LOGINตอนที่4
บททดสอบแรก
เช้าวันใหม่กับการที่ต้องมีสามี และต้องมาอยู่บ้านของกวิน ก้ามปูพยายามที่จะรีบตื่นแต่เช้าเพื่อให้ทันลงมาดูแลเรื่องอาหารแต่ก็ไม่ทันแม่ของสามีที่จัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย
“หนูก้ามปู ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องงานบ้านเลย ตอนนี้หนูควรจะต้องทำหน้าที่ดูแลพี่กวินให้ดีที่สุดอย่าปล่อยให้ห่างจากสายตาเด็ดขาด”
คำพูดของมณีผู้เป็นแม่ของสามีทำให้ก้ามปูรู้สึกแปลกๆ เหมือนกวินต้องมีอะไรบางอย่างที่เธอยังไม่รู้และมันต้องไม่ใช่เรื่องไม่ดีแน่ๆ
“ตื่นมาไม่เจอตกใจแย่เลย นึกว่าโดนเจ้าสาวหนีกลับบ้านไปแล้ว”
ชายหนุ่มเดินมาหอมแก้มภรรยาต่อหน้ามารดาอย่างไม่อาย
“พี่กวินเห็นคุณแม่ไหม” ก้ามปูหันไปดุใส่
“รักกันแบบนี้ แม่ก็ดีใจ กวินคงไม่ทำให้น้องเสียใจใช่ไหม”
มณีหันไปถามลูกชายพร้อมด้วยรอยยิ้มที่ดูมีอะไรซ่อนอยู่
“ก้ามปูเป็นภรรยาที่ผมเลือกแล้วนะครับ คุณแม่ก็พูดอะไรก็ไม่รู้ เดี๋ยวเจ้าสาวของผมจะคิดมากเอา”
ทุกบทสนทนาของสองคนแม่ลูก ก้ามปูเก็บข้อมูลไว้หมด อยู่ดีๆเธอก็คิดถึงภาพที่เพื่อนของเธอถ่ายมาให้ดูว่าเจอกวิน ในภาพถ้าคนไม่สังเกตจะไม่เห็นว่าชายหนุ่มนั่งจับมืออยู่กับผู้หญิงผมยาวหน้าตาดีที่นั่งอยู่ข้างๆ และนี่คือสาเหตุที่คืนนั้นก้ามปูดื่มจนเมาไม่รู้เรื่อง
“กินข้าวแล้วจะได้รีบไปทำงาน อย่ามาอู้นะ” มณีทำท่าแซวลูกชาย
เมื่อกวินออกจากบ้านไป แม่สามีก็หันมาบอกลูกสะใภ้ ส่งยิ้มให้เหมือนคนกำลังมีแผนอะไรในใจ
“เดี๋ยววันนี้แม่จะพาลูกสะใภ้คนเล็ก ไปเปิดตัวที่บริษัทเสียหน่อย”
“แล้วพี่กวินจะไม่ว่าเอาเหรอคะ เราไปโดยไม่บอกเขาก่อน”
ก้ามปูกลัวว่าสามีของเธอ จะไม่พอใจถ้าเธอจะไปยุ่งยากที่ทำงานโดยไม่บอกล่วงหน้า
“บริษัทของเรา เราจะไปเมื่อไหร่ก็ได้ และจำคำแม่ไว้นะก้ามปู สำหรับกวินต้องไม่มีการบอกล่วงหน้า”
หญิงสาวพอเข้าใจแล้ว ว่ามณีต้องการให้เธอไปแสดงตัวว่าเป็นภรรยาเพื่อให้สาวๆในบริษัทไม่กล้ามายุ่งกับลูกชายของเธอ
มณีพาลูกสะใภ้ไปเสริมสวย หาเสื้อผ้าที่ดูดีให้ใส่ สมกับเป็นลูกสะใภ้ของเธอ และขับต่อไปที่บริษัททันที
“สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้มีขนมมาฝาก และนี่ก็หนูก้ามปูภรรยากวินเขา หลายๆคนคงเคยเห็นแล้วในงานแต่งงาน”
“ขอบคุณนะคะ สำหรับขนมและยินดีที่ได้รู้จักภรรยาของคุณกวิน ดิฉันขวัญวิภาฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ”
ก้ามปูรู้สึกตัวสั่นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก เธอจำได้ดี ว่าผู้หญิงคนนี้คือคนที่อยู่ในรูป
“ขนมแบ่งกันกินนะคะ บางอย่างเราก็แบ่งกันได้แต่สำหรับบางอย่างที่แบ่งไม่ได้ ก็อย่าพยายามมาแบ่งมันจะไม่เหมาะ”
ก้ามปูทนไม่ไหว เธอไม่ยอมให้อีกฝ่ายทำเหมือนเธอเป็นคนโง่ไม่รู้อะไรเด็ดขาด
“จริงด้วยทุกคน กินขนมกันให้อร่อยนะ ไม่ต้องแอบกินล่ะเดี๋ยวติดคอ”
มณีต่อท้ายลูกสะใภ้ทันที เธอรู้สึกว่าเลือกไม่ผิดจริงๆ ที่ให้กวินแต่งงานกับก้ามปู
“เก่งมากจ้าลูกสาวแม่” มณีหันมาชมลูกสะใภ้
“ผู้หญิงคนนั้น ถึงขั้นไหนกับพี่กวินแล้วคะ”
ก้ามปูรู้สึกโกรธแม่สามีด้วย ที่ไม่เคยบอกพฤติกรรมที่ไม่ดีของลูกชาย แล้ววันนี้จะให้เธอมาสู้ มารบกับบรรดาผู้หญิงของกวิน ก้ามปูรู้สึกเหมือนตัวเองถูกหลอก
“หนูอย่ามองแม่แบบนี้ แม่ไม่ได้รู้อะไรมากอย่างที่ก้ามปูคิด แค่สงสัยเท่านั้น พอถามกวินก็ไม่เคยยอมรับ เรื่องนี้แม่ว่าคืนนี้หนูถามกวินให้รู้เรื่องกันไปเลย”
มณีเธอพูดความจริง เธอแค่สงสัยว่าลูกชายคนเล็กของเธอมีผู้หญิงหลายคน แต่ก็ไม่เคยจับได้แบบคาตา เต็มที่ก็เจอแค่ตามร้านอาหาร จะมีก็แต่ก้ามปูคนเดียวที่มณีเจอนอนอยู่บนเตียง
“เอ้า...จะมาทำไมไม่โทรมาบอกกันก่อนล่ะครับ ทั้งสองคนเลย”
กวินทำท่าตกใจ แต่ก็รีบเก็บอาการไว้ เพราะรับรู้ถึงพลังบางอย่างในตัวภรรยา
“ถ้าบอกก่อนก็ไม่สนุกสิคะ พนักงานที่นี่น่ารักจัง พอก้ามปูมาถึง ก็มีสาวสวยมาฝากเนื้อฝากตัวทันที ไม่รู้ว่าเธอได้ฝากเนื้อฝากตัวกับพี่กวินไปหรือยัง เห็นเธอบอกว่าชื่อขวัญวิภา”
กวินไม่รู้จะพูดหรืออธิบายอะไรเลย เพราะน้ำเสียงท่าทางของก้ามปู เหมือนเป็นคำถามที่ไม่ต้องการคำตอบ รอยยิ้มที่ดูเหมือนซ่อนเขี้ยวแหลมอยู่ในนั้นทำให้กวินรู้สึกคืนนี้กลับบ้านไปเขาคงต้องโดนขย้ำแน่ๆ
“ไปกินข้าวกันดีกว่า แถวนี้มีอะไรอร่อยพาแม่กับเมียไปกินหน่อยสิ เอาร้านที่ลูกชอบไปบ่อย ๆ”
มณีเป็นแม่สามีที่ยืนหนึ่งเคียงข้างลูกสะใภ้มาก แต่เมื่อคราวกวี ลูกชายคนโตไม่ติดนิสัยเจ้าชู้มาจากพ่อเลย แต่สำหรับกวินมณีมองแล้วน่ารับมาเต็มๆ เธอจึงไม่อยากให้ลูกชายต้องทำครอบครัวพังเพียงเพราะรู้สึกสนุกเท่านั้น เหมือนที่เธอกับสามีเกือบต้องเลิกกัน ถ้าเธอไม่ท้องกวินขึ้นมาก่อน
“ได้เลยครับคุณแม่ คุณเมีย”
ชายหนุ่มรีบเดินมาโอบไหล่ภรรยาทันที เมื่อเดินออกจากห้องทำงาน
ขวัญวิภายังคงส่งยิ้มให้ก้ามปูได้อย่างไม่มีอะไร ทั้งที่เมื่อไม่กี่นาทีเธอกับภรรยาเจ้านายยังใช้วาจาเชือดเฉือนกันอยู่เลย
กวินพยายามเอาใจก้ามปูทุกอย่าง จนมณีเห็แล้วอดขำไม่ได้ ที่ลูกชายทำท่าจะกลัวเมียทั้งที่แต่งงานกันได้แค่เพียงวันเดียว
กินข้าวเสร็จมณีกับก้ามปูก็พากันไปหาซื้อของบำรุงความงามกัน เพราะมณีมองแล้ว ลูกสะใภ้คนเล็กของเธอไม่ดูแลตัวเองเลย ทั้งปล่อยตัวไม่แต่งหน้า ผมก็ไม่ดูแล แถมดูจะเริ่มอวบมากเกินไปแล้ว ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ มีหวังสาวๆสวยๆ หุ่นดี ได้คว้ากวินไปนอนกกเล่นแน่ๆ
“คุณแม่กำลังคิดว่าก้ามปูควรดูแลตัวเองกวานี้ใช่ไหมคะ ถ้าไม่อยากให้พี่กวินนอกใจ”
หญิงสาวถามแม่สามีตรงๆเมื่อกลับขึ้นมานั่งบนรถ ที่แม่สามีเป็นคนขับ
“การดูแลตัวเอง สิ่งแรกก็เพื่อตัวเอง ส่วนสิ่งที่หนูบอกมันคือผลพลอยได้ เป็นผู้หญิงก็ต้องรักสวยรักงาม อย่าคิดว่าแต่งงานแล้วจะปล่อยตัวแค่ไหนก็ได้ เชื่อแม่เถอะ ”
ก้ามปูรู้สึกว่า นี่เธอแต่งงานแค่เพียงคืนเดียว เธอก็เจอบททดสอบแรกเข้าแล้ว ชีวิตของการมีสามีไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเธอเลย โดยเฉพาะสามีที่ดูดีเป็นที่หมายปองของสาวๆหลายคน
ตอนที่2งานวิวาห์ของคุณหนู งานแต่งานถูกจัดขึ้นหลังจากที่หนูนายอมตกลงไม่ถึงเดือน เพราะทางภูษิตยินยอมพร้อมใจตั้งแต่แรก เพราะแอบชอบหนูนามาตั้งนาน โดยที่ตัวหญิงสาวไม่เคยรู้เลย กนกวรรณไม่คิดว่าข่าวการแต่งงานของลูกสาวเธอจะโด่งดังไปทั่วภาคเหนือ บรรดาเชื้อเจ้าเก่า พ่อเลี้ยงจากจังหวัดต่าง นักการเมืองท้องถิ่นต่างก็ถูกพ่อเลี้ยงเชิญมาร่วมงาน กนกวรรณอดคิดไม่ได้ ว่านี่คือการประกาศตัวว่าพ่อเลี้ยงชนินทร์กำลังมีใบเบิกทางในวงราชการ “ตื่นเต้นเหรอ” เจ้าบ่าวที่สาวๆทั้งจังหวัดต่างหมายปอง ถามเจ้าสาวเพราะสัมผัสได้ถึงมือที่สั่นของหนูนาเมื่อเขาจับมือเธออยู่กลางเวที “พี่ภูคะ หนูนาตาลายไปหมดเลย” ปกติก็ไม่ใช
ตอนที่5มาทีหลังแต่ถูกต้อง “ได้กี่หน้าแล้ว พี่เห็นเราทำงานเลยยังไม่อยากขึ้นมากวน” ภูษิตคิดแบบที่พูดด้วยส่วนหนึ่ง แต่อีกส่วนหนึ่ง เขายังไม่กล้าเจอหน้าภรรยาเพราะรู้สึกว่าตัวเองผิดที่ไปแอบคุยโทรศัพท์กับคนรักเก่า “ได้นิดหน่อยค่ะ ยังไม่ค่อยมีสมาธิ” พูดจบหนูนาก็ลุกจากโต๊ะทำงานลงมานอนบนเตียง พร้องกับทำท่ากระดิกนิ้วให้อีกฝ่ายตามมานอนข้าง ๆ เธอ ถึงแม้จะรู้สึกงง ๆ แต่ก็ภูษิตก็ยอมทำตาม เพราะใจจริงก็อยากนอนกอดภรรยาให้รู้สึกดีขึ้นมาบ้างอยู่แล้ว “หนูนาแค่เรียกมานอนเฉยๆ แต่มาถึงมานอนกอดได้อย่างไรกันคะ” ยิ่งคนตัวเล็กในอ้อม
ตอนที่1คุณหนูจะแต่งงาน “ป้าศรีฉันล่ะเหนื่อยกับการสอนหนูนาจัง ยังเล่นอะไรเป็นเด็ก ๆ แล้วเมื่อไหร่จะโตกับเขาเสียที” กนกวรรณระอากับกนิษฐาลูกสาวคนเล็กของเธอเหลือเกินที่วันๆเอาแต่นั่งเขียนนิยายและวิ่งเล่นเหมือนเด็กๆทั้งที่อายุก็ยี่สิบสามแล้ว “คุณหนูเธอก็ยังไม่โตนะคะ ป้ามองดูกี่ทีก็ยังเป็นเด็กตัวน้อยๆ ตัวเล็กๆ ที่ชอบวิ่งตามคุณท่านไปทำงานตลอด” ป้าศรีเป็นคนเก่าแก่ของบ้าน ตั้งแต่สมัยมารดาของกนกวรรณอีกทีและยังเป็นคนเลี้ยงหนูนามาตั้งแต่เกิดอีกด้วย“ก็เข้าข้างกันแบบนี้ ถึงได้ไม่ยอมฟังฉันเลย” กนกวรรณไม่เคยเถียงสองคนนี้ชนะ เพราะป้าศรีกับหนูนาจะอยู่ฝ่ายเดียวกันตลอด “คุณท่านคะแล้วเรื่องที่พ่อเลี้ยงชนินทร์อยากจะให้ลูกชายของ
ตอนที่3เพื่อนหญิงคนสนิท วันนี้ภูชิตตั้งใจจะพาหนูนากลับบ้านไปหาแม่ของเธอ เพื่อค่อยๆให้เธอหายคิดถึง เพราะชายหนุ่มเข้าใจดีว่าภรรยาของเขาเป็นคนอ่อนไหว “แม่ฝากขนมไปให้กนกวรรณด้วยนะ เมื่อเช้าแม่ไปตลาดมาเจอขนมโบราณหลายอย่าง” ภาวิณีมารดาของภูชิตเธอเป็นแม่บ้านตัวจริง ที่ชีวิตมีแต่งานบ้านดูแลลูกและสามี ส่วนเรื่องนอกบ้านต่าง ๆพ่อเลี้ยงชนินทร์ไม่เคยให้เธอเข้าไปยุ่งเกี่ยวเลย “ขอบคุณนะคะ” ลูกสะใภ้ยกมือไว้อย่างนอบน้อม “คุณแม่ครับน้องล่ะ” ภูชิตถามหาสมิตา เพราะตั้งแต่ตื่นเช้ามายังไม่เห็นน้องสาวเลย “น้องกลับไปมหาวิทยา
ตอนที่6คนที่ถูกต้อง “ภู ในที่สุดคุณก็มาเยี่ยมเมย์” หญิงสาวหน้าตาสวยในชุดคนป่วย รีบลุกจากที่นอนขึ้นมานั่งเมื่อเห็นอดีตคนรักมาเยี่ยม “เป็นอย่างไรบ้างจ๊ะหนูเมย์” ยังไม่ทันที่ภูษิตจะได้ตอบอะไร ภาวิณีก็ทำหน้าที่แม่สามีที่ดี ส่งเสียงตามมา “สวัสดีค่ะคุณแม่ เมย์คิดว่าภูมาคนเดียว” คนป่วยชักสีหน้าไม่พอใจ “เข้ามาเลยหนูนา” ภาวิณีหันไปข้างหลังและกวักมือเรียกลูกสะใภ้ที่กำลังถอดรองเท้าอยู่ “มากันหมดเลยทั้งแม่และเมียตาภู ตอนงานแต่งงานหนูเมย์ไม
ตอนที่4เมื่อคนเก่าอยากมีบทบาท “ขนของอะไรเยอะเลย” ภาวิณีรีบเดินออกมาที่หน้าบ้าน เมื่อได้ยินเสียงรถของลูกชายวิ่งเข้ามาจอดที่โรงรถ “หนังสือนิยายของหนูนาเองค่ะ” ลูกสะใภ้ส่งยิ้มหวานให้แม่สามี เพราะเธอคิดว่า ภาวิณีคงรู้สึกขำที่เธอขนนิยายมาเสียหลายลัง “เป็นนักเขียนก็ต้องชอบอ่านก่อนใช่ไหม ไว้วันหลังแม่จะขออ่านผลงานของหนูนาบ้างนะลูก” บ้านของครอบครัวพ่อเลี้ยงชนินทร์ วันทั้งวันแทบจะดูเงียบเหงา หนูนาแอบคิดไม่ได้ว่า ถ้าเธอไม่เข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ ช่วงกลางวันคงมีแค่ภาวิณีกับแม่บ้านเท่านั้นที่อยู่ด้วยกัน&nb







