Share

ตอนที่ 11

last update Last Updated: 2025-07-19 09:13:38

บ้านสกุลจู

ไป๋ซินซินกลับเข้ามาในบ้าน เห็นทุกคนกำลังกินข้าวพร้อมหน้า ทุกสายตาหันมาจับจ้องก่อนจะเมินกลับอย่างไม่ใส่ใจ ทำให้นางรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นส่วนเกิน

แต่นางจะรู้สึกให้เปลืองความรู้สึกไปทำไม เพราะถึงอย่างไรนางก็ไม่เคยได้กินข้าวร่วมโต๊ะกับพวกเขาอยู่แล้ว

“มานั่งกินข้าวด้วยกันสิ”

“ท่านพ่อ!”

“หุบปาก” เอ่ยเสียงเย็นพอ ๆ กับสายตา

อ้ายเหม่ยเม้มปากด้วยความขัดใจ ถลึงตามองพี่สาวต่างบิดาอย่างเกลียดชัง มองไปทางมารดาก็เห็นท่านปรามด้วยสายตา จึงได้แต่ข่มกลั้นความโมโหเอาไว้

“ผู้ใหญ่เรียกไม่ได้ยินหรือ” จูอินมองลูกสาวคนโตด้วยสายตาที่ว่างเปล่า

“เจ้าค่ะ” ซินซินจำใจเดินไปนั่งร่วมโต๊ะ

จูก่านต้งลุกไปตักข้าวและหยิบตะเกียบส่งให้หญิงสาว แล้วนั่งลงกินต่อโดยไม่พูดอะไร

“ขอบใจ” บอกน้องชายแล้วมองกับข้าวบนโต๊ะ แต่ไม่กล้าเอื้อมตะเกียบออกไปคีบ จึงคีบข้าวเปล่าใส่ปาก

“แม่ของเจ้าได้บอกอะไรกับเจ้าหรือยัง”

“ข้ายังไม่ได้บอกนาง” จูอินไม่คาดคิดว่าสามีจะพูดเรื่องนี้ขึ้นมา “ท่านพ่อบ้านไม่อยู่ เห็นว่ารีบกลับบ้านเกิดไปดูใจน้องชาย ต้องรอให้เขากลับมาก่อน ข้าจึงยังไม่ได้พูดอะไรกับนาง”

“แล้วเขาจะกลับมาเมื่อไหร่”

“อีกประมาณครึ่งเดือน เจ้าจำนายท่านสกุลเสิ่นได้ไหมอาเกอ” นางรีบเปลี่ยนเรื่องคุย

“อือ พูดถึงเขาทำไม” ผู้คนในตัวเมืองเทียนสินแห่งนี้ มีใครบ้างที่ไม่รู้จักคนมักมากผู้นั้น

“วันนี้เขามาซื้อซาลาเปาที่ร้านของเรา พอได้คุยด้วยบ่อย ๆ ก็ทำให้รู้ว่าเขาเป็นคนอัธยาศัยดี คุยสนุก ข้าเห็นเขาเอาซาลาเปาไปแจกคนยากไร้หลายคนเลย”

“ข้าก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าเจ้าพูดถึงเขาทำไม”

“ข้าก็แค่อยากเล่าให้เจ้าฟัง ชาวบ้านต่างนินทากันว่าเขามักมาก อายุจะหกสิบแล้วยังขยันแต่งอนุเข้าบ้าน พูดถึงแต่เขาในทางที่แย่ แต่เรื่องดี ๆ ที่เขาทำกลับไม่เคยมีใครพูดถึง” จูอินอยากพูดต่ออีกหลายประโยค แต่จำใจต้องสงบปากสงบคำเมื่อสามีเอาแต่เงียบ

“ชาวบ้านเขาก็พูดตามที่เขาเห็น ดีก็ชม ไม่ดีก็นินทา ทำสิ่งไหนให้เห็นบ่อยก็จดจำสิ่งนั้น” ก่านต้งพูดขึ้นลอย ๆ

“เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นบัณฑิตหรือไร” อ้ายเหม่ยค้อนใส่น้องชายด้วยความหมั่นไส้

“ข้าคือกวีเอกแห่งเมืองเทียนสิน”

“โง่ ๆ อย่างเจ้าอย่าฝันไกลนักเลย”

“หนี่เอ๋อร์” จูอินปรามลูกสาวเสียงอ่อน ใช้สายตาชำเลืองไปทางสามีเพื่อเตือนสตินาง

เด็กหนุ่มวัยสิบสี่ปีคีบน่องไก่ในชามตัวเองส่งต่อให้หญิงสาวข้าง ๆ ที่กินแต่ข้าวเปล่าไปหลายคำแล้ว

“ไก่นี่เนื้อเหนียวนัก ไม่มีความอร่อยเลย เจ้าเอาไปกินเถอะ”

“นี่!”

“พี่รองอยากกินหรือ” เขาคีบไก่คืนมาจากถ้วยข้าวของซินซิน “แต่ข้าเลียไปแล้วนะ เจ้าไม่ถือใช่ไหม”

อ้ายเหม่ยรีบชักถ้วยข้าวหนี “ข้าไม่กินของเหลือเดนจากเจ้าหรอก ยกให้นางไปเถิด!” พูดเสียงห้วนและค้อนใส่อย่างไม่พอใจ

“รีบกิน”

สองพี่น้องหยุดพ่นคำพูดใส่กันทันทีที่ได้ยินคำพูดของบิดา

“รีบกินสิ ข้าไม่ได้เลียไว้หรอก” ก่านต้งกระซิบบอกซินซิน แล้วยังคีบเอาผัดผักในถ้วยข้าวตัวเองใส่ในถ้วยข้าวของนางอีก “ผัดผักนี่แข็งจนปวดเหงือก เจ้าเอาไปกินเถิด”

“อือ” ลึก ๆ แล้วนางก็รู้อยู่หรอกว่าจูก่านต้งคนนี้ไม่ได้ใจร้ายกับนางเหมือนจูอ้ายเหม่ย

ภายในห้องนอน

จูอินเดินไปหาสามีที่เอนตัวนอนอยู่บนม้านั่งตัวยาว

“เมื่อยไหม” บีบนวดให้เขาอย่างเอาใจ

“อือ ช่วงนี้ร้านเราขายดีมากจนแทบไม่มีเวลาพักกลางวัน นวดแป้งจนปวดเมื่อยไปทั้งตัว”

“ขอบใจนะอาเกอ ที่ทำงานหนักเพื่อให้ข้ากับลูกสุขสบาย”

“มันเป็นหน้าที่ของข้าอยู่แล้ว”

“..อีกหน่อยข้าคงไม่ได้แต่งตัวงดงามนั่งอยู่หน้าโต๊ะเก็บเงินอีกแล้ว”

คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันก่อนจะลืมตามองหน้าภรรยา

“ในเมื่อเจ้าให้นางออกเรือน ข้าก็คงต้องทำงานในส่วนของนางแทน”

จูเกอขยับตัวขึ้นนั่งหลังตรง “นางถึงวัยที่ต้องออกเรือนแล้ว จะรั้งนางไว้ก็ไม่เหมาะไม่ควรไหมอาอิน”

“ที่ข้าพูดข้าไม่ได้โทษเจ้า..เพียงแต่ลึก ๆ แล้วข้าเป็นห่วงนาง”

สายตาเคลือบแคลงของสามีทำให้นางต้องแสร้งชักสีหน้าใส่เขา

“คิดว่าข้าโกหกอยู่สินะ”

จูเกอรีบจับแขนภรรยาที่ทำท่าจะเดินหนี “ข้าไม่ได้คิดแบบนั้น ก็แค่ตกใจที่ได้ยินว่าเจ้าเป็นห่วงนาง”

นางแสร้งค้อนใส่สามีอย่างมีแง่งอน แล้วนั่งลงบนตักเขา เอนหน้าซบกับไหล่หนา

“ข้าก็ไม่คิดว่าตัวเองจะรู้สึกแบบนี้เหมือนกัน แต่พอถึงเวลาที่จะต้องเสียนางไปถึงได้รู้ตัว”

“เช่นนั้นก็ควรพูดดี ๆ กับนางบ้าง นางจะได้รู้ความในใจของเจ้า”

“ไม่! ให้ตายข้าก็ไม่พูดเด็ดขาด”

“เช่นนั้นนางคงไม่รู้ว่าเจ้าคิดเช่นไร”

“ช่างเถิด ให้นางรู้ว่าข้าเกลียดนางไปตลอดชีวิตนั่นดีแล้ว แต่ในฐานะแม่ข้าก็อยากทำสิ่งดี ๆ ให้นางสักครั้ง”

“เช่นนั้นสมบัติที่เรามีก็แบ่งเป็นสามส่วน แล้วมอบเป็นสินเดิมให้นางไปหนึ่งส่วน”

จูอินแทบจะลุกขึ้นมาตะคอกใส่หน้าสามีว่าไม่มีทาง แต่ก็ต้องทนข่มเอาไว้

“เจ้าไม่เสียดายสมบัติที่ตัวเองหามาเลยหรือ” แสร้งถามเสียงสั่นเครือด้วยความซาบซึ้งใจ

“เสียดายทำไม ที่ข้าทำทุกวันนี้ก็เพื่อลูก ๆ ทั้งนั้น ข้ายังมีแรงหาได้อีกเยอะ ยกให้นางไปเดี๋ยวก็หามาได้อีก” เขายกให้นางหนึ่งส่วนก็เพียงแค่น้อยนิด ถ้าเทียบกับสินสอดที่จะได้รับกลับมาจากท่านเติ้ง

“เรายังมีลูกอีกสองคนนะอาเกอ อนาคตเราก็ยังไม่รู้เลยว่าจะเป็นอย่างไร ข้าอยากทำอย่างอื่นให้นางมากกว่า”

“อะไร”

“ข้าไม่อยากให้นางแต่งเข้าสกุลเติ้ง”

“นี่เหรอเหตุผล” ความเชื่อใจในตอนแรกปลิวหายจากความรู้สึกทันที

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ฮูหยินของข้าคือเจ้าเท่านั้น   ตอนที่ 15

    คำตอบที่ได้ยินทำให้คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน ใบหน้าถมึงทึงด้วยความโมโหในการกระทำของภรรยา โมโหจนจุกอกจนต้องใช้มือช่วยขยี้“หรือเจ้าไม่รู้เรื่องนี้”“นางเคยพูดถึงผู้เฒ่าเสิ่นหลังจากที่ข้าบอกเรื่องที่ท่านจะแต่งอาซินเข้าบ้าน เราสองคนมีความเห็นที่ไม่ตรงกันเรื่องนี้ นางอยากให้อาซินแต่งเข้าสกุลเสิ่น แต่ข้าก็ปฏิเสธชัดเจน ไม่ว่าอย่างไรข้าก็จะให้อาซินแต่งงานกับท่าน นางก็รับปากข้าดิบดี ขอมาคุยเรื่องนี้กับพ่อบ้านโปเอง ดังนั้นที่ข้าเห็นอาซินร้องไห้วันนี้ ข้าจึงเข้าใจว่านางไม่อยากแต่งงานกับท่าน”“เหตุใดฮูหยินจูถึงอยากให้นางแต่งกับผู้เฒ่าเสิ่นมากกว่าข้า” แม้จะรู้เหตุผลแต่ก็อยากจะถามลองเชิงให้แน่ชัด เพราะอยากรู้ว่าคนผู้นี้มีความหวังดีและจริงใจ ให้หญิงสาวที่เป็นเพียงลูกเลี้ยงเพียงใด“ตามที่เราคุยกัน นางอยากให้อาซินได้แต่งกับผู้เฒ่าเสิ่น เพราะเขารับปากนางว่าจะแต่งอาซินเป็นเมียเอก ทำให้นางมั่นใจว่าอาซินจะมีอนาคตที่มั่นคงกว่าแต่งกับท่าน”“แล้วแต่งกับข้าไม่มั่นคงอย่างไร เจ้าก็เห็นว่าข้ามั่งคั่งเพียงใด”“.....”“พูดมาเถิด ผิดพลาดตรงไหนข้าจะได้แก้ต่างกับท่านวันนี้เลย ข้าสู้ผู้เฒ่าเสิ่นไม่ได้ตรงไหน”“ไม่ใช่เรื่อ

  • ฮูหยินของข้าคือเจ้าเท่านั้น   ตอนที่ 14

    ทันทีที่พ้นออกมาจากประตูคฤหาสน์สกุลเติ้ง ไป๋ซินซินก็รีบจับแขนของมารดา แต่ก็ถูกสะบัดออกอย่างแรง จึงได้แต่จับมือตัวเองอย่างหวาดหวั่นกระวนกระวาย“ท่านแม่ ท่านจะให้ข้าแต่งงานกับผู้เฒ่าเสิ่นจริงหรือ”จูอินคลี่ยิ้มอ่อนโยนให้ลูกสาว “ดีใจจนร้องไห้เลยหรืออาซิน”“ข้าไม่ได้ดีใจนะท่านแม่”“ไม่ต้องห่วง แม่คนนี้จะรีบไปเจรจาให้เจ้าเดี๋ยวนี้แหละ เจ้ากับน้องกลับบ้านไปก่อนนะ รอฟังข่าวดีจากแม่ได้เลย”หญิงสาวรีบคุกเข่ากับพื้นถนน “ท่านแม่ได้โปรด อย่าให้ข้าแต่งงานกับท่านผู้เฒ่าเลยนะ”“ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้!” จูอินรีบหันซ้ายแลขวาแล้วกระชากร่างเล็กขึ้นมา “หยุดร้องเดี๋ยวนี้!”“เจ้าทำให้แม่โกรธอีกแล้วนะอาซิน!” จูอ้ายเหม่ยตะคอกเสียงเบา แล้วบิดเนื้อตรงต้นแขนของนางด้วยความเกลียดชังเป็นทุน “แต่งงานกับท่านผู้เฒ่าไม่ดีตรงไหน ฐานะท่านก็ดี เจ้าจะได้ไม่ต้องเหนื่อยมาช่วยท่านพ่อทำงานอีก”“ใช่ พอเจ้าแต่งงานไปแล้วข้าก็ต้องมาเหนื่อยแทนเจ้าอีก ข้าเสียสละเพื่อเจ้าแค่ไหนคิดบ้างสิ”“ข้ายอมเหนื่อย ยอมตื่นเช้านอนดึกกว่าเดิมก็ได้ ท่านแม่อย่าให้ข้าแต่งงานกับผู้เฒ่าเสิ่นเลยนะ”“ไม่ได้ ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว อ้ายเหม่ยพานางกลับบ้านไปเดี๋ย

  • ฮูหยินของข้าคือเจ้าเท่านั้น   ตอนที่ 13

    อี้เทียนมองหญิงสาวเล็กน้อย “ข้าต้องกินข้าวตรงเวลาเพราะต้องกินยา กินข้าวด้วยกันนะ”ซินซินยังไม่ทันตอบอะไร อ้ายเหม่ยก็รีบเดินไปยืนใกล้รถเข็นของเขา“ให้อ้ายเหม่ยช่วยนะเจ้าคะ”“ให้เป็นหน้าที่ของบ่าวดีกว่าคุณหนู” ซูฮวาพูดอย่างนอบน้อม แล้วเบียดอีกฝ่ายให้หลุดไปจากตำแหน่งคนเข็นรถ“เชิญ” เติ้งอี้เทียนทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นความไม่พอใจของแม่ลูกกับสาวใช้ แต่แอบสนใจความสงบเสงี่ยมเจียมตัวของหญิงสาวที่ตัวเองหมายตาที่โต๊ะอาหารจูอ้ายเหม่ยตื่นเต้นกับอาหารหลากชนิดที่วางอยู่บนโต๊ะขนาดใหญ่ หลายอย่างล้วนเป็นอาหารที่ไม่เคยกิน ส่วนที่เคยกินก็ดูพิถีพิถันกว่ามาก“ท่านแม่ โต๊ะนี่หมุนได้ด้วย ข้าไม่เคยเห็นมาก่อนเลย”“สำรวมกิริยาหน่อยอ้ายเหม่ย” จูอินรู้สึกเสียหน้าอย่างมาก แต่ก็ต้องฝืนยิ้มอ่อนหวานมองไปทางเจ้าของคฤหาสน์ “ท่านเติ้งอย่าถือสานางเลยนะ ต้องโทษข้าที่เลี้ยงดูนางอย่างเคร่งครัดเกินไป แทบไม่เคยให้ออกจากบ้านไปไหน พอเจออะไรแปลกตาจึงมักจะตื่นเต้นเกินงาม”“กินข้าวกันเถิด ถ้าไม่ถูกปากหรืออยากได้อะไรเพิ่มก็บอกได้นะ ข้าจะให้ห้องครัวทำมาให้” พูดเสร็จเขาก็หมุนฐานไม้บนโต๊ะอาหาร “ตรงหน้าเจ้าคือเนื้อตุ๋นลิ้นจี่ ลองตักกินส

  • ฮูหยินของข้าคือเจ้าเท่านั้น   ตอนที่ 12

    นางรีบยกมือห้าม “ฟังเหตุผลของข้าก่อนแล้วค่อยแย้ง”“พูดมา”“ท่านเติ้งแต่งเมียมาสามคนแล้ว แต่ทุกคนล้วนได้รับหนังสือหย่าเพราะไม่สามารถมีลูกให้เขาได้ ข้ายังรู้อีกว่าเขามีอนุอยู่ในบ้านอีกหลายคน พวกนางล้วนชิงดีชิงเด่น ใส่ร้ายป้ายสีกันไปมาเพื่อแย่งชิงความโปรดปราน”“ข้าไม่เคยได้ยิน”“เจ้าจะไปรู้อะไร วัน ๆ เอาแต่นวดแป้ง ถ้าไม่เชื่อก็ไปถามชาวบ้านดูก็ได้”“เจ้าก็เชื่อข่าวลือไม่มีมูลพวกนั้น”“ลูกของข้ากำลังจะแต่งงานกับเขานะ จะไม่ให้ข้าพูดได้อย่างไร หรือเพราะนางไม่ใช่ลูกของเจ้า แต่งไปแล้วจะเป็นอย่างไรก็ช่าง”“ข้าไม่เคยคิดแบบนั้นเลยอาอิน..เอาเป็นว่ารอให้พ่อบ้านโปกลับมาก่อนก็แล้วกัน ข้าจะคุยกับเขาอีกที”“ท่านต้องถามเขาว่าที่ชาวบ้านพูดกันเป็นความจริงไหม” เรื่องที่นางพูดไปใช่ว่าจะเป็นจริงทั้งหมด แต่ถ้านางไม่ยอมรับว่าแต่งขึ้นมาเองใครจะรู้“บุรุษมีอนุมันก็ไม่ผิด แต่งกับท่านเติ้งนางคงไม่ลำบาก”“นั่นลูกข้าทั้งคนนะ โง่ ๆ เซื่อง ๆ อย่างนางไม่กลายเป็นที่ระบายอารมณ์ของพวกอนุหรือ”“แล้วเจ้าจะให้ข้าทำอย่างไร”“ต้องให้เขาแต่งอาซินเป็นเมียเอก”“เจ้าอย่าเพ้อฝันไปหน่อยเลย แค่ได้แต่เข้าสกุลเติ้งก็โชคดีของลูกเราแล้ว”

  • ฮูหยินของข้าคือเจ้าเท่านั้น   ตอนที่ 11

    บ้านสกุลจูไป๋ซินซินกลับเข้ามาในบ้าน เห็นทุกคนกำลังกินข้าวพร้อมหน้า ทุกสายตาหันมาจับจ้องก่อนจะเมินกลับอย่างไม่ใส่ใจ ทำให้นางรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นส่วนเกินแต่นางจะรู้สึกให้เปลืองความรู้สึกไปทำไม เพราะถึงอย่างไรนางก็ไม่เคยได้กินข้าวร่วมโต๊ะกับพวกเขาอยู่แล้ว“มานั่งกินข้าวด้วยกันสิ”“ท่านพ่อ!”“หุบปาก” เอ่ยเสียงเย็นพอ ๆ กับสายตาอ้ายเหม่ยเม้มปากด้วยความขัดใจ ถลึงตามองพี่สาวต่างบิดาอย่างเกลียดชัง มองไปทางมารดาก็เห็นท่านปรามด้วยสายตา จึงได้แต่ข่มกลั้นความโมโหเอาไว้“ผู้ใหญ่เรียกไม่ได้ยินหรือ” จูอินมองลูกสาวคนโตด้วยสายตาที่ว่างเปล่า“เจ้าค่ะ” ซินซินจำใจเดินไปนั่งร่วมโต๊ะจูก่านต้งลุกไปตักข้าวและหยิบตะเกียบส่งให้หญิงสาว แล้วนั่งลงกินต่อโดยไม่พูดอะไร“ขอบใจ” บอกน้องชายแล้วมองกับข้าวบนโต๊ะ แต่ไม่กล้าเอื้อมตะเกียบออกไปคีบ จึงคีบข้าวเปล่าใส่ปาก“แม่ของเจ้าได้บอกอะไรกับเจ้าหรือยัง”“ข้ายังไม่ได้บอกนาง” จูอินไม่คาดคิดว่าสามีจะพูดเรื่องนี้ขึ้นมา “ท่านพ่อบ้านไม่อยู่ เห็นว่ารีบกลับบ้านเกิดไปดูใจน้องชาย ต้องรอให้เขากลับมาก่อน ข้าจึงยังไม่ได้พูดอะไรกับนาง”“แล้วเขาจะกลับมาเมื่อไหร่”“อีกประมาณครึ่งเดื

  • ฮูหยินของข้าคือเจ้าเท่านั้น   ตอนที่ 10

    ความโอหังของจูอ้ายเหม่ยหายไปเกินครึ่งเมื่อถูกเอ่ยถึงบิดา ใบหน้าที่เชิดขึ้นอย่างท้าทายไม่เกรงกลัวใคร เริ่มมีความกังวลอย่างเห็นได้ชัด“ข้านึกออกแล้ว” เฟิงเมี่ยนชี้หน้าอ้ายเหม่ยพร้อมทำตาโต “เจ้าคือลูกสาวคนรองของร้านซาลาเปาสกุลจู” เขาปรบมือรัว ๆ ทำท่าภูมิใจกับความฉลาดของตัวเอง “ในเมื่อถูกตราหน้าว่าเป็นขอทานแล้ว ข้าไปเล่าให้เขาฟังว่าโดนอะไรบ้าง แล้วขอค่ายาจากเขาสักหน่อยดีกว่า”จูอ้ายเหม่ยหน้าซีดด้วยความกลัว รู้สึกเหมือนจะเป็นลมเมื่อนึกถึงบิดา.. แม้ท่านจะดูใจดี แต่เมื่อใดที่ท่านโกรธขึ้นมา มารดาก็ยังไม่กล้าต่อกร แล้วนางเป็นแค่ลูกจะรอดได้อย่างไร“จะไปไหน” เฟิงเมี่ยนสะใจเมื่อเห็นนางสะดุ้งสุดตัว “จะจากไปง่าย ๆ แบบนี้ไม่ได้นะ เจ้ายังไม่ได้ขอโทษพวกเราเลย”“ทำไมข้าต้องขอโทษ” แม้จะขัดขืนแต่เสียงก็อ่อนลงเกินครึ่ง ความมั่นอกมั่นใจลดเหลือแค่หนึ่งส่วนจากสามส่วน“เช่นนั้นก็รีบกลับไปเถิด ข้าไปคุยกับเถ้าแก่จู พ่อของเจ้าง่ายกว่า”“ข้าขอโทษ! ขอโทษ ๆ ๆ ข้าขอโทษ!” ตะคอกใส่หน้าบุรุษทั้งสอง ถลึงตาใส่เฟิงเมี่ยนอย่างอาฆาตแค้น “พอใจหรือยัง”“ถ้าขอโทษไม่เต็มใจแบบนี้ก็จ่ายเจ็บหน้าข้ามาด้วยก็แล้วกัน”“ข้าไม่มี”“ไม่เ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status