หน้าหลัก / แฟนตาซี / ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ / บทที่14 คำทำนายเป็นจริง ลูกชายได้เจอรักแท้แล้ว

แชร์

บทที่14 คำทำนายเป็นจริง ลูกชายได้เจอรักแท้แล้ว

ผู้เขียน: เฉินม่านอิ๋ง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-12 11:06:43

นี่มัน...อาจารย์มีตาทิพย์จริงๆ

ทางด้านหลิวซานซานหลังจากหย่งฟางทำนายว่าลูกชายของเธอได้พบกับรักแท้แล้ว ก็รู้สึกตื่นเต้นจึงไปซื้อวัตถุดิบเพื่อเตรียมทำอาหารไปให้ลูกชายที่คอนโดหรู เพราะต้องการสอบถามว่าเรื่องที่อาจารย์หย่งบอกเป็นความจริงหรือไม่

หลิวซานซานถือถุงผักสด เนื้อสัตว์ และของสดใหม่สามสี่ถุงเข้าไปในคอนโด เมื่อใส่รหัสผ่านประตูแล้วเปิดเข้าไป เธอก็เห็นชายสองคนที่ไม่มีเสื้อผ้านั่งอยู่บนโซฟา

“…”

สุดท้ายชายคนหนึ่งก็พูดขึ้น “แม่ ถ้าผมบอกว่าเรากำลังออกกำลังกาย แม่จะเชื่อไหม?”

หลิวซานซานขว้างไข่ไก่สดจำนวนหนึ่งไปที่ลูกชาย “เธอคิดว่าแม่จะเชื่อรึเปล่าล่ะ?!”

ไข่กระจัดกระจาย ลูกชายร้องไห้ขอความเมตตา หลิวซานซานฟังลูกชายร้องไห้ระบายความอึดอัดใจ เรื่องการค้นพบตัวเองว่าเป็นเกย์ในช่วงวัยรุ่น และเล่าถึงความรักที่ทั้งคู่มีต่อกัน เธอค่อยๆ สงบลง ช่างเถอะ! เป็นแม่คนแล้วต้องเปิดใจกว้าง ยุคสมัยของราชวงศ์ชิงมันจบไปแล้ว ยุคใหม่ก็คือยุคที่ต้องยอมรับ และโอบกอดความแตกต่างของทุกคน

ลูกชายแค่ชอบผู้ชาย ไม่ได้ทำเรื่องผิดอะไร ขอแค่เขามีความสุขก็พอ และถ้าเธอได้สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับแฟนของลูก เธอก็จะมีลูกชายเพิ่มอีกคน ไม่มีอะไรที่ไม่ดีเลย

ดีแล้ว ดีมาก!

อาจารย์หย่งบอกแล้วว่าลูกชายของเธอจะมีความรักที่สมบูรณ์แบบ ถ้าทั้งสองคนใช้ชีวิตด้วยกันอย่างมีความสุข มันก็ดีที่สุดแล้ว

หลิวซานซานพูดโน้มน้าวใจตัวเอง และเพื่อที่จะเข้าใจลูกชายมากขึ้น เธอจึงถามต่อ “ลูกเป็นฝ่ายรุกใช่ไหม?”

“…”

หลิวซานซานเข้าใจแล้ว จึงสูดหายใจลึกๆ สองวินาทีต่อมา เธอลุกขึ้นยืนด้วยความโกรธ และใช้หมอนอิงตีลูกชายเพื่อระบายอารมณ์

“แม่ส่งเธอไปเรียนศิลปะป้องกันตัวที่วัดเส้าหลินตั้งแต่เด็กๆ เพื่อให้เธอเป็นฝ่ายรับเหรอ?!”

ในคืนเดียวกันนั้น เรื่องเล่าของภรรยาในกลุ่มเครือข่ายโซเชี่ยลมีเดียก็แพร่กระจายออกไป ที่เชิงเขาหลงหย่านอกเมืองนั้น มีวัดแห่งหนึ่งชื่อวัดเสวียนเว่ย อาจารย์ที่นั่นขออะไรได้หมด และนักพรตหย่ง สามารถทำนายดวงชะตาได้อย่างแม่นยำ

ทุกคนต่างรอคอยที่จะได้ฟังว่ามันแม่นยำอย่างไร แต่หยูถังยุ่งมาก สวี่อี้ฉินต้องดูแลสามี หลิวซานซานก็ต้องสร้างความสัมพันธ์กับลูกเขย ส่วนซ่งเสี่ยวฮุ่ยก็มีเรื่องกังวลใจ และคุณนายอีกคนกำลังเล่นไพ่นกกระจอกอย่างสนุกสนาน ปากก็พูดได้แต่เรื่องไร้สาระ

ก็มีแค่หนิวลี่เท่านั้นที่มีเวลาว่าง

“หนิวลี่ วัดเสวียนเวยนั้นแม่นจริงๆ เหรอ?”

“จะจริงหรือไม่จริง ลองไปดูเองสิ” หนิวลี่หน้าตาเปล่งปลั่ง ดื่มชาชาเบาๆ “ยังไงก็ตาม ตั้งแต่ที่สามีฉันได้พกยันต์ที่อาจารย์หย่งน้อยให้ไว้…”

หนิวลี่อดไม่ได้ที่จะปิดปากหัวเราะ

หลังจากหัวเราะเสร็จ เธอก็พูดต่อ “น่าเสียดายที่วัดนี้ไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก ทำให้สิบปีมานี้ไม่มีใครมาขอพรจากอาจารย์เลย ฉันเป็นแขกคนที่สี่ในรอบสิบปีที่มาไหว้เจ้าเทพเจ้า ทำให้ท่านดีใจมากและบอกว่าจะจำฉันได้ และจะอวยพรให้ฉันสมปรารถนา”

เมื่อพูดจบเรื่องนี้ก็กลายเป็นตำนานว่า ‘ได้ยินไหม? วัดเสวียนเว่ยบนเขาหลงหย่า ถ้าเป็นคนในกลุ่ม 99 คนแรกที่ไปไหว้เจ้าเทพเจ้า จะได้รับการปกป้องตลอดชีวิต! และได้ยินว่าที่วัดนี้ สิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดคือยันต์สำหรับผู้ชาย’

มีคนถามขึ้น “ยันต์อะไรเหรอ?”

“อ๋อ ก็ยันต์สำหรับเรื่องนั้นน่ะ...ยันต์เสริมสมรรถภาพชาย!”

แม้แต่หย่งฟางยังไม่รู้เลยว่าชื่อ "ยันต์พยุงฟ้า" ที่ตัวเองตั้งไว้อย่างสุภาพนั้น จะมีชื่อเรียกที่ตรงไปตรงมาและไม่ธรรมดาขนาดนี้

ด้วยเหตุนี้วัดเสวียนเว้ยที่เคยเป็นที่พูดถึงในวงการคุณนายไฮโซ ก็เริ่มแพร่กระจายไปในกลุ่มผู้ชาย ยันต์เสริมสมรรถภาพนี่โดนใจพวกเขาเข้าอย่างจัง ทุกคนอยากไปสำรวจดูด้วยตัวเองในวันรุ่งขึ้น แต่ได้รับข่าวว่าวัดเสวียนเว่ยปิดเพื่อปรับปรุงและจะเปิดอีกครั้งในวันขึ้นเดือนหน้า

อะไรนะ? นี่เป็นการเล่นตัวใช่ไหม?

การตลาดแบบหิวโหยเช่นนี้ ดูจะได้ผลดีเป็นพิเศษในหมู่คนมีเงิน วันขึ้นเดือนใหม่ใช่ไหม? เยี่ยม! พวกเขาตั้งนาฬิกาปลุกไว้ตั้งแต่เที่ยงคืนตี!

เมื่อถึงวันที่หย่งฟางกำหนดให้เป็นวันมงคล สำหรับการเริ่มปรับปรุง ตอนแปดโมงเช้าหยูถังก็ถือหมูเปรี้ยวหวาน ที่ทำจากบ้านมาพร้อมกับทีมงานก่อสร้างขึ้นไปที่วัด

หัวหน้าทีมก่อสร้างถือแบบแปลนมาจำนวนหนึ่ง หย่งฟางมีส่วนร่วมในการออกแบบอารามหลัก ดังนั้นพวกเขาจะทำตามแบบแปลนอย่างเคร่งครัด และแน่นอนว่าไม่กล้าลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์

ส่วนที่อื่นๆ หยูถังได้บอกความคิดของเธอว่า “อารามรองคือห้องของอาจารย์ ต้องทำให้สะอาดและปลอดสารพิษ วัสดุที่ใช้ต้องแน่ใจได้ว่าไม่มีสารฟอร์มาลดีไฮด์ เข้าใจใช่ไหม?”

หัวหน้าทีมยิ้มแห้งๆ “คุณนายฉู่ เราไม่กล้าหลอกคุณหรอกครับ รับรองว่าเราจะทำงานอย่างดีที่สุด และไม่ข้ามขั้นตอน คุณวางใจได้เลย”

“อืม ให้ติดตั้งประตูหนักๆ ที่ศาลารองด้วย และทำครัวเล็กๆ ติดกระเบื้องผนังให้สวยๆ”

หัวหน้าทีมพยักหน้าหลายครั้ง และสั่งให้คนของเขาเอาผ้าสีแดง คลุมเทวรูปเทพเจ้าสูงสามเมตรเพื่อป้องกันฝุ่น ส่วนงานปิดทองเทวรูปนั้น จะเป็นหน้าที่ของช่างฝีมือ ที่หยูถังจะเชิญมาทำหลังจากงานปรับปรุงเสร็จสิ้น 

หย่งฟางถูกปลุกด้วยเสียงคนทำงาน จึงรู้ว่าคุณนายฉู่ต้องการปรับปรุงห้องของเธอด้วย หญิงสาวกอดหมอนและตุ๊กตาลงมาจากเตียงเพราะเธอถูกไล่แล้ว และไปยืนดูคุณนายฉู่จัดกระเป๋าให้ 

“แล้วฉันจะไปพักที่ไหน?”

“ฉันจองโรงแรมไว้ให้แล้ว เป็นโรงแรมของครอบครัวหนิวลี่ สามีของหล่อนยังระลึกถึงบุญคุณของเธอและเพทเจ้า เลยให้เข้าพักฟรีไม่คิดเงิน แต่ถ้าอยู่ไม่สะดวก ค่อยไปพักที่บ้านหลิวซานซานก็ได้”

เสียงเจาะไม้และเสียงเลื่อยดังก้องไปทั่ว เสียงดังจนทำให้ฝาปิดถังน้ำขนาดใหญ่ในลานกลางแทบจะปิดไม่อยู่ หย่งฟางถอนหายใจ แล้วจะทำยังไงดี? เธอเดินไปเปิดฝาไม้ออก และทันใดนั้นลูกบอลสีเทากลมๆ ก็โดดขึ้นมาบนฝ่ามือของเธอ ก่อนที่จะสงบลงทันที

เมื่อกลับไปที่ห้อง หย่งฟางเตรียมเก็บของพร้อมๆ กับคุณนายฉู่ แต่เมื่อเธอเข้าใกล้ลูกบอลสีเทานั้นก็พ่นน้ำออกมาอย่างแรง จากนั้นเริ่มสบถ 

“พวกตระกูลฉู่ อย่ามากเกินไปนัก! ฉันอุตส่าห์หาที่พักผ่อนสบายๆ ได้ พวกแกยังจะมาทำลายอีก! ฉันจะไม่ให้อภัยพวกก!”

หยูถังที่โดนน้ำกระเด็นใส่ ไม่พูดอะไร แต่หยิบทิชฉู่ขึ้นมาเช็ดหน้าอย่างเยือกเย็น “เธอเกลียดฉันมันเป็นเรื่องปกติ ฉันยอมรับ ไม่ได้ตั้งใจจะรบกวนเธอ แต่ที่นี่ควรได้รับการปรับปรุง เพื่อให้ท่านอาจารย์หย่งและเทพเจ้าได้อยู่สบายขึ้น” แล้วเธอก็หันไปถามหย่งฟาง “สีของหล่อนดูจางลงแล้ว... ถ้าจางลงจนหมด แปลว่าสามารถปลดปล่อยวิญญาณได้ใช่ไหม?”

“มันไม่เกี่ยวกับแก! ฮึ่ม! พวกคนตระกูลฉู่พยายามจะกำจัดฉันอยู่แล้ว ไม่มีเจตนาดีหรอก! ฉันไม่อยากจากไป!” ลูกบอลเล็กๆ เด้งดึ๋งๆ อยู่บนฝ่ามือของหย่งฟาง ด้วยความโกรธ

หย่งฟางและหยูถังไม่สนใจคำพูดของเธอ

“ใช่ แต่มีปัญหาอยู่อย่างหนึ่ง การปลดปล่อยวิญญาณต้องรู้ชื่อ เธอบอกว่าเธอจำไม่ได้แล้ว จำได้แค่ว่าโดนคนของตระกูลฉู่ฆ่าและเธอต้องการแก้แค้น ถ้าสะดวก ช่วยหาข้อมูลจากตระกูลฉู่เกี่ยวกับเธอด้วย ถ้าไม่มีข้อมูล ก็หวังว่าพลังคำสาปและความอาฆาตในตัวเธอจะหายไปและเธอจะจำได้เอง” หย่งฟางบอกในสิ่งที่รู้มา

“ได้” หยูถังพยักหน้า

เมื่อหย่งฟา เก็บลูกบอลสีเทาใส่กระเป๋าผ้า ลูกบอลก็เริ่มกระโดดขึ้นลง “เธอ นี่มันไม่ใช่เครื่องมือจับผีใช่ไหม?!”

หย่งฟางไม่ตอบและใส่มันลงไปในกระเป๋าทันที หลังจากเก็บห้องเสร็จ เธอก็เข้าไปในอารามหลักและห่อป้ายชื่อด้วยผ้าสีแดง ก่อนจะหยิบธูป เทียน และตะเกียงน้ำมันไป แล้วจึงตามหยูถังลงจากภูเขาไป 

บนรถหย่งฟาง รับประทานข้าวร้อนๆ กับหมูเปรี้ยวหวานจากกล่องอาหาร มันทั้งเปรี้ยวและหวาน ช่วยให้เจริญอาหารได้ดี

หยูถังตื่นเต้นจนต้องโทรหาฉู่เหยียน “เซียนน้อยหย่งและเทพเจ้าลงเขามากับแม่แล้ว...พักที่ไหนเหรอ พักที่โรงแรมของป้าหนิวลี่...อืม จะดูแลพวกเขาอย่างดี...เดี๋ยวก่อน มีสายซ้อนเข้ามา แม่ขอคุยกับอีกสายหนึ่งก่อนนะ”

หยูถังมองเบอร์โทรเข้ามาแล้วรับสาย “เสี่ยวฮุ่ยเหรอ? อย่าเพิ่งร้องไห้ อาจารย์หย่งอยู่กับฉัน...ทางโทรศัพท์พูดไม่สะดวก ฉันกำลังจะไปที่โรงแรมบ้านหนิวลี่ เธอก็มาด้วยกันนะ”

หลังจากวางสาย หยูถังหันไปบอกหย่งฟาง “ที่บ้านของเสี่ยวฮุ่ยเกิดเรื่องแล้ว”

มีเรื่องมาไม่ได้ขาดดด ยิ่งดีกับลูกชายคุณซานซานด้วยนะครับ

ในที่สุดก็ได้เจอรักแท้แล้ววววววววววว

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่ 117 ซ่งชางชิงและสือว่านซือ

    ความเสียสละและจิตใจอันยิ่งใหญ่ของหลงหยวนหยวน ทำให้หย่งฟางรู้สึกประทับใจ หลังจากเก็บกระดูกมังกร ลูกบอลวิญญาณ เทพธิดาน้อยและสัมภาระ หย่งฟางก็ใช้ค่ายกลย่อพื้นที่ออกไปจากเกาะอีกครั้ง เมื่อกลับมาถึงสมาคมเทียนซือ หย่งฟางส่งมอบกระดูกมังกรให้หัวหน้าหลิวที่รอคอยอยู่อาจารย์หลิวถอนหายใจด้วยความโล่งอก จากนั้นเขารีบสั่งให้เหล่านักพรตอาวุโสช่วยกันนำกระดูกมังกรไปรวมเข้ากับเส้นมังกรของแผ่นดิน"ทำได้ดีมาก" หัวหน้าหลิวกล่าวชื่นชม พร้อมส่งสิ่งของบางอย่างให้หย่งฟาง"สิ่งนี้ให้กับหลงหยวนหยวน ถือเป็นรางวัลและคำขอบคุณจากทางสมาคม"เมื่อเปิดดูพบว่ามันคือ เครื่องรางเขามังกร ขนาดเล็กที่หากงูมังกรตัวนั้นได้ใช้ จะช่วยเพิ่มพูนพลังตบะได้อย่างมาก หย่งฟางกล่าวขอบคุณอาจารย์หลิวแทนหลงหยวนหยวน ก่อนเดินออกมาจากห้องทำงาน เมื่อไม่มีธุระใดๆ แล้ว เธอก็พาทุกคนกลับไปยังวัด ซึ่งเวลานั้นเป็นช่วงเย็นพอดีในศาลาเล็กๆ เหล่าสมาชิกสำนักกำลังนั่งชมรายการ สุดยอดปรมาจารย์ ที่กำลังถ่ายทอดสดอยู่ เสียงโวยวายของห่าวจาวไฉและจินเหยาไต้ดังขึ้นอย่างไม่หยุด"ทำไมไม่ให้หยวนหยวนของเราคว้าแชมป์! พวกเขาไม่เข้าใจถึงคุณค่าของวิชาและพลังที่หยวนหยวนใช้เ

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่116 ตัวแทนสมาคมเทียนซือ

    ไม่ใช่แค่ชาวเน็ตจากพื้นที่อื่น ที่เคยได้ยินชื่อเสียงของหย่งฟางและวัดเสวียนเว่ยเท่านั้น แม้แต่คนถานจิงเองรวมถึงคนที่เคยไปไหว้พระขอพรที่วัดเสวียนเว่ย ส่วนใหญ่ก็ไม่เคยเห็นความสามารถ ในการจับผีหรือปราบปีศาจของหย่งฟาง พวกเขาคิดว่าเธอแค่เก่งเรื่องวาดยันต์หรือทำนายโชคชะตา แต่พอลงมือจริงๆ...ไม่ใช่สิ! หย่งฟางเธอทำได้จริงเหรอ?! โคตรเท่เลย!!!ทุกคนดูผ่านหน้าจอมือถือ เหมือนกำลังชมภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ ที่เต็มไปด้วยเอฟเฟกต์สุดอลังการ หย่งฟางปรากฏตัวจากฟากฟ้า ใช้เส้นด้ายแดงสังหารปีศาจทะเลบ้าคลั่ง ราวกับทูตสาวจากสวรรค์ที่ลงมาปราบมาร ปลายนิ้วเรียวยาวเคลื่อนผ่านเส้นด้ายแดง เสริมด้วยใบหน้าสวยตราตรึงทำให้ทุกคนตะลึง ดวงตากลมโตเป็นประกายมีชีวิตชีวา ริมฝีปากเผยรอยยิ้มบางๆ บ่งบอกถึงความสง่างามและเสน่ห์ที่แฝงความขี้เล่น"พี่สาว! ฉันเป็นผี! จับฉันที!!!"หลังจากเหตุการณ์นี้ ทุกคนเริ่มค้นหาผลงานภาพยนตร์ และซีรีส์ที่หย่งฟางเคยแสดง เพื่อจะได้เห็นใบหน้างดงามนั้นอีก และพวกเขาก็พบว่า...ในซีรีส์ย้อนยุค เธอดูดีมาก ท่วงท่าสง่างาม ทรงผมและเครื่องแต่งกายดูเข้ากันทุกมุม โดยเฉพาะฉากต่อสู้ที่ทั้งสวยงามและดุดัน หย่งฟางคือคนที่เ

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่115 กระดูกมังกร

    เช้าวันใหม่ผ่านพ้นไปจนถึงช่วงสาย หย่งฟางขยับตัวในผ้านวมนุ่มอย่างสบายใจ ก่อนจะลุกจากเตียงเชื่องช้า หนิงหมี่และเสี่ยวชิวตื่นกันตั้งแต่เช้า กำลังนั่งเล่นการ์ดพยายามสร้างบ้านจากการ์ดกันอยู่ หลังจากล้างหน้าแปรงฟันเสร็จ หญิงสาวก็เดินออกมาจากห้องน้ำในขณะนั้นบ้านการ์ดที่สองสาวสร้างถูกผลักล้มไปแล้ว บนโต๊ะเล็กมีจานแตงโมหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ วางเรียงไว้อย่างสวยงามแทน หนิงหมี่กับเสี่ยวชิวนั่งเคี้ยวพลางบ่นพึมพำ “อาจารย์หย่ง มีผู้ชายหล่อมากคนหนึ่งฝากมาให้ ลองกินดูสิ” พร้อมกับใช้ส้อมเงินเล็กๆ จิ้มแตงโมชิ้นหนึ่งแล้วยื่นให้หย่งฟางคนที่ฝากมาก็น่าจะเป็นฉู่เหยียนหรือไม่ก็ฉู่สวี่ หย่งฟางงับแตงโมพลางถาม “ผู้ชายหล่อที่ว่าเนี่ย คนโตหรือคนเล็กล่ะ?”หนิงหมี่เอียงคอครุ่นคิดก่อนตอบ “แยกไม่ออกหรอก หล่อทั้งคู่ แต่คนที่ให้แตงโมใส่แว่นนะ”พอได้ยินแบบนั้นหย่งฟางก็รู้ทันทีว่าเป็นฉู่สวี่ น้ำแตงโมหวานฉ่ำซึมซาบอยู่ในโพรงปาก หญิงสาวเดินออกจากห้องพักครุ่นคิดเล็กน้อย ก่อนเคาะห้องฝั่งตรงข้าม ประตูถูกเปิดออกเป็นฉู่สวี่ยืนอยู่ตรงนั้น เขาสวมชุดคลุมอาบน้ำสีดำสนิท ปลายชุดยาวถึงช่วงกล้ามขาเรียวกระชับ ปลายผมที่ยังเปียกเล็กน้อยปกคลุ

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   บทที114 ทะยานสู่ฟ้าแปรเปลี่ยนเป็นเทพ

    หย่งฟางสัมผัสพลังงานรอบตัว ทำให้เข้าใจเหตุผลว่าทำไมหมู่บ้านหลีเจียจึงสงบสุขได้เช่นนี้ ธรรมชาติแห่งคุณธรรมและความเมตตา นักพรตชราตาบอดผู้นี้ มีความเข้าใจในคุณธรรม และเส้นทางแห่งสวรรค์ด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความกรุณา แม้เขาจะมองไม่เห็น แต่รับรู้ได้ว่าการร้องของกบในทุ่งนาคือชีวิต เสียงจิ้งหรีดในยามค่ำคืนคือชีวิตและที่สำคัญที่สุด ซากศพในหอเด็กหญิงก็คือชีวิตเช่นกันทุกค่ำหลังพระอาทิตย์ตกดิน นักพรตชราจะคลำทางไปยังหอเด็กหญิงเพียงลำพัง เพื่อทำพิธีส่งวิญญาณให้กับเด็กที่เสียชีวิต เขาสวดมนต์เสียงเบา มือหมุนลูกประคำ แม้เสียงจะไม่ดังนัก แต่เปี่ยมด้วยพลังและความเมตตา ผู้หญิงในหมู่บ้านมักแอบตามมา ฟังเสียงสวดมนต์ในความมืดพร้อมกับน้ำตาที่ไหลรินเมื่อเขาทำพิธีเสร็จ พวกเธอก็จะใช้สีผ้าห่อศพ เพื่อระบุว่าศพไหนเป็นของลูกตัวเอง จากนั้นก็ขุดหลุมเล็กๆ ใกล้ๆ เพื่อฝังลูกด้วยความระมัดระวัง หอเด็กหญิงค่อยๆ ถูกทำลายลง เหลือไว้เพียงหลุมฝังศพเล็กๆ สองร้อยกว่าหลุมกระจายอยู่รอบบริเวณนักพรตใช้เวลาครึ่งปี ในการมาที่หอเด็กหญิงในยามค่ำคืน เพื่อทำพิธีส่งวิญญาณจนเสร็จสิ้น และระหว่างนั้น เด็กหญิงที่ยังมีชีวิตอยู่ใต้กองศพ ก็ถูก

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่113 อาแปะ

    "จะมีเหตุผลอะไรได้อีก?"หยู่ถังมองหย่งฟางด้วยความตกใจหลีชิงอวี่แสดงท่าทางระแวดระวังเต็มที่ "คุณหย่ง ตกลงคุณเป็นใครกันแน่?""ฉันคือศิษย์วัดเสวียนเว่ย หย่งฟางค่ะ""คุณเป็นนักพรต?!" หลีชิงอวี่มีปฏิกิริยาที่แตกต่างออกไปหย่งฟางพยักหน้าตอบแต่หลีชิงอวี่ถามต่อ "คุณทำพิธีปลดปล่อยวิญญาณได้ไหม?""ทำได้""ถ้าอย่างนั้น ฉันจะบอกคุณ"สาวอีกสองคนร้องไห้พลางพูดขึ้น "พี่สาว ได้โปรดอย่าบอกออกไปเลย ฉันกลัวว่าแม่ของฉันจะถูกจับเข้าคุก..."หลีชิงอวี่กุมมือของน้องสาวทั้งสองไว้แน่น "ไม่ต้องกลัว" จากนั้นเธอหันไปมองหย่งฟางและขอร้อง "ถ้าคุณฟังเรื่องทั้งหมดแล้วคิดจะไปแจ้งตำรวจ ขอให้จับฉันคนเดียวก็พอ"หย่งฟางตอบ "ฉันรับรองแบบนั้นไม่ได้""ไม่เป็นไร" หลีชิงอวี่ยิ้มบางๆ "ฉันจะปกป้องพวกเธอเอง"หลังพูดจบ หลีชิงอวี่ก็เหมือนตกอยู่ในห้วงความคิด ก่อนจะเริ่มเล่าเรื่องราวที่น่าเศร้า จากอดีตของเธอออกมาอย่างช้าๆ ในปี 1988 ที่หมู่บ้านหลีเจีย มีร่างเด็กผู้หญิงกองรวมกันในสถานที่ที่พวกเขาเรียกว่า ‘หอเด็กหญิง’ ทับทมกันจนสูงถึงสองร้อยร่าง แต่นั่นไม่ได้เป็นหอจริงๆ มันคือซากศพของเด็กผู้หญิงที่กองกันจนสูงราวกับเป็นหอคอยเหล่าผู้หญิงร

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่112 หลอกผี

    ผีสาวพุ่งเข้ามาหาหย่งฟาง หญิงสาวหรี่ตาลงคว้ามือจับเล็บยาวสีแดงเพลิงไว้แล้วบิดข้อมือผีตัวนั้น ก่อนจะพลิกแขนที่เหมือนไร้เรี่ยวแรงทิ่มเข้าไปที่ดวงตา ที่มีเลือดไหลซึมออกมา ผีสาวหลับตาและถอยหลังไปหนึ่งก้าว หย่งฟางไม่รอช้าฟาดฝ่ามือเข้าไปที่หลังมือของผีตนนั้น ถึงกับถอยหลังไปไกลหลายเมตร ก่อนที่ร่างของมันจะเสียหลักล้มลงนอนบนพื้นผีสาวอีกตัวในชุดแดงร้องคำรามเสียงดัง พร้อมพุ่งเข้ามาอ้าปากกว้างกางกรงเล็บที่เหยียดตรง ตั้งใจจะจับคอของหย่งฟาง แต่นักพรตสาวเคลื่อนไหวรวดเร็วราวสายลม หลบการโจมตีของผีตัวนั้นได้อย่างง่ายดาย พร้อมกับยกขาถีบเข้าที่ท้องของมัน ผีสาวร้องด้วยความเจ็บปวด ร่างของมันหยุดนิ่งไปชั่วครู่หยู่ถังคิดในใจ ผียังเจ็บได้ด้วยเหรอ? แต่ถึงอย่างนั้นผีสาวก็ไม่ถอยหลัง มันพุ่งเข้าหาหย่งฟางอีกครั้งด้วยความดุดัน ในขณะเดียวกัน ผีสาวที่ล้มลงไปก่อนหน้านี้ก็ฟื้นตัวเหมือนปลาที่กระโดดจากพื้น ตอนนี้หย่งฟางต้องรับมือกับผีสาวถึงสองตัวหยู่ถังไม่คิดมาก รีบตะโกนถาม “อาจารย์หย่ง! ให้ฉันไปหยิบอุปกรณ์ให้ไหม?”“ไม่ต้อง” หย่งฟางตอบสั้นๆ ในขณะที่ยังต่อสู้อยู่ผีทั้งสองตัวบ้าคลั่งมากขึ้น การโจมตีของพวกมันเริ่มทวีควา

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status