บ้านสกุลจู
จูอินมองสามีที่เดินกลับเข้ามาในบ้านด้วยสายตาเคลือบแคลง เพราะเขาหายไปค่อนข้างนาน
“นึกว่าเจ้าไปกับขบวนเจ้าบ่าวแล้วเสียอีก”
“ข้าเสียเวลาอบรมลูกเขยของข้าไปนิดหน่อย”
“เขามาด้วยหรือ!” ไหนเขาว่าจะไม่มารับเจ้าสาวด้วยตัวเอง
“ใช่”
“เขาแก่รุ่นพ่อของเจ้าแล้วนะ จะไปอบรมเขาทำไม ถ้าเขาโกรธขึ้นมาแล้วไปลงกับลูกสาวของเจ้า ก็อย่าไปโทษว่าเขาไม่ดี”
ทีนี้มาบอกว่าลูกสาวของเจ้า ทีนั้นบอกข้าไม่ใช่พ่อของนาง ข้าอดสูใจกับเจ้านักอาอิน..
“เขาเป็นแค่ลูกเขยของข้า จะรุ่นพ่อหรือรุ่นปู่เขาก็ต้องให้ความเคารพข้า”
“เจ้านี่นะ ท่านเสิ่นเป็นใคร เจ้าเป็นใคร อย่าโอหังหน่อยเลย” น้ำเสียงห้วนห้าวของสามีทำให้นางโมโหยิ่งกว่าเดิม
“นับตั้งแต่วันนี้ข้าจะแยกไปนอนที่ห้องเก่าของอาซิน”
“อาเกอ!”
“ข้าจะแต่งอนุเพิ่ม จะได้มีคนมาช่วยทำงานแทนอาซิน” พูดจบก็สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปทันที
“อาเกอ!!”
“ท่านแม
บ้านสกุลจูจูอินมองสามีที่เดินกลับเข้ามาในบ้านด้วยสายตาเคลือบแคลง เพราะเขาหายไปค่อนข้างนาน“นึกว่าเจ้าไปกับขบวนเจ้าบ่าวแล้วเสียอีก”“ข้าเสียเวลาอบรมลูกเขยของข้าไปนิดหน่อย”“เขามาด้วยหรือ!” ไหนเขาว่าจะไม่มารับเจ้าสาวด้วยตัวเอง“ใช่”“เขาแก่รุ่นพ่อของเจ้าแล้วนะ จะไปอบรมเขาทำไม ถ้าเขาโกรธขึ้นมาแล้วไปลงกับลูกสาวของเจ้า ก็อย่าไปโทษว่าเขาไม่ดี”ทีนี้มาบอกว่าลูกสาวของเจ้า ทีนั้นบอกข้าไม่ใช่พ่อของนาง ข้าอดสูใจกับเจ้านักอาอิน..“เขาเป็นแค่ลูกเขยของข้า จะรุ่นพ่อหรือรุ่นปู่เขาก็ต้องให้ความเคารพข้า”“เจ้านี่นะ ท่านเสิ่นเป็นใคร เจ้าเป็นใคร อย่าโอหังหน่อยเลย” น้ำเสียงห้วนห้าวของสามีทำให้นางโมโหยิ่งกว่าเดิม“นับตั้งแต่วันนี้ข้าจะแยกไปนอนที่ห้องเก่าของอาซิน”“อาเกอ!”“ข้าจะแต่งอนุเพิ่ม จะได้มีคนมาช่วยทำงานแทนอาซิน” พูดจบก็สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปทันที“อาเกอ!!”“ท่านแม
จูเกอรีบเดินไปหยิบถุงผ้ามาเปิดดู “โชคดีที่ตกบนพื้นหญ้า ไม่อย่างนั้นคงหักไปแล้ว”“ขอบคุณท่านพ่อ”“กำไลชิ้นนี้เป็นกำไลที่พ่อเจ้ามอบให้แม่ของเจ้าในวันแต่งงาน ข้าแอบเก็บมันไว้ให้เจ้าสิบแปดปีแล้ว เพื่อรอมอบให้เจ้าในวันออกเรือน”หญิงสาวน้ำตาไหลลงแก้มเมื่อได้ยินคำพูดอันสั่นเครือของบิดา“ท่านพ่อ ท่านเล่าเรื่องพ่อแท้ ๆ ของข้าให้ฟังหน่อยได้ไหม”“อาซินเอ๋ย พ่อของเจ้าเป็นคนที่ดีมาก ๆ มีน้ำใจกับทุกคน ข้าไม่เคยเห็นพ่อของเจ้าอิจฉาว่าร้ายใครเลย เจ้าจงภูมิใจในตัวของพ่อเจ้า จงภูมิใจที่ได้เกิดเป็นลูกของเขา”“แล้วพ่อของข้าหน้าตาเป็นอย่างไร ท่านบอกเล่าให้ข้ารู้หน่อยได้ไหม”จูเกอมองใบหน้าของหญิงสาว นางไม่ได้สวยสะคราญแบบอ้ายเหม่ย แต่มีความงดงามแบบธรรมชาติโดยไม่ต้องปรุงแต่งเหมือนอ้ายเหม่ย ดวงตากลมโตของนางดูมีเสน่ห์ดึงดูดใจมากกว่าอ้ายเหม่ยเป็นไหน ๆหน้าผาก ปาก จมูก เครื่องหน้าทุกส่วนรับกันเหมาะเจาะ ไม่ต่างกับบิดาของนางเลย“แค่เจ้าส่องกระจกแล้วยิ้มให้มาก ๆ เจ้าก็จะได้เห็นพ่อของเจ้าแล้ว หน้าตาของเจ้าคล้ายเขาถึงเก้าส่วนแล้วอาซิน”“จริงหรือท่านพ่อ”“ข้าไม่โกหกเจ้าหรอก รีบไปนอนพักผ่อนได้แล้ว”“เจ้าค่ะ” นางกลับเข้า
ร้านซาลาเปาสกุลจูเจียวหวงเดินเข้าไปในร้านแล้วกวาดสายตามองหาซินซินถึงในห้องครัว เห็นนางกำลังนำซาลาเปาเรียงใส่ลังถึงก็เดินเข้าไปหา“ซินซิน.. อาซิน”หญิงสาวหันไปมองแล้วส่งยิ้มให้ “อาหวง” นางรีบเดินออกไปหาเพื่อน “อาซาเล่า ไม่มาด้วยหรือ”“ไม่ได้มาหรอก ช่วงนี้นางคงไม่ได้ออกมาเจอกับเจ้าไปอีกพักใหญ่”“ทำไมเล่า”ชายหนุ่มยิ้มเขินอาย “นางแพ้ท้องหนักน่ะ”ไป๋ซินซินฉีกยิ้มกว้างด้วยความดีใจ “เจ้ากำลังจะได้เป็นพ่อคนแล้ว คงดีใจมากเลยสินะ”“อือ ดีใจมาก วันนี้ข้าจะมาซื้อเกี๊ยวให้นางกินสักหน่อย ยังพอมีเหลือไหม” เขาถามเพราะมองหาที่หน้าร้านแล้วไม่เจอ“วันนี้เกี๊ยวหมดแล้ว แต่ถ้าเจ้าไม่รีบข้าจะทำให้ใหม่เอาไหม ราว ๆ สองเค่อก็เสร็จ”“ได้สิ เช่นนั้นข้าจะช่วยเจ้านึ่งซาลาเปาเอง เจ้ารีบไปทำเกี๊ยวให้ข้าเถิด”“อือ ตามข้ามา” แล้วพาเขาเข้าไปในครัว ยื่นถาดซาลาเปาให้เขาแล้วจึงเดินไปที่มุมนวดแป้ง“ซินซิน”“หือ”“คนอื่นไปไหนกันหมด ทำไมถึงมีเจ้าอยู่คนเดียว”“อากังไปซื้อของกับพ่อข้า ส่วนท่านแม่ออกไปกับอ้ายเหม่ย” นางมองหน้าเพื่อนตั้งแต่วัยเด็ก อยากจะถามถึงเจ้านายของเขา คนที่เคยให้สัญญาทางวาจากับนางไว้ แต่ก็ไม่อยากคาดหวังไปม
ไป๋ซินซินได้แต่ก้มหน้าหลบสายตาเขาด้วยความประหม่า ไม่ได้พูดอะไรกับเขาอีกจนถึงหน้าร้านตัดผ้าในตรอกดอกไม้“นายท่านไม่ต้องรอข้าน้อยหรอกเจ้าค่ะ เสร็จแล้วข้าน้อยจะเดินกลับเอง”“ข้าจะรอ รีบไปทำธุระของเจ้าให้เสร็จเถิด”“เจ้าค่ะ”เติ้งอี้เทียนรอให้หญิงสาวเดินเข้าไปในร้านได้ประมาณครึ่งเค่อก็เรียกหาเจียวหวง“เรียกเจ้าของร้านออกมาพบข้าที”“ขอรับนายท่าน”ไม่นานเจ้าของร้านก็ออกยืนเทียบข้างหน้าต่างรถม้า“คารวะนายท่าน”“แม่นางไป๋วัดตัวเสร็จหรือยัง”“ยังไม่ได้วัดขอรับ ตอนนี้นางกำลังเลือกผ้าอยู่”“ให้นางเลือกไป เสร็จแล้ววัดตัวนางไว้ พรุ่งนี้ข้าจะให้คนของข้าส่งผ้าผืนใหม่มาให้ ปิดปากให้สนิท ทำงานให้ดีที่สุด”เถ้าแก่เจ้าของร้านตาตื่นเมื่อเห็นเงินที่เขายื่นมาให้“ขอบคุณนายท่าน”“ถ้าเรื่องนี้รู้ถึงหูผู้อื่น เจ้าเตรียมตัวหาที่อยู่ใหม่ได้เลย กลับไปได้แล้ว”“ขอรับนายท่าน”หลายวันผ่านไปคฤหาสน์สกุลเสิ่นจูอินย่อกายคารวะเจ้าของคฤหาสน์ที่ออกมาต้อนรับด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม“นายท่านเรียกข้ามาพบ ได้ฤกษ์ดีแล้วหรือ” ถามด้วยความร้อนใจ ความจริงแล้วนางไม่ได้อยากรอฤกษ์รอยามเลยสักนิด อยากส่งไป๋ซินซินออกเรือนไปให้เร็วที่สุด ภาย
เฟิงเมี่ยนรีบเดินเข้าไปรับผู้เป็นนายที่เดินออกมา“เป็นอย่างไรบ้าง”“ให้ว่านว่านส่งหลักฐานให้เจ้าสำนักบูรพา กำชับไปว่ารอให้พ้นงานแต่งงานของข้าแล้วค่อยเคลื่อนไหว และให้นำเงินสามหมื่นตำลึงทองของข้าคืนมาด้วย”“นายท่าน! ที่ท่านหายเงียบไปตั้งนาน ท่านเล่นพนันกับผู้เฒ่าเสิ่นอยู่หรอกหรือ ท่านเล่นพนันอะไรกัน ทำไมถึงหมดเยอะขนาดนั้น ไหนว่าจะมาคุยเรื่องแม่นางไป๋ไงเล่า”เติ้งอี้เทียนถึงกับคลึงขมับ “เจ้านี่เก่งแต่เรื่องใช้กำลังกับเรื่องกิน นอกนั้นโง่ไปเสียหมด รีบไปจัดการตามที่ข้าบอกเถิดไป”“ขอรับ.. อาหวง”เจียวหวงรีบวิ่งจากรถม้าไปช่วยประคองเจ้านาย“อาหวง”“ขอรับนายท่าน”“ในเมืองนี้เจ้าชอบกินอะไรมากที่สุด”เขาเผลอมองเจ้านายด้วยสีหน้างุนงง “บ่าวกินได้ทุกอย่าง ไม่มีอะไรที่ชอบ ไม่มีอะไรที่ไม่ชอบ”“แต่ข้าเดาว่าเจ้าต้องชอบกินซาลาเปาหรือเกี๊ยวแน่ ๆ”อาหวงรีบพยักหน้ารับด้วยท่าทางตื่นเต้น “นายท่านรู้ได้อย่างไร บ่าวชอบกินซาลาเปาไส้เนื้อแกะร้านเถ้าแก่จูมากที่สุด บ่าวยังสนิทกับซินซินมากด้วย”อี้เทียนอมยิ้ม ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าบ่าวคนนี้กับเมียของเขาเป็นสหายรักของซินซิน“วันนี้ข้าอารมณ์ดี จะพาเจ้าไปนั่งกินซาลาเปาที
คฤหาสน์สกุลเติ้งเติ้งอี้เทียนคิ้วขมวดมุ่นขณะฟังเรื่องเล่าจากปากของเฟิงเมี่ยน จินตนาการถึงใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาของหญิงสาวแล้วยิ่งปวดใจ และยิ่งเกลียดมารดาของนางอีกเท่าทวี“จะให้อ้ายเหม่ยสวมรอยแทนนางอย่างนั้นหรือ ความคิดต่ำทรามมาก.. ถ้าไม่เห็นแก่น้ำใจของเถ้าแก่จู ข้าจะดัดหลังนางจูโดยการสลับเกี้ยวเจ้าสาวเสียเลย”“ข้าสงสารนางเหลือเกินนายท่าน เสียงร้องของนางยังสะเทือนใจข้าอยู่เลย”“พรุ่งนี้ข้าต้องไปพบผู้เฒ่าเสิ่นหน่อยแล้ว เจ้าไปเตรียมของฝากให้เขาหน่อย”“นายท่านต้องการอะไรเป็นของฝากขอรับ”“ไปปรึกษาว่านว่าน” ที่แท้แล้วว่านว่านก็คือคนของเขา เรื่องของซินซินก็เป็นเขาที่สั่งให้นางคอยดูแลเฟิงเมี่ยนยิ้มร่า แค่เอ่ยชื่อแม่นางว่านก็รู้ทันทีว่าคนผู้นั้นกำลังจะถึงคราวซวย ถูกหมายหัวเรียบร้อยแล้ว “ข้าจะรีบไปเดี๋ยวนี้”วันต่อมาคิ้วสีดอกเลาของผู้เฒ่าเสิ่นเลิกสูงด้วยความฉงน เมื่อบ่าวรับใช้มารายงานว่าผู้ใดมาขอพบ“รีบไปเตรียมชาเหยียนฉารับแขก” บอกกับพ่อบ้านแล้วรีบเดินไปต้อนรับแขกที่มาโดยมิได้นัดหมายทันที..“ท่านเติ้ง”เติ้งอี้เทียนลุกขึ้นยกมือคารวะผู้เฒ่าเจ้าของบ้าน ที่เดินยิ้มแย้มเข้ามาพร้อมเสียงทักทาย