Mag-log inเพลงมีนายกถาดอาหาร ลุกขึ้นยืนแล้วเดินห่างโต๊ะที่รังเกียจเธอ เท้าเล็กๆ นำพาร่างของสาวผู้น่าสงสารมาหยุดยืนเกือบถึงด้านหน้าโรงครัว กวาดสายตาหาโต๊ะว่างที่เธอพอจะนั่งได้ แต่ทุกโต๊ะก็เต็มหมดทุกโต๊ะ จะมีเพียงโต๊ะเดียวที่ว่าง มีที่นั่งเหลืออีกหลายที่ แต่ทว่าโต๊ะนั้นก็เป็นโต๊ะที่ไม่ต้องการให้เพลงมีนาไปนั่งเช่นกัน เป็นโต๊ะที่เจ้าของไร่นั่งทานอาหารอยู่กับเมธาวีเพลงมีนาเปรียบเสมือนเรือน้อยลอยเคว้งกลางทะเล“เพลง มานั่งกับพวกฉันดีกว่า ยังมีที่นั่งอีกหลายที่” จักรพงษ์เดินมาหาเพลงมีนา พร้อมกับกล่าวชวนด้วยความสงสาร“ขอบคุณพี่ต้อมมากนะคะ” เพลงมีนากล่าวขอบคุณคนที่ชวนจากใจ แม้ว่าจักรพงษ์ชอบดุ ชอบต่อว่าเธอด้วยถ้อยคำไม่รักษาน้ำใจ แต่เขาก็มีน้ำใจกับเธอเสมอ สองหนุ่มสาวจึงเดินไปยังโต๊ะที่ถนนสายอื่นๆ นั่งทานอาหารกลางวัน เพลงมีนาเลือกที่จะนั่งใกล้ๆ ร่างของจักรพงษ์ เพราะเขาเป็นคนเดียวที่เธอสนิทที่สุดวันนี้กวินภพเลือกที่จะมาทานมื้อกลางวันในโรงครัวมากกว่าจะทานอาหารในบ้านหลังใหญ่เช่นทุกวันที่ผ่านมา โดยเขาเองก็ไม่รู้ว่าทำไมตัวเองจึงทำเช่นนั้น เจ้าของไร่ปรายตามองเพลงมีนาที่พูดคุยกับลูกน้องถนนสายที่สองอย่างสนิทสนม พ
เป็นเวลาร่วมห้าวันที่เมธาวีเข้ามาทำหน้าที่เป็นสัตวแพทย์ดูแลลูกม้า และเป็นอีกห้าวันที่เธอเข้ามามีบทบาทต่างๆ ในไร่พฤกษา หรืออีกนัยหนึ่งคือทำตัวเหมือนนายหญิงของที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นการดูแลกวินภพในเรื่องอาหารการกินทุกมื้อ ทำตัวราวกับว่าจะย้ายเข้ามาอยู่ในไร่พฤกษาด้วยการเคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์หรือของตกแต่งบ้านไปไว้ในจุดที่ตนเองพอใจ โดยที่กวินภพไม่ห้ามปรามแต่อย่างใด ปล่อยให้เธอทำตามอำเภอใจทุกอย่างยังไม่หมดเพียงแค่นี้ เมธาวียังจะเข้ามามีบทบาทในการทำงานในไร่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นขอดูบัญชีรายรับรายจ่ายของไร่พฤกษาทั้งหมด รวมถึงการควบคุมการเบิกจ่ายเงินของไร่อีกด้วย คนงานทั้งหลายจึงคิดไปในทางเดียวกันว่า พวกเขาคงจะได้นายหญิงเร็วๆ นี้และตลอดหลายวันที่ผ่านมาความสัมพันธ์ระหว่างกวินภพกับเพลงมีนาเกิดช่องว่างมากขึ้น เขาพูดกับเธอน้อยลง บางวันก็แทบจะไม่มองหน้า กลับบ้านก็ดึกดื่นค่อนคืน แม้แต่เพลิงเสน่หาที่แสนเร่าร้อนก็ไม่เคยเกิดขึ้นเลย ต่างคนต่างนอนหันหลังให้แก่กัน บางคืนเขาก็ไปนอนห้องรับรองห้องข้างๆ คล้ายกับว่าไม่ต้องการนอนร่วมเตียงเดียวกับเธอ สร้างความเสียใจและน้อยใจให้กับเธอยิ่งนัก รวมทั้งความอึด
เขาไม่เพียงแค่ไม่ถนอมน้ำใจเธอ เจ้าของไร่ยังมอบความปวดร้าวทางด้านคำวาจาให้กับเพลงมีนาซ้ำลงไปอีก แล้วเธอจะไม่เจ็บปวดหัวใจได้ยังไง“เธอยกชามโจ๊กก็แล้วกันนะ ฉันจะยกปิ่นโตไปให้เธอเอง”เสียงของเมธาวีดังขึ้นท่ามกลางความเจ็บปวดของเพลงมีนา มือของผู้พูดเอื้อมไปจับหูปิ่นโตเถานั้น เดินตรงไปยังห้องครัวโดยมีร่างของเพลงมีนาเดินตามไป“จัดการถ่ายอาหารใส่จานได้แล้ว ป่านนี้พี่ทอร์ชคงหิวไส้จะขาดแล้ว” คำสั่งดังลอดผ่านปากของเมธาวีเมื่อเดินเข้ามาในครัว วางปิ่นโตเถาใหญ่ห้าชั้นลงบนโต๊ะเตรียมอาหารกลางห้อง เพลงมีนาจัดการตามที่เมธาวีสั่งอย่างไม่เกี่ยงงอน รู้ดีว่าตนเองไม่มีสิทธิ์มีเสียงใดๆ ในบ้านหลังนี้และคงไม่ใช่คนสำคัญของกวินภพ ต่างกับสาวตรงหน้าที่นั่งอยู่กลางใจเขาไม่มีเปลี่ยน“ฉันจะบอกอะไรเธออย่างนึงนะเพลง กับข้าวเช้าสำหรับพี่ทอร์ชหรือคนงานคนอื่นๆ ในไร่ไม่สมควรที่จะเป็นโจ๊ก ข้าวต้มหรือว่าอาหารเหลวทุกชนิด เพราะคนที่นี่ต้องใช้แรงในการทำงาน ไม่ได้ใช้สมองเหมือนคนทำงานออฟฟิศ ฉะนั้นอาหารเช้าจึงต้องหนักท้องเข้าไว้ เพื่อจะได้มีแรงทำงานไปจนถึงมื้อเที่ยง เธอเข้าใจที่ฉันพูดหรือเปล่า”เมธาวีได้ทีสั่งสอนเพลงมีนาที่กำลังถ่า
Chapter 82รุ่งเช้าวันต่อมาก็เหมือนวันอื่นๆ ที่ผ่านมา ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนัก จะมีเปลี่ยนก็คือทีท่าหมางเมินของกวินภพ ปกติเขาจะทานอาหารกลางวันพร้อมกับเธอที่บ้าน รวมทั้งอาหารเย็นแต่เมื่อวานนี้ไม่ใช่ กวินภพออกไปกับเมธาวีตั้งแต่ตอนสาย กลับมาถึงบ้านก็ราวเที่ยงคืนเศษ ซึ่งเธอก็ไม่ถามไถ่ว่าเขาไปไหนเพราะอาจถูกตอกกลับมาว่า ไม่ใช่เรื่องของเธอก็เป็นได้ จึงแสร้งทำเป็นหลับไม่รับรู้การกลับมาบ้านของเขา แม้ว่ากวินภพจะทำเหมือนกับเธอไม่มีตัวตนอยู่ในโลก เพลงมีนาก็ทำกิจวัตรประจำวันตามปกติ ทำอาหารเช้ารสชาติไม่ได้เรื่อง แต่ทำด้วยใจให้เขาทาน “วันนี้ทำอะไรให้นายทานล่ะเพลง”บัวผันคนงานสาวที่ทำหน้าที่ทำงานบ้านหลังใหญ่เอ่ยถาม ย่นคิ้วชะโงกมองอาหารหน้าตาไม่น่าทานในหม้อ“ทำโจ๊กหมูน่ะ ฉันตื่นตั้งแต่ตีห้ามาเคี่ยวโจ๊กเลยนะ รับรองอร่อยเหาะ” แม่ครัวสาวมือใหม่แต่ใจไม่ถอยตอบกลับด้วยรอยยิ้ม เช้านี้เพลงมีนาตื่นเช้ากว่าทุกวัน เพราะตั้งใจจะทำโจ๊กหมูตามสูตรที่ป้าพิณบอก ข้าวหอมมะลิเม็ดสวยจึงถูกตวงใส่หม้อ ซาวน้ำหนึ่งครั้ง ใส่น้ำตามสูตรที่ได้มา จากนั้นก็ต้มข้าวจนแตกมัน หรี่ไฟเพื่อเคี่ยวต่อจนเละเหมือนโจ๊ก ส
Chapter 81“เธอจะคิดยังไงก็เรื่องของเธอ ฉันแค่เตือนเธอเท่านั้น”“ยังไงเพลงก็ขอบคุณพี่ต้อมมากนะคะที่เตือนเพลง เพลงจะระวังตัวค่ะ” แต่ถึงยังไงเธอก็รับความหวังดีจากเขา“เธอร้องไห้เหรอ” เขาถามหลังจากที่เห็นคราบน้ำตาติดตามแก้มและเอ่อล้นขอบตา เพลงมีนาจึงใช้มือปาดน้ำตาทิ้งราวกับเด็กๆ“ก็แค่คิดถึงบ้าน” สาวเจ้าแก้ตัวจักรพงษ์มองหน้าเชลยสาวของเจ้านายด้วยความสงสาร การที่เธอคิดถึงบ้านไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะเพลงมีนาอยู่ที่นี่ก็เปรียบเสมือนนักโทษ ไม่ได้รับอิสระ ออกไปไหนนอกเขตไร่ไม่ได้ ติดต่อบุคคลภายนอกยิ่งไม่ได้ใหญ่“มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เธอจะคิดถึงบ้าน แต่เธอก็ต้องจำไว้เสมอว่า เธอทำให้ใครหลายๆ คนต้องไม่มีบ้านอยู่พักหนึ่ง ไม่มีงาน ไม่มีเงินเลี้ยงครอบครัว สิ่งที่เธอได้รับตอนนี้มันยังน้อยไปเสียด้วยซ้ำกับสิ่งที่เธอทำไว้กับทุกคนในไร่นี้ เพราะมันไม่ใช่แค่มูลค่าเงินเท่านั้น ยังหมายถึงครอบครัวหลายครอบครัวที่บ้านแตกสาแหรกขาด อย่างแหลมสิงห์เป็นต้น เมียมันหนีเพราะมันมาติดพันเธอ แล้วยังจะอีกหลายคนที่เธอยั่วจนหัวปั่น ผลกระทบมันจึงกลายเป็นวงกว้างยังไงล่ะ”เพลงมีนาหน้าเศร้าลงถนัดตา ยอมรับความผิดที่ตนเองไม่ได้เป
ทุกการกระทำของเมธาวีอยู่ในสายตาของเพลงมีนาตลอด เชลยสาวรู้สึกทึ่งไม่น้อยกับการทำอาหารที่คล่องแคล่วราวกับมืออาชีพ ต่างกับเธอที่กว่าจะหยิบจับอะไรดูจะเก้ๆ กังๆ ขัดหูขัดตาเสมอ ในความทึ่งเธอยังมีความเสียใจตามติดมาด้วย“มาแล้วค่ะพี่ทอร์ช รับรองว่าอร่อยกว่าชามเมื่อกี้แน่นอนค่ะ”สัตวแพทย์พูดเกทับจนคนทำข้าวต้มชามก่อนหน้าน้ำตาคลอ มองข้าวต้มที่หน้าตาน่าทานกว่าชามของเธอเป็นไหนๆ ด้วยสายตาเศร้าหมอง เสียใจและน้อยใจกวินภพมองข้าวต้มชามใหม่ที่ไฉไลกว่าชามก่อนหน้าด้วยอารมณ์สองจิตสองใจ หากทานก็กลัวว่าเพลงมีนาจะเสียใจ เพราะเธอสู้อุตส่าห์ปรุงอาหารให้เขาทาน ทั้งที่รู้ว่าอาหารชนิดนั้นๆ จะไม่ได้เรื่องได้ราวก็ตาม ทว่าเธอก็ไม่ย่อท้อที่จะทำ ซึ่งเขาเองก็เต็มใจทานอาหารไม่ได้เรื่องนั้นอยู่แล้วหากไม่ทานเมธาวีอาจจะเสียใจและน้อยใจ อีกทั้งยังเสียมารยาทเป็นเพราะเธอเป็นแขกของเขา ที่สำคัญเขายังจำรสชาติการทำอาหารของเธอได้ดีว่า อร่อยล้ำมากแค่ไหนเพลงมีนายืนลุ้นว่า เขาจะตัดสินใจทานข้าวต้มชามนั้นหรือไม่เมธาวีเองก็นั่งลุ้นว่าเขาจะเลือกทานอาหารยอดแย่หรือเลิศรสและในที่สุด สาวทั้งสองก็ได้คำตอบ“เป็นไงบ้างคะพี่ทอร์ช อร่อยหรือเปล







