แชร์

Chapter 7. อดีตที่แสนหวาน...

ผู้เขียน: นรินทร์ลดา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-23 20:00:09

ค่ำคืนที่แสนอบอุ่นในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ร่างสูงเดินถือดอกกุหลาบสีขาวเดินไปหยุดตรงหน้าบ้านหลังหนึ่งด้วยรอยยิ้ม ใบหน้าหล่อคมเงยหน้าขึ้นมองหน้าต่างชั้นสองที่ยังคงเปิดไฟสว่างไสวอยู่ เขาก้มลงดอมดมดอกกุหลายที่ตั้งใจซื้อมาก่อนจะเงยหน้ามองตรงไปยังหน้าต่างบานเดิมอีกครั้ง

“ยูแอล!”

โฮ่งๆ โฮ่งๆ ...ในขณะที่เสียงทุ้มเรียกชื่อแฟนสาวของเขา น้องหมาน่าตาน่ารักก็ยังคอยส่งเสียงเห่าช่วยราวกับว่าคุ้นชินกับเขามานาน หรืออาจจะเป็นเพราะเขามาที่นี่บ่อยๆ ไม่นานนักผ้าม่านของหน้าต่างบานนั้นก็เปิดออกพร้อมกับชะโงกหน้าลงไปมองคนที่มายืนเรียกชื่อตน ก่อนใบหน้าสวยจะยิ้มร่าออกมาและรีบวิ่งลงมาจากชั้นสองเพื่อมาหาคนที่ยืนรอเธออยู่หน้าบ้านอย่างดีใจ

ทั้งสองยืนอยู่ไม่ไกลกันนักมีเพียงรั้วไม้ระดับเอวกั้นเอาไว้ ชายหนุ่มในชุดเสื้อกล้ามสีขาวใส่เสื้อฮู้ดแขนยาวตัวใหญ่สีเทาคลุม กางเกงวอร์มสีเทาเข้ากับเสื้อนอกของเขา ชายหนุ่มยื่นดอกกุหลาบในมือให้เธอด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้ม...มันเป็นรอยยิ้มที่มองแล้วดูอบอุ่นใจและดูมีเสน่ห์ สายตาคมของเขาจ้องมองเธอด้วยความรักที่เต็มเปี่ยม

“ดึกดื่นป่านนี้ทำไมยังไม่กลับหอพักอีก”

“ก็เอากุหลาบมาให้นี่ไงคะ”

“แค่นี้เหรอคะ? ถึงได้ยอมตากลมมาถึงที่นี่”

“คิดถึงด้วยค่ะ...อยากเห็นหน้า”

คำพูดหวานของชายหนุ่มในวัย28เอ่ยขึ้น ทำเอาหญิงสาววัย20เขินม้วนไปทั้งตัว มือเล็กเอื้อมไปรับดอกกุหลาบดอกนั้นมาถือไว้ในมือและมองมันอย่างดีใจ ชายหนุ่มเห็นท่าทีของเธอก็อดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปยีผมของเธออย่างเอ็นดู

“เอามาให้ทุกวันแบบนี้ไม่เบื่อเหรอคะ?”

“จะเบื่อได้ยังไง ก็พี่รักของพี่นี่คะ”

“พี่เจซีปากหวานเกินไปแล้ว”

“เคยชิมเหรอ? ถึงได้รู้”

ชายหนุ่มพูดพร้อมกับยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ เขายกยิ้มจ้องมองหญิงสาวตรงหน้า เธอถึงกับเอนตัวหนีด้วยความเขิน แรกรักอะไรก็ดีไปหมด ใครจะคิดว่าจากวันนั้นเวลาผ่านล่วงเลยมาเป็นปีจะทำให้เขาเปลี่ยนไป...

ยิ่งมีชื่อเสียงความกดดันต่างๆ ยิ่งมากขึ้น ทั้งจากค่ายเพลงทั้งจากแฟนคลับ หลายครั้งที่ต้องเผชิญกับคำพูดจาดูถูกและความเกลียดชัง ยิ่งมีคนรักมากก็ยิ่งมีคนเกลียดมากเป็นเรื่องธรรมดา แต่คนเรามักจะเก็บและจำแต่คำพูดแย่ๆ มาเป็นสำคัญเสมอ สังคมในวงการมายาหล่อหลอมให้เขาเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เปลี่ยนทั้งคน เปลี่ยนทั้งความสัมพันธ์ที่มีอยู่ จากที่เคยฟังคำพูดปลอบโยนของหญิงสาวก็กลับกลายเป็นฟังคนอื่นมากกว่า...

“แม่งเอ้ย!!”

ชายหนุ่มที่กระฟัดกระเฟียดเตะข้าวของที่วางอยู่ตามทางหลังเวทีอย่างหัวเสีย หญิงสาวที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนของเขาเดินเข้ามาถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง สองมือเล็กจับที่แขนแกร่งของชายหนุ่ม

“พี่เจซี...ใจเย็นๆ ก่อน เดี๋ยวเรื่องก็ซาไปเอง อ๊ะ!”

เจซีหันไปปรายตามองหญิงสาวที่ขึ้นชื่อว่าแฟนของเขา ก่อนจะสะบัดมือนั้นทิ้งเพราะยังตกอยู่ในห้วงอารมณ์โทสะ การที่เขาขึ้นแสดงในวันนี้ เพลงของเขาถูกเยาะเย้ยจากเอ็มซีของช่องก่อนที่เขาจะขึ้นเวที แต่เขาก็กัดฟันทนแสดงจนจบ แต่ถึงอย่างนั้นเอ็มซีก็ยังคงพูดแซะเกี่ยวกับเพลงของเขาไม่หยุด

“อย่ายุ่ง!เธอจะไปรู้อะไร” เจซีกล่าวเสียงแข็ง

“ไอ้เจซี มึงก็ไม่ควรลงกับน้องมันนะเว้ย” ท็อปเปอร์หนึ่งในสมาชิกในวงที่เขาสนิทที่สุดพูดขึ้น สมาชิกอีกสามคนไม่มีใครกล้าแย้ง เพราะรู้ว่าเจซีตอนนี้อารมณ์รุนแรงแค่ไหน มันจะพลอยให้พวกเขาซวยไปด้วย จะมีก็แต่ท็อปเปอร์ที่สนิทกับเขามากที่สุด

“ก็พวกแม่ง...”

“เออน่า ช่างหัวมัน...ไปหาอะไรคลายเครียดทำดีกว่า ไหนๆ งานก็เสร็จล่ะ”

“รอรับรางวัลอีก”

“ช่างรางวัลมัน เยอะจนไม่มีที่เก็บ ให้พวกมันส่งตามไป”

ท็อปเปอร์พูดอย่างไม่ใส่ใจใบหน้าเปื้อนยิ้มและตบบ่าเจซีเบาๆ เจซีหันไปมองโดยไม่พูดอะไรได้แต่พยักหน้า ยูแอลที่ยืนอยู่มองทั้งคู่สลับกันไปมาอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราวและคิดว่าคงไม่วายพากันไปดื่มเหมือนเช่นเคย

“พี่เจซีจะไปไหนหรือคะ?”

“เธอเป็นคนเซ้าซี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?” เจซีขมวดคิ้วหลุบตามองร่างเล็ก เขากล่าวอย่างหงุดหงิดที่แฟนสาวถามขึ้น

“ไม่ใช่อย่างนั้น...แค่จะบอกว่าพี่อย่าลืมทานยา...”

“เห็นฉันเป็นเด็กหรือไง พูดมากอยู่ได้”

“…….”

ไม่รู้ว่าเพราะอารมณ์โกรธหรือเพราะเขาเบื่อเธอแล้วกันแน่ถึงได้พูดจาทำร้ายน้ำใจเธอได้ขนาดนี้ ยูแอลเม้มปากแน่นเลือกที่จะเงียบ ก่อนที่เกรซ ซาซ่าและฮานิจะเดินเข้ามาดึงเธอให้ออกจากตรงนั้น เธอถึงยอมเดินตามเพื่อนๆ ออกมากลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องแต่งตัว ในขณะที่นักเต้นทุกคนเก็บข้าวของฮานิก็ก้มหน้าก้มตายิ้มน้อยยิ้มใหญ่กดโทรศัพท์ไม่ยอมเก็บของสักที

“ฮานิ ไม่รีบเก็บของเหรอ?” ยูแอลหันไปถามาเพื่อนสนิทของตน เพราะนัดกันไว้ว่าจะที่คอนโดเกรซแล้วค่อยไปปาร์ตี้กันต่อหลังเสร็จงานเหมือนเช่นทุกครั้ง ฮานิเงยหน้าขึ้นมองเพื่อนแล้วยิ้มแห้งๆ ก่อนจะพูดขึ้น

“วันนี้ฉันขอเทพวกแกนะ พอดีฉันมีนัดกับแฟน”

“แหม...ยัยฮานิฮาใจ เลือกผู้มากกว่าเพื่อนหรือยะ” ซาซ่ากล่าว

“แน่นอนสิยะ เพื่อนยังไงก็อยู่ด้วยกันเสมอ” ฮานิว่าตอบ

“จ้าๆ ว่าแต่แฟนคนนี้ไม่เคยพามาแนะนำเลย” ยูแอลกล่าวด้วยความอยากรู้ เพราะเพื่อนของตนไม่เคยพูดถึง

“นั่นสิ เดี๋ยวมีความลับกับเพื่อนนะยัยฮานิ” เกรซกล่าวเสริม

“บอกไม่ได้จ้ะ เขาเป็นคนดังต้องเป็นความลับ” ฮานิพูดอย่างเริงร่าหยอกเล่นเพื่อนๆ ของตน

“กับเพื่อนก็ความลับหรือยะ?” ซาซ่าอดไม่ได้ที่มองเพื่อนสาวตาขวาง ใช่ว่าฮานิจะไม่เคยคบคนดังแต่รอบนี้กลับไม่บอกเพื่อนพ้องว่าเป็นใครจากที่ปกติจะอวยยศแฟนตัวเองให้เพื่อนฟังไม่หยุด เพราะฮานิเป็นคนสวยจึงไม่แปลกที่เธอจะเปลี่ยนแฟนบ่อยๆ เพราะเบื่อบ้างล่ะ เพราะไม่ได้ดั่งใจบ้างล่ะ ก็สมกับนิสัยไฮโซติดหรูเอาแต่ใจของเธอ

“ฉันไปก่อนนะพวกแก ไว้คราวหน้าฉันเลี้ยงคืน”

ว่าจบฮานิก็รีบเก็บข้าวของรีบเดินออกไปทันทีโดยไม่รอฟังคำกล่าวลาของเพื่อนๆ เลย ซาซ่าที่ช่างเม้าอยู่แล้วก็อดไม่ได้ที่จะหันมาพูดกับเพื่อนสาวทั้งสองคนที่เหลืออยู่

“แสดงว่าชีได้ผู้มีเงิน...ดารานักร้องคนไหนจะมีเงินได้เท่าพี่เจซีของยัยแอลกันล่ะ”

“หรือว่ายัยฮานิโดนหลอก” เกรซเอ่ยอย่างหน้าตาตื่น ยูแอลหันไปมองเกรซด้วยความกังวลแต่ก็ไม่อยากคิดในแง่ลบมากเกินไป

“ไม่หรอก...พวกดารานักร้องที่มีเงินมากมายก็เยอะแยะน่า แค่วงพี่เจซีดังมากในช่วงนี้เท่านั้นถึงได้มีรายได้เยอะ”

“ก็จริงที่ยัยแอลพูด แต่อย่างยัยฮานิต้องคบระดับท็อปๆ เท่านั้น หรือว่า...” ซาซ่าพูดหน้าตาตื่นหันไปทางเพื่อนๆ ทั้งสองคนสลับกัน

“ว่า...” เกรซที่ตั้งหน้าตั้งตารอฟังมองซาซ่าอย่างลุ้นๆ

“นางจะคบกับคนในวงพี่เจซี!”

“พวกแกเลิกคิดเองเออเองได้แล้ว ไปกันสักทีเถอะ...จองโต๊ะไว้ไม่ใช่เหรอ?”

ยูแอลพูดตัดบทพร้อมกับส่ายหน้าไปมาอย่างกับว่าที่ซาซ่าพูดมันเป็นเรื่องไร้สาระ มันจะเป็นไปได้ยังไงเพราะคนในวงของเจซีล้วนแต่มีแฟนกันหมดแล้ว ถึงจะพยายามไม่คิดแต่ก็อดเป็นห่วงเพื่อนไม่ได้อยู่ดี เพราะเธอไม่อยากให้เพื่อนเจอเรื่องอื้อฉาวหรือเป็นมือที่สามของใครแบบนั้น

หลังจากที่กลับมาถึงคอนโดเกรซทุกคนก็อาบน้ำแต่งตัวเพื่อไปคลับที่หนึ่งในสมาชิกของวงเจซีเป็นเจ้าของอยู่ แสงไฟวิบวับเต็มไปหมด เสียงเพลงดังกระหึ่มก้องไปทั่วคลับและไม่ต้องสงสัยว่าเพลงที่เปิดเป็นเพลงของวงใคร เกรซเดินจูงมือยูแอลเดินฝ่าฝูงชนตามซาซ่าไปที่โต๊ะวีไอพีที่จองไว้บนชั้นสอง สามารถมองลงเห็นฟลอร์ด้านล่างได้ถนัดๆ เครื่องดื่มถูกนำมาเสิร์ฟหลังจากที่ซาซ่าสั่งไปพร้อมกับมีบริกรคอยดูแลประจำโต๊ะ

“มาชนกันหน่อยเร็ว เหนื่อยกันมาทั้งวันกับค่อนคืนแล้ว”

ซาซ่าเอ่ยขึ้นพร้อมกับยกแก้วสีอำพันขึ้นรอเพื่อนสาวทั้งสอง ก่อนที่ทั้งสามคนจะชนแก้วแล้วยกมันขึ้นดื่มจนหมด บริกรก็คอยชงเครื่องดื่มให้ไม่ขาด ทั้งสามคนกอดคอกันเต้นไปมาอย่างสนุกสนาน...ใครจะไปคิดว่าสายตาเจ้ากรรมดันหันไปสะดุดกับโต๊ะข้างๆ เห็นชายหนุ่มที่แสนจะคุ้นเคยกำลังลุกขึ้นจูงมือสาวสวยในชุดเดรสสีแดงรัดรูปเดินเข้าไปทางห้องวีไอพี

จังหวะที่ชายหนุ่มคนนั้นหันกลับมายิ้มให้หญิงสาวที่เดินตามตนทำเอายูแอลที่พยายามเพ่งมองอยู่ถึงกับชะงักงัน ใจดวงน้อยกระตุกวูบก่อนจะเต้นรัวๆ ภายในอกซ้ายหวิวไปหมด..

“แอล แกมองอะไรฮะ?” ซาซ่าที่เห็นเพื่อนยืนนิ่งค้างก็อดไม่ได้ที่จะถาม ยูแอลพยายามดึงสตืตัวเองและคิดว่าเพราะข้างในคลับมันมืดเธออาจจะมองเห็นไม่ชัด และอาจจะเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ทำให้สายตาของเธอเริ่มเบลอก็เป็นได้

“ไม่มีอะไร...ฉันขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ”

ยูแอลหันไปตอบเพื่อนอย่างเลี่ยงๆ ด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก เพราะความคาใจเธอต้องการที่จะเดินตามชายหญิงคู่นั้นไปเพื่อให้ได้รู้ชัดๆ ว่าสิ่งที่เห็นนั้นเพราะสายตาเธอพร่ามัวหรือว่ามันคือเรื่องจริง ซาซ่าพยักหน้ารับคำเพื่อนแต่ยังคงขมวดคิ้วอย่างสงสัยจนยูแอลเดินลับตาไป

“แอลมันเป็นอะไรเหรอ?” เกรซเอ่ยถาม

“ไม่รู้สิ แต่...สีหน้านางไม่ค่อยจะดีเลย” ซาซ่าตอบพร้อมด้วยสีหน้าเป็นห่วง

“เราตามไปดูดีไหม”

“นั่นสิ” ว่าจบซาซ่าก็หันไปฝากโต๊ะกับบริกรก่อนจะพากันเดินตามยูแอลไป

สองขาเรียวในชุดเดรสสั้นสายเดี่ยวสีน้ำเงินเข้มเดินตามหลังหญิงสาวในชุดเดรสเกาะอกสีแดงที่ถูกชายหนุ่มจูงเข้าห้องวีไอพีซึ่งเป็นห้องปิดคล้ายกับห้องที่ต้องการเป็นส่วนตัวของคลับ ยูแอลชะงักฝีเท้าเป็นระยะเพื่อไม่ให้เป็นที่สงสัยก่อนจะไปหยุดยืนอยู่ที่หน้าห้องวีไอพีที่ทั้งคู่พึ่งเดินเข้าไป เธอสูดหายใจเข้าลึกก่อนจะเอื้อมมือที่สั่นเทาไปแง้มประตูห้องวีไอพีบานนั้นอย่างช้าๆ

สองร่างกำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอย่างได้ที่ เสื้อผ้าอาภรณ์ถูกปลดเปลื้องออก...เสียงครางหวานดังเป็นระยะๆ แม้ภายในห้องจะสลัวๆ แต่เธอก็เห็นใบหน้าของทั้งสองคนได้อย่างชัดเจน...ยูแอลยืนนิ่งค้างมองสองร่างกำลังเล่นสวาทกันอย่างไม่สนใจใคร ร่างกายเล็กสั่นเทา สองขาเรียวก้าวขาไม่ออก...หยดน้ำใสๆ ไหลลงอาบแก้ม ราวกับโดนสายฟ้าฟาดลงมาจนชาไปทั้งร่าง...หัวใจดวงน้อยเองก็ชาไปหมด...เป็นเขา..แฟนหนุ่มของเธอกับเพื่อนรักที่บอกว่ามีนัดกับแฟน...และแฟนคนดังของเพื่อนสาวไม่ใช่ใครที่ไหน ไม่ใช่สมาชิกในวงเจซีแต่เป็นเจซีเอง...ใช่แล้ว...เจซีที่เป็นแฟนหนุ่มของเธอ...

“แกไม่ต้องมองแล้วแอล” ซาซ่าและเกรซที่ยืนอยู่ด้านหลังก็ช็อกไม่แพ้แอล แต่ที่แย่คือที่สุดตอนนี้คือเพื่อนของเขา ซาซ่าเดินเข้ามาประจันหน้ากับยูแอลเพื่อเอาตัวบดบังสายตาของยูแอลที่จ้องมองภาพตรงหน้าค้าง เกรซเข้ามาจับมือเพื่อนก่อนจะกอดไหล่เธอพร้อมกับพาเธอหันหลังกลับเดินไปที่โต๊ะของพวกเธออย่างช้าๆ

“แกไม่ไหวก็กลับกันเถอะ” เกรซเอ่ยขึ้นอย่างเป็นห่วงซึ่งยูแอลตอนนี้ยังคงช็อกค้างเดินตามเกรซเหมือนหุ่น ซาซ่าเองก็ไม่แพ้กันคอยเดินตามประคองเพื่อนสาวด้วยสีหน้าเป็นห่วง งานกร่อยไปหมดแล้ว...ใครจะไปดื่มต่อได้ลง

“พวกแก...อยู่ต่อเถอะ...ฉันขอไปสูดอากาศข้างนอกแป๊บนึง” ยูแอลเอ่ยขึ้นเสียงสั่น สภาพเธอตอนนี้หรือที่จะออกไปข้างนอกคนเดียว เพื่อนทั้งสองส่ายหน้าไปมาเป็นเชิงปฏิเสธด้วยความเป็นห่วง

“ไม่ได้ แกจะไปคนเดียวในสภาพนี้ได้ยังไง” เกรซเอ่ยค้าน

“ถือว่าฉันขอ...แค่แป๊บเดียว...ให้ฉันอยู่คนเดียว...”

ได้ยินเสียงเพื่อนสาวที่สั่นเครืออย่างร้องขอก็อดไม่ได้ที่จะตามใจ การดันทุรังมันจะทำให้เพื่อนยิ่งแย่ไปกันใหญ่ เรื่องพึ่งเจอใหม่ๆ ปล่อยให้รวบรวมสติสักพักก็คงดี และอีกอย่างจากที่ดูตอนนี้ยูแอลไม่กล้าที่จะร้องไห้โฮออกมาเสียด้วยซ้ำ คงจุกอยู่ในอก ซาซ่าและเกรซจึงพยักหน้าเบาๆ ยอมให้เพื่อนสนิทอย่างยูแอลเดินออกจากคลับไปเพียงลำพัง

ร่างเล็กเดินออกมาอย่างไร้จุดหมาย ท่าทางเหม่อลอยจนน่าเป็นห่วง นี่มันก็ดึกมากแล้วเส้นทางที่เดินก็ไร้ผู้คนจะมีก็แต่รถที่แล่นผ่านไปมาเท่านั้น นานเท่าไหร่แล้วไม่รู้ที่เธอเดินน้ำตาไหลพรากตลอดทางจนมาหยุดอยู่ที่สวนสาธารณะริมแม่น้ำของเมือง หญิงสาวเดินเข้าไปนั่งอย่างหมดแรงที่เก้าอี้ข้างแม่น้ำกว้าง มองเหม่อไปยังแสงไฟและตึกสูงที่อยู่อีกฟากฝั่งของแม่น้ำนี้ เธอสูดลมหายใจเข้าลึกเต็มปอดอีกครั้งก่อนจะปล่อยน้ำตาและเสียงสะอื้นไห้ออกมาเหมือนคนกำลังจะขาดใจ...

“ดึกดื่นป่านนี้ผู้หญิงที่ไหนมานั่งร้องไห้อยู่อีก” ชายหนุ่มที่บังเอิญเดินผ่านมาพึมพำกับตัวเองพร้อมกับหยุดยืนมองหญิงสาวร่างเล็กที่นั่งปิดหน้าร้องไห้อยู่ตรงริมแม่น้ำ..

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ฺBack Stage 7s เวทีรักเล่ห์ร้าย I   Chapter 45. Ending not THE END

    จากการออกไปเดทดินเนอร์หลายๆ ที่ด้วยกัน จากที่ขอทำงานเต้นก็ได้ทำและเธอก็ได้สร้างทีมนักเต้นทีมใหม่ขึ้นมาโดยมีซาซ่าและเกรซเป็นผู้ร่วมทีม แถมยังเปิดรับสมัครนักเต้นคนอื่นๆ ที่อยากร่วมงานอีกด้วย จากการกดดันของวงบียอนด์ที่ให้ประธานค่ายอย่างคริสต้องเซ็นสัญญารับทีมของยูแอลเข้ามาเป็นนักเต้นหลักในค่าย แต่ยังคงมีวงอื่นจากค่ายอื่นมาจ้างงานได้และมันต้องผ่านการแสกนจากวงบียอนด์ก่อนยูแอลได้กลับมาเฉิดฉายบนเวทีอีกครั้ง และแน่นอนมาเธอเป็นที่สนใจของไอดอลหนุ่มหน้าใหม่อีกหลายวงๆ จนจีเซลต้องตามไปคุมแทบจะทุกงาน จากที่ยุ่งๆ อยู่แล้วยุ่งกว่าเดิมเสียอีก ไอดอลที่ว่างานเยอะยังไม่เท่ายูแอลตอนนี้เลย...เธอไม่ได้งานเยอะแต่เธอบ้างานจนแทบจะไม่มีเวลาให้เขา...มันน่าน้อยใจจริงๆ ...“เย็นนี้ไป...ดินเนอร์กันไหม? ผมจองร้านไว้แล้ว”“อ๋อ โทษทีนะจีเซล วงไซบอกซ์มีกินเลี้ยงขอบคุณหลังจบงานน่ะ ฉันเป็นหัวหน้าทีมด้วยสิ”“.........”“ไปก่อนนะ ไว้วันอื่นนะคะ จุ๊บ!” ยูแอลเดินเข้ามาจุ๊บที่แก้มของเขาเบาๆ ก่อนจะรีบเดินไปหาเพื่อนๆ ที่ยืนรออยู่

  • ฺBack Stage 7s เวทีรักเล่ห์ร้าย I   Chapter 44. การมีไอดอลเป็นแฟน

    “จีเซล!!!” ยูแอลถึงกับอึ้งหันไปมองชาร์วีที่ตอนนี้เขาแค่ยกยิ้มเพียงเท่านั้น ไม่คิดว่าจีเซลจะกลับมาเร็วขนาดนี้และสีหน้าของเขาที่เข้ามาเห็นดูเหมือนว่าเขาเข้ามาเห็นตั้งแต่ก่อนที่ชาร์วีจะปล่อยมือจากเธอเสียอีกแน่ๆ ยูแอลรีบเดินเข้าไปหาจีเซลที่ขบเคี้ยวเขี่ยวฟันอย่างหงุดหงิด“มันไม่ใช่อย่างที่คิดนะ...ฉันก็แค่จะล้มแล้วชาร์วีก็..”“มาช่วยไว้สินะครับ....”“ใช่ๆ แค่นั้นจริงๆ ...”“สงสัยผมคงต้องล่ามพี่ไว้บ้างแล้วล่ะครับ จะได้ไม่ต้องไปเที่ยวล้มที่ไหนอีก” จีเซลพูดพร้อมกับขมวดคิ้วแน่น ก่อนจะคว้าข้อมือของเธอเดินออกจากห้องฟิตเน็ตไปทันที ชาร์วีมองตามอ้าปากค้างก่อนจะแบะปากยักไหล่แล้วเดินกลับไปออกกำลังกายต่อพร้อมกับพึมพำกับตัวเอง“ไอ้จีเซลขี้หึงเป็นบ้าเลยแฮะ...คลั่งรักอะไรขนาดนั้น” พูดไปพลางยกน้ำหนักไปอย่างไม่เข้าใจแต่ก็ไม่สนใจเท่าไหร่นัก (อย่าให้ถึงทีนายนะนายชาร์วี!)จีเซลลากยูแอลให้เดินตามเขาไปยังห้องรับแขกก่อนจะหยุดชะงักฝีเท้าแล้วหันมาทางเธอด้วยใบหน้าที่เรียบนิ่

  • ฺBack Stage 7s เวทีรักเล่ห์ร้าย I   Chapter 43. ชดใช้กรรม

    “สวัสดีครับ...ผมเป็นหมอที่คุณชาร์วีส่งมาครับ” ชายหน้าประตูพูดขึ้นพร้อมกับยื่นบัตรประจำตัววิชาชีพโชว์หน้ากล้อง จีเซลเห็นอย่างนั้นก็โล่งอกก่อนจะตอบรับเขา“ครับ...เชิญครับ” จีเซลกดเปิดประตูอัตโนมัติให้คุณหมอเข้ามาก่อนจะเดินนำไปที่ที่ยูแอลนั่งอยู่ ยูแอลลุกขึ้นหวังจะกล่าวสวัสดีแต่คุณหมอกลับรีบบอกให้เธอนั่งลง“ไม่เป็นไรครับ นั่งก่อนเถอะครับคนไข้”“อ๋อ ค่ะ” ยูแอลพูดจบก็หย่อนตัวนั่งโดยมีจีเซลคอยพยุงอยู่ข้างๆ และจับมือเธอไว้ ก่อนจะยกข้อเท้าของเธอขึ้นมาวางบนหน้าขาของเขา คุณหมอที่ถืออุปกรณ์การแพทย์เข้ามาก็เริ่มล้างแผลทำความสะอาดอย่างเบามือและพันแผลให้เธอ“อย่าให้แผลโดนพวกเครื่องสำอางอีกนะครับ...ไม่อย่างนั้นติดเชื้อแน่หรือแผลอาจจะเป็นเชื้อรา”“ค่ะ”“ช่วงอาทิตย์แรกหมอจะเข้ามาล้างแผลให้นะครับ และอย่าลืมทานยาให้ตรงเวลาจนหมดแผงที่หมอให้ไป”“ได้ค่ะ”“อ๋อ แล้วก็คุณจีเซลไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ เรื่องนี้จะเป็นความลับ...ยังไงผมก็เป็นหมอประจำบ้านของคุ

  • ฺBack Stage 7s เวทีรักเล่ห์ร้าย I   Chapter 42. ร่วมงานกัน

    เวลาผ่านล่วงเลยไปจนต้องได้กลับมาพบกันอีกครั้ง เจซี ยูแอลและจีเซลได้เข้ามาถ่ายทำเอ็มวีอย่างที่เจซีคอยลั่นปากไว้กับแฟนคลับเพื่อแก้ข่าวให้ยูแอลด้วย จึงได้ไปถ่ายงานสถานที่ที่คล้ายกันกับบ้านของยูแอลแทน เพราะเจซีไม่อยากให้ยูแอลเข้าไปเจอยายด้วยสภาพที่ผอมโซกว่าเดิมอย่างนี้ ตลอดเวลาที่ผ่านมายูแอลก็พยายามที่จะไม่ทำให้เจซีโกรธแม้จะต้องแสดงให้เขาเชื่อก็ตาม...เพื่อรอวันที่จะเจอจีเซลอย่างเช่นวันนี้...ทุกคนต่างเดินทางมาถึงสถานที่ถ่ายทำกันหมดแล้ว เจซีและยูแอลเองก็มาถึงก่อนเวลาหนึ่งชั่วโมงเพราะต้องมาแต่งตัวแต่งหน้าลองเข้าฉากหามุมกล้องที่ถูกใจ และจีเซลดันมาถึงก่อนพวกเธอเสียอีก...แต่เขาแค่ลอบมองเธอเป็นระยะเท่านั้นไม่ได้มีทีท่าว่าจะสนใจเธอเท่าไหร่นัก ทุกอย่างดำเนินได้ด้วยดี...ตามเนื้อหาเอ็มวีคือเธอต้องเป็นผู้หญิงที่เดินจากเจซีไปเพื่อไปหาจีเซลเมื่อเพลงเปิดขึ้นยูแอลถึงกับอึ้งไม่อยากเชื่อว่าทั้งสองคนจะทำงานเข้ากันได้ดีถึงขนาดอัดเพลงออกมาได้อย่างน่าทึ่ง แค่ฟังก็รู้ว่าจะต้องติดหูมากแค่ไหน ใครจะไปรับรู้ว่าเบื้องหลังเวทีที่มีการร่วมงานกันมันคือการแข่งขันที่จะต้องทำออกมาให้ดีที่สุดเพราะมันจะมีก

  • ฺBack Stage 7s เวทีรักเล่ห์ร้าย I   Chapter 41. ส่งข่าว

    หลังจากที่จีเซลแอบขับรถตามเจซีไปก็ได้รู้ที่อยู่ของเจซีและยูแอล แต่เขากลับไม่ได้ทำอะไรผลีผลามเหมือนก่อนหน้านี้เคยเป็น เขาเพียงแค่จ้องมองคฤหาสน์หลังใหญ่นั้นพร้อมกับเชิดหน้าเอามือเท้าหน้าต่างรถที่เปิดกระจกอยู่และยกยิ้มขึ้น... ก่อนจะกลับรถตรงไปยังบริษัทเพื่อที่จะทำงานต่อในช่วงเช้าเกรซและซาซ่าเดินทางมายังค่ายเพลงบีคริส ค่ายที่วงบียอนด์สังกัดอยู่เพราะช่วงบ่ายมีซ้อมเต้นกับวงพวกเขา แต่ทั้งสองสาวเลือกที่จะมาก่อนเวลาประมาณสองชั่วโมงเพื่อดักรอจีเซล ตั้งใจว่าจะส่งข่าวให้เขาได้รับรู้ถึงความยากลำบากของเพื่อนสาวของตน...ยังไงจีเซลก็ต้องได้รับรู้ และทั้งสองก็รอได้ไม่นานก็เห็นวงบียอนด์เดินเข้าบริษัทมากันครบวง แต่จะรอช้ากว่านี้คงจะไม่ได้ ทั้งสองจึงพยักหน้าให้กันแล้วรีบวิ่งไปยังจีเซลทันที“คุณจีเซล!” เกรซเรียกเขาด้วยน้ำเสียงที่ดูตื่นตระหนก จีเซลหันมองเกรซและซาซ่าด้วยสีหน้าสงสัยแต่...เพื่อนรุ่นพี่อย่างซันชายน์รีบเข้ามาขวางหน้าไว้เสียก่อน“มีอะไรหรือครับคนสวย คิดถึงผมขนาดนั้นเลยเหรอ?” ซันชายน์เอ่ยถามพร้อมรอยยิ้มร่า เกรซหันไปมองเขาตาขวางก่อนจะผลั

  • ฺBack Stage 7s เวทีรักเล่ห์ร้าย I   Chapter 40. ความลับในบ้าน

    สองร่างกอดกันแน่นบนเตียงกว้างสีน้ำเงินเข้ม ชุดนอนถูกร่นออกอย่างง่ายดายเพราะมันเป็นเพียงชุดกระโปรงยาวสีขาวตัวบาง ชุดชั้นในนั้นไม่มีให้เกะกะเนื่องจากคิดว่าต้องนอนแล้วถึงไม่ได้ใส่มัน...อีกอย่างไม่ใช่บ้านของเธอจึงไม่ได้เตรียมมาเปลี่ยน ร่างบางบิดเร่าอยู่ใต้ร่างหนากัดปากตัวเองแน่นเมื่อคนด้านบนเลื่อนมือไปไปกอบกำเต้าสวยพอดีมือก่อนจะเลื่อนลงไปดูดกลืนปลายยอดนั้นอย่างไม่ลดละ รุนแรงจนตัวเกร็งไปหมด..“อึ๊..อื้ม” เสียงครางออกมาผ่านลำคอจากการสกัดกลั้นมันเอาไว้ด้วยความทรมาน แอ่นอกรับริมฝีปากนั้นอย่างลืมตัวแม้ว่ามือเล็กจะพยายามดันไหล่ไล่เขาออกไปก็ตาม แต่ก็แปรเปลี่ยนเป็นจิกเกร็งไหล่แกร่งนั้นแน่น...ห้ามความรู้สึกตัวเองไม่ได้เลย...มือหนาอีกข้างจับขาเรียวของเธอให้อ้าออกพอที่จะแทรกร่างของตัวเองเข้าไปอยู่ระหว่างขานั้น ทั้งที่ปากยังคงไม่ว่างคอยปรนเปรอพรมจูบไปทั่วบริเวณอกสวย ก่อนจะเลื่อนใบหน้าพรมจูบไปทั่วหน้าท้องแบนราบจยไปถึงส่วนนูน... มือหนาข้างหนึ่งบีบคลึงเต้าตึงอีกข้างหนึ่งบดขยี้จุดอ่อนไหวจนร่างบางสะดุ้งโหยงและเบือนหน้าหนี แต่ก็ต้องหันหน้ากลับมาหลุบตามองส่วนล่างเม

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status