Share

องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน
องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน
Автор: ใบไม้ร่วงในเมืองร้าง

บทที่ 1

Aвтор: ใบไม้ร่วงในเมืองร้าง
ราชวงศ์ต้าเหยียน ชานเมืองหลงเฉิง เขาต้าอวี่

“ตายซะ!”

เสียงคำรามดังกึกก้อง ดาบคมกริบที่มีแสงเย็นเฉียบแทงเข้าหาหัวใจของฉินซูเร็วยิ่งกว่าสายฟ้า

“คุ้มกันองค์รัชทายาท!”

ราชองครักษ์หลายนายที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ฉินซูตะโกนลั่นด้วยความโกรธ พลางชักดาบขึ้นสู้

ในขณะที่พวกเขากำลังต่อสู้กัน ฉินซูมีแววตาเลื่อนลอย

‘นี่มันเกิดอะไรขึ้น?‘

‘เมื่อกี้ข้ายังอยู่กับเทพีสงครามผู้งดงามในห้องอยู่เลยมิใช่หรือ?’

‘ไฉนจู่ ๆ ข้าถึงมาอยู่ที่นี่ได้?‘

ขณะที่เขากำลังสงสัยอยู่นั้น จู่ ๆ ก็รู้สึกปวดศีรษะแปลบ ความทรงจำที่มิใช่ของตัวเองไหลเข้ามาในสมองราวกับน้ำป่าไหลหลาก!

ราชวงศ์ต้าเหยียน... รัชทายาท…

‘(สะอึก!) นี่ข้าข้ามมิติมาแถมยังกลายเป็นองค์รัชทายาทของราชวงศ์ต้าเหยียนไปแล้วจริง ๆ หรือนี่!‘

ฉินซูตื่นตัวอย่างรวดเร็ว

มิคิดมิฝันว่าการข้ามมิติที่เคยอ่านในนิยายจะเกิดขึ้นจริงกับตัวเอง

ในขณะที่เขากำลังประหลาดใจ เหล่าราชองครักษ์ก็ถูกมือสังหารฟันลงไปกองกับพื้น

(เสียงชักดาบออกมาพร้อมกัน)

มือสังหารสวมหน้ากากเจ็ดหรือแปดคนถือดาบล้อมรอบเขาไว้

หนึ่งในนั้นตะโกนอย่างเย็นชา “ฉินซู ถึงขนาดนี้แล้ว เจ้ายังมิยอมฆ่าตัวตายอีก รอหาอะไรเล่า?”

“ฆ่าตัวตายรึ? ฮ่าฮ่าฮ่า!”

ฉินซูเงยหน้ามองฟ้าหัวเราะลั่น หลังจากหัวเราะอยู่นานเขาก็พูดต่อน้ำเสียงเย้ยหยัน “เศษสวะอย่างพวกเจ้าคิดจะให้ข้าฆ่าตัวตายเช่นนั้นรึ? ใครให้พวกเจ้ากล้าพูดเช่นนี้กันเหลียงจิ้งหรูรึ?”

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ทุกคนก็มองหน้ากันด้วยความงุนงน

“เกิดอะไรขึ้น? เมื่อครู่ฉินซูยังกลัวจนขาแข้งอ่อนอยู่เลยมิใช่รึ เหตุใดตอนนี้ถึงกล้าถึงเพียงนี้กัน?”

“ข้าก็มิรู้ แต่ในเมื่อองครักษ์ของเขาถูกเราฆ่าไปหมดแล้ว ตอนนี้เราถือดาบ เขามีแต่ตัว อย่างไรวันนี้เขาก็ต้องตาย”

“เขาคงคิดจะถ่วงเวลา เมื่อครู่ที่พูดถึงเหลียงจิ้งหรูอะไรนั่น อาจจะเป็นยอดฝีมือที่เขาแอบฝึกฝนไว้ก็ได้ อย่ามัวพูดมาก รีบเข้าไปจัดการเขาเถอะ!”

มือสังหารเหล่านั้นมองฉินซูอย่างดุดัน แกว่งดาบคมกริบในมือแล้วพุ่งเข้าหาฉินซู

ฉินซูส่งเสียงฮึดฮัดอย่างเย็นชา กวัดแกว่งมือออกมาตบพวกเขาหลายครั้ง

ฝ่ามืออันรวดเร็วและรุนแรงนั้นตัดผ่านความว่างเปล่าไป

ทันทีหลังจากนั้น…

“ตุ้บ”

“ตุ้บ ตุ้บ ตุ้บ!”

เสียงล้มลงดังขึ้นอึกทึก ร่างของชายชุดดำเจ็ดคนกลายเป็นละอองเลือด แตกสลายไปในอากาศในทันใด!

ชายชุดดำคนสุดท้ายเห็นสิ่งนี้ก็ยืนตกตะลึงอยู่กับที่ราวกับถูกฟ้าผ่า!

เพียงมิกี่ฝ่ามือก็ทำให้คนทั้งคนกลายเป็นละอองเลือดได้ นี่มันวิชาเทพเซียนอะไรกัน?!

เขาตกตะลึง ดาบในมือร่วงหล่นลงกับพื้นเสียงดัง “เคร้ง”

ฉินซูเหลือบมองเขาแล้วถามอย่างเย็นชา “บอกมา ใครส่งเจ้ามาฆ่าข้า?”

“ตึก ๆ!” (เสียงหัวใจเต้น)

ชายชุดดำรีบคุกเข่าลงบนพื้นและร่างกายสั่นระริก “กราบ… กราบทูลองค์รัชทายาท… เป็น… เป็นท่านอ๋องซิ่น..."

ฉินซูหรี่ตาลงพร้อมกับยิ้มมุมปาก “เจ้าสี่รึ? ฮ่า ๆ เช่นนั้นตัวข้าจะเล่นกับเจ้าเอง!”

ชายชุดดำสับสนอย่างสิ้นเชิงในเวลานี้

วัน ๆ องค์รัชทายาทฉินซูเอาแต่หมกมุ่นอยู่กับสุรานารี ร่างกายอ่อนแอ แม้แต่แรงจะจับไก่ก็ไม่มีเลยด้วยซ้ำ

ยิ่งไปกว่านั้น ในวังยังเล่าลือกันมานานแล้วว่า ฝ่าบาทได้ทรงตัดสินพระทัยแล้วว่าจะปลดเขาออกจากตำแหน่งองค์รัชทายาท และแต่งตั้งองค์รัชทายาทใหม่ในวันชุนเฟิน(1)ปีหน้า

หลังจากที่ฉินซูได้ยินข่าวลือเรื่องนี้ก็ยิ่งท้อแท้ในตัวเองหนักขึ้น เอาแต่ใช้เงินซื้อความสุขอย่างมิรู้จักพอ

แต่ไฉนตอนนี้องค์รัชทายาทไร้ค่าผู้นี้จึงดูเหมือนเป็นคนละคนไปแล้วเล่า?

ในขณะที่ชายชุดดำยังสับสน จู่ ๆ เขาก็รู้สึกหนาวสั่นไปทั้งร่าง ราวกับตกลงไปในหุบเขาน้ำแข็ง!

เมื่อเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นสายตาเย็นชาของฉินซูกำลังจ้องมองมา!

เขาหวาดกลัวจนวิญญาณแทบหลุดออกจากร่าง พลันรีบอ้อนวอนขอชีวิต

“องค์… องค์รัชทายาท โปรดไว้ชีวิตกระหม่อมด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมยินดีทำงานชดเชยความผิดและกล่าวโทษองค์ชายสี่ต่อหน้าองค์จักรพรรดิ…”

ทว่ามิทันที่เขาจะพูดจบ ฉินซูก็สะบัดมือใส่เขาจนกลายเป็นละอองเลือด

แค่ข้ารับใช้ตัวเล็ก ๆ เพียงคนเดียว หากฝ่าบาทเชื่อเขาก็คงปาฏิหาริย์แล้วกระมัง

นอกจากนี้ เมื่อเขาเดินทางข้ามมิติมาเขาได้นำพลังการบ่มเพาะตนอันน่าทึ่งติดตัวมาด้วย

ตอนนี้มิว่าองค์ชายหน้าไหนเขาก็มิกลัวทั้งสิ้น และพร้อมจะจัดการให้สิ้นซาก

ทั้งบัลลังก์และหญิงงาม เขาต้องการทั้งหมด!

ดวงตาของฉินซูฉายแววเย็นชา เขาหันหลังกลับและเดินลงจากภูเขาไป

เดินไปมิไกล ก็ได้พบกับกลุ่มทหารองครักษ์

บุรุษอายุประมาณยี่สิบสามยี่สิบสี่ปีสวมอาภรณ์พญางู มีราชองครักษ์ล้อมหน้าล้อมหลัง

บุคคลนี้มิใช่ใครอื่นแต่เป็นองค์ชายหก ฉินเหยี่ยน!

เมื่อพวกเขาเห็นฉินซูก็พากันตกตะลึง

แววตาประหลาดใจฉายไปทั่วใบหน้าของฉินเหยี่ยน จากนั้นเขาก็เดินออกจากฝูงชน พูดอย่างเหน็บแนมว่า “โอ้ นี่องค์รัชทายาทมิใช่หรือ ช่างบังเอิญเสียจริง”

ฉินซูถามด้วยรอยยิ้มแกน “บังเอิญ? เจ้าพาคนขึ้นเขามามากมายเพียงนี้มิใช่เพื่อมาหาข้ารึ?”

ในความทรงจำของเขา ฉินเหยี่ยน องค์ชายหกผู้นี้เป็นคนเจ้าเล่ห์ร้ายกาจ และเคยวางแผนเล่นงานเขามาหลายครั้ง

ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้กลับพาองครักษ์ขึ้นเขามา วัตถุประสงค์ย่อมชวนให้สงสัย

ฉินเหยี่ยนสะดุ้งไป หัวเราะแห้ง ๆ แล้วพูดว่า “องค์รัชทายาท ท่านล้อเล่นแล้ว ข้าแค่เห็นว่าสายลมและแสงแดดวันนี้ค่อนข้างเป็นใจ เหมาะแก่การเดินเล่นบนเขา เช่นนั้นข้าจึงอยากมาเที่ยวเล่นบ้าง”

องครักษ์ที่อยู่ข้าง ๆ เขาก็พูดเช่นกันว่า “องค์ชายตรัสถูกแล้ว เหตุใดหรือ ภูเขาลูกนี้เป็นขององค์รัชทายาทเพียงผู้เดียวหรือ ท่านมาได้ เรามามิได้หรือ?”

ชายคนนี้ชื่อเฉินฉวิน เป็นองครักษ์พกดาบ(2)ขององค์ชายหกฉินเหยี่ยน ฝีมือมิธรรมดา

ดวงตาของฉินซูเย็นชาอย่างมาก จ้องมองไปยังเฉินฉวิน

เมื่อเฉินฉวินสัมผัสได้ถึงการจ้องมองอย่างอาฆาตของฉินซู หัวใจของเขาก็เต้น “ตึกตัก” อย่างอธิบายมิได้

เหตุใดดวงตาขององค์รัชทายาทไร้ค่าผู้นี้ถึงน่ากลัวเพียงนี้?

ในขณะนั้นเอง ฉินซูยื่นมือออกไปดึงดาบจากเอวของเฉินฉวิน และฟันด้วยหลังมือ!

“อั่ก!”

โลหิตพุ่งออกไปราวกับศร ศีรษะของเฉินฉวินลอยขึ้นไปในอากาศ และหล่นลงสู่พื้น

ร่างไร้หัวสั่นไหวเล็กน้อยก่อนจะหงายหลังลงพื้นไป!

เฮือก!

เมื่อเห็นเหตุการณ์มิคาดฝันนี้ ทุกคนอ้าปากค้างลืมหายใจทันที!

ฉินเหยี่ยนก็ตกใจกลัวเช่นกัน ตะโกนขึ้นด้วยใบหน้าซีดเซียว “องค์รัชทายาท เหตุใดถึงฆ่าองครักษ์ข้าง

กายของข้า หากมิให้คำอธิบาย ข้าจะไปร้องเรียนท่านกับเสด็จพ่อ!"

“ดี เจ้าไปทูลเสด็จพ่อได้เลย ให้เสด็จพ่อรู้ว่าผู้ใต้บังคับบัญชาของเจ้าขบถและต่อต้านอย่างไร!”

“ท่าน...”

ฉินเหยี่ยนโกรธมากจนคันฟัน และเขาพูดอย่างมิมั่นใจ "ท่านเป็นถึงองค์รัชทายาท กลับมาทะเลาะกับบ่าวไพร่ มิคิดว่าเสื่อมเกียรติหรืออย่างไร?”

ฉินซูวางมือไพล่หลังแล้วพูดอย่างเย็นชา "พวกเจ้าก็รู้ว่าข้าคือองค์รัชทายาท เหตุใดจึงมิคุกเข่าและทำความเคารพข้าอีก?!"

ใบหน้าของฉินเหยี่ยนยิ่งดูน่าเกลียดมากขึ้น!

องครักษ์ที่อยู่ข้างหลังเขาก็มองหน้ากันด้วยความสับสน หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง พวกเขาทั้งหมดก็คุกเข่าลงด้วยสีหน้ามิเต็มใจ

“ถวายบังคมองค์ชายรัชทายาท”

ฉินเหยี่ยนมิสามารถรักษาหน้าไว้ได้ จึงประสานมือโค้งคำนับให้ฉินซูเล็กน้อย

ฉินซูแค่นเสียงเย้ยหยันว่า “ตั๊กแตนตำข้าวสะกดรอยจักจั่นโดยมิรู้ว่ามีนกขมิ้นอยู่ข้างหลัง(3) น่าเสียดาย แผนการแยบยลขององค์ชายหกถูกกำหนดให้ล้มพับมิเป็นท่า”

หลังพูดจบเขาก็มิสนใจใครอีก และเดินลงเขาไปทันที

หลังจากที่เฝ้าดูเขาจากไป ฉินเหยี่ยนก็กัดฟันและพูดว่า “สารเลว เจ้าบอกว่าพี่สี่ส่งคนมากำจัดเขาแล้วมิใช่หรือ ไฉนยังมีชีวิตอยู่อีก?”

คนสนิทคนหนึ่งกล่าวอย่างเคร่งขรึม “องค์ชาย ข้าน้อยเห็นกับตาว่าคนของท่านอ๋องซิ่นตามองค์รัชทายาทขึ้นไปบนภูเขา อีกทั้งทุกคนยังพกอาวุธ มิผิดแน่พ่ะย่ะค่ะ”

“ไป ขึ้นไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น!”

ฉินเหยี่ยนออกคำสั่ง ก่อนจะเดินขึ้นเขาไป

มิไกลนัก ฉินเหยี่ยนอดมิได้ที่จะหรี่ตามอง และอ้าปากค้างอีกครั้ง!

วันชุนเฟิน เป็นช่วงที่กลางวันและกลางคืนยาวเท่ากัน เริ่มประมาณวันที่ 20 ถึง 21 มีนาคมของทุกปี

องครักษ์พกดาบคือ องครักษ์ผู้ถือดาบแทนพระองค์

ตั๊กแตนตำข้าวสะกดรอยจักจั่นโดยไม่รู้ว่ามีนกขมิ้นอยู่ข้างหลัง หมายถึง จ้องจะจับแต่เป้าหมายเบื้องหน้าจนไม่สังเกตเห็นอันตรายที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 806

    ฉินซูกระโดดขึ้นครั้งหนึ่ง พริบตาเดียวก็ไปถึงแท่นบูชาสูงเสียดฟ้า!เขากวาดสายตามองทุกคนในลานจากเบื้องสูงด้วยท่าทีเปี่ยมอำนาจ!ที่ใดที่สายตาเขากวาดผ่านไป หาได้มีใครกล้าสบตากับเขาไม่!เมื่อเห็นเช่นนี้ ฉินซูจึงมองไปที่หลัวชางและเอ่ยอย่างเยือกเย็น "ในเมื่อไม่มีผู้ใดต้องการท้าทายอีก เช่นนั้นก็ดำเนินพิธีต่อเถอะ"เมื่อได้ยินเช่นนี้ ทุกคนจึงเพิ่งสังเกตเห็นว่า ลมพายุที่เคยพัดกระหน่ำอย่างรุนแรงนั้นได้สงบลงแล้วอย่างมิน่าเชื่อท่ามกลางท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยเมฆครึ้ม เมฆดำพลันปั่นป่วนขึ้นมาเป็นระลอก จากนั้นแสงแดดสีทองสายหนึ่งก็ส่องทะลุผ่านชั้นเมฆสาดลงมายังร่างของฉินซูภายใต้แสงแดดนี้ ร่างกายของฉินซูเปล่งประกายเป็นชั้นของแสงทองอ่อน ๆ ราวกับเทพเจ้าสงครามที่สวมชุดเกราะทองคำ สง่างามน่าเกรงขามจนทำให้ผู้คนที่เห็นรู้สึกหวาดกลัว!หลัวชางลังเลเล็กน้อยและมองไปที่ซ่างกวนอวิ๋นซี อีกฝ่ายกล่าวขึ้นอย่างนิ่ง ๆ ว่า “บทสวดถวายเครื่องเซ่นได้ถูกเผาแล้ว พิธีบอกกล่าวฟ้าดินก็เสร็จสิ้นแล้ว ส่วนกฎระเบียบหรือขั้นตอนต่อไป เจ้าก็จัดการตามที่เห็นสมควรเถิด”นางพูดจบก็หันไปมองฉินซูด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความนัย จากนั้นก็หันก

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 805

    วิชากระบี่ที่ซับซ้อนถึงเพียงนี้ ฉินซูกลับเรียนรู้ได้ผ่านการดูครั้งเดียว มิหนำซ้ำกระบวนท่าเดียวกัน แต่พลังที่ฉินซูใช้กลับแข็งแกร่งกว่าเขาหลายเท่า ช่างน่าตกตะลึงยิ่งนักเยี่ยนเจิ้นหงครุ่นคิดแล้วก็ตัดสินใจว่า ฉินซูคงแอบเรียนรู้วิชากระบี่นี้ตั้งแต่เมื่อใดก็มิทราบได้ มิเช่นนั้นก็ไม่มีคำอธิบายอีกแล้วแต่ถึงกระนั้น ในใจของเขายังปั่นป่วนด้วยคลื่นลมฉินซูอายุมิถึงสามสิบปี ต่อให้เริ่มฝึกตั้งแต่ยังอยู่ในครรภ์มารดา ก็มิน่าจะแข็งแกร่งได้ถึงเพียงนี้เมื่อคิดได้ดังนั้น เยี่ยนเจิ้นหงก็อดมิได้ที่จะหัวเราะอย่างขมขื่น“พรสวรรค์ของท่านล้ำเลิศเหนือคนธรรมดา สมเป็นอัจฉริยะที่หาได้ยากยิ่งในรอบพันปี ข้าน้อยขอยอมแพ้ด้วยความเต็มใจ!”กล่าวจบ เขาก็ประสานมือคารวะฉินซูด้วยความศรัทธาฉินซูประสานมือเล็กน้อย “น้อมรับ!”จากนั้นจู่ ๆ เขาก็หันไปกล่าวกับซ่างกวนอวิ๋นซี “ท่านเจ้าสำนัก โปรดยืนขึ้นสักครู่ด้วยขอรับ”ซ่างกวนอวิ๋นซีขมวดคิ้วเรียว แต่ก็ยืนขึ้นช้า ๆนางกำลังจะเอ่ยถาม แต่กลับเห็นฉินซูประสานมือไพล่หลัง กวาดสายตามองผู้คนในลานด้วยท่าทีสง่างาม “ทุกท่านที่นั่งอยู่ที่นี่ มีผู้ใดมิยอมรับก็จงลุกยืนขึ้น มิว่าจะเป็นก

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 804

    “กระบี่จงมา!”ฉินซูสะบัดครั้งหนึ่ง กระบี่ยาวในมือของหยางคุนก็ลอยออกจากฝัก บินเข้ามือฉินซูในพริบตาเดียว!หยางคุนมิทันตอบสนอง!ฉินซูร่างทะยานขึ้นสู่กลางอากาศ จากนั้นก็สะบัดกระบี่ยาวชี้ตรงขึ้นไปบนท้องฟ้า!เขาสะบัดแขนอย่างรวดเร็ว เพียงพริบตากระบี่ยาวในมือก็กลายเป็นเงากระบี่นับร้อยสายในห้วงเวหา!“ไป!”กระบี่ยาวถูกตวัดลงไปพร้อมกับเสียงตวาดเบา ๆ ของเขา เงากระบี่ทั่วฟ้าก็พลันหมุนวนรวมตัวกันกลายเป็นมังกรยักษ์ยาวกว่าสิบจั้ง!มังกรยักษ์หมุนวนอยู่ครู่หนึ่ง ก็พุ่งเข้าใส่เยี่ยนเจิ้นหงจากเบื้องบน!ระหว่างนั้น ยังระเบิดเสียงมังกรคำรามอันกึกก้อง!โฮกกก!!ทันทีที่เสียงมังกรคำรามดังขึ้น ผู้คนในลานฝึกยุทธ์ต่างรู้สึกหัวใจสั่นสะท้านอย่างกะทันหันเมื่อเงาร่างมังกรยักษ์ร่วงหล่นลงมา พลังกดดันอันมหาศาลก็พลันปรากฏขึ้นตามมาด้วย“แย่แล้ว ถอย! รีบถอยเร็ว!”จอมยุทธ์ขั้นกลางระดับสวรรค์ผู้หนึ่งสัมผัสได้ถึงความผิดปกติ จึงรีบแผดเสียงดุดันแต่ทันทีที่เขากำลังจะเคลื่อนไหว ก็พบว่าภายใต้พลังกดดันอันมหาศาลนี้ ตนเองกลับก้าวขาได้อย่างยากลำบาก!มิต้องพูดถึงผู้ที่มีวรยุทธ์ต่ำกว่าเขาเลยจอมยุทธ์ขั้นกลางระดับปฐพีขึ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 803

    “ใช่แล้ว ท่านเจ้าสำนักของเราเป็นจอมยุทธ์ขั้นกลางระดับสวรรค์ แต่เมื่อเทียบกับเจ้าสำนักเยี่ยนแล้ว กลิ่นอายกลับอ่อนด้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด!”“เจ้าสำนักเยี่ยนทะลวงขั้นปลายระดับสวรรค์แล้ว แข็งแกร่งยิ่งนัก!”“ขั้นปลายระดับสวรรค์ บวกกับเพลงกระบี่มังกรทะยานขั้นสูงสุด เจ้าสำนักเยี่ยนอาจเรียกได้เป็นอันดับหนึ่งของยุทธภพเป่ยเยี่ยนแล้วกระมัง?”ขณะที่ผู้คนกำลังตะลึงพรึงเพริด เยี่ยนเจิ้นหงก็แผดเสียงดุดัน “เพลงกระบี่มังกรทะยาน มังกรคำรามสะท้านใต้หล้า!”กระบี่ยาวในมือของเขาชี้ขึ้นไปยังท้องฟ้า จากนั้นก็สะบัดอย่างรวดเร็วพร้อมกับเสียงคำราม!ในพริบตาเดียว ทั่วทั้งห้วงอากาศก็เต็มไปด้วยเงากระบี่ที่จับตัวกันเป็นรูปร่าง!“ไป!”เยี่ยนเจิ้นหงใช้กระบี่ยาวชี้ลงไปยังฉินซูจากเบื้องบนเงากระบี่ทั่วฟ้าพลันหมุนวนรวมตัวกัน กลายเป็นเงาร่างมังกรยาวหลายจั้งซึ่งอ้าปากคำรามใส่ฉินซูขณะที่กำลังพุ่งลงมา!ลมพายุคลั่งพลันสงบลง เมฆดำที่ม้วนตัวอยู่บนท้องฟ้าก็ราวกับหยุดนิ่งสายตาของผู้คนทั้งหมดในลาน ต่างจับจ้องไปยังลานประลองตามิกะพริบส่วนฉินซูในเวลานี้ กำลังเงยหน้าขึ้น มองเงาร่างมังกรขนาดใหญ่ที่กำลังถั่งโถมลงมาโดยมิแสดงอ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 802

    ลมกระโชกแรงพัดธงที่ปักอยู่ข้างแท่นบูชาให้ปลิวสะบัดท้องฟ้าที่เคยแจ่มใส บัดนี้เต็มไปด้วยเมฆดำทะมึน ก่อตัวเป็นเกลียวคลื่นภายใต้ลมบ้าคลั่ง ส่งเสียงคำรามเป็นระยะอสรพิษสายฟ้าอ้าปากคำรามปรากฏวูบวาบระหว่างหมู่เมฆดำ!เห็นฉากนี้ ก็มีคนอุทานด้วยความตกใจ “ฟ้าพิโรธ นี่คือฟ้าพิโรธ!”“ท่านเจ้าสำนัก การให้ฉินซู องค์รัชทายาทต่างแดนผู้นี้เป็นบุตรแห่งนักปราชญ์แห่งหอดารารักษ์ ดูท่าแม้แต่สวรรค์ก็มิเห็นด้วย ขอท่านโปรดไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนด้วยเถิด!”“ใช่แล้ว ท่านเจ้าสำนัก พิธีเพิ่งเริ่มก็เกิดปรากฏการณ์ประหลาดเช่นนี้ นี่คือคำเตือนจากสวรรค์!”ได้ยินคำกล่าวนี้ ผู้อาวุโสรองหยางคุนก็กล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ท่านเจ้าสำนัก สวรรค์เตือนแล้ว ขอท่านอย่าได้ทำสิ่งที่ฝืนลิขิตฟ้าเลยขอรับ!”เหล่าผู้อาวุโสที่เหลือเมื่อเห็นดังนั้น ก็พากันแสดงท่าที“คำกล่าวของผู้อาวุโสรองถูกต้องที่สุด ข้าน้อยเห็นด้วยขอรับ!”“ข้าน้อยก็เห็นด้วยขอรับ ขอท่านเจ้าสำนักโปรดพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อหลีกเลี่ยงภัยพิบัติ อย่าได้ก้าวล่วงสวรรค์เลยขอรับ!”เย่เทียนหนิงและเซี่ยจื่อผิงตลอดจนคนอื่น ๆ ต่างตกใจกับปรากฏการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้นอย่างกะทันห

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 801

    ส่วนผู้ที่รู้ความจริง ด้วยความที่ชอบชมความบันเทิงเป็นชีวิตจิตใจ จึงพร้อมใจมิเปิดเผยความจริงในใจของพวกเขาก็หวังว่าผู้มีวรยุทธ์สูงส่งเหล่านั้นจะออกมาจัดการ กำราบความเหิมเกริมของฉินซูลงตัวฉินซูเองนั้นได้กลับไปยังคฤหาสน์ที่เพิ่งซื้อมาใหม่ฉงชูโม่ก็ได้ยินข่าวลือจากข้างนอก จึงขมวดคิ้วถาม “องค์รัชทายาท พระองค์ทรงทราบดีว่ามีคนยุยง แล้วเหตุใดพระองค์จึงยังลงมืออีกเล่าเพคะ?”ฉินซูแสยะยิ้มอย่างมิแยแส “เพราะข้ารู้ว่ามีคนยุยงนั่นแหละ ข้าจึงลงมือ มิเช่นนั้นข้าคงมิสนใจคนพวกนั้น”“โอ้? เพราะเหตุใดหรือเพคะ?” ฉงชูโม่ยิ่งสับสนฉินซูกล่าววาจาแฝงความนัย “ยุทธภพเป่ยเยี่ยนก็คือเป่ยเยี่ยน!”เมื่อเขาพูดเช่นนั้น ฉงชูโม่ก็เข้าใจในทันทีแต่เมื่อคิดว่าฉินซูต้องเผชิญหน้ากับคนทั้งยุทธภพเป่ยเยี่ยน นางก็อดมิได้ที่จะกังวลนิดหน่อย “เป่ยเยี่ยนมิเหมือนหนานเยวี่ย มีผู้มีความสามารถและผู้มีพรสวรรค์มากมาย อีกทั้งพระองค์อยู่ในที่แจ้ง ส่วนพวกเขาอยู่ในที่ลับ… เหตุใดพระองค์จึงมองหม่อมฉันเช่นนี้เพคะ?”ฉงชูโม่พูดของนางไป จนกระทั่งเห็นว่าฉินซูมองนางด้วยสีหน้าแปลกประหลาดฉินซูกะพริบตาปริบ ๆ แล้วถาม “ชูโม่ เจ้าเป็นห่วงข้าหร

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status