วันเวลาแห่งการรอคอยมาถึงจุดสิ้นสุดแล้ว สำหรับปลายฝันและน้ำหวาน การนัดเจอกันของคุณแม่ท้องโตในวันก่อนหน้า ดูเหมือนจะเป็นสัญญาณว่าทั้งคู่จะไม่ได้เป็นแค่ว่าที่คุณแม่พร้อมกัน แต่พวกเธอกำลังจะได้เป็นคุณแม่ในวันเดียวกัน! เช้าตรู่วันหนึ่งที่ดูเหมือนจะเป็นเช้าธรรมดา กลับกลายเป็นเช้าที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและปาฏิหาริย์แห่งชีวิตสำหรับสองครอบครัว
เช้ามืดวันนั้น ประมาณตีสาม ปลายฝันรู้สึกปวดท้องบีบๆ คล้ายปวดประจำเดือน แต่เป็นความรู้สึกที่แรงกว่าและเป็นจังหวะที่สม่ำเสมอ เธอสะดุ้งตื่นและหันไปมองภาคินัยที่นอนหลับอยู่ข้างๆ
"คุณภีมคะ คุณภีม" ปลายฝันเขย่าแขนภาคินัยเบาๆ
ภาคินัยลืมตาขึ้นมาอย่างงัวเงีย "ครับปาย มีอะไรเหรอครับ"
"ปายรู้สึกปวดท้องค่ะ ปวดแบบ ปวดจริงๆ จังๆ เลยค่ะ" ปลายฝันตอบ ใบหน้าของเธอเริ่มเหยเกเล็กน้อย
ภาคินัยดีดตัวลุกขึ้นนั่งทันที ความง่วงหายไปเป็นปลิดทิ้ง เขานั่งลงข้างๆ ปลายฝันและกุมมือเธอไว้ "ปวดมากไหมครับ เป็นยังไงบ้าง"
"มันปวดเป็นพักๆ ค่ะ แล้วก็เริ่มถี่ขึ้นเรื่อยๆ" ปลายฝันบอก พลางพยายามหายใจเข้าออกตามที่เคยเรียนในคลาสเตรียมคลอด
ภาคินัยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูนาฬิกาจับเวลาการปวดท้องตามที่พยาบาลเคยแนะนำ เมื่อเห็นว่าการปวดถี่ขึ้นและนานขึ้น เขาก็ตัดสินใจทันที
"เราไปโรงพยาบาลกันนะครับปาย สงสัยลูกจะมาแล้ว" ภาคินัยพูดเสียงสั่นเล็กน้อยด้วยความตื่นเต้น
พวกเขาใช้เวลาไม่นานในการเตรียมตัว ภาคินัยหิ้วกระเป๋าที่เตรียมไว้สำหรับคลอดขึ้นรถอย่างรวดเร็ว และขับรถมุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาลด้วยใจที่เต้นระรัว
ในเวลาใกล้เคียงกัน ที่บ้านของธามและน้ำหวาน น้ำหวานก็ตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกปวดท้องเช่นกัน อาการคล้ายๆ กับปลายฝัน คือปวดบีบเป็นจังหวะและถี่ขึ้นเรื่อยๆ
"คุณธามคะ คุณธาม!" น้ำหวานเรียกธามเสียงดังกว่าปกติ
ธามที่กำลังหลับอยู่สะดุ้งตื่น เขารีบลุกขึ้นมานั่งข้างๆ น้ำหวาน "เป็นอะไรไปครับน้ำหวาน"
"หวานปวดท้องค่ะคุณธาม ปวดมากเลย" น้ำหวานกัดริมฝีปากแน่นพยายามอดทน
ธามลูบหน้าท้องของน้ำหวานอย่างปลอบโยน "คุณปวดมากไหมครับ อดทนไว้นะครับ" เขามองนาฬิกาแล้วเริ่มจับเวลาการปวดท้องเช่นกัน
"มันถี่ขึ้นเรื่อยๆ เลยค่ะคุณธาม หวานว่า ลูกจะมาแล้วล่ะค่ะ" น้ำหวานบอกเสียงอ่อนแรง
ธามรีบลุกขึ้นทันที "ไปโรงพยาบาลกันนะครับน้ำหวาน" เขาหยิบกระเป๋าเตรียมคลอดที่วางอยู่ข้างเตียงขึ้นมาอย่างรวดเร็ว และประคองน้ำหวานลงจากเตียงช้าๆ
ระหว่างทางไปโรงพยาบาล ธามขับรถด้วยความระมัดระวัง แต่ในใจเขาก็ร้อนรนไม่แพ้กัน เขากุมมือน้ำหวานไว้แน่นตลอดทาง คอยให้กำลังใจเธออยู่เสมอ
เมื่อภาคินัยพาปลายฝันมาถึงโรงพยาบาล พยาบาลก็รีบพาปลายฝันเข้าไปยังห้องตรวจทันทีเพื่อประเมินอาการ และไม่นานก็แจ้งว่าปลายฝันมีอาการเข้าสู่ภาวะคลอดแล้ว และกำลังจะถูกส่งตัวไปที่ห้องรอคลอด
"คุณภาคินัยรออยู่ด้านนอกก่อนนะคะ เดี๋ยวพยาบาลจะพาคุณปลายฝันไปที่ห้องรอคลอดค่ะ" พยาบาลบอก
ภาคินัยพยักหน้าด้วยความกังวล เขานั่งรออยู่หน้าห้องคลอดด้วยใจจดจ่อ
ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงต่อมา ธามและน้ำหวานก็เดินทางมาถึงโรงพยาบาลเช่นกัน พยาบาลรีบประเมินอาการของน้ำหวานและแจ้งข่าวดี (หรือน่าตื่นเต้น) ว่าเธอเองก็กำลังจะคลอดในไม่ช้า
"คุณธามรออยู่ด้านนอกก่อนนะคะ คุณน้ำหวานจะถูกส่งตัวไปที่ห้องรอคลอดค่ะ" พยาบาลบอกเช่นเดียวกัน
ธามพยักหน้า เขามองเห็นภาคินัยที่นั่งอยู่หน้าห้องคลอดอีกห้องหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลกันนัก เขาเดินเข้าไปหาภาคินัยด้วยความประหลาดใจ
"คุณภีม! คุณก็มาเหรอครับ" ธามถามด้วยความตกใจ
"ธาม! คุณก็มาเหมือนกันเหรอครับ" ภาคินัยเองก็ตกใจไม่แพ้กัน "ปายก็กำลังจะคลอดเหมือนกันครับ"
ทั้งสองคนมองหน้ากันด้วยความไม่คาดฝัน ใครจะคิดว่าเพื่อนรักทั้งสองคนจะมาคลอดลูกในวันเดียวกัน และที่โรงพยาบาลเดียวกันอีกด้วย!
ภาคินัยและธามนั่งรออยู่หน้าห้องคลอดด้วยความกังวลและความตื่นเต้นปนกัน พวกเขาคอยเดินไปถามพยาบาลเป็นระยะๆ ถึงความคืบหน้าของภรรยา เสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดของปลายฝันและน้ำหวานที่ดังออกมาจากห้องคลอด ทำให้ทั้งสองคนรู้สึกร้อนรนและอยากเข้าไปอยู่ข้างๆ ภรรยาให้ได้มากที่สุด
"คุณภีมครับ ปายจะไหวไหมครับ" ธามถามด้วยความเป็นห่วง
"ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับธาม แต่ผมเชื่อว่าปายต้องทำได้" ภาคินัยตอบด้วยน้ำเสียงที่พยายามทำให้ตัวเองมั่นใจ
เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ แต่ละนาทีเหมือนนานเป็นชั่วโมงสำหรับว่าที่คุณพ่อทั้งสองคน พวกเขามองหน้ากันเป็นระยะๆ พยายามให้กำลังใจซึ่งกันและกันโดยไม่ต้องเอ่ยคำพูดใดๆ
ในที่สุด เสียงร้องไห้ของทารกตัวน้อยก็ดังขึ้นมาจากห้องคลอดของปลายฝัน! เสียงนั้นดังชัดเจนและกังวาน ทำให้ภาคินัยแทบจะกระโดดด้วยความดีใจ
พยาบาลเดินออกมาจากห้องด้วยรอยยิ้ม "คุณภาคินัยคะ ยินดีด้วยนะคะ ได้ลูกชายแข็งแรงสมบูรณ์ดีค่ะ"
ภาคินัยน้ำตาไหลด้วยความตื้นตัน เขาอยากจะรีบเข้าไปหาปลายฝันและลูกน้อยของเขาในทันที
"คุณปายเป็นยังไงบ้างครับ" ภาคินัยถามเสียงสั่น
"คุณปลายฝันปลอดภัยดีค่ะ ตอนนี้คุณหมอกำลังดูแลอยู่ค่ะ อีกสักครู่จะให้พบนะคะ" พยาบาลตอบ
ธามตบไหล่ภาคินัยเบาๆ "ยินดีด้วยนะคุณภีม! คุณได้ลูกชายแล้ว!"
"ขอบคุณนะครับธาม! ขอให้คุณได้ข่าวดีเร็วๆ นี้นะครับ" ภาคินัยตอบกลับด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุข
ไม่ถึงสิบนาทีหลังจากนั้น เสียงร้องไห้ของทารกอีกคนก็ดังขึ้นมาจากห้องคลอดของน้ำหวาน! เสียงนั้นดังชัดเจนไม่แพ้กัน ทำให้ธามแทบหยุดหายใจด้วยความตื่นเต้น
พยาบาลเดินออกมาจากห้องด้วยรอยยิ้มเช่นกัน "คุณธามคะ ยินดีด้วยนะคะ ได้ลูกสาวแข็งแรงสมบูรณ์ดีค่ะ"
ธามน้ำตาไหลด้วยความตื้นตันเช่นกัน เขาดีใจจนพูดไม่ออก ในที่สุดเขาก็มีลูกสาวตัวน้อยตามที่ใฝ่ฝันมาตลอด
"น้ำหวานเป็นยังไงบ้างครับ" ธามถามเสียงสั่น
"คุณน้ำหวานปลอดภัยดีค่ะ ตอนนี้คุณหมอกำลังดูแลอยู่ค่ะ อีกสักครู่จะให้พบนะคะ" พยาบาลตอบ
ภาคินัยเดินเข้ามากอดธามแน่น "ยินดีด้วยนะธาม! คุณได้ลูกสาวแล้ว!"
"ขอบคุณนะครับคุณภีม! เราได้เป็นคุณพ่อพร้อมกันเลยนะครับเนี่ย!" ธามตอบกลับด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุข
หลังจากที่ทั้งปลายฝันและน้ำหวานถูกย้ายมาที่ห้องพักฟื้น ภาคินัยและธามก็รีบเข้าไปหาภรรยาและลูกน้อยของพวกเขาในทันที
เมื่อภาคินัยเดินเข้าไปในห้องของปลายฝัน เขาเห็นปลายฝันนอนยิ้มอ่อนเพลียอยู่บนเตียง โดยมีทารกน้อยนอนอยู่ในอ้อมกอดของเธอ
"ปายครับ เก่งที่สุดเลยครับ" ภาคินัยเดินเข้าไปกุมมือปลายฝันแล้วจูบลงบนหน้าผากของเธออย่างอ่อนโยน เขาก้มลงมองหน้าลูกชายตัวน้อยที่กำลังหลับตาพริ้มอยู่ในอ้อมอกของแม่ "ลูกของเราหล่อมากเลยนะครับปาย"
"ค่ะคุณภีม" ปลายฝันยิ้มด้วยความอ่อนโยน "เหมือนคุณภีมเลยค่ะ"
ในอีกห้องหนึ่ง ธามเดินเข้าไปหาน้ำหวาน เขาสัมผัสได้ถึงความอ่อนล้าบนใบหน้าของเธอ แต่ดวงตาของเธอกลับเต็มไปด้วยความสุขที่ได้เห็นลูกสาวตัวน้อยนอนอยู่ข้างๆ
"น้ำหวานครับ ขอบคุณนะครับ" ธามกระซิบเสียงแหบพร่า เขาก้มลงจูบหน้าผากของน้ำหวานแล้วหันไปมองหน้าลูกสาวที่กำลังหลับปุ๋ย
"ลูกของเราสวยมากเลยนะครับน้ำหวาน" ธามบอกด้วยน้ำเสียงรักใคร่
"ค่ะคุณธาม" น้ำหวานตอบ "เหมือนคุณธามเลยค่ะ"
ทั้งสี่คนต่างก็รู้สึกว่าชีวิตของพวกเขาได้เริ่มต้นบทใหม่ที่สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น การเป็นพ่อแม่เป็นความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่และเติมเต็มหัวใจอย่างแท้จริง
ข่าวดีเรื่องการคลอดลูกของทั้งปลายฝันและน้ำหวานถูกส่งต่อไปยังครอบครัวและเพื่อนสนิทอย่างรวดเร็ว คุณพ่อคุณแม่ของปลายฝันและน้ำหวานต่างเดินทางมาที่โรงพยาบาลด้วยความดีใจและตื่นเต้น พวกท่านต่างชื่นชมหลานคนใหม่และให้กำลังใจว่าที่คุณพ่อคุณแม่มือใหม่
"แม่ดีใจที่สุดเลยจ้ะลูก ที่เห็นลูกกับหลานแข็งแรงปลอดภัย" คุณแม่ของปลายฝันกอดปลายฝันแน่น
"คุณแม่ก็เหมือนกันจ้ะลูกหวาน ยินดีด้วยนะจ๊ะ" คุณแม่ของน้ำหวานลูบผมน้ำหวานอย่างอ่อนโยน
การคลอดลูกในวันเดียวกันทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองครอบครัวยิ่งแน่นแฟ้นขึ้นไปอีก พวกเขากลายเป็นเหมือนครอบครัวเดียวกันอย่างสมบูรณ์แบบ
ค่ำคืนนี้เต็มไปด้วยความสุข ความตื้นตันใจ และความรักที่เอ่อล้นสำหรับทั้งสี่คน ภาคินัยและปลายฝันได้ลูกชายตัวน้อย ส่วนธามและน้ำหวานได้ลูกสาวตัวน้อย ซึ่งเป็นความสุขที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่พวกเขาเคยได้รับ
ตอนนี้ บทบาทใหม่ของการเป็นพ่อแม่ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างสมบูรณ์แล้ว พวกเขาพร้อมแล้วที่จะเรียนรู้และเติบโตไปพร้อมกับลูกน้อยของพวกเขา
ชีวิตคู่ของทั้งสองครอบครัวจากนี้ไปจะเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ ความรัก ความอบอุ่น และความท้าทายใหม่ๆ ที่พวกเขาพร้อมจะเผชิญหน้าไปด้วยกัน เพื่อสร้างอนาคตที่สดใสและมั่นคงให้กับลูกน้อยของพวกเขาทั้งสองคนไปตลอดกาล
ตอนที่ 122 บทส่งท้ายกาลเวลาหมุนผ่านไปอย่างรวดเร็ว แต่ความทรงจำที่สวยงามยังคงถูกถักทอขึ้นอย่างต่อเนื่องในชีวิตของภาคินัย ปลายฝัน ธามและน้ำหวาน ทุกเส้นทางที่พวกเขาได้เดินผ่านมา ไม่ว่าจะสุข ทุกข์ หรือท้าทาย ล้วนหล่อหลอมให้พวกเขากลายเป็นคนที่สมบูรณ์ในวันนี้ บทสรุปของเรื่องราวนี้จึงเป็นการสะท้อนถึงชีวิตที่เต็มไปด้วยความสุข ความรักที่อบอุ่น และอนาคตที่สดใส ที่พวกเขาได้สร้างขึ้นด้วยกันวันหยุดสุดสัปดาห์ที่สดใสครอบครัวของภาคินัยและปลายฝัน รวมถึงธามและน้ำหวาน ได้วางแผนเดินทางไปเที่ยวทะเลด้วยกัน เป็นครั้งแรกที่เด็กๆ จะได้สัมผัสผืนทรายและน้ำทะเลด้วยตัวเองรถตู้คันใหญ่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและบทเพลงจากเด็กๆ น้องเมฆและน้องเมษาที่ตอนนี้เริ่มเดินได้คล่องแคล่ว ต่างตื่นเต้นกับวิวทิวทัศน์นอกหน้าต่างที่ไม่คุ้นเคย"คุณภีมคะ ดูสิคะน้องเมฆชี้ไปที่ทะเลใหญ่เลย" ปลายฝันยิ้มอย่างมีความสุข"เมษาก็ตื่นเต้นเหมือนกันค่ะคุณธาม" น้ำหวานเสริม พลางมองลูกสาวที่กำลังยิ้มกว้างเมื่อเดินทางถึงรีสอร์ตหรูริมทะเล ภาคินัยและธามต่างช่วยกันขนสัมภาระลงจากรถ ส่วนปลายฝันและน้ำหวานก็ดูแลเด็กๆ ที่วิ่งสำรวจไปทั่วบริเวณด้วยความกระตือ
ตอนที่ 121 บทสรุปของความรักชีวิตของภาคินัยและปลายฝันดำเนินมาถึงบทสรุปที่งดงาม พวกเขาได้ค้นพบความสุขที่แท้จริงในทุกมิติ ทั้งในด้านความรักที่มั่นคง ครอบครัวที่อบอุ่น และหน้าที่การงานที่รุ่งโรจน์ ความรักของพวกเขาสุกงอมและเบ่งบานอย่างเต็มที่ เช่นเดียวกับธามและน้ำหวาน ที่ต่างก็สร้างสรรค์ชีวิตในแบบของตัวเองได้อย่างลงตัว บทสรุปของความรักครั้งนี้จึงเป็นการเฉลิมฉลองให้กับชีวิตที่เต็มไปด้วยความสุข ความเข้าใจ และการเติมเต็มซึ่งกันและกันผ่านมาหลายปี นับตั้งแต่น้องเมฆลืมตาดูโลก ชีวิตของภาคินัยและปลายฝันดูเหมือนจะสมบูรณ์แบบในทุกด้าน พวกเขายังคงเป็นสามีภรรยาที่รักกันอย่างลึกซึ้ง ความผูกพันที่แน่นแฟ้นยิ่งทวีคูณขึ้นตามกาลเวลา แม้จะมีความรับผิดชอบมากมาย แต่พวกเขาก็ไม่เคยละเลยที่จะเติมเต็มความปรารถนาและความเร่าร้อนให้แก่กันและกันค่ำคืนหนึ่งหลังจากที่น้องเมฆหลับไปแล้ว แสงจันทร์สาดส่องเข้ามาในห้องนอนอย่างนุ่มนวล ภาคินัยโอบกอดปลายฝันจากด้านหลังอย่างแผ่วเบา สัมผัสที่คุ้นเคยทำให้ปลายฝันรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย เธอซบหน้ากับแผงอกที่คุ้นเคยของเขา"ปายครับ คุณสวยที่สุดเลยนะ" ภาคินัยกระซิบเสียงพร่า พลางจูบลงบนไหล
ตอนที่ 120 ความสุขหลังจากผ่านเรื่องราวมากมาย ทั้งความรัก ความสุข ความท้าทาย และการเติบโตในบทบาทใหม่ ทุกคู่ต่างค้นพบความสุขในแบบของตัวเอง ภาคินัยกับปลายฝัน และธามกับน้ำหวาน ต่างได้ใช้ชีวิตในแบบที่พวกเขาปรารถนา เติมเต็มความหมายของคำว่า "ความสุขที่แท้จริง" ในแบบฉบับของตัวเองชีวิตของภาคินัยและปลายฝันตอนนี้เปรียบเสมือนภาพวาดที่สมบูรณ์แบบ ทุกองค์ประกอบต่างถูกเติมเต็มอย่างลงตัว ด้วยความรักที่เปี่ยมล้นจากน้องเมฆ และความสำเร็จในหน้าที่การงานที่รุ่งโรจน์ภาคินัยยังคงทุ่มเทให้กับการบริหารภาคินัย กรุ๊ปอย่างเต็มที่ แต่เขาก็เรียนรู้ที่จะจัดสรรเวลาให้สมดุลระหว่างงานและครอบครัว เขามักจะตื่นเช้าขึ้นมาเล่นกับน้องเมฆก่อนไปทำงาน และพยายามกลับบ้านให้เร็วที่สุดเพื่อใช้เวลาช่วงเย็นกับภรรยาและลูกชาย การเห็นน้องเมฆเติบโตขึ้นในทุกๆ วัน คือพลังขับเคลื่อนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขา"วันนี้น้องเมฆเรียก 'ป๊า' ชัดขึ้นเยอะเลยนะครับปาย" ภาคินัยเล่าด้วยรอยยิ้มกว้างในมื้อเย็นปลายฝันยังคงเป็นกำลังสำคัญอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของภาคินัย เธอทำหน้าที่ภรรยาและคุณแม่ได้อย่างไม่มีที่ติ ดูแลบ้านให้เป็นระเบียบเรียบร้อย อบอุ่
ตอนที่ 119 มิตรภาพที่ยั่งยืนท่ามกลางความวุ่นวายของชีวิตในบทบาทใหม่ ทั้งการเป็นพ่อแม่และการบริหารธุรกิจที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง มิตรภาพที่ถักทอขึ้นระหว่างภาคินัยและธาม รวมถึงปลายฝันและน้ำหวาน กลับยิ่งแข็งแกร่งและหยั่งรากลึก พวกเขาพิสูจน์ให้เห็นว่ามิตรภาพที่แท้จริงไม่เคยจางหายไปตามกาลเวลา แต่กลับยิ่งเปล่งประกายและเป็นพลังใจให้แก่กันเสมอครั้งหนึ่ง ภาคินัยและธามเคยเป็นคู่แข่งทางธุรกิจที่ขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือดในสนามแข่งขัน แต่ด้วยความจริงใจและความเข้าใจซึ่งกันและกัน พวกเขาก็ได้ก้าวข้ามกำแพงแห่งการแข่งขันและแปรเปลี่ยนเป็นมิตรภาพที่แข็งแกร่ง การมีลูกในเวลาใกล้เคียงกัน ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นบ่ายวันหนึ่ง ภาคินัยโทรหาธามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าแกมขบขัน "เฮ้ยธาม! วันนี้น้องเมฆงอแงไม่ยอมนอนเลยว่ะ ฉันแทบไม่ได้ทำงานเลย"ธามหัวเราะจากปลายสาย "ฉันก็เหมือนกันภีม! น้องเมษาวันนี้เล่นไม่หยุดเลย พลังเยอะจริงๆ เด็กสมัยนี้"บทสนทนาของพวกเขาไม่ใช่เรื่องธุรกิจอีกต่อไป แต่เป็นเรื่องราวของผ้าอ้อม นมผง และการนอนไม่พอ การแลกเปลี่ยนประสบการณ์การเป็นคุณพ่อมือใหม่กลายเ
ตอนที่ 118 การเติบโตของภาคินัย กรุ๊ปหลังจากที่น้องเมฆเข้ามาเติมเต็มชีวิตครอบครัวของภาคินัยและปลายฝัน แรงบันดาลใจและความมุ่งมั่นของทั้งคู่ก็ยิ่งเพิ่มพูนขึ้น ไม่เพียงแต่ในเรื่องส่วนตัวเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อการบริหารงานของภาคินัย กรุ๊ปอย่างเห็นได้ชัด ภายใต้การนำของภาคินัย และการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากปลายฝัน บริษัทก็ได้ก้าวเข้าสู่ยุคแห่งความเจริญรุ่งเรืองที่โดดเด่นยิ่งกว่าเดิมเช้าวันหนึ่งที่สดใสในเดือนมิถุนายน ภาคินัยเดินนำปลายฝันและน้องเมฆที่อยู่ในรถเข็นเด็ก เข้าสู่ล็อบบี้สุดหรูของภาคินัย ทาวเวอร์ อาคารสำนักงานใหญ่ใจกลางกรุงเทพฯ ภาคินัยในชุดสูทสีเข้มดูภูมิฐานและสง่างามกว่าเคย ส่วนปลายฝันในชุดเดรสสีอ่อนสบายตาดูสวยสดใสในมาดคุณแม่ลูกหนึ่ง น้องเมฆตัวน้อยในรถเข็นมองซ้ายมองขวาด้วยแววตาอยากรู้อยากเห็น ใบหน้าจิ้มลิ้มมีรอยยิ้มอ้อแอ้ตลอดเวลา"วันนี้ลูกชายมาเยี่ยมบริษัทป๊าครั้งแรกนะลูก" ภาคินัยกระซิบกับน้องเมฆพลางยิ้มอบอุ่นปลายฝันหัวเราะเบาๆ "สงสัยจะชอบบรรยากาศนะคะเนี่ย"พนักงานในล็อบบี้ที่กำลังสัญจรไปมา ต่างหยุดชะงักเมื่อเห็นภาพครอบครัวที่ดูอบอุ่นและสมบูรณ์แบบนี้ หลายคนส่งยิ้มและโค้งคำนับให้ผ
ตอนที่ 117 คุณปู่กับทายาทเมื่อน้องเมฆเติบโตขึ้นในแต่ละวัน ไม่เพียงแต่ภาคินัยและปลายฝันเท่านั้นที่ภาคภูมิใจ แต่ยังมีคุณปู่ของภาคินัย ผู้เป็นรากฐานของอาณาจักรภาคินัย กรุ๊ป ที่เปี่ยมด้วยความสุขอย่างยิ่งที่ได้เห็นทายาทคนใหม่ การมาถึงของน้องเมฆไม่เพียงแต่เติมเต็มความหมายของคำว่าครอบครัวให้สมบูรณ์ แต่ยังเป็นการยืนยันว่าธุรกิจที่สร้างมาด้วยหยาดเหงื่อแรงกาย จะมีผู้สืบทอดต่อไปอย่างมั่นคงคุณปู่ของภาคินัย แม้จะอยู่ในวัยชรา แต่ดวงตาท่านยังคงเปล่งประกายด้วยความสุขและความเฉียบแหลม การมาถึงของน้องเมฆ เหลนชายและทายาทของเหลนคนเดียวของตระกูล ทำให้หัวใจของคุณปู่เต็มตื้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนท่านเฝ้ารอวันนี้มานานแสนนาน วันที่จะได้เห็นสายเลือดของตระกูลยังคงดำเนินต่อไปคุณปู่ก็เดินทางมาเยี่ยมเหลนชายที่บ้านทันที ท่านนั่งลงข้างเปลนอนของน้องเมฆ มองเหลนชายตัวน้อยด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรักและความเอ็นดู"ตาหนูเมฆของปู่ ในที่สุดเจ้าก็มา" คุณปู่กระซิบเสียงแผ่ว พลางเอื้อมมือที่เหี่ยวย่นลูบไล้แก้มยุ้ยของน้องเมฆอย่างอ่อนโยนภาคินัยและปลายฝันยืนมองภาพนั้นด้วยความซาบซึ้ง พวกเขารับรู้ได้ถึงความรักอันลึกซึ้งที่คุณ