Share

บทที่ 10

Auteur: จุ้ยหลิงซู
"คิดจะไปเนินจันทร์เด่นค้นหาตัวยาสิบชนิดไม่น่าจะเป็นไปได้เสียแล้ว"

ฟู่จาวหนิงส่ายหัวถอนหายใจ

"ผิดแผน ผิดแผน"

นางคิดไม่ถึงเลยว่าการเลือกอ๋องเจวี้ยน พอแต่งงานด้วยแล้วจะเจอเรื่องยุ่งยากขนาดนี้ แต่ว่าพอคิดไปถึงผู้เฒ่าฟู่ นางก็ตั้งสติใหม่ขึ้นมา

ก็แค่หาตัวยาเองไม่ใช่หรือ?

ต่อให้ไม่มีเงื่อนไขนี้ นางก็ยังต้องออกไปหายาอยู่ดี สถานการณ์ตระกูลฟู่ตอนนี้ลำบากยากแค้นมาก ที่บ้านไม่เหลือเงินอีกแล้ว คิดจะซื้อยามาก็สิ้นเปลือง ถ้าหากเขาจันทร์ลับฟ้าทางนั้นมีตัวยา นางไปขุดมาไม่ต้องใช้เงินไม่ดีกว่าหรือ?

พอคิดเช่นนี้ ฟู่จาวหนิงก็ใจเย็นลงมา

"ลูกชิ้นนี้อร่อยดีจัง"

หงจั๋วกับเฝิ่นซิงเห็นว่านางดูใจเย็นขนาดนี้ ก็กลับกังวลแทนนางขึ้นมา ตอนนี้ดูแล้วเหมือนพระชายาคนนี้จะไม่มีมาด ไม่น่ากลัว ในใจพวกนางจึงคาดหวังให้ฟู่จาวหนิงสามารถนั่งในตำแหน่งพระชายานี้ได้อย่างมั่นคง

ส่วนโถงพิธีมงคลทางนั้น องค์จักรพรรดิยังคิดจะถามคำถามอ๋องเจวี้ยนอีกสักหน่อย แต่ไทเฮากลับมึนหัวขึ้นเสียแล้ว

"องค์จักรพรรดิ ฮองเฮา พวกเรากลับวังกันเถิด อายวนเร่งร้อนแต่งงาน ไม่มีอะไรจะเลี้ยงด้วย" ไทเฮาดูเหมือนไม่อยากจะอยู่ต่อแล้ว

"นี่."

องค์จักรพรรดิรู้สึกเหมือนงานแต่งงานใหญ่ของอ๋องเจวี้ยนมีบทแค่นี้เองหรือ พวกเขาแค่มาเดินผ่านฉากแค่นี้ ในใจรู้สึกเสียใจเล็กๆ

"องค์จักรพรรดิ" ฮองเฮายืนขึ้นมา "ไทเฮาพูดถูกแล้ว พวกเราอยู่ที่นี่ทุกคนคงจะทำตัวกันไม่ถูก สู้กลับกันก่อนดีกว่า หลังจากนี้สามวัน ใครจะรู้ว่าคนที่ผ่านประตูในวันนี้จะเป็นพระชายาหรืออนุภรรยา? แล้วถ้าคุณหนูฟู่ต้องกลายเป็นอนุภรรยาไปจริงๆ เช่นนั้นการรับเจ้าสาวของอ๋องเจวี้ยน พวกเราทั้งหมดก็มาร่วมงานแล้ว จะไม่ยุติธรรมกับพระชายาที่แท้จริงภายหลังเอานะ"

พูดจบประโยคนี้ ฮองเฮาก็หัวเราะเย็นชาในใจขึ้นมา

นางตัดสินไปแล้วว่าฟู่จาวหนิงไม่มีทางทำภารกิจนั้นสำเร็จ

ฟู่จาวหนิงถ้าไม่ตายในเขาจันทร์ลับฟ้า ก็ทำได้แค่ไปเป็นอนุภรรยาเท่านั้น!

อนุภรรยาคนหนึ่ง แต่ยังคิดจะให้ฮองเฮามาอยู่ที่นี่เพื่ออวยพรนาง? ใครจะไปให้เกียรติกัน

องค์จักรพรรดิพอฟังนางพูดเช่นนี้ ก็ลุกขึ้นยืนด้วย

"ที่ฮองเฮาพูดมาก็มีเหตุผล อายวน เช่นนั้นข้าจะกลับวังก่อนแล้ว"

อ๋องเจวี้ยนโค้งเอวเล็กน้อย "กลับดีดี"

องค์จักรพรรดิขมวดคิ้ว

มาพูดว่ากลับดีดีกับเขาได้อย่างไรกัน?

ทำไมไม่พูดอะไรอย่างคารวะองค์จักรพรรดิที่ดูเป็นทางการหน่อย?

อายวนตั้งแต่เล็กไม่ได้ชุบเลี้ยงในวัง เป็นเรื่องผิดจริงๆ สินะ

ไทเฮาองค์จักรพรรดิฮองเฮาทั้งสามคนไปได้ แต่แขกเหรื่อที่มาอวยพรยังไม่กล้ากลับไป

ถ้าไม่ใช่ฮองเฮาที่เพิ่งนึกเงื่อนไขนั้นออก องค์จักรพรรดิกับไทเฮาคงจะอยู่ที่นี่เพื่อให้หน้ากับอ๋องเจวี้ยนแล้ว เพราะอะไรกัน?

เพราะในมืออ๋องเจวี้ยนมีป้ายทองเลี่ยงความตาย กระบี่ซ่างฟาง ตราประทับแคว้นเจาที่ไท่ซ่างหวงแหกกฎส่งมอบให้มา และสุดท้ายตราประทับแคว้นเจานี้ก็มีอำนาจมากที่สุด กระทั่งองค์จักรพรรดิเองก็ยังต้องกริ่งเกรง เพราะตราประทับแคว้นเจาสามารถสังการองค์รักษ์เงามังกรแห่งราชวงศ์ได้โดยตรง

นี่เป็นทหารลับกองหนึ่งที่ทรงพลานุภาพที่สุดในราชวงศ์แคว้นเจา

นอกจากอ๋องเจวี้ยนจะทำเรื่องอย่างคบค้าศัตรูทรยศแคว้น หรือมีโทษหนักหนาต่อราชวงศ์ มีหลักฐานแน่นหนา องค์จักรพรรดิจึงจะสามารถริบตราประทับแคว้นเจากลับ

มิเช่นนั้น อ๋องเจวี้ยนที่มีตราประทับนี้อยู่ ก็เหมือนกับมีกระบี่พาดแขวนไว้บนคอจักรพรรดินั่นเอง

เหล่าแขกเหรื่อเวลานี้ก็ดูชาญฉลาดมาก ทยอยกันเดินเข้าไปอวยพร

"ขอให้พิธีมงคลท่านอ๋องเจวี้ยน ยืนยาวนับร้อยปี"

"วันนี้เป็นฤกษ์งาม ขออวยพรท่านอ๋องเจวี้ยน"

"อ๋องเจวี้ยนช่างดูสีหน้าเบิกบาน คนเราจะแจ่มใจปรีดาในช่วงเวลาแห่งความสุขจริงๆ"

"อวยพรท่านอ๋องเจวี้ยนมีทายาทไวไว"

ไม่ว่าสามวันถัดจากนี้ฟู่จาวหนิงจะหาตัวยากลับมาได้สิบชนิดหรือไม่ นี่ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาต้องสนใจ ถึงอย่างไรตอนนี้พวกเขาก็กราบไหว้ฟ้าดินในพิธีไปแล้ว ก่อนหน้าที่อ๋องเจวี้ยนจะพูดอะไร ฟู่จาวหนิงก็คือพระชายาอ๋องเจวี้ยน

ซ่งหยวนหลินไม่อยากออกไป แต่พอได้ยินคนเหล่านี้เข้ามาอวยพรกันเซ็งแซ่ นางก็รู้สึกไม่ยินดีนัก

"เชอะ รอก่อนเถอะ ฟู่จาวหนิงแค่อนุภรรยาก็ยังไม่คู่ควร!"

ซ่งหยวนหลินกัดฟันเหี้ยมเกรียม กระทืบเท้าเบียดตัวเข้าไปอยู่ข้างกายอ๋องเจวี้ยน

"ท่านพี่หลันยวน ข้าไม่รู้ว่าท่านถูกฟู่จาวหนิงทำให้ลุ่มหลงขนาดนี้ได้อย่างไร แต่ว่าท่านต้องตั้งสติเสียหน่อยนะ คืนนี้ห้ามเข้าหอกับ..."

นางยังไม่ทันพูดจบ อ๋องเจวี้ยนก็ตัดบทนางขึ้นมา

"ซ่งหยวนหลิน"

เสียงนางเย็นเฉียบ "ข้าไม่เคยอนุญาตให้เจ้าเรียกข้าเช่นนี้ เจ้าต้องเรียกข้าว่าอ๋องเจวี้ยนเช่นเดียวกับคนอื่น ถ้าไม่ได้จริงๆ ก็ให้เรียกท่านอ๋อง ความสัมพันธ์พวกเราไม่ได้สนิทชิดเชื้อขนาดนั้น"

"ท่านพี่หลันยวน"

ซ่งหยวนหลินมองเขาอย่างไม่อยากเชื่อ

"ชิงอี โยนนางออกไปด้วย" อ๋องเจวี้ยนพอเห็นว่านางยังไม่ยอมแก้ไข จึงไม่คิดจะเสวนากับนางอีก ตะโกนเรียกชิงอีทันที

ชิงอีเดินเข้ามาทันควัน ยื่นมือจะคว้าตัวซ่งหยวนหลิน

ซ่งหยวนหลินทั้งรนทั้งโกรธ แต่พอเห็นท่าทีของอ๋องเจวี้ยนก็เหมือนไม่มีความเมตตาจิตเลย เขาคิดจะให้ชิงอีโยนนางออกไปจริงๆ!

"ข้าไปเองได้"

เพื่อรักษาหน้าตาสุดท้ายของตนเองไว้ ซ่งหยวนหลินจึงกระทืบเท้าหนักๆ หมุนตัวออกจากจวนอ๋องอย่างโกรธเคือง

หลังออกประตูมา ซ่งหยวนหลินก็หันหน้ากลับไปมองประตูใหญ่จวนอ๋องเจวี้ยน กัดฟันกรอด เอ่ยขึ้นอย่างเหี้ยมเกรียม "ฟู่จาวหนิง ทั้งหมดเป็นเพราะเจ้า! คอยดูเถอะ ข้าจะให้เจ้าตายอยู่บนเขาจันทร์ลับฟ้า!"

ตายอย่างน่าเวทนาไปเลย!

ก่อนหน้านี้ท่านพี่หลันยวนแม้จะไม่ค่อยสนใจนางนัก แต่ก็ไม่เคยไม่ไว้นางเช่นวันนี้มาก่อน แถมยังจะให้ทหารโยนนางออกมาอีกด้วย!

ท่านพี่หลันยวนไร้น้ำใจเสียจริง นี่เป็นเพราะฟู่จาวหนิงแน่

ซ่งหยวนหลินหมุนตัวจากไปอย่างเคืองๆ นางจะกลับไปจัดการทันที สามวันถัดจากนี้ จะต้องให้ฟู่จาวหนิงได้พบกับประสบการณ์เลวร้ายที่ยากจะลืมเลือน จากนั้นค่อยให้นางตายไป

แขกเหรื่อพอเห็นอ๋องเจวี้ยนไร้น้ำใจเย็นชาต่อซ่งหยวนหลิน ในใจก็ตึงเครียด

ผู้ดูแลรีบเดินเข้ามา "ท่านอ๋อง อาหารมงคลเตรียมเสร็จแล้ว"

"เชิญแขกเหรื่อทานอาหารเถอะ" อ๋องเจวี้ยนเอ่ยขึ้น

"ขอเชิญแขกทุกท่านร่วมรับประทานอาหาร วันนี้มีอาหารและเครื่องดื่มชั้นดี พวกเราจวนอ๋องเจวี้ยนจัดเตรียมสุราเลิศตระกูลอวิ๋นไว้ ทุกท่านลองชิมกันเสียหน่อย"

ผู้ดูแลเชิญแขกทั้งหมดเคลื่อนย้ายไปยังโถงสวนดอกไม้

พอได้ยินชื่อสุราเลิศตระกูลอวิ๋น ทุกคนก็ตกตะลึงไป

"สุราชั้นเลิศของตระกูลอวิ๋น? นับตั้งแต่ที่ตระกูลอวิ๋นลมสลาย สุราเลิศตระกูลอวิ๋นหนึ่งไหก็ปั่นมูลค่ากันขึ้นไปถึงหมื่นตำลึงเลยนะ"

มีคนรักสุราเอ่ยขึ้นมาทันที

"หนึ่งไหหมื่นตำลึงนั้นถูกต้อง แต่ถึงราคาสูงก็ไม่มีในตลาด ไม่มีใครหาซื้อสุราเลิศตระกูลอวิ๋นได้เลย"

เรื่องนี้สำหรับคนที่ชื่นชอบการดื่มสุราและมีรสนิยมแล้ว ถือเป็นเรื่องที่เจ็บปวดอย่างมากเลยทีเดียว เทศกาลไหว้พระจันทร์หรือสิ้นปีของทุกปี ตอนที่ทุกคนดื่มสุรากันมากที่สุด ก็มักจะมีคนหิ้วสุราเลิศตระกูลอวิ๋นเข้ามา

ไม่คิดว่าวันนี้จวนอ๋องเจวี้ยนจะหยิบเอาสุราเลิศตระกูลอวิ๋นออกมา!

พอมาถึงงานจัดเลี้ยง ก็เห็นสายใช้ยกสุราออกมาสามไห พวกเขาก็ฮือฮาขึ้นมา

"ไม่ใช่แค่ไหนเดียว ไม่ใช่แค่ไหนเดียวด้วย!"

อ๋องเจวี้ยนพอลงมือก็หิ้วสุราเลิศตระกูลอวิ๋นเข้ามาถึงสามไห อู้ฟู่เสียเหลือเกิน!

สุราสามไหนี้ ทำให้บรรยากาศของงานเลี้ยงกระพือขึ้นทันที ทุกคนอารมณ์ครื้นเครงกันขึ้นมา คำอวยพรก็ยิ่งจริงใจมากขึ้นไปอีก

แต่ใครก็ไม่กล้าชนสุรากับอ๋องเจวี้ยน ไม่กล้าเตือนเรื่องสุรากับเขา ถึงอย่างไรทุกคนก็ล้วนรู้ว่าอ๋องเจวี้ยนนั้นร่างกายอ่อนแอมากมาตั้งแต่เด็ก ถูกเลี้ยงอยู่ภายนอกมาหลายปี

"ส่งสุราให้ฟู่จาวหนิงชิมเสียหน่อยเถอะ ไหนๆ ก็เป็นพระชายาของข้าแล้ว แขกเหรื่อล้วนได้ดื่มสุราเลิศตระกูลอวิ๋นกันหมด นางอย่างน้อยก็ต้องได้รู้ว่ารสชาติเป็นอย่างไร" อ๋องเจวี้ยนคิดๆ

"เพคะ"

กาสุราเล็กใบหนึ่งถูกส่งไปยังห้องหอ

หงจั๋วรินให้ฟู่จาวหนึ่งแก้วหนึ่ง พอได้กลิ่นนี้ ฟู่จาวหนิงก็ร้อง "เอ๊ะ" ขึ้นมา
Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application
Commentaires (1)
goodnovel comment avatar
Boukong Doukaew
อ่านเกินเวลา หลอกกันไหมถ้าไม่ติดตามก่อไม่เพิ่มนิ
VOIR TOUS LES COMMENTAIRES

Latest chapter

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2436

    ฟู่จาวหนิงคิดไว้ดีแล้ว ถ้าหากคนของลัทธิเทพทำลายล้างจะบุกเข้ามาในเมืองหลวงจริง เช่นนั้นนางก็จะใช้พิษใช้วิธีของอีกฝ่ายโต้คืนอีกฝ่ายกลับไปถึงอย่างไรพวกเขากับลัทธิเทพทำลายล้างเดิมทีก็เป็นศัตรูคู่แค้นอยู่แล้ว ไม่มีทางจะยิ้มแล้วลืมความบาดหมางกันได้ ดังนั้นควรแก้แค้นก็ต้องแก้แค้น ควรจะขัดขวางไม่ให้พวกเขาเข้าเมืองก็ต้องขวางไว้"ยังต้องรวบรวมมาอีกหรือ?" ถังอู๋เยว่ถาม"อู๋เยว่ เอาที่เจ้ารวบรวมมาแล้วส่งมาให้ข้าก่อน"ผู้อาวุโสจี้ไม่เห็นด้วยหน่อยๆ "ตอนนี้เจ้าตั้งท้องอยู่นะ จะมาจัดการเรื่องยาพิษได้ยังไงกัน? ถ้าเผื่อเกิดอะไรขึ้นล่ะ ใครจะรับผิดชอบไหว?"พอได้ยินผู้อาวุโสจี้พูดแบบนี้ ถังอู๋เยว่ก็พยักหน้า รู้สึกว่าไม่ควรเอาผงพิษเหล่านี้ส่งให้กับฟู่จาวหนิง"พี่หญิงจาวหนิง ไม่งั้นก็สอนพวกนี้ให้ข้าแล้วกัน ข้าจัดการให้"ถังอู๋เยว่ก็รู้สึกว่าร่างกายของฟู่จาวหนิงตอนนี้ไม่ควรมาจัดการเรื่องผงพิษจริงๆผงนี่นะ ถ้าหากไม่ระวัง แค่จามนิดเดียวก็ฟุ้งขึ้นแล้ว แล้วถ้าสูดเข้าไปตอนฟุ้งกระจายล่ะ?"ไม่หรอก เจ้าสิ่งนี้ต้องให้ข้าจัดการเอง"ฟู่จาวหนิงจะเอาของพวกนี้เข้าไปในห้องเภสัช ตอนนี้สอนถังอู๋เยว่ไม่ได้ยิ่งไป

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2435

    ความคิดนี้ของฟู่จาวหนิงไม่ใช่การคิดไปเองอย่างไร้สาระต้องรู้ว่าคนของลัทธิเทพทำลายล้างวางแผนกันมาก่อนหลายปีแล้ว ในเมื่อตรวจสอบพบว่าเซียวหลันยวนเป็นไปได้มากที่จะเป็นสายเลือดราชวงศ์ตงฉิงนานแล้ว ต้องการเอาชีวิตเขาแต่เนิ่นๆ จึงวางแผนเอาไว้มากมายแล้วในช่วงหลายปีนี้ จะไม่มายังตงฉิงได้อย่างไร?พวกเขาอาจจะคนน้อย ไม่เหมือนเซียวหลันยวนที่สามารถสั่งกององครักษ์เข้ามาได้ แต่การจะเดินไปตามเส้นทางที่เดินได้ หาที่มั่นเหมาะปักหลักตั้งค่าย ก็ยังมีความเป็นไปได้สูงอยู่"ตั้งหลายปีแล้ว การที่พวกเขาจะหาวังจักรพรรดิกับวังใต้ดินเจอก็เป็นเรื่องปกติ"ฟู่จาวหนิงเอ่ยต่ออีก "ลัทธิเทพทำลายล้างหลังถูกกวาดล้างยังฟื้นคืนชีพกลับมาไดั แล้วยังคอยสร้างความปั่นป่วนอยู่เป็นระยะอีก อธิบายได้ว่าในลัทธิยังมีคนที่เก่งกาจอยู่ ดังนั้น แม้ว่าวังจักรพรรดิและวังใต้ดินจะมีค่ายกลและกลไกอยู่มากมาย จะซ่อนเร้นไว้มากเพียงใด ก็ย่อมมีคนหาเจอและเข้าไปได้แน่"เซียวหลันยวนพยักหน้า "เจ้าพูดถูกต้อง""ท่านยังจำคนพวกนั้นของตระกูลถังได้ไหม? สายเลือดราชวงศ์ตงฉิง ช่วงนี้คือตัวท่าน แต่ก็ไม่ใช่ว่ายังมีคนอื่นอยู่อีกหรือ?"ดังนั้น กลไกของวังจักรพ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2434

    พวกเซียวหลันยวนอันที่จริงก็รอลัทธิเทพทำลายล้างมาตลอดลัทธิเทพทำลายล้างก่อนหน้านี้ทำเรื่องไว้มากมาย เห็นได้ชัดว่าพุ่งเป้ามาที่ตงฉิงแห่งนี้ดังนั้นพอมาถึงตงฉิงตั้งนานสองนาน แต่กลับไม่เจอคนของลัทธิเทพทำลายล้างเลย พวกเซียวหลันยวนรู้สึกแปลกใจมากนี่มันไม่ปกติตอนนี้ ในที่สุดก็มีคนมาแล้วแทบจะไม่ต้องคิดเลย เซียวหลันยวนรู้สึกว่า คนที่เข้ามาก็คือลัทธิเทพทำลายล้างแน่นอน"ถ่ายทอดคำสั่งออกไป คนทั้งหมดเตรียมตัวให้พร้อม ป้องกันประตูเมืองให้แน่นหนา"เซียวหลันยวนออกคำสั่งทันที ส่วนตนเองก็ไปรื้อแผนผังวางกำลังป้องกันของเมืองหลวงออกมาครั้งนี้ ฝ่ายเรามาถึงไวกว่า เจอเมืองหลวงก่อนคนของลัทธิเทพทำลายล้าง มาถึงวังจักรพรรดิก่อน และยังสำรวจทำความเข้าใจเมืองหลวงจนปรุโปร่งแล้วกระทั่งว่า พวกเขายังสำรวจไปตามกำแพงเมืองสองรอบ และซ่อมแซมจุดที่ควรแก้ไขเรียบร้อยไปแล้วด้วยบนหอเมืองเองก็ถูกองครักษ์มังกรครามดูแลอยู่ในวังใต้ดินทั้งสองจุดก็หาอาวุธพบแล้ว หรือก็คืออย่างน้อยพวกเขายังมีอาวุธที่สำหรับชดเชยเข้ามาได้นอกเหนือจากนี้ พวกเขาเองก็ปรับตัวกับสภาพอากาศของตงฉิงได้แล้ว ซ้ำยังได้คนมีความสามารถแปลกหน้ามาอีกร้อ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2433

    ราชองครักษ์ในตอนนั้น กลุ่มหนึ่งคุ้มครองจักรพรรดินีเดินทางไปเป็นทูตที่ต้าชื่อ ราชองครักษ์ที่เหลือ แบ่งกลุ่มนำประชาชนหนีตายนอกเหนือจากนั้น ยังมีเข้าทำศึกสงครามอีกด้วยตอนนั้นมีทัพกบฏกองหนึ่ง ไม่เห็นภัยธรรมชาติอยู่ในสายตา แต่คิดจะก่อกบฏขึ้นในช่วงวุ่นวายนี้ราชองครักษ์เพื่อให้ประชาชนมีเวลาในการหลบหนีเอาชีวิตรอด ก่อนหน้าที่ภัยพิบัติจะมาถึง ก็ไม่สนใจชีวิตตนเอง เข้าต่อต้านกับทัพกบฏ ส่วนใหญ่สู้จนตัวตายต่อมา ราชองครักษ์ที่คุ้มกันวังเหล่านี้ก็ออกไป เก็บเสื้อเกราะของสหายร่วมรบกลับมาซึ่งก็คือที่อยู่ตรงหน้านี้เซียวหลันยวนยื่นมือไปกำกระบี่ยาวเล่มหนึ่งในนั้น หยิบขึ้นมา และราวกับได้ยินเสียงโห่ร้องคำรามในสนามรบครั้งนั้นและยังสัมผัสได้ถึงความสิ้นหวังของตงฉิงในตอนนั้นด้วย ภัยพิบัติและหายนะจากมนุษย์ ถอยจนไม่มีทางถอย ไม่ว่าจะสู้หรือป้องกัน ก็มีแค่หนทางตายเท่านั้น"ท่านอ๋อง ที่นี่ยังมีแผนผังป้องกันสงครามของตงฉิงด้วยขอรับ" ชิงอีพบกล่องใบหนึ่งพอเปิดกล่องออก ด้านในมีแผนผังวางกำลังป้องกันหนาเป็นกล่อง ในวังจักรพรรดิ ในเมืองหลวง รวมถึงเมืองอื่น กระทั่งเมืองอั้นก็ยังอยู่ในนี้ถึงแม้ตงฉิงจะไม่มีแล้ว

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2432

    กระดูกขาวกองใหญ่พอเหลือบมองไปก็ทำเอาคนรู้สึกขยาดกลัวแล้วถ้าจะบอกว่าตกตะลึงก็คงดูไม่ค่อยเหมาะสมนัก แต่พวกเขาตอนนี้ก็มีความรู้สึกนี้ในใจจริงๆกระดูกขาวหลายกองเหมือนจะรักษาอยู่ในท่าเดิมด้วยนี่มีแค่ความเป็นไปได้เดียว ก็คือตอนที่พวกเขาตายล้วนนั่งกันอยู่ที่นั่น ไม่ขยับ ไม่ดิ้นรน ไม่หนีเอาตัวรอด แค่นั่งอยู่ตรงนั้นจนกระทั่งตายไปเหล่านี้จะใช่คนในวังจักรพรรดิแต่เดิมไหมนะ?เสื้อผ้าบนตัวพวกเขายังสวมกันอยู่เพียงแต่กระดูกมือและกะโหลกศีรษะที่โผล่ออกมาชุดเหล่านั้น ดูแล้วล้วนประณีตงดงามมีหลายคนที่เสื้อผ้าเป็นแบบเดียวกัน ยิ่งไปกว่านั้นยังมองออกว่าเป็นชายหรือหญิงได้จากบนเสื้อผ้าเซียวหลันยวนนึกถึงหนังสือที่เกี่ยวข้องกับตงฉิงที่ตนเองเคยอ่านมา รูปภาพด้านบน วาดคนรับใช้ในวังจักรพรรดิตงฉิงไว้ ตอนนี้พอเห็นเครื่องแบบเหล่านี้ ก็เหมือนมีบางส่วนที่เทียบกันได้อยู่"อย่าแตะต้องพวกเขา" เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้นทุกคนขานรับพร้อมกันทันที"นับจำนวนคนคร่าวๆ มาหน่อย" เซียวหลันยวนสั่งออกมาอีกทุกคนก็เดินออกไปทันที เริ่มนับขึ้นมาจำนวนคนที่นี่มีเยอะมากยิ่งไปกว่านั้นล้วนอยู่ในท่านั่งกันหมดจริงๆ แน่นอนว่ามี

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2431

    ความสูงของเจดีย์หยกขาว สำหรับเซียวหลันยวนแล้วไม่ใช่เรื่องยากเท่าไรเพราะบนกำแพงนั้นมีรูกำแพงอยู่มากมาย ไม่ใช่พื้นเรียบที่ไม่มีจุดส่งแรงด้วยวิชาตัวเบาของเขา แค่ลอยตัวเบาๆ ก็ขึ้นไปได้แล้ว"ข้าจะขึ้นไปดู พวกเจ้าก็ระวังตัวกันหน่อย"เซียวหลันยวนพูดพลางจรดปลายเท้ากับพื้น ตัวคนก็ทะยานลิ่ว พุ่งลอยออกไปยังกำแพงหินฝั่งตรงข้ามตอนที่คนไปถึงเบื้องหน้ากำแพงหิน จึงเปรียบเทียบกันได้ และมองออกว่า กำแพงหินนั้นสูงมาก แต่เซียวหลันยวนใช้การแตะเบาๆ ที่รูหินเพื่อส่งตัวออกไป เขาพุ่งทะยานขึ้นอย่างรวดเร็ว เพียงไม่นานก็มาถึงข้างเจดีย์หยกขาวแล้วเขาหันกลับมาชำเลืองมองและก็โชคดีที่หันมามองเพราะตอนที่หันกลับมามองจึงพบว่าบนประตูทองแดงนั้นมีการชี้ไปสองจุด ทางหนึ่งคือซ้าย เขียนว่าเป็น อีกด้านคือขวา เขียนว่าตายก่อนหน้านี้ตอนที่เขายืนอยู่หน้าประตูมองไม่เห็นตำแหน่งนี้เลย และตอนนี้พวกของเจ้าอารามยืนอยู่ที่นั่นก็ไม่มีใครมองเห็นเลยสักคนอธิบายได้แค่ว่าการชี้ทางนี้คือมีไว้ให้คนที่อยู่ตรงนี้ดูเท่านั้น และมีไว้สำหรับจุดเปิดกลไกนี้โดยเฉพาะถ้าหากมองไม่เห็น แล้วหมุนเจดีย์ขาวนั่นส่งเดช เป็นไปได้มากว่าจะไปเปิดกลไกเ

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status