공유

บทที่ 9 รักษาความลับ

last update 최신 업데이트: 2025-06-14 12:07:42

หลี่เหว่ยรีบเหินกายลงมาจากต้นไม้ใหญ่อย่างรวดเร็ว เขามองซ้ายมองขวาอย่างระแวดระวังเมื่อไม่เห็นใครอื่นนอกจากจางลู่หลิน ก็พรูลมหายใจออกมาด้วยความโล่งใจ นี่มันเป็นความลับสุดยอดเขาจะให้ใครล่วงรู้ไม่ได้เป็นอันขาด

ชายหนุ่มหันมามองจางลู่หลินที่ยืนกอดอกอยู่ตรงหน้าคราหนึ่ง เขาพุ่่งเข้าไปจับแขนของนางทั้งสองข้างก่อนจะเอ่ยอย่างเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน

"ข้าขอเตือนให้เจ้าหุบปากเสีย หากว่าเรื่องนี้ถูกแพร่งพรายออกไป ข้าจะตัดลิ้นเจ้าทิ้ง เจ้าจะต้องอยู่ไม่สู้ตายอย่างแน่นอน!"

จางลู่หลินส่งเสียงเหอะออกมาทันที

"ก่อนหน้านี้พ่อบ้านหม่ามาแจ้งว่ามีคนเอาแป้งมันมาเล่น ข้าก็ยังแปลกใจว่าใครกันที่มันเล่นพิลึกคนเช่นนี้ ผู้ใดจะรู้ว่ากลับไม่ใช่แป้งมัน แต่เป็น.."

นางยังเอ่ยไม่จบประโยคก็ชำเลืองมองหว่างขาของหลี่เหว่ยเสียก่อน หลี่เหว่ยรีบหุบขาและเอ่ยกับนางอย่างไม่พอใจ

"อย่ามายุ่งเรื่องของข้า ทีี่นี่คือจวนองค์ชายใหญ่ ต่อให้ข้าจะยืนชักบนต้นไม้ หรือว่าตีลังกาห้อยโหนชักขึ้นชักลงมันก็เรื่องของข้า นี่เป็นความลับระหว่างข้าและเจ้า จำเอาไว้ให้ดี"

"หากข้าไม่ช่วยท่านเก็บความลับนี้เล่า ท่านจะตีข้าหรือ เห้อ อย่างไรย่อมต้องมีค่าตอบแทนบ้างสิ"

เมื่อได้ยินจางลู่หลินเอ่ยอย่างนั้น หลี่เหว่ยก็หรี่ตามองสตรีตรงหน้าอย่างหวาดระแวง ไม่ใช่ว่านางอยากจะให้เขาเปลือยกายให้นางเชยชมหรอกนะ หลี่เหว่ยรีบยกมือขึ้นมาปิดแผงอกตนเองทันที จางลู่หลินที่เห็นก็อยากจะหัวเราะออกมาให้ดังๆ นี่เขากำลังคิดสิ่งใดกัน นางเพียงเย้าเล่นเท่านั้น

"ข้าเย้าท่านเล่น ไม่ได้ต้องการอันใดหรอก ต่อไปท่านไปทำในที่ลับตาคนเถิด อย่ามาทำเช่นนี้ หากใครมาพบเจอคงจะวุ่นวายขายหน้าน่าดู ข้าเข้าใจว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่อย่าทำบ่อยเลย มันจะติดมือเอาได้ ข้าจะไปนอนแล้ว เชิญท่านชักต่อไปเถอะ หากไม่วางใจ เช่นนั้นข้าจะอยู่ดูต้นทางให้ก็ได้"

หลี่เหว่ยที่เห็นว่าจางลู่หลินเอ่ยอย่างไม่ทุกข์ไม่ร้อนก็รู้สึกสงสัยเหลือเกิน สตรีประหลาดนางนี้เคยคิดมากกับเรื่องใดบ้างหรือไม่!

เมื่อเห็นว่าเขาไม่เอ่ยตอบ นางก็คิดว่าเขาคงไม่ต้องการให้นางก้าวก่ายความสำราญของเขา จึงคิดจะหันหลังเดินกลับเรือน แต่หลี่เหว่ยกลับยื่นมือของตนมาดึงแขนของนางให้หันกลับไปหาเขา ก่อนจะลากตัวนางให้เดินตามเขาไป

"ท่านจะทำอันใดปล่อยข้านะ"

หลี่เหว่ยไม่ตอบ เขาลากนางเข้ามาที่เรือนของตน ก่อนจะไล่บ่าวไพร่ออกไปให้หมดและลงกลอนปิดประตูอย่างแน่นหนา จางลู่หลินมองเขาด้วยความไม่เข้าใจ จนกระทั่งชายหนุ่มตรงหน้า ปลดเปลื้องอาภรณ์ของตนโยนทิ้งลงไปกองกับพื้น นางก็แทบหยุดหายใจ

"หากเจ้าอยากขืนใจข้าก็ทำได้เลย ขอแค่แลกกับการที่เจ้าช่วยข้าปกปิดความลับ ข้าล้วนแลกได้ทุกสิ่ง เรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนี้ข้าต้องการเก็บเป็นความลับ แต่ข้าไม่ไว้ใจเจ้า จึงจะใช้ร่างกายของข้าเป็นค่าปิดปากเจ้าแทน ให้เจ้ากระทำชำเราข้าได้ตามใจชอบ แต่ข้าบอกเอาไว้ก่อนว่ามันจะไม่มีครั้งที่สามแน่นอน เจ้าอย่าได้ลำพองใจไป!"

จางลู่หลินถึงกับเอ่ยวาจาใดไม่ออก นี่มันเรื่องบ้าอันใดกัน 

นางรีบโบกมือปฏิเสธเป็นพัลวัน

"ท่านคิดมากเกินไปแล้ว ข้าไม่บอกผู้ใดหรอก"

"แต่ข้าไม่เชื่อเจ้า! เจ้ามันสตรีปากอย่างใจอย่าง ทำข้าซะ ทำข้าเดี๋ยวนี้!"

"ก็บอกว่าไม่ทำอย่างไรเล่า ท่านจะบ้าหรือ!"

"ขอร้องละลู่หลิน นี่คือเรื่องใหญ่ในชีิวิตข้าจริงๆ เจ้าทำเถอะ ขอแค่อย่างเดียวอย่าบอกผู้ใด และอย่าให้มีครั้งที่สาม"

"ท่านมันประสาท"

"หากเจ้าไม่ทำข้าจะฆ่าเจ้าเสียเพื่อปิดบังความลับนี้"

จางลู่หลินถึงกับเอ่ยวาจาใดไม่ออก เกิดมาเพิ่งเคยพบเคยเจอผู้ชายบ้าๆแบบนี้ มีอย่างที่ไหนใดกันมาบังคับให้ภรรยาปลุกปล้ำ หากนางไม่ยอมทำก็ขู่จะฆ่านาง

จางลู่หลินมองหลี่เหว่ยที่ตอนนี้เปลือยกายล่อนจ้อนอยู่เบื้องหน้า สายตาคู่งามมองไปที่ท่อนเอ็นลำมังกรของเขาที่กำลังขยายใหญ่คราหนึ่ง ก่อนจะลอบพึมพำในใจ

เอาเถิด หากต้องเลือกระหว่างความตายกับได้บุรุษ นางคิดถี่ถ้วนแล้ว 

ได้บุรุษดีกว่า!

เมื่อคิดได้เช่นนั้นนางก็ผลักเขาลงไปบนเตียงทันที ก่อนจะจัดการปลดเปลื้องอาภรณ์ของตนออกจนหมด น่าประหลาดที่ยามเห็นเขาเปลือยกายเปล่าเปลือยนางกลับมีอารมณ์พุ่งพล่านถึงเพียงนี้ อาจเพราะเขารูปงาม สตรีทุกคนล้วนชอบบุรุษรูปงามไม่ใช่หรือ

ส่วนหลี่เหว่ยนั้นเขาพยายามหลับตาไม่มองนาง แต่สายตาเจ้ากรรมกับไม่เชื่อฟัง แอบชำเลืองมองคราหนึ่ง เมื่อเห็นว่าตอนนี้บนร่างนางไร้ซึ่งอาภรณ์ปกปิด เขาก็ใจเต้นแรง ท่อนล่างแข็งขึงชี้โด่อย่างไม่อาจหักห้าม

จางลู่หลินโน้มกายลงมากระซิบที่ข้างหูของเขาด้วยน้ำเสียงแหบกระเซ่า

"ข้าจะช่วยท่านปกปิดความลับเป็นอย่างดีเลยหลี่เหว่ย"

เอ่ยจบนางก็ยื่นใบหน้าเข้าไปหาเขา ก่อนจะทาบทับริมฝีปากบางสวยลงไปบนริมฝีปากหนาใหญ่ของเขาอย่างดูดดื่ม พร้อมกับสอดแทรกลิ้นอุ่นร้อนเข้าไปเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นชื้นแฉะของชายหนุ่มอย่างเอาแต่ใจ มือน้อยๆปัดป่ายไปตามเรือนกายกำหยำหนัดแน่นของหลี่เหว่ยอย่างซุกซน หน้าท้องของเขาแน่นมาก ยามได้สัมผัสอารมณ์ของนางก็ยิ่งพลุ่งพล่านเกินจะบรรยาย 

หญิงสาวแลบลิ้นลากเลียลงมาตามแผงอกของเขาอย่างๆช้าๆ แล้วจึงใช้ปลายลิ้นสากตวัดเลียเม็ดทับทิมบนแผงอกของเขาอย่างหยอกเย้า หลี่เหว่ยเม้มริมฝีปากแน่นพลางส่งเสียงครางทั้งที่ยังหลับตาอยู่่ คราแรกเขายังกำผ้าปูเตียงเอาไว้แน่น ก่อนจะค่อยๆ เลื่อนฝ่ามือสากมาลูบไล้ผิวพรรณขาวนวลเนียนของนางอย่างถือวิิสาะ สัมผัสผิวกายที่เนียนนุ่มราวกับหยกเนื้อดี มันทำให้อารมณ์ของเขากระเจิดกระเจิง

ต้องยอมเพื่อรักษาความลับ!

เขาบอกตนเองเช่นนี้ในใจเป็นร้อยเป็นพันครั้ง 

"ซี๊ด"

อยู่ๆร่างกายของหลี่เหว่ยก็เกร็งแน่น เมื่อจางลู่หลินครอบริมฝีปากกลืนกินท่อนเอ็นของเขาจนมิดด้าน นางขยับศีรษะขึ้นลงเป็นจังหวะถี่เร้า มือเรียวบางจับลำมังกรชักรูดขึ้นลงอย่างถี่ระรัวมากยิ่งขึ้น

"โอว สุดยอด!"

หลี่เหว่ยส่งเสียงครางไม่เป็นภาษา เขาไม่เคยคิดเลยว่าปากน้อยๆของสตรีจะทำให้เขามีความสุขได้ถึงขนาดนี้

จางลู่หลินรู้สึกว่าแก่นกายของหลี่เหว่ยทั้งใหญ่และยาวคับแน่นเต็มปากของนางไปหมดแต่นางก็ไม่ยอมถอย เร่งจังหวะอมรูดให้เร็วแรงมากยิ่งขึ้น หลี่เหว่ยส่งเสียงครางไม่ได้ศัพท์ จางลู่หลินค่อยๆไล้ปลายลิ้นแลบเลียตามลำโคนของเขาช้าๆ แล้วจึงดูดเม้มที่ปลายหัวหยักอย่างแรง หลี่เหว่ยจับศีรษะของนางกดเอาไว้ ก่อนที่เขาจะเกร็งกระตุก น้ำรักพุ่งทะลักเข้าไปในโพลงปากของนาง น้ำรักสีขาวไหลเยิ้มออกมาตามมุมปากของหญิงสาว นางกลืนกินมันลงไปอย่างไม่นึกรังเกียจ

รสชาติดีจริงๆ!

หลี่เหว่ยหายใจเหนื่อยหอบ ยังไม่ทันที่เขาจะได้สูดลมหายใจให้เต็มปอด นางก็ขึ้นมานั่งคล่อมบนตัวเขาเสียแล้ว หญิงสาวใช้มือจับท่อนเนื้อท่อนเอ็นมาจ่อที่ปากถ้ำ ลำมังกรบดเบียดเข้าไปในรูสวาท นางค่อยๆขยับกายขึ้นลงอย่างช้าๆและกระแทกกระทั้นให้เร็วแรงมากยิ่งขึ้น ความใหญ่ของเขามันทำให้นางถึงกับซูดปากเพราะความคับแน่น แรกเริ่มยังติดขัดอยู่บ้าง แต่เมื่อน้ำรักเริ่มเอ่อล้น ก็ราบรื่นมากยิ่งขึ้น

"อื้อ"

"ซี๊ด"

จางลู่หลินขยับกายขึ้นลงราวกับหงส์เหิน เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังเป็นจังหวะลามก เตียงนอนส่งเสียงลั่นเอี๊ยดอ๊าดตามแรงขยับของทั้งคู่

"ซี๊ด ลู่หลิน ข้าจะไม่ยอมให้มีครั้งที่สามแน่นอน อ๊า"

"อร๊าย ข้าจะเก็บความลับให้ท่านอย่างดี อื้อ"

"โอว เจ้าไม่มีวันได้ใจ้ข้า!"

"ได้ตัวก็พอแล้วเพคะ อร๊าย"

ตับตับตับ

คนทั้งสองกระแทกกระทั้นกันอย่างไม่หยุดพัก จนกระทั่งจางลู่หลินร่างกายกระตุกเกร็ง นางซบหน้าลงไปบนแผงอกของเขาพลางหายใจเหนื่อยหอบรวยริน หลี่เหว่ยนั้นเมื่อถูกนางเอาหน้าอกมาบดเบียดตนอารมณ์ก็พุ่งขึ้นมาอีกครา เขาจับนางนอนคว่ำหน้าลงไปบนเตียงแล้วจึงบดเบียดลำแท่งเอ็นร้อนเข้าไปจนมิดด้าน ก่อนจะขยับสะโพกสอบเข้าออกอย่างไม่ปรานีปราศรัย

"จำไว้ เจ้าไม่มีวันจะได้ตัวข้าเป็นครั้งที่สาม อ๊า"

"อ๊า เสียวเพคะ อื้อ"

"ข้าจะไม่ไหวแล้ว โอว"

ร่างของคนทั้งสองกระตุกเกร็ง หลี่เหว่ยปล่อยน้ำรักเข้าไปในรูสวาทของนางจนชุ่มฉ่ำ ก่อนจะทิ้งกายลงนอนข้างนาง พร้อมกับหยิบผ้าห่มขึ้นมาคลุมร่างกายของตนเอาไว้ จางลู่หลินหายใจเหนื่อยหอบ เขาช่างเร้าใจจริงๆ เสียดายที่จะไม่มีครั้งที่สามอีกต่อไปแล้ว!

นางลุกขึ้นจากเตียงด้วยร่างกายเปลือยเปล่า อย่างไรหลี่เหว่ยย่อมไม่มีทางยอมให้นางนอนค้างกับเขาที่นี่อยู่แล้ว นางจึงคิดจะกลับเรือน แต่อยู่ๆหลี่เหว่ยก็ยิืนมือมาคว้ารวบเอวบางของนางลงไปนอนบนเตียงอีกครั้ว จางลู่หลินตื่นตระหนกพร้อมกับเอ่ยถามเขาอย่างไม่เข้าใจ

"ท่านจะทำอันใด ไหนบอกว่าจะไม่มีครั้งที่สามอย่างไรเล่า"

หลี่เหว่ยกลืนน้ำลายลงคอ เขาก็คิดว่าจะไม่มีครั้งที่สามแล้้ว แต่ใครใช้ให้นางยืนแก้ผ้าต่อหน้าเขาเช่นนี้ บั้นท้ายงอนงามของนางมันทำให้เขามีอารมณ์อีกครั้ง

ชายหนุ่มยกยิ้มมุมปาก และเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา

"เจ้ามันเชื่อถือไม่ได้ สตรีเช่นเจ้าหากกินไม่อิ่มจะต้องเก็บความลับได้ไม่ดีแน่ เช่นนั้นข้าจะปิดปากเจ้าเป็นครั้งที่สาม ให้เจ้าอิ่มจนจุกและไม่กล้าคายความลับของข้าออกไป!"

"จางลู่หลิน "...."

ท้ายที่สุดระหว่างเขาและนางก็มีครั้งที่สี่ ห้าและหก  จนกระทั่งคนทั้งสองเหนื่อยล้าและสลบไสลไปทั้งคู่

เขาปิดปากนางได้อย่างแน่นสนิทจริงๆ แน่นเสียจนนางจุกท้องน้อยเลยทีเดียว!

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • องค์ชายสารเลวท่านจะตีข้าหรือ   ตอนจบ

    หลังจากดื่มกินกันอย่างสำราญใจ เวลาก็ล่วงเลยมาจนถึงช่วงกลางดึก หลี่เหวยกลับมายังที่พักของตน ก่อนจะพบว่ายามนี้จางลู่หลินยังคงไม่เข้านอน หญิงสาวเอาแต่มองดวงจันทร์ที่ด้านนอกหน้าต่างด้วยแววตาที่วูบไหว เขาที่เริ่มมึนเมาเล็กน้อย ตรงเข้าไปกอดนางจากทางด้านหลัง ก่อนจะซบใบหน้าลงไปที่ซอกคอขาวเนียนของนาง พลางเอ่ยถาม"พระจันทร์น่ามองตรงที่ใดกัน ข้ายังน่ามองกว่าตั้งเยอะ"จางลู่หลินเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ลอบเบ้ปากคราหนึ่ง "หลงตนเองเกินไปแล้ว"หลี่เหว่ยหันตัวนางให้กลับมามองเขา จางลู่หลินมองสบตากับบุรุษตรงหน้าเล็กน้อย"จางลู่หลิน เจ้ามันน่ารังเกียจ น่ารังเกียจยิ่งกว่าผู้ใด"เพียงเขาเอ่ยปากพูดก็เอาแต่พ่นวาจาเหน็บแนมนางจนนางคร้านที่จะถกเถียงกับเขาแล้ว หญิงสาวยื่นสองมือไปประคองใบหน้าของเขาเอาไว้ และพินิจมองอย่างชื่นชม"หลี่เหว่ย ข้าว่า ข้าคงชอบท่านเข้าแล้วล่ะ ไม่สิ อยู่ด้วยกันมานานขนาดนี้ ไม่ใช่เพียงแค่ชอบเท่านั้นแต่ข้าหลงรักท่านแล้วต่างหาก"หลี่เหว่ยที่ได้ยินเช่นนั้นแววตาก็ทอประกายวูบไหว เขาไม่ได้เมามายถึงขนาดขาดสติ ย่อมฟังวาจาที่นางกล่าวออกมาได้อยางชัดเจนแจ่มแจ้ง ใจของเขาเต้นถี่ระรัวอย่างบ้าคลั่ง แต่ว่าค

  • องค์ชายสารเลวท่านจะตีข้าหรือ   ตอนที่ 31 ชัยชนะ

    เมื่อสงครามจบลง หลี่เหว่ยได้สั่งให้ฝังศพเหล่าทหารกล้าเอาไว้ที่ริมแม่น้ำซึ่งมีทัศนียภาพที่งดงามที่สุดในชายแดน อีกทั้งยังเทสุราลงบนพื้นเป็นการไว้อาลัยให้กับพวกเขาที่ร่วมต่อสู้ด้วยกันมาจนได้รับชัยชนะหลายบ้านที่บุตรชายกลับมาอย่างปลอดภัยล้วนดีใจเป็นอย่างมาก แต่บ้านที่ต้องสูญเสียบุตรชายในสนามรบต่างเศร้าโศกเสียใจอย่างสุดซึ้ง หลี่เหว่ยเองก็ปลอบประโลมพวกเขาเป็นอย่างดีเมื่อได้เห็นว่าเขาอ่อนโยนกับเหล่าชาวบ้านเช่นนี้ จางลู่หลินก็นับว่าได้เปิดหูเปิดตาไม่น้อย เขาเอาใจใส่ราษฎรเป็นอย่างดี เรื่องเล็กๆน้อยๆล้วนคิดอ่านอย่างละเอียดรอบคอบก่อนหน้านี้ที่หลี่หรงลอบนำกองกำลังทหารออกไปได้ และจัดการเผาทำลายหมู่บ้านหลานฮวา โชคดีที่หลีเหว่ยส่งคนเฝ้าจับตาดูมานานจึงช่วยเหล่าชาวบ้านออกมาได้ ตอนนี้ทุกคนมารวมตัวกันอยู่ที่เมืองหนานหลิงและปลอดภัยดี เฟิ่งเฉวียนก็ให้การดูแลพวกเขาอย่างไม่มีขาดตกบกพร่องเมื่อได้รับชัยชนะ แน่นอนว่าย่อมต้องมีการเฉลิมฉลอง เหล่าชาวบ้านในชายแดนชำนาญการล่าสัตว์และใช้เหยี่ยว อาหารที่นำมาเลี้ยงฉลองจึงมีแต่อาหารที่ชาวบ้านกินกันเป็นประจำ แต่หลี่เหว่ยกลับไม่ได้รังเกียจ เขาร่วมดื่มกินกับเหล่าทหารอย่

  • องค์ชายสารเลวท่านจะตีข้าหรือ   บทที่ 30 สงคราม

    เมื่อแผนการถูกเปิดเผย แน่นอนว่าหรงหวาที่เป็นท่านหญิงผู้มาจากแคว้นฉานซี รวมถึงคนของแคว้นฉานซีทั้งหมดต้องถูกจับตัวมาขังเอาไว้เพื่อรอการไต่สวนเว้นแต่อาซาน ที่หลี่เหวยพาเขาเข้าเฝ้าเสด็จพ่อของตนและบอกความจริงทุกอย่างจนกระจ่างแจ้ง ฮ่องเต้หลี่เจี้ยนยามนี้ล้มป่วยหนักจึงยกมอบเรื่องราวทุกอย่างให้หลี่เหว่ยเป็นคนจัดการ หลี่เหว่ยจึงเสนอความเห็นว่าจะให้อาซานร่วมรบกับแคว้นฉานซี เขาจะทำได้หรือไม่ที่ต้องสู้รบกับแคว้นบ้านเกิดของตน อาซานกลับรับปากโดยไม่ลังเล เขาบอกเพียงว่าขอเพียงหลี่เหว่ยไม่ทำร้ายราฎรผู้บริสุทธิ์ของแคว้นฉานซีเขาก็ยินดีร่วมรบ ส่วนท่านอ๋องและขุนนางชั่วทั้งหลายก็แล้วแต่เวรแต่กรรมเถิดหลี่เหว่ยนับถือในความเด็ดเดี่ยวของอาซาน นับว่าคนผู้นี้ยังมีสติปัญญารู้คิดว่าสิ่งใดควรทำไม่ควรทำเข้าสู่ช่วงต้นฤดูหนาว หลี่เหว่ยก็ได้ทราบข่าวที่ส่งมาจากมู่กุ้ยเหมยที่อยู่ชายแดนว่า หลี่หรงนำกองทัพของตนเข้าร่วมกับแคว้นฉานซี บุกโจมตีชายแดนแคว้นหนานฉีอย่างบ้าคลั่ง ยามนี้ทหารล้มตายไปไม่น้อย ยามนี้นางพยายามต้านอย่างสุดกำลัง ขอให้เขาส่งกำลังเสริมมาช่วยนางโดยด่วนฮ่องเต้หลี่เจี้ยนมีราชโองการให้หลี่เหว่ยยนำกองทัพไปปราบ

  • องค์ชายสารเลวท่านจะตีข้าหรือ   บทที่ 29 จุดจบคนชั่ว

    "ว่าอย่างไรนะ คนหายไปแล้วอย่างนั้นหรือ หายไปได้เช่นไรกัน!"หรงหวาที่ได้ยินองค์รักษ์ลับเข้ามารายงานว่าบิดามารดาของอาซานได้หายออกไปจากจวนของแม่ทัพใหญ่มู่แล้วนางก็กำมือแน่น อีกทั้งยังลอบก่นด่าคนตระกูลมู่ในใจเป็นร้อยเป็นพันครั้งก่อนหน้านี้ตอนที่เดินทางมาแคว้นหนานฉีชินอ๋องหลี่หรงลูกพี่ลูกน้องของนางที่เกิดจากน้องสาวของท่านพ่อ ได้ฝากฝังนางให้แม่ทัพใหญ่มู่คอยดูแล นางจึงส่งบิดามารดาของอาซานไปคุมขังเอาไว้ที่ห้องใต้ดินของจวนตระกูลมู่ อีกทั้งยังให้แม่ทัพใหญ่มู่ทรมานคนตามที่นางสั่ง แม่ทัพใหญ่มู่เป็นคนของชินอ๋องหลี่หรง และเขาเองก็ร่วมมือกับแคว้นฉานซีต้องการจะโค่นล่มแคว้นหนานฉีเช่นเดียวกัน ความแค้นหนหลังของแม่ทัพใหญ่มู่และฮ่องเต้หลี่เจี้ยนนั้นนางไม่ได้ทราบรายละเอียดมากเท่าใดนัก แต่ก็นับว่าดีไม่น้อยที่มีคนหนุนหลังคอยช่วยเหลือแคว้นฉานซีของนาง ซ้ำยังเป็นถึงแม่ทัพใหญ่มากฝีมือแห่งแคว้นเสียด้วยแต่ยามนี้คนกลับหายไป ไม่เพียงเท่านั้น เหล่านักโทษที่ถูกขังเอาไว้ในคุกใต้ดินของจวนตระกูลมู่ก็หายไปด้วยเช่นกัน หากเรื่องราวนี้รู้ถึงหูของฮ่องเต้หลี่เจี้ยนเกรงว่าแม้แต่นางก็อาจจะไม่รอดที่สำคัญ ยามนี้ไม่มีบิดามารดาขอ

  • องค์ชายสารเลวท่านจะตีข้าหรือ   บทที่ 28 เอาใจภรรยาอีกหน

    ด้านหลี่เหว่ยนั้นก็ได้บอกเล่าเรื่องราวทุกอย่างให้เสด็จพ่อของตนฟัง รวมถึงบอกว่าคนที่ถูกจับมาจะสามารถเป็นพยานอย่างดีให้พวกเราได้ และแม่ทัพใหญ่มู่ก็ไม่อาจหนีรอดจากการจับกุมในครั้งนี้ไปได้ฮ่องเต้หลี่เจี้ยนกัดฟันกรอด เขาไม่เคยคาดคิดเลยว่าแม่ทัพใหญ่มู่จะทรยศและหักหลังเขาเช่นนี้ ทั้งที่ก่อนหน้าก็เคยร่วมเป็นร่วมตายในสนามรบด้วยกันมา ต่อสู่ฝ่าฟันทุกอย่างมาด้วยกัน แต่วันนี้กลับคิดทรยศหักหลังเขาได้อย่างเลือดเย็น"รักษาคนที่ถูกจับให้หายดี แล้วทำการไต่สวนพวกเขา หาหลักฐานให้ได้มากที่สุด อีกไม่นานพวกมันคงจะรู้ตัวแล้ว เราต้องรีบจัดการก่อนที่คนร้ายจะไหวตัวทัน""พ่ะย่ะค่ะ""ที่สำคัญ พ่อเชื่อว่าแม่ทัพใหญ่มู่คงไม่อาจจะวางแผนการนี้ได้คนเดียว ต้องมีคนอยู่เบื้องหลังเขาเป็นแน่ เจ้าจงระวังเอาไว้ให้ดี""ลูกทราบแล้ว เช่นนั้นลูกขอตัวก่อน"“อืม”เมื่อไม่มีสิ่งใดแล้วหลี่เหว่ยจึงกลับมาที่จวนของตน เขายังไม่ได้บอกเรื่องของอาซานให้เสด็จพ่อทรงทราบ เพราะเรื่องของแม่ทัพใหญ่มู่ก็เป็นปัญหาใหญ่แล้ว เรื่องอื่นเขายังจัดการด้วยตนเองได้ หากหรงหวายังไม่ยอมรามือจากน้องสาวของเขา เขาจะไม่เก็บนางเอาไว้ คงทำได้เพียงส่งศีรษะของนางกลับ

  • องค์ชายสารเลวท่านจะตีข้าหรือ   บทที่ 27 ช่วยเหลือ

    มู่กุ้ยเหมยขมวดคิ้วมุ่น นางสบตากับหลี่เหว่ยอย่างไม่รู้สึกเกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย นางไม่ได้ทำสิ่งใดผิดย่อมไม่มีเหตุผลใดที่จะต้องเกรงกลัว แต่ที่นางแปลกใจก็คือ เหตุใดหลี่เหวยจึงมาอยู่ในจวนของนางได้ อีกทั้งยังมีองค์หญิงหลี่ฮวาที่ตามมาด้วยหลี่เหว่ยที่เห็นว่ามู่กุ้ยเหมยไม่เอ่ยตอบ ก็ตรงเข้ามาประชิดตัวนาง ก่อนจะยกมีดสั้นวางทาบลงบนลำคอขาวเนียนของมู่กุ้ยเหมยอย่างรวดเร็ว"ตอบมา ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าข้าไม่เห็นแก่หน้าเจ้า ต่อให้เป็นคนที่ข้าฝึกฝนมาเองกับมือ ก็อย่าหวังว่าจะได้รับการละเว้น"มู่กุ้ยเหมยที่ถูกหลี่เหว่ยข่มขู่กลับไม่โกธร นางรู้ดีว่ายามอยู่ในสถาณการณ์คับขัน หลี่เหว่ยก็จะเย็นชาเช่นนี้อยู่เสมอ นางรู้จักเขามานานหลายปี นิสัยของเขานางเข้าใจดีมู่กุ้ยเหมยรีบคุกเข่าลง ก่อนจะเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงที่นอบน้อม"เดิมทีหม่อมฉันก็สงสัยในตัวบิดาตนเองเช่นกัน จึงเข้ามาตรวจดูในห้องตำรานี้ ไม่คาดคิดว่าจะพบห้องลับ และพบว่าเขาจับคนมาขังเอาไว้และทรมานคนเหล่านั้นอย่างทารุณเช่นนี้ องค์ชายใหญ่โปรดวางพระทัย ต่อให้ตัวต้องตาย กุ้ยเหมยก็ไม่มีทางทรยศบ้านเมืองเด็ดขาด หากพระองค์มาเพื่อช่วยคน เช่นนั้นก็รีบมือเถิดเพคะ หม่อมฉั

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status