เข้าสู่ระบบ"ขอบคุณมากครับ" เรนรู้สึกอุ่นใจที่มีแบ็คอัปเป็นแก๊งนี้
พวกเขาคุยกันต่อเรื่องแผนการจากนั้นก็บอกลาและวางสาย
ชายหนุ่มปิดคอมพิวเตอร์ แล้วเดินไปยังบ้านข้างๆ พอเข้าไปภายในก็ได้กลิ่นหอมของอาหารโชยมา เขาเริ่มเคยชินกับการตื่นมาแล้วมีคนทำกับข้าวให้กินแบบนี้เสียแล้ว รู้สึกถูกสปอยล์ชอบกล
ร่างสูงชะงักเท้าเมื่อเห็นว่าน้องเอิร์ธกำลังนั่งเล่นเกมอยู่ที่ห้องนั่งเล่น และข้างๆ เด็กน้อยก็มีหญิงแปลกหน้านั่งอยู่ด้วย เจ้าหล่อนกำลังเล่นเกมกับน้องเอิร์ธเสียด้วยสิ เขาจึงเดินไปหยุดอยู่ด้านหลัง แล้วยืนมอง
"โอ้โห เก่งโคตรเลยน้า เจ๋งสุดๆ" น้องเอิร์ธกล่าวชมคนที่เพิ่งยิงถล่มฐานของฝ่ายตรงกันข้าม ฆ่าตัวร้ายเบอร์ใหญ่ได้หลายตัว
เรนยืนมองอย่างสนใจ... คนบ้าคนนี้สมองบางส่วนยังใช้การได้อยู่... ไม่อย่างนั้นคงเล่นเกมไม่ได้ เพราะเจ้าหล่อนจำได้ว่าเคยเล่นมันถึงเล่นได้จริงไหม... นั่นแสดงว่าความทรงจำยังมีหลงเหลืออยู่ เพียงแต่ต้องกระตุ้นให้จำได้
ขณะนั้นหญิงสาวหันมาเห็นเขาเข้าพอดี ใบหน้าซีดอยู่แล้วก็ซีดเผือดลงไปอีก... หล่อนกลัวเขา
เรนเลิกสนใจแล้วเดินไปยังห้องครัว พบร่างเพรียวระหงกำลังสาละวนทำอาหารอยู่
"ให้พี่ช่วยอะไรไหม"
ฟ้าใสเงยหน้าขึ้นมองร่างสูงในเสื้อยืดกางเกงยีนสีดำ เขาชอบแต่งสีดำอยู่เป็นนิจจนเธอคุ้นชินตาไปแล้ว
"งานเดิมค่ะ จัดโต๊ะ" ฟ้าใสมองดูคนที่เข้ามายกจานอาหารไปวางที่โต๊ะทานข้าว จากนั้นเขาก็เปิดตู้หยิบจานและช้อนส้อมมาจัดวางอย่างรู้หน้าที่
"ตกลงชื่ออะไร"
"คะ?" ฟ้าใสไม่เข้าใจว่าเขาหมายถึงอะไร
"ผู้หญิงคนนั้น"
"อ๋อ... น้องเอิร์ธตั้งชื่อให้ว่าสายลมค่ะ เจ้าตัวก็ดูเหมือนจะชอบนะคะ น้องเอิร์ธบอกว่าบ้านเรามีเมฆา ฟ้าใส มี เรน มี เอิร์ธ เลยให้เป็นสายลม จะได้เป็นพวกเดียวกันค่ะ"
ฟ้าใสขยายความ ทำให้เรนยิ้มบางออกมา ชายหนุ่มเดินไปหาคนที่มีเหงื่อซึมที่ปลายจมูกและขมับเพราะอยู่หน้าเตา เขาหยิบทิชชูมาซับให้อย่างเอาใจใส่ และจับผมเธอที่คลายออกมารวบมัดให้ใหม่
"ชอบจังเวลาฟ้าเดินอยู่ในห้องครัว"
"ทำไมคะ"
"ทำให้พี่คิดถึงแม่ คิดถึงบ้าน ถ้าหากพี่ต้องไป... อย่างน้อยภาพนี้จะเป็นภาพสุดท้ายที่พี่จะจำติดตาไปจนกว่าเราจะได้พบกันอีก"
"ทำไมพูดเหมือนพี่กำลังจะไป..." ฟ้าใสใจหายวาบขึ้นมาทันควัน
"อืม... อีกไม่กี่วัน พี่ต้องไปเขาใหญ่ และไม่รู้ว่าจะได้กลับมาหรือเปล่า"
เพราะงานของเขาไม่อาจบอกได้เลยว่า... ครั้งไหนที่มันจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้กล่าวลา
"ไม่เอา... ฟ้าไม่อยากฟัง เราจะไม่พูดเรื่องนี้กันตอนนี้... พี่เรนนั่งเถอะค่ะ ทานข้าวกันดีกว่า"
ฟ้าใสรีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนาแล้วจูงมือใหญ่ไปยังเก้าอี้ กดเขาให้นั่งลงไป
พอเธอขยับห่างเขาก็รั้งตัวเอาไว้ ดึงให้นั่งลงบนตัก แล้วก้มมาเอาหน้าผากแตะกับหน้าผากของเธอ แล้วหอมแก้ม จากนั้นก็กอดเธอเอาไว้ หญิงสาวก็ซบหน้ากับไหล่กว้าง ต่างอยู่ในอ้อมแขนกันครู่หนึ่ง จนกระทั่งได้ยินเสียงกระแอมกระไอ ฟ้าใสจึงรีบลุกพรวดขึ้น
"พี่เมฆ... ทำไมกลับมาเร็วจังคะ ไหนว่ามีนัดกับเพื่อนไง"
วันนี้เป็นวันอาทิตย์ เมฆาออกบ้านไปแต่เช้ามืด แต่นี่แค่เก้าโมงกว่าก็กลับมาแล้ว พี่ชายเดินไปยังตู้เย็น หยิบขวดน้ำมายกดื่มอย่างกระหายก่อนจะตอบ
"คุยเสร็จแล้ว ส่งขึ้นเครื่องแล้วก็กลับสิ..." เมฆาตอบ แล้วมองเรน
"พี่ขโมยน้องสาวผมไปทั้งคืนเลยนะ... แบบนี้ต้องเรียนผู้ใหญ่ไหม"
น้ำเสียงของเมฆาจริงจัง ลูกผู้ชายสองคนมองตากันอยู่นาทีหนึ่ง
"โตๆ กันแล้ว แต่ต้องเสือกด้วยเหรอ เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัวของฉันกับฟ้า"
น้ำเสียงเรนก็จริงจังพอกัน
"โอเคๆ ผมจะไม่ยุ่งก็ได้ว่ะ แต่อย่าให้เห็นว่ามีคนเจ็บก็แล้วกัน"
เมฆาพูดทิ้งท้ายก่อนจะเดินออกไปจากห้องครัว ทิ้งระเบิดเอาไว้ให้คนสองคนจัดการกันเอาเอง
"พี่เรนอย่าไปฟังพี่เมฆเลยนะคะ"
"พี่ไม่ฟังใครอยู่แล้ว..."
เสียงขรึมกล่าว และใบหน้าของฟ้าใสก็สลดวูบลงไปอย่างช่วยไม่ได้ ร่างสูงขยับลุกขึ้นยืนแล้วเดินมาหา ดึงเธอไปกอด
"พี่ให้สัญญาหรือรับปากอะไรไม่ได้เรื่องอนาคต... แต่พี่สัญญาได้อย่างหนึ่งว่า...พี่จะเป็นของฟ้าคนเดียว"
ฟ้าใสโอบกอดรอบเอวสอบเอาไว้แน่น เข้าใจเขาอย่างที่สุด แม้เรนจะพยายามไม่ให้ความหวังเธอ แต่เธอก็เข้าใจเหตุผลที่เขาต้องทำอย่างนั้น
เสียงการติดต่อดังจากสมาร์ตวอต์ช เรนรีบกดดู เขาขยับร่างทันที
"พี่ต้องไปแล้ว"
"ไปไหนคะ"
"เขาใหญ่"
"ทานข้าวก่อนแล้วค่อยไปไม่ได้เหรอคะ" ฟ้าใสใจหล่นวูบเมื่อเขาส่ายหน้า
"ต้องรีบ แล้วพี่จะติดต่อมานะ ส่วนฟ้าก็ระวังตัวด้วย มีอะไรก็ติดต่อหาพี่ได้ทุกเวลา แอปที่พี่ให้ไว้"
"ระวังตัวด้วยนะคะ ฟ้าจะรอพี่อยู่ที่บ้านนะ"
ประโยคนี้ทำให้ร่างสูงชะงัก เขาดึงเธอเข้าไปกอดแน่นอีกครั้งและไม่พูดอะไร ก้มลงกดจมูกกับผมของเธอทีหนึ่งแล้วก็ปล่อย จากนั้นก็รีบก้าวยาวๆ ออกจากห้องครัวไป ฟ้าใสมองตามจนเขาลับหายออกไปจากประตูบ้าน ภาวนาขอให้เขาปลอดภัยและทำงานสำเร็จ...
"ฟ้าจำผู้ชายคนหนึ่งที่ภูเก็ตได้ไหม ที่ร้านอาหารน่ะ ผู้ชายตัวสูงและใส่แว่น คนที่ฟ้าหันไปทีไรก็เห็นว่าเขามองฟ้าอยู่"เรนลองสะกิดความทรงจำให้เธอ ฟ้าใสก็นิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าเมื่อนึกออก"จำได้ค่ะ เพราะคุยกับเขานิดหนึ่งที่หน้าห้องน้ำ เอ๊ะ... อย่าบอกนะคะว่านั่นคือ...พี่"เรนพยักหน้า..."ใช่...พี่เอง ตอนนั้นพี่กำลังทำงานอยู่""โห...มีอีกมั้ยคะ" เธอถามออกไปอย่างทึ่งจัดและคาดไม่ถึง"ที่ฟ้าได้เจอก็มีแค่นี้แหละ" ส่วนที่ไม่เจอก็ไม่ต้องพูดถึง... มันเยอะมากจนนับไม่ถ้วน ฉายาสายลับพันหน้านั้นไม่เกินจริงหรอกเพลงจบลงพอดี เรนโอบเอวฟ้าใสเดินออกจากฟลอร์ เหลือบสายตาไปเห็นว่าร็อคกับราชาวดียังคงเต้นรำเพลงต่อไปไม่หยุด พี่ชายของเขาทำเหมือนไม่ได้เต้นรำกับเมียมาเป็นชาติอย่างนั้นแหละ เพราะตอนนี้มันทิ้งลูกๆ เอาไว้ที่โต๊ะให้ปู่กับย่าดูแลเฉย แต่จะว่ามันก็ไม่ได้เพราะเขาเองก็ปล่อยลูกๆ ไว้กับคุณตาคุณยายเหมือนกันเรนนึกถึงครั้งที่ร็อคบอกว่ามันกำลังบินมาเมืองไทยเพื่อช่วยเขาปิดจ๊อบแต่ไอ้พี่ชายกลับหายหัวไปเฉย เพิ่งมาเฉลยทีหลังว่ามันโกหก ที่จริงมันไปที่เกาะกลางทะเล จัดการเก็บกวาดลูกน้องของไอ้ฮอล์กจนเกลี้ยง แล้
"ไม่เอาค่ะ อย่าซนสิคะ... นี่มันดึกแล้วนะ เรานอนกันดีกว่า เพราะพรุ่งนี้มีนัดจะต้องไปที่บ้านริมน้ำนะ"หญิงสาวเตือนเบาๆ มารดาของเมฆานัดให้ไปลองชุดที่ท่านเป็นคนออกแบบให้ด้วยตัวเอง หญิงสาวจึงรู้สึกตื่นเต้นมาก ไม่อยากสาย เธอผลักอกกว้างเบาๆ แต่มีหรือเขาจะปล่อยง่ายๆ"แป๊บเดียวเอง น้ำเดียวแล้วจะให้นอน...นะครับ"เขากระซิบขอด้วยภาษาทะลึ่ง พร้อมกับมือไม้ก็ซุกซนไปทั่วตัวเธอไม่ยอมหยุด"คุณนี่นะ..."เธอบ่นงึมงำน้ำเสียงเบาหวิวเพราะเริ่มอ่อนไหวไปกับสัมผัสหวามที่เขากำลังทำอยู่ มืออุ่นล้วงเข้าไปใต้เสื้อแล้วกลิ้งกลึงยอดถันที่ไวต่อความรู้สึก"อา ดีจัง...ผมชอบที่คุณจุดติดเร็วแบบนี้"แววตาที่เต็มไปด้วยไฟปรารถนาปนเว้าวอนของเขาทำให้ซิมใจอ่อนยวบพร้อมกับร่างกายที่อ่อนระทวยตาม เธอไม่เคยใจแข็งกับเมฆาได้เลยสักครั้ง"ไม่เกินยี่สิบนาทีนะคะ" หญิงสาวกล่าวเสียงอ้อมแอ้มเขาไม่ตอบ แต่ก้มมาปิดปากและจุมพิตเธออย่างเร่าร้อนไม่ยอมเสียเวลาอีกต่อไป เมฆารู้ว่ายังไงเมียก็ต้องตามใจเขาอยู่แล้ว ซิมรักเขามาก เขารู้ดี และเขาเองก็รักเธอมากพอกัน ตอนนี้ก็แทบจะรอไม่ไหวแล้วที่จะได้สร้างครอบครัวกับเธอเสียทีและแล้ววันแต่งงานก็มาถึง...พิธีว
"จริงเหรอคะ? ซิมไม่ได้สังเกตเลยเนี่ย" หญิงสาวยกมือขึ้นแตะบริเวณขอบตาด้วยสีหน้ากังวลเล็กน้อยเมฆาคลี่ยิ้มขำที่เธอเชื่อคำกระเซ้าแซวของเขา บุคลิกภายนอกทั่วไปซิมเหมือนผู้หญิงบอบบางและซื่อใส แต่เวลาทำงานตัวตนของซิมจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เธอสามารถสั่งจัดการคนได้ด้วยสีหน้าเรียบเฉย เธอใจแกร่ง เด็ดขาด และกล้าหาญอย่างที่ผู้ชายหลายคนสู้ไม่ได้ เป็นคนสองบุคลิกอย่างแท้จริง เมฆารักเธอทั้งสองเวอร์ชัน และรู้สึกมันเขี้ยวมากเวลาเห็นซิมตามมุกของเขาไม่ทันแบบนี้"ไม่เชื่อก็ไปส่องกระจกบนห้องดูสิ ปะ ผมจะพาไปเอง"ชายหนุ่มกล่าวพลางฉุดมือเธอให้ลุกขึ้น ซ่อนรอยยิ้มพราวเอาไว้"ซิมยังทำงานไม่เสร็จเลยค่ะ" เธอทักท้วงเสียงอ่อน"เอาไว้ทำต่อพรุ่งนี้เถอะ ตอนนี้มันเป็นเวลาพักผ่อนกับผัวนะที่รัก"สีหน้ากรุ้มกริ่มของเขาทำให้ซิมไม่ค่อยแน่ใจนักว่าเขาต้องการจะพักผ่อนจริงๆ แต่ก็ยอมเดินตามแรงดึง จนกระทั่งเข้าไปในห้องนอน พอเขาผลักเธอเบาๆ ให้ล้มลงไปบนเตียง หญิงสาวก็รู้ความนัยว่าไอ้ที่เดาไว้น่ะ...ไม่ผิดเลยสักนิด"คนเจ้าเล่ห์" เธอต่อว่าต่อขานทันที แต่เขาก็ยิ้มรับหน้าตาระรื่น"กับคุณ... ถ้าไม่เจ้าเล่ห์...ผมก็อดจู๋จี๋ด้วยน่ะสิ ทุกวันนี้
กลางดึกของคืนที่มีสายฝนตกโปรยปราย เจ้าหน้าที่ตำรวจสองนายกำลังอยู่เวรที่ด่านตรวจ พวกเขารู้สึกเซ็งและเบื่อหน่ายกับสภาพอากาศแสนอึมครึมและเปียกแฉะนี้เหลือเกิน เวลาค่อนคืนอย่างนี้ก็คงมีแค่คนมีเวรอย่างพวกเขาเท่านั้นแหละที่จะต้องมานั่งถ่างตาทำงานเพื่อให้คนอีกหลายสิบล้านคนได้นอนหลับอย่างเป็นสุขในนิทรารมณ์จนกระทั่งเวลาเลยเที่ยงคืนไปเล็กน้อยก็มีเสียงครืดคราดของวิทยุสื่อสารดังขึ้น เรียกสติที่กำลังเคลิ้มของจ่าหมีให้เงี่ยหูฟังก่อนจะหยิบขึ้นมาดู มันเหมือนคลื่นวิทยุที่ยังจูนไม่ตรงสถานีจึงเกิดเสียงซ่าไม่หยุด"อะไรวะเนี่ย ฟังไม่รู้เรื่องเลยโว้ย ห่าเอ๊ย"จ่าสบถขรม แต่ก็ตั้งใจฟังต่อไป พอมองหาว่ามันมาจากคลื่นความถี่ไหน เขากลับเห็นแต่ตัวเลขยาวเหยียด คล้ายกับว่ามันไม่ได้มาจากแหล่งสื่อสารปกติของพวกตำรวจ ชั่วแวบหนึ่งจ่านึกถึงคำเล่าขานที่ว่าในช่วงสองสามปีมานี้มันมี คลื่นรบกวนพิเศษ ที่ไม่ทราบแหล่งที่มาคอยแจ้งเบาะแสเรื่องพวกกระทำผิดกฎหมายทำให้ตำรวจสามารถจับกุมพวกเดนนรกพร้อมของกลางได้หลายเคสจนเป็นข่าวอยู่เนืองๆ"เตรียมสกัดจับรถเก๋งสีดำ ยี่ห้อโตโยต้า ป้ายทะเบียน กค 781... มียาบ้า... ค้นใต้เบาะและท้ายรถที่มีการต่
สามปีต่อมาฟ้าใสกำลังกล่อมหยาดธาราหลับตอนบ่ายอยู่ในคอกที่ห้องนั่งเล่น เธอเปิดทีวีทิ้งเอาไว้เป็นเพื่อน“จากกรณีเรือสำราญซาฮาราถูกเจ้าหน้าที่ยึดจับและตรวจพบเฮโรอีนจำนวนมากพร้อมกับใต้ท้องเรือมีเด็กผู้หญิงอายุต่ำกว่าสิบแปดปีกว่าสิบคนซ่อนอยู่นั้น เวลานี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการขยายผลและจับกุมนักการเมืองระดับรองหัวหน้าพรรคพร้อมตำรวจระดับนายพลอีกจำนวนสี่คน... ส่วนเบาะแสการจับกุมนั้นเจ้าหน้าที่ไม่อาจเปิดเผยผู้ให้ข้อมูลได้ แต่เท่าที่คนขุดข่าวทราบ เห็นว่าเป็นแหล่งเดียวกันกับเบาะแสคดีทลายบ่อนเถื่อนใจกลางกรุงเมื่อเดือนที่แล้ว...และคดีค้าประเวณีและทารุณกรรมเด็กที่พัทยาเมื่อต้นปีที่ผ่านมา”ฟ้าใสหันไปให้ความสนใจมากขึ้น และเมื่อฟังจบริมฝีปากงามก็คลี่เป็นรอยยิ้มจางๆ แหล่งข่าวปริศนามันจะเป็นฝีมือของใครได้ล่ะ ถ้าไม่ใช่...เรนตอนนี้องค์กรใต้ดินมีบอสใหม่ที่เป็นคนดีและมีอุดมการณ์หนักแน่น ทำให้เรนยอมช่วยเหลือเป็นครั้งคราว แต่ห้ามไม่ให้องค์กรมายุ่งกับชีวิตส่วนตัวของเขาเด็ดขาด เรนขู่ไปว่าถ้ามีใครมายุ่งเขาจะถล่มเกาะเหี้ยนั่นให้มันจบๆ ไป ทุกวันนี้ชีวิตของพวกเขาจึงอยู่อย่างสงบสุขอย่างที่เรนปรารถนา“หลับแล้วเหรอ”
ฟ้าใสฉี่ใส่แก้วเสร็จก็เอามาวางที่เคาน์เตอร์ เรนเอื้อมมือมา แต่เธอรีบตีเพียะ“ไม่ต้องเลยค่ะ ฟ้าจะทำเอง พี่ยืนอยู่เฉยๆ พอ” เธออายจะตายอยู่แล้วตอนนี้ แต่ก่อนที่จะได้ตรวจ ฟ้าใสก็ทำท่าจะขย้อนของเก่าอีกรอบ รีบหมุนตัวไปยังชักโครกแล้วโก่งคออาเจียนยกใหญ่เรนรีบขยับมาลูบหลังให้หญิงสาวอย่างเป็นห่วง“พี่บอกแล้วว่าให้อยู่เฉยๆ ก็ไม่เชื่อ” เขาทำบ่นให้เธอ แต่มือก็คอยลูบหลังและจับผมให้ คว้าทิชชูมาส่งให้เช็ดปากอย่างเอาใจใส่ แล้วก็กดชักโครกให้เสร็จสรรพ“นั่งตรงนี้ พี่จะทำให้เอง”เขาประคองเธอให้นั่งที่ขอบอ่างอาบน้ำ จากนั้นก็รีบหยอดปัสสาวะใส่อุปกรณ์ ทำตามคำแนะนำข้างกล่องอย่างเคร่งครัดฟ้าใสนั่งมองร่างสูงที่กำลังวุ่นวายกับอุปกรณ์ตรวจฯ เธออดที่จะยิ้มบางออกมาไม่ได้ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาจะเป็นผู้ชายของเธอจริงๆ มันเหมือนฝันที่เป็นจริงไม่เคยบอกใครเลยว่าเมื่อนานมาแล้วเด็กสาวคนหนึ่งเคยมีผู้ชายในฝันกับเขาเหมือนกัน เธอแอบซุกซ่อนความลับนี้เอาไว้อย่างลึกสุดใจ แม้แต่ตัวเธอเองก็แกล้งทำเป็นลืมๆ มันไปซะ เพราะคิดว่ามันไม่มีทางที่จะเป็นจริงได้ พี่เรนคนที่มีชีวิตลึกลับและจับต้องไม่ได้คนนั้นไม่มีทางที่จะมองฟ้าใสเด็กกะโปโล







