Share

บทที่ 34 ราคะกำจาย

Author: BigM00N
last update Last Updated: 2025-05-23 21:44:05

สายตาที่ปิดบังอารมณ์เอาไว้ไม่มิดของสุ่ยอี้หรงทำให้โม่ชิงเยว่ลอบสังเกตสีหน้าของสุ่ยฮูหยินในทันที นางแอบเห็นว่าสาวใช้สองนางที่อยู่ข้างกายของสุ่ยฮูหยินหายไปจึงได้หันไปส่งสายตาให้ชุ่ยเหมยซึ่งชุ่ยเหมยก็พยักหน้ารับเพื่อส่งสัญญาณว่านางรับรู้แล้ว โม่ชิงเยว่จึงได้หันไปส่งมอบรอยยิ้มให้กับบรรดาสตรีที่อยู่ในบริเวณงาน สาวใช้ที่ติดตามติดตามนางมาต่างก็แยกย้ายกันไปมอบถุงหอมให้แก่บรรดาสตรีที่มาเป็นแขกภายในงาน ชุ่ยเหมยจึงใช้จังหวะที่เดินไปมอบถุงหอมเร้นกายไปยังทิศที่สาวใช้ข้างกายของสุ่ยฮูหยินเดินจากไป

“ถุงหอมเหล่านี้ล้วนได้รับการปักลวดลายจากช่างปักที่มากฝีมือของสกุลเจียง ส่วนเครื่องหอมที่อยู่ด้านในเป็นเครื่องหอมที่ข้าลงมือปรุงเองกับมือ หวังว่าทุกท่านคงจะไม่รังเกียจของขวัญชิ้นนี้ของข้า” โม่ชิงเยว่เอ่ยพลางยิ้มออกมาซึ่งบรรดาสตรีที่มาเข้าร่วมงานเลี้ยงต่างก็ลังเลที่จะรับถุงหอมจากสาวใช้ของนางแต่เมื่อท่านหญิงเจียหลีรับเอาไปแล้วเอ่ยชื่นชมออกมาทำให้สตรีหลายคนรับเอาไว้ มีเพียงคนของสกุลสุ่ยและบรรดาที่สตรีที่สนิทสนมกับสกุลสุ่ยเพียงเท่านั้นที่ไม่กล้ารับถุงหอมเอาไว้

ปฏิกิริยาเช่นนี้ทำให้โม่ชิงเยว่ลอบยิ้มออกมา ด้วยนางคาดเดาเอาไว้แล้วว่าจะต้องเป็นเช่นนี้จึงได้จงใจมอบถุงหอมเพื่อผูกไมตรีกับบรรดาสตรีที่มาเป็นแขกในงานเลี้ยง มิตรและศัตรูควรจะถูกแบ่งแยกออกจากกันอย่างชัดเจน แม้ว่าการรับถุงหอมจะเป็นการแสดงให้เห็นว่ายินดีที่จะรับไมตรีจากนางแต่ก็ไม่อาจจะนำมาใช้ตัดสินได้ว่าเป็นมิตรหรือศัตรูได้แต่อย่างน้อยก็เป็นชี้ให้นางได้รู้ว่าควรจะเริ่มต้นมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ใดได้บ้าง

“ถุงหอมนี้ทั้งประณีตและงดงาม อีกทั้งลวดลายบนถุงหอมก็ดูแปลกตานิ่งอันโหวฮูหยินคิดจะทำถุงหอมเหล่านี้วางขายที่ร้านของท่านหรือ” คำถามของท่านหญิงเจียหลีทำให้โม่ชิงเยว่ยิ้มออกมา ท่านหญิงผู้นี้กับนางแม้ว่าจะไม่ค่อยได้พบกันนักแต่ทุกครั้งที่ได้พบหน้าก็รู้สึกถูกชะตากันอยู่ไม่น้อย

“ไม่ได้วางขายหรอกถุงหอมเหล่านี้ข้าตั้งใจจะนำมามอบให้แก่ทุกท่านเพื่อเป็นการผูกไมตรี หากท่านหญิงชื่นชอบข้าจะให้คนนำไปมอบให้แก่ท่านหญิงที่จวนของท่านในภายหลัง” เมื่อโม่ชิงเยว่เอ่ยเช่นนี้ท่านหญิงเจียหลีก็พยักหน้า

“ขอบคุณนิ่งอันโหวฮูหยินมาก” ท่านหญิงเอ่ยพลางหันไปโอ้อวดกับสหายว่านางกำลังจะได้ถุงหอมเพิ่มอีกทำให้โม่ชิงเยว่หัวเราะออกมาแล้วหันไปกำชับสาวใช้ของนางว่าให้สั่งทำถุงหอมเพิ่มแล้วส่งไปที่จวนของสหายของท่านหญิง ท่าทีใส่ใจท่านหญิงของโม่ชิงเยว่ทำให้สุ่ยอี้หรงเบ้ปากแล้วหันไปเอ่ยกับพระชายาของฉินอ๋องอย่างนอบน้อม

“พระชายาเพคะ วันนี้อี้เหรินมีความตั้งใจเป็นพิเศษที่จะชงชาถวาย อีกทั้งยังมีดอกโบตั๋นและดอกเสาเย่าที่นางเพาะเลี้ยงเอาไว้เป็นอย่างดียามดอกไม้เหล่านั้นผลิดอกเบ่งบานเพื่อรอให้พระชายาได้เชยชมแล้วเพคะ” คำพูดของสุ่ยอี้หรงทำให้สายตาหลายคู่หันไปสนใจสุ่ยอี้เหรินอีกครั้ง นางรีบย่อกายคำนับทุกคนแล้วจึงได้เอ่ยออกมาอย่างอ่อนหวาน

“อี้เหรินขออนุญาตแสดงความสามารถอันอ่อนด้อยชงน้ำชาให้ทุกท่านด้วยตนเองนะเจ้าคะ” เมื่อเอ่ยจบนางก็เดินไปนั่งลงบนโต๊ะที่สาวใช้ของนางจัดเตรียมเอาไว้แล้วเริ่มลงมือชงชาด้วยความพิถีพิถัน ท่วงท่าอันงดงามและอ่อนช้อยเมื่อรวมกับสีหน้าที่เต็มไปด้วยความตั้งอกตั้งใจของคนงาม ทำให้สายตาทุกคู่ต่างจดจ้องไปที่สุ่ยอี้เหริน ยามที่นางชงชาเสร็จกลิ่นหอมอ่อนๆ ของใบชาที่ได้รับอุณหภูมิอันเหมาะสมทำให้ทุกคนก็ต่างชื่นชมนางออกมาเป็นเสียงเดียวกัน และต่างพากันคาดหวังว่าตนเองจะได้มีโอกาสได้ลิ้มรสน้ำชาของนางหรือไม่

แน่นอนว่าบุตรสาวของจวนสกุลสุ่ยจะมานั่งชงน้ำชาเพื่อแจกจ่ายทุกคนที่มาเป็นแขกในงานเลี้ยงได้อย่างไร ดังนั้นชาที่แขกคนอื่นๆ ได้รับไปล้วนเป็นชาที่ยกออกมาจากโรงครัวทั้งสิ้น ทุกคนต่างให้ความสนใจถ้วยชาที่ถูกยกออกมาจนแทบจะไม่มีผู้ใดให้ความสนใจดอกไม้ที่ข้ารับใช้ของจวนสกุลสุ่ยช่วยกันยกออกมาเพื่อโอ้อวดความงามของดอกไม้ที่ได้รับการดูแลมาอย่างดี

โม่ชิงเยว่ได้รับการเชื้อเชิญให้ไปนั่งลงบนโต๊ะตัวหนึ่ง บนโต๊ะตัวนั้นวางขนมของกินเล่นและถ้วยชาเอาไว้แล้ว ยามที่นางเปิดฝาของถ้วยชาขึ้นมากลิ่นหอมของน้ำชาก็ล่องลอยขึ้นมาแตะจมูก โม่ชิงเยว่รีบกลั้นหายใจแล้วยกถ้วยชาขึ้นทำท่าเสมือนกำลังดมกลิ่นหอมของน้ำชาแล้วลอบกินยาเพื่อต้านการออกฤทธิ์ของพิษราคะกำจายเอาไว้ ตอนที่ซ่งเหวินจิ้งมาเตือนนาง นางก็ไปเปิดตำรายาสมุนไพรที่เก็บเอาไว้มาทบทวนอีกครั้งแล้วก็พบว่ามียาที่ไร้รสไร้กลิ่นแต่มีพิษกระตุ้นกำหนัดอย่างรุนแรงอยู่แค่เพียงไม่กี่อย่าง ซึ่งจากตัวยาที่จวนสกุลสุ่ยน่าจะพอหาได้ในยามนี้มีความเป็นไปได้ว่าน่าจะเป็นพิษราคะกำจายนางจึงได้ปรุงยาต้านพิษออกมา อันที่จริงแล้วการจะได้รับพิษราคะกำจายนี้ไม่จำเป็นต้องดื่มกินก็สามารถได้รับพิษได้ เนื่องจากพิษชนิดนี้สามารถได้รับพิษได้ด้วยการสูดดม กลิ่นที่มีแต่คล้ายไม่มีของพิษชนิดนี้จะออกฤทธิ์กระตุ้นกำหนัดของคนที่สูดดมเข้าไป

“น้ำชาฝีมือของน้องสาวของข้าเป็นเช่นไรบ้าง นิ่งอันโหวฮูหยินคงจะไม่เคยได้ลิ้มรสน้ำชาชั้นดีเช่นนี้กระมัง” สุ่ยอี้หรงเอ่ยออกมาพลางจ้องมองโม่ชิงเยว่ด้วยสายตาเย้ยหยันโม่ชิงเยว่จึงได้ยิ้มออกมาแล้วขยับกายลุกขึ้น ยกถ้วยชาขึ้นมาแล้วเดินตรงไปหานาง โต๊ะของโม่ชิงเยว่และสุ่ยอี้หรงอยู่ห่างกันไม่ไกลนักดังนั้นพอโม่ชิงเยว่ใกล้จะไปถึงนาง นางก็รีบผงะถอยหลังอย่างตื่นตกใจทำให้สาวใช้ของนางต้องรีบเข้าไปช่วยประคองนางอย่างตื่นตกใจในทันที

“ซื่อจื่อฮูหยิน!” เสียงอุทานของสาวใช้ทำให้สุ่ยอี้หรงพลันตั้งสติได้นางปัดมือของสาวใช้ออกแล้วเอ่ยกับโม่ชิงเยว่ด้วยน้ำเสียงรังเกียจ

“สตรีเช่นเจ้าช่างไม่รู้จักกฎระเบียบจริงๆ เหตุใดอยู่ๆ จึงได้ลุกขึ้นมาเช่นนี้กันเล่า” คำถามของสุ่ยอี้หรงทำให้โม่ชิงเยว่ยิ้มออกมาพลางยื่นถ้วยชาของนางไปจ่อตรงหน้าของสุ่ยอี้หรง

“ข้าก็แค่อยากให้ท่านดูว่ามีแมลงตกลงไปในถ้วยชา”

“ว้าย! เจ้าจะบ้าหรือ” เสียงตวาดของสุ่ยอี้หรงพร้อมด้วยถ้วยชาที่ถูกปัดทิ้งลงไปบนพื้นทำให้ทุกคนต่างจ้องมองนางด้วยความประหลาดใจ ยิ่งยามที่นางยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาปิดปากและจมูกอย่างลืมตัวทำให้ทุกคนต่างจ้องมองนางราวกับตัวประหลาด ส่วนท่านหญิงเจียหลีที่เห็นเช่นนั้นรีบเดินมารั้งแขนของโม่ชิงเยว่ให้ถอยห่างจากถ้วยชาที่ตกลงไปบนพื้นในทันที

“ชาถ้วยนี้น่าจะมีปัญหา” เสียงกระซิบของท่านหญิงเจียหลีทำให้โม่ชิงเยว่หันไปมองท่านหญิงด้วยความประหลาดใจว่าเพราะเหตุใดท่านหญิงจึงคาดเดาได้ นางก็ชี้ให้โม่ชิงเยว่ดูพฤติกรรมของสองพี่น้องสกุลสุ่ยที่ในยามนี้ถอยห่างจากถ้วยชาแล้วยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาปิดปากปิดจมูกอย่างระมัดระวัง ทำให้สีหน้าของทุกคนซีดเผือดแล้วพากันถอยห่างถ้วยชาใบนั้นอย่างระมัดระวังแล้วยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาปิดปากและจมูกกันเป็นแถว ท่าทีของพวกนางทำให้โม่ชิงเยว่ลอบชื่นชมพวกนางอยู่ในใจพลางคิดว่าสมแล้วที่เป็นสตรีในสกุลสูงศักดิ์เรื่องเล่ห์กลเช่นนี้พวกนางต่างพากันคาดเดาได้และรีบปกป้องตนเองกันอย่างรวดเร็ว

“พวกเจ้าคิดจะเล่นงานข้าหรือ” โม่ชิงเยว่เอ่ยถามออกมาด้วยสีหน้าโกรธเคือง ท่านหญิงเจียหลีรีบเอ่ยกับนางด้วยน้ำเสียระมัดระวัง

“พวกนางปิดปากปิดจมูกเช่นนั้นเจ้าจงระวัง” ระหว่างที่พูดท่านหญิงเจียหลีก็ใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดปากและจมูกของตนเองเช่นกันซึ่งโม่ชิงเยว่ก็ได้แต่คิดในใจว่าหากไม่ใช่เพราะนางกินยาต้านพิษต่อให้ปิดปากปิดจมูกยามนี้ก็คงจะไม่ทันแล้ว

“พวกนางคิดเล่นจะเล่นงานข้า” เมื่อเอ่ยจบโม่ชิงเยว่ก็แสร้งหมดแรงทรุดลงไปที่พื้น

“นิ่งอันโหวฮูหยิน” เสียงเรียกด้วยความตื่นตกใจของผู้คนรอบกายทำให้โม่ชิงเยว่แสร้งพยายามลืมตาขึ้นมาแล้วเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง

“ข้าวิงเวียนศีรษะเหลือเกิน ชุ่ยหลันพาข้ากลับจวนที” โม่ชิงเยว่เอ่ยเรียกสาวใช้ที่นางพามาด้วยให้มาช่วยประคองนางซึ่งชุ่ยหลันและสาวใช้ของนางอีกสามคนก็รีบเข้ามาช่วยกันประคับประคองนางเอาไว้หนึ่งในนั้นมีชุ่ยเหมยด้วยทำให้โม่ชิงเยว่ลอบยินดีอยู่ในใจเมื่อเห็นว่าชุ่ยเหมยกลับมาอยู่ข้างกายของนางแล้ว

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ฮูหยินผู้ถูกลืมเลือน ณ. เรือนเหมันต์   บทที่ 40 ปิดล้อมจวนสกุลสุ่ย

    ยามที่ขบวนแห่โลงศพของสุ่ยอี้หรงเคลื่อนผ่านไปแล้ว โม่ชิงเยว่จึงได้หันมาทางบุตรชายและบุตรสาวของตนเอง นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้พบเจอกับขบวนแห่เช่นนี้พวกเขาจึงได้จ้องมองด้วยความสนใจ“อย่าได้มองอีกเลย เกิดแก่เจ็บตายล้วนเป็นเรื่องธรรมดา” โม่ชิงเยว่เอ่ยกับลูกๆ ของนางด้วยน้ำเสียอ่อนโยน ซึ่งเด็กๆ ก็พยักหน้าแล้วหันไปให้ความสนใจกับของเล่นในร้านค้าอีกครั้ง“เขาคือคนที่สังหารสุ่ยอี้หรงเองกับมือ ข้าขอเตือนเจ้าว่าเหยียนเซียวไม่ใช่คนที่เจ้าควรจะข้องแวะด้วย” เสียงกระซิบของคนที่มายืนข้างหลังทำให้โม่ชิงเยว่กะพริบตาแล้วจึงได้ยิ้มออกมา“เหตุใดวันนี้ใต้เท้าจึงได้ออกมาเดินเที่ยวเล่นได้” คำถามของนางทำให้สายตาทุกคู่จ้องมองไปที่เขา ชายหนุ่มที่มีหน้ากากโลหะบนใบหน้าย่อมจะดูแปลกตาในสายตาของผู้อื่น“ข้ามาทำงานแต่บังเอิญเห็นฮูหยินเข้าก็เลยแวะเข้ามาทักทาย” ซ่งเหวินจิ้งเอ่ยแล้วจ้องมองบุตรสาวและบุตรชายที่กำลังจ้องมองเขาด้วยแววตาที่ฉายความสนใจ เขาจึงได้ย่อตัวลงให้อยู่ในระดับเดียวกับสายตาของเด็กๆ แล้วเอ่ยกับพวกเขาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยน“คุณหนูและคุณชายอยากได้ของชิ้นไหนบอกข้าได้เลยนะ อืม หุ่นไม้ตัวนั้นดีไ

  • ฮูหยินผู้ถูกลืมเลือน ณ. เรือนเหมันต์   บทที่ 39 สาสม

    แม้ว่าในใจจะกล่าวโทษตนเองที่ก่อนหน้านี้ทั้งโง่เขลาและอ่อนแอ แต่ส่วนลึกของใจโม่ชิงเยว่ก็ยังอดรู้สึกกล่าวโทษซ่งเหวินจิ้งไม่ได้ ดังนั้นการนิ่งเฉยของนางอาจจะดูเหมือนว่านางให้โอกาสเขาแต่โม่ชิงเยว่ก็ยังคงไม่อาจจะให้อภัยเขาได้ดังที่ซ่งเหวินจิ้งต้องการ นางจึงไม่ได้ละทิ้งเป้าหมายของตนเอง นางไม่ต้องการพึ่งพาผู้ใดและไม่ต้องการที่จะเฝ้ารอคอยและร้องขอความเมตตาจากผู้อื่นอีกต่อไปแล้ว ดังนั้นเช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากที่สะสางธุระภายในจวนเสร็จเรียบร้อยแล้วนางจึงได้เตรียมตัวที่จะออกไปสำรวจตลาดด้วยตนเอง“ท่านแม่ให้ข้าสองคนติดตามไปด้วยได้หรือไม่เจ้าคะ” ซ่งจื่อเหยาเอ่ยถามออกมาเมื่อเห็นว่าโม่ชิงเยว่และชุ่ยเหมยเตรียมตัวที่จะออกจากจวนเสร็จแล้ว“ท่านแม่พวกข้าสองคนไม่ค่อยจะได้ออกไปเปิดหูเปิดตาภายนอกสักเท่าไหร่ ท่านให้ข้าและพี่หญิงติดตามท่านออกไปด้วยได้ไหมขอรับ” เมื่อซ่งจื่อเยว่เอ่ยเช่นนี้โม่ชิงเยว่ก็นิ่วหน้า แต่เมื่อคิดได้ว่านางไม่ค่อยจะได้พาลูกๆ ออกไปเที่ยวข้างนอกเลยสักครั้งนางจึงได้ยินยอมพยักหน้าแล้วตอบตกลงลูกทั้งสองไป“พวกเจ้าจะติดตามแม่ไปด้วยก็ได้แต่จงจำเอาไว้ว่าถ้าหากพวกเจ้าดื้อรั้นไม่ฟังคำของแม่ แม่จะส่งพวกเ

  • ฮูหยินผู้ถูกลืมเลือน ณ. เรือนเหมันต์   บทที่ 38 ขอโทษ

    ยามที่โม่ชิงเยว่ได้รับข่าวการสิ้นชีวิตของสุ่ยอี้หรงนางก็นิ่งงันไปครู่หนึ่ง แต่เมื่อคิดถึงว่าสกุลบัณฑิตอย่างสกุลเหยียนย่อมไม่อาจจะรับสะใภ้ที่แปดเปื้อนกลับสกุลได้อยู่แล้วนางจึงได้แต่ทอดถอนใจออกมา ซื่อจื่อกั๋วกงเหยียนเซียวผู้นี้ก่อนที่นางจะแต่งงานนางเคยได้พบกับเขาอยู่หลายครั้ง ทั้งดูสูงส่งภูมิฐานสง่างามและเข้าถึงได้ยาก เนื่องจากเขาอยู่ในสกุลบัณฑิตผู้สูงศักดิ์ส่วนนางอยู่ในสกุลของแม่ทัพที่หยาบกระด้างย่อมไม่มีเรื่องใดให้ข้องแวะกันได้อยู่แล้ว“อยากจะเข้าก็เข้ามา จะยืนอยู่ด้านนอกนั่นให้ยามจับได้หรือไร ข้ายังไม่อยากได้ขึ้นชื่อว่าลักลอบนัดแนะให้บุรุษเข้ามาหาตอนที่สามีไม่อยู่หรอกนะ” เสียงของโม่ชิงเยว่ทำให้คนที่ยืนจ้องมองนางอยู่ตรงระเบียงทอดถอนใจออกมาแล้วจึงได้เดินเข้ามาในห้องผ่านประตูระเบียง“ที่เจ้ากำลังทำอยู่ไม่ใช่การเชื้อเชิญให้บุรุษผู้หนึ่งเดินเข้ามาในห้องของเจ้าหรอกหรือ” ซ่งเหวินจิ้งเอ่ยกับนางด้วยน้ำเสียงหยอกเย้า แต่โม่ชิงเยว่กลับไม่คิดจะต่อปากต่อคำกับเขานางชี้ไปที่ประตูระเบียงแล้วจึงได้เอ่ยกับเขาด้วยน้ำเสียงเย็นชา“ถ้าเช่นนั้นท่านเข้ามาทางไหนก็เชิญกลับไปทางนั้นได้เลย” เมื่อโม่ชิงเยว่เอ่ยเช

  • ฮูหยินผู้ถูกลืมเลือน ณ. เรือนเหมันต์   บทที่ 37 โจรป่า

    เสียงขยับไหว เสียงหอบหายใจและเสียงร้องครวญครางที่ดังเล็ดลอดออกมาจากด้านในของรถม้า ทำให้เสี่ยวเหยาผู้เป็นสาวใช้ของสุ่ยอี้หรงวุ่นวายใจจนต้องเดินไปเดินมารอบๆ รถม้า ส่วนคนขับรถม้าและผู้ติดตามคนอื่นๆ ยามนี้ได้พากันถอยออกไปเพื่อเว้นระยะห่างจากรถม้าแล้ว แม้ว่าทุกคนจะไม่ได้พูดอะไรออกมาแต่ทุกสายตาที่จ้องมองมาที่รถม้ากลับเต็มไปด้วยสายตาดูหมิ่นดูแคลนทั้งสิ้น ยามนี้เสี่ยวเหยาได้แต่คิดว่าเจ้านายของนางจะต้องถูกคนเล่นงานแล้วแน่ๆ แม้ว่าจะคาดเดาได้แล้วแต่นางก็ไม่รู้ว่าจะทำเช่นไรดียามนี้นางจึงได้แต่เฝ้าวนเวียนอยู่รอบๆ รถม้า เพื่อรอให้เจ้านายของนางได้สติกลับคืนมาเสียงฝีเท้าม้าหลายตัวที่ถูกควบขี่มาทางด้านนี้ทำให้เสี่ยวเหยารีบหันไปออกคำสั่งกับองครักษ์ที่ยืนห่างออกไปให้รีบไปปิดทางเอาไว้ไม่ให้คนเหล่านั้นเข้ามา องครักษ์เหล่านั้นก็รีบไปดำเนินการตามคำสั่งของนางในทันที แต่เมื่อเห็นว่าคนที่กำลังมาเป็นผู้ใดทุกคนก็ต่างมีสีหน้าลนลานจนคนบนหลังม้ารีบเร่งรุดมายังจุดที่รถม้าที่จอดเอาไว้ในทันที“ฮูหยินเป็นอะไร เหตุใดจึงได้มาจอดรถม้าอยู่แถวนี้” คำถามของซื่อจื่อจวนไหวกั๋วกงเหยียนเซียวทำให้เสี่ยวเหยาตัวสั่นงันงกด้วยความหว

  • ฮูหยินผู้ถูกลืมเลือน ณ. เรือนเหมันต์   บทที่ 36 เล่นงานสุ่ยอี้หรง

    หลังจากเกิดเรื่องที่งานเลี้ยงน้ำชาในจวนสกุลสุ่ย สุ่ยเม่าเจ้ากรมพิธีการของแคว้นเหลียนก็ถูกตามตัวกลับมาที่จวนอย่างเร่งด่วน เมื่อเขาเข้าไปในโถงหลักของสกุลก็เห็นว่าในยามนี้ฮูหยินและบุตรสาวทั้งสองของเขากำลังคุกเข่าอยู่ตรงหน้านายท่านผู้เฒ่าผู้เป็นบิดาของเขาอยู่ เขาจึงรีบเข้าไปคุกเข่าอยู่ตรงหน้าบิดาของเขาเพื่อแสดงออกถึงความสำนึกผิดในทันที“ท่านพ่อเรื่องในวันนี้พวกนางล้วนทำเต็มที่แล้ว แต่เพราะเกิดเหตุสุดวิสัยขึ้นทำให้แผนการที่วางเอาไว้เสียหาย” คำแก้ตัวของสุ่ยเม่าทำให้นายท่านผู้เฒ่าสกุลสุ่ยตวาดออกมาในทันที“เหตุสุดวิสัยหรือเจ้าลองสอบถามบุตรสาวและภรรยาของเจ้าให้ดีว่าแท้จริงแล้วเป็นเหตุสุดวิสัยหรือเป็นเพราะความโง่เขลาของพวกนาง หากบุตรสาวของเจ้าไม่โง่เขลาจนทำแผนการที่วางเอาไว้ของข้าแตกป่านนี้ข้าก็คงจะสามารถทำให้ชื่อเสียงขององค์ชายรองด่างพร้อยได้ดังที่ข้าเคยรับปากกับองค์ชายใหญ่เอาไว้แล้ว ถึงยามนั้นเรื่องการแต่งงานของลูกสาวคนเล็กของเจ้าก็คงจะสามารถคว้าตำแหน่งพระชายาเอกขององค์ชายใหญ่เอาไว้ได้ดังที่ข้าหมายมั่นปั้นมือเอาไว้” คำพูดของนายท่านผู้เฒ่าทำให้สุ่ยเม่าก้มหน้าลงเพื่อปิดบังสีหน้าของตนเอง“ท่านพ่

  • ฮูหยินผู้ถูกลืมเลือน ณ. เรือนเหมันต์   บทที่ 35 ลงมือกับสกุลสุ่ย

    เมื่อสุ่ยฮูหยินเห็นว่าโม่ชิงเยว่ทรุดลงไปเช่นนี้ก็ได้แต่คิดในใจว่ายาคงจะออกฤทธิ์แล้ว เพียงแต่การที่พิษออกฤทธิ์ในสถานการณ์เช่นนี้ไม่รู้ว่าเป็นผลดีหรือว่าผลเสียต่อสกุลสุ่ยของนางกันแน่ นางจึงได้เอ่ยแก้ตัวออกมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่นและจริงจังแม้ว่าในใจจะสั่นไหวมากเพียงใดก็ตาม“นิ่งอันโหวฮูหยินอย่าได้เข้าใจผิด ชาถ้วยนั้นไม่น่าจะมีปัญหาอันใดส่วนสาเหตุที่ท่านสิ้นไร้เรี่ยวแรงเช่นนี้น่าจะเป็นเพราะไม่คุ้นชินต่อการออกมาข้างนอกจวนหรือเปล่า” คำพูดของสุ่ยฮูหยินทำให้โม่ชิงเยว่แสร้งลืมตาขึ้นมาแล้วเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยการกล่าวหา“ข้าหาใช่คนร่างกายอ่อนแอเช่นนั้น สุ่ยฮูหยินเสียทีที่ข้าไว้ใจจึงได้ยินดีมาที่นี่ตามคำเชิญของท่าน คิดไม่ถึงว่าสกุลสุ่ยของพวกท่านจะข้างนอกสุกใสแต่ภายในเน่าเหม็น เมื่อก่อนข้าก็ไม่เข้าใจว่าเพราะเหตุใดสุ่ยอี๋เหนียงในจวนข้าที่ถูกเลี้ยงดูมาอย่างดีจึงได้มีพฤติกรรมต่ำช้าเลวทรามเช่นนั้น ที่แท้ก็เป็นเพราะจวนแห่งนี้มีสภาพแวดล้อมที่ต่ำตมเช่นนี้นี่เอง ชุ่ยเหมยเก็บชาถ้วยนั้นมาข้าจะนำไปให้กรมอาญาตรวจสอบ” เมื่อโม่ชิงเยว่เอ่ยเช่นนี้สาวใช้ของสุ่ยฮูหยินก็รีบขัดขวางชุ่ยเหมยในทันที แต่กลับ

  • ฮูหยินผู้ถูกลืมเลือน ณ. เรือนเหมันต์   บทที่ 34 ราคะกำจาย

    สายตาที่ปิดบังอารมณ์เอาไว้ไม่มิดของสุ่ยอี้หรงทำให้โม่ชิงเยว่ลอบสังเกตสีหน้าของสุ่ยฮูหยินในทันที นางแอบเห็นว่าสาวใช้สองนางที่อยู่ข้างกายของสุ่ยฮูหยินหายไปจึงได้หันไปส่งสายตาให้ชุ่ยเหมยซึ่งชุ่ยเหมยก็พยักหน้ารับเพื่อส่งสัญญาณว่านางรับรู้แล้ว โม่ชิงเยว่จึงได้หันไปส่งมอบรอยยิ้มให้กับบรรดาสตรีที่อยู่ในบริเวณงาน สาวใช้ที่ติดตามติดตามนางมาต่างก็แยกย้ายกันไปมอบถุงหอมให้แก่บรรดาสตรีที่มาเป็นแขกภายในงาน ชุ่ยเหมยจึงใช้จังหวะที่เดินไปมอบถุงหอมเร้นกายไปยังทิศที่สาวใช้ข้างกายของสุ่ยฮูหยินเดินจากไป“ถุงหอมเหล่านี้ล้วนได้รับการปักลวดลายจากช่างปักที่มากฝีมือของสกุลเจียง ส่วนเครื่องหอมที่อยู่ด้านในเป็นเครื่องหอมที่ข้าลงมือปรุงเองกับมือ หวังว่าทุกท่านคงจะไม่รังเกียจของขวัญชิ้นนี้ของข้า” โม่ชิงเยว่เอ่ยพลางยิ้มออกมาซึ่งบรรดาสตรีที่มาเข้าร่วมงานเลี้ยงต่างก็ลังเลที่จะรับถุงหอมจากสาวใช้ของนางแต่เมื่อท่านหญิงเจียหลีรับเอาไปแล้วเอ่ยชื่นชมออกมาทำให้สตรีหลายคนรับเอาไว้ มีเพียงคนของสกุลสุ่ยและบรรดาที่สตรีที่สนิทสนมกับสกุลสุ่ยเพียงเท่านั้นที่ไม่กล้ารับถุงหอมเอาไว้ปฏิกิริยาเช่นนี้ทำให้โม่ชิงเยว่ลอบยิ้มออกมา ด้วยนาง

  • ฮูหยินผู้ถูกลืมเลือน ณ. เรือนเหมันต์   บทที่ 33 งานเลี้ยงสกุลสุ่ย

    จวนสกุลสุ่ยสมแล้วที่เป็นจวนสกุลเดิมของฮองเฮาองค์ปัจจุบัน ไม่เพียงกว้างขวางและใหญ่โตภายในจวนยังได้รับการตกแต่งอย่างดี สวนหินและสวนไม้ดอกสามารถโอ้อวดผู้คนได้อย่างภาคภูมิใจ โม่ชิงเยว่ที่ได้รับการเชื้อเชิญให้เข้าไปด้านในยังอดรู้สึกชื่นชมการตกแต่งจวนของจวนสกุลสุ่ยไม่ได้ยามนี้สิ่งที่ในใจของนางกำลังคิดอยู่ก็คือนางรู้แล้วว่าเพราะเหตุใดสุ่ยอี้โหรวจึงได้คิดว่าตนเองสูงส่งถึงเพียงนั้น จวนของนางหรูหราถึงขั้นนี้แล้วจวนโหวที่ได้รับการดูแลโดยคนแกคร่ำครึอย่างแม่สามีของนางจะสามารถเทียบเคียงกับสกุลสุ่ยได้อย่างไรกันเล่า การที่บุตรสาวที่ถือกำเนิดจากภรรยาเอกเช่นสุ่ยอี้โหรวยอมลดตัวแต่งออกจากจวนไปเป็นอนุ หากไม่ใช่เพราะความรักอันโง่เขลาก็คงเป็นเพราะสกุลสุ่ยมีแผนการที่ไม่ค่อยจะดีนักต่อจวนโหวแล้ว เพราะต่อให้สุ่ยอี้โหรวมีใจต่อซ่งเหวินจิ้งจริงหากผู้อาวุโสในสกุลสุ่ยไม่พยักหน้าแล้วสุ่ยอี้โหรวจะแต่งเข้าไปเป็นแค่เพียงอนุในจวนโหวได้อย่างไร“คารวะนิ่งอันโหวฮูหยิน เชิญท่านติดตามข้ามาทางนี้เจ้าค่ะ” เด็กสาวรูปร่างอรชร ใบหน้ามีความคล้ายคลึงกับสุ่ยอี้โหรวถึงเจ็ดแปดส่วน แต่ความอ่อนเยาว์และรอยยิ้มอันสดใสของนางทำให้ความงามของ

  • ฮูหยินผู้ถูกลืมเลือน ณ. เรือนเหมันต์   บทที่ 32 แผนการในใจ

    ยามที่ชุ่ยเหมยได้พบกับหรงมามาเดิมทีนางก็ไม่ได้รู้สึกประหลาดใจแต่อย่างใดด้วยรู้ดีว่าโม่ชิงเยว่ต้องการคนที่สามารถไว้ใจได้มาคอยช่วยดูแลอยู่ข้างกาย แต่เมื่อได้รู้ว่าหรงมามาได้รับการแนะนำมาจากผู้ใดทำให้นางอดรู้สึกประหลาดใจไม่ได้จนต้องสอบถามโม่ชิงเยว่ออกมาตามตรง“ในเมื่อนางเป็นคนที่ท่านโหวพามา แล้วฮูหยินก็ยังยินดีที่จะให้นางมาอยู่ข้างกายอีกหรือเจ้าคะ” คำถามของชุ่ยเหมยทำให้โม่ชิงเยว่พยักหน้า“เขาจะมาไม้ไหนข้าเองก็อยากจะรู้ อีกไม่กี่วันข้าก็ต้องไปที่สกุลสุ่ยแล้ว ข้ากำลังขาดคนข้างกายที่จะคอยแนะนำเรื่องการคบค้าสมาคมกับบรรดาสตรีที่อยู่ในเรือนหลังของบรรดาขุนนางชั้นสูงพอดี เจ้าก็รู้ว่าเมื่อก่อนเพราะท่านแม่ชาติกำเนิดไม่สูง อีกทั้งท่านพ่อก็ไม่ได้ถือกำเนิดในแวดวงเดียวกันกับชนชั้นสูงเหล่านั้น ข้าจึงแทบจะไม่ได้ไปเข้าร่วมงานเลี้ยงของบรรดาสตรีที่เป็นชนชั้นสูงของแคว้นเหลียนดังเช่นบุตรสาวของแม่ทัพคนอื่นๆ เลย” โม่ชิงเยว่เอ่ยออกมาพลางจ้องมองด้านนอกหน้าต่างด้วยรอยยิ้มแล้วจึงได้เอ่ยต่อ“คนสกุลสุ่ยมีแผนการเช่นไรกับข้า ตัวข้าเองก็อยากจะรู้เช่นกัน คิดจะเหยียบย่ำข้าเพื่อแก้แค้นให้สุ่ยอี้โหรวหรือว่าคิดจะใช้ข้าเป็นข

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status