะเคยทำมาก่อนแต่ก็ใช่ว่าจะจำได้หมดทุกอย่าง ที่เข้ามาก็เพื่อจะอธิบายกับพ่ออีกทีว่าลูกค้าไม่เอาอันนั้น ไม่เอาอันนี้ ก่อนจะถืออาหารลูกค้าออกไปด้วย ทว่ายังไม่ทันจะผ่านพ้นประตู“ที่รักครับ” เสียงอ้อนแบบนี้รู้เลย คนรู้งานเดินกลับไปหาสามีหนุ่มแล้วยื่นแก้มให้ ขณะที่เขาก็ก้มลงมาหอมแก้มเธอโดยไม่นึกจะสนใจสายตาของคนอื่นๆ ขอให้ได้ชื่นใจ ไม่กี่วินาทีก็เอา จนถูกพ่อแซว“วิทย์ ผัดไทยไม่ต้องเติมน้ำตาลนะ” ทั้งสองต่างหันมามองหน้ากันแล้วหัวเราะ ก่อนจะแยกกันไปทำหน้าที่ใครหน้าที่มัน เวลาผ่านไปจนถึงสามทุ่มกว่า ใบสั่งอาหารก็เริ่มน้อยลง อคิณจึงออกมาดูหน้าร้าน ดันตาไฟเห็นเมียเด็กกำลังถูกลูกค้าชายส่งสายตาลวนลาม ไม่พอยังยื่นโทรศัพท์มาให้เธออีก จึงก้าวขายาวๆเดินผ่านโต๊ะที่พ่อตาแม่ยายนั่งอยู่ใกล้ๆหมับ!ฝ่ามือหนารวบเอวบางเข้ามาประชิดตัว ประคองดวงหน้าหวานละมุนแล้วก้มลงทาบริมฝีปากกับเรียวปากอมชมพู
วันต่อมาหลังจากที่กึ่งหลับกึ่งตื่นมาค่อนคืน เพราะร่างกายยังปรับเวลาไม่ทัน ทำให้ช่วงเช้าปลาทูเกิดอาการสะลึมสะลือ เผลอนอนลากยาว ตื่นอีกทีก็บ่าย ไม่ทันได้เจอพ่อกับแม่ที่ออกไปทำงานตั้งแต่แปดโมงเช้า“ตื่นแล้วเหรอคะ?” เห็นร่างบางเดินออกจากห้องนอนมา อคิณจึงละจากงานขึ้นมองน้อง สีหน้าอ่อนล้า มันช่างต่างกับเมื่อวานลิบลับ “นอนต่อไหม หน้าเมียพี่ดูง่วงจัด”“ง่วงค่ะ” ว่าแล้วก็เดินมาหา คนเป็นพี่จึงวางโน๊ตไว้บนโต๊ะแล้วตบหน้าขา คนตัวเล็กเข้าใจก็ขึ้นไปนั่งบนตักแล้วยกมือขึ้นโอบรอบลำคอหนา “หิวหรือเปล่า อยากกินไรไหม?” ก้มลงจุมพิตขมับน้อย ซึ่งน้องก็พยักหน้า “งั้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าค่ะ ไปหาพ่อทินกับแม่ดากัน”“ค่ะ” น้ำเสียงงัวเงีย เสียงทุ้มหัวเราะในลำคอก่อนจะสอดแขนเข้าใต้ข้อพับแล้วอุ้มคนตัวเล็กไปส่งที่ห้องน้ำ จัดเตรียมข้าวของเสื้อผ้าให้เสร็จก็ออกมาทำงานต่อรอไม่นานน้องก็ออกมาด้วยชุดเดรสกระโปร่งแขนตุ๊กตาน่ารัก ข้างนอกอากาศเย็นจึงมีเสื้อแขนยาวใส่ทับไปอีกตัว ในขณะที่เขาแต่งตัวด้วยเสื้อยืดกางเกงสแล็กและตามด้วยเสื้อโค๊ทอีกที“รถสวยจังค่ะ” ปลาทูตาโตกับรถยนต์คันใหม่ของพี่ที่ผู้เป็นพ่อซื้อให้ ใบหน้าหล่อเหลาฉีก
ความเย็นสบาย ทำให้ดูการ์ตูนยังไม่ทันจะถึงครึ่งเรื่อง คนตัวเล็กก็นอนหลับซบอยู่กับอกแกร่ง ตื่นมาก็ตอนที่ใกล้จบเรื่องแล้ว ดวงตาคู่น้อยเปิดสนิท ท้องไส้ทำงานเมื่อเห็นอาหารและของหวานมารอพร้อม“พี่คิณขากลับที่ได้แล้วค่ะ” “ตื่นมาก็ไล่ผัวนี่คือไร?” “ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ” เห็นพี่ชักสีหน้าใส่ก็รีบอธิบาย “หนูหิว พื้นที่วางมันนิดเดียวเอง แค่ส่วนของหนูก็เต็มโต๊ะแล้วค่ะ”“ออ...นี่เห็นแก่กินจนไม่สนใจผัวคนนี้แล้ว?” กอดอกสะบัดหน้าหนีอย่างแง่งอน “ไม่ใช่นะคะ หนูแค่กลัวว่าพี่คิณจะนั่งกินไม่สะดวก ที่มันแคบเนี่ยเห็นหรือเปล่า?” มีการทำไม้ทำมือวัดพื้นที่ให้พี่ดู แต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกดี เพราะเขาอยากนั่งอยู่ตรงนี้ อยากนั่งกับเธอ อยากนั่งติดกับเธอ สุดท้ายเธอก็ต้องเป็นฝ่ายยอม “โอเคค่ะ ถ้าพี่คิณขาไม่ลำบาก เรานั่งด้วยกันก็ได้ค่ะ”คนพึงใจผุดรอยยิ้มหวาน สอดมือเข้าใต้รักแร้ของคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ตรงระหว่างขา ยกขึ้นให้มานั่งกับขาข้างหนึ่งของตัวเอง ให้ใบหน้าเราเสมอกัน แล้วนั่งทานข้าวด้วยกันทั้งแบบนั้นมีบ้างที่คนตัวเล็กเขินอายกับสายตาของผู้โดยสารบางท่านที่เดินไปเดินมากับพนักงานของสายการบิน แต่หัวใจก็เต็มเป
1เดือนต่อมาบนเครื่องบินชั้น First Class เครื่องขึ้นได้ไม่นาน อคิณก็ปลดเข็มนิรภัยแล้วเดินไปยังที่นั่งของภรรยาตัวน้อยข้างๆ เธอกำลังตาตื่นกับการหยิบเอาโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปท้องฟ้าและตึกอาคารข้างล่างพื้นดินไม่ว่าจะขึ้นเครื่องมากี่ครั้งต่อกี่ครั้งเธอก็ยังคงเป็นเด็กน้อยเหมือนเช่นวันวานเด็กน้อยปลาทูของพี่อคิณ มันอดไม่ได้ที่จะไม่ล้วงเอามือถือขึ้นมาถ่ายรูปคนตัวเล็กจากทางด้านหลัง พลางเรียกเสียงหวาน “ที่รักครับ” “คะ?” ดวงหน้าละมุนหันมา ปลายนิ้วโป้งก็กดถ่ายทันที ความน่ารักของน้องมันเย้ายวนจนไม่อาจยั้งมือถ่ายแค่หนึ่งรูป ก่อนจะเข้าไปอยู่ใกล้ๆแล้วถ่ายรูปร่วมกัน ก่อเกิดความสุขเล็กๆน้อยๆให้หัวใจได้ชุ่มช่ำ ก่อนจะถูกขัดจังหวะแอร์โฮสเตสสาวสวยมาเสริฟ Welcome Drink “ของผมเอามาไว้ตรงนั้น” ใช้สายตาชี้ไปตรงแท่นวางของ “ที่เดียวกับเมียผมเลยนะครับ” หญิงสาวเหวอไปเล็กน้อย แต่เพียงอึดใจก็ระบายยิ้มบางๆแล้ววางแก้วในส่วนของชายหนุ่มไว้คู่กันกับของเด็กสาวที่เน้นย้ำเพราะเขาเห็นนานแล้วว่าอีกฝ่ายนั้นแอบหันมาส่งสายให้บ่อยๆ ถึงเขาจะไม่เล่นด้วยแต่อย่างน้อยก็ควรออกตัว ไม่อยากให้เรื่องราวมันซ้ำรอยเดิม ก่อนจะขอให้เธอปรั