เมื่อครั้งวัยเยาว์
“พวกมันอยู่เรือด้านหน้านี้ใช่ไหม”
น้ำเสียงเรียบของซูโจวเอ่ยออกมาอย่างพึงพอใจ ในที่สุดเค้าก็สามารถตามพวกของแม่ทัพหนิงอันทันสักที คราวนี้เค้าจะต้องจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย“ครับนายท่าน พวกมันอยู่เรือด้านหน้านี้แน่ สายของเราสืบมาแน่แล้วว่าพวกมันอาศัยเรือของพ่อค้าเดินทางขึ้นเหนือเพื่อหลีกเลี่ยงคนของเรา”
“ดี จักการมันซะ อย่าให้เหลือรอดแม้สักคน”
“ขอรับ ตอนนี้เราส่งคนขึ้นเรือเล็กลอบไปสังเกตุการณ์แล้วอีกไม่นานหากมีสัญญาณแล้วเราจะบุกทันที”
“ดี หากครั้งนี้จัดการเรียบร้อยข้าจะตบรางวัลอย่างงาม” ซูโจวเอ่ย หลังสั่งการคนเสร็จเค้าก็เดินเข้าไปด้านในของตัวเรือเพื่อรอฟังข่าวดีจากลูกน้องของตน
“นี้เจ้า! หยุดตอแยข้าจะได้ไหม รำคาญ” จื่อหยวนเริ่มจะหมดความอดทนกับคนตรงหน้า ก็เธอพยายามพูดให้เค้าออกมาเล่นที่ด้านนอก แต่ในสถาณะการณ์ในตอนนี้มันไม่ใช่เรื่อง!
“นี้เจ้าจะเกินไปแล้วนะ ก็แค่ชวนออกไปเดินเล่นด้านนอกแค่นี้ถึงกับต้องดุกันขนาดนี้เลยหรือไงกัน”
เด็กหญิงตัวน้อยเริ่มบีบน้ำตาออกมาเอ่อล้นขอบตา
ทำเอาจื่อหยวนถึงกับทำอะไรไม่ถูกเมื่อเธอทำท่าจะร้องให้จริงๆ หน้าตาจิ้มลิ่มนี้ไม่เหมาะกับน้ำตาเลย เธอทำหน้าเหมือนโลกทั้งใบกำลังจะพังลงหากเค้าไม่ออกไปเล่นเป็นเพื่อนแต่หารู้ไม่ว่าคนตัวน้อยตรงหน้านี้แค่แกล้งบีบน้ำตาเพื่อเรียกร้องตามความต้องการของตน เพราะไม่ว่าใครก็ตามที่เห็นใบหน้าจิ้มลิ้มนี้เริ่มมีน้ำตา ก็มักจะใจอ่อนเสมอและมันก็มักจะใช้ได้ผลเสมอมา
“หยุดน้ำตาของเธอซะ ถ้าจะให้ไปเป็นเพื่อน”
“หืม พูดจริงนะ” ลู่ฟางเหนียงยิ้มออกทันที
“จะไปไหม” จื่อหยวนลุกขึ้นจากที่นอนแล้วออกเดินไปทันที
“รอด้วยสิ รอด้วย” เด็กหญิงตัวเล็กรีบวิ่งตามทันที
หึ คนอะไรหยิ่งซะมัด หากไม่ติดว่าเธอเล่นกับพวกทาสบนเรือจนเบื่อแล้วเธอคงไม่มายืนวอแวเค้าเหรอ ฟางเหนียงคิดไปก็วิ่งตามไม่หยุด
ปากเล็กก็แลบลิ้นออกมาให้คนเดินหันหลังให้เธอ ชิ!
วิวด้านนอกตัวเรือทำเอาจื่อหยวนถึงกับยิ้มออกทันทีที่เดินมาถึง วิวด้านหน้านี้ช่างดีนัก แม้ว่าตอนนี้จะเป็นช่วงดึกแล้วก็ตาม สายลมและน้ำที่กระเด็นเล็กน้อยตามคลื่นเรือ กระทบเข้ากับใบหน้า
จื่อหยวน ทำให้เค้านั้นรู้สึกว่าจิตใจเริ่มสงบลงบ้าง เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องที่จวนเด็กชายแทบจะไม่พูดไม่จา และแทบจะไม่ดื่มกินอะไรเลยนอกจากน้ำเปล่าที่แค่ดื่มเพียงเพื่อแก้กระหายจนแม่ทัพหนิงอันเองก็อดที่จะเป็นห่วงไม่ได้ แต่ตัวเค้าเองก็ยังต้องการเวลาเพื่อรักษาบาดแผลที่เกิดจากคืนนั้น“อากาศดีใช่ไหม นายดูนั้นสิ แมลงนั้นมีแสงด้วย ว้าวสวยจริง” เสียงยัยตัวเล็กที่พึ่งจะเดินตามเค้ามาทัน
“หุบปากหน่อยจะได้ไหม แค่มองก็พออย่าพูดมาก” จื่อหยวนแกล้งดุยัยตัวเล็ก
“เฮ้ย...คนชวนมาก็เป็นเรา ถ้าเราไม่ชวนออกมาจะเห็นบรรยากาศแบบนี้มั้ยก็ไม่รู้ ยังจะมาว่าเราอีก”
เด็กสาวตัวน้อยแกล้งเอ่ย จริงๆเธอเองก็ไม่เคยมามุมนี้ของตัวเรือเหมือนกัน ไม่ว่าจะมองไปทางใหนก็หน้ามองไปซะหมด แสงจันทร์ที่กระทบกับน้ำเอ๋ย กลิ่นอายน้ำ กลิ่นอายลมหรือแม้กระทั้งแสงที่มาจากแมลงที่บินเต็มแม่น้ำไปหมดนี้ก็ด้วย สวยเหลือเกินไม่เสียทีที่เธอแอบหนีออกมา
“ถ้ายังพูดมากอย่างนี้อยู่อีก ก็อยู่คนเดียวไปนะ ข้าจะกลับ”
จื่อหยวนเอ่ยจบก็แกล้งเดินกลับหันหลังเหมือนจะเดินกลับเข้าด้านในตัวเรือ“แหย่นิดแหย่หน่อยก็ไม่ได้” ยัยตัวเล็กแอบบ่นอุ๊ปเบาๆแต่มือน้อยๆก็ยังเอื่อมไปจับแขนเด็กชายไว้ “อยู่ต่อเถอะน่า ไม่พูดมากแล้วก็ได้ พอใจไหม” จื่อหยวนสะบัดแขนออกเบาๆมือยัยตัวเล็กก็หลุดออกอย่างง่ายดาย จื่อหยวนเองก็เดินกลับมาที่เดิม
สายตาของทั้งคู่ต่างก็มองออกไปยังนอกเรือ ต่างความคิดต่างความรู้สึก
คนหนึ่งออกมาชมวิวเพราะเบื่ออากาศด้านในตัวเรือและคนที่คอยแต่จะเอาอกเอาใจเธอจนหน้ารำคาญ ส่วนอีกหนึ่งก็หวังให้บรรยากาศตรงหน้านี้รักษาแผลใจให้เจือจางลง เพื่อที่จะได้ก้าวเดินต่อไปเพราะเค้ายังคงมีภาระที่รอคอยเค้าอยู่
...ผัวะ...เพล้ง...
เพล้ง...ผัวะ...ตึกตักๆๆๆ...เพล้ง..
เสียงของตกแตกกระจายดังไปทั่ว เสียงเหมือนมีฝีเท้าของคนมากมายดังขึ้นอย่างต่อเนื่องและเสียงของการต่อสู้กันเป็นระยะๆ
จื่อหยวนยืนนิ่งเงียบฟังอยู่สักพักจนแน่ใจว่าตอนนี้สถาณการณ์ไม่ปกติแน่ๆ บนเรือจะต้องเกิดเรื่องขึ้นแน่
“โจรๆๆ”
“บุกๆ!”
“ฆ่าให้หมด!”
เสียงตะโกนดังขึ้นทั่วสารทิศ ทำเอาคนบนเรือเริ่มแตกตื่นกันไปทั่ว บางคนวิ่งหนีจ้าละหวัน บางคนก็วิ่งเข้าต่อสู้เพื่อรักษาเรือไว้
“นี้ยัยเตี้ยหลบ!” จื่อหยวนตะโกนลั่นเพื่อส่งสัญญาณให้คนตัวเล็กเมื่อมีคนเข้ามาโจมตีเค้าทั้งคู่
“ใครเตี้ย พูดดีๆไอ้บ้า” ยัยตัวเล็กหันมาตะคอกตอบกลับทันทีเพราะยังไม่รู้ตัวว่าตนเองกำลังถูกโจมตีจากกลุ่มคนที่แอบบุกขึ้นเรือ “ว๊าย!! ช่วยด้วยๆ” ลู่ฟางเหนียงหันหน้ากลับมาเจอกับคมดาบพอดี เธอเกือบหลบแทบไม่ทันหากไม่ได้มือของจื่อหยวนคว้าเอาไว้แล้วดึงให้เธอหลบอยู่ด้านหลัง
“เงียบปากหน่อยจะได้ไหม” จื่อหยวนเอ่ยเสียงต่ำ เค้าต้องการสมาธิในการต่อสู้ หากมีเสียงเล็กแว๊วๆอยู่แบบนี้เค้าอาจพลาดท่าพาเธอตายขึ้นมาจริงๆก็ได้
ลู่ฟางเหนียงที่ได้เห็นท่าทีจริงจังของเค้าและน้ำเสียงนั้น คนตัวเล็กถึงกับกัดริมฝีปากตัวเองไว้เพราะกลัวคนตรงหน้าโมโหและจับเธอออกไปรับคมดาบนั้นแทน
“หนีไม่รอดหรอกยอมตายซะดีๆเถอะไอ้หนู” คนที่คลุมใบหน้าสนิทได้เอ่ยเสียงออกมาเจือแววดูถูกคนตรงหน้า
หึ!คงคิดว่าจื่อหยวนเป็นเพียงเด็กหนุ่มธรรมดาสินะ แต่หารู้ไม่ฝีมือของเด็กหนุ่มตรงหน้านี้ก็ไม่เคยเป็นสองรองใคร ไม่ว่าจะปะลองทีไรตัวเค้าเองก็ไม่เคยแพ้ให้ใครโดยเฉพาะโจรกระจอกตรงหน้า
ทั้งสองปะทะกันไปมาสักพัก จากที่จื่อหยวนคาดเดาคนตรงหน้าไม่ใช่โจรแน่ จากฝีมือนี้ต้องเป็นคนในกองทัพ!
“ฝีมือดีนี้เจ้าหนู น่าเสียดายที่ต้องมาตายคืนนี้555”
จื่อหยวนได้แต่ยืนกำมือแน่น เมื่อสายตาเหลือบไปเห็นคนที่มาสมทบกับคนตรงหน้ามากขึ้น
“นี้ๆๆเราจะรอดไหม ทำไมมันมาเพิ่มอีกละ ตายแน่ๆตั้งห้าคนนายสู้ไม่ไหวหรอก”
“ไม่ไหวก็ต้องไหวฉันไม่ปล่อยให้เธอตายหรอก”
TT-TT
OoO//
ตอนที่5เมื่อครั้งวัยเยาว์“นี้นาย! ลืมตาสิ นาย!” มือเล็กของลู่ฟางเหนียงเขย่าตัวของจื่อหยวนอย่างแรงเพื่อให้เจ้าตัวได้สติลู่ฟางเหนียงหรือคุณหนูตระกลูลู่ พยายามที่จะทำให้คนตรงหน้าฟื้นขึ้นมา แต่ไม่ว่าจะทำยังไงเค้าก็ยังนอนนิ่ง ไม่แม้แต่จะขยับนิ้วเลยถึงแม้เธอจะตบเข้าที่ใบหน้าเค้าแรงแค่ไหนก็ตาม“นี้นายถ้าจะตายก็อย่ามาตายต่อหน้าข้าจะได้ไหม ตื่นสิเว้ย!” ใบหน้านวนเริ่มแดงก่ำ ดวงตาเริ่มมีน้ำเอ่อขึ้นมาที่ขอบตา“ฟื้นสิเว้ย หื่อๆๆ อึ หื่อๆๆ”มือเล็กทุบเข้าที่หน้าอกจื่อหยวนอย่างเต็มแรงหลายรอบ พร้อมกับใช้มือเล็กปาดน้ำตาให้ตัวเองไปด้วยเธอเอาแต่โทษตัวเองที่ดึงให้เค้ากระโดดลงแม่น้ำจนทำให้คนตรงหน้านี้ตายลู่ฟางเหนียงเอาแต่โทษที่ตัวเองเป็นต้นเหตุจนไม่ทันสังเกตุเห็นว่าจื่อหยวนเริ่มไอสำลอกน้ำออกมาเบาๆ เค้าลืมตามาก็เห็นเด็กหญิงตัวน้อยที่ดึงเค้าให้ตกน้ำด้วยนั้งร้องให้สะอึกอยู่พร้อมกับกำปั้นน้อยๆนั้นที่ทุบเข้าที่หน้าอกเค้าอย่างไม่ลดละ“อึก! เลิกทุบได้แล้วข้าเจ็บนะ” จื่อหยวนส่งเสียงออกมาเบาๆ เพื่อให้เด็กหญิงได้ยิน ถ้าให้เค้าเดา คิดว่าเธอคงร้องให้เพราะคิดว่าเค้าจมน้ำตายแล้วแน่ๆ เธอคงโทษที่ตัวเองเป็นต้นเหตุห
ตอนที่4เมื่อครั้งวัยเยาว์ลู่ฟางเหนียงเห็นท่าไม่ดี เธอคิดว่าหากปล่อยให้จื่อหยวนต่อสู้ไปแบบนี้เรื่อยๆยังไงก็ไม่รอด หากดูจากจำนวนนักฆ่าที่พุ่งมาทางเธอเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆแล้ว และเป้าหมายเหมือนจะไม่ใช่สินค้าที่อยู่บนเรือแน่!มือเล็กเอื่อมออกมาจับแขนของจื่อหยวน ลู่ฟางเหนียงฉุดแขนของจื่อหยวนสุดแรงเพื่อพาเค้ากระโดดลงไปที่แม่น้ำใหญ่และเพราะจื่อหยวนเองที่ไม่ทันระวัง เค้าจึงตกลงแม่น้ำตามแรงที่เธอฉุดลงไปอย่างง่ายดาย“เฮ้ย! มันโดดน้ำหนีไปแล้ว อย่าปล่อยมันหนีรอดไปได้” หนึ่งในโจรที่แอบขึ้นเรือมาตะโกนบอกกับพรรคพวกตนแต่ไม่ทันที่พวกมันจะได้กระโดดน้ำตามจื่อหยวนก็มีคนมาขวางไว้ก่อน นั่นก็คือพวกของหนิงอันที่พึ่งจะจัดการกับพวกที่ขึ้นมาทำร้ายคนบนเรือก่อนหน้าสำเร็จ และนึกขึ้นได้ว่านี้อาจเป็นแผนการของพวกที่ต้องการกำจัดพวกตนเป็นแน่ แล้วก็เป็นอย่างที่คาดไว้เป้าหมายของพวกมันคือหนิงอันและจื่อหยวนเหตุการณ์ต่อสู้ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างดุเดือด เรือลำใหญ่ยังแล่นไปอย่างต่อเนื่อง ทุกคนต่างต่อสู้เพื่อคนที่ตนต้องการปกป้อง ทุกอย่างดำเนินไปเรื่อยจนในที่สุดพวกโจรก็ไม่สามารถต่อสู้พวกของหนิงอันได้ พวกของคนที่แอบขึ้นเรือต่างล
ตอนที่3เมื่อครั้งวัยเยาว์“พวกมันอยู่เรือด้านหน้านี้ใช่ไหม” น้ำเสียงเรียบของซูโจวเอ่ยออกมาอย่างพึงพอใจ ในที่สุดเค้าก็สามารถตามพวกของแม่ทัพหนิงอันทันสักที คราวนี้เค้าจะต้องจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย“ครับนายท่าน พวกมันอยู่เรือด้านหน้านี้แน่ สายของเราสืบมาแน่แล้วว่าพวกมันอาศัยเรือของพ่อค้าเดินทางขึ้นเหนือเพื่อหลีกเลี่ยงคนของเรา”“ดี จักการมันซะ อย่าให้เหลือรอดแม้สักคน”“ขอรับ ตอนนี้เราส่งคนขึ้นเรือเล็กลอบไปสังเกตุการณ์แล้วอีกไม่นานหากมีสัญญาณแล้วเราจะบุกทันที”“ดี หากครั้งนี้จัดการเรียบร้อยข้าจะตบรางวัลอย่างงาม” ซูโจวเอ่ย หลังสั่งการคนเสร็จเค้าก็เดินเข้าไปด้านในของตัวเรือเพื่อรอฟังข่าวดีจากลูกน้องของตน“นี้เจ้า! หยุดตอแยข้าจะได้ไหม รำคาญ” จื่อหยวนเริ่มจะหมดความอดทนกับคนตรงหน้า ก็เธอพยายามพูดให้เค้าออกมาเล่นที่ด้านนอก แต่ในสถาณะการณ์ในตอนนี้มันไม่ใช่เรื่อง!“นี้เจ้าจะเกินไปแล้วนะ ก็แค่ชวนออกไปเดินเล่นด้านนอกแค่นี้ถึงกับต้องดุกันขนาดนี้เลยหรือไงกัน”เด็กหญิงตัวน้อยเริ่มบีบน้ำตาออกมาเอ่อล้นขอบตา ทำเอาจื่อหยวนถึงกับทำอะไรไม่ถูกเมื่อเธอทำท่าจะร้องให้จริงๆ หน้าตาจิ้มลิ่มนี้ไม่เหมาะกับน้ำตาเ
ตอนที่2เมื่อครั้งวัยเยาว์แม่ทัพหนิงอันพานายน้อยของเค้าออกนอกเมืองโดยที่มีทหารค่ายทมิฬคอยคุ้มกันอยู่ตลอดทาง“เราหยุดพักเพื่อฟังข่าวของท่านพ่อท่านแม่ได้หรือไม่”จื่อหยวนเอ่ยขอแม่ทัพหนิงอันถึงจื่อหยวนจะเป็นเพียงเด็กเจ็ดขวบแต่หากเทียบกับบรรดาคนอายุเท่ากันแล้วเค้าเทียบได้ว่าเป็นอัจฉริยะคนหนึ่งเลย ที่ไม่ว่าบู๊หรือบุ๊นจื่อหยวนมักจะทำได้ดีเสมอมา จนคนทั่วไปต่างคิดว่าเด็กคนนี้ละที่จะเป็นว่าที่แม่ทัพที่ทุกคนก็ต่างต้องยอมรับเหมือนบิดาของเค้า“นายน้อยหากเราพักที่นี้เราอาจถูกจับได้นะ”“เราขอแค่รอฟังข่าวอีกสักวันไม่ได้เลยเหรอ”“ไม่! ชีวิตท่านจะอยู่ในความเสี่ยงไม่ได้แม้แต่น้อย หากนายน้อยเป็นอะไรขึ้นมาข้าตัดหัวมาทดแทนอีกสิบหัวก็ไม่เพียงพอ หากท่านอยากรู้ข่าวจริงๆข้าจะส่งคนไปสืบที่เมืองหลวงให้แต่ท่านต้องรีบเดินทาง เราจะช้ากว่านี้ไม่ได้แล้ว”“ก็ได้ แต่ท่านต้องส่งคนไปสืบเรื่องท่านพ่อท่านแม่ให้เรานะ”หนิงอันยิ้มอ่อนที่นายน้อยของเค้าอายุเพียงเท่านี้แต่กลับรู้ความยิ่งนัก เค้าพยักหน้าเป็นคำตอบให้จื่อหยวนแล้วเริ่มออกเดินทางต่อ“เราต้องเดินทาง ทางเรือแล้วอ้อมออกทางเมืองต้วนล่า จะใกล้กับเขตทหารของท่านแม่ทัพอี
ตอนที่1เมื่อครั้งวัยเยาว์...จวนแม่ทัพสวี...“เจ้าพานายน้อยออกไปเดี๋ยวนี้ เร็ว!”“ไม่นะนายท่าน ข้าจะทิ้งให้ท่านสู้รบเพียงคนเดียวไม่ได้!”“หนิงอันเจ้าต้องฟังข้า หากเจ้าอยู่ต่อไปก็รั้งแต่จะตายทั้งหมดเราจะไม่เหลือใครทั้งนั้น หากเจ้าพาแค่นายน้อยของเจ้าไปจากที่นี้แล้วรีบไปหาแม่ทัพอี๋เฉินที่ชายแดนเหนือให้เร็วที่สุดทัพทมิฬก็จะยังคงอยู่”ใบหน้านิ่งขรึมของผู้เป็นนายที่ตอนนี้เต็มไปด้วยเลือดและบาดแผลจากคมดาบจ้องมองมาที่เค้า นายของหนิงอันที่บัดนี้ดูจะเริ่มหมดเรี่ยวแรงแล้ว ‘พวกเค้าเริ่มหมดหนทางที่จะสู้’ ตอนนี้ทำได้เพียงแค่ต้องส่งคนที่ตนรักให้หนีออกไปให้พ้นจากที่แห่งนี้ให้เร็วที่สุดใบหน้าหยาบที่เต็มไปด้วยหนวดเครามองไปยังภรรยาผู้เป็นที่รักของเค้า และบุตรชายเพียงหนึ่งเดียว เค้าเสียใจที่ไม่สามารถปกป้องครอบครัวตนเองได้“ท่านพี่ข้าจะไม่หนีไปไหนทั้งสิ้น หากตาย เราจะตายด้วยกัน” ดวงหน้างามมองสบตากันกับสามีผู้เป็นที่รักของนาง ดวงตาที่แน่วแน่นี้บอกให้รู้ว่ายังไงเธอก็จะไม่มีทางทิ้งสามีแล้วหนีไปแน่“ใช่ท่านพ่อ ข้าจะสู้ไปกับท่าน เราจะไม่หนีไปไหนทั้งสิ้น” เสียงเล็กจ้อยแต่หนักแน่นของเด็กชายตัวน้อย ที่ร้องออกมาว