공유

บทที่13 การดูควันธูป

last update 최신 업데이트: 2024-12-12 11:01:33

หลังจากที่ดูควันธูปให้คุณนายสี่คนติดต่อกัน หย่งฟางที่เพิ่งตื่นจากการนอนก็รู้สึกง่วงอีกครั้ง ตั้งแต่จำความได้เมื่อสิบปีก่อนก็มีคนมาน้อยมาก หลังจากนั้นก็ไม่มีอีกเลย ปกติเธอกับลุงก็มักจะจุดธูปเองและตีความควันกันเอง ไม่เคยลองดูให้คนเยอะขนาดนี้มาก่อน เลยเพิ่งรู้ว่าคำพูดของอาจารย์ใหญ่เป็นสูตรตายตัว

ใช่แล้ว ที่ว่า “คุณเป็นแขกคนที่…ในรอบสิบปี เทพเจ้าจำคุณได้ จะคอยปกป้องคุ้มครองคุณ” นั้นเป็นเรื่องจริง ไม่ใช่แต่งเรื่องเพื่อให้คนรู้สึกสบายใจ หย่งฟางรู้สึกคล้ายกับว่าตัวเองเป็นฝ่ายบริการลูกค้าของเว็บขายของออนไลน์ เน้นพูดตามแพทเทิร์นก็ซื้อใจลูกค้าได้!

การพูดแบบนี้น่าจะดึงดูดใจลูกค้าได้มั้ง? หย่งฟางยังคงสงสัย เห็นได้ชัดว่าเธอยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่นัก และไม่รู้ว่าในอนาคตจะทำให้เธอมีชื่อเสียงจากการทำนายจนคาดไม่ถึง

สุดท้ายคุณนายคนที่ห้าก็เข้ามาในห้อง

หย่งฟางพิจารณาควันธูป และพบว่ามีสองก้านที่ขาดจากกัน จึงกวาดตาไปที่ควันธูปของคุณนายสี่คนก่อนหน้านี้ และถามด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยดี “คุณซ่งเสี่ยวฮุ่ย คุณขอพรอะไรไว้?”

คุณนายซ่งที่มักไปไหว้พระที่วัดชื่อดังหลายแห่ง ก็พอจะเข้าใจเรื่องนี้บ้าง รู้ว่าควันธูปขาดหมายถึงเรื่องไม่ดี ใบหน้าเริ่มซีดเผือด “ฉันขอให้ลูกชายของฉันปลอดภัย…”

หย่งฟางมองควันธูปที่ขาดและดับลง แล้วถามต่อ “ช่วงนี้ลูกชายคุณเป็นยังไงบ้าง? มีอะไรไม่ดีเกิดขึ้นหรือเปล่า”

“มี!” ซ่งเสี่ยวฮุ่ยตอบอย่างตื่นเต้น “แฟนของเขาเพิ่งเสียไปเมื่อเดือนที่แล้ว…”

“เสียชีวิต?”

ซ่งเสี่ยวฮุ่ยพยักหน้า “หมอชันสูตรบอกว่าเธอกินเหล้าก่อนกินยาเซฟาโลสปอริน เลยทำให้เสียชีวิต” เมื่อเห็นหย่งฟาง นั่งเงียบไม่พูดอะไร คุณนายซ่งก็อดไม่ได้ที่จะพูดต่อ “ตั้งแต่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ลูกชายของฉันกลับมาบ้านหลังจากเลิกงานเสมอ เขากลับมาดื่มที่บ้านทุกวัน ไม่พูดไม่จา สองทุ่มในทุกวันก็ขังตัวเองอยู่ในห้องนอน ฉันคิดว่าเขาคงเศร้ามาก มันน่าแปลกจริงๆ”

หย่งฟางถามสิ่งที่สงสัย “ทำไมถึงคิดว่าเขาแปลก? การที่มีคนรอบตัว…โดยเฉพาะแฟนเกิดเหตุแบบนี้ การที่เขาเศร้าในช่วงเวลาหนึ่ง มันเป็นเรื่องปกติไม่ใช่เหรอ”

ซ่งเสี่ยวฮุ่ยหน้าเสียอ้อมแอ้มก่อนตอบ “เขามีแฟนมาแล้วแปดคน…” แม้ว่าไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่นัก ในการเปิดเผยเรื่องคนในครอบครัว แต่ก็เป็นความจริง…ไม่เคยเห็นลูกชายตัวเองเสียใจกับการเลิกราครั้งไหนทั้งสิ้น แม้ว่าครั้งนี้แฟนสาวจะเสียชีวิตแต่ก็ไม่คิดว่าลูกชายจะเปลี่ยนไปขนาดนี้

หย่งฟางถึงกับพูดไม่ออก “...”

เธอหยิบถังเซี่ยมซีออกมาและยื่นให้ “คิดถึงเรื่องลูกชายของคุณ แล้วเขย่าถังเซี่ยมซีจนกว่าไม้จะหล่นออกมา”

ซ่งเสี่ยวฮุ่ยทำตาม หลังจากครึ่งนาทีไม้เซี่ยมซีหล่นลงมา ไม้ที่เจ็ดสิบสาม นับว่าเป็นไม้ที่ต่ำที่สุด ซึ่งคุณนายซ่งเข้าใจได้ทันที ทำให้ใบหน้าของเธอซีดเผือด 

หย่งฟางหลับตาและท่องคำทำนายในใจ ตัวอักษรแนวตั้งสี่บรรทัดที่มีสีดำลอยขึ้นมาในหัว

“หวนรำลึกถึงเมื่อก่อนเคยมีความสุข แต่บัดนี้กลับได้ยินข่าวร้าย หญิงที่มีใจมั่นคงเจอชายใจร้าย ในที่สุดคนก็รู้ว่าเรื่องนั้นไม่สมหวัง”

หญิงที่มีใจรักมั่นคง เจอชายใจร้าย…

หย่งฟางหยิบยันต์ป้องกันตัวออกมาจากใต้กระถางธูป คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วหยิบยันต์ป้องกันภัยอีกแผ่น พับเป็นสามเหลี่ยมแล้วยื่นให้คุณนายซ่ง

“ให้ลูกชายคุณพกติดตัวไว้ตลอดเวลา ยกเว้นตอนอาบน้ำ แม้กระทั่งตอนนอนก็ต้องพกไว้ ถ้ายันต์เริ่มเปลี่ยนเป็นสีดำให้ติดต่อฉันทันที”

ซ่งเสี่ยวฮุ่ยพยักหน้าและรับไว้ด้วยความขอบคุณ

อาหารเช้าจากร้านเซวี่ยถูกส่งมาที่วัด คุณนายทั้งห้าใช้เวลามาพอสมควรแล้วถึงเวลากลับเสียที แต่เมื่อพวกหล่อนเห็นหย่งฟางกำลังกินอาหารเช้า จึงคิดว่าควรอยู่ต่ออีกสักพัก

หย่งฟางกัดคำหนึ่งในกำลังถูกชม “เซียนน้อยของเรากินเก่งจริงๆ ไม่เสียทีที่เคยเป็นดารา!”

“เซียนน้อยหย่งกินข้าวแล้วมีโชคลาภจริงๆ!”

หย่งฟางฉีกซาลาเปาที่มีน้ำมันอยู่ข้างใน แล้วก็ถูกชมอีก “ช่างฉลาดจริงๆ!”

เธอหยุดกินและพูด “ยังมีเรื่องอะไรอีกไหมคะ คุณนายทั้งห้า?”

เหล่าคุณนายยิ้มอย่างมีเลศนัย “ไม่มีอะไร ไม่มีอะไรเลย แค่อยากถามว่าอาจารย์สามารถมีครอบครัวได้ไหม พวกเราน่ะ…”

ทันใดนั้นคุณนายฉู่ก็รีบพากลุ่มสหายออกไปทันที ก่อนจะไปเธอก็พูดกับหย่งฟาง “เซียนน้อยหย่อง วันที่เริ่มซ่อมแซมวัด ฉันจะมาอีกครั้งนะ!”

หย่งฟางพยักหน้าเล็กน้อย

ในระหว่างทางลงจากภูเขา คุณนายทั้งหลายก็พูดด้วยความดีใจ

 “ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมหยูถังถึงมาภูเขาหลงหย่าอยู่บ่อยๆ เป็นฉันก็คงอยากมาบ่อยๆ เหมือนกัน ฉันชอบอาจารย์หย่งน้อยจริงๆ!”

มาแค่ครั้งเดียวก็ทำให้ใจรู้สึกอบอุ่น

“ใช่ ใช่!” คุณนายคนอื่นๆ เห็นด้วย

อาจารย์ก็ช่างใจดีขออะไรก็ให้ได้ และยังปลอบใจพวกหล่อนด้วยคำพูดทำให้เรารู้สึกดีขึ้น เหมือนกับว่าถูกปลอบโยนและเอาอกเอาใจ

“หยูถัง เธอนี่ใช่ไม่ได้เลย น่าจะพาเรามาตั้งนานแล้ว”

คุณนายฉู่ได้ยินดังนั้นก็เลียนแบบน้ำเสียงพวกหล่อน เอาสิ่งที่พวกนั้นเคยพูดมาเปรียบเทียบ “ใครกันที่เคยบอกว่า สถานที่ที่ยังไม่พัฒนาอาจจะอันตราย?”

คุณนายทั้งหลายหัวเราะเสียงดัง เสียงของพวกหล่อนก้องไปทั่ว ทำให้ใบไม้ของต้นไม้ใหญ่ที่เขียวชอุ่มสองข้างทางสั่นไหวไปตามลม

“ก่อนหน้านี้ไม่เคยรู้มาก่อนว่าภูมิทัศน์ของภูเขาหลงหย่าจะสวยงามขนาดนี้ แต่ไม่ช้าก็เร็ว สถานที่นี้จะได้รับการสนับสนุน จะมีคนมาเดินป่ามากขึ้น และอาจารย์หย่งก็จะมีแขกมาหามากมาย!” คุณนายฉู่พูดอย่างภูมิใจ

พวกหล่อนคุยกันอย่างสนุกสนาน แต่มีเพียงซ่งเสี่ยวฮุ่ยที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวล

กลุ่มคุณนายทั้งหลายสังเกตเห็นจึงปลอบใจ “ไม่เป็นไรหรอก อาจารย์หย่งน้อยบอกแล้วใช่ไหมว่าพ่อของเธอไม่เป็นไร”

ซ่งเสี่ยวฮุ่ยพยายามฝืนยิ้ม และยื่นมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อแจ็กเก็ตกีฬา ลูบยันต์สองแผ่นนั้น ตอนนี้เธอกังวลเรื่องอื่นแล้วนั่นก็คือลูกชายของเธอ ไหนๆ พวกเพื่อนๆ ก็พูดแล้วเลยถามด้วยความอยากรู้ “อาจารย์หย่งให้ยันต์พวกเธอบ้างไหม?”

คุณนายลี่ตอบว “ให้ฉันหนึ่งแผ่น ให้สามีฉันพกไว้”

“อ๋อ…”

คำตอบที่ได้รับทำให้รู้ว่าลูกชายของเธอเท่านั้นที่ได้ยันต์สองแผ่น ซ่งเสี่ยวฮุ่ยอดไม่ได้ที่จะกังวลเรื่องความร้ายแรงของสถานการณ์ 

สวี่อี้ฉินกล่าวคำอำลากับกลุ่มเพื่อนคุณนาย แล้วขับรถกลับบ้าน เมื่อมาถึงเธอมองดูบ้านที่ว่างเปล่า รอยยิ้มบนใบหน้าก็ค่อยๆ ถูกแทนที่ด้วยความเหงา เธอนั่งลงบนโซฟาด้วยความรู้สึกชาๆ ลูกสาวของเธอหลังจากสอบเข้ามหาวิทยาลัยเสร็จ ก็ไปเที่ยวต่างประเทศ ส่วนสามีก็ยังมีข้ออ้างเสมอในการเลี่ยงกลับบ้าน

ไม่ใช่ว่าไม่เชื่อในตัวหย่งฟางและเทพเจ้า แต่เมื่อมองดูบ้านนี้แล้ว มันก็ทำให้รู้สึกเศร้าและคิดว่าจะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นได้ยังไง ความเหงาเย็นเยือกค่อยๆ แทรกซึมเข้ามาในหัวใจ สวี่อี้ฉินเช็ดน้ำตาเงียบๆ และไปหยิบไวน์แดงแก้วหนึ่ง

อย่างไรก็ตามไวน์ยังไม่ทันได้ที่จนพร้อมดื่ม ประตูหน้าบ้านก็ถูกเคาะดังสนั่น สวี่อี้ฉินไปเปิดประตูและเห็นว่าสามีของเธอนอนอยู่บนเปลหาม ใบหน้ามีแต่รอยฟกช้ำ ทั้งศีรษะและคางถูกพันด้วยผ้าพันแผลสีขาว แขนถูกใส่เฝือก ขาก็ถูกดามไว้

 “พี่สะใภ้! พี่หยวนถูกผู้หญิงคนนั้นเรียกคนมารุมทำร้าย!”

 “...” คุณนายสวี่ถึงกับพูดไม่ออก

“หมอบอกว่าขาหัก อย่างน้อยสามเดือนจะลงจากเตียงไม่ได้ พี่สะใภ้คงต้องดูแลพี่หยวนไปก่อน พวกเรามีธุระต้องไปทำต่อ” ชายหลายคนพูดจบก็ทิ้งเปลหามแล้วเดินจากไป

ดังนั้นหลังจากที่เธอกลับบ้านมาได้ไม่ถึงสิบนาที สามีของเธอก็ถูกผู้หญิงคนหนึ่งนอกบ้าน เรียกคนมารุมทำร้ายจนขาหัก อย่างน้อยสามเดือนก็จะลงจากเตียงไม่ได้ นั่นหมายความว่า…เขาจะออกจากบ้านไม่ได้

ใครเล่าจะแม่นเท่าแม่หมอหย่ง!! 

แม่นขนาดนี้หากถูกทักเรื่องไม่ดีมีหน้าซีดนะ

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่ 117 ซ่งชางชิงและสือว่านซือ

    ความเสียสละและจิตใจอันยิ่งใหญ่ของหลงหยวนหยวน ทำให้หย่งฟางรู้สึกประทับใจ หลังจากเก็บกระดูกมังกร ลูกบอลวิญญาณ เทพธิดาน้อยและสัมภาระ หย่งฟางก็ใช้ค่ายกลย่อพื้นที่ออกไปจากเกาะอีกครั้ง เมื่อกลับมาถึงสมาคมเทียนซือ หย่งฟางส่งมอบกระดูกมังกรให้หัวหน้าหลิวที่รอคอยอยู่อาจารย์หลิวถอนหายใจด้วยความโล่งอก จากนั้นเขารีบสั่งให้เหล่านักพรตอาวุโสช่วยกันนำกระดูกมังกรไปรวมเข้ากับเส้นมังกรของแผ่นดิน"ทำได้ดีมาก" หัวหน้าหลิวกล่าวชื่นชม พร้อมส่งสิ่งของบางอย่างให้หย่งฟาง"สิ่งนี้ให้กับหลงหยวนหยวน ถือเป็นรางวัลและคำขอบคุณจากทางสมาคม"เมื่อเปิดดูพบว่ามันคือ เครื่องรางเขามังกร ขนาดเล็กที่หากงูมังกรตัวนั้นได้ใช้ จะช่วยเพิ่มพูนพลังตบะได้อย่างมาก หย่งฟางกล่าวขอบคุณอาจารย์หลิวแทนหลงหยวนหยวน ก่อนเดินออกมาจากห้องทำงาน เมื่อไม่มีธุระใดๆ แล้ว เธอก็พาทุกคนกลับไปยังวัด ซึ่งเวลานั้นเป็นช่วงเย็นพอดีในศาลาเล็กๆ เหล่าสมาชิกสำนักกำลังนั่งชมรายการ สุดยอดปรมาจารย์ ที่กำลังถ่ายทอดสดอยู่ เสียงโวยวายของห่าวจาวไฉและจินเหยาไต้ดังขึ้นอย่างไม่หยุด"ทำไมไม่ให้หยวนหยวนของเราคว้าแชมป์! พวกเขาไม่เข้าใจถึงคุณค่าของวิชาและพลังที่หยวนหยวนใช้เ

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่116 ตัวแทนสมาคมเทียนซือ

    ไม่ใช่แค่ชาวเน็ตจากพื้นที่อื่น ที่เคยได้ยินชื่อเสียงของหย่งฟางและวัดเสวียนเว่ยเท่านั้น แม้แต่คนถานจิงเองรวมถึงคนที่เคยไปไหว้พระขอพรที่วัดเสวียนเว่ย ส่วนใหญ่ก็ไม่เคยเห็นความสามารถ ในการจับผีหรือปราบปีศาจของหย่งฟาง พวกเขาคิดว่าเธอแค่เก่งเรื่องวาดยันต์หรือทำนายโชคชะตา แต่พอลงมือจริงๆ...ไม่ใช่สิ! หย่งฟางเธอทำได้จริงเหรอ?! โคตรเท่เลย!!!ทุกคนดูผ่านหน้าจอมือถือ เหมือนกำลังชมภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ ที่เต็มไปด้วยเอฟเฟกต์สุดอลังการ หย่งฟางปรากฏตัวจากฟากฟ้า ใช้เส้นด้ายแดงสังหารปีศาจทะเลบ้าคลั่ง ราวกับทูตสาวจากสวรรค์ที่ลงมาปราบมาร ปลายนิ้วเรียวยาวเคลื่อนผ่านเส้นด้ายแดง เสริมด้วยใบหน้าสวยตราตรึงทำให้ทุกคนตะลึง ดวงตากลมโตเป็นประกายมีชีวิตชีวา ริมฝีปากเผยรอยยิ้มบางๆ บ่งบอกถึงความสง่างามและเสน่ห์ที่แฝงความขี้เล่น"พี่สาว! ฉันเป็นผี! จับฉันที!!!"หลังจากเหตุการณ์นี้ ทุกคนเริ่มค้นหาผลงานภาพยนตร์ และซีรีส์ที่หย่งฟางเคยแสดง เพื่อจะได้เห็นใบหน้างดงามนั้นอีก และพวกเขาก็พบว่า...ในซีรีส์ย้อนยุค เธอดูดีมาก ท่วงท่าสง่างาม ทรงผมและเครื่องแต่งกายดูเข้ากันทุกมุม โดยเฉพาะฉากต่อสู้ที่ทั้งสวยงามและดุดัน หย่งฟางคือคนที่เ

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่115 กระดูกมังกร

    เช้าวันใหม่ผ่านพ้นไปจนถึงช่วงสาย หย่งฟางขยับตัวในผ้านวมนุ่มอย่างสบายใจ ก่อนจะลุกจากเตียงเชื่องช้า หนิงหมี่และเสี่ยวชิวตื่นกันตั้งแต่เช้า กำลังนั่งเล่นการ์ดพยายามสร้างบ้านจากการ์ดกันอยู่ หลังจากล้างหน้าแปรงฟันเสร็จ หญิงสาวก็เดินออกมาจากห้องน้ำในขณะนั้นบ้านการ์ดที่สองสาวสร้างถูกผลักล้มไปแล้ว บนโต๊ะเล็กมีจานแตงโมหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ วางเรียงไว้อย่างสวยงามแทน หนิงหมี่กับเสี่ยวชิวนั่งเคี้ยวพลางบ่นพึมพำ “อาจารย์หย่ง มีผู้ชายหล่อมากคนหนึ่งฝากมาให้ ลองกินดูสิ” พร้อมกับใช้ส้อมเงินเล็กๆ จิ้มแตงโมชิ้นหนึ่งแล้วยื่นให้หย่งฟางคนที่ฝากมาก็น่าจะเป็นฉู่เหยียนหรือไม่ก็ฉู่สวี่ หย่งฟางงับแตงโมพลางถาม “ผู้ชายหล่อที่ว่าเนี่ย คนโตหรือคนเล็กล่ะ?”หนิงหมี่เอียงคอครุ่นคิดก่อนตอบ “แยกไม่ออกหรอก หล่อทั้งคู่ แต่คนที่ให้แตงโมใส่แว่นนะ”พอได้ยินแบบนั้นหย่งฟางก็รู้ทันทีว่าเป็นฉู่สวี่ น้ำแตงโมหวานฉ่ำซึมซาบอยู่ในโพรงปาก หญิงสาวเดินออกจากห้องพักครุ่นคิดเล็กน้อย ก่อนเคาะห้องฝั่งตรงข้าม ประตูถูกเปิดออกเป็นฉู่สวี่ยืนอยู่ตรงนั้น เขาสวมชุดคลุมอาบน้ำสีดำสนิท ปลายชุดยาวถึงช่วงกล้ามขาเรียวกระชับ ปลายผมที่ยังเปียกเล็กน้อยปกคลุ

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   บทที114 ทะยานสู่ฟ้าแปรเปลี่ยนเป็นเทพ

    หย่งฟางสัมผัสพลังงานรอบตัว ทำให้เข้าใจเหตุผลว่าทำไมหมู่บ้านหลีเจียจึงสงบสุขได้เช่นนี้ ธรรมชาติแห่งคุณธรรมและความเมตตา นักพรตชราตาบอดผู้นี้ มีความเข้าใจในคุณธรรม และเส้นทางแห่งสวรรค์ด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความกรุณา แม้เขาจะมองไม่เห็น แต่รับรู้ได้ว่าการร้องของกบในทุ่งนาคือชีวิต เสียงจิ้งหรีดในยามค่ำคืนคือชีวิตและที่สำคัญที่สุด ซากศพในหอเด็กหญิงก็คือชีวิตเช่นกันทุกค่ำหลังพระอาทิตย์ตกดิน นักพรตชราจะคลำทางไปยังหอเด็กหญิงเพียงลำพัง เพื่อทำพิธีส่งวิญญาณให้กับเด็กที่เสียชีวิต เขาสวดมนต์เสียงเบา มือหมุนลูกประคำ แม้เสียงจะไม่ดังนัก แต่เปี่ยมด้วยพลังและความเมตตา ผู้หญิงในหมู่บ้านมักแอบตามมา ฟังเสียงสวดมนต์ในความมืดพร้อมกับน้ำตาที่ไหลรินเมื่อเขาทำพิธีเสร็จ พวกเธอก็จะใช้สีผ้าห่อศพ เพื่อระบุว่าศพไหนเป็นของลูกตัวเอง จากนั้นก็ขุดหลุมเล็กๆ ใกล้ๆ เพื่อฝังลูกด้วยความระมัดระวัง หอเด็กหญิงค่อยๆ ถูกทำลายลง เหลือไว้เพียงหลุมฝังศพเล็กๆ สองร้อยกว่าหลุมกระจายอยู่รอบบริเวณนักพรตใช้เวลาครึ่งปี ในการมาที่หอเด็กหญิงในยามค่ำคืน เพื่อทำพิธีส่งวิญญาณจนเสร็จสิ้น และระหว่างนั้น เด็กหญิงที่ยังมีชีวิตอยู่ใต้กองศพ ก็ถูก

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่113 อาแปะ

    "จะมีเหตุผลอะไรได้อีก?"หยู่ถังมองหย่งฟางด้วยความตกใจหลีชิงอวี่แสดงท่าทางระแวดระวังเต็มที่ "คุณหย่ง ตกลงคุณเป็นใครกันแน่?""ฉันคือศิษย์วัดเสวียนเว่ย หย่งฟางค่ะ""คุณเป็นนักพรต?!" หลีชิงอวี่มีปฏิกิริยาที่แตกต่างออกไปหย่งฟางพยักหน้าตอบแต่หลีชิงอวี่ถามต่อ "คุณทำพิธีปลดปล่อยวิญญาณได้ไหม?""ทำได้""ถ้าอย่างนั้น ฉันจะบอกคุณ"สาวอีกสองคนร้องไห้พลางพูดขึ้น "พี่สาว ได้โปรดอย่าบอกออกไปเลย ฉันกลัวว่าแม่ของฉันจะถูกจับเข้าคุก..."หลีชิงอวี่กุมมือของน้องสาวทั้งสองไว้แน่น "ไม่ต้องกลัว" จากนั้นเธอหันไปมองหย่งฟางและขอร้อง "ถ้าคุณฟังเรื่องทั้งหมดแล้วคิดจะไปแจ้งตำรวจ ขอให้จับฉันคนเดียวก็พอ"หย่งฟางตอบ "ฉันรับรองแบบนั้นไม่ได้""ไม่เป็นไร" หลีชิงอวี่ยิ้มบางๆ "ฉันจะปกป้องพวกเธอเอง"หลังพูดจบ หลีชิงอวี่ก็เหมือนตกอยู่ในห้วงความคิด ก่อนจะเริ่มเล่าเรื่องราวที่น่าเศร้า จากอดีตของเธอออกมาอย่างช้าๆ ในปี 1988 ที่หมู่บ้านหลีเจีย มีร่างเด็กผู้หญิงกองรวมกันในสถานที่ที่พวกเขาเรียกว่า ‘หอเด็กหญิง’ ทับทมกันจนสูงถึงสองร้อยร่าง แต่นั่นไม่ได้เป็นหอจริงๆ มันคือซากศพของเด็กผู้หญิงที่กองกันจนสูงราวกับเป็นหอคอยเหล่าผู้หญิงร

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่112 หลอกผี

    ผีสาวพุ่งเข้ามาหาหย่งฟาง หญิงสาวหรี่ตาลงคว้ามือจับเล็บยาวสีแดงเพลิงไว้แล้วบิดข้อมือผีตัวนั้น ก่อนจะพลิกแขนที่เหมือนไร้เรี่ยวแรงทิ่มเข้าไปที่ดวงตา ที่มีเลือดไหลซึมออกมา ผีสาวหลับตาและถอยหลังไปหนึ่งก้าว หย่งฟางไม่รอช้าฟาดฝ่ามือเข้าไปที่หลังมือของผีตนนั้น ถึงกับถอยหลังไปไกลหลายเมตร ก่อนที่ร่างของมันจะเสียหลักล้มลงนอนบนพื้นผีสาวอีกตัวในชุดแดงร้องคำรามเสียงดัง พร้อมพุ่งเข้ามาอ้าปากกว้างกางกรงเล็บที่เหยียดตรง ตั้งใจจะจับคอของหย่งฟาง แต่นักพรตสาวเคลื่อนไหวรวดเร็วราวสายลม หลบการโจมตีของผีตัวนั้นได้อย่างง่ายดาย พร้อมกับยกขาถีบเข้าที่ท้องของมัน ผีสาวร้องด้วยความเจ็บปวด ร่างของมันหยุดนิ่งไปชั่วครู่หยู่ถังคิดในใจ ผียังเจ็บได้ด้วยเหรอ? แต่ถึงอย่างนั้นผีสาวก็ไม่ถอยหลัง มันพุ่งเข้าหาหย่งฟางอีกครั้งด้วยความดุดัน ในขณะเดียวกัน ผีสาวที่ล้มลงไปก่อนหน้านี้ก็ฟื้นตัวเหมือนปลาที่กระโดดจากพื้น ตอนนี้หย่งฟางต้องรับมือกับผีสาวถึงสองตัวหยู่ถังไม่คิดมาก รีบตะโกนถาม “อาจารย์หย่ง! ให้ฉันไปหยิบอุปกรณ์ให้ไหม?”“ไม่ต้อง” หย่งฟางตอบสั้นๆ ในขณะที่ยังต่อสู้อยู่ผีทั้งสองตัวบ้าคลั่งมากขึ้น การโจมตีของพวกมันเริ่มทวีควา

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status